ถึงร้ายก็รัก
เรื่องนี้ก๊อบมานะครับตอนที่ 1 บ้านใหม่
ระหว่างที่อยู่ในรถริวอิจิไม่พูดกับพ่อและก็แม่ของเขาสักคำ
**** Hidden Message ***** 本帖最後由 หนุ่มบ้านนา 於 2010-9-24 15:10 編輯
ตอนที่ 2 ไม่ชอบหน้า
**** Hidden Message ***** ตอนที่ 3 รู้สึกผิด
ริวอิจินอนอยู่บนเตียงก็รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกับว่าเขาเป็นสาเหตุทำให้พ่อ ลูกต้องทะเลาะกัน เขาลุกมานั่งที่ของเตียงก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้องของซาโตยะ
ซึ่งคุณลุงเคยบอกไว้ว่าห้องซาโตยะอยู่ติดกับห้องเขา ริวอิจิอ่านป้ายชื่อห้องก่อนที่จะลงมือเคาะประตูห้องเบาๆ
“ก๊อกๆๆ”
“คุณซาโตยะครับหลับหรือยัง”
“ก๊อกๆๆๆ”
“เปิดประตูหน่อยครับผมมีเรื่องจะพูดด้วย”
ริวอิจิเห็นคนในห้องเงียบจึงตัดสินใจเดินหันหลังกลับ แต่แล้วคนในห้องก็เปิดประตูออกมา
“มีอะไรจะคุยกับฉัน” ซาโตยะบอกเสียงเข้ม
“คือผม…..จะมาขอโทษเรื่องเมื่อเย็นที่ผมเป็นสาเหตุทำให้คุณกับคุณลุงทะเลาะกัน”ริวอิจิทำหน้าเศร้า
“รู้ตัวหรอว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อดุฉัน เธอรู้ไหมตั้งแต่เธอมาอยู่ในบ้าน ฉันกับพ่อเข้าหน้ากันไม่ติดก็เพราะเธอ” ซาโตยะกอดอกพิงประตูพูดกับริวอิจิด้วยสายตาที่ชิงชัง อีกฝ่ายพอเห็นสายตาคู่นั้นที่จ้องมองก็เริ่มรู้สึกหวั่นๆ
“ผมได้ตั้งใจ” ริวอิจิตอบได้เพียงเท่านั้น
“ไม่ได้ตั้งใจกับการมาอยู่บ้านของฉัน เธอตอบมาได้อย่างไง ไม่ได้ตั้งใจแล้วมาอยู่ทำไม
ออกไปซิ ย้ายออกไปเลย” ซาโตยะต่อว่าริวอิจิ
“แล้วคุณจะให้ผมทำอย่างไงเล่า คุณถึงจะพอใจ ผมขอโทษคุณแล้วนะ”
ริวอิจิเริ่มหมดแล้วอดทนขึ้นเสียงกลับไปบ้าง
“ถ้าไม่เต็มใจจะขอโทษก็เก็บคำขอโทษไว้เลย ฉันไม่รับ
ที่สำคัญรีบย้ายไปจากบ้านฉันได้แล้ว”
“ผมคงจะทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ ถ้าพ่อกับแม่ของผมกลับมาเขาจะไปหาผมที่ไหน
เงินที่จะไปอยู่ข้างนอกก็ไม่มี”
ชายหนุ่มแสยะยิ้มก่อนที่กล่าวคำพูดที่ดูถูกออกมา
“ที่แท้ก็เรื่องเงิน บ้านเธอมันอย่างไงกันนะ ทั้งเธอและครอบครัวเธออะไรๆก็เห็นแก่เงิน
ลูกชายคนเดียวแท้ๆกับไม่เป็นห่วง ปล่อยให้ไปอยู่กับใครก็ไม่รู้ ตัวเองดีแต่ไปทำเรื่องของตัวเอง”
“เพี๊ย!!” แรงตบทำให้หน้าของซาโตยะต้องหันไปตามแรงมือ
“หยุดดูถูกผมและครอบครัวของผมได้แล้ว ผมมาอาศัยพวกคุณก็จริงแต่ขออย่าดูถูกกัน”
ริวอิจิเหลืออดกับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเต็มทน เขามาขอโทษไม่ใช่ให้ชายหนุ่มต่อว่า
เมื่อพูดกันไม่รู้เรื่องริวอิจิก็ไม่อยากที่จะอยู่ต่อแล้ว ริวอิจิหันหลังกลับห้องทันทีที่ตบชายหนุ่ม แต่แล้วจู่ๆมือใหญ่ก็มือคว้าแขนของริวอิจิแรงกระชากทำให้ร่างบางไปปะทะกับอก กว้าง
“ตบเสร็จแล้วจะไปง่ายๆหรอไง” ซาโตยะหันมาจ้องริวอิจิด้วยแววตาอาฆาตตอนนี้ริวอิจิกลัวมาก
