ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 784|ตอบกลับ: 15

เพราะรัก..จึงเปลี่ยนได้ ? ตอนพิเศษ ?

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


คิดถึงกัน..โปรดแวะมาคุย       อย่าได้เดินดุ่ยไม่เหลียวมองหา
อย่างน้อยวีได้เข้ามา               จะได้รู้ว่าเพื่อนมาทักทาย
สุดท้ายคงขอฝากไว้               ความรักยิ่งใหญ่รู้กันดีว่า

มากล้นไปด้วยคุณค่า              ความรักนำพาชีวาสุขเอย.....
Part  พิเศษ 4
น้ำตางานแต่ง...
ร้อยรัดดวงใจ                                                                     

ปราณวี   &   กลสิทธิ์
                              และแล้ววันนี้ก็มาถึง   หลังจากใช้เวลาเตรียมงานร่วมสองเดือน    ตกลงแต่งที่บ้านวี
พวกเพื่อนสนิทคุ้นเคยในกรุงเทพฯ กับเพื่อนที่ทำงาน  เราคงกลับมาจัดเลี้ยงปาร์ตี้เล็กๆฉลองแทน ไม่มีพิธีการอะไร
                              พิธีแต่งงานของเราเกิดขึ้น ตามความต้องการของพ่อแม่และญาติพี่น้องครอบครัวกลสิทธิ์ล้วนๆพ่อกลทำตามที่เคยพูดไว้ทุกอย่าง หากวียอมผ่าตัดเป็นหญิงเรียบร้อยเมื่อไหร่ ท่านจะทำพิธีสู่ขอและจัดพิธีแต่งให้เป็นที่เรียบร้อยซึ่งท่านก็ทำตามคำพูด    สินสอดค่าเลี้ยงดูตามประเพณี  แม่วีท่านปฏิเสธที่จะรับ  
                                  เนื่องจากความจริงแล้ว  วีไม่ใช่ลูกสาวจะมาเรียกร้องก็ใช่ที่   แต่พ่อของกลท่านไม่ยอม
เพราะท่านถือว่าปัจจุบันวีคือผู้หญิง  เพราะฉะนั้นท่านก็จะทำตามประเพณีทุกอย่าง  สุดท้ายแม่จึงให้พ่อกลตัดสินใจเอาเองตามแต่เห็นสมควร  แม่ไม่เรียกร้องเลย
                           พ่อจัดสินสอดให้เป็นเงินสดแบ็งค์ใหม่สิบหมื่น สมัยก่อนเค้าถือเป็นเคล็ดของงานแต่งกันเลยทีเดียวตัวเลขนี้ถือว่าเยอะมากเมื่อย้อนไปสิบห้าปีที่แล้ว ก็ดังมาจากละครเรื่องมนต์รักลูกทุ่งที่คุณศรัญญู วงศ์กระจ่าง เล่นเป็นไอ้คร้าวนั่นแหละค่ะ
                            สำหรับแหวนแต่งงาน..แม่เอาแหวนของพ่อให้วี..เป็นแหวนทองคำเกลี้ยงน้ำหนักสองสลึง
ไว้สวมให้กลตอนแลกแหวนหมั้นกัน   ลองสวมนิ้วตัวเองดูแล้ว..กลใส่นิ้วนางได้แน่นอน  ที่แม่มอบแหวนของพ่อให้เพราะวีเป็นลูกคนแรกที่แต่งงานออกเรือนก่อนพี่น้อง  
                               พ่อกับแม่เคยคุยกันว่า แหวนของแม่กับแหวนของพ่อที่ให้กันในวันแต่งงาน  จะมอบให้ลูกชายลูกสาวคนแรกที่ออกเรือน  วีไม่ได้แหวนของแม่  เพราะดันแต่งลูกเขยเข้าบ้าน  ต้องใช้แหวนของพ่อให้เจ้าบ่าวแทนก่อนแม่จะมอบให้วี  ท่านลูบหัวพร้อมพูดว่า        
                             “แม่กับพ่ออยู่กันจนตายจาก   หวังว่าแหวนของพ่อที่แม่ให้ จะมัดใจลูกทั้งสองให้อยู่ด้วยกัน
จนตายจากเหมือนพ่อกับแม่นะลูก   แต่แหวนคงช่วยอะไรไม่มาก  ถือเป็นเครื่องรางยึดเหนี่ยวจิตใจ สิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกอยู่ร่วมกันไปตลอด  คือหัวใจของลูกเองตะหาก  ที่ร้อยรัดมัดกันไว้อย่าได้ยอมคลายเชือกใจเป็น
อันขาด  ไม่ว่าจะเกิดไรขึ้น  
                             ขอให้วีรู้จักทำตัวเหมือนน้ำนะ  น้ำเท่านั้นที่จะดับไฟ  น้ำเท่านั้นที่ล่อเลี้ยงทุกสิ่ง แม้แต่เลี้ยงหัวใจของลูกสองคน น้ำอยู่ได้ทุกที่ทุกรูปแบบ   เป็นได้ทั้งแข็งทั้งอ่อน  ทั้งกว้างทั้งแคบ  ทั้งเย็นทั้งร้อน  ทั้งลื่นทั้งไหล  ทั้งเชี่ยวกรากและสงบนิ่ง   
                             แม่อยากให้วีเป็นน้ำให้ได้นะลูก   ไม่ว่ากลจะเป็นอะไร  ขอให้ลูกเป็นน้ำลื่นไหลให้ได้นะวี
เป็นน้ำพักน้ำแรงช่วยหนุนเขาให้สำเร็จสมหวัง   
                            เมื่อใดที่กลร้อนเป็นไฟ  ให้ลูกคอยเป็นน้ำเย็นดับไฟในใจเขา   เมื่อใดที่กลท้อแท้  
ให้เป็นน้ำเชี่ยวกรากหนุนเค้าให้ลุกสู้  เมื่อใดกลล้มป่วย  ต้องเป็นน้ำนิ่งโอบอุ้มดูแลให้เค้าสบายตัว เมื่อใดที่กลเกิดขลาดกลัว  ให้เป็นน้ำมันเติมไฟไล่ความกลัวจากใจของเค้า   ยามที่เค้าเปราะบางอ่อนแอไร้หนทางสู้  วีจงเป็นน้ำแข็งนะลูกให้แกร่งดังหินผา..คอยเป็นเกราะกำบังป้องกันเขาเอาไว้  ยามเค้าอ่อนแรงเหนื่อยล้า  ให้เป็นน้ำฝนช่ำอุราที่ดื่มแล้วชื่นใจ   
                            ทุกครั้งที่รักดูจืดจางไร้รสชาดขาดสีสัน  จงเป็นน้ำตาลเติมความหวานให้กันและกัน   
เมื่อใดที่กลเกิดดื้อรั้นขาดเหตุผล  ให้เป็นน้ำพริกเผ็ดแสบเพื่อให้เค้ารู้ว่าเราเองก็เผ็ดเป็น   จงยืดหยุ่นอ่อนไหวให้ได้ดั่งน้ำ แล้วชีวิตครอบครัวของลูกจะยั่งยืนตลอดไป แม่ขอให้ลูกจดจำไว้เมื่อเป็นภรรยาของกลเค้าแล้ว ให้เป็นสะใภ้ที่ดีของครอบครัวเค้าด้วยหวังว่าการพูดคุยของเราแม่ลูกครั้งนี้  จะทำให้ลูกแม่ประสพความสำเร็จในชีวิตรักและครอบครัวตลอดไป  
                           แม่ไม่มีอะไรจะให้เพราะบ้านเราฐานะไม่อำนวย  สิ่งที่ลูกควรนำเอาติดตัวไว้คงเป็นเพียงคำสอนที่ลูกจะนำไปใช้..ดูแลความรักให้ยืนยาวจนตายจากกัน  จำไว้ให้ดีเราไม่ใช่ผู้หญิงแต่แรกเกิด   แม้แม่จะอดยอมรับไม่ได้ว่าลูกในวันนี้  ไม่เหลือร่องรอยลูกชายให้แม่เห็นอีกก็ตาม  ถึงจะเป็นลูกสาวแสนสวย   จนหนุ่มๆต้องเหลียวหลัง   แต่ลูกก็มิใช่ผู้หญิงแท้ที่ให้ทายาทเค้าได้  เพราะฉะนั้นจงวางตัวให้ดีที่สุด  ชดเชยในสิ่งที่ผู้หญิงน้อยคนจะสามารถทำได้อย่าลืมนะลูก..จงทำตัวให้เป็นน้ำนั่นแหละ  ชีวิตของลูกจะรักกันยืนยาวมั่นคงตลอดไป”  วีรีบก้มลงกราบแทบเท้าของแม่น้ำตาคลอซาบซึ้งกินใจเหลือเกินกับคำสอนที่แม่มอบให้   มันแทรกซึมหยั่งรากฝังลึกเข้าไปถึงจิตใจ  จนต้องสัญญากับตัวเองไว้ว่าวีจะทำตัวให้เป็นได้ดั่งน้ำเหมือนที่แม่สอน   
                         แม่พูดถูกทุกอย่าง น้ำคือแหล่งกำเนิดของสรรพสิ่ง  คนเราขาดน้ำไม่ได้ สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน   วีจะทำให้กลสิทธิ์ขาดวีไม่ได้   เพราะวีจะเป็นน้ำที่ล่อเลี้ยงใจกล...ตราบชีวิตสิ้นไปจาก
กัน...?
                             แหวนสำหรับสวมให้วี  กลได้จากแม่เหมือนกัน  เป็นแหวนที่พ่อสวมให้แม่กลในวันแต่ง
แหวนทองคำน้ำหนักสองสลึงเช่นกัน กลเอามาลองนิ้วนางข้างซ้ายของวีแล้ว ปรากฎว่า..เห่อ..เห่อ..เห่อ..
