artza484 โพสต์ 2013-1-11 07:43:24

ผมเป็นคนไทยเชื้อสายจีนนะ แต่ไม่เคยหยุดวันตรุษจีนเลย ฮ่าๆๆ =___=

ttnn โพสต์ 2013-1-9 11:45:16

ขอบคุณที่มอบความรู้ใหม่ๆ

asoda123 โพสต์ 2013-1-8 06:02:47

ขอบคุณมากครับผมขอให้ร่ำรวยเงินทองยศศักดิ์

mind19mindPSU โพสต์ 2013-1-7 23:13:30

ขอบคุนนะครับ ความรู้เพียบเลย

benzene โพสต์ 2013-1-7 22:20:28

ขอบคุณมากครับ

dgb โพสต์ 2013-1-7 16:12:06

万事如意恭喜发财 (ว่านซื่อหรูอี้กงฉี่ฟาฉาย)
สวัสดีปีใหม่ขอให้ร่ำรวย สมปรารถนาทกประการ

Hide10 โพสต์ 2013-1-7 13:58:16

ขอบคุณมากจ้า {:5_135:}

puvanatchompat โพสต์ 2013-1-7 13:10:34

โพสล่วงหน้า ก็ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ {:5_146:}

newyearclub โพสต์ 2013-1-6 13:51:34

ขอบคุณมากนะครับ ที่ให้ความรู้ๆๆ

bankssk โพสต์ 2013-1-6 13:01:19

ต้นฉบับโพสต์โดย bankssk เมื่อ 2013-1-4 22:28 static/image/common/back.gif
ได้ความรู้ดีครับ

ขอบคุณนะครับ :$

bankssk โพสต์ 2013-1-6 13:01:05

ต้นฉบับโพสต์โดย bankssk เมื่อ 2013-1-4 22:28 static/image/common/back.gif
ได้ความรู้ดีครับ

ขอบคุณนะครับ :$

bankssk โพสต์ 2013-1-6 13:00:55

ต้นฉบับโพสต์โดย bankssk เมื่อ 2013-1-4 22:28 static/image/common/back.gif
ได้ความรู้ดีครับ

ขอบคุณนะครับ :$

nokky โพสต์ 2013-1-6 12:34:04

*****10 เมืองจีนน่าเที่ยวฉลองปีใหม่ - ตรุษจีน 2013****

เทศกาล “ไหว้ จ่าย เที่ยว” มาเลี้ยวๆ อยากมีเอี่ยวแกะซอง “อั่งเปา” อย่างชาวจีนเขาบ้าง “แต๊ะเอีย” ใครหนัก ก็จัดหนักกันไป อยากอิน“ตรุษจีน” ไกลถึงประเทศบ้านเกิดก็ไม่ควรพลาดสถานที่ 10 แห่งนี้...

1. “The Forbidden City”หรือนครต้องห้าม ตั้งอยู่ใจกลางของกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน และอยู่ทางตอนเหนือของจตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังแห่งนี้ เป็นเขตหวงห้ามไม่ไห้ประชาชนเข้า แม้แต่ข้าราชการชั้นสูง ยังต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ จึงเรียกพระราชวังนี้ว่า“พระราชวังต้องห้าม” จักรพรรดิจะทรงประทับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ กั้นพระองค์จากโลกภายนอก โดยมีสนมกำนัล ขันที และข้าหลวงรับใช้ ซึ่งคนเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่ในนครต้องห้ามตลอดชีวิต

2. “The Great Wall” หรือ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ“กำแพงเมืองจีน” บ้างก็เรียกว่า“กำแพงหมื่นลี้” เพราะมีความยาวถึง 6,350 กิโลเมตร กำแพงเมืองจีนสร้างเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกในประวัติศาสตร์จีน จุดประสงค์ก็เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ โดยมีการก่อสร้างเพิ่มเติมโดยฮ่องเต้องค์ต่อมาอีกหลายพระองค์ จนสำเร็จในที่สุด และนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางด้วย

3. “The Terracotta Warriors” หรือ “สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้” สุสานของจอมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฉิน เป็นสุสานที่เต็มไปด้วยหุ่นดินเผาของทหารและม้านับหมื่น เล่ากันว่า“จิ๋นซีฮ่องเต้” มีพระบัญชาให้สร้างมหาสุสานเพื่อเป็นที่พักผ่อนชั่วนิรันดร์ โดยใช้ช่างฝีมือและคนงานกว่าเจ็ดแสนคนปั้นหุ่นทหารจากแบบที่เป็นคนจริง เมื่อปั้นเสร็จคนที่เป็นแบบจะถูกสังหารให้วิญญาณมาสถิตในหุ่นเพื่อพิทักษ์สุสาน ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครพบที่ฝังพระศพของจิ๋นซีฮ่องเต้ และที่นี่ก็กลายมาเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ตะลึงกันทั่วโลก

