zantiga โพสต์ 2010-9-5 19:52:10

สังขละบุรีที่รัก


ฝากอีกเรื่องละกันนะคร้าบบ

ตลอด สองข้างของเดินทางจากตัวจังหวัดกาญจนบุรีไปสังขละบุรีนั้นร่มรื่นเต็มไปด้วย ต้นไม้นานาพันธุ์และดอกไม้หลากหลายชนิด ตลอดทั้งเส้นทางนั้นไม่ค่อยมีรถขับสวนมาเท่าไหร่ เพราะเนื่องจากยังเป็นวันธรรมดา ไม่ใช้วันหยุดเสาร์อาทิตย์ คนจึงไม่ค่อยออกมาจากกรุงเทพเท่าไหร่นัก
“เจ๊ถึงยังว่ะ ทำไม่นานจัง” ชายหนุ่มร่างบางถามพี่สาวตัวเองอย่างสดชื่น เพราะไม่ค่อยได้เคยมาจังหวัดนี้เลย นี่เป็นครั้งแรกของเค้าเลย

“ฮืม ยังอีกซัก 2 ชั่วโมงมั้ง ไมนั่งรถจนเบื่อไง” แล้วหันมามองน้องชายตัวเองที่นั่งทำหน้าตาบ้องแบ๊วใส่พี่สาวตัวเอง ตามคนที่อยากได้อะไรจากพี่สาวตัวเองก็จะทำหน้าอ้อนๆแบบนี้

“อยากได้อะไรอีกละ ชั้นไม่ค่อยมีเงินนะยะ ยิ่งเป็นข้าราชการจนๆอยู่ ว่ามาอยากได้อะไรอีก”

“ป่าว แค่อยากบอกว่าถ้าเกิดเจ๊ไม่ว่างพาไปเที่ยว ขอไปเองได้ม่ะ น่ะๆๆๆๆๆ” พูดแล้วก็เอาหัวไปซุกตรงหัวไหล่ของพี่สาวตัวเอง ตามแบบฉบับที่เคยทำ

“ฮึ! ไม่เอาคราวที่แล้วตอนไปที่นครพนมแกไม่เข็ดไง ไหนจะหลงทางและโดนฉุดอีกดีนะที่ไปช่วยทัน เดี๋ยวพ่อกับแม่มาว่าชั้นอีก ดูแลน้องยังไงทำไมถึงเกิดเรื่อง เอางี้ถ้าวันไหนเลิกสอนไว ถ้าพาไปเองโอเคไหม ส่วนเสาร์อาทิตย์เดี๋ยวหาเช่ารถเอาแถวนี้แหละ ไม่แพงเท่าไหร่” พูดแล้วก็มองหน้าน้องชายที่หน้าออกจะหวานแหววไปหน่อย ทำไมมันไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยนะ ตัวก็เล็กข้าวไม่ค่อยกิน กินแต่ขนมกับชอตโกแลต เฮ้อนี่มันน้องหรือว่าลูกก็ไม่รู้ นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปี่อย จนร่างบางนั่นเรียกแหละถึงค่อยได้สติ

“เจ๊ๆๆ ถึงแล้วหรอ ตรงนี้สวยจังแม่น้ำไรอ่ะ” น้ำเสียงตื่นเต้นไม่น้อย เพราะมองลงไปจากรถทัวร์ก็เห็นแม่น้ำไหลผ่านตรงสะพานพอดี

“ฮืม แม่น้ำแควน้อยไง นี่ยังไมถึงสังขละบุรีนะ ตรงนี้เค้าเรียกว่า อ.ทองผาภูมิ เดี๋ยวเค้าจะแวะให้เข้าห้องน้ำ แปปนึง หิวไรป่ะละเดี๋ยวลงไปซื้อให้”

“เอา หนมปังกับชอคโกแลตนะ”พูดไปก็ทำหน้าอ้อนๆไปกลัวว่าจะไม่ได้กิน เพราะตั้งขึ้นรถมาจากสายใต้นั้นก็ไม่ได้กินอะไรรองท้องเลย เพราะมัวแต่นอนขี้เซาอยู่บนรถทัวร์

“ไม่ ทุกทีเลยแกเดี๋ยวไปซื้อนมกับพวกลูกชิ้นแล้วกันจะได้อยู่ท้องบ้าง รอในรถที่แหละแล้วไม่ต้องลงไปไหนนะ แกความจำสั้นยิ่งกว่าปลาอีก เดี๋ยวก็หลงตามเคย” บ่นน้องตัวเองตามประสาคุณครู(เพราะเป็นครูจิงๆนี่)รถทัวร์ก็มาจอดเทียบท่า เพื่อให้ผู้โดยสารได้ลงมาเลือกซื้อของหรือพักผ่อนตามอัธยาศัย บางคนก็ลงตรงนี้เพราะถึงจุดหมายแล้ว แล้วก็ลงไปที่เซเว่นเลือกของกินให้กับน้องสุดที่ของตนเอง

บนรถนั้น หนุ่มน้อยร่างบางยังคงตื่นตากับวิวธรรมชาติรอบข้างเพราะที่กรุงเทพไม่มี อย่างนี้ให้ดูแน่นอนทั้งยังมีคนหลายเชื้อชาติมาซื้อของหรือมาแลกเปลี่ยน สินค้ากัน นั่งมองวิวไปซักพักไปสะดุดสายตาใครคนนึงเข้า รู้สึกว่าเห็นมองมาตั้งแต่ตอนที่รถถอดเทียบท่าแล้วแต่ไม่คิดว่าจะมองมาไม่ ยอมขยับตัวไปไหน มองอยู่ได้หาหวยไงว่ะ (บ่นกับตัวเองไปตามเรื่องตามราว) แต่ก็เห็นพี่สาวสุดที่รักไปคุยอะไรกับมันก็ไม่รู้เกลียดสายตาแบบนี้จังแบบเวลาที่โดนมองว่า ไม่น่าเชื่อ จิงอ่ะ อะไรประมาณนี้ แล้วก็หัวเราะกัน มันเป็นใครว่ะอยากรู้จังถ้าขึ้นรถมาเมื่อต้องถามเจ๊ให้รู้เรื่อง กิ๊กเจ๊ป่าวถ้าใช่ก็จะโทรไปบอกพี่หนุ่มว่ายัยเจ๊มีกิ๊ก คิดได้ดังนั้นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเอง แต่เผอิญชายหนุ่มข้างล่างที่มองมานั้นคิดว่าร่างบางยิ้มให้ก็เลยยิ้มตอบกลับ มาโบกไม้โบกมือด้วย จากที่กำลังมีความสุขนั้นก็หน้าเป็นตูดขึ้นมาทันที(ถ้าขี้ออกตรงได้ก็คงใช่ ล่ะ) แล้วก็หันกลับทันที

“ใครว่ะไม่ชอบหน้ามันเลย” บ่นกับตัวเอง(อีกแล้ว)

ซักพักพี่สาวของร่างบางก็ขึ้นมา ของกินเต็มไปหมดทั้งนมทั้งลูกชิ้น ข้าวกล่อง อูยอะไรไม่รู้อีกเยอะแยะไปหมด
“ซื้อไรมาเยอะจัง กินหมดป่าวเนี่ย” พูดไปตาก็มองไปมือก็คุ้ยเขี่ยหาของที่ตัวเองอยากกิน

“ไม่ ต้องรื้อเลย ของกินแกอยู่กับชั้นนี่ ถ้าอยากกินชอคโกแลตก็ต้องกินข้าวก่อนโอเค” แล้วหันมามองหน้าน้องชายตัวเองเป็นการขอคำตอบที่ต้องปฏิบัติตามด้วย ร่างบางก็พยักหน้าหงึกๆ แล้วก้คว้าข้างกล่องมากินแบบขอไปทีเพื่อของอะไรที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า

“นี่ เจ๊ แล้วอีกนานป่ะ” กินไปก็พูดไปข้าวเต็มปากน่าเกลียดที่สุด เฮ้อเจ้าเด็กเหลือขอเอ้ย แล้วก็ยิ้มกับการกระทำของน้องตัวเองที่ไม่เคยจะโตซักที นี่ก้เข้ามหาลัยปี 1 แล้วนะเนี่ย

“ก็ซักประมาณชั่วโมงแหละ เดี๋ยวพอรถเข้าเขตสังขละบุรีแล้วแกก็มองดูวิวด้วยนะตอนนี้กำลังสวย เพราะเพิ่งผ่านหน้าฝนมาไม่ได้เท่าไหร่มันยังชุ่มชื้นอยู่” แล้วร่างก็พยักหน้าเป็นการตอบ เพราะตอนนี้ข้าวเต็มปากไปหมด กลัวจะไม่ได้กินชอตโกแลตที่ตนหมายปองไว้

กินเสร็จก็นอนต่อไม่ได้ดู สองข้างทางอะไรกับเค้าเลย พอใกล้ถึงพี่สาวคนสวยของร่างบางก็ปลุกเพราะใกล้ถึงแล้วต้องเตรียมตัวลง และเตรียมกระเป๋าเพื่อเป็นการไม่เสียเวลาของตารางการเดินรถด้วย

