"สิ้นแสงดาว"
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tanya เมื่อ 2013-2-13 16:49"สิ้นแสงดาว"
คล้ายดวงเดือนลอยเลื่อนบนผืนฟ้า
คล้ายดาราส่องระยับรับเดือนฉาย
คล้ายวาโยพัดอ่อนต้องผิวกาย
คล้ายแสงเลื่อมพรรณรายบนฟ้าไกลเหมือนเก็จแก้ววับแววบนผืนหล้า
เหมือนธาราไหลรื่นชื่นใจหลาย
เหมือนดวงมาลย์หอมฟุ้งจรุงกาย
เหมือนแสงทองพราวพรายมาโลมดินคำกวีร้อยเรียงเป็นเรื่องราว
ดุจเก็บแก้วแพรวพราวจากฟากฟ้า
บริสุทธิ์ผ่องแผ้วเหลือคณา
ล้ำเลอค่านำมาร้อยเป็นกานท์กลอนช่างเลิศล้ำสูงยิ่งกว่าสิ่งใด
เหนือกว่าพรหมเทพไทในภูมิสาม
ทั่วพิภพฟ้าสวรรค์และบาดาล
ต่างยกย่องกราบกรานคำกวีลูกขอน้อมเศียรเกล้ากราบเบื้องบาท
ขอประกาศคารวะคำครูสอน
บุรพคณาจารย์แห่งกาพย์กลอน
ให้ประสิทธิ์ประสาทพรแก่ลูกยาจะร้อยเรียงพจน์ใดจงไพเราะ
ฟังเสนาะระรื่นหูมิรู้หาย
ขอบูชาคุณท่านตราบชีพวาย
เพื่อมั่นหมายพบกันบน “ชั้นกวี”
บทที่ 1 โลกของเกย์เมื่อก่อนตอนฉันเยาว์วัย
เคยฝันเคยใฝ่หลายสิ่ง
อยากรักผู้ชายผู้หญิง
อยากมีรักจริงกับใครตอนนี้ฉันโตเป็นหนุ่ม
ความลับมันสุมในอก
ไม่อาจที่จะหยิบยก
ต้องเก็บและปกปิดไว้จิตใจฝันใฝ่เพศชาย
มั่นหมายอยากมีเคียงคู่
เริ่มรักเริ่มชอบกันอยู่
โดยฉันไม่รู้ความจริงเสียตัวมั่วชายมากมาย
ไม่อายเห็นเป็นเรื่องสนุก
ทำไปจนถึงที่สุด
ก็หยุดตรงชายคนหนึ่งเข้ามาสนใจรักใคร่
ยามเศร้าปลอบใจไมห่าง
ยามสุขเสพสมยาวนาน
ได้อย่างต้องการแล้วไปฉันนั้นเรียนรักจากเขา
เอาตัวของเราเข้าแลก
เสียตัวด้วยความใจแตก
แต่เขากลับแยกจากไปก้าวเดินบนทางโลกีย์
ทางเดินสายนี้สกปรก
น้ำกามมากมายไหลรด
เสร็จกันแล้วหมดเยื่อใยเกย์นั้นหาความจริงใจ
หากันไม่ได้เลยหนา
ผ่านแล้วผ่านเลยทุกครา
ไม่มีคุณค่าอะไรผู้ชายของฉันหายไป
ไม่เหลือความห่วงใยฉัน
ไม่เหลือแม้ความสัมพันธ์
ฉันมันแค่เด็กรายทางเขาคงไปหาคนใหม่
แล้วคงรักใคร่กันมาก
สุขสมสมใจตีจาก
เขาฝากความช้ำไว้ให้ฉันต้องตรอมตรมทนทุกข์
คิดถึงคราวสุขกับเขา
คิดถึงวันคืนเก่าเก่า
รักเราเป็นได้แค่ฝันยังคงอดทนเฝ้ารอ
เขาอาจติดต่อมาหา
เขาคงไม่ลืมสัญญา
ที่ว่าจะรักจนตายเวลายังเดินเรื่อยไป
