อยู่อย่างไม่เจ็บปวด...เมื่อลูกเป็นเกย์....
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nokky เมื่อ 2013-3-23 18:15อยู่อย่างไม่เจ็บปวด...เมื่อลูกเป็นเกย์.... http://board.postjung.com/data/665/665894-img-1363947352-1.jpg"คุณ จะทำอย่างไร เมื่อพบว่าลูกชายวัยนี้ไม่พึงใจในเพศของตัวเอง..." คำถามนี้อาจทำให้พ่อแม่รู้สึกยุ่งยากใจที่จะคิดหาคำตอบ บางคนอาจเลือกที่จะปฏิเสธในสิ่งที่ลูกเป็น บางคนพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปรับเปลี่ยนลูกให้กลับมาเป็นผู้ชายให้ได้เราไม่สามารถเปลี่ยนลูกได้ก็จริง แต่ก็ยังรักกันได้มิใช่หรือ???แต่ ที่แน่ๆ ก็คือ ไม่มีพ่อแม่คนไหนยอมรับได้อย่างหน้าชื่นตาบานหรอกว่าลูกฉันเป็น ตุ๊ด เกย์ กระเทย และอีกสารพัดคำจำกัดความ โดยไม่ผ่านความรู้สึกงุนงงและเจ็บปวดมาก่อน (แม้ปัจจุบันกลุ่มคนเพศที่ 3 ที่ 4 จะมีบทบาทในสังคมมากขึ้นก็ตาม)ส่วน ในมุมมองของลูกที่กายเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงล่ะ เขาก็คงรู้สึกทุกข์ทรมานไม่แพ้กัน ที่ต้องคอยโกหก ปกปิด ซ่อนเร้นตัวตนที่เขาเป็น เพราะรู้แก่ใจว่า เมื่อเปิดเผยออกมาแล้ว พ่อแม่ย่อมรับไม่ได้...ต่างฝ่ายต่างก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน แล้วแบบนี้จะมีวิถีทางใดบ้าง ที่จะช่วยลดทอนความเจ็บปวดของทั้งสองฝ่ายได้ เมื่อความจริงเกิดเผยตัวตนออกมา...คุณ หมออัมพร เบญจพลพิทักษ์ จาก สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ได้ยกกรณีตัว อย่างให้ฟังว่า มีคุณแม่ท่านหนึ่งมาปรึกษาเรื่องลูกชายอยากเป็นผู้หญิง ซึ่งปัญหานี้เกิดมาได้ 3 ปีแล้ว และคุณแม่ก็พยายามแก้ไขด้วยการจับลูกแต่งตัวเป็นผู้ชาย และโกนผมลูกซะเกรี๋ยน...แต่ไม่ได้ผล"หมอ ก็ถามเด็กคนนั้นว่า รู้ไหมว่าทำไมคุณแม่ถึงพามาหาหมอ เด็กตอบว่า ก็คุณแม่ไปยืมการ์ตูนเซเลอร์มูนมาให้ดู พอหนูดู แล้วหนูก็เลยอยากเป็นเซเลอร์มูน หนูก็บอกให้คุณแม่ซื้อรองเท้าส้นสูงมาให้ใส่ หนูเห็นว่าเป็นผู้หญิงสนุกดี ส่วนคุณแม่บอกว่า ลูกขอร้องให้ซื้อและทนการรบเร้าไม่ไหว จากนั้นสองแม่ลูกก็ขว้างหนังสือใส่กัน และเล่นกัน"ตรง นี้เอง ทำให้หมอนึกย้อนไปตอนแรกที่คุณแม่เข้ามาในห้อง แล้วทำเสียงดุใส่ลูกชายเพื่อให้สวัสดีหมอ และขณะที่ลูกกำลังซน คุณแม่บอกว่าอย่าทำ แต่กลับเล่นกับลูกด้วย แล้วก็ผวาเข้าไปกอด หอมแก้มลูกชายอีก 2-3 ครั้งท่า ทีที่ถดถอยของเด็กคนนี้เรียกความเอ็นดูได้มากมาย แต่บ่อยครั้งที่ท่าทีเหล่านี้ผสมท่าทีของความเป็นผู้หญิงเข้าไปด้วย และคุณแม่ก็เลยเถิดมองข้ามไป คุณแม่บอกว่าอย่าทำอย่างนี้ แต่กลับผวาเข้าไปกอด สิ่งที่คุณแม่บอกด้วยวาจากลับไม่สัมพันธ์กับภาษากาย ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง เพราะฉะนั้น ต่อให้คุณแม่ตัดผมลูกสั้นแค่ไหน หรือแต่งตัวให้เขาดูเป็นผู้ชายยังไง