ดื่มให้เป็นไม่เสียของสำหรับนักดื่ม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย athit เมื่อ 2013-2-7 08:21ผมเชื่อได้ว่าหลายคนที่ชอบดื่มเหล้าตระกูล JohnnieWalker แล้วดื่มกันผิดๆ ผมเลยเอามาฝาก "การดื่มสุราอาจทำให้ท่านสูญเสียการควบคุมเพราะฉนั้นเมาไม่ขับเพื่อความปลอดภัย"
มารู้จักกับวิสกี้JohnnieWalker กัน
ลักษณะประเภทของวิสกี้เราแบ่งวิสกี้ตามวัตถุดิบจะมีวิสกี้ 2แบบ คือแบบเกรนวิสกี้ และ แบบมอลต์วิสกี้แต่เราแบ่งโดยใช้ลักษณะของการผสมหรือ การกลั่นเราจะแบ่งได้เป็น2แบบ คือเบลนเดตวิสกี้ และ ซิงเกิลมอลต์วิสกี้-เบลนเดตวิสกี้คือการนำเอา เกรนวิสกี้ กับมอลต์วิสกี้มาผสมเข้าด้วยกันครับเช่น ชีวาส และตระกูลคนเดินทนเว้น ฉลากเขียว เป็นต้น
-ซิงเกิลมอลต์วิสกี้คือ วิสกี้ที่เกิดจากมอลต์วิสกี้ที่ผ่านการกลั่นโดยโรงกลั่นเพียงครั้งเดียวไม่มีการผสมมอลต์อื่น เช่นGlenfiddich
-เบลนมอลต์คือ วิสกี้ที่เกิดจากการผสมมอลต์วิสกี้ต่างชนิดเข้าด้วยกันเช่น จอห์นี่วอลเกอร์ ฉลากเขียว
JohnnieWalker เป็นเบลนเดตวิสกี้ (Blendedwhiskey) ซึ่งไม่ได้ทำมาจากมอลท์วิสกี้ตัวเดียว(SingleMalt)เกือบทุกรุ่นจะผสมGrainWhiskey เป็นวิสกี้ที่ผลิตจากข้าวหรือ ธัญพืชอย่างอื่น(ที่ไม่ใช่บาร์เลย์)เพียงอย่างเดียวซึ่งทำมาจากข้าวคนละพันธ์หรือวิธีการหมักคนละวิธีมีเพียงฉลากเขียวเท่านั้นที่ทำมาจากมอลท์ล้วนซึ่งก็ไม่ใช่ SingleMalt อีกเช่นกันแต่เป็น BlendedMalt นั่นคือเอาSingleMalt หลายตัวมาผสมกันซึ่งจากที่ผมเคยดื่มฉลากเขียวจัดว่ารสชาตินั้นโอเคเลยทีเดียวปัจจัยที่ทำให้วิสกี้แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันทั้งทางด้านสีสัน รสชาติและกลิ่น มีตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ที่แตกต่างนอกจากนี้ ยังมีอิทธิพลจากหินถ่านที่เรียกว่า พีต (Peat)ที่ใช้ในการเผาเมล็ดธัญพืชก่อนที่จะมากลั่นหินถ่าน ที่ได้จากแต่ละแห่งของสกอตแลนด์จะให้กลิ่นที่แตกต่างกันเช่นเดียวกับชนิดของยีสต์ที่ใช้ในการหมักบ่มก็ส่งอิทธิพลต่อรสชาติของวิสกี้ด้วยนอกจากนี้ ยังมีอิทธิพลอื่นๆอย่าง หม้อกลั่นรูปทรงต่างๆและที่สำคัญมากๆ ก็คือน้ำที่นำมาใช้ในการกลั่นสำหรับในสกอตแลนด์ ที่มีโลว์แลนด์ไฮแลนด์ และสเปรย์ไซด์ก็จะมีน้ำที่รสชาติแตกต่างกัน
ค่า นิยมการดื่มJohnnieWalker นี้ผมคิดว่าเป็นเพราะคนไทยส่วนใหญ่เปิดตามาก็เจอโฆษณาและเห็นคนดื่มรุ่นก่อนส่วนใหญ่จะบริโภค JohnnieWalker จึงทำให้เป็นภาพติดตาและพอเริ่มดื่มให้คุ้นลิ้นคุ้นคอกันมาเรื่อยประกอบกับการประโคมโฆษณาตามสื่อทำให้ขายดีเข้าไปใหญ่ลองมาทำความ รู้จักกับน้ำเมาตระกูลนี้กันเป็นรายป้ายเลยดีกว่าว่ามีรายละเอียดคร่าวๆ กันอย่างไรบ้าง
