ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 1086|ตอบกลับ: 25

ตะเกียงพิเศษ ??? 103-104

 มาแรง [คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

ผมรู้ว่าลึกๆน้องหดหู่เสียใจกับการจากไปของไอ้พี่เทคมาก...แต่คงช่วยได้แค่ยืนอยู่เคียงข้างเท่านั้น...เพราะถ้าเป็นผมก็คงไม่รีรอที่จะทำในสิ่งที่ไอ้พี่เทคมันทำเช่นกัน....ใครบ้างจะไม่รักตะเกียง
Part  103
ความรักของราชสีห์....

                            “อื้อ..พี่โต๋...พอก่อน..พอแล้ว..หยู๊ด!..”
กูรีบเอามือยันหน้าไอ้พี่หื่นป้องกันมันจ้าละหวั่น...เล่นแอบเข้ามาข้างหลังถือโอกาสลวนลามเอากำไรซุกไซร้จูบกูไม่หยุด...กำลังยืนชมวิวมองท้องทะเลที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาจนเห็นเส้นขอบฟ้าอยู่ริบลับ...ปล่อยอารมณ์เข้าสู่พะวังเพลินๆ ริมระเบียงนอกห้องนอนรับลมทะเลพัดโชยปะทะหน้าอยู่ดีดี...ต้องสะดุ้งหันมากะจะแว๊ดมันซะหน่อย...ดันปล้นจูบกูอีกจนได้..
จำต้องใช้มือยันหน้ามันออกอย่างที่เห็นเนี่ยะแหละ...ฝีเท้ามันเบาจริงๆ ไม่รู้ตัวเลยสักครั้งเวลามันแอบเข้าใกล้..
                           “หึ..ใจลอยอะไรอยู่..มาฮันนีมูนนะครับ..ไม่ได้ให้มาถ่ายมิวสิค” ทำมากัดกูอีกแหนะ..
เลยขว้างค้อนให้ด้ามเบ่อเหร่อ...ดูมัน..ยักคิ้วกวนส้นซะงั้น...แล้วไอ้แขนที่รัดอยู่เนี่ยะเมื่อไหร่จะปล่อยสักที...
ฮึ้ย!...หื่นชะมัด                                
                         “พอก่อน...เมื่อคืนก็ค่อนคืนแล้วนะ...”  กูเหวแม่งเลย..ก็มันจริงนิ..เมื่อคืนล่อกูเต็มแม็ก..
เล่นเอาขาถ่างแล้ว..ยังไม่รู้จักพออีก
                             “พี่พอไม่ได้..ไม่รู้สิตะเกียงทำให้พี่ติดเซ็กส์...เป็นกับตะเกียงคนเดียว...เพราะงั้นต้องยอมเป็นหมอรักษาให้พี่ด้วย”   ไอ้บ้า....ข่าวว่ากูกำลังขึ้นม.5.เหอะ..อายุเต็ม 15 มาหมาดๆ...เพิ่งได้ใช้นายแทนเด็กชายด้วยซ้ำ...-เอี้ย-ไรจะให้เป็นหมอรักษาโรคติดเซ็กส์ให้หวะ...เรียนหมอก็ว่าไปอย่าง
                              “ชิ!...คงรักษาหายหรอก..ยิ่งรักษายิ่งเปลื้องตัว...พาลเรื้อรังเข้าไปใหญ่...ตะเกียงไม่ใช่หมอนะ..จะได้รักษาให้หาย..ลดลงบ้างเหอะเรื่องเนี่ยะ”  ว่าแดกซะเลย...แหนะยังมีหน้าระรื่นอีก...
                             “อะไรคร๊าบ..เพราะเว้นเกือบสองเดือนไม่ใช่...ใครบ้างคนถึงกับไม่ยอมกินข้าวกินปลา
จนต้องเข้าโรงบาลเป็นเดือนเกือบทิ้งพี่ไปแล้วด้วยซ้ำ...เดือดร้อนต้องรีบพาพ่อแม่ไปสู่ขอทันทีเลย...หึหึหึ”
น้าน!...ฟังพูดเข้า..อยากกระโดดหงับหูแม่งขาดจริงเชียว....วุ้ย!...เล่นเอาหน้ากูแทบระเบิด..
                              ที่มันพูดไม่ผิดหรอกครับ...ขณะนี้กูกับไอ้พี่โต๋มาพักผ่อนสองคนที่ภูเก็ต..รีสอร์ทหรูของ
ไอ้พี่บอมย์มันอีกนั่นแหละ...มันจัดเป็นของขวัญพิเศษมอบห้องสวีทให้กูสองคนฉลองเลยทีเดียว...ที่ได้รับการยินยอมจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายให้คบกันในฐานะคนรัก....นับตั้งแต่เมื่อสองเดือนก่อน
                            พูดไปแล้วเรื่องมันยาว..ต้องย้อนกลับไปเริ่มเรื่องที่..หลังกลับออกจากป่ามากันแล้ว...
บ่ายวันรุ่งขึ้นพวกเราทุกคนขึ้นเครื่องเข้ากรุงเทพฯ  ไปร่วมพิธีรับศพไอ้พี่เทคซึ่งทหารได้นำมามอบให้ครอบครัวไอ้พี่เทคมันอย่างพร้อมหน้า                  
                          มีพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติ..โลงศพคลุมด้วยธงชาติไทยผืนใหญ่...พร้อมกองทหารเกียรติยศ
เข้าร่วมไว้อาลัย...ถือเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรที่ตายในขณะปฏิบัติหน้าที่
                          เป็นครั้งแรกที่กูพบหน้าพ่อแม่พี่เทค...ทั้งสองท่านอายุพอๆกันกับพ่อแม่พวกกูท่าทางใจดีมาก...
คุณแม่น้ำตาอาบแก้ม..กูต้องรีบเข้าไปกราบแทบเท้าขอขมาพวกท่านทันที..เพราะเป็นต้นเหตุให้ลูกชายคนเดียวของท่านต้องตายก่อนวัยอันควร...
                         นึกว่าพวกท่านจะโกรธพากันต่อว่ามาเสียอีก..อย่างน้อยยังรู้สึกดีที่โดนด่าจะได้สบายใจกับความรู้สึกผิดที่เก็บไว้ข้างใน..กลับกลายเป็นว่า..พวกท่านรู้จักกูก่อนด้วยซ้ำ..แม้ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน..เพราะพี่เทคมาเล่าให้ฟัง...พอพบกันท่านเปรยว่า.. ‘ไม่แปลกใจสักนิด..ทำไมเจ้าเทคมันถึงได้หลงรัก’  อารมณ์กำลังเศร้า  กูรู้สึกอายจนหน้าร้อนซะงั้น
                        งานศพพี่เทคผ่านไปด้วยดี   ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าเสียใจของทุกคนที่ร่วมในเหตุการณ์..
