ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 564|ตอบกลับ: 11

ลูกแก้วมังกร รามูนจ้าวแห่งสายลม ??? 6

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


                   “เราไปพักเถอะ ขอบใจที่ดูแลอาอยากหลับแล้วสิช่วยปิดประตูให้ด้วยล่ะ”  พูดจบผมพลิกตะแคงปิดตาลงทันที ไม่สนใจว่าเจ้าตัวจะคิดยังไง  หูแอบได้ยินเสียงประตูปิดลงเบาๆ แสดงว่าลูกแก้วคงเดินออกจากห้องไปเรียบร้อยแล้วผมถึงเปิดเปลือกตาขึ้นครุ่นคิดอยู่คนเดียวถ้าความรู้สึกผมเดาไม่ผิดว่าลูกแก้วคิดกับผมเกินอาหลานผมคงต้องรักษาระยะห่างไว้เสียแล้ว กระทั่งปรือหลับเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดลงในไปที่สุด
Part  6
ท้าพิสูจน์?

                  “อืม..โอ๊ะ!” ตกใจสิครับ ลืมตามาปะทะแผ่นอกแกร่งกล้ามเป็นลูกเลย เจออ้อมแขนบึกกอดเอาไว้อีก
ดีที่เจ้าของท่อนซุงยักษ์ไม่ได้กระทบโดนหัวไหล่ที่บาดเจ็บ  สรุปตอนนี้ผมนอนซบอกเปลือยของใครเล่าหืม?  
              เหลือบตาขึ้นมองหน้าแม้ในใจจะคิดไปก่อนแล้ว ตัวหนาล่ำบึกไซร้เกินมาตรฐานแบบนี้จะมีใครได้อีก แต่ก็ขอพิสูจน์ให้แน่ใจสักหน่อยพอสายตาสบกับใบหน้าหล่อเข้มตาปิดสนิทหัวกระเซิงใช่เลย ‘ลูกแก้ว’ หลานเปรตนี่เกิดอุตริพิเรนทร์อะไรถึงขึ้นมานอนบนเตียงของผมด้วย ยังมีหน้ามากอดผมอีก มีการเอาหมอนหนุนไหล่ขวาให้อีกต่างหากทำเหมือนจะหวังดีกลัวผมเจ็บแผล แต่กลายเป็นว่าหน้าผมเลยต้องซบอกเจ้าตัวอย่างไม่มี
ทางเลี่ยง สมองไวเท่าความคิด
                 “พลั๊ก!โอย!อ่า..ซี๊ด!” ตามนั้น เสียงวัตถุน้ำหนักเกือบร้อยกิโลหล่นลงบนพรมข้างเตียงแหกปาก
ร้องซะเสียงดัง มือคลำสะโพกปอยๆทำปากยื่นค้อนผมปะหลับปะเหลือก  ส่วนผมก็หลุดซี๊ดปากเพราะออกแรงถีบไอ้เด็กโข่งลงไปนอนวัดพื้นแต่ตัวเองดันเจ็บเพราะกระเทือนแผลเข้าให้
                    “ถีบผมทำไมอ่า?”  แน่ะ!ดูทำหน้าเข้า
                            “ละเมอมั้งนึกว่าถีบคิงคอง แล้วเรามานอนบนเตียงอาทำไม?” ออกลูกกวนหน้านิ่ง
จ้องไอ้หลานสุดแสบอย่างคาดคั้น  
                           “ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ ก็ใครเล่าไข้ขึ้นเพ้อทั้งคืน ผมอุตส่าห์คอยเช็ดตัวลดไข้ให้ทุกชั่วโมงกว่าจะได้พักค่อนรุ่ง ที่ขึ้นไปนอนด้วยก็อาเพ้อว่าหนาวๆ ปิดแอร์ก็แล้วห่มผ้าให้ก็ไม่หายหนาว ผมก็เลยขึ้นไปนอนกอดอาเอาไว้ถึงได้หลับลงสักที” ตายห่า! ดูมันทำสายตาตัดพ้อผมสิ  ผมไม่รู้ตัวเลยจริงๆ ว่าเพ้อเพราะพิษไข้  
                         “แล้วอาจะรู้ไหมหืม ว่าแต่เราเถอะนี่อยู่เฝ้าไข้อาทั้งคืนเลยว่างั้น?” เนียนแกล้งถามไปงั้น ยอมรับว่ารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่ไม่น้อยหิวน้ำชะมัด
                       “ก็ใช่สิครับ ถ้าไม่ใช่ผมอาคิดว่าใครจะมาคอยเช็ดตัวให้คนเพ้อเพราะพิษไข้ทั้งคืนอีกเล่า” แน่ะ!
