ชีวิตของเราตอนประมาณอายุ 15
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Boylove เมื่อ 2013-2-14 08:37เรื่องเริ่มขึ้นในเช้าวันหนึ่งกลางเดือนพฤษภาคม เมื่อผมเรียนจบม.3 จึงเข้าเรียนต่อที่ ร.ร.อาชีวะเอกชนชายล้วนแห่งหนึ่ง โดยเลือกที่จะเรียนในด้านสาขาช่างไฟฟ้า วันแรกผมก็ตื่นสายแล้วครับ มัวแต่ฟังวิทยุคลื่น103.5 อยู่จนดึกสมัยนั้นเป็นคลื่นเลิฟเอฟเอ็ม ถ้าใครชอบฟังก็จะรู้ว่าในช่วงดึก จะไม่มีดีเจพูดเลยเปิดแต่เพลงอย่าง เดียว ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรียนด้วยความรีบ พอไปถึงก็รู้สึกเคว้ง เพราะว่าไม่รู้จักใครเลย ตอนเรียนม.ต้นไปเรียนที่ต่างจังหวัดเลยไม่มีเพื่อน พยายามมองหาแถว ขณะที่กำลังมองอยู่นั้นเองก็ไปสะดุดตากับนักเรียนคนหนึ่ง รูปร่างสูง ขาว น่ารักดีแฮะพอดีมันหันมาเลยต้องหลบตากลัวมันรู้ว่าเราแอบมองมันอยู่
“นาย นายคนนั้นน่ะ นายอยู่ช่างไฟห้อง 1 ป่าว”
“นายนั่นแหละ อยู่ช่างไฟใช่ป่าว”
“ครับ ทำไมหรอ”
“เราจำนายได้ ตอนวันมอบตัว มานี่ มาเข้าแถวต่อเรานี่” ทำไมคนน่ารักขนาดนี้ เราเห็นแล้วจำไม่ได้นะ แต่ก็ไม่มีเวลาคิดมากเพราะตอนนั้น ออดเข้าแถวมันดังแล้วกำลังเตรียมเคารพธงชาติ เสร็จแล้วก็สวดภาวนา ร.ร.ที่ผมเรียนไม่ได้สวดมนต์นะครับ เพราะเป็นโรงเรียนคริสต์ก็เลยจะสวดภาวนาแทน คำสวดภาวนาก็จะประมาณว่า “ข้าแต่ท่านนักบุญยวงบอสโก ในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ในโลกนี้” อะไรประมาณนี้ละมันก็หลายปีแล้วผมก็จำไม่ค่อยได้ ต่อจากนั้นคุณพ่ออธิการก็จะขึ้นมาอบรม ระหว่างนี้เองที่ผมหันไปทำความรู้จักกับไอ้คนข้างๆ ที่ปิ๊งอยู่เมื่อกี้ “เฮ้ย นายชื่อรัยวะ เราชื่อกานต์นะ” “เราชื่อตั้มว่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะเว้ย” “เออ เช่นกันว่ะ” ในที่สุดก็ได้รู้ชื่อมันสักที หลังจากนั้นเราก้อคุยกันสารพัดเรื่อง จนอธิการอบรมเสร็จก้อขึ้นห้องเรียนทีแรกกะว่าจะนั่งกับมันด้วยตอนเรียน โต๊ะมันตั้งคู่ได้นั่งข้างมันก็ดีสิ แต่แห้วรับประทานครับ มันดันมีเพื่อนมาจากร.ร.เดิมด้วย มันเลยนั่งด้วยกัน เลยต้องไปจับคู่กับคนอื่น น่าเสียดายจริงๆห้องที่เรียนนั้นมีนักเรียนอยู่ 30 คน โดยมาสเซอร์จะให้จับคู่นั่งกัน พอดีรู้สึกคุ้นหน้าคนนึง เลยไปขอนั่งด้วย คุยไปคุยมาเลยได้รู้ว่าบ้านมันเองไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไหร่ เพื่อนคนนี้ชื่อดาการเรียนในเทอมแรกไม่มีอะไรมากสบายๆ ผมก็เริ่มตีสนิทกับไอ้ตั้ม ด้วยการเอาเรื่องเรียนมาบังหน้า ใจจริงแล้วผมไม่อยากเรียนสายช่างหรอกอยากเรียนสายสามัญมากกว่า แต่เตี่ยกับอาม้าอยากให้เรียนช่างมากกว่า เลยต้องตามใจท่าน เลยส่งผลให้ผมโง่มากในวิชาช่าง เขียนแบบ วงจรประมาณนี้ เลยฟอร์มอาศัยไอ้ตั้มติวให้ โดยมีข้อแลกเปลี่ยน คือการที่ผมติววิชาสามัญให้มัน เพราะผมเองจะคะแนนดีในวิชาภาษาอังกฤษ คณิตฯช่าง วิทย์ฯช่างพวกเนี้ย จนเริ่มสนิทกันเวลาไปไหนก้อจะมีไอ้ดา ไอ้ตั้ม ไอ้นนท์(เพื่อนเก่าไอ้ตั้ม) และผมจริงๆแล้วผมเองก็ประกาศตัวนะว่าเป็นเกย์ เพราะผมจีบน้องชายเพื่อนในห้องนี่แหละ ไปนั่งกินเหล้าบ้านมันประจำน้องมันเรียนม.1 กำลังใสๆน่ารักเลยจีบเล่นๆ แต่ในห้องไม่มีใครว่าอะไรผมนะครับ เพราะผมมันขาลุยอยู่แล้ว เพื่อนตีกันผมก็ไปกับมัน กินเหล้า จีบหญิง(แต่ไม่เอาครับ ล่อมาให้เพื่อน) เพื่อนๆมันเลยเฉยไม่ว่ารัยกัน
จนเข้าสู่เทอม 2 ก้อตามประสาโรงเรียนคริสต์ทั่วไป ก็จะมีกิจกรรมเพียบเลย ทั้งกีฬาสี คริสต์มาสเอย อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด ตอนนั้นใกล้คริสต์มาส โรงเรียนผมจัดประกวดดนตรีกัน กลุ่มผมจะเข้าประกวดกัน โดยผมหัดเล่นกีตาร์มาตั้งนานแล้ว เตรียมจะโชว์ฝีมือมั่ง ทีนี้เกิดมีปัญหาครับ 4 คน มีคนอยากเล่นกีตาร์ 3 คนครับ โดยไอ้ตั้มบาย เพราะมันเล่นเป็นแต่กลองชุด จริงๆแล้วฝีมือกีตาร์ผมไม่ได้ดีอะไรหรอก แต่อยากโชว์กะเขามั่ง เลยแย่งกะไอ้ดา ไอ้นนท์ แต่สาเหตุที่ทำให้ผมสละสิทธิ์จากการเล่นกีต้าร์ก้อคือวันหนึ่งช่วงพัก เที่ยง ขณะที่ผมกำลังขะมักเขม้นซ้อมกีต้าร์นั้นเอง ไอ้ตั้มมันก็เดินมานั่งคุยด้วย มันถามผมว่า“กานต์มึงอยากเล่นกีตาร์ขนาดนั้นเลยหรอวะ”