กูร้องไห้มากมายตอนเผาศพจนเป็นลม..ไม่เคยร้องเยอะแบบนี้มาก่อน..อาจร่างกายอยู่ระหว่างฟื้นคืนกำลังด้วย...พอมีอะไรมากระทบจิตใจเข้าหน่อยเลยทำให้แบกรับไม่ไหว...ยิ่งในหัวเห็นแต่ภาพที่มันทนทุกข์ทรมาน
ก่อนตาย..แต่ยังฝืนกัดฟันสารภาพความรู้สึกที่มีให้กูจนวินาทีสุดท้าย...กูคงได้แต่บอกฝากสายลมหวังว่าพี่จะได้ยิน.‘ตะเกียงก็รักพี่ครับ’   
                      เพื่อไม่ให้พ่อกับแม่ไอ้พี่เทคโศรกเศร้าเสียใจมากมาย   กูพาลแวะไปอยู่เป็นเพื่อนพวกท่านในสัปดาห์แรกแทบทุกวัน  จนท่านออกปากขอกูเป็นลูกบุญธรรม   พ่อเกริกแม่ษาไม่ขัดข้อง...กูเลยกลายเป็นลูก
ของท่านไปอีกคน...ยอมรับว่าดีใจมากและยินดีที่ได้คอยดูแลพวกท่านแทนพี่เทคไปตลอด...หวังว่าพี่ชายที่แสนดี...จะไปสู่สุขคติอย่างสงบสุข
                     ถึงจะมีเรื่องดีๆมาทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ...แต่สัปดาห์ต่อมา  พ่อเกริกก็พากูกลับเชียงราย...ทุกคนคง
คิดว่ากูน่าจะดีใจมากที่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้า
                    เปล่าเลย...นอกจากฝันร้ายในตอนกลางคืน...กับความรู้สึกผิดที่ฝังอยู่ในใจเป็นเพื่อน..ยังมีภาพ
ติดตาคอยย้ำเตือนตามหลอนจนนอนไม่หลับ..ยิ่งต้องนอนคนเดียว..ไม่มีความอบอุ่นจากกายใครบ้างคน...
ไม่มีอ้อมกอดให้ซุกหลับ...ไม่มีกลิ่นกายกรุ่นที่คุ้นเคยกล่อมนอน..ทำเอานอนกระสับกระส่ายทรมานแทบ
ทุกคืน...
                   หนักหนาสาหัสยิ่งขึ้นกว่าเดิม...เมื่อดันมาได้ยินพ่อเกริกกับแม่อรและพวกพี่คุยกันเรื่องของกูเข้าให้..
                   “ต้องจับแยกให้เร็วที่สุด...ทั้งสองคนรู้สึกเกินพี่น้องไปแล้ว..ใช้เวลาไม่นานก็คงลืม..ยังเด็กกัน
ทั้งคู่”  เสียงพ่อเกริกพูดไม่ดังนัก..กูชะงักกึกหาที่กำบังแอบฟังสิ่งที่ทุกคนคุยกันภายในห้องหนังสือ..
พวกเค้าคงไม่คิดว่ากูจะมาได้ยิน..คงคิดว่ากูหลับบนห้องละมั้ง...ไม่ติดว่านอนไม่หลับเพราะฝันร้าย...กะลุกมาเดินเล่นสักพักให้มันโล่งๆ  เลยมาได้ยินเข้าโดยบังเอิญ
                    “แล้วพ่อจะย้ายตะเกียงกลับมาเรียนที่นี่เมื่อไหร?...”   พี่ตระกูลถามพ่อเกริกขึ้นมา
                   “คิดว่าเปิดเทอมใหม่นี่เลย...ยังไงฝากแกจัดการให้เรียบร้อยด้วย...ตอนนี้เรื่องราวก็จบลงแล้ว...
คงไม่มีความจำเป็นให้ไปอยู่กรุงเทพฯอีก..ความใกล้ชิดจะทำให้น้องถล้ำลึกไปมากกว่านี้”   กูไม่รู้ว่าเดินกลับมานั่งกอดเข่าคุดคู้อยู่บนเตียงได้อย่างไร..เหมือนวิญญาณล่องลอย....ทุกคนรู้เรื่องของกูกับไอ้พี่โต๋แล้วแน่ๆ...เพียงแต่พ่อสิงห์รู้เรื่องนี้ด้วยหรือไม่?...หรือพ่อเกริกกับพ่อสิงห์...ตกลงแยกพวกเราจากกันเรียบร้อยแล้ว..คิดถึงตรงนี้หัวกูก็ว่างเปล่า...ใจมันโหวงเหวงไปเลย...
                      นับจากคืนที่กูรู้เรื่อง...กูกับไอ้พี่โต๋จะไม่ได้เจอกันอีกต่อไป...กูก็หมดแรง...กอปรกับสภาพจิตใจ
ที่หดหู่ต่อเนื่องไม่หาย...ทำให้กินข้าวไม่ได้..ฝืนกินเข้าไปมันกลับขย้อนออกมาจนหมด..กลางคืนก็นอนไม่หลับ...สมองอัจฉริยะจดจำได้ทุกเรื่องที่ได้ยินได้รับรู้..มันกลายเป็นอาวุธร้ายเข้าทิ่มแทงประหัตถ์ประหารซ้ำเติมกูเข้าไปใหญ่...ลองโทรไปหาไอ้พี่โต๋มันดูเผื่อจะได้ยินเสียงมันบ้าง...กลับได้ยินแต่สัญญาณฝากข้อความไม่มีการตอบรับ...เหมือนมันจงใจปิดเครื่อง...ลองโทรเข้าเบอร์บ้าน...ก็ไม่เคยได้คุยกับมันสักครั้ง....มีแต่คนบอกว่ามันไปช่วยงานพ่อสิงห์...แม้แต่แม่อรยังอ้ำอึ้งที่จะบอกความจริงกับกู....ทุกคนคงเจตนาให้เราทั้งคู่ไม่ต้องติดต่อ
กันอีก...
                       เมื่อทุกคนต้องการแบบนั้น...กูจึงกลับมาคิดและเริ่มตัดใจ...แต่การทำใจมันกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด
ไม่ว่าจะกินนอน..นั่ง..ยืน..เดิน..สมาธิกูไม่อยู่กับตัวเลย..เหม่อลอยจนบางครั้งพ่อเกริกยังพิรุธ...แต่กูก็เฉไฉว่า
ยังหลอนไม่หายเรื่องที่ผ่านมา...จึงไม่มีใครเซ้าซี้อาการของกูอีก...
                         ผ่านไปเป็นอาทิตย์..ที่กูฝืนทำตัวปกติ...กินข้าว..แล้วก็ต้องอ๊วกออกในห้องน้ำเอาทีหลัง...
เหมือนร่างกายมันไม่ยอมรับอาหาร...กูไม่เคยปริปากบอกคนในบ้านรู้...พยายามทำตัวปกติ..ทั้งที่รู้ตัวดีว่าโทรมลงทุกวัน...กูกินไม่ได้นอนไม่หลับ...ในหัวมีเรื่องให้คิดตลอดเวลา...