มีค้อนผมอีก
                       “โทษทีอาไม่ชินกับการที่มีใครนอนด้วย หิวน้ำรบกวนเราหน่อยสิ” ผมตัดบท ขืนพูดต่อคงได้ออกลูกนอยด์ไม่เลิก เจ้าตัวรีบลุกขึ้นกุลีกุจอรินน้ำใส่แก้วเสียบหลอดให้พร้อม ท่าจะเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วนะนั่น
                     “ขอบใจมาก นี่เราเตรียมไว้พร้อมเลยหรือ?” ผมบอกหลังดื่มน้ำแก้กระหายเรียบร้อย
                    “คนจับไข้เหงื่อจะออกเยอะ ทำให้น้ำในร่างกายหายไปด้วยพอตื่นมาหิวน้ำทุกราย ผมเลยเตรียมไว้พร้อม ว่าแต่เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ก่อนแล้วค่อยทานข้าวทานยาตามหมอสั่งนะครับ” พูดจบเดินหายเข้าห้องน้ำไปทันทีไม่รอให้ผมพูดเลย เห็นทีต้องคุยเสียแล้วขืนปล่อยไว้แบบนี้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แกล้งไม่เข้าใจพฤติกรรมของเจ้าเด็กบ้านี่คงได้เปลืองตัวตลอด ไม่ถึงห้านาทีตัวแสบก็เดินออกมาพร้อมอ่างใบเดิมและผ้าขนหนูแช่มาเรียบร้อย
                         “เสื้อผ้าอาไปไหนหมด  ขอคำอธิบายหน่อย?” ผมถามหลังรู้ว่าใต้ผ้าห่มหนาที่คลุมร่างอยู่นี่ ผมตัวเปล่าล่อนจ้อนไม่มีอะไรติดกายสักชิ้น
                       “ก็อาเหงื่อออกเยอะเสื้อผ้ามันชุ่มไปหมด ผมก็เลยถอดออก อีกอย่างจะได้สะดวกตอนเช็ดตัวลดไข้ให้ด้วย” ฟังเหตุผลที่ให้มาสิ ดูดีชะมัด
                       “อืม..วานเราหยิบเสื้อคลุมให้หน่อยสิ  ขออาทำธุระส่วนตัวสักครู่ รู้สึกดีขึ้นมากแล้วตั้งใจจะแช่น้ำอุ่น เรากลับไปห้องได้เลยขอบใจมาก”
                      “ไม่ได้ครับ ขืนอาอาบน้ำไข้กลับแน่ ทำธุระส่วนตัวก็พอห้ามแช่น้ำอุ่นเด็ดขาด เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้เอง”  ตกลงจะเช็ดตัวผมให้ได้สินะ
                       “ลูกแก้วอาถามจริงๆเถอะ เราแมนเต็มร้อยหรือเปล่า?” ตัดสินใจถามไปเลยดีกว่า ไม่ชอบค้างคาใจไม่ว่าคำตอบจะอะไรก็ตามป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่ผมจะปล่อยให้มันมากไปกว่านี้ ไม่ใช่ว่าคิดเยอะหรอกนะมันไม่ใช่ทางของผม ที่สำคัญความสัมพันธ์ทางสายเลือดของเราทั้งคู่คือสิ่งที่มันผิดจารีตประเพณี ไม่มีอะไรที่ต้องคิดแล้วเพราะมันไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้น หากลูกแก้วเค้าจะคิดกับผมเกินอาหลานธรรมดาทั่วไป
                          “ผมเป็นผู้ชายครับ แค่เคยลองฟันผู้ชายมาครั้งเดียว” กรรม ฟังคำตอบก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวยังไม่เข้าใจรสนิยมทางเพศของตัวเอง
                         “อืมแล้วชอบไหม ผู้หญิงละคงไม่เคยสินะ?” ผมถามต่อ  พยายามชวนคุยเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่ในใจตอนนี้เสียวสันหลังวาบที่ปล่อยให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้สอบถามรายละเอียดเสียตั้งแต่แรก
เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน  ไม่ติดกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวของผมคงไม่เข้าไปวุ่นวายด้วยหรอก
                   “เคยสิครับทำไมผมจะไม่เคย  ผู้ชายแค่ครั้งเดียวเอง” ตอบได้หน้ามึนมาก มีหน้าทำตาใสจ้องตอบผมยืนยันคำพูดอีก  เฮ้อ!
