พิพิธภัณฑ์ตำหนักปลายเนิน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย moo2010 เมื่อ 2012-8-6 19:45http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/8/84/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C_%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%99.jpg/300px-%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C_%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%99.jpghttp://bits.wikimedia.org/static-1.20wmf6/skins/common/images/magnify-clip.png
พิพิธภัณฑ์ ตำหนักปลายเนิน
พิพิธภัณฑ์ ตำหนักปลายเนิน ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 4 กรุงเทพฯ แต่เดิมเป็นพระตำหนักที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงใช้เป็นที่ประทับชั่วคราวในเบื้องแรกและทรงเป็นที่ประทับถาวรในเวลาต่อมา ปัจจุบันตำหนักปลายเนินนี้ได้ใช้เป็นสถานที่จัดงานวันนริศฯ โดยมูลนิธิสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ซึ่งจัดเป็นประจำในวันที่ 28 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จฯ กรมพระยานริศฯ และเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าชมได้ในวันที่ 29 เมษายน ของทุกปี ในเวลาราชการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
[แก้] ประวัติสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงโปรดให้ซื้อเรือนไทยอย่างโบราณเพื่อสร้างเป็นพระตำหนักที่ประทับ ก่อสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2457 โดยมีพระประสงค์จะให้เสร็จโดยเร็วและไม่สิ้นเปลือง เนื่องจากมักทรงพระประชวรเมื่อประทับที่วังท่าพระ ข้างพระบรมมหาราชวัง และมีพระดำริจะมาประทับนอกเมืองเป็นครั้งคราว จนกระทั่งเข้าช่วงปลายของพระองค์ พระตำหนักนี้จึงเป็นที่ประทับโดยถาวรไป ส่วนวังท่าพระนั้น จะเสด็จไปประทับเฉพาะช่วงหน้าหนาวหรือช่วงที่มีงานพระราชพิธีเท่านั้น สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงเสด็จประทับ อยู่ ณ วังที่ตำบลคลองเตยจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ลงในปีพ.ศ. 2490 วังนี้จึงตกแก่ทายาทในราชสกุลจิตรพงศ์นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยปัจจุบันเป็นที่ประทับของ หม่อมเจ้ากรณิกา จิตรพงศ์ อนึ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จะทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเพื่อทรงดนตรีไทยร่วมกับหม่อมเจ้าหญิงกรณิกา จิตรพงศ์ และศิลปินอาวุโสจากกรมศิลปากรอยู่เป็นประจำ
เมื่อแรกตัวพระตำหนักสร้างมุงหลังคาจากทุกหลัง บางหลังฝาทำด้วยแผงไม้ไผ่สานมีไม้ประกับเป็นกรอบค้ำเปิดขึ้นได้ทั้งฝา ต่อมาได้เปลี่ยนใช้กระเบื้องไม้สักมุงหลังคาแทน เพราะต้องเปลี่ยนใหม่ทุก 2 - 3 ปี ส่วนฝาเปลี่ยนเป็นฝาไม้มีหน้าต่างกว้าง เนื่องจากไม่สะดวกในฤดูฝน ซึ่งยุคนั้นไม่มีใครเคยทำ
ปัจจุบันวังปลายเนินยังเป็นที่ประทับ และที่อยู่อาศัยของทายาทในราชสกุลจิตรพงศ์อยู่ โดยมีอาคารอื่นอีก เช่น
[*]ตำหนักตึก ซึ่งเป็นที่ประทับ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ เมือช่วงสุดท้ายของพระชนม์ชีพ
[*]ตำหนักประเสบัน เป็นเรือนไม้ยกพื้นสูงทรงยุโรปที่ประทับของ หม่อมเจ้าเจริญใจ จิตรพงศ์ ต่อมารื้อลงเป็นเรือน 2ชั้น 2 หลัง
[*]เรือนไม้ริมบ่อ -ศาลาริมน้ำ สมัยที่ยังมีคลองหน้าวัง ปัจจุบันรื้อย้ายมาปลูกกลางสวนเป็นศาลาทรงไทย
[*]ตำหนัก หม่อมเจ้าเพลารถ จิตรพงศ์
และ เรือนอื่นๆซึ่งทยอยสร้างขึ้นทีหลัง เช่น บ้านหม่อมราชวงศ์จักรรถ จิตรพงศ์ เป็นต้น
[แก้] ลักษณะอาคารเป็นเรือนไทย 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นใต้ถุนสูงยกพื้นโล่ง มีโครงสรางเสาชั้นล่างเป็นเสาปูน ส่วนตัวเรือนเป็นเรือนไม้ทั้งหมด หลังคาจั่วปีกนก มุงด้วยกระเบื้องดินเผา เป็นลักษณะของเรือนไทยประเพณีทั้งหลัง มีการวางผังต่างไปจากเรือนไทยโบราณทั่วไป คือยืนตามตะวันทุกหลัง และวางเหลื่อมเยื้องกันเพื่อรับลมและเลี่ยงการรับแดดแทนการวางเรือนล้อมรอบนอกชาน
ขอขอบคุณมากๆ นะ ครับ{:5_136:}{:5_136:}{:5_136:}{:5_136:} ขอบคุณมากครับผม
หน้า:
[1]