เอดส์ติดต่ออย่างไร
1. โรคเอดส์ติดต่อกันได้ทางใด การติดเชื้อเอดส์โดยหลักใหญ่ๆ มีเพียง2ทางนั้นคือ 1.ทางเพศสัมพันธ์ซึ่งอาจเป็นการรักร่วมเพศหรือรักต่างเพศ 2.ทางเลือดเช่นการใช้เข็มฉีดยากระบอกฉีดยาที่ไม่สะอาดร่วมกัน การมีบาดแผลแล้วไปสัมผัสกับเลือดหรือน้ำเหลืองของคนไข้ที่มีเชื้อเอดส์อยู่ เช่น การใช้ของมีคม มีดโกน เข็มสักผิวหนังเข็มเจาะหูร่วมกันเป็นต้นและมารดาที่มีเชื้อเอดส์ก็สามารถถ่ายทอดเชื้อเอดส์ไปสู่ทารกในครรภ์ได้2. โรคเอดส์ติดต่อโดยวิธีใดได้บ้าง นอกจากจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์และทางเลือดแล้ว ยังสามารถติดต่อทางอื่นได้อีกแต่ต้องมีปัจจัยทางอื่นประกอบด้วยเช่น- ร้านเสริมสวยและการศัลยกรรมตกแต่งซึ่งกระทำโดยที่มิได้ทำความสะอาดเครื่องมือก่อนนำไปใช้ ต่อเช่นมีดโกนกรรไกรตัดเล็บการเจาะหูการสักยันต์การเสริมจมูกฯลฯ- การผ่าตัดเปลี่ยนเนื้อเยื่อและอวัยวะเช่นการผ่าตัดเปลี่ยนไตปลูกถ่ายไขกระดูกฯลฯโดยมิได้ตรวจหาเชื้อเอดส์เสียก่อน- การผสมเทียมที่ใช้อาสุจิจากผู้มาบริจาคโดยมิได้ตรวจหาเชื้อเอดส์เสียก่อน- การชกต่อยแล้วมีเลือดออกโดยที่เลือดของผู้มีเชื้อเอดส์ไปถูกกับบาดแผลหรือเยื่อบุนัยน์ตาของฝ่ายตรงข้าม- การเลี้ยงนมบุตรด้วยน้ำนมของผู้อื่นหรือมารดาที่มีเชื้อเอดส์ วิธีต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นความจริงแล้วก็คือติดต่อโดยการสัมผัสกับน้ำอสุจิเลือดน้ำเหลืองและน้ำนมของผู้ติดเชื้อเอดส์ โดยตรงนั้นเอง และจะต้องมีบาดแผลและปริมาณเลือดหรือน้ำเหลืองที่เข้าในร่างกายมากพอสมควรจึงมีโอกาสติดได้3. เชื้อเอดส์เมื่ออยู่ในและนอกร่างกายคนเราแล้วจะมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไร เชื้อเอดส์เมื่อเข้าสู่ร่างกายคนจะมีชีวิตอยู่ตลอดไปจนผู้นั้นเสียชีวิตแต่เมื่อเชื้อเอดส์ออกมานอกร่างกายถึงแม้จะไม่ถูกกำจัดด้วยยาฆ่าเชื้อใด ๆก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน โดยเชื้อเอดส์จะค่อยๆ ตายไปจนหมดในไม่กี่ชั่วโมงหรือเป็นวันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมภายนอก หากถูกกับความร้อนความแห้งความเป็นกรด เป็นด่างแสงแดดเชื้อก็จะตายเร็วขึ้นแต่ถ้าอยู่ในอุณหภูมิและความชื้นพอเหมาะเช่นอยู่ในห้องแอร์เปิดติดต่อกันตลอดเวลา เชื้อก็อาจจะอยู่ได้เป็นวันแต่ต้องอยู่ในสภาพที่ยังเป็นของเหลวเช่นอยู่ในเลือดหรือในน้ำอสุจิแต่ถ้าแห้งแล้วเชื้อก็จะตายไป4. ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อเอดส์มีอะไรบ้าง ปัจจัยที่ทำให้ติดเชื้อได้แก่- ปริมาณไวรัส (virustitre) ขึ้นอยู่กับสิ่งที่สัมผัสว่ามีปริมาณไวรัสมากหรือน้อยปริมาณไวรัสจะมีมากที่สุดในเลือดรองลงมาได้แก่ น้ำอสุจิ น้ำจากช่องคลอดส่วนในน้ำลายน้ำตา น้ำนมและปัสสาวะ จะมีปริมาณน้อยมาก ดังนั้นถ้าไปสัมผัสเลือดน้ำอสุจิ และน้ำจากช่องคลอดจะมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าไปสัมผัสกับของเหลวอื่นๆ- การมีบาดแผล(TRAUMA)บริเวณที่มีแผลหรือรอยแตก