                “เรามีความรู้สึกกับผู้ชายหรือผู้หญิงมากกว่ากัน?” ตรงประเด็นเลยดีกว่า  ไม่งั้นเจ้าเด็กโข่งนี่คงไม่เข้าใจตัวเองสักที
             “ผมบอกแล้วว่าผมเคยมีกับผู้ชายแค่ครั้งเดียวเอง อยู่ในภาวะจำยอมไม่ได้เกิดจากความพอใจอะไร
ของผมหรอกครับ สาบานได้ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ คิดว่ามันคือประสบการณ์หนึ่งของชีวิต แต่กับผู้หญิงเป็นเรื่องปกติผมไม่ได้นึกพิศวาส ผู้ชายนะ  ยกเว้น..?”  มีเว้นช่องว่าง แล้วจ้องหน้าผมซะงั้น  ชัดเจนกับคำตอบในแววตา
            “ถ้าเราคิดอย่างนั้น  อาว่าเราสองคนควรห่างการสัมผัสกันดีที่สุด  เพราะอาไม่ชอบแบบนี้  อีกอย่างเราเป็นหลานไม่ว่าจะมุมไหนก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง เป็นไปได้อาต้องการให้เราเลิกคิดซะ” ผมพูดตรงไม่ชอบอ้อมค้อม  นี่คือนิสัยของผมเลยล่ะ
          “เลิกไม่ได้ครับเพราะผมไม่คิดจะเลิก ส่วนเรื่องสายสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ผมรู้ดีและไม่สนใจด้วย  ผมรักอา..ฟังชัดๆผมรักอา” ไปไม่เป็นเลย ไอ้เด็กร่างยักษ์ที่กำลังยืนเปลือยท่อนบนนุ่งบ็อกเซอร์ตัวเดียวกล้าสารภาพรักกับผมง่ายดายเสียเหลือเกิน แววตาที่จ้องผมตอนนี้พาเอาขนลุกเลยเหอะ  ให้ตายมันดูแน่วแน่จริงจังชะมัดยาด
             “มันไม่ใช่ความรักหรอกลูกแก้ว  เรายังเด็กจะอะไรก็แล้วแต่อาไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนถึงสะกิดความรู้สึกของเราเข้าให้ จนเรากล้าใช้คำว่ารักและรู้สึกกับอาแบบนี้ ทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกันไม่ถึงสามอาทิตย์” ผมพยายามยกเหตุผลมาชักจูงให้เจ้าหลานตัวโข่งมองเห็นความจริง  เผื่อจะคิดได้บ้าง
               “ผมรู้จักอามาตั้งแต่เกิด เห็นอาจากรูปของแม่ที่เอาติดตัวไปด้วย เด็กผู้ชายตาโตแก้มใสที่ผมมองประจำ ทุกวันนี้ผมยังพกติดตัวอยู่ตลอด แม่เล่าให้ผมฟังถึงเรื่องราวของเด็กชายมังกร จนผมอยากดูแลเขา อยากทำหน้าที่เหมือนที่แม่เคยทำ เคยคิดไว้ว่าสักวันผมคงได้ดูแลเด็กชายมังกร แล้ววันนี้ก็มาถึงแม้จะยังไม่เท่ากับที่แม่ทำให้อาก็เถอะ อย่างน้อยก็เป็นการเริ่มต้นดูแลแล้ว เด็กชายมังกรของผมตอนนี้เป็นหนุ่มใหญ่น่ารักกว่าเดิมอีก แล้วอาจะให้ผมตัดใจไม่รักได้อย่างไรในเมื่อผมรักของผมมา 22 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมารู้จักหรือนึกรักอย่างที่อาเข้าใจ”  ผมยอมรับว่าตกใจกับสิ่งที่ได้ฟังจากปากของเจ้าเด็กโข่งที่บัดนี้ลงมานั่งห้อยขาบนเตียงจ้องหน้าผม
ไม่วางตาโดยไม่คิดจะหลบ สายตาเว้าวอนที่ฉายชัดมากับคำพูดนั่นอีก เหมือนเจ้าตัวจะบอกว่าทุกคำเป็นความจริงไม่ได้เสแสร้งต้องการยืนยันให้ผมเชื่อสินะ  นั่นไม่ใช่ประเด็น..ปัญหามันอยู่ที่ว่าผมเป็นอาของเจ้าเด็ก
บ้านี่  เกิดนึกเพี้ยนอะไรขึ้นมาถึงได้รักอาของตัวเองเข้าหืม
                    “ลูกแก้ว รู้ใช่ไหมว่าเราสายเลือดเดียวกัน”  ผมย้ำให้เจ้าตัวฉุกคิด  มีพยักหน้าให้ผมน้อยๆ แทนการตอบรับ
                    “แล้วไม่คิดเหรอว่าเราคิดกับอาแบบนี้มันไม่สมควร?” ผมถามต่อ คราวนี้เจ้าตัวจ้องตาผมนิ่ง ค้นคว้าหาบางอย่างก่อนจะเอ่ยปากมาว่า
