ยังจำได้ไหม
ดิฉันกับเพื่อนๆ ที่ทำงานในบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ล้วนแต่ยังเป็นสาวโสดหนุ่มโสดวัยใกล้ 30 กันทั้งนั้น ทีมเรามีอยู่เกือบสิบคนแน่ะค่ะ ยามค่ำก็ชอบไปสิงสู่อยู่ในผับขาประจำที่ย่านรัชดาฯ
เมื่อปีกลายเกือบทั้งปี ดิฉันว่างเว้นไม่ได้ไปแจมกับเพื่อนฝูง เพราะแฟนคนใหม่เขาไม่ชอบบรรยากาศผับ แถมยังมีดนตรีวงเล็กๆ เล่นเสียงดัง เขาบอกว่าไม่โรแมนติกซะเลย! ดังนั้น ตอนคบกันเราก็แค่ไปดูหนังฟังเพลง เป็นเพลงซึ้งๆ ตามโรงแรมหรูๆ น่ะค่ะ
คบกันไม่กี่เดือนความรักหวานแหววก็จืดจาง...ไม่เป็นไรหรอก เราจากกันด้วยดีเขาไปทำงานเมืองนอก ป่านนี้ได้ดีมีสุขไปแล้ว ส่วนดิฉันก็กลับเข้าก๊วนเก่า แฮปปี้ไม่ได้ชีช้ำเลย
คืนหนึ่งเราไปเฮฮาปาร์ตี้กันที่ผับเจ้าเก่า แหม...มีความสุขจริงๆ ที่ได้เป็นอิสระอีกครั้ง ดิฉันดื่มไวน์หลายแก้วเลยต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยหน...ไฟในห้องน้ำสว่างจ้า คนที่ดูแลเขารักษาความสะอาดได้เยี่ยมจริงๆ ห้องน้ำหอมละมุน แห้งสะอาด ดิฉันชอบล้างมือ หวีผมอยู่ทีละนานๆ เชียว
คืนนั้นก็เช่นกัน ปกติจะมีสาวอื่นมาใช้ห้องน้ำด้วย บางทีก็ยิ้มกัน คุยกัน แต่ตอนนี้ยืนอยู่คนเดียว รู้สึกผ่อนคลายมาก ขณะเติมคิ้ววาดปากตามสบาย
กำลังเพลินๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดออกเบาๆ
อ้าว? นั่นน้องปิ๋ม-สาวสวยผมยาวเกือบถึงเอว สวมชุดแดงสดใส สูงยาวเข่าดีน่าทาบทามไปประกวดนางงาม...น้องปิ๋มไม่ได้อยู่กลุ่มพวกเราหรอกค่ะ เธอมีกลุ่มของเธอราว 3-4 คน แต่ก็ถูกชะตากัน คุยกับพวกเราได้ เพราะเธอน่ารักและมีเสน่ห์มากมายด้วย
พอเห็นดิฉันก็ทำตาโตแล้วทักทายเสียงใส บอกว่าคิดถึงจังเลย...ขณะนั้นดิฉันเพิ่งเก็บเครื่องสำอางลงกระเป๋า เลยยืนหันหลังให้กระจก หันหน้ามาคุยกับน้องปิ๋มเพลิน
เราคุยกันนานมาก หัวเราะกันร่วนเชียว ปิ๋มเธอหัวเราะง่ายอยู่แล้ว
ในที่สุดดิฉันก็ขอตัว ออกจากห้องน้ำกลับไปหาเพื่อนฝูง...พอนั่งลงก็บอกว่าเมื่อตะกี้หายไปนานหน่อย เพราะเจอปิ๋มเลยคุยกันยาว
พูดแค่นี้ทุกคนก็เงียบกริบ ชะงักกึกไปหมด เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งโพล่งว่า พูดบ้าอะไรก็ไม่รู้! ดิฉันชักเอะใจ ยืนยันว่าเรื่องจริงไม่ใช่พูดเล่น...มันมีอะไรแปลกประหลาดเหรอ?
เพื่อนๆ บอกว่าปิ๋มน่ะเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตายที่ลำปางหลายเดือนมาแล้วนะ!
