ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว “เออๆ แล้วแต่เถอะขี้เกลียดเถียง” ผมตอบปัด
“ขอบคุณครับ พี่โชว์น่ารักที่สุดเลย” คิมบอกผมผมหันไปมองคิมทันที ผมน่ารักหรอ ต้องหล่อสิถึงจะถูก
“อืมๆ” ผมตอบปัดๆเหตุที่ผมไม่ค่อยอยากคุยกับคิมตอนนี้เพราะ...........ผมเล่นไพ่อยู่! ฮ่าๆ สรุปคืนนั้กว่าผมจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่งส่วนคิมขอขึ้นไปนอนตั้งแต่ สามทุ่มแล้วคงง่วงเพราะฤทธิ์ยานั้นแหละ Lesson 17 ( Kim Part )
เมื่อคืนผมรีบข้ามานอนเพราะพรุ่งนี้ผมจะได้ไปมหาลัยสักทีไม่ค่อยอยากหยุดเพราะอาจารย์คณะผมนะ ชอบสอบย่อยเกือบทุกอาทิตย์ ทำให้ผมมีความกระตือรือร้นอยากมามหาลัยแบบถ้าไม่จำเป็นจริงๆจะไม่ขาดเด็ดขาด ตอนนี้ผมกำลังจะออกมาจากบ้านแต่ก็มีเสียงของใครอีกคนเรียกผมไว้ซะก่อน
“คิม เดี๋ยว” ผมหันไปกลับไปตามเสียง
“ว่าไงครับพี่โชว์”
“เดี๋ยวไปพร้อมพี่เลยดิ กำลังไปมหาลัยอะเปล่า”
“ใช่ครับ วันนี้พี่โชว์มีเรียนเช้าเหรอ”
“เอ่อ...ไม่มีอ่ะ....เอ้อ แต่ว่าพี่ต้องเอางานไปส่งอาจารย์ก่อนน่ะ”
“งั้นรบกวนพี่โชว์ด้วยละกัน” พูดจบผมก็เดินขึ้นรถทันที
“ไม่รบกวนหรอก พี่เต็มใจ” หืมมาแปลกคนเราแค่ข้ามคืนจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ผมนั่งรถมาเรื่อยๆเราก็คุยกันมาเรื่อยเปื่อยตลอดทางผมรู้สึกว่าผู้ชายคนนี่ก็มีมุมที่อ่อนโยนบ้างเพียงแต่พยายามเก็บความอ่อนโยนนั้นไว้
“ถึงแล้วให้ส่งที่ไหน”
“หน้าคณะเลยพี่โชว์ เดี๋ยวคิมต้องไปพบอาจารย์ก่อนน่ะ” ผมบอกพี่โชว์ไป
“อื้มๆ แล้วเดี๋ยวเที่ยงไปกินข้าวกับพวกพี่นะ”
“ทราบแล้วคร้าบ” ผมแกล้งกวนบาทาไปนิดๆ
“กวนเหรอ เดี๋ยวโดนไม่ใช่น้อย”
“อิอิ ไปละครับ” ผมโบกมือลาพี่โชว์แล้วเดินเข้าไปพบกับอาจารย์เพราะผมมีปัญหาด้านการเรียนนิดหน่อยเลยจะปรึกษาอาจารย์หน่อยผมคุยกับอาจารย์ได้สักพักก็ขอตัวไปเข้าเรียนก่อน วันนี้ผมชักไม่อยากจะเรียน สักเท่าไรเลย เพราะวันนี้ผมต้องมานั่งเรียนรวมกับคณะเศรษฐศาสตร์เพราะมันทำให้ผมต้องเจอกับเต้น่ะสิ
“คิมเที่ยงนี้ไปกินข้าวด้วยกันนะ” เต้ชวนผม
“เอ่อ เรานัดกับพี่ไว้แล้วน่ะ โทษที” ผมตอบเบี่ยงๆ
“พี่โชว์เหรอ ใช่เปล่า” เต้ถามผม
“อื้ม รู้ได้ไงอ่ะ” ผมถามอย่างสงสัย
“หึหึ เราเดาเอาน่ะ” เต้พูดจบก็เงียบไป อะไรหว่าอยากพูดก็พูดไม่อยากพูดก็ไม่พูดคนมันเป็นอะไรกันไปหมด
“เราถามนายจริงๆ นายเป็นอะไรกับพี่โชว์”
“พี่น้องกันไง” ถามแบบนี้ ผมไม่ทันตั้งตัวนะถึงจะเคย....กันก็เถอะ แต่เราผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ แล้วผมมานั่งคิดเรื่องนี้ทำไมเนี่ย
“แน่เหรอว่าแค่ พี่กับน้องน่ะ” เต้ถามอย่างมีเลศนัย