                        ผ่านไปวันแล้ววันเล่า...จนในที่สุดเข้าวันที่สามอาทิตย์ที่สอง...กูก็น๊อคอยู่บนเตียงในห้องไม่รู้สึกตัวไปเลย...ฟื้นมาอีกที...พบตัวเองนอนในโรงบาลเรียบร้อย...แถมสายน้ำเกลือฝังตรงแขนอีก..กูหลับไปสองวันเต็มๆ...คงเพราะนอนไม่หลับมาหลายวันติดกัน..ร่างกายมันเลยปิดสวิทซ์เองเลยทีนี้...
                      กลายเป็นเรื่องวุ่นวายสำหรับคนในครอบครัว..หน้าตาแต่ละคนจ้องมองกูในวันที่ลืมตาฟื้นขึ้นมา
มีแต่ความเป็นห่วงฉายชัด...ตั้งคำถามกันแซ่งแซ่...ว่าเป็นอย่างไร..เกิดอะไรขึ้น  ไม่สบายทำไมไม่บอก.บลาๆๆ
มากมายหลายคำถาม...และก็ได้คำตอบจากกูคำตอบเดียว...ว่ากูยังไหวสบายดี...คงเพราะยังหลอนกับเรื่องในป่า
เลยนอนไม่พอ...เป็นข้ออ้างเก่าๆ ที่นำมาใช้เหมือนทุกครั้ง...
                      การกินของกูทำให้ไม่สามารถแก้ตัวกับใครได้อีกต่อไป...เพราะกูอ๊วกออกมาทันทีหลังกลืนข้าวเข้าไปได้ไม่ถึงสามคำ...แย่ยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ   เพราะที่ผ่านมาอย่างน้อยต้องผ่านลงท้องไปกว่าสิบนาทีถึง
ค่อยอ๊วก    แต่ตอนนี้มันไม่ยอมรับอาหารลงกระเพาะเลย...กูไม่สามารถบังคับร่างกายตัวเองได้...แม้แต่พลังปราณที่ไม่ยอมฟื้นคืน...ต่อให้พยายามรวบรวมเดินลมปราณอย่างไร...กลับต่อไม่ติดสักครั้ง..หนำซ้ำหากยังขืนฝืนมากไปกลายเป็นธาตุไฟจะแตกเอาได้...สุดท้ายไม่เหลือแม้แต่แรงจะรวบรวมลมปราณอีกด้วยซ้ำ...ได้แต่นอนแหม่บบนเตียงคนป่วยกินน้ำเกลือแทนข้าว
                        อาการของกู..หมอได้แต่ลงความเห็นว่าภาวะจิตใจเครียดจัด...พักผ่อนน้อยกอปรกับร่างกายต่อต้านอาหาร...รักษาไม่ได้ผลนอกจากคนไข้จะต้องไม่เครียด...กูเข้าใจที่หมอบอกนะและพยายามอย่างยิ่งที่จะดูแลตัวเอง...ไม่ให้ทุกคนเป็นกังวล...แต่เชื่อไหมใจมันไม่ยอมทำตาม....กระปรกกระเปลี้ยไปดื้อๆ ซะงั้น...
                        กลายเป็นเรื่องใหญ่...เมื่อน้ำหนักกูลดฮวบฮาบ...เพราะกินอะไรไม่ได้เลยจริงๆ...ไม่ว่าแม่ษา
จะพยายามสรรหาของอร่อยที่กูชอบมาเอาใจป้อนให้ถึงปาก...กูพยายามฝืนกินแล้ว...สุดท้ายก็อ๊วกออกมา
ทุกครั้ง...
                       พาเอาทุกคนเครียดกันไปหมด...มีเวลาได้อยู่คนเดียวบ้างตอนกลางคืน....น้ำตากูไหลอาบแก้ม....
มันนอนไม่หลับ...แต่ไม่กล้าขอยานอนหลับจากหมอ..เพราะยิ่งจะทำให้ทุกคนเป็นห่วงเข้าไปใหญ่...
                  ถามว่ามีเรื่องอะไรคิดมากที่สุด....อะไรที่มันรบกวนจิตใจในตอนนี้...กูตอบไม่ถูก....มันผสมปนเป
กันไปหมด..ไม่ว่าจะเรื่องความรู้สึกของคนในครอบครัว..เรื่องของกูกับไอ้พี่โต๋...เรื่องของพ่อสิงห์แม่อรที่กูรักเคารพเหมือนพ่อแม่กูอีกคน...ไม่รู้พวกท่านจะโกรธจะเกลียดกูหรือเปล่า?....จะเอ็นดูกูเหมือนเดิมไหม?..กูยังจะมีโอกาสได้เจอพวกท่านไหม?....หรือกระทั่งพวกเพื่อนในแก็งค์สิงห์โตดำทุกคน..กูคงไม่มีโอกาสได้เจอพวกมันอีกแล้ว...เพราะเปิดเทอมมา..กูไม่ได้เรียนที่เดิมแล้วนี่..
                       ทุกๆ เรื่องมันเก็บไว้ในหัวพาให้คิดตลอดเวลา...ไม่สามารถบอกเล่าให้ใครฟังได้...กูไม่กล้าติดต่อ
กับใครเลย..หลังจากความพยายามที่จะติดต่อไอ้พี่โต๋หมดสิ้นลง....จะได้ประโยชน์อะไรเล่า..หากกูติดต่อกับพวกมัน..ซึ่งผลลัพธ์ก็รู้อยู่แล้ว...ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือกูได้...เมื่อพวกผู้ใหญ่เค้าตัดสินใจกันไปแล้ว...นั่นคือไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก...ที่สำคัญกูไม่กล้ายืดอกออกไปขอร้องพวกท่าน...บอกตรงๆ..กูเองรู้สึกผิดและละอายใจที่ทำให้พวกท่านผิดหวังกับเรื่องนี้.
                        เพราะฉะนั้น...กูจึงเก็บเรื่องนี้ไว้ภายในไม่แสดงให้ทุกคนรู้..ว่ากูรู้เรื่องแล้ว...เลยทำให้พวกเค้า
หาสาเหตุอาการของกูไม่เจอเหมือนกัน...ต่างสรุปว่กันว่าที่กูเป็น..เพราะดันใช้พลังปราณในการต่อสู้กับกรองกุมภ์จนหมดก๊อกและยังมากดดันต่อเนื่องยาวนาน...รวมถึงความเสียใจกับการจากไปของไอ้พี่เทคที่สละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเหลือกูอีก...ต่างเหมารวมเอาทุกเรื่องว่าคือต้นเหตุความเครียดทั้งหมด...พยายามพากันปลอบโยนให้กูสบายใจ...โดยไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องไอ้พี่โต๋กันเลย....เหมือนเป็นเรื่องต้องห้ามที่ไม่ควรนำมาเป็นประเด็น...ซึ่งกูก็ปิดปากเงียบเช่นกัน..ไม่พูดถึงแม้แต่จะเอ่ยถามเสียด้วยซ้ำ..
