ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว “ไอ้เด็กบ้า! อยู่ไหนแกออกมาเดี๋ยวนี้นะ” เสียงใหญ่ๆของใครบางคนดังขึ้นกลางบ้านทำให้ผมกับคิมต้องรีบร้อนเดินไปดูแต่ระหว่างนั้นคิมบอกว่าขอไปเข้าห้องน้ำแปปนึงแล้วจะตามไปผมเดินมาก็เจอกับผู้ชายมาดธุรกิจกับผู้หญิงคนนึงซึ่งผมก็คุ้นหน้าเธออยู่เหมือนกันแต่สภาพทำไมมันถึงฟกช้ำดำเขียวมากมายขนาดนั้นน่ะ
“มีธุระอะไรครับ” ผมถามอย่างมีมารยาท
“อีตุ๊ดมันอยู่ไหน!” Lesson 41
( Show Part )
“อีตุ๊ดมันอยู่ไหน!” เฮ้ย อะไรวะอยู่ๆก็แผดเสียงขึ้นมา แล้วมาถามหาอีตุ๊ดที่ไหนอีกล่ะ กูจะไปรู้กับพ่อมึงเหรอ
“คุณคงเข้าผิดบ้านแล้วแหละเพราะที่นี่ไม่มีตุ๊ด...ป้าน้อยส่งแขกหน่อย”
“พ่ออย่าไปเชื่อนะคะ ก็เนี่ยผัวมันมันต้องแอบอยู่ในบ้านนี่แหละคะคุณพ่อ”
“ถ้ากูไม่ได้เจอไอ้คนที่ทำให้ลูกกูมีสภาพแบบนี้กูไม่กลับออกจากบ้านนี้แน่!” อ๋อ พ่อมันนั้นเอง
“ไม่ทราบว่าต้องการพบใครครับ” เสียงของคิมลอยมาก่อนตัวน้องเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าไอ้พวกสวะ-เอี้ย-ๆสองคนนั้น
“พ่อคะ อีนี่แหละที่มันทำเมย์เมื่อคืน” หือมึงมั่วแล้วใครเค้าจะไปทำอะไรมึงได้ โถ อีตอแหลเอ้ย!
“ไอ้เนี่ยเหรอ...ฮึ่ม กูขอสักทีเถอะ”
“ผลั๊วะ!” ก่อนที่ไอ้แก่มันจะง้างมือตบน้องผมก็ปล่อยหมัดออกไปเต็มๆเลยครับกลิ้งอยู่กับพื้นเป็นที่เรียบร้อย
“อ้าว ง่วงเหรอ มานอนกลางบ้านคนอื่นแบบนี้.....เสียมารยาทนะครับ”เอ่อ นี่คิมจริงเหรอ
“ถ้ามึงคิดแม้แต่จะแตะต้องเมียกูล่ะก็....มึงไม่ได้ตายดีแน่.....แล้วมึงอ่ะมาใส่ร้ายอะไรคิมเมื่อคืนกูอยู่ด้วยกัน ทั้งคืนมึงจะตอแหลอะไรให้มีขอบเขตหน่อยดิ๊” ผมด่าชิบหายวายป่วงหมดแหละครับตอนนี้อ่ะผมไม่เคยด่าผู้หญิงจาบจ้วงขนาดนี้มาก่อนเลยครับ แต่ผมยอมไม่ได้ที่พวกมันมาว่าร้ายดวงใจของผม
“พี่โชว์อย่าพูดแบบนี้สิคะ เมื่อคืนนี้อีนี่มันไปตบเมย์จริงๆนะคะไม่เชื่อพี่ก็ลองถามมันเองสิ”
“กูไม่ถามกูเชื่อใจเมียกู เพราะเค้าไม่มีนิสัยแบบนั้น จริงไหมคิม”ผมหันไปจับมือคิมไว้ น้องก็นิ่งไปครับแล้วสิ่งที่น้องพูดออกมาทำเอาผมแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“คิมทำจริงๆพี่โชว์”
“…” ผมไม่พูดอะไรครับ แต่มองด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