4. “Karst Mountains” ในเมืองหยางโจว เป็นภูเขาที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก ตั้งอยู่ที่มณฑลกวางซีซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีน ทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของที่นี่คือการมองจากหยางโจว เขตเทศบาลเล็กๆ บริเวณชานเมือง“กุ้ยหลิน” ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลกวางซี

5.“หางโจว” (Hangzhou) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน เป็นสวรรค์บนดินที่ล้อมรอบด้วย“ทะเลสาบซีหู” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด

6. หุบเขา“จิ่วจ้ายโกว” (Jiuzhaigou) เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีทะเลสาบที่สวยมหัศจรรย์เหลือจะบรรยาย ยิ่งในฤดูใบไม้ร่วง สีเหลืองของใบไม้สะท้อนผ่านสีเขียวของผืนน้ำ เกิดเป็นภาพที่สะกดทุกสายตา จนในปี พ.ศ. 2535 องค์การยูเนสโกได้ประกาศพื้นที่นี้ให้เป็นมรดกโลก และเป็น World Biosphere Reserve ใน พ.ศ. 2540

7. “พระราชวังโปตาลา” ตั้งอยู่ที่กรุงลาซา เขตปกครองตนเองทิเบต ประเทศจีน ปราสาทนี้ถูกสร้างในลักษณะของวังซ้อนวัง พระราชวังวงนอกเรียกว่า วังขาว เพราะทาสีขาว สร้างเสร็จ ปี ค.ศ. 1648 พระราชวังชั้นในเรียกว่าวังแดง ได้ชื่อตามผนังที่ทาสีแดง สร้างที่หลังวังขาวเกือบ 50 ปี ปัจจุบันพระราชวังโปตาลากลายเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานสักการะ ภายในวังขาว มีสำนักงาน โรงเรียนศาสนา ส่วนวังแดงเป็นส่วนที่ยังใช้ประกอบพิธีกรรมอยู่ เป็นศูนย์รวมใจของโปตาลา

8. “The Bund” (The Bund เป็นภาษาเยอรมันหมายถึงจุดนัดพบ) หรือที่ชาวจีนเรียกกันว่า “Waitan” (ไว่ทัน) คือพื้นที่ที่อยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำHuangpu ทิวทัศน์ที่น่าสนใจบริเวณนี้ก็คือเหล่าตึกที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปในยุคศตวรรษที่ 19 ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “An International Exhibition of Architecture” หรือนิทรรศการแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติ

9. "Giant Pandas and Chengdu" อยากชิมอาหารพื้นเมืองอันมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ไม่ควรพลาด“เฉิงตู” หนึ่งในเมืองสวยงามและเป็นแหล่งที่รวมอาหารเด็ดที่สุดในซีอาน พร้อมสัมผัสแพนด้ายักษ์อย่างใกล้ชิดที่สถาบันวิจัยการผสมพันธุ์สัตว์

10. "Modernity in Hong Kong" “ความล้ำสมัยที่สุดของจีนสัมผัสได้จากฮ่องกง” เชื่อกันว่าหากอยากเห็นภาพตระการตาและไฮเทคของบ้านเมืองพี่จีน ให้ข้ามไปที่เกาะเกาลูน ฝั่งฮ่องกงแล้วมองกลับมา และภาพนั้นจะปรากฏอยู่ตรงหน้า

mintkubpom โพสต์ 2013-1-5 21:30:00

ขอบคุณสำหรับความรู้นะค๊าบบ

taweesak โพสต์ 2013-1-5 19:24:06

ขอบคุณครับ {:5_119:}{:5_119:}

soupkung โพสต์ 2013-1-5 17:42:36

ขอบคุณครับ

winnee4188 โพสต์ 2013-1-5 13:55:00

ขอบคุณครับ

athit โพสต์ 2013-1-5 13:33:40

ต้นฉบับโพสต์โดย nokky เมื่อ 2013-1-5 13:07 static/image/common/back.gif
10 สิ่งควรทำในวันตรุษจีน
ตรุษจีนคือ "วันชิวอิก" วันแรก ...