ใส่ไม่ได้มันเล็กไปอ่า?..สุดท้ายกลเลยต้องซื้อให้วีใหม่ เปลี่ยนเป็นแหวนทองคำขาวแทน ฝั่งเพชรหนึ่งกะรัตแพงมากๆ..ตอนแรกวีเสียใจอย่างมากเลยหละที่นิ้ววีสวมแหวนของแม่กลไม่ได้   
                           แม่กลเองคงเสียใจไม่น้อย  เพราะท่านตั้งใจมอบให้กลสวมให้สะใภ้ของท่าน  ที่ไหนได้สะใภ้คนนี้ดันนิ้วใหญ่ซะอีก แหวนใหญ่ยังพอให้ช่างเค้าหดให้ได้  แต่แหวนเล็กกว่านิ้วมันจนปัญญากันแล้ว  แต่ท่านก็คงเข้าใจเพราะมันสวมไม่ได้จริงๆ   กลับเป็นวีเสียอีกที่เครียดคิดมากเสียเอง..สุดท้ายต้องหายเครียดไปทันที
ซะงั้น  เพราะคำพูดของยอดชายกลสิทธิ์ที่ดันพูดกับวีตามลำพังสองคนว่า
                             “วี...ไม่ต้องเสียใจนะ   แหวนของแม่กล..วีสวมไม่ได้  กลรู้แต่แรกแล้วหละถึงแอบไปเลือกแหวนเผื่อไว้ก่อนไง   วีสวมไม่ได้แหละดีแล้ว  เพราะแม่กับพ่อกลแต่งงานกันแล้วก็เลิกกัน  ขืนใช้แหวนนั่นมาสวมให้วี  เกิดเราเลิกกันขึ้นมา   ตายห่าทีนี้...กลทนไม่ได้หรอก..สวมไม่ได้ดีแล้วนะครับ  กลเลือกให้ใหม่ดีกว่าเยอะ   เพราะแหวนที่กลเลือกให้เองกะมือ   รับรองวีสวมไว้ไม่มีทางไปจากกลเป็นอันขาด  จากนี้ไปรู้ไว้เลยว่า..กลไม่ได้แค่สวมแหวนเท่านั้น  แต่กลสวมหัวใจรัดวีไว้ไปตลอดชีวิต”  
                              อร๊ายๆ.....หวาย..หวาย...ตายแล้วปราณวีจะละลาย   ฟังยอดชายเค้าพูดดิ  แม้มันจะเน่าตอนท้าย  แต่มันช่วยให้วีหายเครียดไปเลยทันที  คิดได้ไงของเค้าเนี่ยะ...วียังคิดไม่ถึงเลย  กลสิทธิ์จะพูดออกมาแบบนี้  เชื่อเค้าแล้วของเค้าดีจริง....ยี่ห้อกลสิทธิ์...ฮ่าๆ!....
                              วันงานมาถึง...วีตื่นแต่เช้าตั้งแต่ตีสี่ สวมชุดไทยล้านนา สีมุกครีม พี่วาดให้เพื่อนที่เปิด
สตูดิโอเวสดิ้งในจังหวัด  มาจัดการคอร์สตูมให้ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม   แต่งออกมาแล้วมองตัวเองในกระจก...
อุ๊แม่เจ้า!..ไม่อยากเชื่อยังกะเจ้าหญิงแสงฝางซะงั้น   วีไม่เคยสวมชุดไทยมาก่อนโดยเฉพาะชุดไทยล้านนาเครื่องทรงครบชุดแบบนี้  พอใส่แล้วต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร  เพราะการนุ่งผ้าถุงเวลาเดินมันลำบากพอดู   แต่ก็ทำได้ไม่เลวคงเพราะภูมิความรู้ที่ได้รับการฝึกบุคลิกภาพมานั่นแหละ  ช่วยวีได้มากเลยทีเดียว
                             ตีห้ากว่าๆ  กลสิทธิ์พร้อมพ่อแม่  อาลพ ลุงป้าน้าอา..ร่วมสิบกว่าคน มาพร้อมกันหมด  
เพราะวีกับกลต้องใส่บาตรตอนเช้าหกโมง  
เจ้าบ่าวกลสิทธิ์   หล่อด้วยเสื้อขาวราชปะแตนคอจีน  กางเกงแสลคสีขาว ขาวทั้งชุด มีผ้า
ดิ้นทองคล้ายสะใบ้พาดไหล่ซ้ายอีกตะหาก  หน้าตาเกลี้ยงเกลาหมดจดหล่อเหลาคมเข้มได้อีก   เล่นเอาหัวใจกระตุกไปเลยปราณวี   กลสิทธิ์เองจ้องวีตาไม่กระพริบ  ตาคมเข้มประกายวิบวับหวานฉ่ำล่อเอาหน้าวีร้อนผ่าวไปหมด   สายตากรุ่มกริ่มเจ้าชู้ที่ขยันส่งมาให้ตลอดเวลา  เขินจนเดินขาเกือบขวิด  ดีที่ส้นสูงไม่พลิกให้อับอายขายขี้หน้าแขกเหรื่อที่มาร่วมใส่บาตรกับเรา  
                           แม่วีรวมทั้งพี่ๆน้องๆ ครอบครัวอยู่ครบทุกคน  เป็นวันที่วีมีความสุขมากๆ สุขล้นตื้นตันหัวใจยิ่งนัก   ในที่สุดเราสองคนก็จูงมือกันมาถึงวันนี้จนได้    จากนี้ไปเราเป็นสามีภรรยากันสมบูรณ์แล้ว  ทั้งพฤตินัยและนิตินัย  แม้ไม่มีทะเบียนสมรสเป็นหลักฐาน  เพราะหน้านามของวียังเป็นนายอยู่  แต่หาใช่เรื่องสำคัญแค่กระดาษแผ่นเดียว   สักขีพยานกับหัวใจของเราทั้งคู่ตะหากสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด   มั่นคงยิ่งกว่าสิ่งไหน  
                         ทุกสิ่งทุกอย่างที่กลทุ่มเททำเพื่อวีมาตลอดนั้น  วีรู้ว่ากลเสียสละเพื่อวีไม่น้อย   ทิ้งโอกาสที่จะสร้างครอบครัวกับผู้หญิง เสียสละการมีทายาทและชีวิตปกติทั่วไป..ถึงตอนนี้ปราณวีไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้ว..ขอแค่มีผู้ชายคนนี้อยู่เคียงคู่กัน...เป็นครึ่งชีวิตของกันและกันตลอดไป..แค่นั้นพอ..
                         เสร็จจากนั้นก็พิธีส่งตัวเข้าหอ  ใช้ห้องแม่นั่นแหละเป็นห้องหอ  เพราะแม่ให้ใช้ห้องท่าน  
ห้องพวกพี่ๆน้องๆไม่สะดวก  ท่านปูผ้าปูสีขาวสะอาดไม่มีลวดลาย  หมอนขาวสองใบ   บนที่นอนโรยด้วย
ดอกรัก  ปกติเราจะเห็นโรยกุหลาบสีแดงกัน  แต่แม่วีท่านโรยดอกรักเพราะท่านบอกว่าดอกรักชื่อก็บอกแล้วว่าให้รักกันตลอดไป
                        วีกับกลพากันนั่งพับเพียบข้างล่างเชิญพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ที่ตามมาอวยพรเราทั้งคู่ให้นั่งบนเตียง  
จากนั้นก็เริ่มอวยพรก่อนทยอยพากันกลับออกไป  กระทั่งเหลือเพียงพ่อแม่ของกล  และแม่ของวี  เพียงสามคน  
พ่อก็เริ่มพูดขึ้นมาว่า
                               “มาถึงวันนี้ พ่อยินดีและเต็มใจรับวีเป็นลูกสะใภ้ใช้นามสกุลของพ่อแบบไม่มีข้อกังขาใดใดทั้งสิ้น   ที่ผ่านมาพ่อไม่มีเจตนาจะกีดกันขัดขวางเราทั้งสองเลย เพียงแต่พ่อไม่มั่นใจว่าลูกจะรักกันจริง นับประสาอะไรชีวิตรักคนปกติทั่วไป อยู่กินจนมีลูกมีเต้ายังเลิกลากันเลย  พูดถึงตรงนี้ท่านเหลือบไปสบตากับแม่ของกลนิดหนึ่ง  ก่อนจะพูดต่อ   
                             พ่อไม่อยากให้ชีวิตครอบครัวของกลซ้ำรอยเท้าพ่อ   เมื่อเริ่มต้นรักเริ่มต้นมีครอบครัว..ก็อยากให้อยู่กันจนแก่เฒ่า   พ่อเคยผิดพลาดมาแล้ว  จึงคาดหวังลูกชายคนแรก..จะประสพความสำเร็จทำให้ทุกคน
ชื่นใจ  ทำในสิ่งที่พ่อไม่สามารถทำได้มาก่อน
                            ที่ลูกสองคนยอมทุ่มเทเสียสละเพื่อกันและกัน  พิสูจน์ให้พ่อแม่พี่น้องเห็นแล้วว่า  เรารักกันจริง..ถึงจะเป็นรักข้ามเพศ  ไม่สนว่าใครจะคิดจะมองยังไง   ที่พ่อเรียกร้องให้วีเสียสละตัวเองขนาดนี้   
อย่างหนึ่งเพื่อให้ลูกอยู่ด้วยกันโดยปราศจากข้อกังขาจากสายตาคนรอบข้าง  แม้จะข้ามเพศแต่ยังดูเป็นหญิงเป็นชายเด่นชัด   ทุกอย่างควรชัดเจน..หากยังคลุมเครือไม่ชัดเจน..สักวันมันย่อมเป็นปัญหา..และเมื่อถึงวันนั้นความเสียใจจะเกิดกับวีมากที่สุด  
                           เมื่อวีตกลงปลงใจยอมเป็นเมียกลมันแล้ว  ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของลูกที่ถอดวางลง  คงไม่สามารถ
หันหลังกลับไปใช้ชีวิตแบบผู้ชายปกติได้อีก   ลูกกล้าที่จะเดินเข้าไปขอผู้หญิงแต่งงานได้อีกหรือ..เมื่อมีบาดแผลในใจแบบนี้..ลูกย่อมรู้ดีว่าตนเองเป็นเมียผู้ชายมาก่อน   หรือลูกจะใช้ชีวิตแบบพวกกระเทยที่มั่วไม่เลือกเหมือนที่เค้าออกข่าว ไม่ว่าทางไหนวีได้รับผลกระทบมากที่สุด  
                          พ่อถึงยอมทุ่มไม่เสียดายเงินทอง  ตายไปพ่อคงเอาไปด้วยไม่ได้  ถึงอยากทำให้วีเป็นผู้หญิง
เต็มตัวและต้องสวยที่สุดด้วย  เพื่อที่จะรักษาความรักและตัดเขี้ยวเล็บเสือผู้หญิงอย่างเจ้ากลมันได้  ให้มันเป็นลูกแมวเชื่องๆอยู่กับวีไปชั่วชีวิต   พ่อพูดทั้งหมดนี้..ทั้งที่เดิมทีไม่คิดจะพูดมาก่อนเลย...