ฟังแล้วอดหัวเราะไม่ได้ บอกว่าพวกมันแหละหลอก...แหม! ตลกร้ายเกินไปหน่อยล่ะมั้ง? เดี๋ยวน้องปิ๋มออกมาจะมองหน้าเธอยังไง พูดจาถึงเธออัปมงคลปานนั้น
วิทย์ เพื่อนคนหนึ่งพูดเสียงเครียดเลยว่า พวกเราไม่ได้หลอกเล่นนะโว้ย! เรื่องแบบนี้จะหลอกหาพระแสงอะไร?
หลายคนเบียดตัวเข้าหากัน เหลียวล่อกๆ แล่กๆ ในความสลัว คงกลัวว่าปิ๋มจะโผล่เข้ามาจ๊ะเอ๊ สาวๆ บางคนเสียงสั่น...ขอกลับก่อนดีกว่า!
ดิฉันเห็นท่าก็รู้ว่าเรื่องจริงล่ะซี เลยถามว่าปิ๋มตายคาที่เหรอ...ทำไมดิฉันไม่รู้เลย
พวกเพื่อนๆ ก็บอกว่าไม่ได้เล่า เพราะกว่าจะทราบข่าวจากกลุ่มนั้นก็เมื่อไม่นานนี้เอง เราไม่ถามเขาก็ไม่ได้ บอกน่ะซี! จนกระทั่งมีคนถามถึงน้องปิ๋มจึงรู้ว่าเธอรถคว่ำตายแล้ว
ที่เพื่อนๆ ไม่ได้บอกดิฉันก็เพราะไม่ได้ใส่ใจอะไรนักหนา...แค่คนเห็นๆ หน้ากันเท่านั้นเอง!
เพื่อนถามว่าเห็นปิ๋มแต่งชุดสีอะไร? ดิฉันเล่าว่าสีแดง เป็นชุดตัดง่ายๆ ตรงๆ สายเดี่ยว เธอดูสวยมากในแสงไฟห้องน้ำสว่างไสว พูดคุยกับดิฉันเหมือนคนปกติทุกอย่าง
และแล้ว...ดิฉันก็เพิ่งนึกได้ว่า ธรรมดาเวลาผู้หญิง เม้าธ์กันในห้องน้ำ พวกเรามักจะยืนที่อ่างล้างมือหน้ากระจก แต่คืนนี้ดิฉันหันหลังให้กระจกเพราะหมุนตัวมาพอดี...เลยไม่มีโอกาสดูว่าปิ๋มมีเงาสะท้อนหรือเปล่า?
อย่างที่เชื่อกันว่าผีจะไม่มีเงาในกระจกไงคะ!
คิดแล้วอดเสียวไส้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ! ทำไมน่ะเหรอคะ? ก็ถ้าหากว่าเรายืนคุยกันอย่างเดิม แล้วดิฉันไม่เห็นเงาเธอในกระจกนั่นล่ะ? บรื๋ออออ...
หรือว่าถ้าเธอมาในลักษณะที่น่าเกลียดน่ากลัว ดิฉันจะทำยังไง? คงสติแตกแน่เลย
คิดอีกทีก็ใจหาย การที่ดิฉันเจอน้องปิ๋มนี่ พูดไม่ได้เลยว่าถูกผีหลอก มันเป็นการทักทายจากวิญญาณ และเป็นข้อพิสูจน์ว่าผีมีจริง! เธอยังสบายดี ไม่เละเทะเจ็บปวดในโลกใหม่หรือในมิติที่เหลื่อมซ้อนกันพอดีในชั่วขณะนั้น
เธอคงจะคิดถึงที่นี่ ที่เคยมาเที่ยวเป็นประจำ คิดถึงเพื่อนๆ กับคนที่เคยเห็นหน้ากัน รู้จักกัน เคยพูดคุย เคยมีความสุขสนุกสนานเมื่อครั้งที่กายเนื้อยังไม่แตกสลาย
ด้วยความคิดถึงรุนแรง จิตที่มีพลังจึงทำให้ปรากฏกายขึ้นมาให้คนเห็น...คนที่ยังไม่รู้ข่าวตายของเธอ! ขอให้วิญญาณปิ๋มจงไปสู่สุคติเถอะนะ...
หน้า:
[1]