“ป่าวหรอก กูอยากโชว์มั่งดิ มันเท่ห์ดี”
“หรอ กูขออะไรมึงอย่างได้ป่าว”
“อะไรอ่ะ” มันจับมือผมเฉยเลยครับ
“กูอยากให้มึงเลิกเล่นกีต้าร์ว่ะ เดี๋ยวมือมึงด้านหมดกูชอบให้มือมึงนิ่มๆอย่างเนี้ย
เวลามึงนวดต้นคอกูแล้วกูรู้สึกสบายดี กูขอนะ” เขินดิครับถึงไม่รู้มันคิดอะไรรึเปล่า แหมคนที่ชอบมันเล่นมาจับมืออย่างนี้นะ แถมขออย่างนี้ด้วย เพราะเวลาเรียนเครียดๆมันชอบให้ผมนวดต้นคอให้ทุกที บางทีนวดแล้วมันหลับไปก้อมี
“ถ้ามึงขอกู กูให้มึงได้ แล้วมึงจะให้กูทำอะไรล่ะ” “มึงก็ร้องเพลงดิ เสียงมึงดีนะเว้ย”
“เอาวะ เอาก้อเอา แต่ต้องให้กูเลือกเพลงเองนะ ตามใจคนร้อง”
“ตามสบาย กูยังไงก็ได้เล่นได้ทั้งนั้นแหละ”สรุปแล้วผมเลยต้องมาเป็นนักร้องจำเป็น ส่วนไอ้ดาเป็นมือกีต้าร์ ไอ้นนท์มือเบส ส่วนไอ้ตั้มมือกลอง ลงตัวแล้วเย็นนั้นเราเลยนัดซ้อมกันที่ห้องซ้อมดนตรีของโรงเรียน ไอ้ดาก้อถามผมขึ้นมา “กานต์ มึงเลือกได้ยังวะ ว่าจะเอาเพลงอะไร”
“กูเลือกได้แล้ว กูว่าจะร้องเพลง ก่อน ของโมเดิร์นด็อกว่ะ ส่วนเพลงคริสต์มาสให้ไอ้ตั้มกับไอ้นนท์มันคิดเอาละกัน มันเด็กคริสต์นี่หว่า”ในการประกวดครั้งนี้เพลงต้องร้อง 2 เพลงนะครับ เป็นเพลงทั่วไป 1 เพลง อีกเพลงต้องเป็นเพลงเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาส พอดีไอ้ตั้ม กะไอ้นนท์มันเป็นคริสต์อยู่แล้วเลยให้มันเลือกกัน“เฮ้ย เพลงก่อน นี่มอบให้มือกลองรึเปล่า”ไอ้นนท์ถามผมครับ
“ไอ้สันดานนี่ มึงพูดรัยคิดมั่งนะมึง เดี๋ยวคนอื่นได้ยินมันไม่ดีนะเว้ย”แต่ตอนนั้แอบมองไอ้ตั้ม ผมว่าผมเห็นมันยิ้มนะ คงตาฝาดไปมั้ง “เออ ว่าแต่มึงเลือกเพลงอะไรกันอ่ะ” ผมถามไอ้ตั้ม
“กูเลือกเพลง......”ผมจำชื่อเพลงไม่ได้ จำได้แต่เนื้อเพลง เพราะเป็นเพลงที่ตั้มมันสอนผมร้อง เนื้อเพลงมีอยู่ว่า “สุขสันต์วันคริสต์มาส โอ้วันที่แสนชื่นบาน
เชิญมาขับเพลงประสาน สรรเสริญองค์พระกุมาร...” เราซ้อมกันอย่างดี ในที่สุดเมื่อถึงวันคริสต์มาสอีฟ ทีมเราประกวดได้ที่ 2 มา แล้ววันนั้นไอ้ตั้มก้อเลยชวนพวกผมไปเที่ยวบ้าน ซึ่งอยู่คนละจังหวัดกัน ผมไปเพราะอยากลองไปเข้าวัด(โบสถ์คริสต์นั่นแหละครับ คนคริสต์เชาไม่เรียกโบสถ์นะเขาเรียกวัด) กับไอ้ตั้ม ไอ้นนท์ดู เห็นมันบอกว่าสวย ไปกันเอามอเตอร์ไซค์ไป 2 คันปกติเวลามันมาเรียนกันมันจะนั่งรถเมล์ครับ ผมเองทีแรกจะซ้อนไปกับไอ้ดา แต่มันไม่ยอม มันบอกว่ามันไม่รู้ทางมันจะให้ไอ้นนท์มาขี่มอเตอร์ไซค์พามันไป เลยกลายเป็นว่าผมต้องไปซ้อนท้ายไอ้ตั้ม จริงๆแอบดีใจนะครับ แหมมันเป็นธรรมดาได้ซ้อนท้ายคนที่เราแอบชอบอยู่ ใครไม่ดีใจก็บ้าแล้ว ตอนซ้อนท้ายไป มันขี่เร็ว ผมก็กลัวตก เลยเอามือไปเกาะที่จับด้านหลังเบาะทีนี้มอเตอร์ไซค์ที่มันขี่เป็นมอเตอร์ ไซค์ผู้ชาย เบาะมันสูง ผมเลยนั่งเกร็ง “กอดเอวกูไว้ก้อได้ ถ้ากลัวตกอ่ะ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอก”
“จะดีหรอวะ”
“เอาเหอะน่า กูบอกให้กอดเอว ก้อกอดเอวไปเหอะน่า”ผมเลยจำใจต้องกอดเอวมัน เอหรือจะว่าเต็มใจก็ไม่รู้ เพราะรถมันเบาะท้ายสูงนะ เลยเหมือนกอดแนบไปทั้งตัวเลย รู้สึกดีมาก พอถึงบ้านไอ้ตั้ม ไอ้นนท์เห็นเลยแซว “เฮ้ย ถึงบ้านมันแล้วนะมึง มึงจะกอดจนถึงห้องนอนเลยรึงัย”
