"พิพิธภัณฑ์สุดแปลกและสยอง" จากทั่วทุกมุมโลก
ในโลกใบนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวต่างๆ อยู่มากมาย ซึ่งในบทความนี้เราจะพาไปดู พิพิธภัณฑ์ที่รวมเรื่องราวสุดแปลก และสุดสยองจากทั่วทุกมุมโลก มาดูกันว่ามันจะน่าสนใจขนาดไหนกัน
พิพิธภัณฑ์มัมมี่ (El Museo De Las Momias)สถานที่ : รัฐกวานาคัวโต ประเทศเมกซิโก
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/mummy3.jpgที่มาภาพ traveladventures , whatswhatdaily , fotografias
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เต็มไปด้วยมัมมี่นับพันร่าง แต่ที่น่ากลัวไม่ใช่แค่นั้น มัมมี่เหล่านี้คือร่างของคนที่ตายจากโรคอหิวาตกโรคที่ระบาดครั้งใหญ่ในเมืองกวานาคัวโตเมื่อปี ค.ศ.1833 ศพของคนที่ครอบครัวยากจนเกินกว่าจะจ่ายเงินค่าฝังศพได้จะถูกนำมาฝังรวมกันไว้ที่สุสานแห่งนี้ แต่ในร่างทั้งสุสานมีเพียง 2% เท่านั้นที่กลายเป็นมัมมี่ตามธรรมชาติ
มีการนำศพมาทิ้งไว้ที่สุสานนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1865 จนถึงปี ค.ศ.1958 และเมื่อเข้าสู่ช่วงปี ค.ศ.1900 มัมมี่เหล่านี้ก็เริ่มกลายเป็นที่สนใจและทำให้เมืองกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว คนดูแลสุสานเริ่มเก็บงานค่าเข้าชม และในที่สุด สถานที่นี้ก็ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ชื่อ El Museo De Las Momias ที่แปลได้ว่า พิพิธภัณฑ์มัมมี่
ในช่วงที่โรคมีการระบาดหนักที่สุด ร่างคนตายมากมายจะถูกฝังอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย รวมถึงบางคนที่ยังไม่เสียชีวิตก็ถูกฝังทั้งเป็นด้วย ดังนั้นมัมมี่บางตัวจึงมีสีหน้าหวาดกลัวและทุกข์ทรมานเป็นสีหน้าสุดท้ายก่อนจะตาย
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/mummy1.jpg
ที่มาภาพ thisbelongsinamuseum , laurenhamm
ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์นี้มีมัมมี่จัดแสดงอยู่ 119 ร่าง มีทั้งที่เป็นเด็กทารกไปจนถึงคนแก่ บางร่างก็มีท่าทางแปลกๆ และบางร่างก็ยังคงสวมใส่เสื้อผ้าเดิมของตัวเอง พิพิธภัณฑ์นี้ยังมีร่างมัมมี่ที่เล็กที่สุดในโลก เป็นร่างของตัวอ่อนในครรภ์ของผู้หญิงซึ่งเสียชีวิตจากโรคอหิวาตกโรค
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/museo-de-las-momias-guanajuato09.jpgนี่คือมัมมี่มนุษย์ที่เล็กที่สุดในโลกที่มาภาพ traveladventures
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/mummy2.jpg
ที่มาภาพ whatswhatdaily , traveladventures
พิพิธภัณฑ์โรงพยาบาลบ้า (The Glore Psychiatric Museum)สถานที่ : St. Joseph รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/psyco2.jpgที่มาภาพ glaciergirl2008 , mnn , creepylittleworld , tumblr
พิพิธภัณฑ์ The Glore Psychiatric Museum แต่ก่อนเป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคทางประสาท มีชื่อเดิมว่า State Lunatic Asylum No. 2 ก่อตั้งโดย George Glore ในปี ค.ศ.1903 ปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์นี้เป็นสถานที่จัดแสดงวิธีการรักษาโรคทางประสาทในสมัยก่อนโดยใช้หุ่นจำลอง รวมถึงมีการจัดแสดงผลงานศิลปะของเหล่าคนไข้ในโรงพยาบาลที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากหนังสยองขวัญ
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/psyco.jpgผลงานศิลปะของคนไข้ที่มาภาพ legendsofamerica
ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์นี้อยู่ที่ชิ้นงานโมเสคที่สร้างขึ้นมาจากของที่พบในท้องของคนไข้หญิงรายหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคชอบกลืนของแปลกๆ ของทั้งหมดในท้อง 1,446 ชิ้นถูกผ่าออกมาได้ ส่วนคนไข้หญิงรายนี้เสียชีวิตระหว่างการผ่าตัด