“แน่สิ ทำไมเหรอ”
“เปล่าๆ เราจะบอกว่า เราชอบคิม ถ้าคิมยังไม่มีเจ้าของเราจะจีบคิมนะ”
“เฮ้ย เต้นายล้อเราเล่นหรือเปล่า”แกล้งตกใจไปงั้นแหละ การกระทำบ่งบอกซะขนาดนั้นใครดูไม่ออกก็บ้าแล้ว
“เปล่าเราพูดจริงๆ” เต้ย้ำว่าสิ่งที่เต้พูดเป็นเรื่องจริง
“เอ่อ...เราเป็นผู้ชายนะ เต้จะมาชอบเราได้ยังไง”
“เราไม่สนหรอก แต่ต่อจากนี้ไปเราจะจีบคิมนะคิมคงไม่ว่าอะไรนะ”
“......” ผมไม่ตอบแต่ก้มหน้าก้มตาเขียนทำเป็นเขียนเลกเชอร์ทั้งที่จริงๆแล้วผมไม่มีสมาธิกับการฟังอาจารย์สอนเลยสักนิด ผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเต้หรอกนะแต่ผมยังไม่พร้อมที่จะมีความรักในรูปแบบนี้เท่านั้นเอง
เมื่อผมเรียนเสร็จในตอนเกือบเที่ยงๆผมก็เดินไปโรงอาหารของมหาลัยเพื่อไปกินข้าวกับพี่โชว์ เพราะพี่โชว์ นัดผมไว้แล้วแต่เมื่อมาถึงโรงอาหารผมมองไปที่โต๊ะประจำก็เห็นพวกเพื่อนพี่โชว์อยู่ก่อนแล้วผมจึงรีบเดินไปหาทันที
“พี่ๆ หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้ทุกคน
“อ้าว คิมมาแล้วนี่ๆเดี๋ยวคิมนั่งข้างเรานะ”เฟียร์ชี้มือไปที่ๆจะให้ผมนั่ง
“อื้ม แต่เราขอไปซื้อข้าวก่อนละกันนะ”
“อื้มรีบมาล่ะ”
ผมเดินดูตามร้านอาหารไปเรื่อยๆเพราะไม่รู้จะกินอะไรดี จนผมตกลงปลงใจเดินกลับไปซื้อสุกี้แห้งเพราะไม่รู้จะกินอะไรจริงๆ ไม่ค่อยหิวเท่าไรเมื่อผมกลับมาที่โต๊ะผมก็อึ้งกับภาพที่เห็นตรงหน้า
“พี่โชว์กินนี่หน่อยนะคะ อ่ะนี่กิ๊ฟป้อนนะ”
“เฟียร์เขยิบนิดนึงดิ” ผมพูดกับเฟียร์ตอนนี้รู้สึกไม่สบอารมณ์เลย
“อ่ะ คิมนั่งสิ” เฟียร์ขยับแล้วบอกให้ผมนั่ง
“มานานหรือยังอ่ะ” พี่โชว์หันมาถามผม
“อืม มาได้แปปเดียว” ผมตอบสั้นๆห้วนๆตอนนี้อารมณ์กำลังไม่ดีเอามากๆ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร สงสัยจะเป็นบ้าแล้วมั้ง พี่โชว์ก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมอีกแต่หันไปคุยกับผู้หญิงที่ชื่อกิ๊ฟแทน
“เฟียร์ เราไปละนะ อิ่มละ”
“เห้ย อิ่มบ้าอะไรพึ่งนั่งเอง ไหนดูดิ โหยวุ้นเส้นในจานแทบไม่กระดิกเลย” ตอนนี้สายตาทุกคนหันมาสนใจที่ผมแล้ว
“เออนั้นดิ คิมกินไปอีกนิดเถอะ เดี๋ยวจะเป็นลมเอานะ” พี่ส้มบอกผม
“ผมไม่หิวอ่ะพี่ ขอตัวก่อนละกันนะ” ผมยิ้มฝืนๆแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นทันทีฮ้วยหงุดหงิดว่ะ ผมหนีมานั่งเล่นที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะขณะที่ผมกำลังอ่านหนังสืออยู่ก็มีคนมานั่งตรงหน้าผม
“เฟียร์”
“ฮิฮิ ทำไมหนีมานั่งอ่านหนังสือคนเดียวล่ะ”
“ก็เปล่าหรอก เฟียร์ก็รู้คณะเราสอบย่อยเยอะ เลยอ่านเผื่อๆไว้น่ะ”
“อ้าวเหรอ เราก็นึกว่าหวงอะไรซะอีก” หวง!หวงอะไรวะ?