“ไอ้เชี้ยนี่รถมันยังจอดไม่สนิทเว้ย ไม่ต้องมาแซวกูเลยนะมึง”บ้านตั้มทำไร่ครับปลูกพวกหัวหอม มะเขือเทศ อะไรพวกเนี้ย พ่อแม่ดูท่าทางใจดีครับ ยิ้มเก่ง หน้าไอ้ตั้มนี่ถอดแบบพ่อมันมาเปี๊ยบเลย ยิ้มยังเหมือนกันเลย พอกินข้าวเย็นเสร็จประมาณ 2ทุ่มกว่า“ไปสอยดาวกันดีกว่า” ไอ้นนท์ชวนพวกผม เลยขี่มอเตอร์ไซค์ไปกันคริสต์มาสปีนั้นอากาศหนาวมากกว่าทุกปีครับ ได้บรรยากาศดี ไปสอยดาว เล่นบิงโก หนูลงรูแล้วก็เกมส์อื่นๆ อีกเพียบ จนประมาณ 4 ทุ่มกว่าไอ้ตั้มเลยพาไปดูการแสดง เกี่ยวกับการประสูติของพระกุมารประมาณเนี้ย พอเที่ยงคืนก็เข้าวัดครับ สวยมากเลย ดอกและไฟเต็มไปหมด ผมไม่เคยเห็นนี่ ถึงบ้านผมจะใกล้โบสถ์แต่ผมไม่เคยเข้าไปนี่เป็นครั้งแรกเลย หลังเสร็จพิธี ทุกคนก้อจะเดินเข้าไปที่ถ้ำที่มีตุ๊กตารูปพระกุมารอยู่ ผมก้อเดินตามไปด้วย “กานต์ เดี๋ยวอยากขอพรอะไรจากพระกุมารก็ขอนะ รู้เปล่า” ตั้มบอก **** Hidden Message ***** for better or worse till death do us part
I'll love you with e-ve-ry beat of my heart and I swear
I'll give yoy e-ve-rything I can I'll build your dreams with these two hands
We hate some memories although ours And when just the two of us are there
You won't have to ask if
I still care 'cause there's a time stops the pain
My love won't ache at all
And I swear by the moon and the stars in the skys I'll be there
I swear like the shadow that's by your side I'll be there
for better or worse till death do us part
I'll love you with e-ve-ry beat of my heart and I swear
I swear by the moon and the stars in the skys I'll be there
I swear like the shadow that's by your side I'll be there
for better or worse till death do us part
I'll love you with e-ve-ry beat of my heart and I swear
พอมันร้องจบผมก็เขินดิ เล่นมาร้องให้กูฟังอย่างนี้ เลยยิ้มทั้งน้ำตาเลย
“เอ่อ เพลงก้อ...เพราะดีนะ”
“แล้วมึงเข้าใจความหมายมันมั้ยล่ะ”
“ไม่เข้าใจหรอก...กูโง่”
“ไม่ต้องแกล้งโง่เลยนะ กูรู้ว่ามึงรู้ ตั้งแต่วันนี้ไปมึงเป็นคนของกูแล้วนะ”
นี่มันขอเป็นแฟนกะกูหรอ มันพูดหวานๆ อย่างคนอื่นเขาไม่เป็นรึงัยวะเนี่ย
“เงียบทำไม เข้าใจมั้ย”
“ถ้ากูไม่เข้าใจ...กูก้อบอกมึงไปแล้วละ”
“ดีแล้ว พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนนะครับ ที่รัก”
“หา ... ว่าอะไรนะ พูดใหม่ดิ ฟังไม่ถนัด”
“ไม่เอาเว้ย จั๊กกะจี้ปาก แค่นี้นะ”
มันวางสายไปแล้ว ผมนั่งหยิกแก้มตัวเอง กูฝันไปป่าววะเนี่ย ปรากฏว่าคืนนั้นหลับไม่ลงยิ่งกว่าเดิมอีกครับ ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก
ตื่นเช้ามา วันนี้อากาศโคตรรดี เลยทำไมอะไรมันก้อดูดีไปหมดเลยวะ ไปโรงเรียนดีกว่า ไปถึงโรงเรียนก้อรีบเอากระเป๋าไปวาง แล้วก้อลงไปกินข้าว กะลังอารมณ์ดีๆเลยไอ้เดียร์มาแซวกูซะอีก
“มึงเมากัญชาป่ะวะ กูเห็นนั่งยิ้มทำตาเยิ้มมาตั้งนานแล้วนะ คนบ้ารัยวะ แดกข้าวไปยิ้มไป”
“กูอารมณ์ดีเว้ย อย่างมึงอ่ะไม่รู้หรอก”
“อารมณืดีเรื่องรัยวะ รึว่าโดนเปิดบริสุทธิ์ไปเมื่อคืนวันเสาร์”
“อ้าวไอ้สันดานนี่ ลามปาม กูยังซิงอยู่นะมึง”
“เชื่อตายล่ะ”
ก่อนจะคุยรัยกันมากไปกว่านี้พอดีออดเข้าแถวดังเลยสงบศึกกันชั่วคราว ในใจก้อนึกว่าเดี๋ยวจะต้องล่าให้ไอ้ดาฟังซะหน่อย พอขึ้นห้องไป อ้าวแล้วไอ้บ้านั่นมานั่งทำรัยอยู่ตรงนั้นวะ
“ตั้ม มึงมานั่งรัยนี่วะ”
“กูก้อมานั่งกะแฟนกูดิ”
“ไหนใครหรอ แฟนมึง น่ารักป่ะชี้ให้กูดูหน่อยดิ”
“มึงไม่ต้องมาฟอร์มเลยนะ” ว่าแล้วมันก้อดึงแขนผมให้นั่งลงคู่กะมัน
“โอ้ย ที่รักจ๋าอย่าทำเค้าแรงสิ เค้าเจ็บนะ 555 จับมือถือแขนกันด้วยนะมึง”
ไอ้ระไอ้เวรเอ้ย มึงเงียบก้อไม่มีใครเขาว่ามึงเป็นใบ้หรอกนะ ไอ้เชี้ยข้างกูนี่อีกตัวแม่งนั่งยิ้มอยู่ได้ กูอายนะไอ้สาดดด
“เฮ้ยเซอร์เข้าสอนแล้วพวกมึง”
โอ้พระเจ้า ระฆังช่วยกูพอดีเลย ไม่งั้นแม่งแซวกระจายแน่เลยกู รอดตัวไป