เขาไม่หน้าทำอะไรบุ่มบ่ามเลย
“ผมขอโทษ”
ริวอิจิได้แต่พูดคำว่าขอโทษซ้ำแล้วซ้ำล่ำแต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมฟังเสียง
ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังขาดสติคิดอย่างเดียวว่าจะสั่งสอนริวอิจิให้เข็ดหลาบ
ชายหนุ่มลากตัวริวอิจิเข้าห้องนอนของเขาและเหวี่ยงริวอิจิไปบนเตียงนอน
และเขาก็นั่งคร่อมร่างของริวอิจิทันที
ริวอิจิดิ้นไปมาบนเตียงแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากแรงมหาศาลของซาโตยะได้ ซาโตยะค่อยๆเปิดลิ้นชักที่ใกล้กับหัวเตียงและหยิบเชือกเส้นหนึ่งมามัดที่ข้อ มือของริวอิจิไว้กับหัวเตียง
“คุณจะทำอะไรนะ ไม่นะ !! อย่า ~ ~” ริวอิจิร้องเสียงหลงเมื่อรู้ว่าอีกคนกำลังทำอะไรอยู่
“ร้องทำไมเมื่อกี้ยังเก่งอยู่เลยไม่ใช่หรอ” ชายหนุ่มเมื่อมัดเสร็จก็หันมาพูดกับริวอิจิทันที
ริวอิจิได้แต่ดิ้นส่ายไปมา จากเชือกที่มัดแน่นกลับทำให้มันแน่นยิ่งกว่าเดิม
ข้อมือของริวอิจิตอนนี้เป็นรอยแดงฟกช้ำจนเห็นได้ ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าของ ริวอิจิอย่างตั้งใจ ตอนริวอิจิมาวันแรกเขาไม่แลตามองริวอิจิเสียด้วยซ้ำ ตอนอยู่บนโต๊ะอาหารเขาก็มองนิดหน่อย แต่ตอนนี้ใบหน้าของริวอิจิอยู่ใกล้เขามากจนเขาสังเกตเห็นใบหน้าที่สวยได้รูป ของอีกฝ่าย ดวงตาที่มีแววตกใจระคนกลัวแต่ก็ไม่ทำให้ดวงตาคู่นั้นหมดสวยไปได้
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายซึ่งน้อยคนนักในญี่ปุ่นที่จะมีสีนี้
ริมฝีปากได้รูปสีชมพูที่ตอนนี้ร้องขอความเห็นใจจากเขา
เส้นผมเส้นเล็กสีน้ำตาลอ่อนที่นุ่มสลวยบัดนี้ดูยุ่งเหยิงเพราะแรงสะบัดของ อีกฝ่าย ชายหนุ่มค่อยใช้มือเขี่ยผมของริวอิจิที่บิดหน้าออกช้าๆทำให้เขาเห็นดวงตาที่ มีน้ำตาเอ่อล้นทั้งสองข้าง
เขาก็แค่แกล้งให้ตกใจทำไมต้องร้องไห้ด้วย หรือว่าเขาทำรุนแรงไป
ชายหนุ่มคิดในใจ พอเห็นน้ำตาของอีกฝ่ายชายหนุ่มก็เริ่มใจเย็นลง
“ร้องทำไม ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ชายหนุ่มถามอีกฝ่าย
“ฮึ..ฮือ…ผม…เจ็บมือ” ริวอิจิตอบไปร้องไห้ไป
ชายหนุ่มพึ่งหันไปมองข้อมือที่ถูกมัดตอนนี้มีรอยแดงช้ำไปหมด
ชายหนุ่มค่อยๆแกะเชือกออกช้าๆก่อนที่จะโยนเชือกลงพื้นอย่างไม่ใยดี
ตอนนี้เขาสนใจข้อมือของริวอิจิมากว่า ชายหนุ่มคิดว่าเขาทำให้แขนเรียวงามต้องมีแผลเสียแล้ว
ชายหนุ่มจับข้อมือของอีกฝ่ายขึ้นมาดู
“ดูซิเป็นแผลเลย” ชายหนุ่มบอกเบาๆ
“ก็เพราะใครล่ะ” ริวอิจิลืมตัวเผลอเถียงชายหนุ่มไปแต่แล้วก็หยุดคำพูดไว้แค่นั้นเพราะกลัวอารมณ์ของอีกฝ่าย
“ไปล้างแผลก่อนดีกว่า” ชายหนุ่มโอบไหล่ริวอิจิเดินไปเข้าห้องน้ำ มือใหญ่ ที่สัมผัสกับไหล่ของริวอิจิทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าร่างบางตรงหน้าตัว เล็กว่าเขามาก
ชายหนุ่มพึ่งสังเกตความสูงของอีกฝ่ายที่อยู่แค่ระดับคอของเขา