“หวงอะไรอ่ะ เราไม่เข้าใจ” ผมถามกลับด้วยความงง
“ก็หวงพี่โชว์ไง”
“เฮ้ยๆ เข้าใจผิดละ เราจะไปหวงพี่เค้าทำไม” ผมตอบรัวและเร็ว
“ไม่หวงก็ไม่หวงสิ จะรีบร้อนตัวทำไม ตอบซะเร็วเชียวนะ” เฟียร์พูดแล้วมองหน้าผมอย่างจับผิด
“เอ่อ.....เอ้อ นี่ เฟียร์ไม่มีเรียนเหรอ”ผมพยายามเฉไฉ
“ไม่มีแล้ววันนี้เรียนบ่าย นั่งรอพี่วินอยู่ แล้วคิมล่ะไม่มีเรียนแล้วทำไมไม่กลับบ้านล่ะหรือว่ารอใคร”
“เปล่าไม่ได้รอใครหรอก แต่ยังไม่อยากกลับบ้านน่ะ” ผมขี้เกลียดกลับบ้านจริงๆกลับไปก็ไม่มีอะไรทำ
“อ๋อ งั้นดีเลยนั่งเป็นเพื่อนเราก่อนนะ”
“อื้ม ก็เอาสิ” แล้วผมกับเฟียร์ก็คุยกันไปเรื่อยจนเกือบเลิกเรียนช่วงบ่าย แต่ขณะที่ผมกำลังคุยกันอยู่ก็มีเสียง เรียกผม
“คิม” Lesson 18
( Kim Part )
“อ้าว เต้ว่าไงนั่งก่อนสิ” ผมเอ่ยชวนตามมารยาท
“เต้นี้...”