“แต่พี่ฟังคิมก่อนที่คิมทำ ทำเพราะมีเหตุผลเมื่อวานพี่จำสภาพคิมตอนเย็นได้ไหมล่ะ” ผมก็พยักหน้ารับครับ ก็แหมแดงฉานไปทั้งตัวขนาดนั้น
“ทั้งหมดน่ะก็ฝีมือ มันนั้นแหละ!” คิมพูดกระชากเสียงจนผมต้องหันมองตามอีเมย์ห่านั่นก็หน้าเสียเลยครับ
“มึงอย่ามาโกหก ลูกสาวกูเป็นเด็กดี ไม่เคยทำอะไรให้ใคร” ไอ้แก่มันนั่งพูดเลยครับ แส่จริงๆ มึงน่าจะเอาตัวเองให้รอดก่อนนะไอ้สัด
“แต่เมียกูก็ไม่เคยทำใครก่อนเหมือนกัน” ผมเถียงขาดใจครับผมรู้ดีว่าน้องเป็นยังไง
“กลับไปเถอะ ถ้าไม่อยากเดือดร้อน เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เตือนนะ”
“มึงจะทำอะไรกูได้สิเหอะ” มันพูดลอยหน้าลอยตามากๆเลยครับ
“ใครบอกว่าเราจะทำ เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ” น้องพูดแล้วมองมาที่ผม
“จริงพี่โชว์” น้องยิ้มหวานส่งมาให้ผมก็พยักหน้าครับ
“อ่อ เราขอบอกอะไรอีกอย่างนึง”
“…” ตอนนี้ทุกคนกำลังรอฟังคำพูดของคิมอยู่ครับ
“กลับบ้านให้ครบ 32 นะ...ขอให้โชคดี” ผมเห็นแว๊บนึงที่สีหน้าของน้องเปลี่ยนเป็นดุแต่น้องก็เปลี่ยนสีหน้ายิ้มกลบเกลื่อนได้อย่างรวดเร็ว
“แกระวังตัวไว้เถอะ!” เมย์พูดอย่างอาฆาตแล้วก็จูงมือไอ้แก่เดินออกจากบ้านไป
“พี่โชว์ขึ้นข้างบนกันเถอะ” น้องหันมาบอกผมครับเมื่อสองคนนั้นออกจากบ้านไป
“เอาสิ....แต่เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ไว้ข้างบนละกันนะพี่” พูดจบน้องก็เดินนำหน้าผมขึ้นไปผมก็วิ่งตามไปช้อนตัวน้องแล้วอุ้มขึ้นมาจนถึงห้องนอนของผมแล้วก็วางน้องลงบนเตียง
“อธิบายมาสิ”
“เรื่องอะไร” ฮั่นแน่ มีย้อนถาม
“ก็เรื่องวันนี้ไงครับ เราไปทำเรื่องไว้ตอนไหน”
“ก็ตอนที่โดนทิ้งให้นั่งดื่มคนเดียวเพราะมีคนชิ่งหลับก่อนน่ะสิ”กระทบผมป่าววะ
“คิม...อย่าโกหกพี่” ผมทำเสียงดุใส่ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าน้องโกหกอะไรผมหรือเปล่า แต่ก็ขอหยั่งเชิงไว้ก่อนล่ะนะ
“พี่โชว์หาว่าคิมโกหกพี่เหรอ”
“แล้วมันใช่หรือเปล่าล่ะ วันดีคืนดีคิมก็ลุกขึ้นมาทำร้ายคนอื่นพูดขู่คนอื่นแบบเมื่อกี๊ มันเป็นไปได้หรือเปล่า”
“ทำไม...คิมแค่อยากลุกขึ้นมาเอาคืนกับนที่ทำคิมบ้าง พี่มองคิมไม่ดีเลวเลยใช่ไหม” น้องพูดแล้วก็น้ำตาไหล โอ้ยไปกันใหญ่แล้วเนี่ย
