หลุมปีศาจ
สมัยเด็กผมอยู่อุทัยธานี หรือเมืองสะแกกรัง วันนี้จะเล่าเรื่องน่ากลัวสุดๆ ให้ฟัง!
พวกเราอายุราว 13-14 ขวบ ถือว่าเป็นจอมซนประจำหมู่บ้าน ตอนเย็นๆ โรงเรียนเลิกพวกเราวิ่งเล่นเกรียวกราวกันในหมู่บ้านริมแม่น้ำบ้าง โดดลงน้ำบ้าง เล่นกันจนตัวดำเป็นเหนี่ยง พ่อแม่ไม่มาตะโกนเรียกโว้กๆ พลางขยับไม้เรียวไปด้วยอย่าหวังเลยว่าจะยอมขึ้นจากน้ำกันง่ายๆ
บางทีก็ไปเล่นซ่อนหากันที่วัดโคก-วัดร้างอยู่ใกล้ๆ หมู่บ้านติดแม่น้ำเช่นกัน
เขาว่าผีวัดโคกดุนัก แต่พวกเราไม่ยักกลัวแฮะ!
โธ่...ก็ไปเล่นกลางวันแสกๆ แถมยกโขยงไปตั้งหลายคน ต่อให้ผีสางอีนางโกงทั้งหลายน่ะ ถ้ามีอยู่จริงๆ มันคงหลบเข้าป่าช้า หรือซุกหัวลงหลุมแทบไม่ทันแล้วละครับผมว่า
แหม! มันหนวกหูมันน่ะซี!!
พวกผมไว้จุก, แกละ, เปีย, โก๊ะ...ตามความเชื่อของผู้ใหญ่มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เคยถามว่าเอาไว้ทำไมล่ะ? คำตอบมีทั้งกันผีมั่ง กันเจ็บไข้มั่ง ทำให้เลี้ยงง่ายมั่ง...บางทีก็ว่าเป็นธรรมเนียมเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตาทวดแล้ว
ผมจำได้แม่นว่าวันเกิดเหตุขนหัวลุก หวิดจับไข้หัวโกร๋นไปตามๆ กันน่ะ ตรงกับวันโกนผมโก๊ะของ ไอ้โก๊ะ-เพื่อนผมพอดี
พ่อผมเป็นคนโกนผมรอบๆ โก๊ะ ก่อนจะถึงพิธีตัดผมที่มีญาติๆ มาช่วยกันตัดคนละนิดละหน่อย อวยชัยให้พรมัน แจกขนมแจกเงินจนไอ้โก๊ะหน้าบานเชียว ก่อนที่พ่อมันจะโกนผมโก๊ะจนหัวโล้นเกลี้ยง แล้วเอาห่อใบตองไปลอยน้ำ
ไม่ว่าจะไว้จุกไว้แกละยังไง พออายุ 14 ขวบก็ต้องโกนทิ้งไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่แล้ว! เขาว่ากันยังงั้น
เห็นแล้วผมชักอยากโกนจุกทิ้งจะได้เป็นผู้ใหญ่มั่ง แต่ต้องรอไปอีก 2-3 เดือน มองดูไอ้โก๊ะเอาแต่ลูบหัวตัวเองบ่นว่ามันโล่งๆ เย็นๆ ยังไงไม่รู้ พ่อมันบอกว่า...มึงไม่ต้องกลัว ไม่ช้าก็ผมดกเต็มกบาลแล้วล่ะน่า
แม่ไอ้โก๊ะสั่งว่าวันนี้อย่าไปซุกซนที่ไหนนะ ต้องระวังตัวเหมือนนาคที่จะบวชพระนั่นแหละ...เดี๋ยวมีมารผจญ!