“ผู้ชายอะไรตัวเล็กแถมเตี้ยอีกต่างหาก” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ
“คุณว่าอะไรนะเล็กๆๆ เตี้ยๆๆ” ริวอิจิเงยหน้ามามองอีกฝ่าย
“เปล่า ฉันว่า ฉันชักเพลียๆ” ชายหนุ่มแก้ตัว ตอนที่ 4 ประทับใจ
เมื่อมาถึงห้องน้ำชายหนุ่มเลือกที่จะเปิดก๊อกน้ำอุ่นจากฟักบัวเพื่อที่จะมาล้างแผลของริวอิจิแทนก๊อกน้ำตรงอ่างล้างหน้า
“น้ำอุ่นล้างแผลดีกว่านะ” ชายหนุ่มบอกน้ำเสียงเย็นลง ก่อนที่เขาจะเดินไปเปิดก๊อกน้ำอุ่นให้
“ไม่ต้องผมทำเองได้” ริวอิจิปฏิเสธให้อีกฝ่ายทำให้เขาอยากจะจัดการเอง เดี๋ยวจะเป็นหนี้บุญคุณกันเปล่าๆ
ริวอิจิหมุนก๊อกน้ำแต่หมุนเท่าไรก็ไม่ยอมออก
ริวอิจิหันไปมองอีกฝ่ายกลัวจะเสียหน้าเลยใช้สองมือหมุนก๊อกน้ำเต็มแรงทำให้น้ำจากฟักบัวไหลลงมาเปียกตัวริวอิจิ
“เปี๊ยกหมดเลย” ริวอิจิบ่นก่อนที่จะหมุนก๊อกปิดตามเดิมแต่หมุนเท่าไรน้ำมันก็ไม่ปิดให้
ชายหนุ่มได้แต่หัวเราะก่อนที่จะเอื้อมมือไปหมุนก๊อกอีกตัวและน้ำที่ไหลจาก ฟักบัวก็หยุดทันที ริวอิจิเห็นอีกฝ่ายหัวเราะเขาก็คิดว่าเวลาหมอนี่หัวเราะก็น่ารักดีเฮะ
“ให้ฉันทำให้ตั้งแต่แรกก็ไม่เปียกแบบนี้หรอก” ชายหนุ่มพูดทั้งๆที่ยิ้ม
“เวลาคุณยิ้มคุณก็ดูน่ารักเหมือนกันนะ” ริวอิจิชมอีกฝ่าย
ชายหนุ่มหุบยิ้มทันทีก่อนที่จะกลับไปทำหน้าหงิกตามเดิม
จะทำอย่างไงล่ะทีนี้ โธ่” ริวอิจิมองตัวเอง เสื้อชุดนอนเนื้อบางที่เขาใส่ตอนนี้พอโดนน้ำมันกลับบางยิ่งกว่าเดิมแทบจะ เห็นทุกส่วนในร่างกาย
โดยเฉพาะเม็ดสีชมพูบนอกของเขา ริวอิจิไม่ทันที่จะสังเกตตัวเองสักเท่าไร
แต่อีกฝ่ายกับจ้องมองตาไม่กระพริบ
อยู่ๆชายหนุ่มก็ใจเต้นขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ
เพราะแสงไฟในห้องน้ำกับร่างบางที่อยู่ตรงหน้ามันเย้ายวนเขายิ่งนัก
เขาเองก็ไม่เคยคิดที่จะชอบผู้ชายด้วยกัน แต่ทำไมคนตรงหน้ากับทำให้ใจเขาเต้นได้
แม้แต่ผู้หญิงที่เปลื้องผ้าบางคนเขายังเฉยๆเลย
แต่ร่างกายของริวอิจิตอนที่อยู่ในชุดนี้มันทำให้เขาใจเต้นได้เพราะอะไรกันนะ
เมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องมองริวอิจิก็เขินขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่พูดอะไรได้แต่เดินหนีเพื่อจะออกจากห้องน้ำ
“จะไปไหน” ชายหนุ่มคว้าแขนของริวอิจิไว้
“ก็ออกจากห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อไง ผมยืนอยู่อย่างนี้มันหนาว”
“รออยู่ตรงนี้เดียวฉันไปเอาผ้าขนหนูกับเสื้อมาให้”
ชายหนุ่มพูดเสร็จก็ปิดประตูห้องน้ำทันทีก่อนที่เขาจะพิงกับประตูห้องน้ำหายใจแรงๆด้วยความโล่งใจ
ถ้าขืนเขาไม่รีบออกมาเขาอาจจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่เผลอทำอะไรที่ไม่ดีออกไปก็ได้
ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกไม่เกลียดริวอิจิแล้วไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตอนนี้ในใจเขามีแต่ความรู้สึกแปลกๆเข้ามาแทนที่