                    “ไม่มีคำว่าสมควรหรือไม่สมควรในเรื่องของความรัก ผมไม่สนหรอกต่อให้เราเป็นพี่น้องกันแล้วเรารักกัน เราก็คบกันได้นั่นคือความรักไม่มีพรมแดน ไร้ข้อจำกัดเรื่องเพศ ไร้เงื่อนไข ไม่มีอะไรมากำหนดความรู้สึกของคำว่ารักได้” คราวนี้ตอบเป็นกูลูผู้ศึกษาเรื่องความรักมาจนลึกซึ้งซะงั้น
               “ไม่มีเงื่อนไข แต่อย่างน้อยย่อมมีสามัญสำนึกผิดชอบชั่วดีไม่ใช่ต้องข้ามไปเสียทุกเรื่องแม้แต่สายเลือดของตัวเอง”ผมเถียงกลับ
                   “ไม่สำคัญขึ้นอยู่กับว่าอาคิดเหมือนผมหรือไม่เท่านั้น ผมไม่ได้บังคับขืนใจนี่ครับ ถ้าผมทำเหมือนพ่อข่มขืนลูกสาวสินั่นคือไม่มีสามัญสำนึกผิดชอบชั่วดี แต่นี่ผมรักอาและต้องการให้อารู้สึกกับผมด้วย” ดีเลยเมื่อถามมาแบบนี้  ก็เข้าทางผมแหละ
                   “งั้นเราฟังนะ อาเป็นผู้ชายไม่คิดพิศวาสผู้ชายอย่าว่าแต่เราไม่ใช่หลานเลย  อาไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของเราได้หรอกตัดใจซะ  ไม่งั้นอากับเราคงไม่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้แน่นอน”  ผมตอบกลับไป ประโยคท้ายทิ้งทวนขู่ไปอีกต่างหาก
                  “อย่าเพิ่งด่วนสรุปสิครับ เรามาพนันกันเอาไหมผมขอเวลาพิสูจน์สามเดือน ถ้าอาไม่รู้สึกอะไรกับผมเหมือนที่พูดแล้วละก็ ผมจะยอมตัดใจไม่ทำให้อารำคาญอีก ภายในสามเดือนนี้หากผมทำให้อาชอบผมไม่สำเร็จจะยอมทำตามข้อตกลง ขอแค่สามเดือนอาไม่กีดกันการใกล้ชิดของเราแค่นั้นให้โอกาสผมพิสูจน์นะครับ ในเมื่ออามั่นใจไม่คิดอะไรกับผู้ชาย ถ้างั้นอาต้องกล้าพิสูจน์กับผมสิจริงไหม?”  ผมนิ่วหน้าไม่คิดว่าไอ้เด็กโข่งนี่มันจะดื้อถึงเพียงนี้ จะปฏิเสธก็จะกลายเป็นว่าไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองสินะ มาถึงขั้นนี้ก็ต้องรับคำท้าแล้วครับ เพราะผมมั่นใจไม่มีทางที่จะคิดอะไรกับลูกแก้วซึ่งเป็นหลานตัวเองแน่  ยิ่งระยะเวลาแค่สามเดือนยิ่งไม่ต้องคิดเลยไม่มีอะไรมาเปลี่ยนความรู้สึกผมได้แน่
                               “ตกลงอาให้เราตามที่ขอ หากพ้นกำหนดแล้วเราต้องยอมรับความจริงโอเคไหม?” ผมย้ำหนักแน่น  ทั้งแววตาและน้ำเสียง
                           “ครับผมรับปากขอบคุณมากที่ให้โอกาสผม ถ้างั้นผมเช็ดตัวให้อาได้แล้วสิ” พูดจบเจ้าตัวลุกบิดผ้าขนหนู เพื่อเช็ดตัวที่เปลือยล่อนจ้อนของผมทันที ในเมื่อรับคำท้าไปแล้วก็จำต้องยอมให้ทำคิดเสียว่าผู้ชายเหมือนกันอีกอย่างเป็นหลานในไส้ด้วย ผมเลยหลับตาลงซะปล่อยไอ้หลานตัวแสบละเลงผ้าชุบน้ำไปทั่วร่างผมให้พอใจอยากทำก็ทำไป
                            คงเพราะผมคิดแบบนี้ความรู้สึกในการตื่นตัวจึงไม่เกิดขึ้นเหมือนคราวแรก ไม่ว่าไอ้หลานบ้าจะเช็ดจะถูส่วนนั้นแค่ไหนก็ไม่สามารถปลุกให้ผมตื่นตัวขึ้นได้ จนเสร็จเรียบร้อยผมจึงสวมเสื้อคลุมลุกเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย แอบชำเลืองเห็นสีหน้าลูกแก้วแดงก่ำแววตาฉงนสงสัยชัดเจน  คงงงสิท่าที่ครั้งนี้มังกรของผมมันไม่ผงกหัว หึ!
