พี่สาว...กับ...น้องชาย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย potter585 เมื่อ 2011-3-14 17:25แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย potter585 เมื่อ 2011-3-14 17:18
ถ้าอ่านแล้ว น้ำตาไหล ไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอและไม่ต้องอายครับแต่เป็นเพราะคุณเข้าใจและเห็นใจความรู้สึกของผู้อื่นตากหาก ครับ
..Forward mail..
> > >>อ่านกี่ครั้งก็....รู้สึก...อยู่เสมอ.....
> > >>พี่-น้อง> > >> >
> > >> > ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน> > >
> > แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ> > >
> > ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3ปี> > >>> วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆของฉันมีกัน> > >> >>
> >> > จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง> > >
> > โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม้ไผ่อยู่หนึ่งก้าน> >
>> > "ใครขโมยเงินไป" พ่อตวาด> > >>
>> > >> > ฉันกลัวมากไม่กล้าพูดอะไรออกไปน้องชายฉันก็เช่นกัน> >
>> > พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า> >
>> > " ก็ได้ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพ> > >
> > ก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ"> > >> >
> > >> > พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น> > >>
>> > >> > ทันใดนั้นน้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้ แล้วพูดว่า> > "ผมขโมยเองครับ"> > >> >> ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง> > >> > พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด> >
>> > จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย> >
>> > พ่อนั่งลงบนเก้าอี้ และด่าว่าน้องชายของฉัน> >
>> > "ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก> >
>> > แกน่าจะโดนตีให้ตายไอ้หัวขโมย"> > >>> คืนนั้นฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้> >
>> > หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด> > >
> > แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย> > >> กลางดึกคืนนั้นฉันนอนร้องไห้เสียงดังและนานมาก> >น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า>> > "พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว"
> >> ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้> >
>> > ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ>
> >>หลายปีผ่านไป> > แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง
> >> > ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย> > >
> > ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 8 ปี ส่วนฉันอายุ 11 ปี
> >> > เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น
>> > เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน> > ม.ปลายว่าเขาสอบได้ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย> > > ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน> > > คืนนั้นพ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน
> >> > ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า "ลูกเราทั้งคู่เรียนดี> > > เรียนดีมากนะ"> >
>> > >> > แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆพ่อได้พูดว่า>
> >> > "แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไร> > > > > ในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน">
> > >> > ทันใดนั้นน้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อแล้วพูดว่า> > >> > "ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว"> > > > พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่>>> > "ทำไมถึงคิดโง่ๆอย่างนี้ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนนพ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้"
> >> > คืนนั้นทั้งคืนพ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆทั่วทั้งหมู่บ้าน> เพื่อขอยืมเงิน> ฉันค่อยๆเอามือประคบแก้มบวมๆของน้องชายเบาๆ และคิดว่า> " ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้">แต่ในขณะเดียวกันฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้
>> > ใครจะรู้ได้ ... วันต่อมาในตอนเช้ามืด> > >
> > น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้น> >
>> > และถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิว> > >
> >> > ก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน> >
>> > ขณะฉันกำลังหลับ> >
>> > " พี่ครับการจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ไม่ใช่ง่ายๆนะ ....> > >> > ผมจะไปหางานทำ> >
>> > แล้วจะส่งเงินมาให้พี่">>> >ฉันนั่งอยู่บนเตียง> >
> > อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า ...> ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป> >
>> > ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17ปี ส่วนฉันอายุ 20 ปี .
> >> > ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน> > >>
> >>รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็นกรรมกรแบกหามที่ ไซท์ก่อสร้าง ...> >
>> > ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3
> >> > วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก> >
>> > เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า "มีชาวบ้านมาหาเธออยู่ข้างนอกแน่ะ"
>> > ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ???> >
>> > ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่> >
>> > ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง> > >> > ...
> > >> > ฉันถามเขาว่า "ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ"> > >> >>
> >> > น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า "ก็ดูผมสิ สกปรกมอมแมมออกอย่างนี้ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่
เพื่อนๆก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี"> > >> > ฉันค่อยๆเอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง> > >
> > และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ> >
>> > " พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง> >
>> > เธอเป็นน้องของพี่ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม"> >
> >> > จากนั้นน้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง> >
>> > เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ . เขาติดกิ๊บให้ฉัน> >
>> > แล้วพูดว่า> > >
> > "ผมเห็นสาวๆในเมืองเค้าติดกันผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง"> > > >> > ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด> >
>> > ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน> > >
> > ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 20ปี ส่วนฉันอายุ 23ปี .> >
> >> > วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก>
> >> > ฉันสังเกตเห็นว่า> >
>> > หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว> >
> >> > เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก> >
> >> > หลังจากที่แฟนของฉันกลับไปฉันพูดกับแม่ว่า> >
>> > " แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อมกระจก
> > >> > เพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ">
> >> > แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า " แม่ไม่ได้จ้างหรอก> >
>> > น้องชายลูกต่างหาก> >
>> > วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน
> > >> > ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ> >
>> > น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ"
> >> > ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา> >
> >> > ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ> > >
> >> > ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด "เจ็บมากไหม"
> > >> > ฉันถาม> > >> >
> > >> > "ไม่เจ็บสักหน่อยพี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะวันๆ
> > >> > มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด> >
>> > แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ>
> >> > และ..."> >> น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยคแต่ก็ต้องหยุดพูด
> > >> > เพราะฉันหันหน้าหนีเขาน้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง
> > ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 23ปี ส่วนฉันอายุ 26ปี...