กระเป๋า ที่เอามาก้มีหลายใบเพราะพี่สาวของร่างมาเป็นคุณครูประจำอยู่ที่นี่ โรงเรียนบ้านท่าดินแดง เป็นโรงเรียนที่พี่สาวของร่างบางมาสอนได้ซักพักนึงแล้ว พอดีช่วงนี้ปิดเทอม 1 แต่ต้องมาเข้าเวรเฝ้าโรงเรียนจึงเอาน้องชายสุดเลิฟมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย เพราะยังไม่ชินเท่าไหร่กับการที่ต้องนอนอยู่ในบ้านพักครูคนเดียว

“เฮ้ย นี่แกตื่น ตื่นไดแล้วโว้ย นอนอยู่นั่นแหละ เตรียมของเร็ว อะไรกันเมื่อวานก็นอนแต่หัวค่ำ ยังง่วงอีกหรอ” พูดจบก็พาดกบาลไปหนึ่งที

“โอ้ ย! ตื่นก็ได้ ทำไมต้องลงมือด้วย ใจร้ายที่สุดกับจะฟ้องแม่ด้วยว่าเจ๊ตีน้อง ฮ่าๆๆๆ” พูดไปก็ขำไป แล้วก็เตรียมของช่วยพี่สาวตัวเอง แต่ร่างบางไม่รู้เลยว่ามีใครแอบมองการกระทำทุกๆอิริยาบถ อยู่ด้านหลังเบาะที่นั่งถัดไปอีก 2 แถวอย่างเงียบๆ ตั้งแต่ที่ทองผาภูมิแล้ว

“ปรังเผล ถึงแล้วคับ” เสียงเด็กกระเป๋ารถบอกให้รู้ว่าถึงที่หมายของผู้โดยสารบางท่านที่ต้องลงตรง ปากทางเข้าของตำบลนี้ (หมายเหตุ ปรังเผลคือตำบลหนึ่งในส่วนของ อ.สังขละบุรี)

พอขนสัมภาระลงจากรถเรียบร้อยแล้วร่างบางก็มองไปรอบๆ บริเวณนั้น ฮืม สวยจังสดชื่นด้วย เอะได้ยินเสียงน้ำตกนะ ถามเจ๊ดีกว่าว่าอยู่ตรงไหน คิดได้ดังนั้นก้เดินไปหาพี่สาวตัวเอง แต่ต้องชงักเพราะคนที่คุยกับพี่สาวตนเองนั้นก็คืออีตาที่เจอกันตรงที่ท่ารถ อ.ทองผาภูมิ เห็นดังนั้นก้ทำหน้างออีก
“เจ๊ใครว่ะ” ถามพี่สาวออกไปอย่างห้วนๆ เพราะไม่ชอบคนตรงหน้าที่ชอบมองมาเหมือนว่าตนเองนั้นน่ารักมากมาย

“อ๋อ ลืมไปนี่คุณหนึ่ง เป็นลูกของกำนันที่ตำบลนี้นะ ไหว้สิเค้าเป็นผู้ใหญ่กว่านะ” ร่างบางจำต้องไหว้ไปแบบนั้นแหละ ไม่อยากให้พี่สาวตัวเองเสียด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

“นี่น้องชายของ นัทเอง ชื่อนุ่ม” พูดแนะนำตัวเสร็จ ชายหนุ่มก็ยกมือรับไหว้อย่างเขินๆ ไม่รู้จะเขินทำไม แปลกแฮะ พฤติกรรมเมื่อกี้ไม่อาจรอดพ้นสายของผู้เป็นพี่ด้ายยยยยยย

“น้องครูนัทน่ารักดีนะคับ เรียนที่ไหนหรอคับ” ใช่จิงๆด้วย สงสัยต้องชอบเจ้านุ่มแน่ นัทคิดอย่างนั้นเงียบ

“อ่อ เพิ่งเรียนปีหนึ่งค่ะ ที่มหาลัย........คณะบัญชีค่ะ”

“จะรู้ไปทามมัย” พูดเสร็จก็ทำหน้าไม่พอใจแล้วเดินหนีไปที่น้ำตกใกล้ๆ ที่ได้ยินเมื่อกี้นี้

“เอ่อ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ ไม่คิดว่าเจ้านุ่มจะเสียมารยาทขนาดนี้นะค่ะ” พูดจบก้แทบอยากจะจับคนเจ้าปัญหามาห้อยหัวแล้วอัดซักสองสามที

“ฮ่าๆๆๆ ไม่เป็นไรคับไม่ป็นไร ช่างเค้าเถอะ ผมไม่ถือสาหรอก อย่างนี้น่ารักดี นี่ถ้าตอนแรกครูนัทไม่ได้บอกว่าเป็นผู้ชายนะคับผมไม่เชื่อแน่นอน นึกว่าน้องสาวครูนัทด้วยซ้ำ” พูดจบ ตาก็มองไปยังที่ร่างบางเดินลงไปเล่นที่น้ำตกนั้นคนเดียว น่ารักจัง รำพึงรำพันกับตัวเอง

ที่จิงนั้น หนึ่งเป็นลูกผู้มีอิทธิพลในแถบนั้น ใครๆก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา และเป็นคนที่หน้าดีที่เดียวสูงใหญ่ผิวสองสีอย่างชายไทยทั้วไป แต่หน้าตาออกไปทางมอญนิดๆ น่าจะได้เชื่อมาจากทางคุณแม่ของเค้าเพราะเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆๆคนนึง ตอนแรกนึกว่าจะมาจีบเราที่ไหนได้หาคนไปสอนพิเศษกับน้องสาวของเค้าเอง โล่งอก จะได้ไม่ต้องไปผิดใจกับหนุ่ม เจ้านุ่มยิ่งขี้ฟ้องอยู่ด้วย

แต่นี่ น้องเราดันมาทำกิริยาแบบนั้น เค้าจะคิดยังไงเนี่ยยิ่งขี้เกียจย้ายโรงเรียนด้วย เจ้านุ่มนะเจ้านุ่ม เดี๋ยวเถอะถึงบ้านพักเมื่อไหร่ต้องเทศนากันซักหน่อยแล้ว

“แล้วน้องครูนัทอยู่นานไหมคับ” เสียงของชายหนุ่มเรียกสติของหญิงสาวกับมาอีกครั้ง

“อ๋อ เจ้าเด็กเอาแต่นั่นหรอค่ะ อีกซัก 3 อาทิตย์มั้ง เพราะนี่เพิ่งปิดเทอมเหมือนกัน คุณหนึ่งมีไรรึป่าวค่ะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยและอยากรู้

“อ๋อ ป่าวหรอกคับพอดีช่วงนี้ น้องสาวผมก็ไม่ค่อยมรเพื่อนก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนกันได้น่ะคับ เพราะช่วงนี้ผมต้องเข้าสวนบ่อยนะคับ เพราะเข้าไปดูแล ไม่ค่อยได้มีเวลาเท่าไหร่ กลัวเจ้าสองเหงาน่ะคับ” ชายหนุ่มพูดออกมายึดยาวเหมือนจะรู้ว่าหญิงสาวจะรู้เท่าทันความคิดของตน

“ฮืม ก็ดีเหมือนกันนะคะ เพราะช่วงนี้ฉันก็กลัวไม่ทีเวลาให้น้องตัวเองเท่าไหร่เหมือนกัน เพราะต้องเตรียมแผนการสอนของเทอมหน้าด้วย งั้นฉันฝานคุณหนึ่งด้วยละกัน ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ เจ้านุ่มจะได้ไม่เหงา” ทั้งสองมัวแต่คุณกันจนไม่ทันได้สังเกตว่าร่างบางมาได้ยินบทสนทนา ของทั้งคู่ซักพักแล้วจึงท้วงออกไปว่า

“เจ๊ไม่ต้องเลย ไม่ไปกับตาเฒ่าคนนี้แน๋

zantiga โพสต์ 2010-9-5 19:52:38

“โอ้ย!!!!!!!!!!!!!!! เจ็บอ่ะเจ๊” ร่างบางหน้าตาเหยเก เพราะโดนหยิกที่เอว ชายหนุ่มก็มองร่างบางอย่างตกใจเล็กน้อย นึกว่าอะไรที่แท้ก็โดนทำโทษ

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่น้องของนัทเสียมารยาท” พี่สาวที่ทำร้ายน้องตัวเองเมื่อกี้นี้ก็ขอโทษไปยังชายหนุ่มตรงหน้า

“ไม่ เป็นไรคับ นุ่มคงจะยังไม่คุ้น ที่ต้องไปกับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ตัวเอง แต่ว่าที่นุ่มพูดเมื่อกี่พี่ยังไม่แก่เท่าไหร่นะคับ เพิ่งจะ 28 เอง” แล้วก็ยักคิ้วใส่ร่างบางเป็นการล้อเลียนที่ว่าชายหนุ่มเมื่อกี้