                          “อืม..อิ่มแล้วเก็บเถอะ”  ผมบอกเลขาหรือคนดูแลส่วนตัว หรือหลานในไส้ ไม่รู้กี่สถานะที่ลูกแก้วควบตำแหน่งเหล่านั้นเหมาไว้คนเดียว
                     “กินได้นิดเดียวเอง ผมว่าอากินอีกนิดนะครับ พร่องไปไม่ถึงครึ่งชามเลย”  ไอ้เด็กโข่งมันจ้องหน้าแกมขอร้อง ไอ้ที่กินไปถือว่าเยอะแล้ว ความรู้สึกมันไร้รสชาติสิ้นดี
                      “ทานไม่ไหวแล้ว จัดยามาเถอะ”  ผมบอกเสียงนิ่ง
                      “ดื้อ”  แหนะ!มีบ่น ตกลงใครเป็นอาเป็นหลานกันแน่ พักนี้ชักจะเอาใหญ่ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเจ้าตัวยอมจัดยาตามที่ผมสั่ง ก่อนจะนำมาส่งให้พร้อมน้ำดื่ม
                     “อืม..ขอบใจ” พอผมพูดจบมีย่นคิ้วให้เฉยเลย
                    “ไม่ต้องขอบใจผมบ่อยก็ได้ เต็มใจทำให้ไม่ต้องการคำขอบใจ  เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหม รู้สึกอาจะพูดคำนี้บ่อยมากแล้วครับ” ผมดื่มน้ำตามยาที่กลืนลงคอก่อนหน้า  แล้วจึงจ้องหน้าไอ้เด็กร่างยักษ์ที่ยื่นมือมารับแก้วจากผมไปเก็บ  อดไม่ได้ก็ต้องถามไปละครับ
                   “จะเอาอะไรหืม?”  พูดจบ ถึงกับอึ้งเลยผม เพราะไอ้ตัวแสบดันก้มหน้าลงมาประกบริมฝีปากแนบปากผมแบบไม่ให้ตั้งตัวกันเลย จากนั้นก็ถอนหน้าออกยืนจ้องผมตาหวานเยิ้ม
                     “ทำอะไรหนะลูกแก้ว”  จะว่าผมปัญญาอ่อนก็ไม่ผิด รู้อยู่ว่าจูบถึงจะไม่ได้สอดลิ้นก็เถอะ แต่การกระทำที่ไอ้หลานตัวแสบมันทำคือจูบชัดๆ ตอนนี้นึกอะไรไม่ทัน  แก้สถานการณ์ด้วยคำถามโง่ๆไปก่อน
                      “จูบไงครับ” ว่าแล้วเชียวมันต้องตอบแบบนี้ มีทำตาซึ้งให้ผมอีก ถ้าเป็นสาวๆคงละลายไปแล้ว
แต่ไม่ใช่ผมนอกจากจะไม่ละลายพานจะรู้สึกหงุดหงิดเสียด้วยซ้ำ
                “ทีหลังห้ามทำแบบนี้อีก” น้ำเสียงห้วนดุซึ่งผมเจตนาใส่ลงในคำพูด ทำเอาไอ้หลานตัวแสบหน้าเสียไปเหมือนกัน  
                  “ทำไมครับ ผมทำไปตามความรู้สึก ก็ผมอยากจูบอานี่”  เฮ้อ! เชื่อเค้าเลย มีทำตาวิ้งค์ๆ
อีกต่างหาก  ให้ตายเหอะรับมือกับเด็กโข่งที่โตแต่ตัวแต่นิสัยไม่โตตามวัยไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับผม
                   “ขอถามหน่อย เราแคร์ความรู้สึกอาหรือเปล่า?” คงต้องค่อยสอนแล้วละครับ  
                    “แคร์สิครับทำไมจะไม่แคร์  ถ้าผมไม่แคร์ละก็ผมคงลักหลับอาเสร็จผมไปแล้ว”  ผมอึ้งตาค้างไป
อีกรอบ เมื่อเจอคำย้อนซื่อๆไม่มีอ้อมค้อมของไอ้หลานร่างยักษ์ที่จ้องผมไม่วางตา
                  “แฮ่ม! ลูกแก้วฟังอานะ ไม่ว่าเราจะรู้สึกกับอาแบบไหน แต่อาไม่ได้มีรสนิยมแบบนี้  เพราะฉะนั้นขอร้องอย่าทำแบบนี้อีก เข้าใจไหม?”  ผมพูดจบ  ไอ้ตัวดีส่ายหน้าทันที ก่อนสวนคำพูดผมมาว่า