ก็แก้อะไรไม่ได้ แต่หมอไม่ได้หมายความว่า แม่จะต้องเสียงเขียวเข้มดุว่าลูกที่แสดงพฤติกรรมออกมาเป็นหญิง เพราะสาเหตุที่มาของปัญหานี้เป็นเรื่องซับซ้อนพอสมควร มีทฤษฎีมากกว่า 40 ทฤษฎี ที่พยายามอธิบายปัญหาของการเบี่ยงเบนทางเพศในเด็กมี คนสงสัยว่า ทำไมเดี๋ยวนี้จึงมีเด็กเบี่ยงเบียนทางเพศมากขึ้น สาเหตุของการเบี่ยงเบนทางเพศ ประเด็นหนึ่งที่เคยพูดกันก็คือ เรื่องของชีวภาพ เราไม่แน่ใจว่าพันธุกรรมโครโมโซมแท่งไหนที่เป็นตัวกำหนดเรื่องของการเบี่ยง เบนทางเพศ...แต่อย่างไรก็ตาม หมอก็ยังเชื่อในเรื่องของการเลี้ยงดู พ่อแม่บางคนอาจโทษสื่อ แต่อยากจะเรียนว่า สื่อเป็นอะไรที่ไกลตัว และยังแก้ไขไม่ได้ แต่สิ่งที่เราสามารถแก้ไขได้ก็คือบรรยากาศในครอบครัวมีคำแนะนำสำหรับพ่อแม่ในการปฏิบัติตัวเมื่อทราบว่าลูกเป็นเกย์หรือทอม-ดี้ โดยจิตแพทย์ดังนี้
1. ยอมรับในตัวตนของลูก นักจิตวิทยาบอกว่าลูกรู้สึกกลัวอย่างมากเมื่อเปิดเผยให้พ่อแม่ทราบว่าตัวเอง เป็นเกย์เพราะกลัวว่าพ่อแม่ผิดหวังหรือไม่รัก ดังนั้น พ่อแม่ต้องทำให้ลูกรู้ว่าไม่ว่าลูกจะเป็นเกย์ทอมหรือดี้ ก็ไม่ได้ทำให้ความรักที่พ่อแม่มีให้เปลี่ยนแปลงหรือลดน้อยลง
2. อย่าโกรธ หรือผิดหวังในตัวลูก แต่ให้ขอคิดว่าที่ลูกเปิดเผยตัวนั้น เพราะลูกรักเรา และต้องการบอกความจริงให้เราทราบ พ่อแม่ทุกคนพร่ำสอนลูกว่ามีปัญหาอะไรให้บอก ซึ่งปัญหาทุกอย่างมีทางแก้เสมอ เมื่อลูกตัดสินใจบอก ก็ควรดีใจที่ลูกเชื่อฟังในสิ่งที่เราสอน และเชื่อใจว่าเราจะช่วยหาทางออกให้
3. เคารพในการตัดสินใจของลูก แม้เราจะไม่เห็นด้วยที่ลูกเป็นเกย์ทอมดี้ แต่การตัดสินใจที่แตกต่างในดำเนินชีวิต ไม่ควรมาเป็นสิ่งที่ขวางกั้นความรักความผูกพันของพ่อแม่กับลูก
4. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเกย์ทอมดี้ เพราะจะช่วยให้เข้าใจว่าเกย์ทอมดี้ก็คือคนปกติทั่วไป เราอาจจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่เป็นเกย์หรือทอมหรือดี้โดยที่เราไม่ทราบ เพราะคนเหล่านี้ก็ดำเนินชีวิตปกติเหมือนกับเรา
5. อย่าผิดหวังว่าเมื่อลูกเป็นเกย์หรือเลสเบี้ยนแล้วจะไม่มีหลานให้ชื่นชม ให้คิดว่าเราไม่ได้มีลูกมาเพื่อให้ลูกแต่งงานมีหลานสืบตระกูล ดังนั้น จึงอย่ากดดันลูกว่าจะไม่ได้แต่งงานมีลูก การบังคับให้ลูกแต่งงานกับเพศตรงข้ามเพื่อหน้าตาหรือมีทายาท จะเป็นการทำลายชีวิตของลูก
6. อย่าโทษตัวเองว่าทำให้ลูกเป็นเกย์หรือทอมดี้ การที่ลูกเป็นเกย์หรือทอมดี้ไม่ได้หมายความว่าเราเลี้ยงลูกผิด และไม่ได้หมายความว่าเราเลี้ยงลูกได้ด้อยกว่าพ่อแม่ที่ลูกชอบเพศตรงข้าม
7. เข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือจิตแพทย์ หากลูกต้องการเข้ารับคำปรึกษา ถ้าลูกไม่ต้องการก็อย่าบังคับ
สมัยนี้ถ้าลูกไม่ติดหรือค้ายาเสพติด ต้องถือเป็นบุญของพ่อแม่แล้วครับ เพศอะไรก็ไม่เกี่ยง
หน้า:
[1]