                        ย่างเข้าสัปดาห์ที่สาม....กูทรุดหนักผอมจนหนังติดกระดูก...สังเกตุเห็นความหนักใจของทุกคน
ที่แสดงออกได้ดี...เริ่มกังวลกันมากมาย...พยายามผลัดเปลี่ยนกันมาคอยดูแลเอาใจกูสารพัด....โดยเฉพาะแม่ษา
ไม่ยอมห่างกูเลยด้วยซ้ำ
                        กูพยายามบอกให้ทุกคนไม่ต้องกังวล..เดี๋ยวก็คงดีขึ้น...แม้ปากจะพยายามพูดให้ทุกคนรู้สึก
สบายใจ...แต่ร่างกายกับทรุดลงเรื่อยๆ...จนในที่สุดน๊อคไปอีกครั้ง...ซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าครั้งนี้กูวูบหมดสติไปตอนไหนเมื่อไหร่...
                        จำได้ว่าในขณะที่หลับ...กูไปเจอไอ้พี่เทคมันที่ไหนสักแห่งไม่รู้จัก...เราสองคนมีโอกาสได้นั่ง
คุยกันยังกับว่ามันยังมีชีวิต..หน้าตาของมันดูมีความสุขมาก...
                         “พี่ดีใจจัง..ที่ได้เจอตะเกียงอีก”    มันยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนมาให้   รอยยิ้มของมันทำให้หน้ามันหล่อขึ้นเป็นกอง  ทั้งที่เดิมมันก็หล่ออยู่แล้ว
                         “ตะเกียงก็ดีใจครับ...พี่เป็นไงบ้างสบายดีไหม?”  
                        “พี่สบายดี...แต่ไม่สบายใจ..ที่รู้ว่าตะเกียงไม่ดูแลตัวเองเลย..ทำให้พี่เป็นห่วงมาก..จนต้องมาพบเพื่อเตือนสติด้วยตัวเอง”  มันตอบกูมา
                        “อืม...ขอโทษครับ..ที่ทำให้พี่เป็นห่วง...ตะเกียงคงเป็นน้องที่แย่เอามากๆ...ถึงตอนนี้
ยังทำให้พี่ลำบากใจอีกจนได้”  กูตอบมันไปอย่างไม่สบายใจ
                        “ช่างเถอะ...พี่เข้าใจ....ต่อไปนี้สัญญากับพี่...ว่าจะดูแลตัวเองให้ดี...รับปากพี่ได้ไหมครับ”  
มันยิ้มเอามือลูบหัวกูไปด้วย..ก่อนจะดึงเข้าไปซบตรงไหล่มัน..กูไม่ได้ขืน...กลับรู้สึกดีด้วยซ้ำ..เหมือนได้รับกำลังใจมากมาย  เราต่างคนต่างนั่งกันเงียบๆ  มันก็ยังเอามือลูบหัวกูช้าๆ  ไม่มีใครพูดอะไรอีก
                         ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ..มันถึงได้เอ่ยปากขึ้นมาว่า
                         “เอาหละ...ตะเกียงมานานแล้ว..ได้เวลากลับเสียที..ไปกันเถอะพี่พาไปส่ง”  ก่อนจะดึงมือกูลุก...
เราเดินจับมือกันตลอดทาง...กูก็เชื่องเดินตามมันต้อยๆ..โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันพากูไปส่งที่ไหน....เหมือนว่าเราเดินมากันไกลไม่น้อย...กระทั่งถึงที่ไหนไม่รู้...รอบข้างว่างเปล่า..ขาวโพลนไปหมด..ดูไม่ออกว่าทิศไหนเป็นที่ทิศไหน..มันเหมือนกันหมด..
                         “ถึงแล้วนะครับ...พี่คงส่งตะเกียงได้แค่นี้...อย่าลืมที่รับปากพี่ไว้..กลับไปดูแลตัวเองให้ดี...
สัญญากับพี่สิครับ”  มันก้มเอามือลูบหัวกูเบาๆ  พร้อมกับขอคำยืนยันให้กูรับปาก..กูเงยหน้าจ้องตามัน...
มีแต่สายตาอบอุ่นอ่อนโยนแสดงความรู้สึกไม่ซ้อนเร้นฉายชัดออกมา..เป็นดวงตาที่มันเคยใช้มองกูก่อนสิ้นใจในวันนั้น..ไม่รู้น้ำตากูไหลมาตอนไหน...รู้สึกตัวก็ตอนมันเอามือเกลี่ยเช็ดให้ข้างแก้มเบาๆ...ก่อนจะก้มลงมาจูบหน้าผากกูนิ่งๆ...แล้วถอนจูบกลับไป
                       “ครับ....ผมสัญญาจะดูแลตัวเองให้ดี....พี่ครับตะเกียงอยากบอกพี่ว่า...ผมรักพี่ครับ”  กูพูดจบ..
มันฉีกยิ้มกว้างน้ำตารื้นคลอเบ้า...ยิ้มครั้งนี้ของมันสว่างไสวจนกูแสบตาไปหมด....ต้องปิดเปลือกตาลงทันที...
มันสว่างจร้ามากเกินไป...ทันได้ยินประโยคสุดท้ายมันพูดตอบมาว่า
                       “ขอบคุณมากครับ...ดวงใจของพี่”   
แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไปอีกครั้ง
                       ลืมตาตื่นมารู้สึกพร่าเบลอ...เห็นเงาหน้าคนลางๆ..เหมือนจะคุ้นเคย..แต่ก็ไม่ชัดเจน...กำลัง
ก้มมองหน้ากูตอบตอนนี้...ก่อนที่กูจะกระพริบตาติดๆ กัน   แล้วค่อยเปิดตามองอีกครั้งเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ...
จนเห็นเป็นหน้าคนคุ้นเคยจริงๆ...คนๆ นั้น....จ้องตอบกูดวงตาอิดโรย..แต่แฝงแววดีใจ..ห่วงใย..กังวล..ปนเปกันดูยุ่งเหยิงไปหมด
                       กูจ้องมันนิ่งๆ..ไม่รู้นานเท่าไหร่...ก่อนที่จะสัมผัสถึงมือหนาค่อยเกลี่ยน้ำตาตรงหางตาให้ทั้ง
สองข้าง...เรายังคงมองกันอยู่อย่างนั้น...กูไม่รู้ว่าน้ำตาไหลออกมาได้ยังไง..พักนี้บ่อน้ำตาคงมีปัญหา...มักไหลออกมาเองโดยกูไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่ามันไหลตอนไหน....
                       “ขอบคุณมากครับ...ขอบคุณที่ตื่นมาอีกครั้ง...ขอบคุณจริงๆ ที่ไม่ทิ้งกันไป...ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่คืนหัวใจให้ผมมา”  เสียงทุ้มนุ่มหูที่ไม่ได้ยินเป็นเดือน..พูดเหมือนคนละเมอตรงหน้า...สายตามันไม่ละไป
จากหน้ากูเลย...กระทั่ง
                      “ฮ่ะแฮ่ม!...พ่อว่าให้ทุกคนได้ถามอาการน้องหน่อยดีไหม?..โตโต๋”  เสียงพ่อสิงห์...ทำให้สติกู
กลับคืนมาทันที..ก่อนจะค่อยมองสำรวจไปรอบๆ..บัดนี้คร่าคร่ำไปด้วยผู้คนที่กูรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี....พ่อเกริก..แม่ษา..พ่อสิงห์..แม่อร..พี่เต้..พี่ตระกูล..พี่ตระการ...ไอ้พี่บอมย์...ไอ้พี่รัน..ไอ้พี่พรต..ไอ้พี่หน่อง...ไอ้พี่ชัด..ไอ้พี่ต้า..ไอ้พี่วิน...ไอ้พี่กาน..ไอ้พี่โทนี่...และคนสุดท้าย..น้องสาวคนเล็กของกู...ไอ้ตระกอง
                       กูงง...มันเกิดอะไรขึ้น...ทำไมทุกคนมารวมตัวกันเต็มห้อง..มาตั้งกะเมื่อไหร่....มาทำไมกัน...