                  “ไม่เข้าใจครับ ไหนเราตกลงกันแล้วนี่นาอาจะให้ผมพิสูจน์ตัวเองสามเดือน ถ้าหากอาไม่รู้สึกอะไรด้วยผมจะยอมรับสภาพ  แล้วนี่ยังไม่ทันไรเลยอาก็กีดกันผมซะแล้ว แบบนี้มันก็ไม่เป็นไปตามข้อตกลงสิครับ”  อะไรกันไอ้หลานตัวแสบนี้เกิดนึกบ้าไรโมเมเอาเรื่องนี้ขึ้นมาอ้างเนี่ยะ
                 “ใช่อารับปากเรา แต่ไม่ได้หมายความว่าให้สิทธิ์เราทำพฤติกรรมแบบนี้ได้ตามใจชอบนี่?” เสียงแข็งเลยคราวนี้
                “ทำไมจะไม่ได้มันอยู่ในข้อตกลงนี่ครับ ผมขอร้องเรื่องการใกล้ชิดของเราแล้วอาก็ตกลงแล้วด้วย นี่เป็นการแสดงความรักที่ผมรู้สึกกับอา  ทำไมถึงไม่ได้ถ้าหากผมไม่สามารถสัมผัสอา มันก็ไม่มีอะไรที่จะพิสูจน์นะสิครับว่าอาจะรู้สึกกับผมหรือไม่ แค่คุยกันปกติก็คงไม่สามารถทำให้อาชอบผมได้หรอกจริงไหม?”  อรึ้ย! ให้ตายสงสัยผมจะตกหลุมพรางของไอ้เด็กหน้าซื่อตาใสเข้าไปเต็มๆแล้วละงานนี้  ใครจะคิดว่าการใกล้ชิดของมันจะตีความเป็นแบบนี้  
                      “นั่นไม่ใช่ความหมายที่อารับปาก อายอมให้เราใกล้ชิดคือดูแลปรนนิบัติข้างกายได้ แต่ไม่ได้หมายถึงสามารถทำกับร่างกายอาเหมือนที่เราแสดงออกเมื่อตะกี้ เข้าใจไหม?”  ผมยังยืนกราน กลายเป็นว่าต้องมายืนเถียงกับเด็กโข่งอายุ 22 ปีอย่างเอาเป็นเอาตายไปแล้ว ชีวิตของประธานวิริยะทรัพย์  
                    “ไม่เข้าใจผมจะเข้าใจได้ยังไง ในเมื่อผมก็บอกอาไปแล้วนี่ว่า สิ่งที่ผมทำคือส่วนหนึ่งในข้อตกลงของเรา หากไม่มีสิทธิ์แสดงความรักทางการสัมผัสมันก็ไม่สามารถทำให้อารู้สึกรักผมได้สิจริงไหม ดังนั้นเรื่องนี้อาลืมไปได้เลยถือว่าอาไม่ได้ให้คำจำกัดความไว้ตั้งแต่ที่แรก  เพราะฉะนั้นผมไม่ผิดอาจะมาห้ามผมก็เท่ากับปิดโอกาสผมอยู่ดี โธ่!คนอะไรพูดแล้วคิดเบี้ยวกันซึ่งหน้า” แหนะ! ฟังมันพูด ให้ตายผมถูกไอ้หลานหน้าซื่อนี่เล่นงานซะงั้น
                       “ถือว่าอาพลาดเอง แต่เราคงต้องคุยกันใหม่ไม่ได้หมายความว่าการที่ให้ใกล้ชิดเหมารวมไปถึงทำอะไรที่เลยเถิดไปมากกว่านี้ใช่ไหม?” ผมถามกันพลาดเลยทีนี้ เอากับมันไม่ได้เสียแล้ว ขืนไม่ขอความชัดเจนวันดีคืนนี้นึกเพี้ยนขึ้นมาจับผมกดยุ่งตายชัก  ถึงผมจะมั่นใจว่าสามารถจัดการเจ้าตัวให้อยู่หมัดก็เถอะ แต่ยังไงก็เป็นหลานคุยกันไว้ก่อนจะดีกว่า
                    “นั่นขึ้นอยู่กับว่าอายินยอมผมหรือเปล่า ผมสัญญาจะไม่ใช้กำลังทำเรื่องงี่เง่าเด็ดขาด  ถ้าหากมันจะเกิดขึ้นต้องเป็นการยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่ายตกลงไหม? เดี๋ยว!ไม่รวมเรื่องจูบนะ ถ้าอามั่นใจตัวเองจะกลัวอะไรกับจูบอนุบาลของผมเล่าครับหึหึ!” โอย! ผมคงต้องวิเคราะห์ไอ้หลานตัวแสบเสียใหม่ มันคงไม่ได้แกล้งซื่อหรอกนะ ให้ตายเหอะ
                   “ตกลง ถ้าคิดว่าแค่จูบไม่ได้เรื่องแล้วจะสามารถทำให้อาเปลี่ยนความรู้สึกคิดกับหลานในไส้ได้แล้วละก็ เรามาลองดูกัน” พอผมพูดจบตาคมเข้มไหวระริกออกอาการชัดเจน  น่าโดนถีบสักทีให้ตายสิ
                  “งั้นขอลองใหม่นะครับ” เวร! ทำไมมันถึงขอจูบได้อย่างหน้าด้านๆแบบนี้เล่าเนี่ยะ  
