ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 585|ตอบกลับ: 6

++ สานฝันนิรันดร ++ # 18

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกคนเรียก จึงเงยหน้าขึ้นมองแต่ก็ไม่พบว่ามีใครมีท่าทางว่าเรียกเขาทุกคนในห้องต่างก็กำลังทำงานของตนอยู่อย่างขะมักเขม้นเพราะช่วงเช้าเช่นนี้นอกจากงานใหม่ที่จะต้องทำแล้วบางคนอาจมีงานเก่าที่คั่งค้างมาจากวันวานด้วยภูริทัตจึงก้มหน้าอ่านเอกสารที่อยู่บนโต๊ะต่อ และทำงานไปเรื่อยๆจนได้เวลาพักกลางวัน
“กลับมารึยัง” รังสรรค์ถามขึ้นในระหว่างกินข้าวกลางวัน
“อะไร” ภูริทัตย้อนถาม
“ก็สเตฟานไง เมื่อไหร่จะกลับ” รังสรรค์ขยายความ
“ไม่รู้หว่ะ ตั้งแต่ที่โทรมาวันนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย” ภูริทัตตอบแล้วสีหน้าก็สลดลง
“แย่จังนะ เป็นแฟนภาษาอะไร ถ้าเป็นผมจะโทรหาพี่ทุกวันเลย” กรกฏพูดเสียงออดอ้อน
“ปูพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ” รังสรรค์ติง
“ทำไมล่ะพี่ ก็ผมห่วงพี่ทัตของผมนี่” กรกฏเน้นคำว่า ‘ของผม’ เป็นพิเศษ
“ว่าไปที่ปูพูดก็น่าคิดนะ ทำไมเค้าไม่โทรมาเลยล่ะ” ปรีชาแสดงความคิดเห็น
ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ ภูริทัตก็รู้สึกถึงการสั่นของโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง จึงล้วงออกมาดู พอเห็นเลขหมายที่โทรเข้าก็ก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ว่าทำไมผู้ที่กำลังเป็นจุดศูนย์กลางของการสนทนา ถึงได้โทรมาในเวลาที่พอเหมาะเช่นนี้
“สวัสดีครับ” ภูริทัตกรอกเสียงลงไป
“ภูริทัต ดวงใจของผม ขอโทษนะครับที่ไม่ได้ติดต่อมาเลย” เสียงทักทายที่เปี่ยมไปด้วยความคิดถึง ทำให้สีหน้าของชายหนุ่ม เปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นทันที
“ห่วงผมด้วยเหรอ” ถึงใบหน้าจะยิ้มแย้ม แต่ก็แกล้งทำเสียงดุ เหมือนไม่พอใจ
“ผมจะมีใครในเมืองไทยให้ห่วงได้อีกล่ะครับ นอกจากคุณ”
“จริงอ๊ะ” เขายังคงทำเสียงดุ ท่ามกลางสายตาที่มองดูด้วยความแปลกใจของเพื่อนๆ
“ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ” อีกฝ่ายตอบมาช้าๆ
“ผมเพียงแต่จะโทรมาบอกว่า ‘ธุระ’ ของผมใกล้จะเสร็จแล้ว คงจะกลับไปเร็วๆนี้” น้ำเสียงสดใสในตอนแรก เปลี่ยนเป็นแหบแห้ง
“เมื่อไหร่ คุณจะกลับมาวันไหน” เสียงดุๆเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงตื่นเต้นทันที
“อีกไม่กี่วันหรอกครับ แล้วผมจะให้คุณทรงศักดิ์คอยส่งข่าวให้คุณรู้ แค่นี้ก่อนนะครับ ภูริทัต ดวงใจของผม” แล้วอีกฝ่ายก็วางสายไป
“สานฝัน เดี๋ยว ...”