“ชิ! ก็ห่างกันตั้ง 10 ปีแนะไม่เรียกลุงก็ดีแล้ว” พูดจบก็วิ่งแจ้นไปที่น้ำตก เพราะไม่งั้นเจอฝ่ามืออรหันต์แน่

“อย่าถือสาเลยนะคะ ที่จิงนุ่มไม่เคยมีนิสัยแบบนี้เลย”

“อ๋อ ไม่เลยคับเด็กๆ ก็เงี้ยแหละ แฮะๆๆ”

แล้ว ทั้ง 2 ก็ไปคุยที่หน้าสถานีตำรวจ เพราะมีเต็นอยู่ด้านหน้าเพื่อหลบแสงแดดที่ร้อนแรงหลังจากโผล่พ้นขอบภูเขามา ได้ไม่นาน ส่วนหนุ่มน้อยร่างบางนั้นก็ยังคงสนุกสนานกับการเล่นน้ำตกตรงทางเข้าหน้าหมู่ บ้าน มีชื่อว่า น้ำตกเกริงกะเวีย (เป็นภาษากระเหรี่ยง) บริเวณนั้นจะมีประมาณ 4ชั้น แล้วลดหลั่นขึ้นไปข้างใน ช่วงนี้น้ำจะใสและเย็น พอได้แช่ขาลงไปก็ทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นมาไม่น้อย แล้วก็เคี้ยวชอคโกแลตของโปรดอย่างเอร็ดอร่อย โดนไม่ทันสังเกตว่ามีคนแอบมาข้างหลังแล้วก็ควักน้ำใส่

“เฮ้ย!!!!!!!!! ใครว่ะ เปียกหมดเลยเดี๋ยวพี่เราด่าตายเลย เล่นไม่เข้าเรื่อง แล้วรู้จักกันป่าวเนี่ย”

“รู้จักสิ ทำไมจะไม่รู้จักล่ะคับ พี่แค่แหย่เล่น ขวัญอ่อนจิงเชียว”

ชาย หนุ่มร่างใหญ่(เหมือนรถแทรคเตอร์) เข้ามากระเซ้าเหย้าแหย่หนุ่มน้อยร่างบาง แต่ไม่ทันที่จะได้ตอบโต้อะไร พอรู้ว่าเสียงเป็นใคร ก็รีบใส่รองเท้าและขึ้นไปหาพี่สาวตัวเองที่หน้าป้อมตำรวจ โดยไม่สนใจคนข้างหลังเลย เรียกอย่างไรก็ไม่หันมามอง

“เฮ้อ เป็นอะไรของเค้าเนี่ย แค่ควักน้ำใส่แค่นี้เอง” แล้วก็เดินตามอย่างเสียไม่ได้ว่าร่างบางนั้นเป็นไรกันแน่

“อ้าว? ไปทำไรมา เปียกเหมือนลูกหมาเลยมานี่ๆ มาเช็ดตัวก่อนเดี๋ยวก้ไม่สบายอีกขี้เกียจมาดูแลคนป่วยนะยะ” พูดจบก็หันมองซ้ายมองขวา เหมือนหาใครบางคน

“หาใคร เจ๊” ถามไปงั้นแหละ ที่จิงก็รู้อยู่ว่าใคร แต่ไม่อยากเอ่อชื่อ เชอะ! เมื่อกี้กำลังอารมณ์สุนทรีย์เลยมาทำให้บรรยากาศเสียหมด เช็ดหัวไปก็บ่นในใจไป

“อ้าวมาพอดี คุณหนึ่งเร็วค่ะเดี๋ยวรถเข้าหมู่บ้านมาแล้ว นุ่มไปเอากระเป๋ามาเร็วเดี๋ยวไม่ทัน”

“อ๋อ ไม่ต้องคับ เดี๋ยวคนงานในไร่กำลังออกมารับ จะได้ไม่ต้องเปลืองค่ารถ เดี๋ยวผมไม่ส่งนัทกับนุ่มเอง” ปากพูดอีกคนแต่ตาน่ะก็มองอีกคน เมื่อเห็นดังนั้นร่างบางก็เลยหันหน้าไปทางอื่น

“ชิ มองอยู่ได้ไม่เคยเห็นคนไงว่ะ ตาเฒ่า” พูดออกสียงไม่ได้ ได้แต่บ่นใจเบาๆ

“อา รถมาแล้วคับ เดี๋ยวให้ลูกน้องผมยกกระเป๋าให้ นัทกับนุ่มไปนั่งในรถก่อนเถอะตอนนี้แดดเริ่มแรงแล้ว”ส่วนร่างบางนั้นไม่ต้อง พูดถึง เมื่อกี้โดนน้ำเย็นแล้วมาเจอไอแดด เหมือนจะเป็นไข้ตัวแดงหน้าแดงไปทั้งตัวเลย

“เฮ้ย! เป็นไรอ่ะหน้าแดงๆ เป็นไข้ป่าวมานี่ซิ” พี่สาวร่างบางก็ดึงร่างน้อยๆของน้องชายตัวเองมาจับหน้าผากดู

“เฮ้อ~ว่า แล้วนี่แกไปเล่นน้ำแล้วไม่ยอมเช็ดตัวให้ดี เห็นไหมเป็นไข้อีกแล้ว ถึงบ้านพักค่อยกินยานะ” พูดจบก็หาเสื้อหนาๆมาห่มให้ร่างบาง เพราะตอนนี้ในรถกระบะก็เปิดแอร์

การสนทนาของทั้งคู่เมื่อกี้(หรือ ว่าบ่นดีน่ะ) ชายหนุ่มเผอิญได้ยิน จึงเข้าไปขอโทษพี่สาวร่างบางว่าไม่ใช่เจ้าตัวที่ลงไปเล่นน้ำหรอก แต่เป็นเค้าต่างหากที่แกล้งร่างบาง ใม่คิดว่าจะมาป่วยง่ายๆแบบนี้

“ที่ จิงไม่เป็นไรหรอดค่ะ เจ้านี่เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว เป็นโรคภูมิแพ้อากาศ ฝนตกนิด แดดร้อนหน่อย หนาวเล็กน้อย ก้เป็นไข้แล้ว ข้าวปลาก็ไม่ค่อยกิน กินแต่ชอคโกแลตตัวถึงแกร็นแบบนี้ละคะ”

“ไม่ใช่ซักหน่อย ข้าวก็กินนะแต่กินไม่มากแค่นั้นเอง” เมื่อกี้ร่างบางได้ยินคำสนทนาของทั้งคู่ จึงร้องตอบโต้ออกไป

“อ้าว? ก็ยังแข็งแรงดีนี่น่า เห็นปากยังทำงานได้” ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะแซวเล่นกับร่างบางที่นอนคุดคู้อยู่เบาะหลังของรถ

วันนี้ เหนื่อยมามากแล้วไม่อยากต่อปากต่อคำกับคนข้างหน้า พูดไปก็ไม่มีใครเข้าข้างแม้กระทั่งพี่สาวตัวเอง วันนี้ฝากไว้ก่อนหายดีเมื่อไหร่ ฮึ่ม น่าดู คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยก็ผล็อยหลับไปเพราะพิษไข้เริ่มทำงานแล้ว
ตอนนี้รถ ขับมาครึ่งทางแล้ว แต่ร่างบางตอนนี้ไข้เริ่มขึ้นสูง นัทเห็นแบบนั้นก็ขอให้คนขับรถของชายหนุ่มเร่งอีกหน่อยเพราะว่าร่างบางยังไม่ ได้กินยาเลย

ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เพราะความไม่รู้ของชายหนุ่มทำให้ร่างบางไม่สบายก็เลยเปลี่ยนกับคนขับรถ เพราะจะขับเองก็ตอนนี้ตัวชายหนุ่มก็เริ่มไม่สบายใจ(ก็ต้นเหตุมาจากตัวเองนะ ล่ะ)

“งั้นเดี๋ยวแวะอนามันก่อนไหมคับ ข้างหน้านี่เอง จะได้ให้นุ่มกินยาก่อนอีกซักพักกว่าจะถึงบ้านพักครู”

“ก็ ได้ค่ะ ซักเป็นห่วงแล้วสิ เพราะเมื่อเช้าก็ตื่นเช้าเกิน แล้วยังต้องมานั่งรถหลังขดหลังแข็งอีก” บ่นไปอย่างงั้นแหละที่จิงก็เป็นห่วงอยู่ไม่ใช่น้อย

“ถึงแล้ว งั้นครูนัทรออยู่ในนี้แหละคับเดี๋ยวผมจัดการเรื่องยาเอง” พูดจบก็กุลีกุจอไปที่อนามัยทันที

ตอนนี้ร่างบางก็มองหน้าพี่สาวตัวเองตาแป๋ว

“หืม ตื่นมาตอนไหนเนี่ย ปวดหัวป่าว แล้วหิวน้ำไหมเดี๋ยวเอามาให้กิน” พูดไปก็ลูบหัวร่างบางไป อดที่จะสงสารไม่ได้ เพราะเวลามาสบายที่ไรแทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันทั้งบ้าน นึกถึงเวลานั้นแล้วน้ำตาก็เอ่อมาที่ขอบตา ต้องริบกระพริบตาถึ่ๆ เดี๋ยวร่างบางเห็นแล้วไม่สบายใจอีก

