สังคัง(Tinea Cruris)
สังคังคืออะไรโรคสังคังสาเหตุเกิด จากเชื้อ Trichophyton มักเป็นในเพศชาย เป็นในวัยหนุ่มสาว เริ่มเป็นตุ่มแดงที่ต้นขาหรือข้อพับแล้วลุกลามเป็นวงแหวนไปที่ด้านในของขา มีอาการคันมาก ในรายที่เป็นเรื้อรังพบในผู้ป่วยที่เหงื่อออกมาก ผิวหนังบริเวณที่มีการเสียดสีสาเหตุ
เกิดจากเชื้อราพวกเดอร์ มาโตไฟต์ (dermatophyte) เชื้อนี้มีอยู่หลายชนิด ชอบเจริญอยู่เฉพาะในผิวหนังชั้นนอกสุด รวมทั้งเส้นผมและเล็บ โรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายโดยการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง หรือใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย (เช่น เสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า ผ้าเช็ดตัว หวี) หรือติดมาจากร้านตัดผม ร้านเสริมสวย หรือติดมาจาก!เลี้ยงในบ้าน (เช่น สุนัข แมว)
“สังคัง” เป็นโรคเชื้อราชนิดหนึ่งที่เกิดบริเวณขาหนีบใกล้ๆ กับอวัยวะเพศหรืออาจจะพูดได้ว่า สังคังคือกลากที่ขาหนีบนั่นเอง ที่สำคัญคือตำแหน่งที่เกิดของโรคนี้จะเกิดบริเวณขาหนีบใกล้ๆ กับอวัยวะเพศ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนส่วนมากคิดไปเองว่า สังคังคือกามโรคชนิดหนึ่ง
อาการของสังคังที่เห็นได้เด่นชัดคือ อาการคันอย่างรุนแรงบริเวณที่เป็น(ขาหนีบ) จะเกิดเป็นผื่นแดงที่ผิวหนัง ต่อมาจะเริ่มเป็นตุ่มแดงขยายออกไปเป็นวงกว้างขึ้น บริเวณขอบวงจะนูนแดงและมีขุยขาวๆ อาการคันจากการเป็นสังคังจะทำให้รู้สึกรำคาญอยู่นิ่งไม่ได้ต้องเกาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเกายิ่งคัน ยิ่งเกายิ่งมัน หากเกาแรงเกินไปอาจทำให้ผิวหนังถลอกทำให้ทั้งคันและแสบผสมกันไป ทำให้คนที่เป็นสังคังเสียบุคลิกภาพที่ดีไปเลย
สาเหตุของสังคัง เกิดจากการได้รับเชื้อราและเชื้อรานั้นอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมที่จะลุกลามต่อไปเป็นวงกว้าง เชื้อรามักอยู่ในเซลส์ที่ตายแล้วบริเวณขาหนีบและเนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน อากาศชื้น เหงื่อออกตามร่างกายได้ง่ายโดยเฉพาะบริเวณขาหนีบซึ่งเป็นมุมอับ อากาศระบายเข้า-ออกไม่ดีทำให้เกิดการหมักหมมของเชื้อราเป็นแหล่งแพร่เชื้อราไปเลย
สังคังมักเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเพราะรูขุมขนของผู้ชายกว้างกว่า ผู้ชายจึงมีเหงื่อออกเยอะกว่าประกอบกับผู้ชายมักมีกิจกรรมทั้งในที่ลับและที่แจ้งให้เสียเหงื่อได้เยอะกว่าและพฤติกรรมของผู้ชายที่ชอบใส่กางเกงยีนส์ผ้าหนาๆ เป็นเวลาหลายๆ วัน ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาแล้วหากไม่มีการดูแลรักษาเรื่องความสะอาดอย่างเพียงพอก็จะทำให้เกิดมีเชื้อราที่ขาหนีบหรือเป็นสังคังได้
วิธีป้องกันและรักษาสังคัง เมื่อรู้ตัวว่าเริ่มมีอาการคันบริเวณขาหนีบ อย่าชะล่าใจปล่อยให้ลุกลามไปมากกว่านี้ ให้รีบไปหาหมอเพื่อทำการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยากินหรือยาทาที่ได้รับมาจากหมอ ให้ใช้ยานั้นอย่างต่อเนื่องตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัดและที่สำคัญคือเมื่ออาการสังคังทุเลาหรือดีขึ้นแล้วอย่าหยุดใช้ยาโดยเด็ดขาด ให้ใช้ยาต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นสังคังซ้ำอีก
สิ่งสำคัญที่สุดของการป้องกันและรักษาสังคังคือ การรักษาความสะอาดของร่างกายโดยอาบน้ำทุกวันๆ ละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย หลังอาบน้ำเสร็จแล้วเช็ดตัวให้แห้ง อย่าให้ร่างกายมีความอับชื้นโดยเฉพาะที่ขาหนีบ ส่วนความสะอาดของข้าวของเครื่องใช้เช่น เสื้อผ้า กางเกง ชุดชั้นใน ที่นอน หมอน มุ้ง ผ้าห่ม ฯลฯ ต้องหมั่นรักษาความสะอาดอยู่เสมอ นอกจากนี้สิ่งที่ควรระวังเพิ่มเติมคือ ไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ โดยเด็ดขาด พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในเรื่องของการรักษาความสะอาดของร่างกายเพื่อให้ห่างไกลจากโรคสังคัง.