สักพักใหญ่ชายหนุ่มก็เดินกลับเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูและเสื้อผ้าของเขาชุดหนึ่ง
“นี่ชุดของฉันเองใส่แก้ขัดไปก่อน”
ชายหนุ่มยืนให้ก่อนที่จะเดินออกมาไม่ทันที่จะพ้นประตูห้องน้ำเขาก็ได้ยินเสียง
“ขอบใจนะ” ร่างบางตอบก่อนที่จะหันไปถอดเสื้อผ้า
ชายหนุ่มหันมามองอีกครั้งเห็นร่างบางถอดเสื้อเผยให้เห็นแผ่นหลังที่ขาวเนียน
ก่อนที่เขาจะเห็นร่างบางถอดกางเกงเขาก็รีบเดินออกมาเสียก่อน
“ไม่ระวังตัวเลยนะเด็กน้อย”
ซาโตยะบ่นอุบก่อนที่จะมานั่งคอยริวอิจิที่เตียงนอน
ชายหนุ่มนั่งสักพักเขาก็เห็นริวอิจิเดินออกมาพร้อมกับถือชุดเปียกออกมาด้วย
“ถือมาทำไมวางไว้หน้าห้องน้ำนั้นแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะให้แม่บ้านซักและไปคืนที่ห้องนายเอง” ชายหนุ่มพูดแต่ก็จ้องมองริวอิจิไม่วางตา ก็ร่างบางเวลาใส่ชุดของเขามันช่างเย้ายวนใจเสียเหลือเกิน เสื้อเชิ้ตที่ใหญ่กว่าตัวเวลาร่างบางก้มเพื่อวางชุดเปียกกับพื้นมันทำให้เขา เห็นแทบทุกส่วนโดนเฉพาะเม็ดสีชมพูทั้งสองข้าง
“ดึกมากแล้วผมไปนอนก่อนนะครับ” ริวอิจิถือโอกาสกลับห้องเพื่อไปนอนพักผ่อน
ร่างบางเดินมาใกล้ชายหนุ่มก่อนที่จะส่งยิ้มให้
“หวังว่าคุณคงจะไม่เกลียดผมแล้วใช่ไหม” ริวอิจิถามอีกครั้งก่อนที่จะยืนรอฟังคำตอบ
“ตอนนี้ฉันยังไม่รู้ ถ้านายทำตัวดีๆฉันก็อาจจะไม่เกลียดนายก็ได้” ซาโตยะบอกกับริวอิจิแต่ในใจของเขาตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าเขาไม่เกียจร่างบาง แล้ว
“แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับ” ริวอิจิยิ้มอีกครั้งก่อนที่จะเดินจากไป ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนและหลับตาลงช้าๆ ภาพรอยยิ้มของริวอิจิยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขาตลอดจนเช้า 本帖最後由 หนุ่มบ้านนา 於 2010-9-24 15:12 編輯
ตอนที่ 5 วันที่แสนเบื่อ
ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาริวอิจิสังเกตเห็นซาโตยะเอาแต่หลบหน้าเขาตลอด ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อคืนนั้น ชายหนุ่มก็พูดเป็นปริศนาว่าถ้าเขาทำตัวดีๆชายหนุ่มจะไม่เกลียด แล้วมาหลบหน้ากันแบบนี้ร่างบางก็คิดไม่ตก ทำไมนะชายหนุ่มคนนี้ถึงได้อารมณ์ปรวนแปรนัก
“เฮ่อ…เบื่อจัง” ริวอิจิถอนหายใจอยู่บนเก้าอี้โซฟา สายตาก็มองไปที่หน้าต่างข้างนอก ตอนนี้ร่างบางกำลังเหม่อจนไม่ทันสังเกตว่ามีใครคนหนึ่งกำลังจ้องมองอยู่และ เดินมาหาร่างบาง
“ถอนหายใจทำไมริวอิจิ เหงาล่ะซิท่า” คุณลุงเดินมาลูบหัวริวอิจิเบาๆทำให้เขาถึงกับสะดุ้งตกใจ
“อุ๊ย !! คุณลงมาตั้งแต่เมื่อไร” ร่างบางหันไปถาม
“มานานแล้วล่ะ เบื่อก็ออกไปเที่ยวซิ”
“ผมจะไปไหนได้ครับ ไปคนเดียวมีหวังหลงตายเลย”
“ก็ไปกับลูกชายลุงไง