“มันไม่ใช่แบบนั้น”
“ถ้าคิมเลวก็อย่ามายุ่งกับคิม” พูดจบน้องก็ทำท่าจะเดินออกจากห้องครับแต่เผอิญผมไวกว่าเลยคว้าตัวไว้ทันครับ
“ฮึก...ปล่อย...อึก...” น้องสะอื้นหนักเลยครับเฮ้อ ไปกันใหญ่แล้ว
“ไม่ปล่อย จนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง” ผมบอกแล้วจ้องหน้าน้องนิ่งๆครับแต่น้องก็หลบตาผม
“พี่ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะที่คิมลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น”ผมบอกเสียงนุ่มๆ
“แต่ว่าทีหลังมีอะไรบอกพี่ก่อนสิ พี่เป็นแฟนคิมนะพี่มีอะไรพี่ยังบอกคิมทุกอย่างเลย แล้วสมมุติถ้าคืนนั้นคิมไปแล้วโดนทำร้ายกลับมาพี่จะทำยังไง” ผมอธิบายพร้อมกับสร้างคำถามไปในตัวด้วย
“คิมขอโทษ” น้องพูดแต่ไม่ยอมมองหน้าผมขอแกล้งหน่อยเถอะ
“ว่าไงนะ พี่ไม่ได้ยิน”
“…” น้องก็ขึ้นมานั่งตักผมเราก็กอดคอผมไว้ครับ
“คิมขอโทษ”
“อื้อได้ยินชัดแล้ว...ฟอด”
“พี่โชว์บ้า แกล้งคิม” น้องยิ้มแล้วครับค่อยโล่งอกหน่อยครับผมไม่ชอบเลยครับน้ำตาของคิมพอเห็นทีไรเหมือนโลกหม่นหมองลงทันตา
“คิมรู้ไหมว่าเด็กดื้อต้องโดนทำโทษ” น้องเสร็จผมแน่
“อะไร” น้องทำหน้าสงสัยครับเห้นแล้วก็น่ารักดี ซื่อๆ ดูไม่มีพิษมีภัย มองแล้วก็เพลินดีด้วย
“ทำโทษอะไรอ่ะพี่โชว์ ตอบสักทีมองอยู่นั้นแหละหน้าคิมเนี่ย”
“ก็แบบนี้ไงครับ!” พูดจบผมก็จับน้องกดลงเตียงเลยครับ....รู้ใช่ไหมต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็คิดกันเองละกันนะครับ Lesson 42
( Kim Part )
หลังจากวันที่เมย์บุกมาหาผมที่บ้านผมก็ไม่ค่อยได้เจอเธอเท่าไหร่ครับแต่ก็มีเห็นผ่านๆบ้างตามห้างซึ่งเธอก็จะเรียกให้เพื่อนของเธอมองมาทางผมตลอดแล้วก็มองด้วยสายตาเหยียดหยามแต่ผมไม่แคร์หรอกครับเพราะยังไงซะเธอก็ทำอะไรผมไม่ได้อยู่แล้วส่วนวันนี้ผมก็นัดกับเฟียร์ไว้ครับ อยากไปดูของสักหน่อย
“เฟียร์ถึงไหนแล้วอ่ะ” ผมกำลังคุยโทรศัพท์กับเฟียร์ครับ
“เลี้ยวเข้าซอยถึงแล้วเนี่ย” พูดจบเฟียร์ก็ตัดสายไปเลยครับตามมาด้วยเสียงแตรหน้าบ้าน ผมรับรู้ทันทีว่าเฟียร์กับพี่วินมาถึงแล้วผมก็วิ่งไปเปิดประตูให้
“แหม บริการดีจังเลยนะ”