“อยากกินชอคโกแลต อ่ะเจ๊ นะๆๆๆๆๆ” พูดจบก็หัวที่หนุนพี่สาวตนเองถูไปถูมาเหมือนลูกแมวเวลาที่ขอข้าวกิน

“แปปนึง เดี๋ยวหาให้” เวลานี้ขัดใจไม่ได้ เดี๋ยวร้องไห้ไข้ขึ้นกว่าเดิมจะลำบาก

“ได้ยามาแล้วคับ อ้าวแล้วครูนัทหาไรอยู่เดี๋ยวผมหาให้” แล้วชายหนุ่มก็เอายาให้พี่สาวร่างบาง

“เอ่อ ชอคโกแลตค่ะ พอดีเจ้าตัวดีนี่อยากกินต้องตามใจหน่อยเดี๋ยวไม่ได้ดั่งใจ แล้วจะร้องไห้ไข้ขึ้นกว่าเดิมจะลำบาก”

“อืม ได้คับ เดี่ยวผมหาให้” ชายหนุ่มคิดว่าร่างบางจะโยเยขนาดนั้น แต่ก็อืมน่ารักดี คิดได้แบบนั้นก็รีบหาชอแลตของโปรดร่างบางอย่างกุลีกุจอที่ท้ายกระบะรถ

ซัก พักไปเจอถุงชอคโกแลตในกระเป๋าใบหนึ่ง ต้องตกใจไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ ทั้งถุงนี่น่าจะ 3000 พันกว่าบาทได้มั้ง ไม่คิดว่าร่างบางจะชอบขนาดนี้ ที่จิงมาอยู่ 3 อาทิตย์ก็น่าจะซื้อเยอะอยู่หรอกเพราะแถวนี้ไม่ร้านค้าที่ไหนจะมีชอคโกแลตแบบ นี้ขายแน่

“ได้แล้วคับ แต่ไม่รู้ว่าชอบแบบไหนเลยเอาทั้งถุงเลย”

“เอา darkชอคโกแลต ยี่ห้อ.........." แล้วก็ทำตาแป๋วใส่ ชายหนุ่มมองหน้าร่างบางอย่างไม่เชื่อสายตา เวลาเป็นไข้แล้วอ้อนแบบนี้ทุกคนป่าวเนี่ย แต่ก็ยื่นให้แต่โดยดีเพราะไม่อยากแกล้งคนป่วยที่น่ารักแบบนี้

“เวลา ไม่สบายก็เป็นแบนี้ละค่ะคุณหนึ่ง เห็นใครอยู่ใกล้ๆก็อ้อนแบบนี้แหละ ยิ่งถือถุงชอคโกแบตด้วยแล้วให้ทำอะไรยอมหมดแหละ” พูดจบก็ลูบหัวร่างบางอย่างเอ็นดู

“ฮือ ผมจะจำไว้คับ” แล้วชายหนุ่มก็ทำหน้าจิงจังหมายมั่นปั้นมือว่าจะรักษาอย่างที่พูดให้ได้

“แหม!! คุณหนึ่งนี่เจ้านุ่มมาอยู่แค่ 3 อาทิตย์นะค่ะ ไม่ได้มาอยู่เป็นเดือนซักหน่อย น้องของนัท นัทดูแลเองได้ค่ะ” แล้วก็ขำกับท่าทางชายหนุ่มเหมือนจะขอน้องตัวเองไปดูแลแทนอย่างนั้นแหละ

“เรารีบไปกันดีกว่านะค่ะ เดี๋ยวจะไปถึงช้า เจ้าตัวดีนี่ท่าทางใกล้จะง่วงแล้วล่ะ”

ที่ จิงยังไม่ง่วงหรอก เพราะสนใจกับการกินของอร่อยตรงหน้ามากกว่า แต่กว่าจะไปถึงบ้านพักครูที่โรงเรียนบ้านท่าดินแดง ก็พอดีแหละร่างบางก็คงหลับไปแล้ว แล้วทั้งหมดก็จมไปกับความของตัวเอง

นัท พี่สาวร่างบาง หญิงสาวสวย อายุ 27 ปี เป็นคุณครูสอนวิชางานบ้าน ศิลปะ ภาษาอังกฤษ เพราะที่โรงเรียนบ้านท่าดินแดง เป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีตั้งแต่ อนุบาล 1 ถึง ม.3 โดยหน้าที่ของนัทจะสอน ม.1 ถึง ม. 3

หนึ่งชาย หนุ่มรูปหล่อร่างใหญ่(เวอร์ไปป่าวเนี่ย) สูง 187อายุ 28 ปี จบจาก มหาลัย.......... เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ก็กลับมาพัฒนาที่บ้าน(ก้สำนึกรักบ้านเกิด) ทำโครงการปลูกผักเพื่อการทดแทน เพราะที่ดินแทบนั้นจะปลุกมันสำปะหลังอย่างเดียว ไม่มีการปลูกพืชผักสวนครัวอย่างอื่นทดแทน จึงเป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้ขึ้นมา เพราะกำนันผู้เป็นพ่อคอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้โครงนี้ก็กำลังไปได้ดี และตำบลอื่นก็กำลังพัฒนาตาม นอกจากนี้บ้านนี้ยังมีรีสอร์ทอีกหลายแห่งในตัว จ.กาญจนบุรี แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุด ก็ที่ห้วยซองกะเลีย ที่สังขละบุรี จึงทำให้ชายหนุ่มต้องทำงานทั้ง 2 ในเวลาเดียวกัน

และ นุ่ม ชายหนุ่มร่างบาง สูงแค่ 167 เอง (ตอนนี้กำลังนอนป่วยอยู่ในรถ) อายุ 18 ปี(เรียนก่อนเกณฑ์ปีนึง) อยู่ มหาลัย....... มีโรคประตัวคือเป็นภูมิแพ้มาแต่กำเนิด ตอนที่แม่ตั้งท้องใหม่ๆ ก้ตกใจเหมือนกันไม่คิดว่าจะต้องมาท้องตอนอายุเลยเข้าเลข 4 แล้ว แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้แล้วก้เป็นเรื่องที่น่ายินดีอีกเช่นกัน จะได้มีเจ้าตัวน้อยมาส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ทำให้บ้านหลังนี้มีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ตอนเกิดใครๆ ก็คิดว่าเป็นเด็กผู้หญิง เพราะตอนเกิดมาหน้าตาเหมือนผู้หญิงมาก ทำให้คนบ้านใกล้เรือนเคียงเข้าใจผิดกันไปช่วงนึง แต่พอโตมาหน่อยก็ไม่ค่อยแข้งแรง เมื่อเห็นดังนั้นที่บ้านจึงมาไปเล่นแบทมินตัน เพราะเป็นกีฬาที่ไม่ต้องโดนแดด จึงทำให้ร่างกายพอแข็งแรงชึ้นมาบ้าง แต่ก็ต้องดูแลเหมือนเดิม พออากาศเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยก็นอนซมทุกทีด้วยความที่อายุห่างกันมากทำให้นัทต้องเลี้ยงน้องช่วยพ่อกับแม่ จึงทำให้เหมือนแม่คนที่ 2 ตอนที่ขึ้น มหาลัยใหม่ๆ ก้อดห่วงไม่ได้เพราะการรับน้องนั้นชอบทรมารรุ่นน้องเกินขอบเขต แต่ไม่เป็นไรมากแค่เพลียแดดกับมานิดหน่อย แล้วก็เจ้าเพื่อนสนิทที่ทำตัวสนิทเกิน เจ้าใหญ่ เหมือนจะชอบเพื่อนตัวเองอยู่ไม่น้อย นี่ถ้ารู้ว่านุ่มมาเที่ยว สังขละบุรี ต้องตามมาด้วยแน่

“ถึงแล้วคับ นุ่มยังนอนอยู่ป่าวคับ เดี๋ยวผมจะได้อุ้มขึ้นบนบ้านให้”

zantiga โพสต์ 2010-9-5 19:53:04

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวนัทปลุกก็ได้” กะว่าจะปลุกร่างบางแต่ต้องตกใจกับอาการตัวร้อนของร่างบาง

“ทำไมคับ นุ่มไข้ขึ้นรึป่าว” พูดจบชายหนุ่มก็เอาไปมือไปแตะที่หน้าผาก

“ฮูย!!!!!!!!! ตัวร้อนจี๋เลย สงสัยคงจะกินยาช้าไปแน่ๆเลย ไปหาหมอที่อนามัยเมื่อกี้ก่อนไหมคับ” ท่าทางร้อนรน ตกอกตกใจกับอาการของร่างบาง (ก็แงล่ะที่ป่วยเนี่ยเป็นฝีมือใครล่ะ)

“ฮืมเอางี้ นัทว่าพาเจ้านุ่มขึ้นบ้านก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวดูอาการก่อนถ้าไม่ไหวเดี๋ยวนัทโทรตามคุณหนึ่งก็ได้”