วันนี้ลุงได้ข่าวว่าเขาจะไปตกปลาและก็ไปตั้งแคมปิ้งอะไรของเขานั้นแหละ”
ตอนแรกที่ได้ยินริวอิจิถึงกับยิ้มทันทีแต่สักพักเขาก็คิดได้จึงรีบหุบยิ้ม
ชายหนุ่มเนี้ยนะจะให้เขาไปด้วยไม่มีทางหรอก
“ลูกชายลุงเขาไม่ชอบผม เขาคงไม่ให้ผมไปหรอกครับ”
ร่างบางทำหน้าเศร้า
“ให้ไปซิ ไปแต่งตัวแล้วก็ลงมาข้างล่าง เดี๋ยวลุงจัดการเอง”
“จะดีหรอครับ” ริวอิจิยังลังเลใจ
“ไม่อยากไปเที่ยวหรือไงล่ะ”
คุณลุงหันมาย้ำอีกครั้งกับผม ก่อนที่ผมจะรีบวิ่งไปแต่งตัว
ถึงเขาจะว่าอย่างไงผมก็ไม่สนก็คนมันอยากไปเที่ยวนี่น่า
เมื่อผมแต่งตัวเสร็จผมก็ลงมาข้างล่างทันที เห็นคุณลุงคุยกับซาโตยะอยู่ด้วยสีหน้าเครียด
ผมชักจะไม่แน่ใจว่าจะไปดีหรือเปล่า สุดท้ายเห็นคุณลุงกวักมือเรียกผมผมก็เลยรีบเดินไปหา
“ฝากน้องด้วยนะดูแลกันดีๆ อย่าแกล้งน้องล่ะ”
คุณลุงหันมาสั่งกับซาโตยะก่อนที่ชายหนุ่มจะพยักหน้ารับแบบไม่เต็มใจ
“เสร็จแล้วก็ตามมา”
ซาโตยะเดินนำหน้า ริวอิจิรีบเดินตาม และชายหนุ่มก็หยุดอยู่ที่รถคันหนึ่งบนรถเหมือนมีทุกอย่างเตรียมไว้แล้ว ชายหนุ่มอ้อมไปทางคนขับส่วนริวอิจิก็ยังยืนอยู่ข้างล่าง
“ขึ้นมาได้แล้วคุณชาย สายมากแล้วนะ” ชายหนุ่มดุใส่ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถให้ร่างบางขึ้นมา
“รู้แล้วล่ะน่า”
ร่างบางหน้ามุ่ยใส่
ตลอดทางที่นั่งรถมาร่างบางไม่พูดกับชายหนุ่มสักคำ
ส่วนชายหนุ่มเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะพูดกับร่างบางเหมือนกัน สถานการณ์บนรถดูอึดอัดมาก
ร่างบางชักทนไม่ไหวแล้ว
“นี่ ถ้านายไม่เต็มใจจะพาเรามาก็ไม่ต้องไปรับปากคุณลุงซิ” ร่างบางเริ่มเปิดศึก
“ฉันมีโอกาสที่จะปฏิเสธได้หรอ พ่อฉันรักนายออกขนาดนั้น
ขนาดฉันที่เป็นลูกแท้ๆยังไม่สนใจเท่านายเลย”
“นี่ทำไมต้องมาว่ากันด้วย ไหนนายบอกว่าจะไม่เกลียดฉันแล้วไง”
ร่างบางหันมาจ้องหน้าชายหนุ่ม
“ไม่ได้ว่าก็แค่พูดให้ฟัง” ชายหนุ่มยียวนใส่
“รู้งี้ไม่น่ามาเลย” ร่างบางบ่นพึมพำ
“เอี๊ยด” เสียงรถเบรกกะทันหัน
“โอ๊ย!!” ร่างบางร้องเมื่อหัวไปกระแทกกับกระจกรถ
“นี่นายแกล้งฉันหรอ” ร่างบางขึ้นเสียงใส่
“เปล่า ก็มันถึงแล้วฉันก็ต้องเบรกซิ”
ชายหนุ่มหันไปตอบก่อนที่จะเปิดประตูรถลงไปข้างล่างระหว่างที่หันหลังให้ชาย หนุ่มก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะใบหน้ายามงอนของร่างบางมันดูน่ารักเสียเหลือเกิน
ร่างบางใช้มือลูบหน้าผากเบาๆก่อนที่จะเปิดประตูรถลงมา
เมื่อมองไปข้างล่างเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม ข้างหน้ามีแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ใสสะอาด
มองไปสุดตาเห็นภูเขาลิบๆ เมื่อมองใกล้ก็พบต้นไม้และดอกไม้นานาพันธ์
ร่างบางสูดอากาศเข้าเต็มปอดก่อนที่จะถูกขัดจังหวะ
“ยื่นเป็นคุณชายอยู่ได้ รีบขนของลงจากรถซิ”
จากบรรยากาศที่เคลิบเคลิ้มกับต้องหยุดชะงักลงด้วยน้ำเสียงของชายหนุ่ม