“แน่นอนสิ ก็ใช้เฟียร์ไปเป็นเพื่อนแล้วนิ” เฟียร์ก็ยิ้มแล้วไม่พูดอะไรครับส่วนผมก็วิ่งขึ้นไปข้างบนห้องเอากระเป๋าตังแล้วก็รีบลงมาหาเฟียร์ครับ
“จะไปกี่โมงอ่ะคิม” เฟียร์ถามเมื่อผมเดินลงมาถึงข้างล่างครับ
“ไปเลยก็ได้ จะได้รีบๆกลับ”
“โอเค งั้นเราไปบอกสองคนนั้นกันก่อนเถอะ” เฟียร์กับผมก็เดินไปในห้องนั่งเล่นครับซึ่งพี่โชว์กับพี่วินก็นั่งคุยกันอยู่
“พี่วินเฟียร์จะไปแล้วนะ”
“แน่ใจหรอว่าจะไม่ให้พี่ไปส่งอ่ะ” พี่วินถามกลับครับ
“ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวไปกันเองได้” เมื่อเฟียร์พูดจบผมก็มองหน้าพี่โชว์ครับแล้วก็เหมือนว่าเค้ารออยู่เลย เพราะพอผมหันไปเค้าก็จ้องผมอยู่แล้ว
“ไปแล้วนะพี่โชว์” ผมบอกแล้วก็ยิ้มๆพี่โชว์ก็ไม่ได้ว่าอะไรครับแต่บอกว่าให้รีบกลับไม่ได้ไปด้วยพี่โชว์เค้าเป็นห่วง....ทำหยั่งกับผมเป็นเด็กเจ็ดขวบจำทางกลับบ้านไม่ได้
ผมกับเฟียร์พากันมาเรียกแท็กซี่หน้าหมู่บ้านครับแล้วจากนั้นพวกเราก็ไปถึงเป้าหมายนั่นก็คือห้างสรรพสินค้าซึ่งระยะทางมันก็ไกลจากบ้านพอสมควรแต่ผมอยากมาที่นี่เพราะว่าของมันเยอะดีครับแถมมีหลายอย่างหลายแบบด้วย
“นี่แล้วตกลงอยากมาซื้ออะไรเนี่ย” เฟียร์ถามเมื่อพวกเราเดินเข้ามากันข้างในแล้วครับ
“ก็ว่าจะซื้อของขวัญให้พี่โชว์อ่ะ”
“โอกาสอะไร......อ๋อๆ อีกไม่นานก็วันเกิดพี่โชว์แล้วนี่นา ถึงว่าไม่ยอมให้พี่โชว์พามา”เฟียร์ยิ้มล้อผมครับ แต่ขอโทษไม่อายหรอกตอนนี้อ่ะ
“เกลียดคนรู้ทันจัง” จากนั้นเราสองคนก็พากันเลือกนั่นเลือกนี่จนเยอะแยะมากมายไปหมดเลยครับแต่ก็ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้ออะไร เพราะไอ้นั่นก็สวย ไอ้นี่ก็น่ารักดีเลยไม่รู้กันเลยครับว่าจะซื้ออะไร
“อื้อ เราว่าตัดสินใจเอาอันนี้แหละ” ผมพูดแล้วก็หยิบตุ๊กตาไขลานตัวนึงขึ้นมาเป็นตัวการ์ตูนผู้ชายคนนึงนั่งขัดตะหมาดแล้วก็มีผู้ชายอีกคนนั่งซ้อนอยู่ซึ่งมันน่ารักมาก
“หือ เอาอันนั้นเหรอ” เฟียร์ถามขึ้นทันทีที่ผมจับของชิ้นนี้
“อื้อ ก็ตัวนี้พี่โชว์ ส่วนตัวนี้ก็เราไง” ผมบอกไปยิ้มไปเหมือนคนบ้าเลยครับแต่ก็นะ แค่คิดก็มีความสุขแล้ว
“ถ้าอันนี้ก็เอาไปจ่ายตังเถอะ” ผมก็ทำตามที่เฟียร์บอกเดินไปจ่ายตังที่แคชเชียร์ราคาของมันก็ไม่แพงมากหรอกครับสำหรับพี่โชว์น่ะ แต่ผมให้ด้วยใจนะเมื่อจ่ายเงินเสร็จเราก็เตรียมตัวจะกลับกันครับ