“ไม่ เป็นไรคับ งั้นผมอุ้มนุ่มขึ้นไปบนบ้านก่อนแล้วครูนัทก็เอากระเป๋าขึ้นตามมาละกันนะคับ” พูดจบชายหนุ่มก้อุ้มร่างบางขึ้นบนบ้านพักครู เมื่อมีโอกาศสัมผัสร่างบางแบบใกล้ชิดก็ทำให้รู้ว่าน้ำหนักตัวของร่างบางนั้น เบามากกกกกก แต่ผิวนั้นนุ่มและก็ขาวอมชมพูนิดๆ ขาตานั้นหนาได้รูปพอดีกับรอบดวงตา ปากนิดจมูกหน่อย น่ารักจัง ชาหนุ่มคิดแล้วก็อมยิ้มอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่พ้นสายตาของใครบางคนไปได้

“เฮ้อ คุณหนึ่งนะ ท่าทางจะชอบเจ้านุ่มแน่ๆ ที่จิงก็มีผู้หญิงมาติดพันเยอะเหมือนกัน แต่ไม่เห็นจะชอบใครจิงๆจังๆ ซักคน จะว่าไปแค่ควงเล่นๆด้วยซ้ำ แล้วนี่ไหงมาชอบน้องเราได้สงสัยต้องสังเกตพฤติกรรมไปก่อน ถ้ามีความจิงใจค่อยสนับสนุน (เป็นพี่ที่แปลกอีกแล้ว) แต่ถ้าแค่สนุกๆละก็น่าดู เพราะเจ้านุ่มนั้นอ่อนต่อเรื่องพวกนี้ (ไม่เคยมีแฟนว่างั้น) เดี๋ยวจะพลาดท่าได้ง่ายๆ สงสัยต้องทำตัวหวงก้างหน่อยแล้ว” คิดไปก็ยิ้มไปสงสัยท่าจะบ้า

“แล้วให้นอนที่เตียงไหนคับ”

“เออ ตรงด้านขวาค่ะ งั้นเดี๋ยวนัทจะเช็ดตัวนุ่มก่อน ถ้ายังไงคุณหนึ่งกลับไปก่อนก็ได้ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ”

“งั้น ผมกลับบ้าน ไปแปปนึงก่อน แล้วเดี๋ยวกลับมานะคับ ยังไงก็เป้นเพราะผมอยู่ดีที่ทำให้นุ่มไม่สบาย” ชายหนุ่มก็หน้าเศร้าลงเล็กน้อยที่เห็นร่างบางยังคงนอนซมเพราะพิษไข้

“อืม งั้นตามใจแล้วกัน คุณหนึ่งไปทำธุระก่อนก็ได้ เพราะนัทยังไม่นอนหรอกค่ะ”

หลัง จากนั้นก็แยกย้ายไปธุระส่วนตัวกัน ตอนนี้ร่างบางยังคงนอนไม่รู้เรื่อง เนื่องจากโดนเล่นงานด้วยพิษไข้ตั้งแต่บนรถแล้ว จะรู้สึกก็เหมือนกับว่าตัวเองลอยได้แล้วก็ตกลงมาอยู่บนที่นิ่มๆที่ไหนซัก แห่ง แล้วหลังจากความรู้สึกนั้นก็ไม่รับรู้อะไรอีก

ในคืนนั้นหนึ่ง ก็มาดูแลนุ่มอย่างใกล้ชิด ทั้งเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า ป้อนยา ส่วนนัทก็อดที่จะขำกับการกระทำของชายหนุ่มไม่ได้ ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง นัทก็เลยต้องไปนอนอีกห้อง ปล่อยให้บุรุษพยาบาลฝึกหัดเฝ้าร่างบางอยู่ไม่ห่าง แล้วด้วยความเพลียทำให้หลับลงข้างๆร่างบาง ซึ่งไม่รู้เลยว่าถ้าร่างบางตื่นมาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับชายหนุ่มบ้าง

“เจ็ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ร่างบางตื่นขึ้นมาก็ตกใจว่า ตาเฒ่านี่มานอนในห้องได้ยังไง แล้วพี่สาวตัวเองไปไหนปล่อยให้มานอนอยู่ข้างๆ

“โอ้ย อะไรกันเนี่ย ตะโกนแต่เช้าเลย” ชายหนุ่มหัวเสียนิดๆที่ร่างบางตะโกนเสียงดัง

“มาอยู่ในห้องได้ไงอ่ะ แล้วเจ็ไปไหน” แล้วก็ทำท่าทางกระฟัดกระเฟียด ฮึดฮัด ไม่พอใจอย่างมาก

“ก็ มาดูแลคนป่วยไง ไม่คิดจะขอบคุณซักคำเลยหรอ” ชายหนุ่มเห็นร่างบางทำหน้างอ ก้เลยแหย่นิดนึง สงสัยน่าจะหายไข้แล้ว มีแรงตะโกนซะดังขนาดนี้

“ใครใช้คนแก่มาดูแลละ เดี๋ยวคนอื่นหาว่าเอาคนแก่มาทรมาร”

“ฮือ!!!!!!!! เป็นเด็กเป็นเล็ก พูดจาแบบนี้ไม่เพราะนะคับ งั้นคนแก่คนนี้ต้องลงโทษหน่อยแล้ว” ชายหนุ่มก้ลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงของร่างบาง แล้วก็ก้มลงไปจุ๊บที่แก้มเบาๆ

ตั้งแต่ เกิดมาคนที่หอมแก้ก็มี พ่อแม่ เจ๊ ก็ไม่เคยให้ใครได้มายุ่งกับใบหน้านี้อีก วันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต แล้วหน้ำซ้ำยังเป็นผู้ชายเหมือนกันอีก ก็เลยนิ่ง เอ๋อไปชั่วขณะ ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็เลยตกใจคิดว่าร่างบางคงจะช็อค จึงจับไหล่เขย่าเบาๆ

“นุ่ม นุ่ม นุ่ม” บุลคลที่ท่านเรียกไม่สามารถพูดคุยกับท่านได้ในขณะนี้

“นุ่มนุ่มนุ่ม” พอได้สติก็ถอยกรูดไปชิดที่หัวเตียง

“เมื่อกี้ทำไรนุ่มอ่ะ หน้าไม่อาย ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นจะฟ้องเจ็ด้วย” แล้วก็มีน้ำตาซึมๆ ออกมาที่ขอบตา

“เอ่อ T_T พี่ขอโทษไม่ได้ตั้งใจอย่าร้องนะ” ชายหนุ่มไม่คิดว่าร่างบางร้องไห้ออกมา

“ทำอะไรกันทั้ง 2 หนุ่มนะ”

พอนัทเข้าห้องมานั่นแหละ ร่างบางก็วิ่งปรูดไปกอดเอวพี่สาวตัวเองแน่น(เหมือนลูกลิงเกาะแม่ลิง)

“เมื่อกี้มีอะไรกันป่าวคะ เสียงดังไปถึงตึกเรียนเลย” หญิงสาวยังคงงงกับอาการของน้องชายตัวเอง

“ไม่มีอะไรหรอกคับแค่แหย่กันนิดหน่อย” พูดจบก็หันไปมองร่างบาง ตอนนี้หน้าเริ่มแดงขึ้นไม่รู้ว่าโกรธหรืออาย

“เจ็ทำไม่ให้เค้ามานอนในห้องเราหละ แล้วเจ๊ไปไหนมา” ร่างบางกระซิบกระซาบคุยกับพี่สาวตัวเอง กลัวคนตรงหน้าจะรู้ว่าคุยอะไรกัน

“เอ้า ฉันต้องไปเตรียมการเรียนการสอนของเทอมหน้านี่ ก็ต้องไปทำงานที่ห้องเรียนซิย่ะ แล้วนี่คุณหนึ่งก็เฝ้าแกตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ขอบคุณพี่เค้าแล้วหรือยัง”

ร่างบางสองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ตาเฒ่าเนี่ยนะ เมื่อวานตอนกลางวันยังมาแกล้งตัวเองอยู่เลย

“แล้วใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ล่ะ เจ๊”

“ถาม ได้ ฉันไม่เปลี่ยนให้อกหรอก นู่น คุณหนึ่งนู่น ดีซะอีกผู้ชายเหมือนกันไม่เห็นต้องอายเลยนี่ ใช่ไหมค่ะ” แล้วก็หันไปมองหน้าชายหนุ่มที่ตอนนี้ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ว่าได้เห็นอะไรไปบ้าง ทำให้ร่างบางนั้นไม่พอใจ แต่ก็ต้องทำตามที่พี่สาวตัวเองบอก

“ขอบคุณ” ตอบอย่างห้วนๆสั้นๆและได้ใจความ ชายหนุ่มพอได้ยินดังนั้นก็เงยหน้ามองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์

“อะไรนะคับพี่ไม่ได้ยิน ขออีกที่ได้ไหม”

“ขอบคุณณณณณณณณณณณคร้าบบบบบบบบบบบบบบบ”แล้วก้ทำเสียงยานใส่อย่างประชดประชัน

“นี่ ขอบคุณดีๆน่ะเป็นไหม คุณหนึ่งอุตสาห์มาดูแกน่ะ”