เสร็จพิธีก็เลี้ยงกันเต็มที่ทั้งคาวและหวาน อิ่มตื้อจนแทบจุกแอ้ดๆ ไปตามๆ กัน แต่วิ่งเล่นในหมู่บ้านเดี๋ยวเดียวก็ท้องพร่อง พวกผู้ใหญ่จับกลุ่มพูดคุยกัน พวกเราก็ชวนกันหลบแว่บ...วิ่งไปวัดโคกทันใด
สรรพสิ่งดูเงียบเชียบเยือกเย็น ลมฤดูหนาวพัดหวีดหวิวชวนให้วังเวงใจบอกไม่ถูก จู่ๆ ไอ้โก๊ะก็ชะงักกึก...แม่กูห้ามซนหนึ่งวันนะ เดี๋ยวจะมีเรื่อง!
พวกเราร้องเฮ้ย! จะไปกลัวอะไรวะ กลางวันแสกๆ แดดเปรี้ยง...
เสียงพูดขาดหายไปเมื่อแดดหุบลงดื้อๆ เพราะอาทิตย์ถูกเมฆบัง ฟ้าครึ้มชอบกลเมฆหนาเหมือนหน้าฝน แต่ลมหนาวคร่ำครวญ ยอดไม้สะบัดใบซู่ซ่า เกรียวกราว เล่นเอาพวกเราเหลียวซ้ายแลขวาอย่างหวาดระแวง
ซากโบสถ์ซากเจดีย์อยู่ใกล้ต้นโพธิ์ใหญ่ ถัดไปเป็น กองอิฐหักๆ สีแดงขุ่นอยู่ใต้ต้นตะเคียน มีทั้งกอไผ่และดงตะขบดกหนา...มีคนบอกว่าแถวนั้นคือป่าช้าเก่า วัดร้าง!
กอไผ่รวกโยกตัวออดแอดคล้ายเสียงคนแก่พร่ำบ่น ไอ้โก๊ะหันขวับไปทางกอไผ่ บอกว่าเห็นอะไรขาวๆ ผ่านแว่บไปหยกๆ คล้ายกระรอกงั้นแหละ! ไอ้แกละกับไอ้เปียถูมืออย่างมันเขี้ยว ก่อนจะงัดหนังสติ๊กพร้อมกับลูกหินออกมาทันที
"ไหน...อยู่ไหนวะ? กูอยากซ้อมมือเต็มแก่แล้ว แถวนี้นกหนูก็หายากขึ้นทุกวัน เพราะเรายิงมันเปิดเปิง ไปหมด"
ทันใดนั้นมีเสียงแปลกๆ ดังขึ้นเบื้องหน้า ทำให้เราชะงักกึก อ้าปากค้าง ตะลึงพรึงเพริดกันไปหมด รู้สึกเย็นสันหลังเยือกๆ ยังไงพิกล...เสียงนั้นมันคล้ายกับกอไผ่ตายซากกำลังเสียดสีกันอย่างรุนแรง ก่อนจะแหวกผลัวะออกจากกันในพริบตา!
"เฮ้ยๆๆ" เสียงพวกเราร้องลั่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน
นรกเป็นพยาน! ร่างอสุรกายดำเกรียมโผล่พรวดขึ้นมาฉับพลัน ผมผงะหน้าร้องลั่น ตาเหลือกลาน เสียงเพื่อนๆ ก็ดังแสบแก้วหูที่กำลังลั่นเปรี๊ยะๆ มองเห็นดินร่วงกราวจากใบหน้าดำเมื่อม นัยน์ตาแดงจ้าปานแสงไฟจ้องเขม็ง...พวกเราหันขวับได้ก็เผ่นอ้าวไม่คิดชีวิต
กว่าจะถึงหมู่บ้านได้แทบขาดใจไปตามๆ กัน...เขาว่าวันโกนผมจุกผมโก๊ะจะมีมารผจญ แต่ผมกับไอ้เปียไอ้แกละไม่ได้โกนผมซักหน่อย กลับโดนผีหลอกเจียนตายกับไอ้โก๊ะไปด้วย...
หน้า:
[1]