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/tumblr_m8pd58JBwF1rdsr74o1_500.jpgของทั้งหมดที่ผ่าออกมาจากท้องของคนไข้หญิงที่ป่วยเป็นโรคชอบกลืนของแปลกที่มาภาพ tumblr
พิพิธภัณฑ์ผ้าอนามัย (The Museum of Menstruation & Women’s Health)สถานที่: New Carrollton รัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/tampon.jpgที่มาภาพ mum , thisbluemarble
เรื่องผู้หญิงกับประจำเดือนเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็เข้าใจ แต่เราไม่อยากคุยกับเรื่องนี้กันในที่สาธารณะเท่าไหร่นัก การที่จะมีพิพิธภัณฑ์สำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะก็ไม่น่าจะแปลกตรงไหน ปัญหาคือ พิพิธภัณฑ์นี้ไม่ใช่ของรัฐหรือของปริษัทเอกชนแต่อย่างใด แต่อยู่ในชั้นใต้ดินที่เป็นของชายเพียงคนหนึ่ง ที่มีความฝันอยากสร้างพิพิธภัณฑ์แปลกๆ แห่งนี้ นั่นคือ Harry Finley
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/MDNEWharry.jpgHarry Finleyที่มาภาพ roadsideamerica
ตั้งแต่ปี ค.ศ.1995 ชายวัยกลางคนๆ นี้อุทิศตัวให้กับการสะสมผ้าอนามัยและหุ่นที่สวมใส่ของเหล่านี้เพื่อตั้งแสดงให้สาธารณชนได้รับชม ผลงานความพยายามของเขาได้รับการยกย่องจากนิตยสาร The New York Times (ตามที่กล่าวอ้างไว้ในเว็บไซต์ของเขา ที่นี่) ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชื่อเสียงของ Harry Finley ในหมู่เพื่อนบ้านจะเป็นยังไง
ในเหล่าของสะสมของเขา มีชุดที่ทำขึ้นจากผ้าอนามัยด้วย
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/tampon2.jpg
ที่มาภาพ roadsideamerica , mum
สถานที่นี้เป็นสถานที่ส่วนบุคคล และมี Harry อาศัยอยู่เพียงคนเดียว ดังนั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 เป็นต้นมา ใครที่อยากจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์/ห้องใต้ดินแห่งนี้จะต้องนัดล่วงหน้าก่อนด้วย
พิพิธภัณฑ์หุ่นกระบอก (The Vent Haven Ventriloquist Museum)สถานที่ : Fort Mitchell รัฐเคนตักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/doll2.jpg
ที่มาภาพ roadsideamerica , titdilapa , bubbassockdrawer
หุ่นกระบอกพากย์เสียงเป็นของเล่นที่ตั้งใจทำมาเพื่อความสนุกสนาน แต่กลับกลายเป็นของน่ากลัวไปซะได้ คนส่วนมากไม่อยากมีหุ่นแบบนี้อยู่ในห้องนอนแน่ๆ แต่ถ้าคุณไปที่พิพิธภัณฑ์ Vent Haven Museum คุณจะได้อยู่ร่วมกับหุ่นกระบอกสุดสยองกว่า 750 ตัวตามลำพังจนหนำใจ
เริ่มต้นจากเป็นแค่ของสะสมของชายคนหนึ่งที่ชื่อ William Shakespeare Berger (ชื่อจริงๆ และไม่เกี่ยวข้องกันกับ Shakespeare คนนั้น) ผู้หมกหมุ่นอยู่กับการสะสมหุ่นเหล่านี้จนถึงวันที่เขาเสียชีวิตลง
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/bio3.jpgWilliam Shakespeare Bergerที่มาภาพ venthavenmuseum
หนึ่งในของสะสมที่ดังที่สุดในพิพิธภัณฑ์คือ หุ่นที่เคยเป็นของ William Wood นักพากย์เสียงที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นนักพากย์เสียงหุ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่เขาเสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุทางเรือ หุ่น 4 ตัวจากทั้งหมด 6 ตัวของเขาก็ถูกนำมาจัดตั้งแสดง ส่วนอีก 2 ตัวที่เหลือจมหายไปกับเรือ (ไม่รู้ว่าพร้อมกับลาก William Wood ลงไปก้นทะเลด้วยหรือเปล่า)
พิพิธภัณฑ์ Vent Haven Ventriloquist Museum ได้กลายเป็นสถานที่เก็บรักษาหุ่นกระบอกพากย์เสียงที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก โดยทั้งหมดนี้มาจากเงินของ William Shakespeare เพียงผู้เดียวเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็เสียชีวิตไปแล้วโดยไม่ได้แต่งงาน และไร้ซึ่งทายาทสืบทอดสมบัติต่อไป ยกเว้นเหล่าหุ่นเหล่านี้เท่านั้นที่ยังเหลืออยู่