                             กลสิทธิ์...ปราณวี...ทั้งสองคนฟังพ่อให้ดีนะ..พ่อไม่เคยไม่รักแก..เจ้ากล  เพราะรักแกมาก
ตะหากความรักที่พ่อให้แก..มันไม่ตรงกับที่แกต้องการ  พ่อรู้ความรักของพ่อที่มีให้..มันเติมเต็มหัวใจที่โดดเดี่ยวอ้างว้างของแกไม่ได้   
                             พ่อได้แต่หวังว่า..สักวันคงมีใครสักคนที่สามารถเติมเต็มหัวใจที่โหยหาความรักของแก
ได้เสียที   คนๆนั้นพ่อไม่ได้คิดเผื่อว่าจะเป็นผู้ชายมาก่อน  มันอาจเกิดการต่อต้านรุนแรงจากพ่อที่คัดค้าน
แต่แรก  แต่วันนี้พ่อขอฝากเจ้ากลมันด้วยนะปราณวี   ไม่มีใครที่พ่อคิดว่าจะสามารถดูแลลูกชายของพ่อได้ดีเท่าวีอีกแล้ว  
                        ขอโทษด้วยนะลูก..ที่ผ่านมาพ่อปิดกั้นมาตลอด  ลูกทั้งสองเด็ดเดี่ยวฝ่าฟันด้วยกันมา..
จนมีวันนี้อย่างไม่คิดถอดใจทิ้งกันไปก่อน   พ่อขอบคุณวีอีกครั้ง  ที่รักเจ้ากลมัน..ขอให้ลูกสองคนมีแต่ความสุข  ความเจริญในชีวิตครอบครัวนะลูกพ่อ”  
                             พูดจบท่านเอามือลูบหัวเราทั้งคู่ โบราณว่าไว้..ในวันแต่งงานคู่บ่าวสาวไม่ควรหลั่งน้ำตา
ชั่วโมงนี้ไม่ไหวแล้วขอเถอะ ทั้งกลทั้งวีเราร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนกับเด็กๆ เราทั้งคู่ก้มกราบแทบเท้าพ่อน้ำตาไหลนองหน้า   
                            ไม่ใช่มีแต่เราเท่านั้นที่ร้อง  แม่ของวีแม่ของกล  และตัวพ่อเองท่านก็น้ำตาคลอตาแดงก่ำไม่ต่างกันแปลกไหม..เกือบหกปีที่วีกับกลต่างคลุมเครือเกี่ยวกับความรู้สึก..และทัศนคติของพ่อที่มีต่อเรามาตลอด แม้จะรู้ว่าท่านอ่อนลงกว่าเดิมมาก     แต่ก็ยังมีติดอยู่ในใจเล็กๆ..ไม่ได้รู้สึกปลอดโปร่งเลยสักนิด  เหมือนไม่สนิทใจหมดซะทีเดียว  ไม่เท่ากับที่เราเปิดใจให้กับแม่ของวี  และแม่ของกลหรือยายเลยแม้แต่น้อย
                             กับพ่อมันยังดูแข็งๆค้างๆ แต่มาวันนี้...วันนี้จริงๆ แค่วันนี้วันเดียวที่พ่อพูดความรู้สึกออกมาทั้งหมดมันละลายหมอกควันจางๆในใจเราจนหายไปหมดเลย   หัวใจเราทั้งคู่สว่างไสวเจิดจ้ายิ่งกว่าความรู้สึกดีใจที่ได้แต่งงานกันเสียอีกต่อให้ไม่มีงานแต่งแต่หากได้ยินพ่อพูดแบบนี้กับเรา   มันยิ่งใหญ่กว่าที่พ่อจัดงานแต่งให้เราเสียด้วยซ้ำจริงไหม?
                           นึกย้อนไปดู  จริงด้วยสินะ..ถ้าท่านไม่รักไม่แคร์เราทั้งคู่  ท่านคงไม่เหลียวแล ถึงขนาดยอมควักกะตังค์มากมายเพื่อผ่าตัดให้วี  เปลี่ยนทุกอย่างจนสมบูรณ์..แพงไม่ว่าขอให้ออกมาดีที่สุด   ซื้อคอนโดฯให้  ซื้อรถให้  จัดงานแต่งครั้งนี้ให้  ไม่นับที่ท่านหยิบยื่นให้กลมันใช้ที่ผ่านมาอีก  
                            พอท่านพูดออกมา  เราถึงได้เข้าใจ  ความรักของพ่อซึ่งท่านเป็นผู้ชายแสดงออกไม่เก่ง  
แต่ท่านใช้วิธีจุนเจือให้ซะมากกว่า  ด้วยการดูแลอำนวยความสะดวกต่างๆ  มันอาจดูไม่อบอุ่น  อาจจะไม่อ่อนหวาน  ไร้คำพูดปลอบโยน  เหมือนแข็งๆกระด้างทางความรู้สึก  
                            แต่รู้ไหม?..หัวใจของท่านก็ยิ่งใหญ่และรักกลสิทธิ์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร   เชื่อเถิดว่าคำแรก
ที่ท่านกล่าวตัดพ่อตัดลูกกับกลมันในวันที่ท่านลงมือทำร้ายในวันนั้น   หัวใจพ่อคงบอบช้ำและร้องไห้ปานเฉือนเนื้อหนังตัวเองเช่นกันนี่แหละหนาคนเรา  กว่าจะรู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร  บ้างครั้งรอจนสายเกิน..จนไม่เหลือโอกาสให้ได้ชดเชยหรือตอบแทนพระคุณคืน..เพื่อชดใช้ความเข้าใจผิดที่เรามองท่านผิดมาตลอด หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ  เราสองคนคงเป็นลูกอกตัญญู  ไม่รู้ตายไปตกนรกหมกไหม้กี่ภพกี่ชาติ  ถึงจะใช้กรรมหมด   
                               วีกับกลโชคดีมาก  ที่ได้รู้ก่อนจะสาย..จึงทำให้น้ำตาเราไหลอาบแก้มสะอึกสะอื้นโดยไม่ต้องพูดก็รู้แก่ใจกันดีอยู่แล้ว   น้ำตาแม่  น้ำตาพ่อ   เสียงสะอื้นของเราทั้งคู่...ทำให้พ่อต้องรีบก้มตัวลงมาโอบไหล่กลสิทธิ์ให้เงยหน้าขึ้นมองท่าน  เมื่อสายตาลูกชายสบกับสายตาของพ่อที่เอ่อคลอไปด้วยม่านน้ำตา  ไม่ต้องพูดกันแล้ว  
                           กลสิทธิ์เหมือนเด็กน้อยผวาเข้าสวมกอดพ่อไว้แน่น...ร้องไห้โฮเป็นเด็กไปเลย  ภาพนี้สะเทือนใจวีสุดๆ จนจุกแน่นในอกปวดร้าวไปหมด   จนต้องทะลักทะลายน้ำตาร้องไห้ตามผู้ชายที่ได้ชื่อเป็นสามีแบบไม่อายใครเหมือนกัน   ถึงกับแม่ของวีต้องดึงวีเข้าไปกอดปลอบ  วีก็ปลดปล่อยกลายเป็นเด็กโผล่เข้าซบอกแม่ร้องไห้สะอึกสะอื้น  
                              ภาพที่เห็นพ่อกับกล  ผู้ชายตัวโตๆต่างวัยสองคนสวมกอดกันแน่น  อ้อมแขนของพ่อที่โอบรอบตัวกลสิทธิ์ไว้นั้น  ลูบหลังเป็นการปลอบลูกชายไปด้วย   มันช่างดูอบอุ่นอ่อนโยน   และสวยงามจริงๆ  สวยงามมากกับความรักของพ่อที่มีให้ลูก   วีเป็นเพียงคนมองยังซึ้งอิ่มเอิบหัวใจถึงขนาดนี้
                             แล้วกลสิทธิ์หละ  ซึ่งโหยหาอ้อมกอดของพ่อมาตลอด  ตัดพ้อต่อว่าความรักความเข้าใจของพ่อทุกครั้งที่มีโอกาสระบาย  ว่าพ่อไม่เข้าใจกลไม่เคยรักกล  พ่อรักแต่ตัวเอง   โอ้!..สาธุ..พระเจ้า..อย่าเพิ่งจดบัญชีให้นรกกินกบาลสามีวีเลยนะค่ะท่าน   ตั้งแต่นี้ไปวีจะพากลทำบุญเป็นประจำ  จะปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีกตัญญูต่อพ่อแม่   ชดเชยวจีกรรม  มโนกรรม  ที่เราทั้งคู่ได้ล่วงเกินพวกท่านที่ผ่านมา   
                             หลังงานนี้คงต้องพากลทำพิธีล้างเท้าพ่อแม่  เพื่อขออโหสิกรรมขนานใหญ่  ไม่งั้นอย่าหวัง..
