nokky โพสต์ 2013-6-15 15:07:38

นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่องลูกเขยเจ้าเล่ห์

ณ.เมืองอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง มีเศรษฐีเฒ่าผู้หนึ่งชอบ ฟังนิทานเป็นชีวิตจิตใจ หายใจเข้าก็ "เฮ้อ..นิทาน" หายใจออกก็ "เฮ้อ..นิทาน" แกมีลูกสาวอยู่หนึ่งคน วัยสาว 18 -19 ชื่อ บัวเรียน สวยมาก เป็นที่ร่ำลือ ในเมืองนั้น จึงมีชายมากมายหลายหน้ามาแวะมาเวียนหาอยู่เป็นประจำ

แต่ก็ถูกท่านเศรษฐีคะยั้นคะยอขอให้เล่านิทานให้ฟังเป็นการขัดจังหวะ บรรดาชายหนุ่มทั้งหลายหวังที่จะเอาชนะว่าที่พ่อตา ก็เล่านิทานออกมาหลายเรื่องจนหมดไส้หมดพุงเพื่อหวังจะได้เป็นลูกเขย แต่พอฟังจบก็ไม่มีเรื่องเล่าแล้วท่านเศรษฐีก็อยากฟังนิทานจากชายอื่นต่อไป จึงยังมิได้ยกลูกสาวให้ใครเป็นที่ปวดหัวสำหรับชายหนุ่มทั้งหลายต่างก็ขยาดไปตามๆกัน ไม่รู้จะสรรหาวิธีใด ครั้นหลายวันมานี่ไม่มีชายใดมาเล่านิทานให้ฟัง แกก็หงุดหงิดไม่สบอารมณ์ตามประสาวัยทอง แกจึงคิดอุบายขึ้นมาว่า ใครสามารถเล่า นิทานไม่รู้จบ จะยกลูกสาวให้ ชายหนุ่มทั้งหลายต่างก็มีหวังกันอีกครั้ง โดยไปสืบเสาะหานิทานจากต่างแดนไกลหลายๆเรื่องมาเล่าให้ฟัง แต่ว่าถึงจะเล่าหลายเรื่องและยาวอย่างไร ก็ต้องจบลงภายในวันเดียวไม่วันใดก็วันหนึ่ง จึงไม่มีใครได้แต่งงานกับลูกสาวสักที เศรษฐีเมื่อได้ฟังนิทานหลายเรื่อง ก็มีจิตใจแบ่งบานยิ้มแย้มแจ่มใสดังเดิมและแล้วบุพเพสันนิวาส แห่งหนหลังก็ดลให้คู่รักมาพบกัน อยู่มาวันหนึ่ง มีหนุ่มพเนจรจากแดนไกล ชื่อ ทับ ผ่านมาได้ยินเรื่องราว เกี่ยวกับนิทานไม่รู้จบ จึงอาสาจะลองดีกับท่านเศรษฐี จึงเล่า นิทานไม่รู้จบ ให้ท่านเศรษฐีฟัง http://xn--o3cdbaaf0a2nen1byqc.rakjung.com/photo/132132.jpg

เนื้อความของนิทานดังนี้ "ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีตากับยายสองคนมีอาชีพทำนาปลูกข้าวไว้หลายสิบไร่ ครั้งถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็นำข้าวเปลือกใส่ไว้ในยุ้งฉาง แต่บังเอิ๊ญ บังเอิญ แถวนั้นมีนกสองผัวเมียอาศัยอยู่ เห้นยุ้งฉางมีรอยโหว่จึงบินไปขโมยข้าวเปลือกของตากับยายกินทุกวัน โดยตัวหนึ่งจะเป็นยามอยู่คอยอยู่ข้างนอกรอ ผลัดกับตัวที่บินไปคาบข้าวเปลือก เป็นอยู่เช่นนี้หลายวัน จากวันเป็นเดือน อันว่าข้าวเปลือกนั้นไซร้ ก็หาหมดไม่ ดังนั้น เมื่อตัวผู้คาบข้าวบินออก ตัวเมียก็บินเข้า พอตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า ครั้นพอตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ชายหนุ่มเล่าอย่างนี้วนไปวนมาใช้เวลาไป 1 วันเต็มๆ เศรษฐีเริ่มหงุดหงิด จึงเอ่ยปากถามว่า มันเข้าบินออกอย่างนี้นิทานมันจะเดินหน้ายังไงว่ะ เจ้าทับตอบว่า แหม ก็ใจเย็นๆซีครับ….ก็มีข้าวเต็มยุ้งกว่ามันจะคาบไปหมด มันก็บินจนนับครั้งไม่ถ้วนนู่นแหละจ้ะ