หัวใจฉันยังโหยหา
คอยเขาคนนั้นกลับมา
เยียวยารักษาแผลใจต้องรอกี่วันกี่เดือน
เวลายิ่งเคลื่อนผันผ่าน
หรือรอจนฉันวายปราณ
ฉันจึงได้พบพาน “ความเห็นใจ”
บทที่ 2 นิยามรักรักคืออะไรใครตอบได้
ถึงทำให้ในจิตใจฉันว้าวุ่น
บางคนบอกรักเหมือนไฟอันอบอุ่น
หรือเหมือนพรมนุ่มละมุนให้สัมผัส
หลายหลายคนให้นิยามเรื่องความรัก
ตามที่ตนประจักษ์รับรู้ได้
แต่ตัวฉันนั้นก็รู้อยู่แก่ใจ
ว่ารักนั้นเปรียบเหมือน “ไฟ” ไหม้แหลกลาญ
บทที่ 3 รักวิปริตฉันเคยมีความรัก เริ่มรู้จักเมื่อไม่นาน
ตั้งแต่เริ่มแตกพาน เหมือนตำนานความระทม
เมื่อแรกเริ่มคบกัน ต่างสัมพันธ์และสุขสม
ไม่เคยต้องช้ำตรม รักไม่ขมไม่ปวดใจ
เลือกรักกับชายหนุ่ม ดั่งไฟสุมในอกฉัน
ยามสุขแสนผูกพัน ยามทุกข์นั้นแสนกล้ำกลืน
คบกันไปไม่นาน เขาเริ่มห่างไปจากฉัน
ไม่มาห่วงใยกัน รักของฉันก็หลุดลอย
วันคืนที่พ้นผ่าน แม้ไม่นานก็หวั่นไหว
ที่รักเมื่อจากไป ยังฝันใฝ่ยังคำนึง
ความรักอย่างฉันคิด อาจวิปริตผิดมนุษย์มนา
ฉันคงต้องจากลา เพื่อรักษาเยียวยาใจ
บทที่ 4 ฝันสลายเขาเหมือนเป็นเทพบุตรสุดวิเศษ
เขาเปรียบดั่งเพชรน้ำเอกอันมีค่า
เขาเพียบพร้อมในทุกสิ่งทั้งกายา
ทำให้ฉันต้องมนตราในบัดดล
เขากอดรัดมัดใจไว้กับอก
พร่ำพรอดคำที่หยิบยกมาเสกสรร
ล้วนหลากคำเสนาะหูและน่าฟัง
จะรักฉันรักล้นรักหมดใจ
ฉันยอมพลีมอบกายให้กับเขา
เขานั้นเล่าก็เสพสมอารมณ์หมาย
จนบรรลุความต้องการที่มากมาย
แสนเหนื่อยกายแต่เพราะรักจึงยอมทน
ฉันนั้นมีความสุขมากเหลือแสน
พ่อยอดชายมาดแมนนี้ของฉัน
ถ้าเขาเป็นคู่แล้วไม่แคล้วกัน
คนนี้คงเป็นคู่ฉันไม่ผิดตัว
พลันสะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝัน
อนิจจังเป็นฝันไปหรือนี่
ความสุขสมที่ผ่านมาทุกสิ่งนี้
คงไม่มีโอกาสเกิดเป็นเรื่องจริง
อยากจะให้ความฝันได้แปรเปลี่ยน
เป็นความจริงแวะเวียนมาหาบ้าง
อย่าให้ฉันต้องนอนฝันอย่างอ้างว้าง
ฝันสลายทุกวันวารน่าเศร้าใจ
บทที่ 5 ฟ้าไม่ปรานีชีวิตของคนเราช่างแปลกนัก
เพิ่งได้เห็นเพิ่งประจักษ์ในสิ่งนี้
ชายคู่หญิงหญิงคู่ชายช่างแสนดี
กฎเกณฑ์นี้ฟ้าสร้างมาหรืออย่างไร
ถ้าฟ้าสร้างหญิงชายให้เคียงคู่