                   “ลูกแก้วจะมากไปไหม มันใช่เวลาที่เรามาขอจูบกันเหมือนขอขนมทานเล่นนะ?”  ผมจ้องเจ้าตัว
ไม่วางตา ให้รู้ว่าผมจริงจังกับคำพูดมากแค่ไหน
                    “ผมก็ไม่ได้หมายความอย่างนั้นซะหน่อย ไหนอาบอกเองว่าจูบผมคงไม่ทำให้อาเปลี่ยนความตั้งใจได้ ก็ลองให้ผมจูบใหม่สิ เพื่อเป็นการยืนยันยังไงเล่า ขอไม่ใช่แบบเมื่อกี้นะแบบจูบจริงๆอ่ะได้ป่ะ?”  สงสัยถ้าไม่เขี่ยผงที่บังตาจนหน้ามืดตามัวให้ไอ้หลานตัวแสบละก็ คงไม่ตาสว่าง  
                    “หึ..ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู” มาจัดมา ดูสิว่าเด็กหนุ่มวัย 22 ปีจะสามารถทำให้ผมเคลิ้มไปกับจูบ
ของเจ้าตัวได้ก็เอาสิ  พอผมพูดจบสายตาคมเข้มซึ่งไหวระริก เปลี่ยนโหมดเป็นนิ่งสงบจ้องเข้ามาในตาผมวาววับ พร้อมกับริมฝีปากได้รูปของเจ้าตัวก็เอียงมุมก้มต่ำลงหาผมช้าๆ ผมเองก็จ้องตอบเจ้าเด็กบ้านี่ไม่มีหลบ  อยากรู้เหมือนกันอะไรทำให้เจ้าตัวมั่นใจว่าจะจูบให้ผมรู้สึกร่วมได้ ถึงผมจะไม่รังเกียจยอมให้จูบแต่ไม่ได้แปลว่าจะชอบจูบกับผู้ชายเสียหน่อย
                      และแล้วปากนุ่มก็ประกบแนบสนิทกับปากผม ก่อนจะค่อยขบเม้มริมฝีปากล่างผมอย่าง
หยอกเหย้า ซึ่งผมยังคงปิดปากสนิทไม่ยอมให้ลิ้นชื้นที่ค่อยไล่เลียสลับแยงตามซอกฟันของผมรุกล้ำเข้าในโพรงปากได้  เหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าผมคงไม่ยอมเปิดปากให้แน่ จู่ๆมือหนาก็วางมาบนหัวไหล่ด้านที่เจ็บทำเอาสะดุ้งจนเผลอเปิดปากออก กลายเป็นโอกาสให้ลิ้นร้อนลุกล้ำเข้ามาในปากผมทันที
                          “อุก..อือ..อืม!”  เหมือนโดนตีหัวด้วยกระบองไฟฟ้าเลยครับ เมื่อถูกลิ้นของลูกแก้วเกี่ยว
กระหวัดรัดลิ้นผมไปมาก่อนจะดูดกลืนไล่ต้อนอย่างเมามัน งานนี้หายใจไม่ทันแล้วไอ้เด็กนี่เชี่ยวมาก
ผมถูกจูบจนเผลอตอบโต้รุกไล่ลิ้นของเจ้าตัวที่เกี่ยวพันลิ้นผมเพื่อผลักให้ออกไปจากโพรงปากผมให้ได้  
กลายเป็นสร้างความพึงพอใจจนไอ้ตัวแสบครางออกมาซะงั้น
                             “อืม...อือ” เผลอจูบกับหลานตัวเองซะนี่ เล่นเอามึนรสจูบไปเหมือนกัน  ก่อนที่ไอ้เด็กร่างยักษ์
จะยอมผละออกปล่อยให้ผมเป็นอิสระ  เหมือนหน้าจะระเบิดให้ตายทำไมเด็กหนุ่มอายุ 22  ถึงจูบได้เก่ง
ขนาดนี้  นึกถึงผมในวัยนั้นยังไม่คล่องเท่ามันในตอนนี้เลยเหอะ
                           “หึ! ชอบจังสีหน้าอา”  กรรม!  นี่ผมเป็นรองหลานตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ  
                         “พอเหอะ เลิกหมกมุ่นเสียที  สิ่งที่ดีที่สุดเราควรสนใจหาความรู้ติดตัวต่างหาก ทักษะการป้องกันตัวนะฝึกเอาไว้บ้าง ยังไงอาจะให้คุณอาคมเป็นครูฝึกให้เรา เริ่มตั้งแต่วันนี้เลย” ผมตัดบท
เปลี่ยนเรื่อง  ไม่งั้นไอ้ตัวแสบคงเอาแต่จ้องริมฝีปากผมไม่วางตา  
                          “อ่ะ..ผมไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า?”  ทีเรื่องที่ผู้ชายเค้าชื่นชอบกันกับไม่มั่นใจซะงั้น  ดูเอาเถอะ