JohnnieWalker Red Label - บ่ม8ปีนี่คือวิสกี้ที่ขายดีที่สุดในโลกและเป็นวิสกี้ระดับแสตนดาร์ดแบรนด์ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยวันนี้มาทำความรู้จัก RedLabel กันให้มากขึ้นกันดีกว่าครับRedLabel หรือในอดีตชื่อJWSpecial Old Highland (เปลี่ยนมาใช้ชื่อRedLabel ในปี1909)เป็นวิสกี้ตระกูลJWชนิดเดียวที่ไม่ได้เป็น ScothWhisky แท้ 100%หากแต่ว่าJWเน้นไปที่รสชาดของวิสกี้ที่สามารถปรับให้เข้าได้กับทุกสถานการณ์มีทั้งความหวานความนุ่ม และความเผ็ดร้อนในเวลาเดียวกันRedLabel เป็นBlendedWhisky ที่ผ่านการผสมมาจากMaltและ BlendedWhisky 35 ชนิดเป็นJWหนึ่งในไม่กี่ชนิดที่ผลิตออกมาในขนาดที่แตกต่างกันออกไปแต่ทุกขวดจะมีลักษณะเหมือนกันคือขวดทรงสี่เหลี่ยม และฉลากสีแดงขอบทองสัญลักษณ์เด่นอีกอย่างคือ ไสตรดิ้งแมนหรือกล่องของ RedLabelที่สามารถนำมาเรียงต่อกันกลายเป็นฉลาก RedLabel ขนาดใหญ่ได้ข้อแนะนำในการดื่มRedLabelสำหรับการดื่ม RedLabel นั้นไม่มีวิธีการดื่มทีแนะนำตายตัวมาจากJWสามารถดื่มผสมกับอะไรก็ได้กินเพียวก็ได้หรือจะนำไปทำค๊อกเทลก็ยังได้บวกด้วยเรื่องของราคา ทำให้ RedLabel เป็นเหล้าที่ขายดีที่สุดในปัจจุบัน
JohnnieWalker Black Label - บ่ม12ปีเป็นเบลนวิสกี้ (BlendedWhisky)คือเอาทั้งมอลท์ และ เบลนมาผสมกันนี่คือวิสกี้ที่JWยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของวิสกี้ตระกูลJWทั้งหมดJohnnieWalker Black Label เป็นBlendedWhisky อายุ 12ปีเป็นวิสกี้JohnnieWalker ที่เก่าแก่ที่สุดโดยวางจำหน่ายตั้งแต่ปี1865ในชื่อของWalker'sOld Highland ก่อนจะมาใช้ชื่อExtraSpecial Old Highland ในปี1906- 1908และสุดท้ายในปี1909ก็เปลี่ยนมาใช้ชื่อBlackLabel จนถึงทุกวันนี้ลักษณะเด่นของBlackคือกลิ่นหอมรมควันถ่านพีท กลิ่นขิงวานิลลาและกลิ่นผลไม่อย่างลูกแพรและแอปเปิ้ลและส่วนผสมจากเกรนและมอลท์ วิสกี้กว่า40ชนิดผสมผสานออกมาเป็น JWBlack Label ในปัจจุบัน
วิธีการดื่มJWBlack Label ที่ดีที่สุดจำกันเอาไว้นะครับ
Blackจะต้องดื่มโดยผสมกับน้ำและน้ำแข็งเพื่อที่จะทำให้ได้กลิ่นของบุหรี่แห้งกลิ่นของวานิลลา และกลิ่นของผลไม้ที่จะอบอวลขึ้นมาหลังจากได้สัมผัสกับน้ำการผสมน้ำจะทำให้ได้รสของวิสกี้ที่Strongขึ้น(ภาษาไทยน่าจะเป็นคำว่าเข้มขึ้นครับ)
JohnnieWalker Green Label - บ่ม15ปี
รู้หรือไม่ว่าGreenLabel เป็นRareWhisky ราคาถูกที่หาซื้อได้เพียงในบางประเทศเท่านั้นถ้าไม่รู้ลองอ่านดูครับ มีเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับGreenLabel อีกเยอะJWGreen Label หรือในอดีตที่เราคุ้นเคยในชื่อของJWPure Maltเป็นวิสกี้น้องใหม่ที่สุดในบรรดา 5Label ทั้งหมดความพิเศษของวิสกี้ที่หมักบ่มนาน 15ปีชนิดนี้อยู่ตรงที่ GreenLabel เป็นวิสกี้ชนิดเดียวที่มีเพียงส่วนผสมของMaltWhisky โดยไม่มีGrainedWhsiky ผสมอยู่เลยแถมส่วนผสมวิสกี้ทั้ง 15ชนิดที่นำมาBlendedจนกลายเป็นGreenLabel นั้นมาจากแหล่งกำเนิด Whiskyชั้นดีของสก๊อตแลนด์คือTalisker,Cragganmore, Linkwood, และCaolIlaจน กลายเป็นPureMalt Green Label