ชาตินี้ชาติหน้าคงจะหาความสุขความเจริญไม่ได้เป็นแน่...มงคลชีวิตดีดีคงอยู่ติดตัวกันหรอกนะ...เพราะเราเคยล่วงเกินท่านมาไม่น้อย
                                  ‘พ่อขา...วีกราบขอขมาขอโทษพ่อด้วย ในสิ่งที่วีกับกลเคยล่วงเกินพ่อมา  ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม   ขอให้พ่ออโหสิให้เราทั้งคู่นะค่ะ   นับจากนี้ไป  พ่อคือแบบอย่างที่ดีของเรา  
พ่อคือผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่  พ่อปิดทองอยู่หลังพระ  พ่อคือ...พ่อพระของเราทั้งสอง...วีรักพ่อค่ะ’....?      
                                  เคยพูดไว้แล้วว่า   บ้างครั้งเราตัดสินอะไรไปตามที่ตาเนื้อเรามองเห็นตามที่เราเข้าใจ   
ทำให้เราพิพากษาความผิดถูกไว้ก่อนแล้ว      
                                อยากฝากไว้..ต่อนี้ไปนอกจากตาเนื้อที่เห็น  นอกจากการกระทำที่เรารับรู้ โปรดใช้ใจ
ส่องลึกเข้าไปอย่างละเอียดอีกสักครั้ง   ตรวจทานอีกสักหน  บางทีมุมที่คุณคิดจากสิ่งที่คุณเห็น  คุณอาจจะตัดสินผิด  เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดจนต้องเสียใจภายหลัง  ก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้  จำกันไว้นะค่ะ   
ใช้ใจพินิจพิจารณาให้ถ่องแท้   ทางที่ดีเปิดใจให้กว้าง  และหัดเข้าใจคนอื่นให้มาก  อย่าเอาตนเองเป็นที่ตั้ง  
แล้วคุณจะไม่รู้สึกละอายใจเหมือนที่วีกับกลเกิดความรู้สึกนี้กันแน่นอนค่ะ
                               สำหรับลูกๆ หลายต่อหลายคนที่ต่างไม่เข้าใจพ่อและแม่ของพวกคุณ   ลองมองย้อนหลัง
ในสิ่งที่ได้กระทำมา  และลองคิดพินิจตรึกตรองให้ดีกันอีกสักครั้ง  ทำใจให้โล่ง  แล้วคุณจะรู้ว่าคุณคิดผิด
หรือถูก  หากยังไม่สายเกินไป ไม่ต้องรอถึงวันพ่อวันแม่  วันนี้เลยค่ะ   รีบกลับไปสวมกอดพวกท่าน  แสดงความรู้สึกสำนึกในบาปที่คุณได้ล่วงเกินพวกท่านมา  รีบทำกันเถิดนะค่ะ  เป็นไปได้โทรศัพท์ไปสอบถามพูดคุยก็ยังดี  เมื่อคุณยังมีโอกาสได้ทำกันอยู่ตอนนี้ก่อนที่จะไม่มีคำว่า  ‘โอกาสอีกเลย’
                                งานแต่งครั้งนี้ ของขวัญยิ่งใหญ่มิใช่ความสุขของเราทั้งคู่ที่ได้ขยับเลื่อนขั้นให้สังคมประจักษ์  ถึงความรักข้ามเพศของเรา  ว่าได้ใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันแล้วนะ   แต่กลับเป็นของขวัญจากคำพูดที่พ่อยอมเปิดใจพูดออกมา  กว่าหกปีครึ่งที่ท่านเก็บเงียบไว้ไม่เคยปริปากเลย   มาวันนี้ท่านกลับมอบของขวัญให้เราทั้งสอง  มีค่ามากกว่าของขวัญชิ้นใดจะเทียบเท่าได้แล้ว  นี่แหละ...ความรักของพ่อ..ผู้ปิดทองหลังพระ...พ่อพระของเรา...?
Part  พิเศษ 5
เลี้ยงหลาน...

               ปีโป้..คือชื่อหลานชายของวี..ลูกชายพี่ก้อย เป็นลูกสาวคุณอาน้องของคุณพ่ออีกที ปีโป้อายุสาม
ขวบกว่า  พี่ก้อยเอามาฝากให้ช่วยเลี้ยงสองวัน   ซึ่งพอดีวีกับกลว่างช่วยเลี้ยงหลานให้ได้ เพราะติดวันหยุดเสาร์อาทิตย์
                 พี่ก้อยเอาปีโป้มาส่งให้วันเสาร์  วันอาทิตย์จะมารับช่วงบ่ายเดินทางกลับเหนือเลย  พี่เค้ากับสามีพา
ปีโป้มากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันศุกร์แวะพาหลานไปตรวจร่างกายที่โรงบาลศิริราชก่อน  เพราะปีโป้ตั้งแต่เกิดเท้าข้างซ้ายเป็นพังพืดทำให้นิ้วเท้าติดกันไม่สามารถแยกจากกันได้   พี่เค้าเลยพา มาปรึกษาหมอที่ศิริราช  หมอแนะนำให้ตัดพังพืดทิ้งเพื่อแยกนิ้วเท้า..แต่ต้องรอให้หลานโตกว่านี้อายุสักห้าขวบหมอถึงจะยอมทำการ
ผ่าตัดให้  ตอนนี้วัยยังไม่สามารถทำให้ได้
                 จังหวะที่พวกเค้าต้องไปติดต่อทำธุระที่ชลบุรีต่อ   ไม่สะดวกเอาหลานไปด้วย  เลยโทรมาขอร้องวี
ให้ช่วยเลี้ยงหลานให้หน่อย   วีถามกลแล้วกลบอกไม่มีปัญหา  จริงๆก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่า..กลเป็นคนรักเด็กกับ
หมามาก  เรื่องเด็กกลไม่คิดเรื่องลูกไปนานแล้ว   เพราะรู้ว่าวีมีให้ไม่ได้   
                 ส่วนเรื่องหมากลเคยคิดจะเอามาเลี้ยงเหมือนกัน  แต่ติดตรงที่เราทำงานกันทั้งคู่  ไม่อยากทิ้งน้องหมาไว้ตามลำพังในคอนโดฯ เลยตัดความยุ่งยากไม่เลี้ยงเลยซะดีกว่า  บอกไว้รอซื้อบ้าน ก่อนค่อยเอามาเลี้ยงทีหลัง
                 พอรู้ว่าจะมีเด็กเล็กๆ มาให้เลี้ยง  กลสิทธิ์กระดี๊กระด๊าดีใจใหญ่ สิบโมงกว่า พี่ก้อยกับพี่หนุ่มพาปีโป้มาส่ง กลสิทธิ์กุลีกุจอเข้าไปอุ้มเอาเจ้าหนูทันที ปีโป้ก็ไม่ยักแปลกหน้าอากลสักนิด ยอมให้อุ้มซะดิบดี  ไม่มีร้องตามพ่อแม่สักแอ๊ะ  ปีโป้พูดได้แล้วแต่ไม่ค่อยชัด  เพราะอายุเพิ่งได้ สามขวบกว่าเอง  จะเหยี่ยวจะอึบอกให้รู้ก่อนทุกครั้ง  ไม่มีเรี่ยราดค่อยยังชั่วหน่อยเรื่องนี้  แต่ยังดื่มนมผงชงอยู่ทุกวันสามเวลา  
                  ซึ่งพี่ก้อยเตรียมอุปกรณ์มาให้พร้อมแล้ว  อธิบายวิธีทำให้ฟังคร่าวๆ  เป็นอันเข้าใจกัน  เรื่องการล้างขวดนมในน้ำร้อน  ชงนม  แช่น้ำเย็นให้อุ่นก่อนจะให้ปีโป้ดื่ม  ส่วนข้าวปีโป้ทานเองได้ไม่ต้องคอยป้อน  เพียงแต่คอยระวังเรื่องอาจเลอะเทอะหกเปื้อนเท่านั้น   
                    วันนี้ทั้งวันกลสิทธิ์คลุกอยู่กับปีโป้ตลอด  วีแทบไม่ได้แตะหลานเลยด้วยซ้ำ  กลเล่นกับหลาน
สองคนหัวเราะกันคลิกคลักเป็นที่สนุกสนาน  วีเพียงแค่คอยชงนมให้เมื่อถึงเวลากินนม  เตรียมกับข้าวให้ตอนกินข้าวแค่นั้น  อาบน้ำกลสิทธิ์ก็พาหลานไปอาบเองกับมือ..แถมทาแป้งสวมเสื้อผ้า ให้เรียบร้อย   เสร็จแล้ว
พากันไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่หน้าทีวีซึ่งปูพรมหนานุ่มเอาไว้อยู่แล้ว  หันไปดูอีกทีทั้งอาทั้งหลานหลับไปแล้วทั้งคู่
                    เป็นภาพที่น่ารักมากสำหรับวี   ลึกๆ กลคงอยากมีลูกแต่เค้าพยายามไม่พูดถึง คงไม่ต้องการให้วี
คิดมาก  จึงไม่เคยเอ่ยปากเรื่องลูกกับวีเลย  ทั้งสองคนหลับไปแล้ว  วีจัดการทำ ความสะอาดเก็บกวาดบ้าน  
เอาผ้าใส่เครื่องปั่นทิ้งไว้  บ่ายสามโมงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้นมา
                            “กริ๊ง!....กริ๊ง!..”  ต้องรีบวิ่งไปรับ กลัวเสียงโทรศัพท์ จะไปรบกวน  ทำให้ทั้งสองคนอาหลานตกใจตื่นขึ้นมา
                           “สวัสดีค่ะ...วีกำลังพูดค่ะ”  
                          “วีหรือลูก...นี่แม่เองนะ”  แม่ของกลโทรมา
                          “ค่ะแม่....มีอะไรหรือเปล่าค่ะ?”