                         “ตัวก็ออกจะโตทำเป็นใจปลาซิวไปได้  อย่าลืมว่าทำงานข้างกายอาเจอแต่คนไม่ประสงค์ดี หากเราไม่มีทักษะเหล่านี้จะเอาตัวรอดลำบากรู้ไหมหืม?” ผมบอกเหตุผลไป หาประเด็นหนีให้พ้นเรื่องใกล้ตัวเป็นดีที่สุด
                        “ก็ได้ ผมยอมเรียนแต่จะทำได้ดีแค่ไหนไม่รับปากนะ อาต้องคอยเป็นกำลังใจให้ผมด้วย”  
แหนะ  มีต่อรองอีกนิสัยเด็กชะมัด

                      “อืม..งั้นบ่ายนี้เริ่มเลยแล้วกัน อาจะไปดูเราซ้อมด้วย”ผมตัดบท  พูดจบเจ้าตัวฉีกยิ้มกว้างส่งมาให้ผมได้อย่างหน้าเป็นทำไมผมถึงได้ร้อนหน้าไม่หาย  เอาเถอะอย่างน้อยก็ยังดีที่หันเหเบี่ยงความสนใจไปจากเรื่องที่เพิ่งโดนจูบดูดวิญญาณได้สำเร็จ คงต้องระวังให้มากกว่าเดิมแล้วหละ  ไอ้หลานบ้านี่ดันเก่งเรื่องอย่างนี้..เฮ้อ!


มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
2
พลังน้ำใจ
2967
Zenny
7677
ออนไลน์
1326 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-4-2 22:16:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24560
Zenny
38467
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-23 22:57:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับผม

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-27 12:56:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-7 23:51:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
1612
Zenny
6474
ออนไลน์
812 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-9 10:45:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราบ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-11 18:44:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-15 14:52:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
15
พลังน้ำใจ
57929
Zenny
27377
ออนไลน์
21899 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-1-13 15:47:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
6401
Zenny
1737
ออนไลน์
1079 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-1-13 19:41:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
209
พลังน้ำใจ
14088
Zenny
42724
ออนไลน์
1088 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

โพสต์ 2016-5-20 15:04:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สุดท้ายได้เป็นน้าจริงๆ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
25772
Zenny
21604
ออนไลน์
1006 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-8-20 22:58:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณนะครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 18:14 , Processed in 0.088801 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้