“นี่ๆ เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำแปปนึงดิ” เฟียร์พูดขึ้น
“ได้ๆ เดี๋ยวเรารอหน้าห้องน้ำแล้วกันนะ” เฟียร์พยักหน้าแล้วก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำผมก็ยืนอยู่ได้แปปเดียวก็รู้สึกมีผ้าอะไรมาปิดจมูกผมตกใจมากแต่ร้องไม่ออก
“อื้อ...อื้อ” ผมดิ้นสุดแรงเกิดเลยครับ กลั้นหายใจด้วยแต่ด้วยที่ว่าผมออกแรงเยอะไปเลยเกิดอาการหอบเหนื่อยผมจึงเผลอหายใจเข้าไปและจากนั้นผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีอะไรเย็นๆมาราดสาดใส่ตัวผมผมลืมตาขึ้นก็รู้สึกเบลออยู่หน่อย หันมองไปรอบๆมองดูสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเมื่อผมพยายามเพ่งมองไปยังบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมก็แทบหยุดหายใจ
“เมย์….” เธอนั้นเองแล้วเธอจะทำอะไรผมผมขยับมือไม่ได้เพราะโดนมัดไว้เหนือหัวลองสังเกตที่ๆตัวเองนอนก็รู้ทันทีว่านี่คือเตียงนอนหลังใหญ่ขนาดคิงไซส์แล้วนี่เค้าจะทำอะไรผม
“หึ....ยังจำกันได้อยู่เหรอ แหม น่าดีใจจังเลยนะ” เธอแสยะยิ้มมาให้ผมอย่างใจเย็นใบหน้าที่เย้ยหยันแววตาที่แสดงออกมาว่าเกลียดผมสุดชีวิต
“เธอจะทำอะไรเรา”
“ก็ลองแหกตามองรอบๆดูสิ! แล้วแกก็จะรู้เอง” รอบๆเตียงมีผู้ชายตัวใหญ่มากๆประมาณห้าหกคนยืนล้อมรอบเตียงอยู่ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วสิ
“เธอจับเรามาทำไม เราไม่เคยทำอะไรให้เธอนะ” ผมพูดอย่างใจเย็นสถานการณ์ตอนนี้เอาน้ำเย็นเข้าลูบจะดีกว่า
“แกกล้าพูดนะว่าไม่ได้ทำอะไรฉัน...หื้ม....เพี๊ยะ!” เสียงฝ่ามือของเมย์กระทบหน้าผมดังสนั่นห้องเลยครับผมรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดในปากแล้วความชาที่ใบหน้า
“แต่ตอนนั้นเธอทำเราก่อนนะ” ผมแย้งกลับ
“เพี๊ยะ....อย่ามาเถียงฉันแต่ก็เอาเถอะยังไงซะวันนี้แกก็จะได้ผัวเป็นฝูงและ ฉันไม่อยากให้แกมีลอยขีดข่วนในการเข้าหอกับเจ้าบ่าวหรอกนะหึหึ......จัดการ ถ่ายคลิปมันส่งมาให้ฉันด้วยด้วย” พูดจบเมย์ก็เดินออกไปแต่ผมสิผมจะทำยังไงดีแล้วคนพวกนี้มันก็เริ่มขยับตัวกันแล้วด้วย...ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!
