หมอผี
http://www.creditonhand.com/images/Ghost/HH-29-02-55.gif
"หลานย่าโม" เล่าเรื่องขนหัวลุกเมื่อวิญญาณล้างแค้น
สมัยเด็กดิฉันอยู่ขามทะเลสอ โคราช ในหมู่บ้านมีถนนแดงวกวน เสียงหมาเห่าเสียงไก่ร้องดูคึกคักดีในตอนกลางวัน แต่ตอนกลางคืนช่างเปล่าเปลี่ยวเยือกเย็นเหลือเกินค่ะ
ดงตาลกลางทุ่งเขาร่ำลือว่ามีผีดุนักหนา ตอนเย็นฟ้าแดงฉานเหมือนเลือดสดๆ พายุพัดแรงเห็นต้นตาลโอนเอนไปมา ใบตาลโบกสะบัดซู่ซ่า ดูคล้ายอสุรกายตัวสูงๆ กำลังโยกร่างของมัน พลางหัวเราะเย้ยหยันเกรียวกราว
เกือบทุกบ้านมีรั้วไม้ระแนง ปลูกกล้วย อ้อย มะม่วง มะพร้าวไว้หน้าบ้าน ตกค่ำจะถูกพ่อเรียกขึ้นบ้าน ปิดบันไดแน่นหนาเพื่อความปลอดภัย เขาว่าสมัยก่อนถึงกับชักบันไดขึ้นเลยค่ะ ป้องกันขโมยขโจรและสัตว์ร้ายไม่ให้บุกรุกขึ้นมาได้ง่ายๆ
ตอนกลางคืนห้ามพูดถึงเรื่องผีเด็ดขาด!
คนที่เจ็บหนักใกล้ตาย พวกญาติๆ จะพูดกันว่าขอให้ตายตอนกลางวัน เพราะจะได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าตายตอนกลางคืนจะตกนรก แถมเป็นเหตุทำให้ผีดุด้วยค่ะ
แถวนั้นเชื่อเรื่องผีปอบกันมากๆ ดิฉันเคยได้ยินเขาซุบซิบกันว่าคนนั้นคนนี้เป็นปอบ แต่ไม่เคยจับได้สักครั้ง...หมอป่านเคยถูกสงสัยมากที่สุดว่าแกเป็นปอบ หรือไม่ก็เลี้ยงปอบไว้กินตับคนที่แกไม่ชอบหน้า
หมอป่านอายุห้าสิบเศษ ร่างผอมสูง ผิวดำ ผมขาวโพลน เขาว่าแกมีวิชาอาคมจากเขมร ทั้งเลี้ยงผีและทำคุณไสยต่างๆ เช่น เสกตะปู กระดูกผี หรือแม้แต่หนังควายเข้าท้องศัตรูได้ ตอนดึกๆ มีคนเคยได้ยินเสียงภูตผีกู่ร้องโหยหวนมาจากบ้านเก่าๆ ท้ายหมู่บ้านเป็นประจำ
พวกหนุ่มๆ ชอบไปขอของดีพวกน้ำมันพราย หรือมนต์เสน่ห์ต่างๆ มาใช้ แต่พวกผู้ใหญ่ล้วนแต่ไม่ชอบหน้าแกแทบทั้งหมู่บ้าน
ลือกันว่าเมื่อแม่แกตาย หมอป่านก็ฝังศพไว้ใต้ต้นตะเคียนริมรั้วบ้านแกนั่นแหละ กลายเป็นปอบเฒ่า หิวโหยเครื่องเซ่น คือเลือดเนื้อมนุษย์ เพราะต่อมามีคนเกิดอุบัติเหตุตายบ่อยๆ
โดนรถชนตาย ถูกงูกัดตาย ขี่จักรยานชนรั้วคอหักตายจนชาวบ้านชักจะเอะใจกัน
ล่าสุดน้าไหมกำลังท้องแก่ราว 7-8 เดือน ยืนสอยมะม่วงที่หน้าต่าง จู่ๆ มีลมกระโชกวูบ ไม้หักโครมพุ่งเข้าเสียบอกทะลุหลัง ชาวบ้านได้ยินเสียงผัวแกร้องโวยวายก็วิ่งไปดูเห็นแต่ภาพหวาดเสียวของน้าไหมดิ้นทุรนทุราย นัยน์ตาเหลือกลาน เลือดนองเต็มพื้นเรือน
หลังจากแพทย์มาชันสูตรศพแล้ว สามีกับญาติก็นำไปบำเพ็ญกุศลที่วัด ก่อนจะฝังศพไว้ที่ป่าช้า!