ฟ้าสร้างมาให้สมสู่เป็นคู่สอง
แล้วทำไมสร้างบางชายให้หมายปอง
สร้างให้ลองรสสวาทพวกเดียวกัน
อนิจจาเกิดมาอาภัพนัก
ที่ต้องมาหลงรักเพศของพ่อ
สุดแสนเจ็บปวดใจลำบากท้อ
จำต้องฝืนทนเดินต่อตามบุญกรรม
อยากจะร้องอ้อนวอนกับฟากฟ้า
ไฉนเลยสร้างข้าผิดวิถี
ให้ชอบชายเหมือนกันเศร้าสิ้นดี
ฟ้าเอ๋ยฟ้าไม่ปรานีกับข้าเลย
บทที่ 6 น้ำตาเลือดฉันยังจำเรื่องราวแต่คราวก่อน
ทุกบทตอนยังชัดเจนไม่แปรผัน
คนรักฉันกลายเป็นอื่นเสียโดยพลัน
หยาดหนึ่งนั้นหยดน้ำตาเริ่มไหลริน
จากวันแรกที่น้ำตาต้องไหลหยด
ฉันเริ่มรดความรักกับชายอื่น
เกิดเรื่องราวเหมือนคราวก่อนทุกวันคืน
เสียน้ำตาให้คนอื่นไปมากมาย
ชายทุกคนผ่านเข้ามาในชีวิต
ล้วนเป็นไปตามลิขิตแห่งตัณหา
ฉันต้องทนขื่นขมหลั่งน้ำตา
เฝ้ามองหาใครสักคนที่รักจริง
โอ้น้ำตาเจ้าเอ๋ยเริ่มแห้งเหือด
เจ้ากลับกลายเป็นเลือดรินไหลหลั่ง
ต่อจากนี้ชีวิตคงเป็นความฝัน
แม้โลหิตยังถูกกลั่นเป็นน้ำตา
ภาพความฝันช่างชัดเจนและงดงาม
ฉันได้พบหนุ่มรูปงามที่ใฝ่ฝัน
เราต่างตกเป็นของกันและกัน
เขาเอื้อนเอ่ยน้ำคำพร่ำเจรจา
คำว่ารักเปี่ยมล้นแผ่ซาบซ่าน
เป็นคำหวานคำสุดท้ายที่ให้ฉัน
น้ำตาเลือดหยดสุดท้ายหลั่งไหลพลัน
ปลื้มปีติตื้นตันแล้วสิ้นใจ
บทที่ 7 โลกของเกย์ ภาค 2"โลกของเกย์ ภาค 2" มีเนื้อหาต่อจาก “โลกของเกย์” ที่ผมเคยแต่งไว้แล้วครับ
......................................โลกของเกย์ ภาค 2เวลาผ่านไปหลายเดือน
ความรักเริ่มเลือนเริ่มหาย
ฉันอยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย
เริ่มคลายความเศร้าโศกตรมเข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง
จากเคยบอบบางช้ำชอก
เกย์ที่เคยถูกเขาหลอก
ไม่มีใครหลอกอีกได้นี่คือโลกของความจริง
รักแท้รักจริงไม่เกิด
ผ่านแล้วไม่ต้องลำเลิก
หาคนอื่นเถิดคนดีฉันเห็นว่าความคิดนี้
เห็นแก่ตัวสิ้นดีเหลือหลาย
ถ้าทำอย่างนี้จนตาย
มันเป็นผู้ชายไม่ดีฉันคิดว่าควรมีแฟน
ไว้เป็นตัวแทนของฉัน
รักแล้วไม่นอกใจกัน
มีความสัมพันธ์คนเดียวคุณรู้ไหมฉันคิดผิด
ไม่มีใครคิดแบบนี้
ยิ่งผ่านเยอะเยอะยิ่งดี
มันคือศักดิ์ศรีชาวเกย์เกย์ต้องผ่านชายให้มาก
ช่วยสนองความอยากตัณหา
