มาแชร์ประสบณ์การโดนวางยากลางห้าง
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ซึ่งผมเห็นมีข่าวมามากต่อมากไม่ว่าแท๊กซี่วางยาผู้โดยสารคนเดินเล่นโดนป้ายยาใส่แล้วรูดทรัพย์นั่งดื่มเหล้าแล้วโดนวางยาเมื่อก่อนนั้น
ผมคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวเองไม่ค่อยสนใจเท่าไรนักแต่มาโดนกับตัวเองเลยอยาก
แชร์กับเพื่อน ๆ ว่าใครคิดอย่างไรและเห็นว่าเป็นประโยชน์จากข้อมูลที่จะมาลงนี้
เผื่อถ้าเกิดใครโดนขึ้นจริง ๆ จะได้คิดแล้วหาทางออกให้กับตัวเองก่อนที่จะโดน
แบบอาการหนัก ๆ เหมือนข่าว ซึ่งเรื่องนี้มันไม่ไกลตัวเลยครับถ้าเรามาคิดดูเนื่อง
จากว่าสังคมปัจจุบันแนวคิดและการปฎิบัติต่างกันไปมากกว่าสมัยก่อนแล้วที่ผม
โดนมี 2 เหตุการต่างกัน
เหตุการที่ 1 โดนวางยาตอนดื่มเหล้าเหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 55ผมไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง
ซึ่งเป็นผับดังส่วนใหญ่นิสัยผมจะชอบไปคนเดียวและครั้งนี้ผมก็ไปคนเดียวติดกัน 2 วัน
วันแรกไม่มีปัญหาอะไร แต่วันที่ 2 ผมไปเหมือนเดิมแต่มีเหตุการผิดปกติหลายอย่าง
ซึ่งทำให้ผมได้คิดเล่นๆมีคนเข้ามาถามผมว่า "มาคนเดียวหรือครับนั่งด้วยได้หรือเปล่า"
ใช่ผมเล่นตัวแต่ผมไม่ชอบเลยตอบไป"ตอนนี้ผมมาคนเดียวครับรอเพื่อน ๆ อยู่นัดกันไว้"
เท่านี้เขาก็พูดไม่กี่คำก็หายไปแต่ผมก็จะมองตามว่านั่งโต๊ะไหนมากันกี่คนจึงเห็นกลุ่ม
เพื่อน ๆ ของเขาเป็นวัยรุ่นน่าตาดีแต่ตัวทันสมัยดูมีฐานะเพราะตอนนั้นคนยังไม่มาก
ผมไม่ใช่สอดรู้สอดเห็นแต่ว่าเป็นคนช่างสังเกตุผ่านไปได้พักหนึ่งก็มีคนใหม่เดินมา
ขอชนแก้วได้ไหมครับด้วยความที่ผมเป็นคนไม่เรื่องมากก็ชนตอบมารูปแบบเดิมถาม
"มาคนเดียวหรือครับ"ผมก็นึกขึ้นได้ว่าคนนี้เป็นกลุ่มเดียวกับคนที่มาถามรอบแรก ผมก็
ตอบไปเหมือนเดิมแต่คนนี้ไม่ยอมไปง่าย ๆ กลับเริ่มขบวนการพูดคุยที่จับใจความได้
เริ่มถามเหมือนกับซักประวัติผมก็ตอบไปแบบไม่เป็นความจริงเช่นเป็นคนที่ไหนผมก็
ตอบเป็นคนกรุงเทพฯพักที่บ้านบึงกุ่ม(บ้านป้าผมเอง)ด้วยความตัดลำคานผมเลย
ขอตัวเข้าไปโทรศัพท์หาเื่พื่อนข้างนอกเขาก็เดินไปผมก็เดินออกมาโทรศัพท์ข้างนอก
โทร.หาเพื่อนจริง ๆ ถามเพื่อนอยู่ไหนถ้ามีอะไรมาหาที่นี่ได้เร็วที่สุดนานไหมคิดไง
ไม่รู้เหมือนจะมีเรื่องเพื่อน ๆ ก็ทำเสียงตกใจถามผมใหญ่ผมก็บอกไม่มีอะไร มีคน