“ไม่เป็นไรคับ” แล้วก็ยักคิ้วข้างหนึ่งใส่ร่างบาง แบบว่าเด็กน้อยเอ๋ย เมื่อคืนเห็นอะไรต่อมิอะไรหมดแล้ว
ยิ่ง ทำให้ร่างบางทั้งโกรธทั้งอาย ก็พี่สาวตัวเองเคยเข้าข้างที่ไหนล่ะ เพราะทำอะไรชายหนุ่มไม่ได้ก็เลยเดินเข้าห้องน้ำ เพื่อชำระร่างกายเพราะเมื่อวานไม่สบายได้แต่เช็ดตัว จึงทำให้บางจุดมีกลิ่นอับบ้างและไม่ยากเจอหน้าตาของตาเฒ่าหื่นกามนั้นด้วย

“เฮ้อ เวลาโกรธก็น่ารักไปอีกแบบ” ชายหนุ่มรำพึงรำพันกับตัวเอง

“แล้ววันนี้คุณไม่มุระที่ไหนหรือค่ะ งั้นเดี๋ยวทานอาหารเช้าด้วยกัน พอดีทำข้าวต้มไว้ให้เจ้าตัวดีน่ะค่ะ”

“อืม ไม่เป็นไรคับ เดี๋ยวต้องเข้าสวน ไปดูความเรียบร้อยของคนงานก่อน งั้นเป็นอาหารกลาวันแล้วกันคับ” เมื่อนัดแนะเสร็จเรียบร้อยชายหนุ่มก็ขอตัวไปทำงานที่สวนก่อน แล้วพี่สาวของร่างบางเตรียมข้าวต้มไว้รอที่โต๊ะอาหาร โดยไม่รู้ว่าเจ้าตัวดีที่หญิงสาวพูดถึงนั้นได้ยินหมดแล้ว

“ฮึ!! งั้นคงต้องหาอะไรสนุกๆทำหน่อยแล้ว” แล้วก็วาดฝันโครงการการแก้แค้นชายหนุ่ม (จะเป็นจิงรึป่าวก็ไม่รู้) กำลังคิดไรเพลินๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาขัดจังหวะการคิดแผนการแก้แค้นไปชั่วขณะ

“ฮัลโหลคับบบบบ” ทำเสียงน่ารักเล็กน้อยเพราะนึกว่าแม่โทรมา โดยไม่ดูโทรศัพท์เลยว่าเป็นเบอร์ของใคร

“ฮึ!!!!!! มาเที่ยวแล้วไม่ยอมบอกเราเลยนะนุ่ม” น้ำเสียงปลายทางตัดพ้อเล็กน้อย

“อ้าว นึกว่าแม่ ใหญ่หรอ พอดีพี่นัทเค้าเอาเรามาอยู่เป็นเพื่อนนะเลยไม่ได้บอกนาย แหมมาเที่ยวแค่ 3 อาทิตย์เอง พอใกล้เปิดเทอมค่อยกลับก็ได้” พูดไปอย่างไม่คิดว่าปลายทางใกล้มาถึงหน้าโรงเรียนแล้ว

“งั้นนุ่มทำไรอยู่อ่ะ”

“อาบน้ำเพิ่งเสร็จ แต่งตัวอยู่มีไรอีกป่ะ”

“มี งั้นอีก 10 นาทีโทรไป” แล้วก้วางไปสายไปเลย

“สงสัยคงงอนอีกล่ะมั้ง” บ่นกับตัวเองได้ไม่เท่าไหร่ก็มีเสียงรถมาบีบแตรหน้าบ้าน

“ค้า............”แล้วพี่สาวร่างบางก็ลงมาเปิดประตูหน้าบ้านพักครู

“อ้าว ใหญ่มาถูกเหรอเนี่ย นึกว่าจะหลงทางซะแล้วเก่งจัง มา ขึ้นมาก่อน เจ้านุ่มอาบน้ำอยู่ข้างบนน่ะ”

เมื่อ จอดรถได้เรียบร้อยแล้ว ก้เอากระเป๋าเสื้อผ้าและของกิน แต่ที่พี่สาวร่างบางสังเกตเห็นมันไม่ใช่อะไรเลยนอกจากของโปรดของน้องชายตัว เอง ชอคโกแลต! อืมเจ้าใหญ่นี่น่าจะยังไมรู้ใจตัวเองว่าชอบเพื่อน สงสัยคราวนี้เกิดชิงนายแน่ แค่คิดก็สนุกแล้ว (โฮะๆๆๆๆๆ เป็นเสียงที่หัวเราะที่สะใจซะจิง)
“ใครมาเจ็”

“มาดูเองสิย่ะ”

“เฮ้ย!!! มาได้ไงอ่ะ แล้วนี่ขับรถมาคนเดี่ยวหรอ” แล้วก็มองไปทางเพื่อนรักที่ยิ้มหวานยืนรอที่ห้องรับแขก

“ก้อยู่บ้านไม่มีไรทำเหมือนกัน เลยมาหานุ่มไง” ทิ้งสัมภาระทุกอย่างแล้วเดินเข้าไปกอดร่างบางให้หายคิดถึง

“นี่ เบาๆหน่อยหายใจไม่ออก” แล้วร่างบางก็ดันเพื่อนตัวโต เพื่อจะได้หายใจสะดวก

“แหม เวอร์ไปป่าวจ๊ะ ไม่เจอแค่ 3 วันเนื่ยนะ” อดไม่ได้ที่จะแซวเพื่อนร่างบาง ทำให้เด็กตัวโตยืนอายม้วนต้วนต่อหน้าร่างบาง แล้วทั้ง 3 ก้คุยกันไปเรื่อยเปื่อยตรงโต๊ะอาหาร

ใหญ่ เพื่อนซี้ร่างบาง ตัวใหญ่สมชื่อ สูง 185 เป็นนักกีฬาว่ายน้ำของมหาลัย..... หล่อคมเข้ม แต่มีใจดวงเดียวที่แอบรักร่างบางมาตั้งนานแล้วแต่ยังไม่รู้ใจตัวเองเท่าไหร่ รู้จักกันตอนที่ใหญ่เพิ่งมาเรียนที่โรงเรียนเดียวกันกับร่างบางตอน ม.1 แต่ว่าย้ายเข้ามาตอนเทอม 2 ครั้งแรกที่เห็นก้อยากรู้จักร่างบางทันที เพราะร่างบางเป็นคนที่ตัวเล็กแต่สะดุดตรงหน้าตาร่างบาง ปากนิด จมูกหน่อย จึงเป็นคนที่เข้าไปทักทายก่อน อย่างสุภาพ เพราะส่วนใหญ่ผู้ชายที่โรงเรียนชอบล้อว่าเป็นตุ๊ด จิงทำให้ร่างบางรู้สึกดีกับไมตรีจิตรนั้น ด้วยความเป็นเด็กที่ตัวใหญ่จิงไม่มีใครกล้ารังแกร่างบางอีก เพราะมีใหญ่คอยเป็นบอดี้การ์ดให้ตลอดจนจบ ม.6

พอเข้ามหาลับก็ไป เรียนคณะเดียวกัน เพราะความเป็นห่วง ตั้งแต่วันที่ไปสอบ วันคัดตัว วันมอบตัว ใหญ่จะทำตัวเป็นหมาหวงก้างตลอด คอยกันไม่ให้ใครเข้ามาจีบร่างบาง จึงเหมือนพี่ชายหวงน้องชาย แล้วร่างบางนั้นจะรู้ไหมว่าหนุ่มน้อยคนนี้ก้รักร่างบางมาตลอด 6 ปีเต็ม

“จะกลับเมื่อไรอ่ะ” พูดไปก็เคี้ยวชอคโกแลตไป

“โห ใจคอจะให้กลับเลยเหรอมายังไม่ถึง 2 ชั่วโมง” แล้วหนุ่มน้อยร่างใหญ่ก้ทำหน้างอ น้อยอกน้อยใจกับเพื่อนรักของตัวเอง

“ป่าว กลัวใหญ่กับก่อนต่างหากไม่อยากกลับคนเดียว ยังไงก็มีคนขับรถกลับอยู่แล้วนิ”

zantiga โพสต์ 2010-9-5 19:53:24

“ฮึ เห็นเราเป็นแค่คนขับรถอ่ะดิ” พูดจบก็เข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างบางจนตัวลอย

“ฮ่าๆๆๆ หยุด ฮ่าๆๆๆๆ ยอมแล้ว” ตอนนี้ร่างบางโดนจี๋เอวไปด้วย

“งั้นใหญ่ขออะไรต้องยอมนะ” ตอนนี้ไม่จี๋เอวร่างบางแล้ว แต่ยังคงยกตัวร่างบางอยู่ในอกของตัวเอง

“จะเอาไรอีกล่ะ แล้วเวลาขออะไรเคยขัดใจใหญ่ป่ะล่ะ” แล้วก็ดิ้นยุกยิกๆอยู่อย่างนั้น(ก็มันกลัวตกนิ)