                          “แล้วกลไปไหนหละลูก  อยู่ด้วยหรือเปล่า?”
                          “อยู่ค่ะแม่...กลหลับอยู่..แม่มีธุระกับกลหรือเปล่า?   วีไปปลุกให้เอาไหมค่ะ?”
                         “ไม่ต้องหรอกจ๊ะ...ปล่อยให้เค้าหลับไปเถอะ..คุยกับวีก็เหมือนกันแหละลูก  
คืองี้เพื่อนแม่ที่สุพรรณเค้าเพิ่งเสีย   แม่กับอาลพต้องไปงานศพเย็นนี้  กะอยู่จนเผาพรุ่งนี้ เลยจำเป็นต้องค้าง
คืนหนึ่ง  ปัญหามันอยู่ที่น้องหนูนะลูก  แม่เอาไปด้วยไม่ได้ไม่สะดวกจริงๆ  น้องยังเด็กอีกอย่างมันไม่ใช่งานมงคล  แม่ไม่อยากเอาน้องไป  กุ้งกุลาเค้าไปเข้าค่ายกับเพื่อน ที่ต่างจังหวัด  บ้านไม่มีใครอยู่เลย   รบกวนวีดูแลน้องให้แม่หน่อยได้ไหมลูก?  พรุ่งนี้เย็นแม่กับอาลพ จะแวะเข้าไปรับกลับเอง”  น้องหนูคือชื่อเล่น  ชื่อจริงคือกุ้งแม่น้ำเป็นลูกสาวของกุ้งนางที่ท้อง ไม่มีพ่อนั่นแหละ  แม่กับอาลพรับเอาไว้เป็นลูกซะเอง  กุ้งนางตอนนี้ไปอยู่กับแฟนซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ต่างประเทศ  
                          “ได้ค่ะแม่...แม่พาน้องมาได้เลย   แม่จะมาถึงกี่โมงค่ะ?”
                          “แม่ว่าจะออกไปกันเดี๋ยวนี้เลย   น่าจะไม่เกินสี่โมงครึ่งคงถึงคอนโดฯวี  แล้วไงเดี๋ยวค่อยเจอกันนะลูก”
                         “ค่ะแม่?”  พูดจบแกก็วางหู   เอ่อเหะ!...ตกลงวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นหนอ  ทำไมมีแต่คนเอาเด็กมาฝากเลี้ยง   น้องหนูอายุห้าขวบครึ่ง   กำลังช่างพูดน่ารักน่าชังอ้วนจ่ำหม่ำ แก้มยุ้ยหน้าหยิก   เหมือนใคร
ไม่รู้  หน้าตาไม่ได้แม่มาสักนิด  ได้แต่ผิวที่ขาวละมั้ง  แต่รูปหน้า โครงหน้าไม่เหมือนกุ้งนางเลย  วียังเคยแอบสำรวจด้วยนะ  ว่าน้องหนูหน้าคล้ายกลสิทธิ์หรือเปล่า?  แหะ...แหะ...แหะ...อย่าไปพูดให้เค้าฟังกันหละ   
นิดหนึ่ง...เพื่อให้หายสงสัย   สรุปไม่มีส่วนใด คล้ายยอดชายเค้าเลย  ถึงได้โล่งอก..อย่างน้อยพิสูจน์แล้วว่ากลสิทธิ์ไม่ได้ไข่ทิ้งไว้เรี่ยราดจริงๆ
                    น้องหนูติดพี่กลมาก เห็นหน้านี่แทบจะพุ่งเข้าหาเลยทันที เพราะพี่กลแกชอบเอาใจ น้องหนูถามอะไรพี่เค้าก็ตอบให้ไม่เคยเบื่อ  กับเด็กนี่ยอมรับเลยว่า..กลสิทธิ์ใจเย็นและนุ่มนวลมาก  ใช่ว่าวีจะไม่รักเด็กนะ
วีก็รักเหมือนกัน  และก็ดูแลเอาใจใส่ได้ไม่ต่างกับกลสิทธิ์หรอก  ไม่งั้นแม่คงไม่ ไว้ใจเอามาฝากวีให้ช่วยเลี้ยง  หรือพี่ก้อยก็คงไม่เอาปีโป้มาฝากให้ดูแลหรอกค่ะ  
                       เพียงแต่กลสิทธิ์รักเด็กเว่อร์นะ  ขานั้นเค้าทั้งรักทั้งหลง  เห็นเด็กไม่ได้เจอที่ไหน จะมองตลอด
แต่พอถามอยากมีบ้างไหม  กลับตอบว่าไม่เอาหรอก  มีความสุขที่ได้อุ้มได้เล่นชื่นใจ เป็นครั้งคราวก็พอแล้ว  
ถ้าต้องมีแล้วเลี้ยงตลอดเวลาไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวไม่มีเวลาอ้อนเมีย....ฟังเค้าพูดดิ..วีควรดีใจใช่ไหม?
                         ขณะกำลังเอาผ้าที่ปั่นทิ้งไว้ออกตาก  คิดไรไปด้วยเพลินๆ  ยอดชายเค้าก็ย่องเข้า มารวบกอดเอวด้านหลัง  แถมซุกหน้าหอมซอกคอไปด้วย
                         “อืม..หอมจัง..เมียใครหว่า?..ทั้งสวยทั้งหอม”  นั่นหละ..ลูกอ้อนเค้าประจำ
                       “ตื่นแล้วหรือค่ะ..กาแฟสักแก้วไหม?...กลไปล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยก่อนป่ะ...
เดี๋ยววีไปชงให้”  พูดจบหันหลังเตรียมกลับเข้าไปชงกาแฟพร้อมกับเตรียมของว่างให้ยอดชายเค้าหน่อย  
บ่ายๆ เค้าชอบดื่มประจำ  วันหนึ่งเค้าจะทานกาแฟสองแก้ว  คือเช้าก่อนไปทำงาน  และก็บ่ายอีกแก้ว
ที่ทำงาน  พอหยุดอยู่บ้านวีต้องคอยจัดการให้เค้าหน่อย
                      “ขอบคุณครับ  มาให้หอมทีก่อนอย่าเพิ่งไป”  ไม่พูดเปล่า..รวบกอดดึงเข้าไปหอมทันที
                     “พอแล้วกล..เดี๋ยวหลานตื่นมาเห็นเข้ามันไม่ดี”เอามือยันหน้าอกให้หยุด
                     “นั่นสิ..กลลืมไปเลยว่าคืนนี้หลานต้องค้างกะเรานี่หว่า?...เวรแล้วไง..อดเลยคืนนี้  กะว่าจะจู๋จี๋กะเมียซะหน่อยหมดกัน”  อาการหื่นลอยมาเชี่ยว
                    “ไม่ต้องคิดเลย...เดี๋ยวแม่จะพาน้องหนูมาให้ช่วยเลี้ยงอีกคน   วันนี้กลต้องทำหน้าที่ ทั้งพี่ทั้งอา
เลี้ยงหลานไปเลย   พรุ่งนี้เย็นแม่กับอาลพถึงจะแวะมารับกลับ”  วีรีบบอกไปทันที  ยอดชายทำหน้านิ่งคิด  คงงงอยู่ว่าเกิดไรขึ้น..ทำไมแม่ถึงเอากุ้งแม่น้ำมาให้เลี้ยงละมั้ง
                    “เอ้!..ทำไมแม่เอาน้องหนูมาให้เลี้ยงหละวี...แล้วแม่บอกกับวีตอนไหน?”  นั่นว่าแล้วต้องสงสัย
                    “แม่โทรมาตอนกลหลับ   ท่านจะไปงานศพเพื่อนที่สุพรรณ  เห็นว่าจะค้างคืนหนึ่ง อยู่รอจนเผาเลยไปกับอาลพ พรุ่งนี้เย็นค่อยแวะเข้ามารับน้องหนูกลับ”  ต้องรีบแจงรายละเอียดให้ฟังก่อน
                    “แล้วกุ้งกุลาหละ..ไปด้วยกันหรือไง..ทำไมไม่เลี้ยงน้อง?”