นัดกันมาหรือไง..หรือกูกำลังฝันหลับยังไม่ตื่น...สายตาแต่ละคนที่มองกู..มีทั้งน้ำตาคลอเบ้า..มีทั้งแวววิตกกังวล
ยิ่งแม่ษากับแม่อรด้วยแล้ว...ตาแดงช้ำเหมือนคนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก...
                      “หิวน้ำ..”  กูพูดเสียงแหบพร่า..แทบจะไม่ได้ยิน..เพิ่งรู้สึกว่าคอแห้งมากมาย...ไอ้พี่โต๋มัน
รีบจัดการรินน้ำอุ่นใส่แก้ว...เสียบหลอดดูด....ก่อนจะพยักหน้าให้ไอ้พี่บอมย์หมุนปรับระดับเตียงให้ส่วนหัวยกขึ้นช้าๆ....ท่ามกลางสายตานับยี่สิบคู่ที่มองตลอดเวลา  โดยยังไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น
                      จากนั้น..มันก็เอาหลอดดูดมาจ่อถึงปากให้กูค่อยๆ ดูดน้ำกินทีละนิดๆ...รู้สึกชุ่มคอขึ้นหน่อย....
ก่อนจะบิดหน้าหนีเมื่อรู้สึกอิ่มหลังจากจิบไปได้ค่อนแก้ว...ไอ้พี่โต๋มันเอาแก้ววางคืนตรงโต๊ะหัวเตียง...กูเหลือบตามองการกระทำของมันตลอด...เริ่มมีโอกาสสำรวจหน้าตาของมันจริงจัง..พอมันหันกลับมาจ้องกูอีกครั้ง..
                      และไม่ทันรู้ตัวว่าตัวเองกำลังคิดทำอะไรอยู่..มือกูก็ไวก่อนความคิด..ค่อยเอื้อมลูบคลำใบหน้าของมันเบาๆ   โดยลืมไปว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพังสองคน...
                      หน้าตาหล่อเทพของมันตอนนี้...ครึ้มไปด้วยหนวดเคราที่ขาดการดูแลเอาใจใส่มาหลายวัน...
ขอบตาคล้ำยังกะหมีแพนด้า..หน้าตอบซูบเหมือนคนอดหลับไม่ได้พักผ่อนมานาน...แววตาอิดโรยแต่ก็ยังวาววับเหมือนยิ้มได้..
                     ไม่มีใครทักท้วง...ไม่มีใครพูดอะไร..แม้แต่ตัวมันก็ปล่อยให้กูลูบไปตามใบหน้าของมันยังกะฝัน..
มันคือความจริง...ใบหน้ามันอยู่ตรงนี้จริงๆ..กูสัมผัสได้...เกือบสามอาทิตย์ที่ไม่ได้เห็น...ไม่ได้คุยกัน...ไม่รู้ข่าวคราวมันเลย...ตอนนี้ตัวเป็นๆ อยู่ตรงนี้แล้วจริงๆ ..ก่อนจะรู้สึกถึงมือหนาค่อยประกบมือกูบิดปากจูบลงบนกลางฝ่ามือนิ่งๆ..เหมือนประทับรอยจูบถ่ายทอดพลังผ่านจูบนี้ให้ซะงั้น
                    ไม่ได้พูดโกหก...จูบนี้อุ่นหวาบ..ความร้อนแล่นผ่านกลางฝ่ามือวิ่งเข้าถึงหัวใจ...จนทำให้หัวใจ
ที่คิดว่ามันเต้นช้า..ช้ามาก...กลับมาโครมครามยังกะกองรัวอีกครั้ง...เรียกความร้อนวิ่งขึ้นหน้าทันที...ปานนี้หน้าคงแดงเถือกแล้วแน่ๆ...ไม่ต้องเดาก็รู้
                     “อย่าทำให้พี่ตกใจอีกนะครับ...อย่าทำเหมือนทิ้งกันไป...รับปากพี่สิครับ”  กูไม่เข้าใจมันพูดถึงอะไร...แต่เห็นแววตาที่มีน้ำตารื้อขึ้นมา...พาใจหาย...จนต้องรีบพยักหน้าให้ไปทันที...ถึงเห็นรอยยิ้มดีใจของมันกลับมา...ขับให้หน้าเหนื่อยล้าของมันสว่างจ้าเปล่งประกายวิบวับขึ้นมาทันที..กูมองตาค้างเผลอยิ้มออกไปให้มันเช่นกัน..นับเป็นร้อยยิ้มแรกที่ตื่นมา..รู้สึกว่ายิ้มออกมาจากใจเลยว่างั้นก็คงได้...
                      ก่อนที่เราสองคนจะสร้างโลกส่วนตัว..โดยลืมนึกไปว่าพวกเราไม่ได้อยู่ตามลำพัง...ต่อเมื่อ
พ่อเกริกเดินมาเอามือลูบหัวกูเบาๆ...ไอ้พี่โต๋มันถึงถอยหลบออกไป  ให้พ่อๆ แม่ๆ..และทุกคนสลับกันเข้ามาทักทายพูดจาถามไถ่อาการ..กูตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง..เพราะยังจับต้นชนปลายเรียงลำดับไปถูก..ก่อนจะรู้สึกหนักหัวจนตาจะปิด..จนทุกคนสังเกตุได้พากันหยุดคำถาม...ปล่อยให้ไอ้พี่โต๋เข้ามากุมมือกูไว้  เอามืออีกข้างลูบหัวกูอย่างนุ่มนวล...พร้อมกระซิบบอกกูว่า
                        “เหนื่อยก็หลับพักผ่อนนะครับ...พี่จะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน..แล้วค่อยตื่นขึ้นมาเจอกันนะครับสัญญา....ห้ามหลับนานเป็นอันขาด..”  กูจำได้แค่นั้น....รู้สึกว่าตนเองเผลอยกยิ้มมุมปากให้มันไป  ก่อนจะผล่อยหลับไปในที่สุด.......
Part  104
รักของสองเรา...

                        ลืมตาตื่นมาอีกครั้ง   รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ากว่าเก่ามาก...ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน..
แต่ที่แน่ๆขณะกำลังจะหลับได้เห็นหน้าไอ้พี่โต๋ และฟังคำพูดที่ออกจากปากมันก่อนตาจะปิดสนิท... ‘หลับพักผ่อนนะครับ..พี่จะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน...รอตะเกียงตื่นมาเจอกัน’   มันบอกจะรอกู...ทำให้กูหลับสนิท...