“กานต์ ต่อไปนี้นะ มึงต้องกินข้าวกะกูทุกวันนะ”
“ก้อกูก้อกินกะมึงอยู่ทุกวันแล้วงัย”
“กินเสร็จก้อต้องไปกะกูด้วย”
“ไม่เอา กูขี้เกียจเล่นบอลกะมึง กูจะไปเล่นบาสอ่ะ”
“งั้นกูไปเล่นด้วย ปล่อยมึงไปเล่นเดี๋ยวมึงไปคุยกะ`คุณ`หนูนั่นอีก”
`คุณ`หนูในที่นี้คือรุ่นพี่ครับ อยู่ปี 2 ช่างกลชื่อพี่พลน่ารักโคตรๆ สูงประมาณ 180 ขาวตี๋ เล่นบาสด้วย กะลังจีบอยู่ก่อนที่จะตกลงคบกะไอ้ตั้มนี่แหละ
“อ้อ ไอ้ไอซ์ก้อไม่ต้องคุยกะมันแล้วนะ คนอื่นด้วย มึงมีกูแล้วนะ”
ไอ้ไอซ์นี่น้องไอ้ดรีมค้าบ น่ารักดีก้อเลยจีบ จริงๆแล้วก้อจีบไว้เยอะนะครับ แต่แบบว่าไม่เน้นเรื่องอย่างว่า เน้นหาคนคุยด้วยอ่ะ ตอนนั้นอ่ะนะ
“คุยเฉยๆ ก้อไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้อยากคุยก้อคุยกะกูเนี่ย”
ซวยแล้วมั้ยล่ะกู คิดผิดป่ะวะเนี่ยเอาเพื่อนเป็นแฟนเนี่ย รู้เรื่องกูหมดเลยดิ โอ๊ยกลุ้มใจ
“ก้อได้ งั้นมึงต้องสัญญานะว่ามึงจะไม่มีใคร ถ้าวันไหนมึงผิดสัญญานะ น่าดู”
“เออน่า กูสัญญา”
เพราะคำสัญญาวันนั้นแหละ ที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป นึกถึงน้ำตาจะไหลแว้ว
หลังจากตกลงเป็นแฟนมันมาได้ประมาณ 10 กว่าวันก้อพอดีเป็นวันวาเลนไทน์พอดีเลย ไอ้ผมเองก้อติดนิสัยเล่นเหมือนเด็กๆอ่ะ ก้อไม่รู้เดี๋ยวนี้เด็กมันยังเล่นอยู่รึเปล่า ก้อคือซื้อสติ๊กเกอร์รูปหัวใจมา แล้วก้อไล่แปะตามปกเสื้อช็อปของเพื่อนในห้องเล่น แปะไปทั่วคนนั้นมั่ง คนนี้มั่ง แต่พอจะแปะไอ้ตั้มปรากฏว่าสติ๊กเกอร์หมดพอดีครับ
“ไมมึงไม่แปะกูคนเดียววะ”
“โทษที หมดพอดีเลยว่ะ”
“แล้วมึงมีรัยจะให้กูป่ะ”
“ไม่มีหรอก กูลืมเตรียม”
มันก้อทำหน้าเหมือนงอนนะ โคตรสะใจเลย จริงๆแล้วเตรียมให้มันแล้ว ผมซื้อช็อกโกแลตให้มันครับ ไม่วิเศษอะไรหรอก ก้อแค่ทูโทนของอัลฟี่ธรรมดา เสร็จแล้วแอบเอาไปเก็บในเป้มัน จนตอนกลางวันมันออกจากช็อปไปล้างมือเตรียมกินข้าวกลางวันนั่นแหละ มันถึงเจอทูโทนที่เอาไปซ่อนไว้ให้
“กานต์ กูกินได้ป่ะ”
“ก้อกินไปดิ กูซื้อมาให้มึงกิน มึงกินหมดเดี๋ยวกูซื้อให้ใหม่ก้อได้”
“อืมม์”
“ว่าแต่วันนี้มึงค้างที่นี่ได้ป่ะ”
“โทษทีว่ะ ไม่ได้ขอแม่ไว้”
โหมึงนะ วันนี้วันวาเลนไทน์นะมึงยังไม่มีรัยให้กูเลย กูขอให้อยู่ฉลองกะกู มึงก้อไม่ยอมอยู่ จริงแล้วก้อไม่ได้ฉลองอะไรหรอกครับ วันศุกร์มันเป็นวันเที่ยวเธค เที่ยวคาราโอเกะ กินเหล้าของพวกผมอยู่แล้ว อย่างที่บอกนะผมมันคนขี้น้อยใจอยู่ด้วยก้อเลยเจ็บลึกๆ
“เป็นไรป่าววะ”
“ป่าวไม่มีรัยหรอกน่า มึงก้อคิดมากไปได้” แต่ในใจกูน่ะร้องไห้ไปแล้วนะมึง
“ไปกินข้าวกันเหอะ กูหิวแล้ว”
“เออ ไปดิ”
พอเลิกเรียนมันบอกว่าต้องรีบกลับบ้าน วันนี้ไม่รอเพราะเดี๋ยวรถเมล์คนเยอะ ส่วนผมต้องทำความสะอาดช็อปเพราะเป็นเวรพอดี ทำเสร็จก้อไปบ้านไอ้เดียร์ มีนัดกินเหล้ากัน พอเดินเข้าไปถึงเพื่อนมันกินเหล้ากันที่บ้านแม่ไอ้เดียร์ เลยเอาเป้ไปเก็บบ้านไอ้เดียร์ คือว่าบ้านไอ้เดียร์กะบ้านแม่มันจะอยู่ในรั้วเดียวกัน แต่ว่า คนละหลัง เสร็จแล้วก้อเดินมาที่วงเหล้า
“ว่างัยจ๊ะวันนี้ที่รักไม่อยู่ด้วยหรอจ๊ะ แล้วจะฉลองวาเลนไทน์กะใครล่ะเนี่ย”
ไอ้เดียร์มึงเงียบกูก้อไม่ว่ามึงเป็นใบ้หรอกนะ ผมนึกในใจ
“กูก้อฉลองกะพวกมึงนี่แหละ”
“น่าสงสารจริงๆ อุตส่าห์มีแฟนกะเขาทั้งที แฟนก้อไม่อยู่”
แม่งเอ๊ยจะย้ำกันไปถึงไหนวะ
“กูขอตัวแป็ปนึงนะ”
ผมเดินหนีมานั่งร้องไห้ที่บ้านไอ้เดียร์คนเดียว นึกในใจมันบอกว่ารักกูแล้ววันนี้มันปล่อยให้กูอยู่คนเดียว แม่งรักเหี้...รัยอย่างงี้วะ ขณะที่ผมร้องไห้อยู่นั่นเองก้อมีมือมากอดผมจากข้างหลัง
“ทำไมขี้แงจังวะ แฟนใครเนี่ย”
นี่กูคิดถึงมันขนาดหูฝาดเลยหรอวะเนี่ย แต่พอหันกลับไปเป็นไอ้ตั้มจริงด้วย
“ไหนมึงบอกว่า มึงต้องรีบกลับบ้านงัยล่ะ”
“รีบกลับกูก้อไม่ได้เห็นคนขี้แงดิวะ”
“แม่มึงไม่ว่าหรอ”
“กูขอเขาตั้งกะเช้าแล้ว”