ทำไมเขาต้องมาขัดเสียอยู่เรื่อยเลย ร่างบางจึงตัดสินใจขนของช่วยชายหนุ่ม ตอนที่ 6 แคมปิ้งส์ที่แสนรันทด
ร่างบางตัดสินใจยกกล่องใบหนึ่งลงจากรถ แต่มันหนักมากร่างบางยกไม่ไหวแต่ก็พยายามยก
ชายหนุ่มเห็นรู้สึกรำคราญมาก
“พอๆๆ ไม่ต้องยกหรอก เดี๋ยวฉันยกเอง มาหยิบของเบาๆดีกว่า”
ชายหนุ่มเดินไปยก แต่ร่างบางไม่ยอมปล่อย
“ไม่ต้องฉันยกเองได้” ร่างบางยังคงดื้อดึง
“ตามใจยกให้ได้นะ” ชายหนุ่มโมโห
นี่เขาอุตส่าห์เข้าไปช่วยแท้ๆยังเล่นตัวอีก สมน้ำหน้าปล่อยให้ยกให้เข็ด
ชายหนุ่มเดินไปขนอย่างอื่นแทน แต่สายตาก็ยังมองที่ร่างบางอยู่
“อึบ…..ทำไมมันหนักอย่างนี้นะ”
ร่างบางเหล่ตามองชายหนุ่ม
ไม่ได้ เราห้ามยอมแพ้เด็ดขาด ต้องยกให้ขึ้น
ร่างบางยกอีกรอบแต่ยกเท่าไรก็ยกไม่ไหว ทำไมนะหมอนี่ถึงได้เหนือกว่าเราทุกอย่าง
หน้าตาก็ดีแถมแรงเยอะอีกต่างหาก
“ไง ฉันขนของลงมาหมดแล้ว แต่นายยังยกไม่ได้สักชิ้นเลยนะ”
ชายหนุ่มพูดเย้ยหยันข้างหู
“อุ๊ย!” ร่างบางสะดุ้งยกมือปิดหู
“อะไรกันขวัญอ่อนจริงๆ หนีไปฉันจัดการเอง”
ชายหนุ่มดันร่างบางออกห่างและจัดการยกกล่องเจ้าปัญหาลงจากรถ
“เบาจะตายยกไม่ขึ้นอีก” ชายหนุ่มหันมาว่าอีกครั้ง
“ก็ฉันไม่ใช่พวกกรรมกรอย่างนายนี่…..อุ๊บ”
ร่างบางตกใจกับสิ่งที่พูดรีบเอามือปิดปาก
ชายหนุ่มไม่พอใจคำสิ่งที่ร่างบางพูด เขากำหมัดแน่นและเงื้อมือมาที่ร่างบาง
นี่เขาจะต่อยเราหรอไม่นะ ร่างบางใช้มือปิดหน้าตัวเอง
ชายหนุ่มเขกหัวร่างบาง สร้างความตกใจให้ร่างบางไม่น้อย
“นี่แนะ วันหลังอย่ามาดูถูกกันอีกนะ”
“เจ็บนะเขกมาได้” ร่างบางเอามือลูบหัว
“ฉันก็เจ็บเหมือนกันนะ แต่มันเจ็บที่ตรงนี้”
ชายหนุ่มชี้ไปที่หัวใจของตัวเอง
เมื่อขนของลงจากรถแล้ว ชายหนุ่มก็จัดการกางเต้นส์
ชายหนุ่มเลือกทำเลดีๆเหมาะแต่การกาง
ส่วนร่างบางก็จัดข้าวของให้เป็นระเบียบใกล้ๆกับที่กางเต้นส์
“เสร็จสักที” ร่างบางล้มตัวนอนลงบนพื้น
สายตาก็ยังมองชายหนุ่มที่ตอนนี้ ขมักเขม่นอยู่กับการกางเต้นส์
“นี่เมื่อไรจะเสร็จ ตอนนี้มันก็จะมืดแล้วนะ ฉันหิว”
ร่างบางตะโกนออกมา
“หิวก็ทำกินเองซิ” ชายหนุ่มบอก
ร่างบางเดินไปดูเสบียงว่าชายหนุ่มเอาอะไรมาบ้าง
สิ่งที่ร่างบางเห็นมีแต่น้ำกับเบียร์และอุปกรณ์การทำอาหาร แล้วเขาจะทำอย่างไงเนี้ย
“ไม่เห็นมีอะไรที่มันกินได้เลย”
ชายหนุ่มเมื่อกางเต้นส์ก็เดินมาใกล้ๆร่างบาง
*-*
“ฉันมาตั้งแค้มส์ปิ้งนะ ไม่ได้มาปิ๊กนิกถึงจะได้เตรียมของทุกอย่าง”
ชายหนุ่มหัวเสียนี่พ่อไม่หน้าให้ร่างบางมาด้วยเลย
เสียบรรยากาศหมดตอนแรกชายหนุ่มว่าจะหลบหน้าร่างบางสักพัก
แต่ไม่คิดว่าจะได้มาอยู่กันสองต่อสองแบบนี้
แถมร่างบางยังไม่รู้อะไรสักอย่างพ่อแม่คงจะเลี้ยงมากแบบตามใจหน้าดู
“นายนั่งอยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันทำให้กินเอง”
พูดจบชายหนุ่มก็เดินไปหยิบอะไรบางอย่าง
“นายจะทำอะไรนะ”