เรื่องผีที่ตายทั้งแม่ทั้งลูก เขาห้ามฝังศพหลุม เดียวกันค่ะ เพราะจะทำให้วิญญาณเฮี้ยนมาก แต่สำหรับรายน้าไหมคงจะถือว่าตายทั้งกลม หรือสาเหตุอะไรก็ไม่ทราบแน่ เขากลับฝังไว้หลุมเดียวกันเฉยเลย
หมอป่านเก็บตัวเงียบเชียบ คงจะรู้ดีว่าใครๆ ก็เพ่งไปที่แกเป็นจุดเดียวกัน...
ตกค่ำ ชาวบ้านดับไฟขึ้นนอนกันเกือบหมดแล้ว มีเสียงลมพัดครวญครางวู่หวิวฟังคล้ายเสียงสะอึกสะอื้นคร่ำครวญมาจากป่าช้า หมูหมาในหมู่บ้านก็ลุกขึ้นมาเห่าขรมเสียงสั้นๆ ก่อนจะโก่งคอหอนโหย หวนยืนยาว ฟังแล้วเยือกเย็นจับใจอย่างบอกไม่ถูก
...หอนรับกันเป็นทอดๆ ผ่านบ้านอื่นๆ มาหยุดที่หน้าบ้านน้าไหมนั่นเอง!
ไม่มีใครกล้าโผล่ไปดู นอกจากจะนอนเหงื่อหยดเผาะๆ ไปตามๆ กัน แว่วเสียงน้านาย-ผัวน้าไหมดังขึ้นว่า...ไปที่ชอบๆ เถอะ ไหมเอ๊ย! ข้ายังรักและสงสารเอ็งเสมอ แล้วข้าจะทำบุญกรวดน้ำไปให้
มีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นมาตามสายลม เสียงหมาครวญครางงื้ดง้าดก่อนจะเห่าหอนรับกันเป็นทอดๆ กลับทางเดิม ก่อนจะเงียบหายไป
คนที่กลับจากไร่นาตอนเย็นๆ เห็นน้าไหมอุ้มลูกยืนมองมาที่ข้างทาง เล่นเอาร้องโหวกเหวก วิ่งอ้าวไม่คิดชีวิตหลายรายแล้ว...จนกระทั่งคืนหนึ่งก็ได้ข่าวว่าน้าไหมอุ้มลูกบุกเข้าไปในบ้านหมอป่านด้วยความอาฆาตแค้นสุดขีดคลั่ง!
ลูกสาวคนเล็กของหมอผีร้องกรี๊ดๆ เล่นเอาลูกเมียต้องเผ่นหนีออกจากบ้าน เพราะหวาดกลัวปีศาจน้าไหมที่บุกรุกเข้าไปอาละวาดด้วยแรงอาฆาตของวิญญาณพยาบาท ตามจองล้างจองผลาญไม่ลดละ
ชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า...กรรมสนองกรรมทันตาเห็น
วันรุ่งขึ้นหมอป่านก็ต้องพาลูกสาวที่เจ็บหนัก พร่ำเพ้อไม่ได้สติไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัด ไม่ช้าก็ได้ข่าวว่าเสียชีวิตที่นั่น หมอผีกับเมียเหมารถมาขนของย้ายบ้าน...หายสาบสูญไปเลยค่ะ!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ http://www.creditonhand.com/images/ks.gif
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]