“นี่มึงหลอกกูหรอ”
“ก้อวันนี้ มึงแกล้งกูก่อนนี่หว่า” “กานต์ครับ ตั้มให้กานต์นะทีแรกตั้มจะให้แต่กุหลาบขาวเพราะมันหมายถึงรักนิรันดร์ แต่ตั้มกลัวกานต์ถือ”
มันส่งกุหลาบให้ผมสองดอกสีขาวดอกนึง สีแดงดอกนึง เขินโคตรๆ เกิดมายังไม่เคยมีใครมาให้กุหลาบอย่างนี้เลย ทีแรกก้องงนะครับ ว่าทำไมถ้าให้แต่กุหลาบขาวแล้วกลัวผมจะถือ ตอนหลังมารู้จากไอ้นนท์ ว่าปกติแล้ว คนคริสต์เขาใช้กุหลาบขาวกะคนตายอ่ะ
“เฮ้ย สวีทอิ่มยังวะ เหล้าอ่ะ จะแดกมั้ย น้ำแข็งละลายหมดแล้วนะมึง”
ไอ้เดียร์มาแหกปากเรียกไอ้เวรนี่มันเป็นมารจริงๆ
“รู้แล้วเดี๋ยวกูไปแดกเองแหละ”
“ไปเหอะ กานต์เพื่อนมันมาเรียกแล้ว”
แล้วไอ้ตั้มก้อดึงมือผมไปกินเหล้ากัน พอเดินออกมาไอ้เพื่อนเวรก้อตั้งหน้าตั้งตาแซวกันจริงๆ
“มึงกลัวหลงกันรึงัยวะ แค่นี้ต้องจูงมือกันด้วย”ไอ้ดาแซวผม
“ตั้ม มึงเบื่อเมื่อไหร่บอกกูนะเดี๋ยวกูจองต่อ”ไอ้เดียร์พูดขึ้นมาบ้าง
“เสือ...เลย แฟนกูนะมึงห้ามยุ่ง”
“ค้าบพี่ ผมไม่ยุ่งหรอกค้าบ”
กินเหล้ากันได้สักพักก้อเลยตกลงกันว่าจะไปต่อกันที่คาราโอเกะ วันนั้นไปถึงคนแน่นมาก เลยต้องเข้าห้องวี โดยมากก้อไม่ค่อยได้ร้องหรอก มัวแต่นั่งจับมือกะไอ้ตั้มอยู่อ่ะ เหล้าก้อกินน้อย กับแกล้มก้อไม่ทัน มากะแฟนโคตรเสียเปรียบเลยโว้ย พอเสร็จจากคาราโอเกะประมาณตีหนึ่งกว่า เลยเตรียมตัวกลับกัน
“กานต์ วันนี้มึงพาที่รักไปนอนบ้านหรอวะ” ไอ้เดียร์ถามขึ้นมา
“กูก้อว่างั้นแหละ”
วันนี้ไม่มีก้างด้วยไอ้นนท์ไม่ได้มา เสร็จกูล่ะมึง เอรึกูจะเสร็จมันวะ
“งั้นมึงพากูไปเอาเป้ที่บ้านไอ้เดียร์ก่อนดิ”
“เฮ้ย ถ้าไปเอาเป้บ้านกู มึงก้อนอนบ้านกูเลยดิขี่รถไป ขี่รถมา อันตรายนะมึง รถอ้อยยิ่งเยอะอยู่ช่วงนี้”
“กานต์มึงว่างัยอ่ะ เดี๋ยวเตี่ยกะม้าจะว่าป่าว”
“เขาไม่ค่อยสนใจกูหรอกกูจะไปนอนที่ไหนอ่ะ”
“งั้นสรุปคืนนี้นอนบ้านกูนะ เดี๋ยวกูจะได้แอบดู”
“อ้าวไอ้สาดนี่ กูไม่ใช่ดาราหนังเอ็กซ์นะมึง จะได้มาโชว์ให้มึงดู”
“กูพูดเล่น เดี๋ยวกูยกให้มึงเป็นเรือนหอเลยห้องนึง”
หลังจากกลับมาถึงบ้านไอ้เดียร์ ผมก้อไปอาบน้ำก่อน(เตรียมพร้อมรับศึก หุหุหุ) ขากนั้นไอ้ตั้มก้อไปอาบน้ำ ระหว่างนั้นผมก้อแกล้งทำเป็นนอน พอไอ้ตั้มอาบน้ำกลับเข้ามาในห้อง
“กานต์ มึงหลับไปยัง”
“.....”
“ไอ้นี่มันหลับไวจังวะ” ไอ้ตั้มก้อปิดไฟแล้วก้อเดินมานั่งข้างๆผม
“ไอ้ขี้เซาเอ้ย นึกจะหลับก้อหลับนะมึงเนี่ย”
“ใครบอกมึงว่ากูหลับล่ะ”
พูดเสร็จผมก้อดึงไอ้ตั้มมาจูบ มันก้อไม่ขัดขืน ระหว่างที่จูบปากกันผมก้อถอดเสื้อมันออก แล้วก้อไซร้ไปที่ติ่งหูมัน มันพึ่งสระผมมาใหม่ๆ กลิ่นแชมพูยังอยู่เลย ปกติมันเป็นคนผมบาง แถมตัดสั้น มันเลยชอบใส่เยล ทำเป็นไอ้หัวหนาม พอผมมันไม่ได้ใส่เยลมันก้อมองแปลกไปอีกแบบนึง ผมขบติ่งหูมันเล่น
“อาว์ กานต์กูเสียวจัง”
ผมไม่ว่างตอบมันหรอก เพราะผมกำลังลากลิ้นลงมาที่ซอกคอมัน จากนั้นก้อดูดนมมันเล่นสลับซ้ายขวาตอนนี้มันจิกเล็บลงบนหลังผมแล้ว
“กานต์ ตั้มไม่ไหวแล้ว ช่วยตั้มทีนะ”
มันกดหัวผมลงไปหาตั้มน้อยผมเอาจมูกซุกไซร้เล่น รู้สึกถึงความแข็งที่อยู่ใต้กางเกงบอลของมัน นี่มันเตรียมพร้อมถึงขนาดไม่ยอมใส่กางเกงในเลยหรอวะเนี่ย ผมนึกในใจ มันเอามือจับหัวผมไว้แน่น ผมเอาปากงับขอบกางเกงบอลที่มันใส่แล้วค่อยๆดึงรูดลงมา แล้วสิ่งนั้นมันก้อหลุดออกมาเป็นอิสระ ลำตั้งตรงสวย ขาวเหมือนผิวของมัน หัวยังไม่เปิดเลยครับ ขนาดพอสมควรแต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่เพราะไม่เคยวัดอ่ะ มันยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยแล้วก้อรูดกางเกงออกไปทางปลายเท้า ผมอยากแกล้งมันก้อเลยไซร้ไปที่ไข่ของตั้มดูดเล่น เสร็จแล้วแหย่ลิ้นไปที่ขาหนีบ จากนั้นก้อเลียไปที่ต้นขา โดยพยายามที่จะไม่ให้ร่างกายส่วนใดไปสัมผัสกับตั้มน้อย ตั้มมันดิ้นเหมือนปลาโดนทุบหัว