“งั้น เปิดเทอมหน้า นุ่มต้องมาร้องนำให้วงดนตรีใหญ่ด้วย ขอมานานแล้ว งั้นคราวนี้ห้ามปฏิเสธ” แล้วก็ปล่อยร่างบางเป็นอิสระ

ร่างบางอ้าปากค้างตาโต อุตสาห์หนีมาได้ตั้ง 1 เทอมคราวนี้ต้องยอมเป็นนักร้องนำของวง

“เปิดเทอมค่อยว่ากันอีกทีได้ป่ะ นะๆๆ” แล้วก็เอาหัวถูๆไถๆไปตรงหัวไหล่ของหนุ่มน้อยร่างใหญ่(ก็ความสูงมีแค่นั้นนี่)

“ไม่ ได้ ต้องรับปากเดี๋ยวนี้ ห้ามเบี้ยวไม่งั้น.........” แล้วก็เทชอคโกแลตออกมาจากกระเป๋า ถ้าจะถามว่าเยอะไหม งั้นขอบอกว่าเยอะมากกกกกกกกก

“ไม่งั้นอดกิน ว่าไง ตกลงได้ยัง” แล้วก็ยักคิ้วอย่างผู้ชนะ เพราะตอนนี้ร่างบางไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว เพราะกำลังนั่งเลือกว่ารสนี้ ยี่ห้อนี้ ไว้กินวันไหน ถ้าไม่หมดเอากลับไปจะละลายระหว่างรึป่าว ตอนนี้ใครขอไรได้หมดแหละ

เมื่อ หนุ่มน้อยขอให้ร่างบางเป็นนักร้องนำอีกรอบ ก็หยักหน้าหงึกๆ เพราะชอคโกแชตรึทซึ่ม เมื่อหนุ่มน้อยได้คำตอบจากร่างบางแล้วจึงขอตัวไปอาบน้ำบ้าง เพราะนี่ใกล้เที่ยงขับรถมาแต่เช้ายังไม่กินไรเลย หิว!!

หญิงสาวเห็น ว่าในห้องเงียบไป จึงขึ้นไปดูว่า 2 หนุ่มตอนนี้ทำอะไรกัน แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็ อึ้ง! กับกองชอคโกแลต เพราะว่ามันเอยะมากกกกกกกก ต้องเป็นเจ้าใหญ่แน่ๆ ไม่รู้ว่าจะหลอกอะไรเจ้านุ่มอีก แต่ว่าตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้วจึงต้องหาคนมาช่วยทำกับข้าว ก็ไอ้เด็กตรงหน้านี่ล่ะ

“นี่! แกจะนอนกอดชอคโดแลตรึไง มาช่วยฉันทำกับข้าวเดี๋ยวนี้นะ” แล้วก็ลากร่างบางออกมาจากกองชอคโกแลต

“เจ๊ อ่ะขอกินชอคโกแลตก่อนได้ป่าว” แล้วก็ทำหน้าตาอ้อนเล็กน้อย เผื่อจะสมหวัง

“ฮึไม่ได้ ต้องช่วยกันทำกับข้าวก่อน วันนี้จะมีแขกมาเพิ่มอีคน เข้าใจ๋” แล้วก้ทำเสียงสูงเหมือนเป็นการห้ามขัดคำสั่ง

“เช อะ! ก็ได้ เออ แล้วใครมาอีกล่ะเจ๊ วุ่นวายจัง ต้องทำเยอะป่าวเมื่อยนะร้อนด้วย” ร่างบางบ่นไปงั้นแหละ แต่ก็ไปช่วยพี่สาวตัวเองอยู่ดี

“อ้าว ไอ้น้องคนนี้นี่ ลืมคนที่มีพระคุณอย่างคุณหนึ่งได้ไงย่ะ เดี๋ยวตอนกลางวันเค้าจะมากินข้าวด้วย แกนะโชว์ฝีมือทอดไข่เจียวด้วย ฟังเสร็จแล้วก็ปฏิบัติด้วย จะเที่ยงแล้ว”

“หา ตาเฒ่า เฮ้ย คุณหนึ่งเนี่ยนะจะมาอีกเหรอ เค้าว่างมากเลยหรอเจ๊ หรือว่าข้าวที่บ้านปลูกไม่ทันต้องมากินข้าวที่บ้านเรา” พูดไปก็ทำท่ากระฟัดกระเฟียดไป เพราะไม่อยากเจอหน้า (ก็เรื่องเมื่อเช้าที่โดนหอมแก้มยังไงล่ะ สงสัยจะฝังใจ)

“จะช่วยไหม ถ้าไม่ช่วยก็ไปหากินเอง ขี้บ่นจิง”

“โห ไรอ่ะ ทำก็ได้ แล้ววันนี้มีไรกินบ้างอ่ะ”

“อืมจะทำ ดอกดินผัดซี่โกรงหมู แกงส้มอีรอก แล้วก็ไข่เจียวฝีมือแก โอเคป่ะ”

“น่ากินนี่เจ๊” แล้วทั้ง 2 ก็ลงมือทำกับข้าวกันอย่างเมามัน (ทำกับข้าวเนี่ยนะ)

ตอน นี้ก็เที่ยงนิดๆ กลิ่นกับข้าวหอมฉุย พร้อมข้าวสวยร้อนๆ นำมาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวใต้บ้านพักครู บริเวณรอบๆ บ้านพักครูนัทนั้น มีต้นไม้ล้อมรอบทั้ง 4 ด้านทำให้ไม่ร้อนเวลากลางวัน ส่วนเวลากลางคืนนั้นก็จะเย็น ส่วนใต้ถุนก็ยกสูง ไว้สำหรับจอดรถหรือเอาไว้เป็นที่นั่งพักผ่อนยามเที่ยงเวลาแดดร้อน

“อืมหอมจัง” เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลังร่างบาง

“เก่งเนอะ ได้กลิ่นก็มาไวเชียว” พูดจบก็รีบไปหลบข้างหลังพี่สาวตัวเอง (ไม่แน่จิงนิ)

“แหม ชมพี่ซะเหมือนเจ้าแดง(หมาที่บ้านอ่ะ)ที่บ้านเลย สงสัยคงหายดีแล้วมั้ง พูดได้ขนาดนี้นี่” ชายหนุ่มมองไปที่ร่างบางซึ่งตอนนี้ไม่กล้ามองหน้าเค้าเท่าไหร่นัก (กลัวไรหว่า)

พี่สาวร่างบางเห็นดังนั้นจึงต้องเข้าไปห้ามทับเพราะวันนี้ยังต้องเกิดสงครามย่อยๆกลางบ้านแน่

“งั้น คุณหนึ่งนั่งตรงนั้นนะค่ะ เดี๋ยวนัทไปเอาน้ำมาให้”

ตอน นี้เหลือแต่ร่างบางกับชายหนุ่ม อยู่ตรงโต๊ะกินข้าว ทั้ง 2 มัวแต่นั่งเงียบยังไม่มีใครเอ่ยคำพูดใด (ก็เรื่องเมื่อเช้าน่ะ) เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายต่างอึดอัด ชายหนุ่มกำลังจะพูดเพื่อทำลายความเงียบก็มีอีกบุคคลซึ่งตอนนี้ยืนมองชาย หนุ่มไม่วางตา

“ใคร? อ่ะนุ่ม” แล้วก็มองมาที่ชายหนุ่มแบบไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

“เป็นคนพื้นที่ที่นี่ ชื่อคุณหนึ่ง” ตอบแบบไม่ใส่ใจมากนัก

“หวัดดีคับ น้องเป็นเพื่อนกับนุ่มรือคับ” ชายหนุ่มหันไปพูดกับหนุ่มน้อยเพื่อผูกไมตรีจิตร แต่ท่าทีได้กลับมาดูเหมือนจะไม่ชอบใจเท่าไร

“อ้าว ลงมาแล้วเหรอใหญ่ นี่คุณหนึ่งนะ รู้จักกันยังล่ะ” หนุ่มน้อยพยักหน้าให้กับพี่สาวร่างบางว่า รู้จักแล้ว แต่ที่ไม่อยากรู้จัก เพราะความรู้สึกมันฟ้องว่าคนนี้จะมาแย่งร่างบางจากเค้าไป

สงครามใกล้ประทุแล้ว สงสัยเจ้าใหญ่จะแย่หรือน้องฉันนะ ฮิๆๆๆ (ช่างเป็นพี่ที่แปลกจิงๆๆ)

“อืม งั้นทานกันเลยละกัน เดี๋ยวกับข้าวเย็นหมดจะไม่อร่อยนะ”

“พี่นัทรู้จักกับคุณหนึ่งนานแล้วหรือคับ” เพื่อเป็นการตรวจสอบฝ่ายตรงข้ามจึงต้องถามข้อมูลศัตรูหัวใจก่อน