                   “กุ้งกุลาไปเข้าค่ายกับเพื่อนที่ต่างจังหวัด..ที่บ้านไม่มีใครอยู่...ทำไม?..กลไม่อยาก เลี้ยงน้องเหรอถามเยอะจัง”  แกล้งหยอกไปแหละ  พอรู้อยู่หรอก..ขานี่รักน้องหนูจะตาย  ยิ่งกุ้งแม่น้ำขี้อ้อนฉอเลาะ
ปานนั้น  เดี๋ยวคอยดูสิ...ลองมาถึงไม่มีทางจะห่างพี่กลเค้าหรอก
                     “เปล่า...ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย...กลเห็นว่าปีโป้ก็ค้างกะเราคนหนึ่งแล้ว..กว่าจะกลับ ก็บ่ายพรุ่งนี้ แล้วยังมีน้องหนูมาอีกคน  กลกลัววีจะเหนื่อยนะสิ”  อูยๆ.....ได้ยินแล้วอดยิ้ม แก้มปริไม่ได้  ยอดชายห่วงเมียหรอกเหรอ   ฟังแล้วชื่นใจชะมัด  อดใจไม่ไหวยื่นปากไป จุ๊บแก้มสากทีหนึ่ง
                     “จุ๊บ!..ขอบคุณค่ะ..วีไม่เหนื่อยหรอกค่ะ”  เล่นเอากลสิทธิ์ยิ้มไม่หุบไปเหมือนกัน แม่เคยสอนไว้บางครั้งวีต้องเป็นน้ำตาล  เพื่อเติมความหวานให้กับชีวิตรัก   นี่แหละน้ำตาลที่วีเป็น
                     “ง่า...ขอจุ๊บปากแทนได้ไหม?”  นั่น!..ว่าแล้วต้องมาอิหรอบนี้ ได้คืบเอาศอกประจำ..
                     “พอแล้ว..จะกินไหมกาแฟ..รีบไปล้างหน้าเร็วเข้า..มัวโอ้เอ้เดี๋ยวปีโป้ตื่น  น้องหนูมา
อีกคน ที่นี้ไม่มีเวลากินไม่รู้ด้วยน๊า”  รีบเตือนก่อน ยอดชายทำเป็นตาโต  ก่อนจะรีบผลุบ หายเข้าห้องน้ำไปทันที
                         วีจัดกาแฟกับบราว์นี่เป็นของว่างช่วงบ่ายให้กับกลเค้า  ส่วนของวีแค่ชาอุ่น  กินเสร็จปุ๊ป..ปีโป้ตื่นพอดี   ลุกนั่งได้เหลียววอกเหลียวแวกมองหากลสิทธิ์ใหญ่   อากลก็แกล้งหลาน มุดหัวหลบหลังโซฟา
ซะนี่   วีลองแกล้งอยู่เฉยๆ  รอดูว่าปีโป้จะทำยังไง  เริ่มแบะปากแล้ว  อ้าวๆ..อย่าบอกว่าจะร้องนะนั่น   
เลยกระแอมเสียงแล้วมองแกนิ่งๆ  พอแกหันมาเจอวี..คงนึกขึ้นได้ว่า ยังมีวีอยู่อีกคน  หุบปากฉับ  ก่อนจะพูดตะกุกตะกักตามสำเนียงไม่ชัดของแกนั่นแหละ...ขึ้นมาว่า
                       “อาวี..อาวี...อาโกนป่ายหน่ายคับ..” เห็นไหม..ว่าแล้วต้องถาม ก็อย่างที่พูดไว้แล้วว่า..กลเค้ามีบางอย่างที่เด็กๆติดกันแจทุกราย  
                       “อือ...อาวีไม่รู้เหมือนกันครับ...เอางี้ดีไหม..ปีโป้ลุกไปฉี่ล้างหน้าให้เรียบร้อยก่อน  แล้วเราค่อยตามหาอากลกัน..เอาไหม?”  วีลองหลอกล่อแกดู  ว่าจะยอมทำหรือเปล่า ยอดชายยังมุดหัว แอบมองหลานอยู่
ที่เดิม  หน้านี่อมยิ้มแก้มตุ๋ยไปแล้ว  สนุกจริงแกล้งหลานเนี่ยะ
                       “ม่ายอ้าว...ปีโป้งจาหาอาโกน...ให้อาโกนพาปีโป้งป่ายสี่..ล้างหน้าให้โด้ย”  
นั่นแหละ...เสน่ห์ของยอดชายเค้าหละ  บอกแล้วไม่รู้เป็นไงรายไหนรายนั่น  ติดกลสิทธิ์หมด
                       “อาวีก็พาปีโป้ไปฉี่ได้  เดี๋ยวอาวีทำให้ก็ได้นี่ครับ  ตกลงไหม?” วียังต่อรองกับแกอยู่ พูดจบ...อ้าว!...แบะปากร้องซะงั้น  เอาแล้วไงหละที่นี้
                       “ฮึ..ฮึ...ฮือๆ...ม่ายอ้าว...ปีโป้ง..จาอาวอาโกน..ฮือๆ..อาโกนป่ายหน่าย...ปีโป้งจาหาอาโกน..อือ..อือ..ฮือๆ” ดับอนาถ  หยอกไปหยอกมา  หลานร้องซะงั้น  ยอดชายตาลีตาเหลือก  รีบโผล่ออกมาทันทีให้ไวตั้งแต่ได้ยินเสียงหลานร้องแล้ว แหมต้องรอให้ร้องก่อนนะ..ถึงค่อยยอมโผล่หัวออกมา..นึกแล้วมันน่า
หมั่นไส้นัก
                       “โอ๊ะโอ๋...ปีโป้คนเก่งของอากล..อากลอยู่นี่แล้วครับ...ไม่ไปไหนน้า..อย่าร้องนะครับ คนเก่ง..
มามะอาพาไปฉี่ดีกว่าเนอะ...ไม่เอาไม่ร้องนะครับ..คนเก่งต้องไม่ร้องรู้ไหม?”  อุ้มหลานแนบอก  กระเตงกันเข้าห้องน้ำไปแล้ว ปลอบไปด้วย ไอ้หลานสุดโปรดก็นะ  พออากลอุ้มสะอื้นฮักๆ กอดคอกลมป๊อก...เงียบเสียง
ซะงั้น   ดูเอาเถอะค่ะ..นี่แหละเสน่ห์กลสิทธิ์ที่มีต่อเด็กๆ  นึกภาพผู้ชาย ตัวใหญ่ล้ำ  ผิวเข้มอุ้มเด็กตัวขาวเล็กๆ แนบอก  มือลูบหัวลูบหลังพูดปลอบไปด้วย  มันเป็นภาพที่หาดูได้ยากนะสำหรับวี กลสิทธิ์มุมนี้เค้าดูอบอุ่น
และอ่อนโยนยิ่งนัก นี่คือส่วนหนึ่งที่เด็กๆเค้าสัมผัสได้เอง ตามธรรมชาติ  ทุกรายหลงกลสิทธิ์ติดกันแจ  
                        สองอาหลานดูแลกันเองในห้องน้ำ  วีเลยถือโอกาสเก็บถ้วยกาแฟจานขนมไปล้างให้เรียบร้อย  ไม่ลืมเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดโต๊ะอีกด้วย  กันไม่ให้มดขึ้น   เสร็จแล้วจึงเดินออกมา..จังหวะอ๊อดก็ดังขึ้นพอดี  แม่กับอาลพคงพาน้องหนูมาส่งแล้ว
                      “อ๊อดๆ!...”  รีบเดินไปเปิดก่อน  กลัวท่านรอนาน
                      “แอ็ด!....สวัสดีค่ะแม่  สวัสดีค่ะอาลพ..ว่าไงค่ะคนสวย” เปิดประตูปุ๊ปรีบยกมือไหว้แม่กับอาลพทันที  อาลพหิ้วตะกร้าเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนให้น้องหนู  วีไม่ลืมก้มไปทักทายน้องหนูตัวอ้วนที่ยืนจับมือแม่กลอยู่ข้างๆกัน
                     “ซาหวัดดีค๊าอาวี....” พูดจบปล่อยมือแม่ปั๊ป  โผลเข้าหาวีทันที  ต้องรีบอ้าแขนก้มลง อุ้มหนูน้อย
ที่ตัวไม่น้อยเลยขึ้นมาไว้ก่อน   กระปุกลุกจ่ำหม่ำไปทั้งตัวหนักใช่เล่น  แต่ก็ต้องตามใจ น้องหนูเค้าหละ  
เพราะกุ้งแม่น้ำมักชอบให้อุ้มเสมอเวลาเจอกันทีไร   อดไม่ได้ต้องกดจมูกหอมแก้มนุ่ม ทั้งสองข้างทันที  
กลิ่นแป้งเด็กทำให้สดชื่นเป็นอย่างมาก  กลิ่นไร้เดียงสาบวกกับแก้มยุ้ยนุ่มนิ่ม  พาลรู้สึกหมั่นเขี้ยวอยากกัดสักทีพิลึก
                     “แม่กับอาลพเข้ามาข้างในก่อนไหมค่ะ?..”  พูดจบเปิดทางให้แม่กับอาลพเดินเข้ามาในห้องด้วย
อาลพรีบเอาตระกร้าผ้าไปวางไว้บนโต๊ะทานข้าว   เดินมานั่งโซฟาตัวยาวข้างๆแม่   วีปิดประตูเสร็จก็ตามมานั่งตรงข้ามท่าน   จังหวะกลกับปีโป้กระเตงกันออกจากห้องน้ำมาด้วยเช่นกัน
                     “อ้าว!..หวัดดีครับแม่  หวัดดีครับอา”  เอ่ยแต่ปาก  ไม่ได้ยกมือไหว้เพราะอุ้มหลาน ชายตัวแสบอยู่