“กานต์ กูไม่ไหวแล้ว อย่าทรมานกูเลยนะ”
“ตั้มพูดกับกานต์เพราะๆ ก่อนดิครับ”
ผมเล่นแง่หน่อยนึง นึกในใจ มึงอยากให้กูทำ มึงก้อต้องพูดเพราะๆกับกูดิวะ
“ครับ กานต์ครับ ตั้มใจจะขาดแล้ว อย่าทรมานตั้มเลยนะครับ ที่รัก”
ผมเอามือจับตั้มน้อยครับ แล้วก้อรูดเล่นเบาๆ จากนั้นก้มหัวลงไปหาแล้วเอาลิ้นเลียหัวที่เยิ้มไปด้วยน้ำเงี่ยนของตั้ม ยิ่งทำให้ตั้มบิดเอวใหญ่ ตั้มพยายามเด้งเอวส่งท่อนเนื้อนั้นเข้ามาในปากผม ผมห่อปากรับด้วยความเต็มใจ ขณะที่ผมกำลังคาบท่อนลำของตั้มอยู่นั้นเอง ตั้มก้อครางเสียงดัง พร้อมกับกดหัวผมจนจมูกผมซุกลงไปในดงขนของตั้มพร้อมกับฉีดน้ำอุ่นๆ เข้าคอผม
“ทำไมเสร็จไวจังวะ”
“ก้อกูไม่เคยนี่หว่า กูไม่เคยมีอะไรกับใครนะเว้ย มึงน่ะคนแรกของกูเลยรู้ป่าว”
มันพูดไปก้อหน้าแดง แทนคำพูดผมเริ่มปลุกอารมณ์มันต่อ จนมันเรื่มแข็งสู้อีกรอบ
“ตั้ม กานต์รักตั้มนะ กานต์จะเป็นของตั้มคนเดียว”
พูดเสร็จผมก้อลุกขึ้นถอดเสื้อและกางเกงออก
“กานต์จะทำอะไรอ่ะ”
“กานต์ก้อจะทำให้ตั้มมีความสุขงัยครับ”
ผมหยิบโลชั่นมาแล้วทาไปที่ท่อนลำของตั้ม พร้อมกับเอามือปั่นเล่น ตั้มเองก้อเด้งเอวสู้มือผมด้วยความเสียว จากนั้นผมก้อขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัวตั้ม แล้วค่อยๆหย่อนสะโพกลงไป
“ตั้ม แน่นจังเลยครับ”
“อูย กานต์ครับ เจ็บจังเลยครับ มันตอดจังเลย”
“ตั้มครับ เข้าไปจะสุดแล้วครับ อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว”
พอผมกดสะโพกลงไปสุด ผมก้ออยู่เฉยสักพักหนึ่งพร้อมกับก้มลงไปจูบตั้ม
“ตั้มครับ รักกานต์นะครับตั้ม”
“ครับ รักกานต์ที่สุดเลยครับ”
เมื่อผมหายจุกแล้วจึงเริ่มยกสะโพกขึ้นลงช้าๆ ตั้มทำหน้าเหยเก
“กานต์ครับ ตั้มเจ็บตรงหัวอ่ะครับ”
“กานต์ก้อเจ็บครับ ตั้มทนหน่อยนะครับเดี๋ยวเราจะได้มีความสุขด้วยกัน”
ผมเริ่มขย่มตัวขึ้นลงด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น ขณะเดียวกันก้อดึงตั้มขึ้นมาดูดปาก แล้วแลกลิ้นกัน ตอนนี้ผมเริ่มเสียวแล้วเลยขย่มเร็วขึ้น ตั้มเองเริ่มเด้งสวนขึ้นมา มือตั้มก้อจับสะโพกผม เพื่อให้ผมคุมจังหวะเอาไว้ ผมขย่มได้สักพักตั้มก้อผลักผมให้นอนหงายโดยที่ตั้มอยู่ข้างบนแล้วตั้มเริ่ม ซอยเอว โดยมือตั้มก้อชักให้ผมไปด้วย ผมเอาขาเกี่ยวเอวตั้มไว้ด้วยความเสียวเต็มที่
“ตั้มครับ ซอยแรงๆ เลยครับ กานต์จะไม่ไหวแล้ว”
“ตั้มก้อเร่งเต็มที่อยู่นี่งัยครับ ตอดดีเหลือกานต์ครับ”
“ตั้มครับ กานต์แตกแล้ว กานต์ไม่ไหวแล้ว”
แล้วผมก้อกระฉูดน้ำรักออกมาจนเต็มหน้าท้องไปหมด ตอนนั้นผมก้อขมิบก้นรับการซอยจากตั้ม ยิ่งทำให้ตั้มเร่งจังหวะในการซอย ผมดึงตั้มลงมาจูบปากอีกครั้ง ผมเองก้อไม่รู้เป็นรัยชอบดูดปากกับคนที่มีอะไรด้วยอ่ะครับ ผมว่ามันรู้สึกดีนะ
“กานต์ครับ ตั้มจะเสร็จแล้ว ที่รักครับไม่ไหวแล้ว”
“ตั้มออกในตัวกานต์เลยนะครับ กานต์รักตั้มนะครับ”
ตั้มกระแทกมาอีกสองสามทีแล้วผมก้อรู้สึกถึงสายน้ำที่พ่นเข้ามาในตัวผม ตั้มกอดผมไว้แน่นเราจูบปากกันอีกที หลังจากนั้นตั้มก้อพลิกตัวลงนอนด้านข้าง แล้วเราก้อหลับกันไปในอ้อมกอดของกันและกันด้วยความเพลีย หลังจากวันนั้นแล้ว ระหว่างผมกับไอ้ตั้มก้อรู้สึกผูกพันกันมากขึ้น พอดีเป็นช่วงใกล้ปิดเทอม ก้อจะมีการอบรมฟื้นฟูจิตใจประจำปีอ่ะครับ โดยเขาจะแยกระหว่างเด็กคริสต์กับเด็กที่นับถือศาสนาอื่น แต่ไอ้ตั้มมันอยากให้ผมไปกะมันอ่ะดิ
“มึงไปกะกูดิว้า”
“บ้าหรอ มึงจะให้กูไปด้วยเนี่ยนะ กูเด็กพุทธนะมึง”
“ไม่เป็นรัยหรอก มึงก้อไปขอพ่ออธิการดิ บอกว่ามึงจะมาเรียนคำสอน จะเข้าคริสต์”
“โห มันตั้งใจเกินไปเปล่ามาเปลี่ยนเอาตอนนี้ เดี๋ยวในห้องมันแซวตายเลย”
“เอาเหอะน่า”
“ไม่เอา ปีหน้าแล้วกัน ปีนี้มันกระชั้นไป จะไปไม่กี่วันแล้วนะ”
“งั้นมึงไปขอพ่ออธิการกะกูก่อน ว่าจะเรียนคำสอน”
“เออ ไปก้อไป”