มาคุยด้วยแต่แปลก ๆ เป็นคนกลุ่มเดียวกันเล่าให้เพื่อนฟังเพื่อนเลยบอกให้ตั้ง
เบอร์เพื่อนเป็นเบอร์ฉุกเฉินถ้ามีอะไรก็กดมาเพื่อนจะไปหาและเพื่อนก็ติดต่อเพื่อนที่
พักอยู่แถวรัชดาคุยเสร็จผมก็เดินกลับไปนั่งเหมือนเดิม ไปถึงโต๊ะเจอคนเดิมกำลังเหมือน
นั่งรอผมอยู่ผมก็เรียกเด็กชงเหล้ามาคุยถามเคยเห็นคนกลุ่มนี้ไหมเด็กก็บอกพึ่งเคยเห็น
มาได้ 3 วันติด ๆ กันแล้วผมก็ถามเคยเห็นมีคนที่ไม่ใช่คนในกลุ่มเขาไปด้วยกันหรือเปล่า
ด้วยความโชคดีที่เจอเด็กที่ใส่ใจลูกค้าเพราะในผับเขาจะมีการแบ่งโซนให้เด็กดูแล
มีครับเห็นไปทุกคืนผู้หญิงบ้างผู้ชายบ้าง ผมของใจเด็กแล้วให้ทริปไป 100 บาท แล้ว
บอกว่าดูแลโต๊ะพี่ด้วยก่อนกลับมีให้อีกผมก็กลับไปที่โต๊ะเข้ามารูปแบบเดิมถามอีก
ไปนานนะครับเพื่อนไม่มาแล้วหรือผมก็บอกไม่แน่ใจอาจมาก็ได้เห็นติดตรวจท้องที่อยู่
ผมต้องการสังเกตุดูว่าเขาจะมีปฎิกิริยาอย่างไรถ้ารู้ว่าเรามีเพื่อนเป็นตำรวจเขาทำตัวปกติ
ดีนะครับมีเพื่อนเป็นตำรวจเขาก็บอกว่าดื่มได้แล้วน้ำแข็งละลายจะหมดแล้วจะไ้ด้ชงแก้วใหม่
ผมก็ดื่มไปได้นิดหนึ่งแต่รู้สึกว่าเหล้ามันมีรสขมนิด ๆ ไม่ได้เออะใจอะไรแต่ดื่มไม่มากผมก็
วางแก้วเขาเหมือนพยายามจะชนแก้วผมอีกแบบขอให้หมดแแก้วผมก็นะหมดก็หมด
พอหมดแล้วเด็กชงเหล้าก็เดินเข้ามาเอาแก้วผมไปชงเหล้าแต่เขาก็ขอตัวกลับโต๊ะไปหาเพื่อน
ไปชงเหล้าที่โต๊ะผมนั่งได้พักหนึ่งไม่นานมาก รู้สึกได้ว่าหนักหัวตัวร้อนแปลก ๆ อาการ
เหมือนกับที่เราฟังข่าว เลยเอาโทรศัพท์กดโทร.ฉุกเฉินหาเพื่อนแล้วเรียกเด็กชงเหล้า
คนเดิมมาบอกให้คุยกับพี่จนกว่าเพื่อนพี่จะมารับแล้วให้ทริปไปอีก 100 บาท เด็กก็ถามผม
ชนผมคุยเรื่องสนุกแล้วเทเหล้าในแก้วทิ้งเปลี่ยนเป็นน้ำโซดาล้วน คนกลุ่มนั้นก็ไม่เห็นเดินมา
เพราะเห็นผมคุยกับเด็กและกับตันอยู่บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นมึนหัวและหนักหัวมาก ใช้สติ
อย่างเดียวไม่ถึง 5 นาทีเพื่อนที่เป็นตำรวจอยู่แถวรัชดาก็มาถามผมเดินไหวไหม ไม่ต้องพูด
ไปขึ้นรถก่อนผมกับเพื่อนก็เดินขึ้นรถเชื่อไหมครับว่าผมเดินขึ้นรถเท่านั้นมันหมดแรงแบบ
บอกไม่ถูกรู้นะเพื่อนถามอะไรพูดอะไรแต่ไม่สามารถพูดหรือโต้ตอบกับเพื่อนได้มันรีบนำ
ผมส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดสุดท้ายสรุปว่าโดนวางยา ผมก็โดนเพื่อน ๆ สวดมนต์ใหญ่
แต่นะด้วยความที่พวกเขาเป็นห่วง ถามเพื่อนจับตัวพวกมันได้ไหมเพื่อนบอกว่าตอนแรก