ภูริทัตพูดจนเกือบเป็นตะโกน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมอีกฝ่ายถึงรีบวางสายไปอย่างกะทันหัน เก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม แล้วกินข้าวต่อด้วยความหงุดหงิด
“สเตฟานโทรมาเหรอ” ปรีชายื่นหน้าเข้าไปถาม
“เออ” ภูริทัตตอบสั้นๆ หน้านิ่วคิ้วขมวด
“ว่าไงมั่งล่ะ” รังสรรค์ถามด้วยความสนใจ
“จวนกลับแล้ว” ภูริทัตยังตอบสั้นๆเหมือนเดิม
“อ้าว ก็ดีน่ะสิ แล้วทำไมหน้าบูดอย่างงั้นวะ” รังสรรค์พูดกลั้วหัวเราะ
“พูดยังไม่ทันรู้เรื่อง วางสายซะแล้ว จะไม่ให้โกรธได้ไงล่ะวะ” ภูริทัตบ่น
“อ้าว แล้วทีเอ็งล่ะ ทำท่าดุซะขนาดนั้น ไม่คิดว่าเค้าจะเสียใจมั่งรึไงวะ” รังสรรค์แก้ให้
“พี่สรรค์พูดยังกับรู้ใจนะ” กรกฎพูดยิ้มๆ
“ไม่ต้องถึงกับรู้ใจหรอกนะปู คิดง่ายๆถ้าปูเป็นสเตฟาน เจอเจ้าทัตพูดแบบเมื่อกี้ จะทำยังไง”
“ผมก็จะพยายามพูดให้พี่เค้าอารมณ์ดีน่ะสิ นี่อะไรวางหูไปซะเฉยๆอย่างงั้น” กรกฏตอบ
“นั่นสิ คราวนี้เราเห็นด้วยกับปูมันนะ” ปรีชาเสริม
“แต่สเตฟานน่ะ เค้าอ่อนไหวกว่านั้นเยอะ เชื่อสิป่านนี้เสียใจแย่แล้ว” รังสรรค์พูดแล้วหันไปสบตาภูริทัต ซึ่งกำลังจ้องหน้าเขา “หรือนายว่ายังไง”
ภูริทัตไม่ตอบ แต่ก้มหน้ากินข้าวที่เหลืออยู่อย่างเงียบๆ ปล่อยให้เพื่อนๆคุยกันไป โดยที่ตัวเองอยู่ในความครุ่นคิด เพราะเขาก็เห็นด้วยกับรังสรรค์เช่นกัน
“รีบออกไปหาอาหารกันได้แล้ว” โจชัวร์บอกไลล่ากับไป่เทียน ทันทีที่ตื่นจากนิทรา
“กินกันซะให้อิ่มด้วย เที่ยงคืนพวกเราจะออกเดินทาง”
“เดินทาง” ไลล่าทวนคำ ทำท่าว่าจะถามอะไรต่อ
“ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น รีบไป แล้วอย่าลืมว่า อย่าทำอะไรเป็นการทิ้งร่องรอย ให้พวกมนุษย์มันรู้ถึงการคงอยู่ของแวมไพร์อย่างพวกเรา”
ไลล่า และ ไป่เทียนรับคำ แล้วก็ออกจากห้อง ไม่นานนักโจชัวร์ก็ออกไปบ้าง เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางในครั้งนี้
“สเตฟาน ข้าไม่ปล่อยเจ้าหรอก เจ้าต้องกลับมาอยู่เคียงข้างข้า” โจชัวร์พึมพำ ขณะที่เดินออกจากโรงแรมไปสู่จุดหมายที่ต้องการ
บทที่ ๒๑
“อย่าลืมพาสปอร์ตนะครับ” ทรงศักดิ์ย้ำไปอีกครั้งหนึ่ง “แล้วพรุ่งนี้เย็นผมจะไปรับหน้าที่ทำงาน จะได้ไม่เสียเวลา แค่นี่นะครับคุณภูริทัต”
“เรียบร้อยแล้วครับคุณท่าน” ทรงศักดิ์หันกลับไปบอกสเตฟานที่นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องทำงานภายในบ้านของเขา
“ว่าแต่มันจะไม่อันตรายไปหน่อยหรือครับ สิงคโปร์มันใกล้แค่นี้เอง” พูดพลางเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของชุดโซฟา
“แบบนี้แหละดีแล้ว อีกฝ่ายคงคิดไม่ถึง ว่าผมจะกล้าขนาดนี้” สเตฟานตอบยิ้มๆ
“แล้วถ้ามันผิดพลาดล่ะครับ ผมอดห่วงไม่ได้ คุณภูริทัตจะไปสู้รบปรบมือกับอีกฝ่ายได้ยังไง” ทรงศักดิ์ถามด้วยความกังวล
“แล้วคุณไม่ห่วงตัวเองบ้างหรือ  ถ้าพวกนั้นรู้ว่าคุณเป็นคนจัดการเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจต่างๆให้ผม”
“คงสาวมาไม่ถึงตัวผมหรอกครับ ใครจะคิดว่าคุณท่านจะสนใจธุรกิจโรงแรม เพราะเงินไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นเลยแม้แต่น้อย สำหรับคุณท่าน หรือคนอื่นๆที่เป็นแบบคุณท่าน”
“ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้น แต่มีคนเตือนผม สอนผม ให้รู้ว่าในโลกมนุษย์ เงินตราเป็นสิ่งสำคัญ และนับวันจะมีความสำคัญมากขึ้น เพราะสิ่งของทุกอย่างในการดำเนินชีวิต ล้วนต้องใช้เงินซื้อหาทั้งนั้น แล้วยังสอนผมว่า การได้มาซึ่งสิ่งของด้วยวิธีที่ผ่านมา นับว่าเป็นเรื่องผิดในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ผมอยากทำตัวเหมือนมนุษย์ แต่ผมไม่สามารถทำธุรกิจได้เอง ผมได้ทวดของคุณนี่แหละที่ให้การช่วยเหลือ”