ขอบคุณครับ ได้ความรู้อีกล่ะ...
ขอบคุณมากครับ{:5_136:} เพิ่มเติม นิดนึง ถ้าเป็นอย่าอายที่ไปหาหมอนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เป็นแล้วรักษายากหรือเปล่า..ดูแลรักษาความสะอาดตัวเองน่าจะดีที่สุดเนาะ สังคัง .สังเกตุว่ามักเกิดกับวัยรุ่นชายเป็นปกติในช่วงอายุ 11-20 ปีเพราะเมื่อเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีการรักษาความสะอาดร่างกาย และเสื้อผ้าดี และรู้จักทำความสะอาดอวัยวะเพศแล้วจะห่างไกลจากโรคสังคังนี้
ข้อสังเกตุ .เด็กหนุ่มวัยรุ่น ที่เข้าสู่ช่วงเจริญพันธุ์ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใส่กางเกงในซ้ำ ก็อาจเป็นเชื้อรานี้ได้ จากหลายสาเหตุ
1. จากสาเหตุของการไม่รักษาความสะอาดขององคชาติ ไม่เคยถอกล้างทำความสะอาด ทำให้สิ่งสกปรกขี้เปียกอาจมีติดมากับกางเกงในที่ใส่ตลอดวัน เกิดความอับชื้น ฉะนั้น น้องๆ ที่เข้าสู่วัยเห่อหมอยทั้งหลาย ควรถอกล้างควยขจัดคราบเมือกต่างๆ ที่ติดอยู่ตามซอกหลืบอวัยวะเพศ และเช็ดให้แห้ง ก่อนใส่กางเกงในเสมอ
2. วัยรุ่นเป็นวัยที่ไวต่อความรู้สึกทางเพศในวัยรุ่นชาย อวัยวะเพศมักตื่นตัวได้ง่ายจากสื่อสิ่งเร้า หรือแม้แต่การถูกกระตุ้นด้วยการกลั่นแกล้งของเพื่อนฝูง และทำให้สารคัดหลั่งหล่อลื่นถูกขับออกมาจนควยเปียกเป็นเมือกเหนียวติดขนหมอยและกางเกงในสังเกตุได้เสมอ บางครั้งการซักกางเกงในด้วยตัวเองของวัยรุ่น ไม่สามารถซักเอาคราบน้ำหล่อลื่นเหนียวที่ติดกางเกงในออกได้หมด ยังมีเป็นดวงๆ ให้เห็นชัดเจนน้ำหล่อลื่นเมือกเหนียวนี้ก็เป็นโปรตีนอีกชนิดที่ร่างกายสั่งให้หลั่งออกมาเวลาเกิดอารมณ์ทางเพศมันเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อรากลุ่มนี้เลยทีเดียว . ฉะนั้น วัยรุ่นที่รู้สึกว่า โดนสิ่งเร้าต่างๆ กระตุ้นในรอบวัน ง่ายต่อการหลั่งเมือกลื่นตามธรรมชาติเมื่อกลับถึงบ้านควรรีบล้างทำความสะอาดถอกท่อนลำให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราดังกล่าว
3.บางเหตุการณ์ สำหรับวัยรุ่นที่อาจจะมีกามกิจ ด้วยตัวเอง (ชักว่าวในโรงเรียน) หรือ กามกิจกับเพื่อนๆ หรือคนรู้จัก แล้วต้องรีบแต่งตัว เลยไม่ได้ล้างอวัยวะเพศ ก็ทำให้เกิดการหมักหมมจากเหงื่อ น้ำหล่อลื่น และน้ำกามเลอะติดขนหมอยและกางเกงในที่ใส่ได้ และหากหมักหมมทั้งวัน ก็อาจจะทำให้คราบโปรตีนต่างๆ ที่ติดอยู่นั้น เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเชื้อราได้ง่าย . หรือในวัยรุ่นที่ค่อนข้างไม่ดูแลตัวเอง หลายคน มักจะชักว่าวจนน้ำแตกในห้องน้ำโรงเรียน โดยเอากางเกงในเป็นผ้าเช็ดคราบน้ำอสุจิที่หลงเหลืออยู่ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งเช่นกัน .