ไม่คิดอะไรเอาเองมาส่งโรงพยาบาลก่อนกลัวเป็นยาพิษพอกลับไปถามเด็กเขาเช็คบิลออก
ไปหลังจากที่เห็นผมออกมา ผมก็แปลกใจว่าเราก็ใช่จะแต่ตัวใส่เสื้อยืดธรรมดา ๆ กางเกงยีน
แสดงว่ามันสังเกตตั้งแต่คืนแรกเพราะคืนแรกผมไปพักเดียวก็กลับเพราะต้องตื่นเช้า
เหตุการที่ 2โดนป้ายยากลางห้างดังหน้า ZANไม่ใช่ในห้าง ZAN นะครับ เดียวโดนฟ้อง
ไม่ขอบอกชื่อดีกว่านะครับ ผมนัดกับเพื่อนเพื่อไปไหว้พระที่วัดแขกเลยนั่งรถเมล์มาลงที่
หน้าห้าง ZANแต่เพื่อนยังไม่มาเลยขอตัวไปเดินซื้อของก่อนโทร.หาเพื่อนบอกว่าอยู่ที่ไหน
มาถึงก็โทร.มาหาแล้วกันผมก็เดินดูของไปพักหนึ่งมีคนเดินมาผ่านมาเซชนผม ผมก็ประคอง
ตัวเขาไว้เขาก็ขอโทษค่ะจับแขนผมเพื่อประคองตัวแล้วก็เดินไปด้วยความรวดเร็ว ผมก็เดิน
ไปเลือกของตามปกติแต่สังเกตุได้ว่ามีผู้หญิงคนเดิมกับผู้ชายอีกคนเหมือนจะเดินตามแบบไม่
ไกลมากเอาละทดสอบว่าเราไม่ได้คิดไปเองผมก็เดินด้วยความเร็วขึ้นแล้วก็เลี้ยวไปอีกช่อง
หยุดเลือกของถามพนักงาน จริง ๆครับเขาเดินตามทำเป็นเลือกของคุยกันแต่ที่สังเกตตาของ
ผู้ชายมองมาที่เราเป็นระยะผมก็เลยโทร.หาเพื่อนถามมาถึงยังอยู่ไหนโชคดีมันบอกอยู่ชั้น 1
ห่างจากผมไป 1 ชั้นบอกเพื่อนว่าพบกันที่บันไดเลื่อนด่วนด้วยมีเรื่องจะคุยผมก็เลยเดินด้วย
ความเร็วไปที่บันไดเลื่อนไปเจอเพื่อนพอดีเพื่อนก็ถามมีอะไร 2 คนนั้นก็เดินตามมาแต่เห็น
ผมกับเพื่อนเขาก็เดินไปหาเพื่อนเขาอีกกลุ่มหนึ่งเห็นได้ชัดผมเลยชวนเพื่อนออกจากห้าง
แล้วจะเหล่าให้ฟังไปถึงข้างนอกรอที่ป้ายรถเมล์เชื่อไหมครับว่าอาการมันเหมือนเราไม่สบาย
รู้สึกอึดอัดเลยบอกเพื่อนเหมือนเราไม่สบายอย่างไรไม่รู้เพื่อนเลยเรียกรถแท๊กซี่ เปลี่ยนแผน
จากไปวัดไปหาหมอแทนสุดท้ายสรุปโดนป้ายยาเป็นยาแบบทากับผิวเราแล้วมันจะค่อย ๆ
ออกฤทธิ์
ในทั้ง 2 เหตุการนี้ผมถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนเข้ามาช่วยแต่หลายคนผมคิดว่าที่โดนแล้วไม่รู้ตัว
หรือไม่โชคดีเหมือนผมคงมีอีกมากที่ไม่อายก็เป็นข่าวที่อายก็เงียบแต่เพื่อนผมที่เป็นตำรวจ
แนะนำไว้ว่า
1.ถ้ารู้สึกผิดปกติให้ออกจากพื้นที่ออกไปที่โร่งและมีผู้คนอยู่มาก
2.มองหาตำรวจรปภ.แล้วเข้าไปพูดคุยเหมือนถามถ้าไม่มีอาการอะไรก็แล้วไปเหมือนถาม
เส้นทางแต่ถ้าอาการไม่ดีโดนแน่ๆ ก็เล่าแบบสรุปให้ตำรวจหรือรปภ.ฟังเพื่อขอความช่วยเหลือ