“ไม่ต้องบอกหรอกใครๆก็รู้จัก น้องเฟียร์ผู้เลื่องลือว่าน่ารักมากๆแถมยังเป็นแฟนพี่วินอีกใครไม่รู้จักก็บ้าแล้ว”
“แหม เต้ก็พูดเวอร์ไป เราไม่ได้มีชื่อเสียงขนาดนั้นสักหน่อย”เฟียร์พูดแล้วยิ้มๆท่าทางจะเขินอยู่ไม่น้อย
“คิมเย็นนี้คิมว่างหรือเปล่าอ่ะ”
“ก็ไม่ได้ไปไหนนะ ว่างอยู่” ผมบอก
“เหรอ ไปเดินเที่ยวห้างกันนะ ไปเป็นเพื่อนเราหน่อย เราเบื่อๆน่ะ”โอ้วชวนกันแบบนี้เลย
“เอ่อ...ก็ได้นะแต่เราไม่กลับบ้านค่ำนะ” ผมรีบบอกเพราะผมไม่ชอบเข้าบ้านค่ำๆ
“งั้นเราไปกันเลยไหม”
“อื้มได้สิ เฟียร์ไปด้วยกันเปล่า” ผมหันไปชวน
“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวปีศาจวินอาละวาดอีก”
“อื้มๆ งั้นเราไปก่อนนะ” ผมบอกเฟียร์แล้วก็เดินไปกับเต้ผมก็เดินห้างกันไปผมก็รู้สึกสบายใจดีไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เต้ก็เทกแคร์ผมดีมากเลี้ยงข้าวผมด้วยของฟรี อิอิ เราเดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยจนใกล้ค่ำแหละครับ
( Show Part )
“เฮ้อ เลิกเรียนสักที” เสียงไอ้วินบ่นครับ
“วันนี้มึงกลับเลยปะวะ”
“เออ ก็กลับเลยอ่ะแหละ แต่เดี๋ยวโทรหาเฟียร์ก่อน” พูดจบมันก็โทรหาเฟียร์คุยกันได้สักพักมันก็วาง
“ว่าไงวะ” ผมถามมัน
“มันบอกว่ารอกูอยู่คณะคิมอ่ะ ให้ไปรับมันที่นั่น”
“อืม เดี๋ยวกูไปด้วยเผื่อจะรับคิมกลับไปด้วย” ผมบอกไอ้วินไอ้วินมันรู้ว่าผมคิดยังไงกับคิม
“กูว่าคิมไม่กลับกับมึงหรอก มึงเห็นไหมเมื่อกลางวันน่ะเหมือนคิมหึงมึงเลยว่ะ”
“มันจะมาหึงกูเรื่องอะไร” ผมถามมัน
“ก็ที่มึงคุยกับกิ๊ฟไง”
“มันไม่หึงกูหรอก มันไม่ได้คิดอะไรกับกูหรอกอีกอย่างกิ๊ฟกูก็คุยแค่น้อง แต่กิ๊ฟมันคิดมากกว่านั้นหรือเปล่ากูไม่รู้” ผมบอกมัน แต่กิ๊ฟชอบตามเซ้าซี้ผมจริงๆ
“เออๆ แล้วแต่มึงจะคิดละกันไปกันเถอะเดี๋ยวศรีภรรยากูจะงอนเอาอีกถ้าไปช้า” พูดจบเราก็เดินกันไปที่คณะเลยครับ
“เฟียร์คร้าบ มาหอมหน่อยคิดถึงจัง” แหมออดอ้อนเมียเลยนะไอ้เวร
“ทะลึ่ง มากไปละนี่ที่สาธารณะนะ”
“ก็คนมันคิดถึงไม่เห็นเป็นไรเลย”
“ฮึ้ย กูจะอ้วก” ผมพูดแทรกขึ้น
“ฮ่าๆคนเค้ามีความรักกันมึงไม่มีความรักไม่รู้หรอก...เออนี่เฟียร์แล้วคิมล่ะ” ผมหูผึ่งทันที
“ไปเดินห้างน่ะ” เมื่อเฟียร์พูดไม่ทันจบผมก็สวนขึ้นทันที
“ไปกับใคร!” ผมถามเสียงดังลั่น
“ไปกับเต้น่ะ...ไม่ต้องตาเขียวขนาดนั้นคิมบอกว่าคงไม่กลับบ้านค่ำ”ไปกับไอ้เต้เหรอ ไอ้เด็กเศรษฐศาสตร์ ปี 2 ที่มาขอเบอร์คิมอ่ะสินะ
“กูไปละ” ผมพูดแทบจะคำรามไอ้วินคงสังเกตได้
“ใจเย็นๆเว้ย เค้าแค่ไปเที่ยวกันตามภาษาเพื่อนเว้ย”
