ตึก 13
ตอน.. ตึก 13
http://image.dek-d.com/contentimg/2012/normai/ghoststory2012/ghoststory_06.jpg
เรื่องสัปดาห์นี้ การันตีหลอนด้วยรางวัล "อ่านแล้วเสียวสันหลัง" สวัสดีครับ เรื่องลี้ลับในสถาบันสัปดาห์นี้ พี่ลาเต้ ขอเตือนให้น้องๆ รีบไปหาพระมาห้อยคอก่อนอ่านแบบด่วนๆ เพราะอาจทำให้หลายคนนั่งช็อคไม่กล้าลุกไปไหนก็เป็นได้ โดยเป็นเรื่อง “ตึก 13” จากน้องอนิวรรต การรันตีเป็นเรื่องผี 1 ใน 5 เรื่องที่ชนะเลิศการประกวดกิจกรรม “ฮาโลวีนปีนี้ชวนเด็กดีมาเล่าเรื่องผีกัน” ไม่ให้เสียเวลา ไปหลอนพร้อมกันเลยครับ
เป็นเรื่องที่พบมากับตัวที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง (เป็นชื่อกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่กอบกู้เอกราชให้ชาติไทย) เรื่องมีอยู่ว่าในหอพักในของนิสิต ก็มีด้วยกันหลายตึก บางคนก็บอกตรงนี้เป็นสุสานของทหารที่ตายไป บางคนก็บอกเคยเห็นเปรตบริเวณนี้ บางตึกก็มีผีจนเจอกันทุกรุ่น จนบางชั้นว่างไม่มีคนอยู่ แต่ตึกที่เราอยู่นั้นเป็นตึก 13 ชั้น 3 ตรงบันไดหนีไฟ ตอนเข้าไปพักใหม่ๆ ตามภาษานิสิตใหม่ก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เล่ากันมาhttp://image.dek-d.com/contentimg/2012/latae/content/020.jpg
ในช่วงที่มีซ้อมเชียร์กัน เพื่อนของเราก็ไปซ้อมเชียร์กัน จนเหลือเราคนเดียวที่กลับมาก่อน เพราะเป็นนักกีฬาคณะ ซ้อมเสร็จก็กลับมาที่ห้องพัก กำลังจะไขประตูเข้าไป เหมือนมีคนเดินผ่านข้างหลังเป็นลมเย็นผ่านไปว๊าบ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดในแง่ดีอาจจะเป็นลมข้างนอกพัดมาก็ได้ แต่พอมองไป เอ๊ะ!! ประตูบันไดหนีไฟปิดอยู่ แล้วลมมันจะมาจากไหน ?? ก็ไม่ได้คิดมากอะไร รีบเดินเข้าห้องไป เปิดไฟ วางของเรียบร้อย ก็เดินออกไปนอกระเบียง ซึ่งตรงระเบียงเต็มไปด้วยแป้งที่เพื่อนทาตกไว้ที่พื้น เราก็เข้าห้องอาบน้ำ กำลังหยิบสบู่ ระหว่างทำกิจอยู่นั้นได้ยินเหมือนมีใครมาสวดมนต์ในห้องเรา เราก็ลองปิดน้ำฟักบัว เพื่อฟังเสียง แต่ปรากฏว่าเสียงนั้นก็เงียบไป
หลังจากทำธุระในห้องอาบน้ำเสร็จ เปิดประตูออกมากำลังจะก้าวเท้า กลับเห็นลอยเท้าที่มีลักษณะเหมือนคนยืนเขย่งๆ เต็มไปหมด ซึ่งก่อนเข้าห้องน้ำมันไม่มี ที่หนักไปกว่านั้นไฟที่เราเปิดไว้เกิดดับเฉยเลย แต่ไฟหัวนอนตรงโต๊ะอ่านหนังสือกลับเปิดซึ่งแต่เดิมเราไม่ได้เปิดไว้ เราก็คิดอีกแง่ว่าเพื่อนอาจกลับมาเอาของแล้วเปิดไฟหัวเตียงไว้แล้วรีบไป
