วิญญาณเฮี้ยน
http://www.creditonhand.com/images/Ghost/334.jpg
"หนุ่มน้อย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสวนส้มโอ
ผมเป็นคนแม่กลอง ใกล้ๆ กรุงเทพฯ แค่นี้เอง หวังว่าหลายๆ ท่านคงจะเคยไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวามาแล้ว ผู้คนคึ่กๆ เบียดเสียดกันแทบจะตกน้ำตกท่าตายเชียวละครับ
บ้านผมมีแต่ต้นไม้ร่มครึ้ม เพราะมีทั้งสวนลิ้นจี่ สวนส้มโอ ไหนจะมะม่วง มะพร้าว ฯลฯ บ้านผมดินดีมากๆ เลยละ ไม่ว่าจะปลูกอะไรก็งอกงาม ตกดอกผลให้สะพรั่ง น่าชื่นอกชื่นใจทั้งนั้นแหละ
เรื่องราวน่าขนหัวลุกเกิดในสวนส้มโอตาไผ่กับยายเลียบครับ เพราะพี่ผ่องศรีลูกสาวคนเดียวของแกโดนข่มขืนฆ่าหมกคูในสวนส้มโอนั่นเอง!
สมัยก่อน บ้านผมปลูกส้มโอพันธุ์ขาวพวงกับพันธุ์ทองดี เหมือนที่สามพรานและนครชัยศรี แต่อาจารย์สมทรง-คนบางคนที ทดลองปลูกพันธุ์ขาวใหญ่จริงๆ จังๆ ไม่ใช้ปุ๋ยสารเคมี แต่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ได้ผลหวานหอม อร่อยและปลอดภัยอีกต่างหาก
แหม! พูดถึงคุณประโยชน์ของส้มโอนี่ช่างเหลือเชื่อจริงๆ เอ้า!
ต้นไหนลูกดกนักก็เด็ดทิ้งซะมั่ง บ้านผมเรียก "ปลดทิ้ง" จะได้เหลือแต่ลูกโตๆ ไงล่ะ อ้อ! ไม่ใช่ทิ้งไปเลยแต่เอาไปเผาเป็นถ่าน แถมตอนเผาก็ยังได้ขี้เถ้าไปทำปุ๋ยอีกต่างหาก
เปลือกส้มโอเอามาเชื่อมกินได้ หรือเอาไปผสมกับผลไม้อื่นๆ กวนให้เข้ากันก็ได้ผลไม้กวนรวมมิตร ห่อแบบทอฟฟี่ให้เด็กๆ เคี้ยวกินกันเพลินเชียว
ผิวที่เปลือกก็ฝานตากแดด แห้งดีแล้วก็จุดเป็นยากันยุง ได้ผลชะงัดนักหนา นั่งคุยกันกลางค่ำกลางคืน ไม่ต้องกลัวว่าจะมียุงธรรมดาหรือยุงลายมากัดมาตอมให้น่ารำคาญ
เอาละซี! ไม่มียุงกัดแต่มีผีดุอยู่ในสวนส้มโอ บรื๋อออ....
พี่ผ่องศรีเป็นคนสวยได้การ ผิวคล้ำ ตาคม ผมยาว เนื้อหนังดูตึงเต่งเคร่งครัดไปหมด อกอวบพุ่งไหวกระ เพื่อมๆ ตามท่าเดิน จนตาล้วน ตาพรหมและตากิ่ง...ก๊วนคนแก่ขี้เมาชอบมองตาเป็นมัน บางทีก็ตะโกนลอยๆ เหมือนหนุ่มวัยคะนองว่า...แหม! หน้าอกหน้าใจมันใหญ่กว่าส้มโออีกว่ะเฮ้ย! พวกหนุ่มๆ แก่ๆ งี้ฮากันตึง
สะโพกก็เหมือนกัน พี่ผ่องศรีเป็นคนอวบใหญ่นี่ครับ สะโพกเลยใหญ่บึ่บบั่บแถมงอนกระเด๊ะอีกด้วย ตาล้วนแกจ้องมองท่าเดินยักเยื้องไปมาแล้วต้องซดเหล้าฮวบ จุ๊ย์ปาก จึ๊กจั๊ก ครางว่า...แม่โวย! สะโพกโอ่โถงยังกับกระด้งมอญเลยเว้ย!