“กูก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ กูจะไปว่าอะไรมันได้” พูดจบผมก็เดินไปที่รถของตัวเองทันทีผมหงุดหงิดมากตอนนี้ ทำไมต้องไปกับไอ้เต้นั่นด้วยผมขับรถกลับบ้านแทบไม่ได้แตะเบรกเลยตลอดทางเพราะความหงุดหงิด
( Kim Part )
ตอนนี้ผมอยู่หน้าบ้านแล้วขณะนี้เวลาหกโมงครึ่งก็ไม่ได้ค่ำอะไรมากผมก้าวลงจากรถของเต้เมื่อรถจอดสนิท
“ขอบคุณนะที่มาส่งเราน่ะ” ผมหันไปกล่าวตามมารยาท
“ไม่เป็นไรหรอก เราสิต้องขอบคุณวันนี้เราสนุกมากเลย”
“อื้มๆ งั้นเราเข้าบ้านก่อนนะ ขับรถดีๆล่ะ” ผมบอกเต้แล้วเดินเข้าบ้านทันทีเมื่อเข้ามาถึงในบ้านก็เจอพี่โชว์
นั่งหน้าบึ้งแล้วกำลังมองมาที่ผม
“ไปไหนมา!” ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย
“ไปเที่ยวห้างมา” ผมตอบแล้วยิ้มๆแต่อีกคนไม่ยิ้มด้วยเลย
“ไปกับใคร” จะถามเสียงดุทำไมวะ
“ไปกับเพื่อน”
“เพื่อนคนไหน” เซ้าซี้จริงวุ้ย
“ก็เพื่อนต่างคณะ ชื่อเต้น่ะ”
“ดีเนอะ เดี๋ยวนี้มีเพื่อนต่างคณะด้วย”
“อ้าว เฟียร์ก็เพื่อนต่างคณะนะ ก็คล้ายๆกับพี่โชว์นั้นแหละพี่ต่างคณะ” เมื่อผมพูดจบพี่โชว์ก็พุ่งเข้ามาหาผมแล้วจับแขนผมอย่างแรง
“โอ้ย พี่โชว์ผมเจ็บอ่ะ” ผมทำอะไรผิดก็มันเป็นเรื่องจริง
“อย่าเอากูไปเทียบกับมันและต่อจากนี้กูขอสั่งให้มึงเลิกยุ่งกับไอ้-เอี้ย-เต้นั่นซะ” เฮ้ยๆเดี๋ยวดิมีสิทธิ์อะไรอ่ะ
“เดี๋ยวดิพี่โชว์ พี่มีสิทธิ์มาสั่งผมตั้งแต่เมื่อไร”
“มึง ห้าม ยุ่ง กับ มัน!” พี่โชว์พูดเน้นทีละคำ
“ไม่! จนกว่าพี่จะบอกเหตุผลผมมาก่อน” ผมเถียงขาดใจเลยตอนนี้แค่มีเพื่อนแค่เนี่ยผิดด้วยเหรอวะ
“ไม่มีเหตุผล นี่ไม่ใช่คำขอร้องแต่เป็นคำสั่ง!” พี่โชว์ตะคอกผม
“โอ้ย ปล่อยแขนผมได้แล้วผมเจ็บ แล้วก็เลิกยุ่งกับผมสักทีพี่เป็นอะไรกับผมเหรอถึงได้วุ่นวายกับผมนัก เราก็เป็นแค่คนรู้จักกัน” เมื่อผมพูดจบคนตรงหน้าก็บดริมฝีปากลงมาที่ริมฝีปากผม
“อื้อ...อ่า...อ่อย” ผมพูดแทบจะฟังไม่รู้เรื่องจะหันหน้าหลบก็ไม่ได้เพราะถูกรั้งท้ายทอยไว้
“ปึ้ก...โอะ” ผมกระทืบเท้าลงไปที่เท้าพี่โชว์ทำให้ผมหลุดออกเป็นอิสระผมจึงรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นแต่วิ่งไม่ได้กี่ก้าวก็โดนพี่โชว์ล็อคคอจากด้านหลัง
“จะไปไหนมานี่!”
“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยสิ” ผมดิ้นสุดแรงผมกลัวจะซ้ำรอยเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา
“ฤทธิ์มากนักใช่ไหม ห๊ะ!”
“ตุ๊บ....อึก” พี่โชว์ต่อยท้องผมจนผมตัวงอเพราะความเจ็บปวด
“หมดฤทธิ์แล้วสินะ เตรียมตัวได้เลยเดี๋ยวจะพาไปสวรรค์”
|