ในปัจจุบันวิธีการดื่มGreenLabel ให้ได้รสชาติมากที่สุดจำไว้นะครับให้กินในแบบของOnthe Rock ด้วยการรินGreenLabel ลงในแก้วพอประมาณก่อนหลังจากชิมและรับกลิ่นรมควันจางๆและไอทะเล กลิ่นถังเชอรรี่รวมถึงผลไม้ชนิดต่างๆเช่นแอพพริคอท ผิวส้ม พีชบวกกับกลิ่นเปลือกไม้ป่าและหญ้าอ่อนหลังจากนั้นจึงใส่น้ำแข็งตามไป 1- 2 ก้อนจะได้เห็นน้ำมันของวิสกี้FusilOilและจะได้รับกลิ่นที่หอมเข้มข้นขึ้นตามลำดับเมื่อวิสกี้ได้สัมผัสความเย็นGreenLabel มีเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งคือเมื่อดื่มแล้วรสชาติจะแตกต่างกันทุกครั้งจากส่วนผสมต่างๆของPureMalt ทั้ง 15ชนิดนั่นเอง
JohnnieWalker Gold Label -บ่ม18ปี
วิสกี้สีทองที่มีลักษณะการดื่มให้ได้รสชาติดีที่สุดที่ต่างออกไปจากเพื่อนร่วมตระกูลGoldLabel ถูกเปิดตัวขึ้นเมื่อปี1920ในโอกาสครบรอบ100ปี JohnnieWalkerเป็นที่มาของคำว่า CenturyBlend ที่จารึกอยู่บนฉลากของGoldทุกขวดวิสกี้หายากทุกชนิดที่ผสมออกมาเป็นGoldมีอายุไม่ต่ำกว่า18ปีรวมทั้งน้ำแร่บริสุทธิ์และถังสำหรับหมักรวมทั้งส่วนผสมหลักคือClynelishซึ่งเป็นวิสกี้มอลท์ที่หายากและราคาสูง ทำให้เกิดสีทองในตัววิสกี้ Goldขวดนี้เนื่องจากการดื่มวิสกี้ไม่จำเป็นจะต้องคำนึงว่าวิสกี้จะเกิดการแข็งตัวเมื่อนำไปFrozenหรือแช่ให้เย็นจัด โดยเฉพาะ Goldขวดนี้ยิ่งคุณได้สัมผัสมันด้วยความเย็นมากเท่าไหร่รสชาติและกลิ่นของGoldขวดนี้จะยิ่งนุ่มและอบอวลขึ้นการจิบควรจิบทีละน้อยและยิ่งถ้าได้ ช็อคโกแลตมารับประทานด้วยแล้วคุณจะได้สัมผัสความพิเศษ ว่าทำไม วิสกี้ขวดนี้จึงได้รับให้ประดับด้วยฉลากสีทอง
JohnnieWalker Blue Label- บ่ม25ปี
นี่คือวิสกี้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวิสกี้ที่ดีที่สุดในโลกนี่คือการผสมผสานของเกรนวิสกี้ และ มอลท์วิสกี้จำนวน 16ชนิดที่ต้องบอกว่าแพงที่สุดในโลกเพราะอะไรนั่นหรือเพราะในจำนวน16ชนิดดังกล่าวมีบางชนิดที่ผ่านการหมักบ่มมากว่า60ปีและที่สำคัญในจำนวนวิสกี้ 1ล้านถังที่ดิอาจิโอ ทำการผลิตจะมีเพียง1หรือ 2ถัง เท่านั้นที่นำมาเป็นส่วนผสมของ BlueLabelทุกขวดจะมีหมายเลขกำกับเพื่อแสดงถึงจำนวนที่ผลิตว่าหาได้ยากยิ่งขนาดไหนBlueขวดนี้จะมีจุกขวดที่ทำจากไม้ก๊อกหุ้มตะกั่วสีทองมีกล่องบรรจุใส่เป็นสีน้ำเงิน และทองบุภายในด้วยผ้าซาตินอย่างดีการดื่มจำไว้ว่า อย่าเอาไปผสมมิกเซอร์การดื่มที่ดีที่สุดแน่นอนครับ วิสกี้ระดับนี้จะต้องเป็นการดื่มแบบจิบวิสกี้ โดยไม่เติมอะไรหรือภาษาบ้าน ๆ ก็เรียกว่า ดื่มกันเพียวๆ นี่แหละครับเจ้าของ JWบอกมาว่าจะให้ดีควรจะอมน้ำแข็งให้เกิดความเย็นในปากเมื่อน้ำแข็งละลายหมดจึงค่อยจิบ Blueเข้าไปจะได้รับรสชาดที่ดีที่สุดแล้วจะได้รู้ว่าวิสกี้ที่ว่ากันว่าล้ำลึกที่สุดในโลก รสชาติเป็นเช่นใด
กินมั่วมานาน อยากกินเป็นกับเขาสักที ขอบคุณครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคับ {:5_127:} {:5_146:}
หน้า:
[1]