พี่ผ่องศรีทำหน้าบึ้ง หันมาค้อนควักตาคว่ำตาหงาย ก่อนจะหันไปซ่อนยิ้ม...ตาแก่หัวงู! เรียกเสียงฮาครืนได้อีก
ตอนที่เจอศพน่ะ เสื้อผ้าพี่ผ่องศรีถูกกระชากฉีกขาด แทบจะเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน นอนตายปริ่มๆ น้ำ ผมสยายปะปนกับจอกแหน นัยน์ตาเบิกถลนออกมานอกเบ้า เหลือกลานด้วยความหวาดกลัวและเจ็บปวดสาหัส มีเสียงเดาว่าฆาตกรข่มขืนฆ่าต้องมีไม่น้อยกว่าสองคน...ผู้ตายเองก็ต่อสู้ดิ้นรนสุดฤทธิ์จนทิ้งร่องรอยไว้เป็นเทือก
ใครฆ่า? เป็นปริศนายังไขไม่กระจ่างมาถึงทุกวันนี้!
แต่ก๊วนขี้เมาวัยดึก หรืออีกฉายาคือ "แก๊งหัวงู" ถูกตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน เพราะพวกนี้ชอบจ้องมองสาวสวยตาเป็นมัน แทะโลมด้วยปากและนัยน์ตามาตลอด
วันดีคืนดีก็เจอะเจอปีศาจสำแดงเดชเข้าจนได้!
ค่ำนั้น สามเกลอเดินร้องเพลงอ้อมาตามทางที่เลียบสวนส้มโอมืดครึ้ม มีต้นแคขึ้นริมคู สลับกับกระถินและโสน...จู่ๆ หมาก็หอนโจ๋วมาจากท้ายวัดพรหมน่าวังเวงใจ
สามสหายวัยดึกชักจะสร่างเมา เหลียวซ้ายแลขวาก็เห็นแต่ความเปล่าเปลี่ยว ดาวเกลื่อนฟ้าส่องแสงระยิบระยับ...พลันเสียงเยือกเย็นก็ดังแว่วมาจากในสวนส้มโอ
"พี่จ๋า...มาหาน้องหน่อยซีจ๊ะ...พี่ล้วนพี่พรหม อ้อ! พี่กิ่งอีกคน..."
"ใครวะ?" ตาล้วนชะงักกึก ก่อนจะครางกระเส่า "เฮ้ย! นี่มันสวนที่นังผ่องมันโดนฆ่านี่หว่า...."
แทบจะไม่ขาดเสียง พลันปรากฏร่างสาวสวยผมยาวยืนยิ้มระรื่นอยู่ริมคูฝั่งตรงข้าม เห็นชัดเจนอยู่ในแสงดาวเรืองรอง พลางกวักมือเรียกหย็อยๆ
"มาหาผ่องซีจ๊ะ พี่จ๋า...ดูซิ! ผ่องสวยมากมั้ย?"
ว่าแล้วก็ยกสองมือแหวกเสื้อออกทันใด...กลายเป็นตับไตไส้พุงห้อยร่องแร่งในพริบตานั้นเอง!
เสียงหัวเราะแหบโหยระคนกับเสียงหมาหอน ทำให้ชายชราทั้งสามหายเมาเป็นปลิดทิ้ง ยืนขาสั่นพั่บๆ ร้องแต่เฮ้ย! ฮ้าย! โฮ้ย...ก่อนจะพุ่งพรวดไม่คิดชีวิต ล้มลุกคลุกคลานพลางตะโกนโว้ยๆ ช่วยด้วยโว้ย! จนชาวบ้านร้านช่องแตกตื่นไปตามๆ กัน
ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีใครกล้าเดินผ่านสวนส้มโอตอนกลางคืนอีกเลย...ผมสงสัยแต่ว่าถ้าผีพี่ผ่องศรีเฮี้ยนจริงทำไมไม่ไปฆ่าคนร้ายเสียเลย จริงมั้ยครับ?!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ http://www.creditonhand.com/images/ks.gif
หน้า:
[1]