waterforthai เว็บไซต์ที่คนไทยต้องเข้า!
waterforthai เว็บไซต์ที่คนไทยต้องเข้า!http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/197741.jpg
http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/197741/0.jpg
http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/197741/1.jpg
http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/197741/2.jpg
http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/50x30/cover/197741.jpg http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/50x30/photos/197741/0.jpg http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/50x30/photos/197741/1.jpg http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/50x30/photos/197741/2.jpg
เว็บไซต์http://www.waterforthai.go.th/เป็นเว็บไซต์ที่เปิดเพื่อแจ้งเตือนภัยพิบัติ ในช่วงอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี2554 ซึ่งจัดทำขึ้นโดยรัฐบาล และบริหารจัดการข้อมูลโดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.)
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาเว็บไซต์http://www.waterforthai.go.th/ มียอดผู้เข้าชมโหลดหน้าเว็บ จำนวน 207,606/ครั้ง และในปี 2556 ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน มียอดผู้เข้าใช้งานดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์จำนวน 168,021/ครั้ง
“น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์” ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) เล่าว่า เว็บไซต์ waterforthai เป็นเว็บไซต์ที่เกิดขึ้นมาในช่วงอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ที่ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสับสนเรื่องข้อมูล ดังนั้นเว็บไซต์นี้จึงเป็นแหล่งรวมข้อมูลและศูนย์กลางของข้อมูลเพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในเวลานั้น กระทั่งวันนี้เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ผ่านไปแล้ว เว็บไซต์นี้จึงพัฒนาให้เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่ประชาชนทั่วไปสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้
“ขณะนี้เว็บไซต์ดังกล่าวมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับน้ำในคลอง น้ำท่วมขัง ปริมาณน้ำฝน สภาพอากาศ โดยข้อมูลเหล่านี้จะอัพเดททุกชั่วโมงทุกวันจากเครือข่ายของศภช.ทั้ง 77 จังหวัด เช่น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด เจ้าหน้าที่ของรัฐ และเทศบาล เป็นต้น ซึ่งช่วงนี้เป็นการรายงานสถานการณ์ภัยแล้ง”
น.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ข้อมูลต่าง ๆ ที่นำเสนอบนเว็บไซต์จะได้รับการคัดกรองจาก เจ้าหน้าที่ของ ศภช. แล้ว พร้อมปรับแต่งภาษาให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้อ่าน จึงสามารถอ่านข้อ มูลได้เข้าใจทั้งนักวิชาการ และประชาชนทั่วไป ส่งผลให้ประชาชนที่เกิดความสงสัยในข้อมูลของภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวของเขา เช่น ฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่ม ได้เข้ามาอ่านข้อมูลและรับทราบข้อมูลที่ได้จากคนในพื้นที่จริง ๆช่วยลดความตื่นตระหนกได้มาก
“เป็นเรื่องปกติที่ประชาชนจะเข้าดูข้อมูลในเว็บไซต์ก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ใกล้ตัว ตอนนี้ ศภช. พยายามพัฒนาเนื้อหาให้มีความหลากหลายและเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในทุกด้าน นอกจากเรื่องภัยพิบัติ”
น.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากเว็บไซต์ http://www.waterforthai.go.th/ แล้ว ศภช.ได้ทำแอพพลิเคชั่น “Water4thai” เพื่อให้ประชาชนดูข้อมูลต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาต่าง ๆโดยรองรับทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์, ไอโอเอส และวินโดว์ส 8
แม้เว็บไซต์ http://www.waterforthai.go.th/ จะเปิดให้ประชาชนได้เข้าใช้งานเป็นเวลาปีกว่าแล้ว แต่ น.อ.สมศักดิ์ บอกว่า เว็บไซต์นี้เพิ่งอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการรวบรวมข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ประชาชนในทุกพื้นที่ได้ใช้งานได้ทันที พร้อมทั้งดูข้อมูลแล้วเข้าใจได้ทันที ดังนั้นต้องมีการปรับปรุงในเรื่องของรูปแบบของการนำเสนอข้อมูลให้เป็นแบบฟอร์มเดียวกันและภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายมีสีสันที่ชวนติดตามอ่าน
“สำหรับผมแล้วพอใจกับการรวบรวมข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์ http://www.waterforthai.go.th/ เพราะมีข้อมูลข่าวสารที่มากระดับหนึ่ง แต่ต้องรวบรวมข้อมูลข่าวสารท้องถิ่นให้มากกว่านี้ ที่สำคัญต้องพัฒนารูปแบบของการนำเนื้อหาให้เข้าถึงประชาชนให้มากขึ้น และต้องตามในเรื่องของเทคโนโลยีให้ทัน”
น.อ.สมศักดิ์ บอกว่า สำหรับการแจ้งเตือนภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น ศภช. ได้ร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดำเนินการขั้นตอน
ของการแจ้งเตือนภัยแล้ว โดยกสทช. ออกประกาศว่าด้วยเรื่อง “หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติงานของผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการกรณีเกิดภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน” โดยลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2555 ดังนั้น หากมีเหตุแจ้งเตือนกรณีภัยพิบัติ ทุกสื่อจะใช้ข้อมูลจาก ศภช. โดยทำการแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับรู้ทันที และผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการทุกราย อาทิ เอไอเอส, ทรูมูฟ และดีแทค ก็จะทำการส่งเอสเอ็มเอสแจ้งเตือนลูกค้าให้ทราบทั่วถึงกัน
น.อ.สมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่าอยากให้ประชาชนทั่วไปเข้าดูเว็บไซต์ http://www.waterforthai.go.th/ ให้เป็นกิจวัตร เพราะการเข้าใช้เว็บไซต์ในปัจจุบันจะเน้นหนักไปเฉพาะกลุ่มผู้ที่สนใจและเจ้าหน้าที่รัฐและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งอยากฝากให้ประชาชนหมั่นเข้าดูเว็บไซต์ เพื่อจะได้ช่วยกันตรวจตราดูแลบริเวณพื้นที่อาศัยหากมีเหตุขัดข้องอะไรที่สามารถช่วยเหลือและแก้ไขกันได้ตั้งแต่เบื้องต้น และสามารถโทรฯแจ้งได้ที่เบอร์ 1111 กด 5
ใครยังไม่เคยเข้าเว็บไซต์ http://www.waterforthai.go.th/ ลองคลิกดู แล้วจะรู้ว่าเป็นมากกว่าเว็บไซต์การแจ้งเตือนภัยพิบัติ.
เครดิต http://www.dailynews.co.th/technology/197741
หน้า:
[1]