หรือเยื่อบุในปากในตาเยื่อบุในช่องคลอดอาจมีแผลที่มองไม่เห็นต้องระวังอย่าให้เชื้อเอดส์เข้าตาปากหรือสัมผัสช่องคลอด- การติดเชื้ออื่นๆ(secondaryinfection)ได้แก่การเป็นกามโรคชนิดที่เป็นแผลจะทำให้เชื้อเอดส์เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายทำให้มีโอกาสติดได้มากขึ้น- พื้นผิวที่สัมผัสกับเชื้อ(epithelialreceptors) หมายถึงว่าเซลล์ที่ไปสัมผัสกับเชื้อจะต้องมีพื้นผิว(receptors)ที่สามารถรับเชื้อเข้าสู่เซลล์นั้นได้เช่นเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งมีพื้นผิวมากก็จะมีโอกาสติดมาก- ความบ่อยหรือถี่ของการสัมผัส(intensityofexposure)เช่นการมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกันกับผู้ติดเชื้อเอดส์- ระยะที่เข้าไปสัมผัสเชื้อ(phaseofinfection)หมายถึงระยะเวลาที่ไปสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ขณะที่ร่างกายเจ็บป่วยอ่อนแอจากโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆเช่นเป็นไข้หวัดอยู่จะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าผู้ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง5. พฤติกรรมอย่างไรที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ ทุกคนย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อเอดส์หากไม่รู้จักระวังป้องกัน แต่บางคนมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าผู้อื่นคนเหล่านี้ได้แก่- ผู้ที่มีคู่นอนหลายคนเพราะไม่สามารถทราบได้ว่าคู่นอนคนใดมีเชื้อเอดส์หรือไม่- ผู้ที่ติดเชื้อกามโรคและยังมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคู่นอนหลายคนทำให้เชื้อเอดส์เข้าทางบาดแผลจากกามโรคได้ง่ายกว่าปกติ- ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยา กระบอกฉีดยาที่ไม่สะอาดร่วมกับผู้อื่นจะติดเชื้อได้ถ้าเข็มหรือกระบอกฉีดยาเปื้อนเชื้อเอดส์มาก่อน6. การมีเพศสัมพันธ์กับกับผู้ติดเชื้อเอดส์ด้วยมือและสัมผัสน้ำคัดหลั่งจะมีโอกาสติดเชื้อเอดส์หรือไม่ การมีเพศสัมพันธ์ด้วยการใช้มือและสัมผัสน้ำคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อนั้นถ้ามือไม่มีบาดแผลอยู่ก็จะไม่มีอันตรายใดๆ แต่ถ้ามือมีบาดแผลแล้วไปสัมผัสกับน้ำคัดหลั่ง เช่นน้ำอสุจิ น้ำในช่องคลอดหรือเลือดของผู้ติดเชื้อเอดส์ก็มีโอกาสติดได้7. โรคเอดส์หรือเชื้อเอดส์ไม่ติดต่อทางใดบ้างนอกจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์และทางเลือดแล้วโรคเอดส์ไม่ ติดต่อโดยทางอื่นๆเช่นการใช้โทรศัพท์ร่วมกันการใช้ห้องน้ำร่วมกัน การใช้สระว่ายน้ำเดียวกัน การสัมผัสกันตามปกติและไม่แพร่เชื้อโดยยุงหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ8. การร่วมเพศทางทวารหนักจะมีโอกาสติดเชื้อเอดส์มากกว่าการร่วมเพศทางช่องคลอดมากน้อย เพียงใด โอกาสของการติดเชื้อจากการร่วมเพศทางทวารหนักและช่องคลอดนั้นปัจจุบันพบว่าการร่วมเพศทั้งสองอย่างมีโอกาสติดเชื้อเอดส์ได้พอๆกัน เพราะฉะนั้นถ้าหากจะมีกิจกรรมทางเพศควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งไม่ว่ากับชายหรือหญิงก็ตาม9. ถ้าคุณไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงจะไม่มีโอกาสติดเชื้อเอดส์ใช่หรือไม่ ไม่ใช่ถึงแม้ว่าท่านจะไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงก็ไม่อาจจะเป็นหลักประกนได้ว่าจะไม่ติดเชื้อเอดส์ฉะนั้นเราควรจะป้องกันตนเองไว้ก่อน โดยการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์และช่วยเผยแพร่ความรู้ให้คนรอบข้างรู้วิธีหลีกเลี่ยงการติดเชื้อเอดส์ด้วย
น่ากลัวครับ ตอบกระทู้ dawn ตั้งกระทู้
ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]