ขึ้นเขาคิชฌกูฎ นมัสการรอยพระบาท
เทศบาลตำบลพลวง และจังหวัดจันทบุรี ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานนมัสการรอยพระพุทธเขาคิชฌกูฏ ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 26 มกราคม - 11 เมษายน 2556 ณ เขาคิชกูฏ จังหวัดจันทบุรีกำหนดการ งานนมัสการรอยพระพุทธเขาคิชฌกูฏ ประจำปี 2556
วันที่ 26 ม.ค. - 1 ก.พ. 25556
[*]บวชพราหมณ์
วันที่ 7 ก.พ. 2556
[*]พิธีเปิดเปิดงานบริเวณสันเขื่อนพลวง
[*]พิธีสักการะเจ้าพ่อขุนด่าน
วันที่ 9 ก.พ. 2556
[*]พิธีบวงงสรวงยอดเขาพระบาท
วันที่ 11 ก.พ. - 11 เม.ย. 2556
[*]เปิดให้ประชาชนทั่วไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏประจำปี 2556
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
[*]วัดกะทิง โทร.039-452056
[*]พระครูประดิษฐ์ 089-0561517 ประธานสงฆ์
[*]พระครูวิโจจน์ธรรมานุกูล 081-1378203 เจ้าอาวาสวัดกะทิง
[*]นายทองเลื่อน 089-0950992 ประธานฆราวาส
[*]เทศบาลตำบลพลวง 039-309284
http://board.postjung.com/data/654/654180-topic-ix-0.jpgตำนานรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฎ
ตำนาน รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฎมีอยู่ว่า นายติ่งและคณะได้ขึ้นบนเขาเพื่อไปหาไม้กฤษณามาขาย และได้ไปพักเหนื่อยบนลานหินกว้าง ระหว่างนั้นเพื่อนของนายติ่งคนหนึ่ง ได้ถอนหญ้าเพื่อนอนพักก็พบแหวนใหญ่ขนาดสวมหัวแม่เท้าได้ เเละเมื่อช่วยกันตรวจดูก็พบหินแผ่นหนึ่ง มีพื้นที่เป็นรอยรูปก้นหอย ต่อมานายติ่งและเพื่อนได้นำบุตรชายไปอุปสมบทที่วัดพลับ รุ่งขึ้นก็มีงานปิดรอยพระพุทธบาทจำลอง นายติ่งซื้อทองไปปิดแล้วจึงพูดว่าแถวบ้านตนก็มีรอยแบบนี้เช่นเดียวกัน พอดีมีพระได้ยินเข้าจึงไปเรียนให้เจ้าอาวาสวัดรับทราบ เจ้าอาวาสจึงเรียกนายติ่งเข้าไปสอบถาม พร้อมกับส่งคณะขึ้นไปพิสูจน์ดู ก็พบว่าเป็นความจริง และเมื่อตรวจดูบริเวณรอบ ๆ ก็พบกับสิ่งประหลาดมหัศจรรย์อีกหลายอย่าง รอยพระพุทธบาทนั้นท่านทรงเหยียบจารึกไว้ที่ศิลาแผ่นใหญ่ บรรจุคนนั่งได้ร้อยกว่าคน บนยอดเขาสูงสุด กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร
ทาง ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรอยพระพุทธบาทมีหินกลมก้อนหนึ่งใหญ่มาก เรียกว่า หินลูกพระบาท ตั้งขึ้นมาอย่างน่าแปลกประหลาดมหัศจรรย์ มองดูคล้ายลอยอยู่เฉย ๆ มีคนกล่าวว่าเขาเคยเอาด้ายสายสิญจน์คล้องแล้วหลุดออกมาได้ และยังมีหินอีกลูกอยู่ตรงข้ามกับหินลูกพระบาทนี้ ก็มีรอยพระหัตถ์ไปรับหินก้อนนี้ จากรอยพระพุทธบาทกับรอยพระหัตถ์นั้น ห่างกันประมาณ 5 เมตร และยิ่งแปลกไปกว่านั้น ในก้อนหินตรงกันข้ามกับรอยพระหัตถ์ ยังมีรูปรอยเท้าใหญ่ ซึ่งเรียกกันว่ารอยเท้าพญามาร เพียงแหงนหน้าขึ้นไปจะมองเห็นได้ทันที สูงประมาณ 15 เมตร
ต่อจากนั้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากหินลูกนี้ไปเพียง 15 วา มีหินลูกข้างบนเป็นลานและมองเห็นรอยรถหรือรอยเกวียน เมื่อยืนบนหินลูกนั้นมองลงไปทางทิศเหนือจะเห็นถ้ำเต่า หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของรอยพระพุทธบาทจะเห็นถ้ำช้าง และถ้ามองจากรอยพระพุทธบาทขึ้นไป จะเห็นหินก้อนหนึ่งมีรูปลักษณะคล้ายช้างจริง เลยจากช้างไปสูงสุดนั้นเรียกกันว่าห้างฝรั่ง เพราะฝรั่งได้ขึ้นไปตั้งห้างส่องกล้องเพื่อทำแผนที่ มองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ยังมีถ้ำอีกถ้ำหนึ่งเรียกว่าถ้ำสำเภา เพราะมีหินก้อนหนึ่งข้างบนถ้ำมีลักษณะคล้าย ๆ เรือสำเภา และยังมีอีกถ้ำหนึ่งใต้พระบาทนี้เรียกว่าถ้ำตาฤาษีhttp://board.postjung.com/data/654/654180-topic-ix-1.jpghttp://board.postjung.com/data/654/654180-topic-ix-2.jpghttp://board.postjung.com/data/654/654180-topic-ix-3.jpghttp://board.postjung.com/data/654/654180-topic-ix-4.jpghttp://board.postjung.com/data/654/654180-topic-ix-5.jpghttp://board.postjung.com/data/654/654180-topic-ix-6.jpghttp://board.postjung.com/wwwsys/richtext2/emo/41.gifhttp://board.postjung.com/wwwsys/richtext2/emo/41.gifhttp://board.postjung.com/wwwsys/richtext2/emo/41.gifhttp://board.postjung.com/wwwsys/richtext2/emo/41.gif
ตั้งใจว่าจะไปนานแล้ว แต่ไม่ได้ไปสักที
อาจารย์ หลายท่านว่า ที่นี่ ศักดิ์สิทธิ์นัก
มีคนมาบำเพ็ญบุณในถ้าต่างๆ มากมาย
ถ้ไม่ใช่ช่วงที่เปิดป่าใช้ขึ้นไปนมัสการ ก็จะขึ้นไม่ได้ หลงป่ากันหลายคนแล้ว ขอบคุณครับ อยากไปเที่ยวครับ ตองไปให้ได้ครับ
หน้า:
[1]