“อ๋อ ตอนที่พี่มาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ก็ได้คุณหนึ่งนี่แหละช่วยเรื่องที่พัก และก็เรื่องรถเวลาเดินทางไปไหนมาไหนด้วยนะ” ชายหนุ่มยังคงไม่ได้โต้ตอบอะไรกับหนุ่มน้อย ที่ตอนนี้คอยทำตัวเหมือนหมาหวงก้าง ร่างบางกินข้าวก็ตักแกงให้ กินไข่ก็ตักให้ (หมั่นไส้เหลือเกิน) ส่วนร่างบางที่เป็นตัวต้นเหตุก็ก้มหน้าก้มตากินอย่างไม่รู้เรื่องอะไร เล้ยยยย

“แล้วเมื่อวานที่เจ้านุ่มไม่สบายก็ได้คุณหนึ่งนี่แหละช่วย นอนเฝ้าไข้ทั้งคืน ทั้งเช็ดตัว ป้อนยา......”ยังไม่ทันพูดไรก็โดนสวนขึ้นมาทันควัน

“ว่าไงนะคับ?” แล้วก็หันไปมองหน้าร่างบางกับชายหนุ่มอย่างไม่เชื่อสายตา

“ใช่แล้วคับน้อง เมือวานพี่เป็นคนดูแลนุ่มเอง ใชไหมจ๊ะ” แล้วก็ทิ้งระเบิดไว้กับร่างบางซึ่งตอนนี้ยังตั้งใจกินเหมือนเดิม
ข้าว ยังไม่ทันเข้าปากก็ต้องมีอันชะงักไว้กลางคัน เพราะตอนนี้หนุ่มน้อย ต้องการคำตอบจากร่างบางว่าที่ชายหนุ่มพูดออกมานั้นเป็นความจิงรึป่าว

“อืม กำลังอร่อยเลย”

“เมื่อกี่ที่พี่นัทพูดเป็นความจิงป่าว”

“ก็ พี่นัทไม่ว่าง ให้คุณหนึ่งมาดูแลแทนก็แค่นั้นเอง” แล้วก็พยายามแย่งช้อนกลับมาเพื่อจะกินต่อ (ที่จิงมันมีอะไรมากกว่านั้นถ้าใหญ่รู้เรื่องวงแตกแน่ไม่บอกดีกว่า)

ตอนนี้ทั้ง 2 หนุ่มก็ประจันหน้ากัน อีกคนยิ้มเยาะ ส่วนอีกคนก็หน้าดำหน้าแดง

“แล้วน้องใหญ่เกี่ยวข้องกับคนในบ้านนี้ยังไงคับ” ชายหนุ่มเอาคืนบ้างหลังจากโดนซักถามมาระยะหนึ่งแล้ว

“ผมรู้จักครอบครัวนี้มานานแล้วคับ ไม่ใช่เพิ่งรู้จักแบบฉาบฉวย”

เมื่อเห็นท่าไม่ดีนัทจึงยุติสงครามย่อยๆ ชั่วคราว (ใจจิงไม่อยากหรอกกำลังมัน)

“เอ่อ วันนี้ต้องพาพี่กับจ้านุ่มไปซื้อของที่ตัวอำเภอไม่ใช่หรอ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วไปกัน”

“อ้าว ครูนัทจะไปซื้อของหรอคับ ใช้รถที่บ้านผมก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจ”

“ไม่เป็นไรคับผมขับรถมาเอง ทางนี้ผมสะดวกมากกว่า เชิญคุณหนึ่งไปทำธุระก่อนก็ได้”

“หืม ไล่กันทางอ้อมป่าวเนี่ย งั้นผมขอตัวก่อนก็ได้ ไปนะคับครูนัท งั้นตอนเย็นจะมาฝากท้องอีก” แล้วก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข แต่หนุ่มน้อยเพื่อนร่างบางเหมือนมีเซนต์อะไรบางอย่าง เกี่ยวกับชายหนุ่มคนนี้ ว่าต้องเป็นคู่แข่งหัวใจกับตนแน่นอน

2 หนุ่มมัวแต่เถียงกัน ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ร่างบางกำลังสับสนกับการกระทำของเพื่อนรักตัวเองและชาย หนุ่มที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของตนเองทีละน้อยๆ

“ทำไมนุ่มปล่อยให้เค้าเข้ามาในห้องได้ไง” หนุ่มน้อยยังคงไม่พอใจกับเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อกี้

“ก็จะไปรู้ได้ไง พี่นัทเค้าเป็นคนอนุญาตเองนิ”

“พี่นัท! คับ ทำไม่ปล่อยให้นุ่มอยู่กับคนแบบนั้นได้ไง ไม่น่าไว้ใจเลยนะคับ”

“อ้าว!! พาลกันรึป่าวจ๊ะ พี่แค่เห็นว่าเค้าอยากจะช่วยเหลือจิงๆ ไม่เห็นว่าคุณหนึ่งเค้าคิดเป็นอื่น อันนี้พี่ไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไร แต่ใหญ่คิดอะไรอยู่รึป่าวถึงว่าคุณหนึ่งเสียๆหายๆแบบนี้ เอ? หรือว่าหึงจ๊ะ” แล้วก็หัวเราะออกมาที่ได้แหย่คนเดียวแต่ชิ่งไปโดนอีกคน (สะใจ)

หนุ่ม น้อยเถียงไม่ออกเพราะมันคือความจิง คามจิงที่ไม่กล้าบอก กลัวเสียเพื่อน กลัวตัวเองเสียใจ ถ้านุ่มปฏิเสธ จึงไม่สามารถทำอะไรไปได้มากกว่านี้ ได้เก็บความรู้สึกนั้นไว้ภายในใจคนเดียว

ส่วนร่างบาง ถึงแม้จะอยู่กับใหญ่มาตั้งแต่เด็ก มีความผูกพันอยู่ไม่น้อยแต่เป็นแบบพี่น้องมากกว่า แต่คนที่ทำให้ร่างบางใจเต้นตลอดเวลากลับเป็นชายหนุ่มไม่ว่าจะพูดแหย่ หรือสายตาที่มองมาแบบนั้น มันคืออะไรกันแน่นะ แต่ก็ช่างมันคิดไปปวดหัว แล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ

หลังจากนั้น ทั้ง 3 ก็ช่วยกันเก็บจากชามไปล้าง เพราะวันนี้มีโปรแกรมไปเที่ยวกันตอนบ่าย ก็มีรถของใหญ่มาแล้วนี่ คนขับก็พร้อม

“เจ๊ อยากไปห้วยซองกาเลีย เห็นมีคนบอกว่าสวยน้ำตื้นด้วย แต่ถ้าจะให้ดีนอนค้างซักคืน นะๆๆๆๆ” ร่างบางเสนอความคิดเห็นทันที

“เอ๊ะ อีกแหละ ฉันไม่ได้พิมพ์แบงค์ใช้เองนะย่ะ ไปกลับนั่นแหละแค่นี้ก็เปลืองค่าน้ำมันแล้ว”

“ไม่ เป็นไรคับ เดี๋ยวผมออกค่าห้องที่พักเอง ส่วนค่าน้ำมันก็ไม่ต้องงานนี้ผมเลี้ยง” อย่างน้อยงานนี้ไม่ได้ไปกับร่างบาง 2 ต่อ 2 ก็ขอทำคะแนนเอาใจญาติผู้ใหญ่ก่อนละกัน

“ฮืม อีกแหละงั้นพี่ก็ไม่เกรงใจนะ ป่ะงั้นไปเตรียมตัวได้เลย”

แล้วทั้ง 3 ก็แยกย้ายไปเก็บเสื้อผ้า

Ohm2521 โพสต์ 2010-9-24 03:01:11

ขอบคุณ คับ

beew2 โพสต์ 2010-10-10 12:43:10

ขออ่านนะครับ ขอบคุณครับ

arzugima โพสต์ 2010-10-13 01:04:59

ชอบๆ หนุกดี

beew2 โพสต์ 2010-10-19 21:53:11

ชอบมากครับ น่ารักดี

asdfg โพสต์ 2010-11-28 14:35:27

ขอบคุนมากนะคับ

gee โพสต์ 2010-12-1 16:40:54

love to read the story badlyyyyyyyyyyyyy

oath11 โพสต์ 2010-12-8 13:56:54

อยากอ่านคับบบบบบบบ

rubthai โพสต์ 2010-12-14 15:44:53

ค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

tong_2528 โพสต์ 2010-12-16 21:53:12

ดีมากมายอ่ะคับบบบบบบบบบบบบ

nako โพสต์ 2010-12-19 22:29:26

อยากอ่านแล้วครับ

koh โพสต์ 2010-12-20 16:35:07

อ้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

mario401 โพสต์ 2010-12-23 10:18:44

ขอบคุณคับผมที่แบ่งปัน

JEM โพสต์ 2010-12-26 09:58:10

ขอบคุณครับ

JEM โพสต์ 2010-12-26 13:53:17

ขอบคุณครับ

JEM โพสต์ 2010-12-26 13:55:56

กลับมาเขียนต่อน๊ะครับ

mario401 โพสต์ 2011-1-2 09:10:18

ขอบคุณคับที่แบ่งปัน
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8
ดูในรูปแบบกติ: สังขละบุรีที่รัก