พิพิธภัณฑ์อวัยวะเพศของสัตว์ตัวผู้ (The Icelandic Phallological Museum)สถานที่ : Husavik ประเทศไอซ์แลนด์
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/penis2.jpgที่มาภาพ theage , atlasobscura , spotcoolstuff
ท่านชายหลายๆ คนคงจะภาคภูมิใจกับ “น้องชาย” ของตัวเองมากจนเชื่อว่าของๆ ท่านคงเหมาะที่จะนำมาตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์นี้ เชิญท่านพบกับพิพิธภัณฑ์ในประเทศไอซ์แลนด์อันหนาวเย็น สถานที่ๆ อุทิศให้กับ “อวัยวะเพศของสัตว์ตัวผู้” โดยเฉพาะ ถ้าหากมาเยี่ยมชมแล้ว บางชิ้นอาจทำให้ท่านเสียความมั่นใจไปได้
ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ Sigurdur Hjartarson รวบรวมอวัยวะเพศจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวผู้มากกว่า 100 ชนิด ที่ไม่ได้เป็นแค่ของดองโชว์อยู่ในโหลอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมถึงของตกแต่งที่สร้างมาจากอวัยวะเพศของสัตว์ด้วย ทั้งโคมไฟ โทรศัพท์ หรือแม้แต่ภาพวาด นอกจากนี้ยังมีจัดแสดงโชว์อวัยวะเพศของสัตว์ในตำนาน (ที่คาดว่าน่าจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้) เช่น เอลฟ์ หรือโทรล อีกด้วย
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/penis1.jpgของตกแต่งที่ทำมาจาก “น้องชาย” จริงๆ และที่ทำเลียนแบบ ส่วนโคมไฟขวาสุดนี้ทำมาจากอัณฑะที่มาภาพ tripadvisor , environmentalgraffiti
พิพิธภัณฑ์โรคประหลาด (The Mutter Museum)สถานที่ : เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/mutter.jpg
ที่มาภาพ tumblr
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพิพิธภัณฑ์ Mutter Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์ที่สยองที่สุด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1858 ด้วยการบริจาคของนายแพทย์ Thomas Dent Mutter สถานที่นี้กลายเป็นที่เก็บตัวอย่างของคนที่เป็นโรคแปลกๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/dr.-mutter.jpgนายแพทย์ Thomas Dent Mutterที่มาภาพ thehorrorzine
ของสะสมที่มีชื่อเสียงที่สุดของพิพิธภัณฑ์นี้คือ เหล่ากระโหลกและแบบจำลองศีรษะของคนที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับกระโหลกที่แปลกประหลาด เช่นผู้หญิงที่มีเขางอกออกมาจากหน้าผาก
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/13.MutterMuseum-G.WidmanG.jpgชุดสะสมหัวกระโหลกที่มีชื่อเสียงhttp://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/images.jpegแบบจำลองผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคประหลาดมีเขางอกออกมาจากหน้าผากที่มาภาพ phillygabe-n-teris
นอกจากนั้นก็ยังมีโครงกระดูกที่สูงที่สุดในแถบอเมริกาเหนือ ร่างของผู้หญิงที่กลายสภาพเป็นสบู่หลังจากเสียชีวิต และตัวอ่อนของทารกที่ป่วยเป็นโรคความผิดปกติต่างๆ นี่เป็นแค่ส่วนน้อยนั้นเพราะของสะสมทั้งหมดในพิพิธภัณฑ์นี้มีเยอะแยะมากมายจนเขียนไม่หมด ถ้าใครชอบของแปลกๆ สุดสยอง สถานที่นี้คงเหมาะมากที่จะลองไปเที่ยวดู
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/mutter2.jpgภาพถ่ายคนที่เป็นโรคผิดปกติต่างๆที่มาภาพ corkscrew , tumblr
http://www.everyday-readers.com/beta_blog/wp-content/uploads/2012/12/28617.jpgตัวอย่างใบหน้าที่ถูกตัดในแนวขวางที่มาภาพ Cracked
ที่มา Cracked , Gadling , Wikipedia : Mutter Museum , Wikipedia : Mummies of Guanajuato
เริ่ดครับเริ่ด กัวๆๆ เอาอะไรมาให้ดูนิ่{:sm-22:} น่ากัว แถมออกแนวหลอนๆ น่ากลัวมากเลยอ่ะ แต่ทำไมไม่มีคุกตรวนเสลง ชอบเรื่องสยองครับ
หน้า:
[1]