ขอให้ร่ำรวยเงินทอง เฮง ๆ ๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง นะครับ:loveliness:

nokky โพสต์ 2013-1-5 13:07:58

10 สิ่งควรทำในวันตรุษจีน
ตรุษจีนคือ "วันชิวอิก" วันแรกของปี จะเริ่มต้นเมื่อหลังเที่ยงคืนของ "วันซาจั๊บ" ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปี เรียกอีกอย่างว่า "วันถือ" เพราะถือเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ ทุกคนจะพูดแต่สิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นมงคล

   ทั้งนี้ กิจที่คนจีนจะต้องกระทำในเทศกาลตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่ "วันจ่าย" ซึ่งเป็นวันจ่ายตลาดเตรียมข้าวของสำหรับไหว้ในวันรุ่งขึ้น รวมทั้งเป็นวันจ่ายโบนัสให้ลูกจ้าง



1. *ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ*

   วันซาจั๊บ ช่วงเช้าหลังจากไหว้เจ้าในบ้าน คือ "ตีจูเอี๊ย" ไหว้บรรพบุรุษแล้ว ในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ ซึ่งของไหว้จะมีทั้งของคาว-หวาน รวมทั้งเป็ด-ไก่ มากหรือน้อยแล้วแต่ฐานะของผู้ไหว้ และมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร เกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติพกไปด้วย

      นอกจากนี้ยังต้องจุดขี้ไต้ 2 ชิ้นไว้ด้วย เมื่อไหว้เสร็จจะจุดประทัด จากนั้นจะโปรยข้าวสารผสมเกลือ ขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป

2. *รวมญาติกินเกี๊ยว*

      ความสำคัญอีกประการของตรุษจีน คือเป็นวัน *รวมญาติ* โดยทุกคนจะเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวในวันซาจั๊บมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ และที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะลักษณะของเกี๊ยวที่เหมือนกับ "เงิน" ของจีน ให้ความหมายว่า ให้มั่งมีเงินทอง

3. *กินเจมื้อเช้า* คือมื้อแรกของปี

      ส่วนในวันชิวอิก คนจีนจะกินเจมื้อแรกของปี เชื่อกันว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี

4. *ทำพิธีรับ "ไช่ซิงเอี้ย"*

      "ไช่ซิงเอี้ย" เป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ส่วนใหญ่จะทำพิธีระหว่างหลังเที่ยงคืนของวันซาจั๊บจนถึงก่อนตี 1

5. *ห้ามกวาดบ้าน*

      ก่อนตรุษจีน จะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ เมื่อถึงวันปีใหม่จะไม่กวาดบ้านจนถึงวันชิวสี่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวันแรกของการเริ่มต้นทำงาน เพราะถือว่าจะกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป

      แต่ถ้าบ้านใครสกปรกจนทนไม่ไหว ก็จะกวาดเข้าคือ กวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้าน

athit โพสต์ 2013-1-5 11:20:58

ตรุษจีน เป็นประเพณีที่ถือปฎิบัติมาอย่างยาวนานนับพันปีแล้ว   ในหนึ่งของคนจีน
เพราะพี่น้องญาติในตระกูลจะต่างคนต่างไปทำงานออกนอกบ้านเพื่อหาเงินทอง
ปีหนึ่งจะมีการรวมญาติคนจีนจะขาดกันแทบไม่ได้   เพื่อเป็นการแสดงความเคารพบรรพบุรุษ
เพื่อให้พี่น้องญาติในตระกูลเดียวกันมาแสดงความยินดีกัน   ผู้น้อยจะเคารพผู้ใหญ่
ผู้ใหญ่จะอวยพรผู้น้อย    คนที่มีงานทำแล้วมีรายได้เหลือเแล้วจะต้องใส่ซองแดงแจกให้
ถ้าลูกหลานหรือญาติผู้ใหญ่คนไหนที่ไม่มีงานทำ

ตัวผมเองก็จะจัดไหว้ที่บ้านก่อนแล้วก่อนเที่ยงจะไปไหว้ที่บ้านใหญ่ซึ่งจะเป็นที่รวมญาติ
ขอไหว้ที่ขาดกันไม่ได้ผลไม้มงคล เช่น ส้มองุ่นกล้วยหอม สีลี่ลูกท้อ เป็นต้น
อาหารไหว้เช่นตับหมูหัวหมู"จะต้องมีเท้าครบหางครบ"คนขายจะทราบดีเป็ดไก่
ปลาหมึกแห้งตัวใหญ่   ปลากระบอกตัวใหญ่   เป็นต้น   ขนมมงคลเช่น ถ้วยฟูขนมชั้น
บัวลอยเป็นต้น   กระดาษเงินกระดาษทอง   

