อาหารหลัก5หมู่ทานยังไงให้ครบ
อาหารหลัก 5 หมู่ สารอาหารที่จำเป็นนั้นมีความสำคัญต่อร่างกายและช่วยให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ โดยสารอาหารจำเป็นดังกล่าวเหล่านี้ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาใช้เองได้หรือบางชนิดก็สามารถสร้างเองได้แต่ในปริมาณที่ไม่เพียงพอที่จะรักษาสุขภาพที่ดีได้ พบว่าอาหารเพียงชนิดใดชนิดหนึ่งนั้นไม่สามารถที่จะมอบสารอาหารที่จำเป็นแก่เราได้ทั้งหมด ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีความสมดุลและครบถ้วนของสารอาหารจึงป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดีของเรา
http://www.omoneycenter.com/pic/5food.jpg1.โปรตีน - เป็นส่วนประกอบหลักของทุก ๆเซลล์ในร่างกาย มีบทบาทในการช่วยสร้างเซลล์เนื้อเยื่อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีการศึกษาพบว่าการได้รับโปรตีนร่วมกับกรดไขมันจำเป็นในปริมาณที่พอเหมาะนั้นจะช่วยทำให้เยื่อหุ้มเซลล์มีความแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย แหล่งของโปรตีนที่หาได้ง่าย ได้แก่ เนื้อไก่ไม่ติดหนัง ปลา ไข่ขาว ถั่ว นมและโยเกิร์ตไขมันปราศจากไขมัน ผู้ที่ขาดโปรตีนหรือทานโปรตีนน้อย เซลล์จะไม่สามารถสร้างใหม่ได้ทันกับเซลล์ที่สูญเสีย เป็นเหตุให้แก่ก่อนวัยอันควร และร่างกายทำงานไม่ปกติ
2.คาร์โบไฮเดรท - เป็นแหล่งพลังงานที่ร่างกายเลือกใช้เป็นอันดับแรกและเป็นพลังงานชนิดเดียวที่สมองเลือกใช้ คาร์โบไฮเดรตแบ่งได้ 2 ชนิด ได้แก่ คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว กล่าวคือมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยโมเลกุลน้ำตาลเพียงหนึ่งหรือสองโมเลกุลเท่านั้น ซึ่งสามารถย่อยง่ายได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มระดับน้ำตาลในในเลือดอย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วน เนื่องจากตับอ่อนจะต้องผลิตอินซูลินออกมาปริมาณมากขึ้นเพื่อเก็บน้ำตาลกลับอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเสมือนการเร่งให้ตับอ่อนเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว อันเป็นสาเหตุหลักของโรคเบาหวานมิหนำซ้ำน้ำตาลส่วนเกินที่ใช้ไม่หมด จะแปรเป็นไขมันและไปสะสมบริเวณช่องท้องได้อีกด้วย อีกชนิดหนึ่งคือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คือประกอบด้วยน้ำตาลหลายโมเลกุลซึ่งสามารถย่อยได้ยากกว่าและค่อยๆดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดซึ่งเป็นผลดีต่อร่างกาย แหล่งของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คือขนมปังโฮลวีต ธัญพืช พืชตระกูลถั่วและผลไม้.
3.วิตามิน - เป็นสารสำคัญที่ร่างกายต้องการน้อยแต่ขาดไม่ได้ ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้เป็นปกติช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตและการพัฒนาการ เป็นตัวช่วยในการนำเอาคาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมันให้เป็นพลังงาน วิตามินและแร่ธาตุพบมากในผักผลไม้และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน สัตว์ปีก ปลา ไข่และผลิตภัณฑ์จากนม แต่เพื่อให้ได้ปริมาณที่เพียงพอของสารอาหารที่จำเป็นเหล่านี้คุณควรกินผลไม้และผักด้วยหลากหลายสี อาทิเช่น ผักใบเขียวหรือสีดำ ( ผักกาดหอมสีดำ, บรอคโคลี่, ผักขม) ผลไม้สีเหลืองหรือสีส้มและผัก (แครอท, แคนตาลูป และแนกทารีน) ผักผลไม้สีแดง (สตรอเบอร์รี่, มะเขือเทศพริกสีแดง) พืชตระกูลถั่ว ผลไม้เช่นมะนาว (ส้ม เกรฟฟรุต มะนาวและกีวี) การรับประทานผักผลไม้ในปริมาณที่มากพอนั้นจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินแร่ธาตุรวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์และเนื้อเยื่อได้