“อย่าพูดแบบนั้นสิครับคุณท่าน คนที่ได้รับการช่วยเหลือน่ะ คุณทวดของผมต่างหาก ถ้าไม่ได้คุณท่าน คุณทวดของผมคงต้องล้มละลาย มีหนี้สินล้นพ้นตัว ธุรกิจก็ไม่สามารถฟื้นคืนมาได้ และพวกผมคงไม่ได้อยู่กันอย่างสุขสบายเหมือนทุกวันนี้” ทรงศักดิ์พูดอย่างตื้นตัน “มิหนำซ้ำ สิ่งที่คุณท่านต้องการ นับว่าเป็นทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากเทียบกับทรัพย์สินที่คุณท่านมอบให้คุณทวดในตอนนั้น”
“แค่นี้ผมก็เพียงพอแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องใช้อะไรมากมายนี่ ผมกินอาหารไม่เปลือง ดื่มนิดหน่อย บันเทิงอีกนิด ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปที่ต่างๆก็ไม่ต้องเสีย แล้วผมก็อยากใช้เวลาอยู่กับคนที่รัก ในช่วงเวลาที่สามารถทำได้” สายตาของสเตฟานเปลี่ยนเป็นเลื่อนลอย เมื่อคิดถึงชายหนุ่มที่อยู่ในใจของตน
ทรงศักดิ์จ้องมองอีกฝ่าย ด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูกว่าตนคิดเช่นไรกันแน่
... มีความสุขเพราะเห็นคนที่ตนเคารพรัก มีความสุขกับคนที่ตนรัก
... เป็นห่วงว่าความรักของคนทั้งสองจะเป็นเช่นไรต่อไป เพราะความแตกต่างในแทบจะทุกเรื่อง
... กังวลว่าหากวันหนึ่งข้างหน้า ชายหนุ่มผู้นั้นได้รู้ความจริง ถึงตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย ชายหนุ่มผู้นั้นอาจจะตีจากไปด้วยความหวาดกลัว
... วิตกไปถึงคนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอาจสร้างปัญหาต่อทั้งคุณท่านของเขา และชายหนุ่มผู้นั้น
แล้วความคิดของเขาก็ต้องสะดุดลง เมื่อบานประตูห้องทำงานถูกเปิดขึ้นอย่างกระทันหัน พร้อมกับชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้ามาในห้อง เป็นชายหนุ่มที่รูปร่างสูงมากกว่า ๑๘๐ ผิวสองสี หน้าตาคมเข้มแบบชายไทย หากมองให้ดี จะเห็นว่ามีส่วนคล้ายทรงศักดิ์อยู่บ้างเหมือนกัน
“คุณปู่ครับ ผมเอาตั๋วเครื่องบินที่คุณปู่สั่งไว้มาให้” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงและรอยยิ้ม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าภายในห้องมีคนอื่นอยู่ด้วย “ขอโทษครับ ผมไม่ทราบว่าคุณปู่มีแขก” ชายหนุ่มเขม้นมองคนแปลกหน้าด้วยความแปลกใจ เพราะยามวิกาลเช่นนี้ คุณปู่ของเขาไม่น่าจะมีคนมาหาถึงที่บ้านได้ มิหนำซ้ำยังเป็นชาวต่างชาติเสียอีก
“จะเข้ามาทำไมไม่เคาะประตูก่อน” ทรงศักดิ์ตำหนิเบาๆ
“ขอโทษด้วยนะครับ หลานผมไม่ค่อยมีมารยาท” เขาหันไปบอกสเตฟาน ซึ่งยิ้มตอบเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร
“แหม ... ผมไม่คิดว่าคุณปู่จะมีแขกนี่ครับ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ที่ถูกตำหนิต่อหน้าคนอื่น แล้วหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวด้วยความสนใจ รอยยิ้มที่อบอุ่นชวนสนิทสนม ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเป็นมิตรด้วยทันที จึงได้ทักทายออกไป
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ นี่คงเป็นทรงเดชหลานคุณสินะ” สเตฟานทักทายชายหนุ่ม แล้วหันไปถามทรงศักดิ์
“ใช่ครับ ทรงเดชมานั่งสิ” ทรงศักดิ์ตอบแล้วหันไปบอกหลานชาย “เมื่อกี้บอกว่าเอาอะไรมาให้”
ทรงเดชเดินเข้าไปยื่นซองสีน้ำตาลใบเล็กให้ทรงศักดิ์ แล้วเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกด้านหนึ่ง
“ตั๋วเครื่องบินไงครับ ออกเดินทางคืนพรุ่งนี้ กลับเช้าวันอาทิตย์ ตามที่คุณปู่สั่งทุกอย่าง” ทรงเดชตอบ แล้วหันไปมองสเตฟานอีกครั้งก่อนจะหันกลับมาที่ทรงศักดิ์ “แล้วนี่คุณภูริทัต ที่จะเดินทางไปกับคุณปู่เหรอครับ” ชายหนุ่มหันไปยิ้มกับสเตฟานด้วยความเป็นมิตร  แล้วเพ่งมองใบหน้าของอีกฝ่ายอีกครั้ง