สรุปเลยต้องไปหาคุณพ่อกะมันครับ ไม่งั้นเดี๋ยวมันงี่เง่า พอเข้าไปคุณพ่อก้อถามว่าทำไมถึงอยากมาเรียนคำสอน ดีว่าผมสนิทกะมันจนรู้อะไรบ้างนะเนี่ย ผมเลยบอกไปว่าผมศรัทธาในแม่พระครับ คุณพ่อเลยให้มาเรียนคำสอนกับคุณพ่ออ่ะ แล้วพอดีแกก้อเลยถามว่าฟื้นฟูจิตใจจะไปกะเด็กคริสต์รึเปล่า ผมเลยบอกไปว่ายังไม่ไปเพราะยังไม่ค่อยได้ศึกษามา คุณพ่อก้อไม่ว่าอะไร แต่ไอ้คนข้างๆผมนี่ดิ เสือกชกขาผมเฉยเลย
พอออกมาจากห้องพ่ออธิการมันก้อเปิดฉากทันที
“พ่อเขาให้มึงไป แล้วทำไมมึงไม่ไปวะ”
“ก้อกูบอกแล้วงัย ปีหน้าค่อยไป กูไม่หนีมึงไปไหนหรอกน่า”
“มึงไม่อยากไปกะกูหรอ”
“บ้าดิ กูก้ออยากไป แต่คนอื่นมันแซวเอา แค่นี้กูก้อยอมมากแล้วนะ”
“เออ ก้อได้”
จริงๆแล้วเหตุผลที่ผมไปกะเด็กพุทธอ่ะ เพราะมันมีอะรัยที่ต้องเคลียร์นิดหน่อยครับ ก่อนหน้าที่ผมจะคบกะไอ้ตั้ม ผมเคยจีบเด็กช่างกลปี 1 ด้วยกันไว้คนนึงชี่อไอ้ระครับ หน้าตาก้อไทยๆแต่ขาว แล้วก้อเล่นบาสด้วย (คุณสมบัติสำคัญเลยนะเนี่ย ไม่รู้เป็นไร โคตรชอบเลยคนเล่นบาสเนี่ย)
แล้วพอถึงวันเดินทางก้อเตรียมของมาเพียบเลย ปีนั้นโรงเรียนพาไปที่บ้านเยเนซาเรธ แหลมผักเบี้ยเพชรบุรี อะรัยก้อดีนะ เสียแต่ว่ามันเหม็นคาวของทะเลอ่ะ มันใกล้กับหมู่บ้านประมงแถวหาดเจ้าอ่ะครับ พอไปถึงเซอร์ก้อให้พักตามห้อง ห้องใครห้องมัน เป็นเรือนนอนยาวๆอ่ะ แต่ก้อสะอาดนะ ระหว่างที่จัดที่นอนอยู่ไอ้ดามันก้อพูดขึ้นมาว่า
“กานต์ ทำไมมึงไม่ไปกะไอ้ตั้มอ่ะ”
“กูเป็นเด็กพุทธ จะให้กูไปกะมันได้งัยอ่ะ”
“มึงไม่ต้องมาฟอร์ม ไอ้ตั้มมันเล่าให้กูฟังแล้ว เรื่องที่เข้าไปหาอธิการกันอ่ะ”
“กูกลัวพวกมึงแซวกันอ่ะดิ”
“แล้วมึงนึกว่ามึงไม่ไปแล้วจะรอดหรอวะ 555”
เออไอ้เวรแซวกันเข้าไปเหอะ จัดของเสร็จก้อออกไปร่วมกิจกรรมอ่ะ มีรัยบ้างก้อจำไม่ค่อยได้ มันนานแล้ว (เพราะตอนนี้แก่แล้ว หุหุหุ) พอเสร็จกิจกรรมเขาปล่อยให้เตรียมเข้านอนพอดีเห็นไอ้ระมันเดินคนเดียวทางริม หาดเลยแอบไปหามันหน่อยอ่ะครับ
“ระ รอกูด้วยดิ”
“มาทำไมวะ มีธุระอะรัย”
“โกรธกูหรอ อย่าโกรธกูเลยนะ กูรักไอ้ตั้มอ่ะ แล้วกูก้อไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้อ่ะ”
“พอมันเป็นไปได้ มึงก้อเลยลืมกูเลยใช่ป่ะ”
“ป่าวนะ มึงยังเป็นเพื่อนกูนะ นะนะนะ”
ต้องใช้ลูกอ้อนครับ มันจะได้ใจอ่อน ผมไม่ชอบอ่ะคับ คนเคยคุยแล้วมาทำเหมือนไม่รู้จักเนี่ย
“เออ ก้อได้ แต่กูขอรัยอย่างนึงนะ”
“รัยอ่ะ”
มันดึงผมเข้าไปกอดเฉยเลย มารมณ์ไหนวะ
“ถ้าเลิกกะมันแล้ว มาคบกะกูนะ”
ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรก้อพอดีมีเสียงดังขึ้นมา
“มึงทำรัยกันวะ” “มึงทำไรกันน่ะ”
พอผมหันไปปรากฏว่าไอ้เดียร์มันมายืนอยู่ข้างหลังผม หน้าตามันเหมือนมีอะไรในใจอ่ะ
“ป่าว กูมาคุยกะไอ้ระเฉยๆ”
“เฉยห่ารัยวะ กอดกันด้วย กูจะฟ้องไอ้ตั้ม”
เอาล่ะสิกู จะทำงัยดีวะเนี่ย หันไปมองหน้าไอ้ระ ไอ้ระก้อพยักหน้าทำนองว่าไปเคลียร์กะเพื่อนมึงเอาละกัน โห ไอ้เวร ถ้าไม่เพราะมึงมากอดกูมันจะเป็นเรื่องมั้ยเนี่ย ผมเลยเดินไปหาไอ้เดียร์ แล้วก้อพูดกะมัน
“กูไม่ได้มีรัยกะไอ้ระนะเว้ย กูรักไอ้ตั้มคนเดียวจริงๆ”
“มึงไม่ต้องบอกหรอก เอาเป็นว่ากูเชื่อมึงละกัน”
ผมเลยกอดคอไอ้เดียร์แล้วเดินกลับห้อง โดยที่ไม่ลืมจะหันไปยิ้มให้ไอ้ระก่อน ตอนที่เดินไปผมก้อบอกกะไอ้เดียร์ว่า
“เดียร์ มึงจะไม่บอกไอ้ตั้มใช่ป่ะ เรื่องเมื่อกี้อ่ะ กูขอบใจมึงนะ”
“มึงนึกว่ากูจะทำร้ายมึงได้หรอวะ”
“แหงอยู่แล้ว กูเป็นเพื่อนกะมึงนี่หว่า มึงจะทำกูได้หรอ”
เสร็จแล้วเลยเดินเข้าที่พักกัน พอไปถึงไอ้พวกเวรนั่นกะลังจั่วกันอยู่พอดีเลย ผมเลยเข้าไปแจมกะมัน เล่นได้สักพักเซอร์ก้อมาไล่ให้ปิดไฟนอนได้แล้ว พอเข้านอนไอ้ดามันก้อมากระซิบถามผม
“กานต์มึงสังเกตป่ะ พักนี้ไอ้เหี้...เดียร์มันเป็นรัยวะ ดูมันหงอยไปนะ”