ร่างบางสงสัยเดินเข้ามาดูใกล้ๆ
“ก็จะตกปลาให้นายกินไง ถามได้”
ชายหนุ่มตอบ
“สอนฉันบ้างซิ” ร่างบางรบเร้า
“อย่ามายุ่งซิ เดี๋ยวปลาหนีหมด” ชายหนุ่มดุ
“ไม่เอา ถ้านายไม่สอนฉันจะกวนอยู่แบบนี้แหละ”
ชายหนุ่มนิ่งไปสักพักก่อนที่จะตอบตกลง
“จับเบ็ดคันนี้แบบนี้ มือข้างนี้จับแบบนี้ ยืนเฉยๆนะ
ถ้าทุ่นมันกระตุกๆ แสดงว่าปลามันกินเหยื่อให้นายรีบวัดเบ็ดขึ้นมา
แบบนี้นะ ดูซิจะได้ทำเป็น” ชายหนุ่มสอนร่างบาง
“โธ่ เรื่องกล้วยๆ” ร่างบางรีบทำตามที่ชายหนุ่มสอน
ส่วนชายหนุ่มเองก็ไปหยิบเบ็ดอีกคันมาตกปลา
“นี่ เรามาพนันกันไหมว่าใครจะได้ปลาก่อน” ร่างบางชวนคุย
“มะเอาหรอก ใครได้ก็เหมือนกันนั้นแหละ” ชายหนุ่มบอก
“ไม่เหมือน ถ้าใครได้ปลาก่อนคนที่ได้ทีหลังต้องถูกทำโทษดีไหม”
ร่างบางเสนอ เพราะร่างบางคิดว่าตัวเขาต้องได้ก่อนแน่
เพราะเขาลงเบ็ดก่อนชายหนุ่ม ถ้าเกิดชนะขึ้นมาจะได้แกล้งชายหนุ่มให้หายแค้น
“จะดีหรอ ถ้านายก็เล่นฉันก็ตกลง แต่ห้ามเบี้ยวนะ”
ชายหนุ่มยิ้ม นี่ร่างบางแกล้งโง่หรือโง่จริงๆเนี้ย ที่มาถ้าแข่งกับแชมป์ตกปลาอย่างเขา
“แน่นอน ฉันเอาศักดิ์ศรีลูกผู้ชายเป็นประกันเลย” ร่างบางยิ้ม
สักพักร่างบางมีความรู้สึกเหมือนทุ่นของเขาจะกระตุก
ร่างบางไม่รอช้ารีบทำตามที่ชายหนุ่มสอนโดยการวัดเบ็ดขึ้นมาทันที
และรีบหมุนลอกขึ้นมาดู
“ฉันได้ปลาแล้ว” ร่างบางรีบหมุน
และสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าร่างบางคือ หญ้าใต้น้ำ นี่เขาตกได้หญ้าหรือนี่
“ฮะ…ฮ่า!! ปลาตัวใหญ่มากเลย ดูซิได้เป็นกอเลย” ชายหนุ่มหัวเราะ
ร่างบางอารมณ์เสียรู้สึกเสียหน้ามากๆ
“เฮ่!....ดูของฉันซิ” ชายหนุ่มเรียกร่างบางให้ดูหลังจากที่เขาวัดเบ็ดขึ้นมา
“โอ้โฮ ตัวใหญ่มากเลย” ร่างบางตื่นเต้นลืมความอายวิ่งเข้ามาดูใกล้ๆ
ชายหนุ่มนำปลาที่ได้มาใส่ที่กระป๋อง
“อย่าลืมสัญญาล่ะ” ชายหนุ่มเดินมาใกล้ๆก่อนที่จะเดินไป
“ไม่ลืมหรอกน่า” ร่างบางหันมาตะโกน ตอนที่ 7 ไม่ได้ตั้งใจ
ตกกลางคืนชายหนุ่มกับร่างบางก็นั่งกินปลาเผาที่ชายหนุ่มตกได้ ปลาสดๆที่ตกได้มันช่างอร่อยเสียจริง ร่างบางคิดในใจ
“นายก็มีฝีมือเหมือนกันนะ” ร่างบางชม
“อืม…..” ชายหนุ่มไม่สนใจ
“เป็นอะไรอีกล่ะ ฉันคิดว่านายจะดีกับฉันแล้วเสียอีก” ร่างบางตบไหล่ชายหนุ่มเบาๆ
“อย่ามาโดนตัวฉัน ใครว่าฉันจะญาติดีกับนาย คุยด้วยนิดหน่อยจะมาลามปาม”
ชายหนุ่มพูดโดยไม่คิดว่าร่างบางตรงหน้าจะเสียใจกับคำพูดที่เขาพูดไป อยู่ๆร่างบางก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมาทันที ก่อนที่จะเดินหนีเข้าเต้นส์ไป
“จะไปไหน มาช่วยกันเก็บของซิ กินอิ่มแล้วจะหนีหรอ” ชายหนุ่มตะโกนเรียกร่างบาง แต่ตอนนี้ร่างบางไม่อยากเห็นหน้าชายหนุ่มอีกแล้ว
“ไอ้คนขี้เก๊ก สักวันฉันจะให้นายมาก้มหัวต่อหน้าฉันเลย” ร่างบางหันไปมองชายหนุ่มอีกครั้งก่อนที่จะเข้าเต้นส์ไป