4. วัยรุ่นหลายคนนิสัยเกียจคร้านเป็นทุนเดิม . เวลาชักว่าวเสร็จ ก็ไม่ได้สนใจจะทำความสะอาดท่อนเอ็นและขนหมอยบริเวณหัวหน่าวที่เลอะเทอะไปด้วยน้ำว่าวเมือกเหนียว แต่กลับนอนหลับไปทั้งคราบน้ำกามของตัวเอง ซึ่งอาจจะเลอะเปรอะที่นอนหรือผ้าห่ม หมอนข้างต่างๆซึ่งทำให้หมักหมมเป็นอาหารชั้นดีให้แก่เชื้อรากลุ่มนี้อีกทางหนึ่งด้วย
5. เด็กๆ รุ่นนี้ส่วนใหญ่ มักจะเสียเหงื่อกับการเล่นกีฬา จนทำให้ชุดชั้นในและชั้นนอกที่ใส่เต็มไปด้วยเหงื่อไคล ซึ่งบางคนพักทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วนอนทั้งๆ ที่ยังใส่ชุดกีฬาที่เพิ่งผ่านการเปียกเหงื่อในตอนเย็น . ก็จะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดการหมักหมมและมีคราบไคลให้เชื้อรากลุ่มนี้ได้เติบโตได้ดีอีกด้วย . ระวังนะครับ ขี้เกียจอาบน้ำหลังเล่นกีฬาเนี่ย ก็สำคัญเช่นกัน
ดังนั้น . หากเราโตเป็นพ่อแม่ พี่ น้า อา ลุง ก็ควรเข้าใจ เด็กชายตั้งแต่วัยรุ่นเห่อหมอยจนโตเข้ามหาวิทยาลัย เน้นให้เขา ล้างถอกควยให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง .หรือหากไม่กล้าพูดหรือสอนโดยตรง . ก็ช่วยดูแลความสะอาดของชุดชั้นใน ผ้าห่ม ผ้าปูเตียง หมอนข้าง ให้สะอาดเอี่ยม และแนะนำ ทางที่ดี บนหัวเตียงของหนุ่มๆ ทะโมนพวกนี้ ต้องมีทิชชู่เตรียมไว้ให้เขาเลยที่หัวเตียงหรือโต๊ะเครื่องแป้งนั่นแหละเค้าจะได้ไม่เขินอาย และสามารถหยิบใช้มาเช็ดคราบไคลและทำความสะอาดเบื้องต้นได้ .
สรุป เชื้อรา กลุ่มสังคัง หรือ กลาก ชอบอับชื้น หมักหมม โดยเฉพาะ ถ้าหมักหมมจากคราบไคล น้ำอสุจิ (โปรตีนชั้นดี) เมือกน้ำหล่อลื่น ขี้เปียก จะทำให้เชื้อกลุ่มนี้ลุกลามได้ง่ายมาก โดยเฉพาะบริเวณขาหนีบจนถึงแก้มก้น และบริเวณหัวหน่าว ซึ่งหลายคนมักชักว่าวและให้น้ำว่าวพุ่งลงบนหัวหน่าวจนเลอะขนหมอยและเช็ดทำความสะอาดไม่หมดนั่นเอง
สาระน่ารู้ . ที่พ่อแม่ รุ่นเก่า ไม่กล้าสอนเด็กหนุ่ม . จึงทำให้หนุ่มๆ หลายคนในที่นี้เคยมีประสบการณ์สังคังกันมาก่อนแน่นอน
รักษาความสะอาดกันมากๆ นะครับเด็กๆควยจะได้หอม ดูสะอาด เป็นที่หลงไหลของคู่นอนนะครับ
หน้า:
[1]