“หรอ กูไม่เห็นสังเกต มันก้อปกตินี่หว่า มึงคิดมากไปป่าว”
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ กูมันขี้สงสัยมากไปมั้ง เออ นอนเหอะ เดี๋ยวเช้าลุกไม่ไหว”
อีกสองวันที่อยู่ที่แหลมผักเบี้ย ไม่กล้าไปคุยกะไอ้ระมาก แอบคุยนิดหน่อยอ่ะ กลัวไอ้เดียร์มันไปฟ้องไอ้ตั้ม เดี๋ยวเป็นเรื่อง ขี้เกียจมานั่งตอบคำถามมัน พอกลับมาอาทิตย์ต่อมาเด็กคริสต์ก้อไปอบรม หลังจากนั้นก้อมีสอบไฟนอล ตอนที่สอบไฟนอลกัน ก้อเลยนัดไปเที่ยวหลังสอบ เพราะสอบเสร็จแล้วยังต้องทำงานผลัดอีกอ่ะ มันก้อเหมือนมาเรียนนี่แหละ แต่ไม่ได้นั่งเรียน ต้องลงช็อปไปทำงาน เลยนัดกันไปเที่ยวบ้านไอ้เอ็ดเพื่อนในห้อง ประมาณ 10กว่าคนอ่ะ ก้อไปรถไฟกันครับ เอากีต้าร์ไปด้วย เฮฮากันเต็มที่ ก้อเหมือนเดิมอ่ะ ไอ้ตั้ม ไปด้วย แล้วจะไปจีบใครเอาข้างหน้าได้มั้ยเนี่ย หุหุหุ จริงๆแล้วผมก้อรักไอ้ตั้มมากนะครับ แต่มันเป็นนิสัยอ่ะ เห็นคนน่ารักแล้วอดใจไม่ค่อยได้ อยากรู้จักอ่ะพอถึงเช้าวันที่นัดกัน ผมก้อไปเจอกะพวกเพื่อนที่สถานีรถไฟ วันนั้นพวกผมไปกัน 12 คน ก้อมีผม ไอ้ตั้ม ไอ้ดา ไอ้นนท์ ไอ้เดียร์ ไอ้เอ็ด ไอ้คม ไอ้สันต์ ไอ้ชัย ไอ้ยา ไอ้นพ และก้อไอ้คุง พอมาพร้อมกันก้อซื้อตั๋วรถไฟได้เที่ยว 11 โมงกว่า พอขึ้นรถไฟได้พวกผมก้อรีบไปตู้หลังสุดเลย มันนั่งสบายดีอ่ะ ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ นั่งกว่าจะถึงหัวหินนะโคตรเมื่อยเลย ดีว่านั่งร้องเพลงเพลินๆเลยพอทำเนา พูดถึงกีต้าร์นะขอเผาเพื่อนหน่อยเหอะ เพื่อนๆเคยเจอแบบผมมั้ย คนบ้าอะไรก้อไม่รู้มันเล่นกีต้าร์โคตรเก่งเลยนะ ไม่ต้องมีคอร์ด ไม่ต้องดูอะไรเลย มึงร้องมาละกัน กูเล่นได้ แต่อย่าให้มันร้องนะ สุดยอด ขนาดให้มันไล่คีย์ธรรมดายังเพี้ยนเลยอ่ะ ไอ้ดาเพื่อนผมเองครับ นั่งร้องไปกินเหล้าไปนิดหน่อยอ่ะ แก้เบื่อบนรถไฟ
พอไปถึงหัวหินก้อไปบ้านไอ้เอ็ด เพราะวันนี้ออกไปเกาะไม่ทันแล้ว เหนื่อยด้วยขี้เกียจไปต่อ นอนพักกันก่อนคืนนึง พอออกไปหาอะรัยกินกันที่ตลาดหัวหินนะ ของโคตรแพงเลย เห็นราคาแล้ว โห นี่มันขายกะตั้งตัวกันเลยป่าววะเนี่ย พอกินเสร็จไปเดินเล่นกันริมหาด กะจะไปสวีทกะไอ้ตั้มซะหน่อย เสือกตามกันมาเป็นขโยงเลยอ่า เลยเดินเล่นกันมันทั้งกลุ่มน่ะแหละ แล้วก้อเอาเหล้ามานั่งกิน ร้องเพลงกันริมหาด จนประมาณตี 2 มั้งถึงกลับบ้านไอ้เอ็ดกัน ไปถึงก้อหลับเป็นตายครับ ทำรัยไม่ได้เพราะนอนรวมกันทั้งหมด ในห้องโถงบ้านมันอ่ะ ขืนยัดเข้าไปในห้องมันนะห้องระเบิดพอดี
เช้ามาก้อรีบขนสัมภาระ วันนี้จะไปเป็นชาวเกาะ มันเรียกว่าเกาะอะไรผมก้อจำไม่ได้แล้วอ่ะ จำได้แต่ว่าเป็นเกาะที่คนเรือเขาจะมาหลบมรสุมกันที่นี่ มันมีแหล่งน้ำจืด มีที่พักนะ แต่พวกผมเอาเต็นท์ไปกันเอง เตรียมอาหารเตรียมของไปเพียบ กะจะไปค้างกันสัก 2 คืน นั่งเรือไปพักใหญ่ๆก้อไปถึงเกาะ มันก้อสวยดี ไม่มีคนด้วย พอไปถึงก้อรีบกางเต็นท์เลย ผมกะไอ้ตั้มก้อเลือกมุมที่มันไกลคนอื่นหน่อย (เดี๋ยวเสียงไปรบกวนชาวบ้านเขา หุหุหุ) กางเต็นท์เสร็จไอ้พวกบ้าพลังมันชวนไปเตะบอลกันอ่า โห นี่มึงจะไม่พักเลยรึงัยว้า นั่งเรือมา แป็ปเดียวจะเล่นแล้ว ไอ้ตั้มดิ เสือกบ้าจี้ไปเล่นกะพวกมันด้วย เลยตามเลยวะ เล่นบอลเสร็จก้อล้างตัวกินข้าวกัน แล้วก้อเลยงีบไปอ่ะ เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนง่วงโคตรๆเลย
พอแดดร่มหน่อยมันจะเล่นน้ำทะเลกันอีกแล้วมันบ้าพลังอะรัยกันหนักหนาวะ ผมเลยบายอ่ะ ขี้เกียจเล่น บอกเดี๋ยวกูทำกับแกล้มรอพวกมึงละกัน มึงไปเล่นกันเหอะ ไอ้ตั้มเลยขออยู่เป็น ตอบกลับ Boylove โพส
โอ้ยยยยไม่ไหวแล้ววว ขอบคุณครับ น่าสนใจครับ ขอบคุณมากคับ ขอบคุงงับ ขอบคุนค้าบ
ขอบขุนครับ ขอดูหน่อยนะครับ
ชอบๆ หนุกดี ขอบคุณคับน่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555 ขอบคุณมากๆเลย อยากอ่านคัฟ