                     “แล้วนั่น..อุ้มลูกใครอีกละนี่?”แม่ถามขึ้นทันที  เมื่อเห็นกลอุ้มปีโป้ออกมา
                     “ลูกพี่ก้อยนะค่ะแม่  ลูกพี่ลูกน้องของวีเอง  แม่กับอาลพน่าจะพอจำได้ตอนไปงานแต่ง วีกับกล
ไงค่ะ  พี่ก้อยที่คอยดูแลข้าวปลาอาหารบริการครอบครัวแม่นั่นแหละค่ะ”
                    “อ้อ..หนูก้อยเองนะเหรอ...แม่จำได้สิทำไมจะจำไม่ได้...แล้วนี่ไปมีลูกตั้งกะเมื่อไหร่เล่านี่
ตาหนูนี่อายุกี่ขวบแล้วหละ?” แกถามทันที
                    “สามขวบกว่าค่ะ...พี่ก้อยเค้ามีปีโป้ได้ขวบกว่าๆแล้วตอนงานแต่งวี  พอดีแกพาปีโป้มาตรวจเท้า..นิ้วเท้าซ้ายติดกันหมด  ตรวจที่ศิริราชหมอเค้านัดผ่าแต่ต้องรอปีโป้อายุครบห้าขวบก่อน  วันนี้พี่ก้อยกับพี่หนุ่มแฟนแกไปทำธุระต่อ  ไม่สะดวกเอาปีโป้ไปด้วยเลยฝากวีกับกลไว้ค่ะ”  เล่าให้แก ฟังซะยาวจะได้เข้าใจ
                      “จริงเหรอ...ไหนเอาตาหนูมาให้แม่ดูหน่อยสิกล   เท้าเป็นยังไงกันหละลูก...แล้วนี่เราสองคนจะไหวเหรอมีเด็กมาให้ดูแลถึงสองคน   ยุ่งยากกันหรือเปล่า?”  กลสิทธิ์รีบอุ้มปีโป้เข้าไปให้แม่ดูตาหนูไม่ยอมผละจากอ้อมกอดของกลเลย กลับกอดเอาไว้แน่น แถมตากลมยังจ้องหน้าน้องหนูอีกตะหาก
                      “ดูสิไม่ยอมออกห่างอาเลยทีนี่ อืม..เป็นพังพืดจริงๆด้วย  นิ้วไม่ยอมแยกออกจากกัน ผ่าแล้ว
คงหาย  นิ้วก็มีครบนี่คงแค่ตัดพังพืดแยกนิ้วออกจากกันแค่นั่น  จริงไหมคุณ?”  แม่หันไปถาม ความเห็น
จากอาลพ  ที่นั่งเงียบฟังพวกเราคุยกันมาตลอด
                     “อืม..คงงั้นแหละ..ดูแล้วไม่น่ากังวลเท่าไหร่ นิ้วสมบูรณ์ดีไม่พิการหรอก สมัยนี้การแพทย์พัฒนาไปเยอะ  เรื่องแค่นี้จิ๊บๆแล้วหละ”  อาลพตอบยิ้มๆ  รอยยิ้มของอาลพดูอบอุ่นเสมอไม่เคยเปลี่ยน
                      “แล้วนี่แม่กับอาไปกันยังไงครับ?”  กลถามขึ้นมา
                      “แม่เอาบีเอ็มคันน้ำเงินไป  อาเค้าขับ  กะไปนอนคืนหนึ่งอยู่รอเผาก่อน พรุ่งนี้เย็นจะกลับมารับ
นังหนูคืน”
                     “กลรู้จักเพื่อนแม่คนที่ตายไหมแม่?”  กลสิทธิ์ถามต่อ
                     “รู้จักสิลูก น้าพรรณไง..ตอนกลเด็กๆ แกแวะไปบ้านยายออกบ่อย   แต่แม่ไม่แน่ใจ ว่ากลจะจำแกได้หรือเปล่า   เค้าเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย  หมดเงินรักษาไปเยอะ  สุดท้ายก็ยื้อไว้ไม่ได้ แม่ว่าดี
แล้วหละ  อยู่ไปก็ทรมานเปล่าๆ  อย่างน้อยจะได้สบายไม่ต้องทรมานอีก”  แกก็เปรยให้ฟัง  ก่อนอาลพจะพูดเตือนขึ้นมาว่า
                      “ไปกันได้แล้วคุณ..เดี๋ยวจะค่ำเสียก่อน  นี่จะห้าโมงครึ่งแล้วนะครับ”  แกเตือนแม่เรื่องเวลา ไม่งั้นแม่พร่ำยาวเสียเวลาอีกนาน
                      “อืม..ไปสิ..วีกับกลแม่ฝากน้องหนูด้วยนะลูก..แล้วไงพรุ่งนี้แม่จะมารับคงราวๆนี่แหละเดี๋ยวเอามะพร้าวน้ำหอมสวนบ้านยายมาฝาก โทรบอกน้าก้องไว้แล้ว ปานนี้คงตัดเตรียมไว้ให้แล้วหละ” พูดจบแกกับ
อาลพพากันลุกออกไป  กลกับวีกระเตงเด็กไปส่งแกที่ประตูคนละคน  แขนเหมือนจะหลุด เพราะน้องหนูตัว
ไม่เบาเลย  ขืนอุ้มนานๆ คงไม่ไหว  ดีเมื่อกี้แกยอมนั่งตักไม่งั้นอุ้มไว้ตลอดได้แขนหลุดเป็นแน่
                         ส่งแม่กับอาลพเรียบร้อย   เราต้องมาว่ากันต่อหละ  เพราะตอนนี้ศึกสองบัลลังก์ กำลังเกิด
ขึ้นแล้ว  หลังจากวีวางน้องหนูลงเสร็จ  ก็เกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้ขึ้นทันที
“พี่กลอุ้มน้องหนูหน่อย..น้องหนูจะให้พี่กลอุ้มค่ะ”  นั่นไง
                        “อืมได้สิครับ...ปีโป้ครับ..เดี๋ยวปีโป้ลงก่อนดีไหม?...”  พอกลสิทธิ์จะวางไอ้ตัวเล็กลง ดันไม่ยอมกลับกอดคอแน่นปั๊ก..ไม่ยอมปล่อยมืออีกแถมหน้าซุกไหล่กลอีกตะหาก   ประหนึ่งว่าข้าไม่มีทางลงเด็ดขาด   เอาหละสิทีนี้กลสิทธิ์จะทำยังไง
                        “ปีโป้คนเก่งของอากล   ปีโป้ปล่อยอากลก่อนไหมครับ?”
                       “ม่ายอาว..ปีโป้งจาอยู่กาบอาโกน”  เอาละสิ..กลสิทธิ์พ่อยอดเนื้อหอม
                       “ไม่เอา...น้องหนูจะให้พี่กลอุ้ม..พี่กลอุ้มน้องหนูหน่อยสิค่ะ..นะ..นะ..อุ้มน้องหนู
หน่อยนะค๊า”  มาแล้วลูกอ้อนประจำตัวน้องหนูเค้าหละ  มาทีไรกลสิทธิ์แพ้ทางทุกที
                      “เอ้า!...งั้นเอางี้   อากลจะนั่งที่เก้าอี้   ไหนใครอยากนั่งตักอากลบ้าง   ยกมือก่อนเร็ว”
                     “น้องหนูค๊า../ปีโป้งโด้ย”  
                      “ตกลงนั่งทั้งสองคนนั่งด้วยกันนั่นแหละ..แต่ถ้าให้อุ้มทั้งสองคนคงไม่ไหว..”  เป็นไงวิธี
แก้ปัญหาของยอดชาย   ยี่ห้อนี้มีคนเดียว  สามารถจริงๆ...
                     สุดท้ายหน้าขาซ้ายน้องหนูกระปุกลุกจับจองพื้นที่เป็นของตัวเอง หน้าขาขวาเป็นของปีโป้
โดยมีทั้งคุณพี่และคุณอากล  คอยประคองโอบไว้ด้วยแขนทั้งสองข้างกันไว้ไม่ให้ตก เล่านิทานตลกให้
เด็กฟังกันตาแป๋ว
                      จนกระทั่งได้เวลาอาหารเย็น   วุ่นวายกันเล็กน้อยในโต๊ะอาหาร  เพราะ
                     “ปีโป้ง..จาให้อาโกนป่อน” ปกติทานเองได้
                     “น้องหนูก็จาให้พี่กลป้อนเหมือนกัน”  นี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่  นาทีนี้เกิดการแย่งซีนกัน
ขึ้นมาอีกแล้ว
                      “น้องหนูคนเก่ง  กินเองได้นี่ครับ” กลสิทธิ์หาทางประเหลาะ
                       “งั้นปีโป้ก็ไม่เก่ง  เพราะกินเองไม่ได้ใช่ไหมค่ะ?”  เข้าทางกลสิทธิ์เค้าทันที เพราะ..
                       “คายบอก..ปีโป้งเก่ง..ปีโป้งกินเองก็ด้าย.”  นั่นไง ว่าแล้วเกิดการแย่งกันเก่งซะงั้น  กลสิทธิ์หันมายกคิ้วให้วี  แถมอมยิ้มอีกตะหาก  ภูมิใจนักหนาที่แก้ปัญหาผ่านตลอด
                     “เอาหละค่ะ เด็กๆคนเก่งทั้งสองคน ได้เวลาอาบน้ำแล้วนะค่ะ ปะเข้าไปอาบน้ำกันเร็ว...
ไปกันเลยนะค่ะ?”