การจัดไหว้แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละครอบครัวแต่ต้องมีการจัดไหว้ ดังนี้
1.จัดไหว้เทพฟ้าดินก่อนผลไม้มงคล 5 อย่างรวม 1 ถาดหรือใช้ส้ม 4 ผลธูป 5 ดอก
เทียนแดง 1 คู่กระดาษเงินทองสำหรับใช้ไหว้เทพเทวดาฟ้าดิน 1 ชุด
2.ไหว้เทพเทวดาฟ้าดินเสร็จก็มาไหว้เจ้าที่เพื่อของอนุญาิติให้บรรพบุรุษของเราเข้ามารับ
ของไหว้ต่าง ๆของไหว้จะมีอาหารขนมผลไม้เหมือนไหว้บรรพบุรุตแต่ไม่มากเท่า พร้อม
กระดาษเงินทองแบบใช้ไหว้เจ้าที่1 ชุดธูป 5 ดอกเทียนแดง 1 คู่กระถางธูปใหม่ติดผ้าแดง 1
3.   ไหว้เจ้าที่เสร็จก็มาไหว้บรรพบุรุษทุกอย่างจัดเต็มแต่ต้องมีน้ำชาน้ำเปล่าเหล้าการริน
น้ำชาน้ำเหล้าจะรินทั้งหมด 3 รอบพร้อมกับการไหว้ 3 รอบ   ไหว้รอบที่ 3 เสร็จก็รอธูปหมด
แล้วก็มีการลาของไหว้ถ้าบ้านไหนที่ต้องยกกระถางธูปจากหิ้งบูชามาก็ต้องลากลับก่อนพร้อม
เชิงเทียน    เสร็จแล้วก็ลากระดาษเงินทองสำหรับไหว้บรรพบุรุษไปเผาก่อนการเผาก็ต้องเผา
ใบเบิดทางก่อนแล้วอย่างอื่น ๆ ตามพอเริ่มเผาส่วนใหญ่จะเป็นลูกหลานไปเผาผู้ใหญ่พอเริ่ม
เผากระดาษเงินทองก็จะเริ่มลาของไหว้แล้วจะแยกสัดส่วนให้แต่ละบ้านเพื่อเป็นของมงคล
นำกลับไปที่บ้านอาหารส่วนใหญ่จะถูกอุ่นแล้วมีการจัดเตรียมเพื่อลูกหลานญาติพี่น้องมารวม
กันกิน   จะแยกโต๊ะสำหรับผู้ใหญ่โต๊ะสำหรับลูกหลาน   ผู้ใหญ่จะมีเรื่องคุยธุรกิจกันสอนงานกัน
ลูกหลานญาติผู้น้อยก็จะพูดคุยกันสนุกตามภาษาก่อนการแยกย้ายกันหลังจากกินเสร็จแล้ว
ผู้ใหญ่ที่มีงานทำก็จะตั้งแถวยาวลูกหลานญาติที่ไม่มีงานทำก็จะตั้งแถวยาวพร้อมเดินไปรับซอง
แดงที่ผู้ใหญ่เตรียมไว้กับคำอวยพรที่ลูกหลานกล่าวกับผู้ใหญ่ผู้ใหญ่กล่าวกับผู้น้อย   
เป็นการจบพิธีของการไหว้    ส่วนใหญ่อีกวันหนึ่งจะเป็นวันเีที่ยวเพื่อความสนุกรับปีใหม่แล้วแต่
ว่าครอบครัวไหนจะไปไหนจะไม่ทำงานเพราะถือว่าวันขึ้นปีใหม่จะต้องมีความสุขจะส่งผลให้
ตลอดปีมีแต่ความสุขร่ำรวยเฮง เฮง เฮง   

ยาวเลยครับไม่รู้เบื่อกันหรือเปล่าจริง ๆ ถ้าละเอียดมันมากกว่านี้อันนี้ย่อพอเข้าใจแล้ว

หน้า: 1 [2] 3
ดูในรูปแบบกติ: วันตรุษจีน (S-1304)