ใจอิ่มเอิบ..ไม่อยากเชื่อเลยว่า..เพียงแค่เห็นหน้ามัน..ฟังคำพูดหวานๆที่มันพร่ำบอก..จะเหมือนน้ำทิพย์ชะโลมหัวใจกูให้พองคับอก...กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง..มันคงเป็นน้ำมันเติมตะเกียงสำหรับกูจริงๆ
                         “ตื่นแล้วหรือครับ..” กูจ้องหน้าไอ้หล่อเทพ..ที่ยืนมองอยู่   หน้ามันตอนนี้สะอาดเกลี้ยงเกลา..
เสื้อผ้าก็ชุดใหม่ไม่ใช่ชุดเดิม..ที่สำคัญมันกลับมาหล่อ...ไม่สิ..มันหล่อกว่าเก่าเพราะมันยิ้ม...ยิ้มพราวอย่างมีเสน่ห์..ขับให้หน้าหล่อขั้นเทพของมันเปล่งประกายจ้าจนสัมผัสได้
                        “อือ...หิวน้ำ”  กูส่งเสียงตอบ  พร้อมบอกไปว่ากูหิวน้ำ  มันยิ้มให้ก่อนจัดการเอาน้ำอุ่นรินใส่แก้ว
เสียบหลอดเรียบร้อย..แล้วค่อยนั่งตรงขอบเตียงสอดแขนเข้าใต้คอกูประคองให้ลุกพิงอกมัน   แล้วค่อยเอาแก้วน้ำจ่อปากให้กูจิบในสภาพที่ตัวกูเอนพิงมันทั้งตัวนั่นแหละ..กูไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่ไปหมุนเตียงปรับระดับขึ้นเอา...แต่ทำแบบนี้กูกลับชอบมากกว่า...ฮ่าๆ
                          กูถอนปากออกจากหลอด...มันรู้ว่ากูอิ่มแล้ว จึงเอาแก้ววางไว้บนโต๊ะข้างเตียง...แล้วค่อยกลับมา
สวมกอดกูไว้ทั้งตัว   ก่อนจะก้มมาหอมบนหัวสูดหายใจลึกนิ่งๆ...แล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดกับกูว่า
                         “พี่ดีใจมาก...ที่ตะเกียงดูหน้าตาสดใสขึ้น..เดี๋ยวทานข้าวนะครับ...แม่ๆ กำลังเอามาให้..
เห็นบอกทำข้าวต้มปลากระพงเห็ดหอมมาให้ตะเกียงด้วย..”  มันพูดให้ฟัง...กูอมยิ้ม..ก่อนตัดสินใจถามสิ่งที่สงสัยทันที
                         “พี่มาได้ยังไง...แล้วพวกเพื่อนๆ อีก..มาครบหมดเลย...รู้ได้ยังไงว่าตะเกียงอยู่ที่นี่...” กูถามมันไป
                         “พ่อเกริกโทรบอกพ่อสิงห์...ความจริงพี่รู้ว่าตะเกียงป่วยนอนโรงบาลตั้งแต่ที่เข้ามาวันแรกแล้ว...
แต่พี่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อกับตะเกียง..ขอโทษด้วยนะครับ..ที่พี่ไม่ได้มาดูแลตั้งแต่แรก”  มันบอกกู
                         “ไม่ต้องขอโทษหรอก...ตะเกียงรู้ความจริงหมดแล้ว..พวกผู้ใหญ่ไม่ต้องการให้เราติดต่อกันเพราะอะไร..พี่ไม่ต้องพูดต่อแล้ว...ที่จริงมันต้องยุติลงตั้งนานแล้วด้วย...จะช้าหรือเร็ววันนี้ก็ต้องมาถึง”  กูตอบมันไป
                        “หึ..ไม่แล้วครับ...ตอนนี้เรื่องของเราพวกผู้ใหญ่ไม่มีใครห้ามอีกแล้ว...พ่อๆแม่ๆ ทุกคนลงความเห็นให้เราคบกันได้..ไม่จับเราแยกจากกันอีกแล้วหลังจากที่ตะเกียงสลบไปครั้งหลังสุด...”  กูขมวดคิ้วหันมองหน้ามัน..แบบไม่เชื่อในสิ่งที่มันพูด
                       “ไม่ต้องทำหน้าไม่เชื่อหรอกครับ..พี่พูดเรื่องจริง..ตะเกียงสลบครั้งหลังสุด...พวกเราก็ยกโขยงมากันหมด..พี่ไม่ลืมโทรบอกไอ้บอมย์มันด้วย..และมันก็เป็นคนโทรบอกพวกเราทุกคน...พากันบินตามมาทีหลัง...พอมาถึงตะเกียงอาการหนักมาก...ชีพจรเต้นอ่อนถึงกับต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ...เหมือนคนหลับไม่รับรู้
อะไรเลย..ไม่ว่าพี่จะเรียกจะปลุกยังไงตะเกียงก็ไม่ลืมตา...จนพี่กินไม่ได้นอนไม่หลับ..ทุกคนพยายามให้กำลังใจบอกให้พี่กินข้าวอาบน้ำให้สบายใจ..พี่ไม่ฟังใครทั้งนั้น...อยู่เฝ้าตะเกียงไม่กินไม่นอน..ผ่านไปหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน...จู่ๆ ก็เกิดโกลาหลเมื่อชีพจรของตะเกียงแผ่วลงเรื่อยๆ...จนต้องเรียกหมอด่วน...
                          และช่วงวิกฤตที่แย่ที่สุดเมื่อชีพจรตะเกียงหยุดเต้นไปดื้อๆ  เกือบสามนาที...ทีมแพทย์
และพยาบาลต้องช๊อทตะเกียงด้วยไฟฟ้าเพื่อให้เกิดการตอบสนอง...ณ...วินาทีนั้น..พี่ร้องไห้ไม่อายใคร..ถึงกับก้าวร้าวต่อว่าพ่อแม่ทุกคน..ที่ทำให้เราแยกกัน..ทำให้พี่ไม่ได้ดูแลตะเกียง...พี่พูดแรงมากถึงขนาดบอกกับพวกท่านไปว่า...หากตะเกียงเป็นอะไรไปพี่จะไม่ให้อภัยทุกคนรวมทั้งตัวเองด้วย...เมื่อไม่มีตะเกียง..ก็จะไม่มีโตโต๋..
                       เพราะคำพูดนี้ของพี่..ทำให้พวกท่านเข้าใจพวกเรามากขึ้น...พี่อ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่าเอา
ตะเกียงไปจากพี่...คำอธิฐานของพี่คงเป็นจริง..ในที่สุดชีพจรตะเกียงก็กลับมาเต้นอีกครั้ง...พวกเรารอคอยอย่างทุกข์ทรมาน..กระทั่งผ่านไปร่วมห้าชั่วโมงตะเกียงถึงยอมฟื้นขึ้นมา  ท่ามกลางการรอคอยของทุกคน..ที่เหลือก็อย่างที่ตะเกียงเห็นนั่นแหละ...”  มันเล่าให้กูฟังอย่างละเอียด...