> >> > หลังจากนั้นฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง
>> > หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน
> >> > แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ> >
> >> > ท่านบอกว่าท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง
> >> > แต่เมื่อออกไปแล้ว>
>> > ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี> >
>> > จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม>
>> > น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป> เขาบอกกับฉันว่า>
> > "พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะ> >
>> > ผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง"> > >>
> >> > สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของครอบครัว
>> > เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท> > >
> >> > แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้> >
>> > เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา> > >>
> >> > วันหนึ่งน้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล>
> >> > และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด>
> >> > เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล> > >>
> >> > ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล>
> >> > น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา>
> >> > ... ฉันโกรธมากจึงตวาดน้องไปว่า> >
> >> > "ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการหา!!!>ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆ
อย่างนี้> ดูตัวเองซิ> เจ็บเจียนตายอยู่แล้วทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง">
> >> คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด>
> >> > ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา>
> >> > " พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน>
> >> > ส่วนผมมันการศึกษาต่ำ>
> >> > ถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ> >
>> > คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด">
> >> > น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย .
> >> > ฉันบอกกับน้องว่า>
> >> > "แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่..."
> >> > "ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ"
> >> > น้องชายของฉันจับมือฉันไว้
> >> > ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 26ปีส่วนฉันอายุ29 ปี...
> >> > เมื่อน้องชายของฉันอายุได้30ปี
> > >> > เขาได้แต่งงานกับสาวชาวนาในหมู่บ้านเดียวกัน
> >> > ในงานแต่งงานประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า
> > >> > "ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้"> > >>
> >> > น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล "พี่สาวของผมครับ" .
> > >> > และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้> > > "ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม
โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง>> > เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2ชม. เพื่อเดินไปเรียนและเดินกลับบ้าน>
>> > วันหนึ่งผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง> >
>> > พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง> >
>> > และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล >> เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว>> > เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ ... นับจากวันนั้นผมสาบานกับตัวเองว่าตลอดชีวิตของผมผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดี>และจะทำดีกับเธอ"> เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว> > >> > สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน>>>>คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก ... >>>>"ในโลกใบนี้> > >> > คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุดคือน้องชายของฉันค่ะ">
>> > ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้> น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง...
> >> จงรักและห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ> > วันในชีวิตของคุณและเขา> > คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ> >
>> > แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง
> > >> > .. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ> พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน>>>>หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม........ ขอบคุณครับ ขอบคุนครับขอบคุนจริงๆ ซึ้งมากครับ อ่านแล้วน้ำตาไหล ด้วยความตืนตันใจคับ
ขอบคุณมากคับ ครับ ผมเข้าใจ ตอบกระทู้ potter585 ตั้งกระทู้
ซึ้งมากเลย...ผมสัญญาว่าจะรักทุกๆคนให้มากขึ้น และจะไม่เห็นแก่ตัวครับ ตอบกระทู้ potter585 ตั้งกระทู้
สุดยอดมากมาย ขอบคุนคับ ซึ่งกินใจมากๆๆเลยคับ
ขอบคุณคับ โดนไปเรย น้ำตาไหยๆๆๆๆ ตอบกระทู้ potter585 ตั้งกระทู้
ยินดีด้วยครับ
กระทู้ของคุณได้รับการเลือก
ในการเป็นสุดยอดนักโพส
ประจำห้อง บอกเล่าเรื่องซึ้งๆแง่คิดดีๆครับ ตอบกระทู้ yellow2550 ตั้งกระทู้
ขอบคุณมาก ๆ ครับ คับผม ขอบคุณคับ ขอบคุณครับ ซึ่งกินใจมากๆๆเลยคับ
ขอบคุณคับ ขอบคุนจากใจนะคับ ต้นฉบับโพสต์โดย yellow2550 เมื่อ 2011-6-2 19:06 static/image/common/back.gif
ตอบกระทู้ potter585 ตั้งกระทู้
ยินดีด้วยครับ
ชอบกระทู้นี้ๆๆ ตอบกระทู้ RooMcup ตั้งกระทู้
ความหมายของความรัก และการเสียสละนะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุนครับ ขอบคุนคับ
หน้า:
[1]
2