ชายหนุ่มเก็บของทุกอย่างเสร็จก็รีบกลับเข้าเต้นส์เพื่อพักผ่อน มาเขาเข้ามาก็พบร่างบางนอนหลับอยู่
“ตื่นๆ ไปนอนข้างนอกโน้น” ชายหนุ่มปลุกร่างบางไล่ไปนอนข้างนอก
“อะไรอีกล่ะ ฉันง่วงนะ”
“นี่มันเต้นส์ของฉัน และมันก็นอนได้แค่คนเดียวด้วย”
“คนเดียวที่ไหน เหลือออกตั้งเยอะ ขอนอนด้วยไม่ได้หรือไงเล่า แล้วไม่ให้ฉันนอนนี่แล้วจะให้ไปนอนไหน”
“ก็ข้างนอกไง เร็วๆลุกๆๆ”
“ไม่…” ร่างบางยังคงดื้อ
“งั้น ฉันขอใช้สิทธิ์ ฉันขอลงโทษนายให้ไปนอนข้างนอก”
ร่างบางเงียบไม่รู้จะเถียงอะไรต่อ เขาไม่น่าคิดแผนนี้ขึ้นมาเลย ตัวเองต้องมาลำบาก
“ก็ได้ๆ ไม่ต้องไล่หรอก” ร่างบางลุกและคลานออกจากเต้นส์ทันที
“ไอ้คนไร้น้ำใจ แล้วจะนอนไงเนี้ย ยุงก็เยอะ” ร่างบางนั่งตบยุงอยู่หน้าเต้นส์
เมื่อชายหนุ่มเข้ามานอนในเต้นส์แล้วก็อดยิ้มไม่ได้
“ซะใจชะมัด” ชายหนุ่มรู้สึกดีที่ได้แกล้งร่างบางและเขาก็หลับตาลงช้าๆก่อนที่จะหลับในที่ สุดโดนไม่สนใจร่างบางสักนิด
ร่างบางล้มตัวนอนลงกับพื้นที่เย็นเฉียบ หมอนก็ไม่มีได้แต่ใช้แขนของตัวเอง รองแทนหมอน มืออีกข้างก็คอยปัดไล่ยุง สักพักด้วยความเหนื่อยร่างบางก็เผลอหลับไป
เมื่อแสงอาทิตย์กระทบตาของชายหนุ่มมันก็เหมือนกับปลุกให้เขาตื่น
“เช้าแล้วหรอนี่” ชายหนุ่มลุกและบิดขี้เกียจสองสามทีและรูดซิบเปิดเต้นส์ไปดูร่างบาง
ตอนนี้เขายังเห็นร่างบางนอนตัวขดอยู่ที่พื้น
“สมน้ำหน้าคงจะหนาวมากล่ะซิ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปดูร่างบางใกล้ๆ
“ตื่นๆ” ชายหนุ่มตบแก้มร่างบางเบาๆ แต่แล้วเขาสัมผัสได้ถึงบางอย่าง ตัวของร่างบางร้อนจี๋
“ตายล่ะซิ แกล้งแค่นี้ไม่สบายเลยหรอ” ชายหนุ่มตกใจรีบอุ้มร่างบางไปที่เต้นส์
“ทำไงดีล่ะเนี้ย” ชายหนุ่มคิดก่อนที่จะไปหยิบผ้ามาชุบน้ำเช็ดที่ตัวของร่างบาง เขาถอดเสื้อร่างบางออกทำให้เห็นถึงผิวที่ขาวเนียนของร่างบางอีกครั้ง
ร่างที่อยู่ตรงหน้ามันช่างเย้ายวนใจเขาจนห้ามใจไม่อยู่
“เย็นไว้ ซาโตยะ เขากำลังไม่สบายอย่าไปทำอะไรที่ไม่ดีเด็ดขาด” ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง
“หนาว….หนาวจัง” ร่างบางละเมอกระส่ำกระสาย มือก็กอดตัวเองเพื่อให้ความอบอุ่น
“ไม่เช็ดแล้วโว๊ย!” ชายหนุ่มทิ้งผ้าก่อนที่จะรีบห่มผ้าให้ร่างบาง
ชายหนุ่มออกมาสงบสติอารมณ์อยู่ข้างนอกเต้นส์ ทำไมเขาต้องมีอารมณ์เวลาเห็นร่างบางด้วยนะ เขาไม่เข้าใจตัวเองเลย
“ไม่ได้ ห้ามไปชอบเขานะซาโตยะ ตั้งแต่เขาเข้ามาพ่อก็ไม่สนใจเรา เราต้องเกลียดเขาซิ ห้ามไปญาติดีกับคนๆนี้เด็ดขาด จำไว้” ชายหนุ่มบอกกับตัวเองก่อนที่จะขนของขึ้นรถ ชายหนุ่มคิดว่าถ้าร่างบางฟื้นเมื่อไร ก็จะกลับบ้านทันที ขออ่านด้วยนะครับ ขอบคุณคับ เรื่องจบมั้ยอ่ะคับ
หรือว่ามีต่ออ่ะคับ อ่านมั้งนะคับ ขอบคุณคับ ขอบคุณครับ ถ้าทางหน้าจะสนุกนะ ขอบคุนครับ ขอบคุนนะคับ 00000000000000000000000222222222222221111111111111111 ขอบคุณมากคร๊าฟผม