ศิลาอาถรรพ์แห่ง เอฟเบอรี่
http://image.ohozaa.com/i/916/GuMOUB.jpgที่เมือง เอฟเบอรี่ ประเทศอังกฤษ มีวงกลมเสาหินโบราณตั้งตระหง่านอยู่กลางท้องทุ่ง ในสมัยก่อน วงกลมเสาหินถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของพวกนอกศาสนา ในปี ค.ศ. 1326 ศาสนจักรอังกฤษได้ออกประกาศให้ทำลายวงกลมเสาหินทั้งหมดโดยเริ่มจากที่เอฟเบอรี่นี้เป็นแห่งแรก
หลังจากมีคำสั่งลงมา ทางวัดประจำเมืองเอฟเบอรี่ก็ได้ระดมกำลังคนเข้าทำลายวงกลมเสาหิน โดยการขุดดินเป็นหลุมลึกข้างเสาหินแต่ละต้นจนกว้างยาวและลึกพอสำหรับเสาหินจากนั้นจึงดินเป็นโพรงข้างใต้โคนเสาจนเสานั้นล้มลงไปในหลุม ก่อนที่พวกเขาจะช่วยกันเอาดินกลบหลุมนั้นเสีย
ทว่าทุกครั้งที่พวกคนงานเริ่มทำงาน ท้องฟ้าก็จะมืดครึ้มจากนั้นพายุฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนักจนทำให้การทำงานดำเนินไปอย่างล่าช้า จนผู้คนเริ่มพูดกันว่า มีอำนาจลึกลับบางอย่างไม่ต้องการให้พวกเขาทำลายเสาหินเหล่านี้แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พวกคนงานก็สามารถล้มเสาหินลงได้หลายต้นจนกระทั่งวันหนึ่ง
ปี ค.ศ. 1327 หลังจากการทำลายวงเสาหินแห่งเอฟเบอรี่ดำเนินมาได้เกือบหนึ่งปี มีชายผู้หนึ่งเดินทางผ่านมาที่นั่น เขาเป็นช่างตัดผมและนักผ่าตัดที่เดินทางไปยังที่ต่าง ๆ และให้บริการกับใครก็ตามที่สนใจ ซึ่งเมื่อเขามาถึงเอฟเบอรี่ ได้มีคนงานผู้หนึ่งจ้างให้เขาผลัดมาขุดดินแทน
แม้จะไม่ใช่งานโดยตรงของตน แต่ช่างตัดผมก็เห็นว่านี่เป็นงานง่าย ๆ ที่จะทำให้ได้เงิน เขาจึงรับจอบมาจากอีกฝ่ายและเริ่มงานต่อจากคนงานผู้นั้น โดยไต่ลงไปในหลุมและลงมือขุดดินตรงโคนเสาหินพร้อมกับคนงานอื่น ๆ อีกหลายคน ทว่าขณะที่ช่างตัดผมและพวกคนงานกำลังขุดดินอยู่นั้นเอง สายฝนที่กระหน่ำลงมา ก็ทำให้ดินชุ่มน้ำจนรับไม่ไหว แท่งศิลาโอนเอนไปมา
พวกคนงานพากันเสียขวัญ พวกเขาตะเกียกตะกายปีนขึ้นจากหลุม โดยมีพวกที่อยู่ข้างบนช่วยกันดึงขึ้นมา คนงานคนหนึ่งยื่นมือจับมือช่างตัดผมและดึงอีกฝ่ายขึ้น แต่ทันใดนั้นเอง เสียงฟ้าร้องก็ดังสนั่น ช่างตัดผมตกใจจนหลุดมือเสียหลักตกกลับลงไปในหลุมที่เต็มไปด้วยน้ำ พร้อม ๆ กันนั้นเอง ศิลาแท่งมหึมาก็โค่นลงไปในหลุมนั้น
แท่งหินลงหลุมได้พอดี โคลนแลน้ำที่ผุดขึ้นมาจากแรงอัดของแท่งศิลากลายเป็นสีแดงเหมือนสีเลือด พวกคนงานยืนล้อมดูหลุมดังกล่าวด้วยความสยดสยอง และทันใดนั้น ฝนที่ตกกระหน่ำก็พลันหยุดไปเฉย ๆ
“เราจะทำอย่างไรดี หลวงพ่อ” คนงานผู้หนึ่งหันไปถามบาทหลวงผู้ควบคุมงาน ”แบบนี้คงไม่มีทางเอาร่างเขาออกมาได้แน่”
บาทหลวงมองหลุมโคลนและคราบเลือดด้วยใบหน้าซีดเผือด ”ไม่จำเป็นหรอก เขาได้หลุมศพที่ใหญ่กว่าใครที่นี่แล้ว ช่วยกันกลบหลุมนี้เถอะ”
“แล้วแท่งศิลาอื่น ๆ เล่า”
บาทหลวงหันไปมองแท่งศิลาสูงใหญ่ที่ยืนทะมึนอยู่รายรอบ แม้ว่าในยามนี้ ท้องฟ้าจะปราศจากพายุฝนแต่ความมืดครึ้มที่น่าหวาดหวั่นยังคงอยู่ บรรยากาศดูเหมือนจะเยือกเย็นลงอย่างรวดเร็ว
“ปล่อยมันไว้ตามเดิม” บาทหลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น ”เมื่อครู่ …พวกเราเพิ่งได้รับคำเตือนไปแล้ว”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1327 อาจเป็นคำสาปแห่งแท่งศิลาอาถรรพ์หรืออาจเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดา ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่ปี ก็ได้เกิดกาฬโรคระบาดทั่วยุโรปล้างผลาญชีวิตผู้คนนับล้าน โรคระบาดทำให้อังกฤษไม่เหลือคนงานที่แข็งแรงมาทำลายเสาหินใด ๆ ได้อีก และเมื่อกาฬโรคสิ้นสุดลง ความคิดที่จะทำลายวงกลมเสาหินก็เลือนหายไป จากนั้นหลายร้อยปีต่อมา วงกลมเสาหินทั้งหลายก็ยังคงยืนหยัดอยู่ที่เดิมเช่นดังที่เคยเป็นมา
นึกว่า แฮรี่ พอตเตอร์ คริคริ น่าสนใจติดตามค้นหาดี โห น่ากลัว อิอิ น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน..รอก่อนเดี๋ยวมันก็ล้มเอง{:5_137:} เหมือนโฮปเวลล์เลยค่ะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Anaesthetic เมื่อ 2013-5-26 01:08
นึกว่าแฮรีซะอีก แต่เป็น สโตนเฮนส์ ความรู้ใหม่ {:3_61:} ต้นฉบับโพสต์โดย scam_2011 เมื่อ 2013-5-25 21:19 static/image/common/back.gif
น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน..รอก่อนเดี๋ยวมันก็ล ...
จะเอาไปทำไร{:7_276:} ต้นฉบับโพสต์โดย zaniim เมื่อ 2013-5-24 20:15 static/image/common/back.gif
นึกว่า แฮรี่ พอตเตอร์ คริคริ
ก็จริงนะครับ คริคริ {:5_133:}อ๋อ สโตนเฮดนี่เอง
หน้า:
[1]