4.แร่ธาตุ - มีบทบาทสำคัญในเรื่องของการเจริญเติบโต การพัฒนากระบวนการทางชีวภาพของกระดูกฟันกล้ามเนื้อหัวใจ การทำงานของสมอง การผลัดเซลล์ การสร้างเลือด ความชุ่มชื้น การเผาผลาญไขมัน ฯลฯ
5.ไขมัน - เป็นแหล่งสะสมพลังงานของร่างกาย มีบทบาทในการช่วยดูดซึมวิตามินชนิดละลายในไขมัน อันได้แก่ วิตามิน เอ ดี อี และ เค โดยเราสามารถแบ่งอาหารกลุ่มไขมันได้เป็น 2 ประเภท ประเภทแรกได้แก่อาหารไขมันดี คือ ไขมันที่อุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นซึ่งจัดเป็นไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาใช้เองได้นั้นมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ รวมถึงใช้ในการผลิตฮอร์โมนบางชนิด อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดี ได้แก่ โอเมก้า 3 น้ำมันปลา ผัก ถั่วและเมล็ดธัญพืช อีกประเภทหนึ่งคืออาหารไขมันร้าย ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว (ที่พบมากในเนื้อ เนย นมสดและเนยแข็ง) และไขมันทรานส์ (ที่พบมากในอาหารจำพวก มาการีน ขนมบรรจุและขนมอบ) โดยไขมันร้ายทั้งสองชนิดนี้จะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดและนำมาสู่โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
หลักการโภชนาการที่ดี
80% ของร่างกายประบอกด้วยโปรตีน ดังนั้นโปรตีนจึงมีความสำคัญมากสำหรับร่างกาย ซึ่งโปรตีนประกอบจากโครงสร้างเล็กๆที่เรียกว่า กรดอมิโน ซึ่งมีด้วยกัน 22 ชนิด แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. กรดอะมิโนจำเป็น มีทั้งหมด 9 ชนิด ร่างกายไม่สามารถผลิตได้เอง จำเป็นต้องได้จากการรับประทานอาหารเท่านั้น ได้แก่
ไลซีน ,วาลีน , ไอโซลิวซีน ,ลิวซีน ,ทรีโอนีน ,ทริปโตแฟน ,เมทีโอนีน ,ฟีนายอะลานีน และฮีสติดีน
2. กรดอะมิโนไม่จำเป็น เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถสร้างได้เอง มีทั้งหมด 13 ชนิด
การได้รับโปรตีนที่ให้ปริมาณกรดอะมิโนจำเป็นที่ครบถ้วน ควรเป็นโปรตีนอย่างน้อย 3 แหล่ง คือ โปรตีนจากไข่ โปรตีนจากนม และโปรตีนจากพื้ชตระกูลถั่วหรือโปรตีนจากเนื้อสัตว์ จึงสามารถได้กรดอะมิโนจำเป็นครบ 9 ชนิดอย่างที่ร่างกายต้องการ และหากเป็นไปได้ควรลดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เนื่องจากมีไขมันสัตว์ ส่งผลทำให้มีคอเรสเตอร์รอลสูง อีกทั้งตับจะทำงานหนักเพื่อย่อยสลายโปรตีน และร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมโปรตีนไว้ได้ จึงควรได้รับโปรตีนจากแหล่งที่ดี ที่มีกรดอมิโนครบถ้วน ที่มากพอในแต่ละวัน
ออริเฟลมได้มีสารอาหารโปรตีน ซึ่งมีกรดอมิโนจำเป็นครบถ้วน ในชื่อว่า นูทรีเชค
สารอาหารกลุ่มที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของร่างกายให้ปกติ ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่งในภาวะปัจจุบัน เราไม่สามารถรับสารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เมื่อนานวันเข้า ปัญหาทางด้านสุขภาพต่างๆ ก็เริ่มเกิดอาการขึ้น การได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกายแน่นอนเราไม่ทรายได้แน่ชัดว่า เราขาดอะไรต้องเจ็บป่วยก่อนถึงจะรู้ แต่หากเราทานวิตามินเสริมแต่ละตัว กว่าจะครบสารอาหารที่จำเป็นต้องทานหลายตัว บางครั้งได้รับสารอาหารมากเกินความต้องการในแต่ละวัน แทนที่จะได้ผลลัพที่ดีกลับให้โทษ
ออริเฟลมมีสารอาหารกลุ่มวิตามินและแร่ธาตุ ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันอย่างครบถ้วน และที่สำคัญพอเหมาะพอดี โดยคุณไม่ต้องทานวิตามินจากอาหารเสริมอื่นๆเลย วิตามิน และแร่ธาตุ