ความรักไม่ต้องนำมา
เนื้อหนังมังสาสิดีเกย์จึงไม่เคยรักจริง
ชอบฟันแล้วทิ้งกันมาก
แต่ก็ไม่เคยลำบาก
เพราะไม่คิดมากทั้งคู่ต่างคนต่างหาคนใหม่
แยกจากกันไปง่ายง่าย
ดูเถิดมันช่างวุ่นวาย
มีแฟนมากมายเสียจริงฉันเองก็ทำแบบนี้
ผ่านชายมากมีผ่านหมด
ถึงแม้มันแสนมันส์หยด
แต่เหมือนโกหกตัวเองสุดท้ายเมื่อฉันแก่เฒ่า
ใครเล่าจะมาห่วงฉัน
ใครจะมาห่วงใยกัน
แน่นอนตัวฉันห่วงเองเกย์เมื่อกลายเป็นคนแก่
หมดค่าลงแน่ดังหมาย
เรี่ยวแรงกำลังในกาย
สูญสิ้นมลายหายไปได้แต่นอนรอวันตาย
คิดแล้วใจหายแสนเศร้า
เกย์มากมายในวันเก่าเก่า
ไม่สนใจเราอีกแล้วชีวิตฉันมีแต่ทุกข์
ไม่เคยมีสุขกับเขา
จะหาคนที่รักเรา
ยิ่งหายิ่งเหงาจับใจในเมื่อไม่มีใครรัก
ฉันก็ต้องไม่รู้จักเรื่องนี้
เรื่องรักฉันต้องไม่มี
ฉันต้องไม่มีหัวใจฉันต้องก้าวเดินตามทาง
บนถนนน้ำกามสายนี้
ตามรอยพวกเกย์รุ่นพี่
ไม่มีโอกาสเปลี่ยนได้ผู้คนรังเกียจตัวฉัน
เป็นเกย์นี้มันสิ่งผิด
ไม่มีใครเลยจะคิด
สิ่งนี้เป็นลิขิตจากสวรรค์ฉันไม่ได้อยากเป็นเกย์
จิตใจหันเหแบบนี้
เสียใจอยู่ทุกนาที
ที่ไม่มีผู้สืบทอดสกุลสุดท้ายฉันขอบางสิ่ง
ชาติหน้ามีจริงดังหมาย
ฉันขอเกิดเป็นผู้ชาย
เป็นชายสมชายเสียทีรักชอบผู้หญิงได้บ้าง
ไม่ต้องอ้างว้างเหมือนเก่า
อย่าให้ฉันมีแต่เงา
เป็นเพื่อนแก้เหงาคนเดียว
บทที่ 8 คำมั่นสัญญาฉันเคยมีความรักที่แสนหวาน
ดังสวรรค์บันดาลและฟ้าส่ง
ให้มาพานพบรักในบัดดล
ดวงกมลอุ่นรักประทับใจ
เป็นความรักครั้งแรกในชีวิต
เป็นความผิดที่ตัวฉันก่อกำเนิด
หลงคิดว่ารักนั้นช่างเลอเลิศ
จึงทุ่มใจอันประเสริฐให้หมดสิ้น
ถือคำมั่นสัญญากับฟ้าดิน
จะรักกันจนสิ้นอายุขัย
ช่างเป็นคำที่ปวดร้าวเหนือคำใด
เมื่อได้รู้ไม่มีใครเขารักจริง
เกย์ทุกคนผ่านแล้วก็ผ่านเลย
เรื่องหัวใจไม่เคยให้คนอื่น
ฉันปวดร้าวในใจสุดกล้ำกลืน
ต้องทนฝืนแม้ต้องขื่นต้องขมใจ
หวนคิดถึงคำมั่นสัญญาเขา
ที่ว่าจะรักเราดั่งใจหมาย
ไม่มีวันเกิดขึ้นได้แม้ชีพวาย
มิเคยคลายความหนาวเหน็บเจ็บโศกทรวง
คำสัญญามากมายที่เอื้อนเอ่ย
ทุกถ้อยคำไม่จริงเลยแสนผิดหวัง
จดจำไว้เป็นบทเรียนไม่จีรัง
อย่าได้หวังคนจริงใจมันไม่มี
หน้า:
[1]