ระหว่างรอเพื่อนกลับจากซ้อมเชียร์ เราก็ดูโทรทัศน์ กินข้าวผัดอเมริกันไป เพื่อนก็กลับมา มันก็เข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำ ส่วนเราก็เข้าไปทำธุระในห้องน้ำ (คือที่หอพักตรงระเบียงจะมี 2 ห้องคือ ห้องน้ำ กับห้องอาบน้ำอยู่ในตัวเลย) เพื่อนเราลืมเอาแปรงสีฟันเข้าไปมันก็ออกมา แล้วเรากำลังทำธุระในห้องน้ำอยู่ ก็ได้ยินเสียงเพื่อนกำลังคุยกับใคร แต่ก็คิดว่าคุยโทรศัพท์ก็เฉยๆ พอเราออกมา เพื่อนก็ถาม "เป็นไรหรือป่าว เมื่อกี้ทักแล้วไม่ตอบ หันหลังนั่งเงียบ" เราก็อุทานออกมา "บ้า เราอยู่ในห้องน้ำอีกห้อง" จนเพื่อนเราเริ่มหน้าเสีย ตอนนั้นเราก็คิดในใจว่ามันต้องเห็นอะไรแน่ๆ
หลังจากนั้นเพื่อนก็ขอตัวไปหาเพื่อนหอ 12 ตรงข้ามกับหอเรานี้แหละ เราก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ แต่เรามีกระจกตั้งข้างๆ เราก็ไม่ได้ตั้งใจจะมองกระจก แต่ระหว่างอ่านหนังสือก็เผลอไปมอง กลับเห็นเป็นคนยืนหันหลังอยู่ ตอนนั้นหัวใจเต้นแรงมากเลย และอยู่ดีๆ ก็มีเสียง "เมิงเห็นกรูใช่ไหม" เรานั่งนิ่ง เสียงนั้นย้ำอีกครั้ง "เมิงเห็นกรูใช่ไหม เมิงเห็นทำไมเมิงไม่ตอบ" ตอนนั้นเราจะวิ่งไปข้างนอกก็ไม่ได้ เพราะมันอยู่ตรงประตู เราก็เลยหลับตาแล้วขยับไปที่เตียงแล้วก็นั่งนิ่งๆ เหมือนนั่งสมาธิแล้วลืมตามันก็ไม่เห็นแล้ว
จังหวะพอดีมาก เพื่อนที่ไปตึก 12 กับเพื่อนที่ซ้อมเชียร์ก็กลับมาพร้อมหน้า เราเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฟัง มันก็ไม่เชื่อ คิดว่าตาฟาด จนเราตัดสินใจนอนเลยเพื่อข่มความกลัว พอหลับไม่เท่าไหร หูเราก็ดันไปได้ยินเสียงเด็กทารกร้องแง๊ๆ อาแว๊ๆ ตรงหัวเตียงดังมากประมาณ 5-6ครั้ง ซักพักตัวเราเองเหมือนผีอำ ขยับตัวไม่ได้ หายใจไม่ออก ลืมตาได้อย่างเดียว มองไปที่เพื่อนจะเรียกเพื่อนก็เรียกไม่ได้ พยายามถีบก็ถีบไม่หลุด สวดมนต์ก็ไม่ได้ผล พอแผ่เมตตาเท่านั้นแหละจากเด็กทารกหัวเตียง กลายมาเป็นเด็กน้อยนั่งข้างเตียงทันที มองมาตรงประตูก็เห็นผู้หญิงชุดขาวผมปิดหน้ายืนอยู่!!!
เราเป็นแบบนี้ทั้งคืน ขยับไม่ได้ มองไปทีไรก็เห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ เด็กน้อยก็วิ่งไปวิ่งมา ก็เลยอธิษฐานตั้งจิตถึงพระนเรศผู้เป็นใหญ่ในที่แห่งนี้ช่วยให้รอดพ้นจากสภาวะที่ได้เห็นแบบนี้ แล้วลูกจะเอาดอกกุหลาบไปถวายพระองค์ 10 ดอก หลังจากจบคำอธิษฐานตัวก็เย็นวาบ เริ่มหายใจได้ปกติ ขยับแขนขาได้ตามเดิม
ตื่นมาเราก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ใครฟัง ถ้าเล่าไปจะทำให้เพื่อนกลัวป่าวๆ หลังจากนำดอกกุหลาบไปถวาย แล้วขอให้พระองค์ดูแลเราตลอดจนจบ จนทุกวันนี้ก็ไม่ได้เจออะไรเลย แต่ในใจตอนนี้เราก็ยังแอบสงสัย และอยากรู้ว่าเสียงสวดมนต์ รอยเท้า ผู้หญิง และเด็กทารกนั้น เขาเป็นใคร และทำไมถึงมาอยู่ในหอแห่งนี้!!
หน้า:
[1]