( Show Part )
ตอนนี้ผมกับเพื่อนๆในแก๊งมารวมกันที่บ้านผมครับเย็นนี้กะว่าจะฉลองที่ปิดเทอมสักหน่อยเพราะตอนที่ปิดใหม่ๆส่วนมากมันติดธุระกันเลยยังไม่ได้ฉลองอะไรกันเลยครับนี่ก็เย็นมากๆแล้วแต่ทำไมเฟียร์กับคิมยังไม่กลับมาอีกเนี่ย
“ไอ้วินมึงโทรตามเฟียร์ดิ๊ทำไมยังไม่กลับ”
“แหม ทำมาเป็นเฟียร์ ไอ้ควายมึงก็โทรหาคิมเองดิวะ” แม่งรู้ทันกูนะสัดนิ
“เฮ้ยๆนี่ไงเฟียร์โทรมาแล้ว....ฮัลโหล...ครับ...ฮ๊ะ.....ตอนนี้อยู่ไหน.....พี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”ไอ้วินมีท่าทางร้อนรนมากๆจนผมแปลกใจแล้วมันก็หันมาพูดกับผมก่อนที่ผมจะอ้าปากถามมัน
“ไอ้โชว์ คิมโดนไรไม่รู้จับตัวไปที่ห้างตอนไปซื้อของ” แค่นั้นแหละครับผมแทบจะเหาะไปขึ้นรถครับตามมาด้วยพวกเพื่อนๆคนอื่นที่งงๆกับท่าทางของผมกับไอ้วินแต่ก็โดดตามกันขึ้นมาครับผมเหยียดคันเร่งหูดับตับไหม้ จนคนอื่นๆด่าผมระเนระนาดแต่ตอนนี้ผมไม่สนใจหรอกครับผมมาถึงห้างภานใน 20 นาทีเฟียร์ก็รออยู่หน้าห้างแล้วครับ
“พี่ดูนี่ เฟียร์ขอเค้าเซฟได้แฟลชไดร์มา” เมื่อเฟียร์โดดขึ้นรถก็นั่งบนตักไอ้วินเพราะที่เต็มหมดแล้วเฟียร์เปิดโน๊ตบุ๊คผมแล้วเสีบแฟลชไดร์(ไปคว้ามาตอนไหนวะเร็วจริงๆ)ภาพที่ฉายก็คือคิมยืนรออยู่หน้าห้องน้ำแล้วก็มีผู้ชายสองคนมาข้างหลังเอาผ้าโปะหน้าคิมแล้วก็อุ้มคิมไปครับ
“แล้วก็นี่ของที่ตกอยู่” ผมคว้ามาจากมือเฟียร์แล้วแกะดูมันคือตุ๊กตาไขลานครับแต่เป็นผู้ชายตัวนั่งซ้อนตัก
กันอยู่
“คิมจะซื้อแล้วให้ในวันเกิดพี่” เฟียร์บอกผมผมก็ดีใจนะครับที่คิมเอาใจใส่ผมแม้ว่าผมไม่เคยบอกวันเกิดตัวเองให้คิมรู้เลย
“แล้วเอาไงต่อวะ” พวกข้างหลังถามครับตอนนี้พวกมันก็เริ่มโทรตามพวกคนนั้นคนนี้กันแล้วครับเพื่อนผมแต่ละคนธรรมดากันซะทีไหนลูกท่านหลานเธอกันทั้งนั้นแหละ
“ตามแม่งทุกที่ แยกย้ายกันไปกูมั่นใจว่าไม่พ้น โรงแรม ม่านรูดบังกะโล หรอก” พูดจบพวกมันก็รีบลงรถสลายตัวกันไปเลยครับไปนั่งแท็กซี่กันคนละคันเลยแต่ก่อนมันไปผมก็ส่งรูปคิมให้พวกมันคนละรูปเผื่อเอาไว้ถามครับ
“คิมรอพี่ก่อน ใครมันทำคิมแบบนี้ มันต้องตายสถานเดียว!”
|