                      “ทำไมพี่ถึงมั่นใจว่า..พวกผู้ใหญ่ยอมให้เราคบกันได้แล้ว”   กูยังติดใจเรื่องนี้ไม่หาย..
                     “ก็พอตะเกียงหลับไปแล้ว...พวกเราก็เปิดใจคุยกันทันที..และพี่ก็กราบขอขมาพ่อเกริกแม่ษา
และพ่อแม่พี่ไปเรียบร้อยแล้วด้วย..ซ้ำยังอ้อนวอนขอเป็นคนดูแลรับผิดชอบตะเกียงหลังจากนี้...พ่อแม่ของเราท่านต่างเข้าใจและยอมรับในความรักของพวกเราแล้ว..คงเพราะท่านเห็นตอนตะเกียงตื่นมาเจอพี่...ทุกอย่างที่เราแสดงต่อกันอยู่ในสายตาพวกท่านตลอดเมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนจึงลงมติเป็นเอกฉันท์ให้เราคบกันโดยจะไม่ขัดขวางพวกเราอีกต่อไป”  มันพูดพร้อมรอยยิ้มมีความสุขเต็มเปี่ยมบนหน้า
                     “แล้วนี่ไปไหนกันหมดครับ”   กูถามเพราะไม่เห็นใครเลย  นอกจากมันกับกู
                    “ทุกคนกลับไปพักผ่อนที่บ้านตะเกียง...แถมเตรียมจัดงานผูกข้อมือรับขวัญตะเกียงด้วย  หลังจากล่าสุด หมอมาตรวจเช็คร่างกายตอนตะเกียงหลับ..แล้ววินิจฉัยว่าอาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง  หากวันนี้ทาน
ข้าวได้  พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้เลย..หมอสรุปโรคที่ตะเกียงเป็น...เค้าเรียกว่าโรคใจ..ต้องใช้ใจรักษา”  มันพูดจบมีอมยิ้มล้อเลียนกูอีก...เล่นเอาหน้ากูร้อนวาบทันที
                    “ก๊อกๆ”  เสียงเคาะประตู..ก่อนจะผลักเข้ามา  แม่อร  แม่ษา..พ่อเกริก  พ่อสิงห์..และทุกคน
ตามเข้ามาเป็นพรวน...กูยกมือไหว้พวกผู้ใหญ่  พร้อมกับส่งยิ้มทักทายไปให้เพื่อนๆ
                    “ห่าโต๋...ให้กูปรับเตียงดีกว่าไหม..เล่นกอดไม่ปล่อยเลยนะมึง”  ไอ้พี่บอมย์มันแซวครับ...
กูเพิ่งนึกได้ว่านั่งพิงอยู่ในอ้อมกอดมันทั้งตัว..หน้าร้อนทันทีกับคำพูดไอ้ยักษ์หล่อมัน...ก่อนจะขืนตัวออกจากอ้อมกอดไอ้พี่โต๋..ยอมรับอายสายตาพ่อแม่ที่พากันมองมายิ้มๆ..หวาย..หวาย..อยากมุดเตียงหนีชิบหาย
                   “หึ..เอาดิ..มึงปรับเลย..เดี๋ยวกูจะให้น้องกินข้าว..แม่เอาข้าวต้มมาด้วยใช่ไหมครับ?..”  พูดจบมัน
หันไปถามแม่อร..ที่พยักหน้าให้ก่อนไอ้พี่พรตมันจะส่งตระกร้าหวายข้างในมีปิ่นโตใส่ข้าวต้มยื่นให้
ไอ้พี่โต๋   ซึ่งมันก็คลายอ้อมกอดกู  ลุกไปรับมาจัดการเองบนโต๊ะ..ตอนนี้กูนั่งพิงหัวเตียงที่ได้พี่บอมย์มันหมุนปรับระดับให้เอนเรียบร้อยแล้ว
                    “กำลังอุ่นพอดี..กินเลยนะครับจะได้มีแรง”  มันหันมาพูดกับกู...เลยพยักหน้าให้มันไป..ก่อนมันจะถือปิ่นโตข้าวต้ม  มาป้อนให้กูต่อหน้าทุกคนแบบไม่สนใจใครจะมอง..กูจะกินเองก็กลัวมันเสียหน้า  เลยต้องยอมให้มันป้อนแหละ  รู้สึกถึงสายตาทุกคู่จ้องกูกินอย่างกับจะลุ้น  เล่นเอาใจกูรัวกระหน่ำ...เขินสาด..แต่เพราะกูเขินมากไปหรือเปล่าไม่รู้...เลยเอาแต่ก้มหน้าแดกข้าวต้มที่มันป้อนแบบไม่กล้าเงยหน้าสบตาใคร..แดกเอาแดกเอาจนเพลิน  ข้าวต้มหมดไปตอนไหนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ..มารู้สึกตัวก็ต่อเมื่อมันทัก
                     “เก่งจังครับ....กินหมดเลย...เอาน้ำดื่มก่อนแล้วค่อยกินยาตามนะครับ”  กูก็ทำตามมันอย่างว่าง่าย....
หลังจากมันส่งทั้งน้ำทั้งยามาให้
                    “ขอบใจโต๋มากนะลูก..น้องทานข้าวได้หมดไม่เหลือ   แถมยังไม่อ๊วกอีกตะหาก”  แม่ษาพูดขึ้นมา  
เลยพาลทำให้กูนึกขึ้นได้..เอ่อนั่นสิ..ทำไมกูถึงไม่อ๊วก..ตาย..ตาย..สงสัยแฟนกูมีเวทย์มนต์   ทำให้กูกินข้าวที่มันป้อนแล้วไม่อ๊วก..
                   “ไม่ต้องขอบใจผมหรอกครับ....มันเป็นหน้าที่ของผมต้องดูแลคนรักอยู่แล้ว..ที่สำคัญผมเต็มใจทำอย่างยิ่ง”  มันพูดจบ
                  “ฮิ้ว!..เลี่ยนสาด...”  เสียงลูกคู่โห่แซวลั่นห้อง...ก่อนทุกคนจะพากันหัวเราะขำกับท่าทางเขิน
ของไอ้พี่โต๋  ที่ได้แต่เกาหัวแก้เก้อ...
                 บรรยากาศในห้องตลบอบอวลด้วยเสียงหัวเราะ..และคำถามที่ทุกคนพากันป้อนใส่กู...ทำให้รู้ว่าพวกเค้ารักและเป็นห่วงกูมากขนาดไหน...