                     “ก็ได้ค่ะ...แต่พี่กลต้องอาบให้น้องหนู”  มาข้อใหม่อีกข้อแล้ว
                    “ไม่อ่าว...อาโกนต้องอาบให้ปีโป้ง..”  แย่งกันอีกแล้ว  ทีนี้ยอดชายเค้าจะทำยังไง  อาบน้ำก็แย่งกันให้กลสิทธิ์อาบให้ซะงั้น
                     “เอางี้   อาบพร้อมกันเลยดีกว่า?  เดี๋ยวอากลอาบให้ทั้งสองคนนั่นแหละ  ตกลงหรือเปล่า?”  มาแล้วทางออก
                     “ก็ได้คับ../ก็ได้ค่ะ”  ปีโป้...น้องหนู
                      วีคอยช่วยรดน้ำสลับฟอกสบู่ให้ด้วยตลอด  ขืนปล่อยกลคนเดียวไม่ไหวเดี๋ยวจะนาน  เด็กๆจะหนาวตัวซีดพาลไม่สบายไปเปล่าๆ  ระหว่างอาบน้ำน้องหนูขี้สงสัยก็ถามขึ้นมาว่า
                      “พี่วี..ทำไมน้องหนูไม่มีไอ้นี่เหมือนปีโป้ค่ะ”  เธอชี้ไปที่ปีโป้น้อย..พร้อมกับถาม ขึ้นมาดื้อๆ
ซะงั้น  เล่นเอาวีอึ้งแดกไปเลยทีนี้  หันมองหน้ากลสิทธิ์ที่กำลังอมยิ้มแก้มตุ๋ยขณะฟอกสบู่ให้ ปีโป้ไปด้วย กำลังกลั้นขำใหญ่  แถมจะรอฟังอะดิว่าวีจะตอบคำถามนี้อย่างไร  ตาหนูปีโป้ก็มองตามที่ น้องหนูชี้ของตัวเอง  
ก่อนจะหันไปมองของน้องหนูแล้วพูดขึ้นว่า
                      “ดีดี...พี้เค้าม่ายมีเหมือนปีโป้ง...”  พูดเหมือนสะใจที่น้องหนูไม่มีเหมือนตัวเอง  
                      “ฮึ..ฮึ..ฮือๆ...น้องหนูจะเอา...น้องหนูจะเอา..ฮือๆ!”  แล้วน้ำตาก็มา พร้อมกับอาการงอแงที่จะเอาให้เหมือนปีโป้ให้ได้
                     “โอ๋ไม่ร้องนะค่ะ..น้องหนูมีเหมือนปีโป้ไม่ได้หรอกค่ะ..คือ...”  วีกำลังนึกหาวิธีปลอบ แต่ไม่ได้ผลเพราะ...กลายเป็นว่า....
                     “ไม่เอา...ฮือๆ...น้องหนูจะเอาของปีโป้ง...พี่กลขา..น้องหนูจะเอาแบบปีโป้ง...ฮือๆ”  น้าน!..หนักแล้วงานนี้น้องหนูเริ่มจะดิ้นสะบัดปัดไปมาแล้ว   เวรแล้วไง....จู่ๆกลสิทธิ์พูดขึ้นมาเสียก่อนว่า
                    “โอ๋..ไม่ร้องนะครับน้องหนูคนเก่ง....เอางี้..ฟังพี่กลนะ..ถ้าน้องหนูสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี..
โตขึ้นน้องหนูจะได้อันหนึ่งดีไหมละครับ?”  ได้ผลน้องหนูหยุดร้องกึกทันที  มองหน้ากลสิทธิ์ตาปริบๆ  
ก่อนจะถามว่า
                      “จริงนะค่ะ  พี่กลพูดจริงนะ  น้องหนูจะมีอันหนึ่งจริงๆน้า”  เอาแล้วไง กลสิทธิ์เกิดเพี้ยนไรขึ้นมา..ไปรับปากเด็กในเรื่องไม่เป็นเรื่อง
                     “จริงสิคร๊าบๆ...พี่กลไม่โกหกหรอก..แต่น้องหนูต้องเป็นเด็กดีก่อนจำไว้นะ..ถ้าน้องหนูเป็นเด็กดีโตขึ้นน้องหนูจะได้อันหนึ่ง...แต่ถ้าน้องหนูเป็นเด็กไม่ดีโตขึ้นน้องหนูจะได้หลายอันเลยหละทีนี้”  พอได้ฟังแบบนั้น  วีถึงบ้างอ้อทันที   อ้าปากตะลึงค้างอึ้งแดกไปเลย ทำได้แค่จ้องกลสิทธิ์ตาโต  แต่ยอดชายตัวดีกลับหัวเราะ...ชอบอกชอบใจท้องคัดท้องแข็ง  พาให้เด็กสองคนมองกันอย่างงงๆ คงกำลังสงสัยว่าอากลของพวกเค้าเกิดเป็นบ้าไรขึ้นมาถึงได้หัวเราะซะน้ำตาเล็ด
                        “กล..เป็นบ้าอะไรเนี่ยะ...ทำไมทะลึ่งแบบนี้”  วีอดไม่ได้เหวพ่อตัวดีไปซะที
                        “อ้าว!...กลพูดผิดตรงไหนเล่าวี...แล้วมันจริงไหมล่ะ..ถ้าเป็นคนดีโตขึ้น ก็ต้องได้แน่ๆอันหนึ่ง แต่ลองทำตัวไม่ดีดูดิ..ก็อย่างที่กลบอกอาจได้หลายอันเลยหละทีนี้...ฮ่าๆ!.”
ฟังพูดเข้าพ่อตัวดี..เส้นตื้นขึ้นมาอีกซะงั้น  ขำท้องคัดท้องแข็งอีกตามเคย  เด็กสองคนจากที่งงๆ อยู่ พอเห็นอากลขำไม่เลิกพากันหัวเราะตามรับกันเป็นลูกคู่ซะเลย ส่วนวีนะหรือหน้าคงแดงไปถึงหูแล้ว หละตอนนี้  รีบก้มหน้าก้มตาล้างสบู่ออกให้น้องหนู  อุ้มออกมาทาแป้งใส่ผ้าให้ก่อนทันที ไม่ไหวหน้าจะระเบิดอายแทนโคตร  คิดได้ไงตาบ้ากลสิทธิ์นี่  ไม่พูดกับคนบ้าแล้ว   ปล่อยยอดชายจัดการกับปีโป้ตามลำพัง  
                        ซึ่งก็ตามออกมาติดๆ ทาแป้งสวมผ้าให้ปีโป้เหมือนกัน   ทุ่มตรงถึงเวลาพาเด็กๆ เข้านอน เราให้เด็กทั้งสองคนนอนตรงกลาง  เตียงขนาดคิงส์ไซร์ไม่เบียดสักเท่าไหร่  แต่คงแปลกๆไปบ้าง  ที่มีเด็กมานอนด้วยถึงสองคน  ปกติมีแค่น้องหนูจะมาค้างบ้างเวลาที่คิดถึง ก็ไปรับที่บ้านแม่..วันรุ่งขึ้นค่อยพาไปส่งคืน   แต่ครั้งนี้มีถึงสองคน
                         ตั้งแต่ที่กลพูดออกมาแบบนั้น  วียังไม่อยากพูดกับกลสักเท่าไหร่ ตาหนูปีโป้กินนม หลับไปแล้ว  ส่วนน้องหนูต้องให้พี่กลเล่านิทานให้ฟังก่อนถึงผล่อยหลับตามไปได้ในที่สุด  เมื่อเด็กๆเข้านอนกันเรียบร้อยแล้ว   กลก็จัดการปิดไฟเปิดทิ้งไว้เพียงไฟหรี่หัวเตียงสลัวๆ
                        วีหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าไปอาบน้ำบ้าง  กำลังจะปิดประตูพ่อยอดชายตัวดีดัน ผลุบเข้ามาด้วย
                         “กลจะเอาอะไร...วีจะอาบน้ำ”  รีบบอกไป
                        “กลอาบด้วยคน”  นั่น...มาลูกนี้มีแผนอีกแล้ว
                       “ไม่เอา...งั้นกลอาบก่อนเลย..เดี๋ยววีรออาบทีหลัง” กำลังจะก้าวขาออกยังไม่ทัน พ้นประตูเลย  ยอดชายรีบรวบตัวไปกอดไว้  ก่อนมือดันประตูปิดซะนี่

                       “กล..จะทำอะไร..ไม่เอา..ไม่เล่น” เหวไปแล้วนะ..
                     “น่าวี..อาบน้ำกะกลก่อน...นะครับ..”  ทำเสียงอ้อนอีกแล้ว..
                     “อาบอย่างเดียวนะ...ห้ามทำอย่างอื่น..สัญญาก่อน” พูดจบยังไม่ทันรับปาก....
                     “อุ๊บ...อือ...อือ..” ไม่ทันเสียแล้ว พ่อยอดชายจัดการบดจูบปิดปากวีไว้ทันที นี่ไงหละวิธีเอาตัวรอดไม่รับปากของยอดชายกลสิทธิ์เค้าหละ ยี่ห้อนี่มีคนเดียว  สุดท้ายก็จิ้นต่อกันเองแล้วกัน.....?



นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24560
Zenny
38475
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-25 19:33:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
21
พลังน้ำใจ
16927
Zenny
6571
ออนไลน์
3026 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-30 00:01:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆครับ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
679
Zenny
156
ออนไลน์
324 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-7-5 23:34:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณคับ {:sm-17:}

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
2
พลังน้ำใจ
3195
Zenny
1734
ออนไลน์
988 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-7-7 21:47:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-24 19:29:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากนะ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
574
Zenny
-139
ออนไลน์
359 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-24 21:16:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
1612
Zenny
6474
ออนไลน์
812 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-25 01:20:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
21416
Zenny
9324
ออนไลน์
1627 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-11-25 12:46:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมาก...

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
83747
Zenny
75689
ออนไลน์
6898 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-11-25 15:10:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
13
พลังน้ำใจ
36568
Zenny
126
ออนไลน์
16170 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-11-25 17:21:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
1219
Zenny
1556
ออนไลน์
362 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-2-21 20:54:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
จะเอาไปสอนหลานในอนาคต

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
541
Zenny
585
ออนไลน์
28 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-10-24 08:15:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
25772
Zenny
21604
ออนไลน์
1006 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-8-25 00:18:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณนะครับ

นายกสโมสร

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
159541
Zenny
289708
ออนไลน์
46421 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-8-26 06:49:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณ ครับผม

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
34370
Zenny
27552
ออนไลน์
1783 ชั่วโมง
โพสต์ 2018-1-19 06:23:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 15:36 , Processed in 0.109710 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้