ท่านเศรษฐีจึงรู้ว่ามันเป็นเล่ห์ลูกเล่นของเขาที่ทำให้ตนไม่สามารถทนฟังได้ จึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อเอ็งเล่าได้ ข้าก็ฟังได้ เอ็งมีปัญญาเล่าก็เล่าไป ฝ่ายนางบัวเรียน เมื่อเห็นชายหนุ่มมีความพยามและเห็นในความเฉลียวฉลาดจึง ตักน้ำเย็นใส่ขันมาให้ดื่มแก้คอแห้ง เจ้าทับจึงเล่าต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ" เมื่อตัวผู้คาบข้าวบินออก ตัวเมียก็บินเข้า พอตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้ก็บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก "ชายหนุ่มเล่าอย่างนี้จนเวลาล่วงเข้าสู่วันที่ 3 ท่านเศรษฐีไม่อยากจะฟังแล้ว แต่ก็ไม่กล้ายอมแพ้ จนเวลาผ่านไป 7 วัน 7 คืนจนเศรษฐีแทบจะบ้าเป็นประสาทตาย เจ้าทับก็เล่าไปจนคอแหบคอแห้ง จนครบ 15 วัน เจ้าทับหมดเสียงที่จะเล่าจึงได้

คลานไปกระซิบข้างหูของเศรษฐี เมื่อตัวผู้คาบข้าวบินออก ตัวเมียก็บินเข้า พอตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้บินออก ตัวเมียก็บินเข้า เมื่อตัวผู้บินเข้า ตัวเมียก็บินออก เมื่อตัวผู้ก็บินออก ตัวเมียก็บินเข้า

เศรษฐีสุดจะทน พอแล้ว พอแล้วโว้ย ตูจะบ้าตายอยู่แล้ว
แต่นิทานยังไม่จบนะครับ มาๆๆผมจะเล่าต่อ พอตัวผู้………. เจ้าทับพูด
กูบออกว่าไม่ต้อง เรื่องนี้ก็ไม่อยากฟังแล้ว เศรษฐีตะโกน

อย่างนั้นผมก็ชนะน่ะสิ ผมยังเล่าไม่ถึงครึ่งท่านก็เบื่อซะก่อน…เอ่อ อันที่จริงผมยังมีนิทานขนาดพอดีๆที่สนุกอีกนับไม่ถ้วน ไว้แต่งงานเสร็จแล้ว ผมจะเล่าให้ท่านฟังทุกวัน รับรองไม่ซ้ำแม้แต่เรื่องเดียว

เออ แล้วเอ็งก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ท่านเศรษฐีได้ฟังดังนั้นค่อยหายโกรธ และพอใจที่ได้เขยดีๆแบบนี้ แสดงว่าเขารักลูกสาวเราจริง……..นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความพยามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่นั้นที่มา: http://นิทานพื้นบ้าน.rakjung.com/48.html

watkrub โพสต์ 2019-5-12 06:19:23

ขอบคุณมากครับผม

kritti โพสต์ 2019-5-24 20:21:10

{:5_146:} ฮาครับ

คอยรัก โพสต์ 2019-5-28 03:37:44

ขอบคุณ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่องลูกเขยเจ้าเล่ห์