                 กูไม่ต้องย้ายโรงเรียนแล้วด้วย..ซ้ำยังกลับไปอยู่บ้านไอ้พี่โต๋  ได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม...โดยพ่อๆ แม่ๆ..ทุกคนไม่ขัดขวางการที่เราคบกันแบบคนรักอีกต่อไป..แถมพ่อสิงห์มีหยอกพ่อเกริกอีกว่า...สินสอดเรียกเท่าไหร่ก็บอก..จะได้เตรียมไว้ให้ล่วงหน้า...พาเอาฮากระจายกันทั้งห้อง...แต่กูอาย....อายจนอยากหายตัวหนีแล้ว
                  “ฮา..อิ่มโคด....”   กูบ่นนั่งตีพุ่งตรงโซฟาในห้องพักรีสอร์ท..หลังจากไอ้พี่โต๋พาไปกินบาบีคิวซีฟู๊ด
ริมชายหาดทางที่พักเค้าจัดให้...ล่อซ่ออิ่มจนจุก  ก็อาหารทะเลที่เค้านำมามีแต่ของสดๆ ตัวใหญ่ๆ...กูแดกไม่ได้อย่างเดียวคือปลาหมึก..กูแพ้ปลาหมึก...นอกนั่นซัดกระจาย..ก่อนที่ไอ้รูปหล่อข้างๆ  จะลากกลับที่พัก..
เพราะเริ่มมีฝรั่งเข้ามาชวนกูคุยแล้วมันออกอาการจะขบหัวเค้าแล้ว...ตอนนี้มันอาบน้ำส่วนกูนั่งผึ่งพุง
                “พี่อาบเสร็จแล้ว..ตะเกียงไปอาบต่อเลย”  มันเปิดประตูห้องน้ำออกมา  หยดน้ำเกาะตามตัวเซ็กซี่ได้อีก...กูเลยลุกหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำให้สบายตัวบ้างดีกว่า...เหนียวตัวเหมือนกันลมทะเลก็งี้แหละ..ดีหน่อยที่ตอนอยู่ในห้องเปิดแอร์เย็นสบาย..ได้ยินมันเปิดทีวีคงดูข่าวรอบค่ำ
                “พี่โต๋...อาทิตย์หน้าก็เปิดเรียนแล้ว...พวกเราขึ้นม.5 กันแล้วสิเนอะ..”  กูนอนคุยกับมันบนเตียง
หลังจากอาบน้ำเรียบร้อย  ก็พากันมานอน  คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เรามาพักรีสอร์ทหรูห้องสวีทของขวัญจาก
ไอ้พี่บอมย์มันจัดรับขวัญกู
               “อืม...เป็นพี่ใหญ่ขึ้นอีกปี...เผลอๆงานกีฬาสี  ได้เป็นประธานสีแข่งกันอีกแน่ในกลุ่มพวกเรา...
น่าสนุกดีนะพี่ว่า...”  มันพูดขึ้นมาเรื่องงานกีฬาสี..นั่นสินะ..ปีนี้พวกกูก็เป็นรุ่นพี่ที่จะได้ทำกีฬากันเต็มที่แล้ว...
นึกถึงงานกีฬาสีที่ผ่านมายังสนุกไม่หาย  มีอะไรมากมายที่เราได้จากกิจกรรมครั้งนั้น  เสียงหัวเราะ  น้ำตาแห่งความดีใจ  ความสุขมากมายหาซื้อไม่ได้  คือมิตรภาพระหว่างพี่น้องร่วมหมู่คณะ..
                 “อืม..จริงด้วยสินะ...อยากรู้จังน้องใหม่ที่เข้าม.4 จะมีคนฝีมือดีมีความสามารถกันมากแค่ไหน...
คิดแล้วตื่นเต้นดีเนอะ”  กูพูดกับมัน
                 “หึ...เก่งแค่ไหนก็ช่าง..แต่คนเก่งข้างพี่ห้ามสนใจใครเด็ดขาดเข้าใจไหมครับ..”  น้าน!..ฟังพูดเข้า  
เลยแกล้งมันซะหน่อย
                “สนสิ..ทำไมจะไม่สน..มีคนเก่งๆ มาให้รู้จักอดสนไม่ได้หรอก”  หน้าบูดทันที...ทำตาวาวใส่กูแล้วนั่น
                “ไม่ได้..พี่ไม่ให้ตะเกียงสน..ต่อให้พวกมันจะมาสนตะเกียงก็ช่าง..สนได้แค่พี่คนเดียวเท่านั้น..
ไม่งั้นเจอดีแน่”  ตายห่า..ตบท้ายมีขู่กูอีกซะงั้น
               “อะไรกัน...ทำเป็นขู่...นึกว่ากลัวดิ...กลัวตายหละ”  พอกูพูดจบ..มันไม่รอต่อประโยค..กูพลาดไปเอง..
เพราะบัดนี้มันพลิกขึ้นคร่อมกูทั้งตัว  ก่อนจะขึงยึดมือกูไว้เหนือหัว..จ้องตากูนิ่งๆ  แล้วพูดรอดไรฟันเสียงต่ำว่า
              “อยากลองดีใช่ไหม..งั้นคืนนี้ไม่ต้องนอนกันเลย..”  พูดจบมันไม่รอช้า  กดจูบฉกลิ้นใส่กูทันที...
ไม่เปิดโอกาสให้โต้ตอบได้อีกเลย....ไอ้พี่บ้า...ล่อจะไม่ให้นอนเลยจริงๆ หรือนี่..อร๊าย...ตาย..กูตาย..
เมื่อไหรมันจะหายจากโรคติดเซ็กส์ซะที..

สุดท้ายกูก็ต้องครางลั่น   แพ้ทางมันจนได้...สิงห์โต๋..แม่งเชี่ยวมากอ่ะ...จะเหลือเหรอไอ้ตะเกียง...
ได้แต่คิดในใจ..วันนี้มันจะทำแพททริกยิงกี่ประตู....เฮ้อ....




มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-11 23:55:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
1612
Zenny
6474
ออนไลน์
812 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-9-1 20:20:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราบ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
41
พลังน้ำใจ
17871
Zenny
42606
ออนไลน์
3419 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-10-24 00:54:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-13 16:34:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากนะ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-1-28 23:14:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
652
Zenny
101
ออนไลน์
133 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-11 19:23:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นายกสโมสร

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
159541
Zenny
289708
ออนไลน์
46421 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-3-3 01:50:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
25688
Zenny
18756
ออนไลน์
1767 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-3-6 01:42:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
2573
Zenny
583
ออนไลน์
440 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-3-22 10:52:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79646
Zenny
202822
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-4-12 14:33:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43221
Zenny
14266
ออนไลน์
1963 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-10-5 20:46:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
55572
Zenny
16990
ออนไลน์
7986 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-10-5 21:45:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
19111
Zenny
1561
ออนไลน์
1594 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-10-6 18:24:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43221
Zenny
14266
ออนไลน์
1963 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-12-8 04:33:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
24030
Zenny
2252
ออนไลน์
2538 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-12-8 17:18:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
3177
Zenny
288
ออนไลน์
476 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-12-11 17:18:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
745
พลังน้ำใจ
53236
Zenny
48733
ออนไลน์
11926 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-5-9 02:19:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
มีความสุขแล้วนะตะเกียง ดีใจด้วยจัง

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43221
Zenny
14266
ออนไลน์
1963 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-5-10 14:59:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
209
พลังน้ำใจ
14088
Zenny
42724
ออนไลน์
1088 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

โพสต์ 2016-5-30 13:10:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 17:53 , Processed in 0.144769 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้