โอเมก้า 3 จัดเป็นไขมันดีเป็นกรดไขมันจำเป็นที่พบมากในปลาเนื้อมัน เช่น แซลมอน ทูน่า และซาร์ดีน มีการศึกษาพบว่าเพื่อสุขภาพที่ดีเราควรเลือกรับประทานอาหารไขมันที่มีสัดส่วนระหว่างโอเมก้า 6 ต่อโอเมก้า 3 แบบ 1:1 แต่เคราะห์ร้ายที่ว่าในอาหารจำนวนมากในปัจจุบันมีสัดส่วนของโอเมก้า 6 ต่อ โอเมก้า 3 ที่สูงถึง 15:1 ดังนั้นองค์กรทางด้านสุขภาพหลาย ๆ องค์กรทั่วโลกจึงแนะนำให้รับประทานปลาเนื้อมันอย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือจะเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาโอเมก้า 3 คุณภาพสูงทดแทนก็ได้ โอเมก้า 3 ช่วยบำรุงระบบหัวใจและหลอดเลือด บำรุงสมองและช่วยดูแลสุขภาพผิว ยิ่งไปกว่นั้นโอเมก้า 3 ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านการอักเสบที่ทรงประสิทธิภาพเป็นอย่างดีอีกด้วย
ออริเฟลมจึงได้มี โอเมก้า3 คุณภาพสูง ที่สำคัญไม่มีกลิ่นคาว เม็ดใสบริสุทธิ์ มี EPA : DHA ที่เหมาะสม Omega3
ในทุกๆวันการหลีกเลี่ยงจากการเผชิญกับอนุมูลอิสระ - โมเลกุลอันตรายที่ทำลายร่างกายเรา นั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะ แหล่งของอนุมูลอิสระนั้น มีทั้งที่เกิดขึ้นในร่างกายเมื่อเราหายใจหรือเผาผลาญอาหาร และจากแหล่งภายนอก เช่น มลภาวะ ,แสงแดด ควันบุหรี่
อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลไม่คงตัวจึงต้องมีการแย่งอิเลคตรอนจากโมเลกุลอื่น ส่งผลให้เกิดการทำลายดีเอ็นเอและเกิดการทำลายเซลล์ต่างๆในร่างกาย นักวิทยาศาสตร์ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าอนุมูลอิสระมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมากกว่า 100 ชนิดนับว่าเป็นความโชคดีที่เราพบว่าการจัดการทางธรรมชาติสามารถยับยั้งภัยคุกคามที่เกิดจากอนุมูลอิสระด้วยตัวสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสารที่ค่อนข้างเสถียรและยังสามารถปลดปล่อยอิเลคตรอนเพื่อไปยับยั้งปฎิกิริยาลูกโซ่ของการทำลายของอนุมูลอิสระซึ่งถือว่าเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด
ออริเฟลมมี แอสต้าแซนธิน สารต้านอนุมูลอิสระอันโดดเด่น และที่สำคัญเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดในโลก Astaxanthin
ตารางแคลลอรี่
แคลลอรี่ เป็นหน่วยวัดพลังงานอย่างหนึ่ง ตามมาตรฐานสากล ซึ่งถ้าเรารับพลังงานจากการรับประทาน มากกว่า ที่ใช้ไปเช่นการเคลื่อนไหว ทำงาน หรือแม้แต่หายใจ จะทำให้เราอ้วนขึ้น จะเห็นว่า วัยผู้ใหญ่ใช้พลงงานน้อยกว่าวัยรุ่น หากเรายังรับประทานอาหารเหมือนเดิม ก็ทำให้เราอ้วนขึ้นเรื่อยๆ หากทานอาหารน้อยลงก็ได้สารอาหารไม่เพียงพอ หรือบางคนอาจออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อลดน้ำหนัก อย่าลืมว่ายิ่งออกกำลังกายยิ่งหิวมากขึ้น เนื่องจากร่างกายอาจดึงพลังงานมาใช้ไม่ทัน จะเป็นต้องทานเข้าไปแทน ส่งผลที่ทำให้หลายคนยิ่งออกกำลังกายยิ่งอ้วน ดังนั้น เวลเนสบายออริเฟลม คือหนทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง พร้อมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ข้าวสวย 1 ถ้วย
รายการขนมพลังงานที่ได้รับ
ข้าวต้มมัด 1 คู่320 Kcal
ถั่วดำต้มน้ำตาล 1 ถ้วย340 Kcal
ลอดช่องน้ำกระทิ 1 ถ้วย290 Kcal
บัวลอยเผือก 1 ถ้วย230 Kcal
ไอศครีมวนิลา 1 ถ้วย200 Kcal
ขนมครก 4 คู่230 Kcal
โดนัทไส้แยม 1 อัน290 Kcal
ซาลาเปาไส้หมู 1 อัน200 Kcal
ข้าวเหนียวสังขยา 1 ห่อ220 Kcal
ครัวซอง 1 อัน230 Kcal
เค้ก 1 ชิ้น235 Kcal
รายการผลไม้พลังงานที่ได้รับ
ส้ม 1 ผล40 Kcal
สัปปะรด 1 ชิ้น80 Kcal
แอปเปิ้ล 1 ผล40 Kcal
มะม่วง 1 ผล80 Kcal
มะขามหวาน 1 ฝัก40 Kcal
เงาะ 3 ผล40 Kcal
ทุเรียน 1 เม็ดกลาง80 Kcal
รายการน้ำพลังงานที่ได้รับ
ยาคูลท์ 1 ขวด90 Kcal
โอวัลติน 1 แก้ว220 Kcal
โอเลี้ยง 1 แก้ว100 Kcal
น้ำอัดลม(100g) 1 แก้ว100 Kcal
นมถั่วเหลือง 1 แก้ว150 Kcal
หน้า:
[1]