เพราะเหตุการนี้ใช่ไม่เคยเกิดส่วนใหญ่ตำรวจและรปภ.ห้างจะรู้ดี(แต่เราต้องมั่นใจนะไม่ใช่
คิดไปเอง)
3.ให้โทร.หาเพื่อนที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อเล่าจุดที่เราอยู่และให้มาหาเร็วที่สุดถ้าเป็นไปได้
4.ถ้าอยู่ในรถแท๊กซี่เป็นไปได้ให้โทรศัพท์หาเพื่อนญาติและแจ้งเลขทะเบียนรถรายละเอียดของรถ
และขอลงจากรถในพื้นที่ชุมชนถ้ารถไม่ยอมจอด ให้เปิดกระจกร้องขอความช่วยเหลือเลย
ห้ามนั่งข้างคนขับให้นั่งด้านหลังเพราะเราจะสังเกตุเห็นพฤติกรรมของคนขับได้ (แต่สมัยนี้
รถแท๊กซี่ก็กลัวโดนจี้เหมือนกัน)สมัยนี้จะไว้ใจคนดูจากน่าตาการแต่ตัวมันยาก
5. เครื่องประดับที่มีค่าไม่ควรสวมใส่ออกที่ชุมชนโดยไม่จำเป็นและเงินควรแบ่งกระเป๋าใส่
เพราะเห็นหลายคนชอบเอากระเป๋าออกมานับเงินเหมือนบอกให้รู้ว่าฉันมีเงินเยอะนะคนชอบอวด
แบบนี้ก็โดนมาเยอะ
เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้แชร์ให้เพื่อนฟังผมคิดว่าหลายคนมีประสบณ์การไม่มากก็น้อยมาแชร์
กันเพื่อเป็นความรู้ในการป้องกันตัวเองจากสังคมปัจจุบันอย่างที่บอกรู้ไว้ใช่ว่า.... ถ้าไม่เกิด
กับตัวเองคงไม่รู้หลอกว่ามันเป็นอย่างไร
เหตุการณ์ที่ 1 ไม่เหมาะจะเที่ยวคนเดียวนะคะ สถานที่แบบนั้น ถ้าไม่ใช่คนที่พละกำลังพอที่จะปกป้องตัวเองได้ค่ะ
แต่อย่างเดี๊ยนไปคนเดียวคงไม่โดนแน่ๆค่ะ แต่ไม่ใช่ปกป้องตัวเองได้นะคะ แต่ไม่มีใครเอาค่ะ 5555+
เหตุการณ์ที่ 2 สรยุทธ เคยทำข่าวเรื่องยาป้าย พร้อมกะัเชิญหมอมาคุย หมอยืนยันว่ายาป้ายไม่มีจริง โดยหมอฟันธงว่า
น่าจะเป็นเรื่องของจิตวิทยาของคนร้ายค่ะ ให้เหยื่อเกิดการสับสน งุนงง ไปชั่วขณะค่ะ เดี๊ยนก็เลยสับสนค่ะ
ว่ามีจริงแต่หมอโกหกว่าไม่มีจริงหรือเปล่าวกลัวคนจะไปเสาะหามาใช้ทำเรื่องไม่ดี
สรุปว่า ตั้งตนไว้อยู่ในความไม่ประมาทค่ะดีที่สุด เพราะทุกวันนี้โลกอยู่ยากขึ้นทุกวันค่ะ ต้นฉบับโพสต์โดย คุณหญิงอบเชย เมื่อ 2013-1-9 16:51 static/image/common/back.gif
เหตุการณ์ที่ 1 ไม่เหมาะจะเที่ยวคนเดียวนะคะ สถานที่แบ ...
ก่อนอื่นต้องขอบคุณคุณหญิงนะครับ
ข้อ 1คุณหญิงสวยเสมอในใจผม:loveliness:
ข้อ 2 ถ้าไม่โดนกับตัวคงตอบไม่ได้ถ้าไม่มีจริงทำไมตำรวจจึงมีคำแนะนำ หรือไม่ใช่การป้าย แต่อย่างที่คุณหญิงว่า
เราอย่าประมาดเป็นการดีเพราะสังคมปัจจุบันเห็นแก่ตัวมากขึ้น ขอบคุนมากเลยคับ มีประโยชน์มากๆๆ
หน้า:
[1]