“เอ ... ผมคุ้นๆหน้า เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนมั๊ยครับ หรือว่าตอนที่ผมไปหาคุณปู่ที่โรงแรม” ประโยคหลังหันไปถามกับทรงศักดิ์
“เคยสิครับ เราเคยพบกันหลายครั้งแล้ว แต่คุณคงจำไม่ได้” สเตฟานพูดกลั้วหัวเราะ
“เหรอครับ” ชายหนุ่มทำตาโต แล้วขมวดคิ้ว “ผมจำไม่ได้จริงๆนั่นแหละ แต่เอ๊ะ ... ทำไมคุณพูดไทยชัดจัง”
“ตาเดช” ทรงศักดิ์เรียกชื่อหลานด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการ
“นี่คุณท่าน”
“คุณท่าน” ทรงเดชขมวดคิ้วอีกครั้ง นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“คุณสเตฟานน่ะเหรอครับ” ชายหนุ่มตกใจจนอ้าปากค้าง หันไปมองสเตฟานอีกครั้ง ก็พบกับสีหน้าที่เหมือนจะขบขันกับท่าทางของเขา “เรื่องที่คุณปู่เล่าให้ผมฟังเป็นเรื่องจริงเหรอครับ” เขาหันไปถามทรงศักดิ์เสียงเลิกลั่ก
“ทำไมแกถามอย่างนี้ แปลว่าตลอดมาแกไม่เคยเชื่อชั้นเลยล่ะสิ” ทรงศักดิ์พูดเสียงดุๆ
ทรงเดชหันกลับไปมองสเตฟานอีกครั้ง คราวนี้เพ่งพินิจมากกว่าเก่า
“ไม่จริงน่า ... คุณปู่ล้อผมเล่น แวมไพร์อะไรจะเป็นแบบนี้” ทรงเดชพูดเบาๆ
“แล้วคุณคิดว่าแวมไพร์ น่าจะเป็นยังไง” สเตฟานถามยิ้มๆ รอยยิ้มทั้งอ่อนโยน ทั้งแสดงความขบขันต่อชายหนุ่ม
“แวมไพร์ที่ไหนจะยิ้มได้น่าดูแบบนี้ล่ะครับ” ทรงเดชพูดออกไปทันที
“แวมไพร์น่ะต้องดุ โหด ดูเยือกเย็น ไม่เป็นมิตร แบบเคาท์แดกคิวร่าไง แต่ดุคุณสิ ยิ้มหวานขนาดนี้ ... คุณร่วมมือกับคุณปู่มาหลอกผมล่ะสิ”
ชายหนุ่มพูดแล้วหัวเราะเบาๆ แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อร่างที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว ค่อยๆเลือนหายไป
“คุณปู่ นี่มันอะไรกัน เค้าหายไปไหน” ทรงเดชถามหน้าตาตื่น
“ผมอยู่นี่”
ทรงเดชหันไปตามเสียงก็เห็นสเตฟานนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ ที่โต๊ะทำงานอีกด้านหนึ่งของห้อง
“คุณเชื่อรึยัง”

เสียงมาจากอีกด้านหนึ่ง ทรงเดชหันกลับไปก็พบว่าสเตฟานกลับมานั่งอยู่บนโซฟายาวตัวเดิม ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนว่ามีเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผากของตัวเอง
“ผม ... ผม” พูดด้วยความตะกุกตะกักเพราะความตื่นเต้น
“ผมอยากเห็นเขี้ยวของคุณ”
สเตฟานขมวดคิ้ว มีสีหน้าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง



มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-30 00:12:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-30 23:50:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
17
พลังน้ำใจ
16667
Zenny
37385
ออนไลน์
1869 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-3-30 08:06:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
40786
Zenny
35240
ออนไลน์
3552 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-2 04:56:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนค๊าฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
23527
Zenny
9683
ออนไลน์
1313 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-2 05:44:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สนุกมากครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 11:31:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 22:25 , Processed in 0.119724 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้