arr_tao โพสต์ 2014-3-13 16:48:58

แม่ของเรา


เรื่องที่จะเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีก่อน ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ ม.3 โรงเรียนที่ใกล้หมู่บ้านมาก ตอนเช้าผมติดรถพ่อมาลงหน้าโรงเรียน ส่วนตอนเย็นผมเดินกลับบ้านได้สบาย...นอกจากจะใกล้บ้านแล้ว โรงเรียนนี้ยังอยู่ติดเป็นรั้วเดียวกับโรงพยาบาลชื่อดังด้วย

เรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นที่นี่เองครับ!

วันหนึ่งเพื่อนผมชื่อศราวุธ ป่วยหนักด้วยอาการไส้ติ่งแตก นี่เป็นเรื่องใหญ่เชียวล่ะ ถ้าเป็นไส้ติ่งธรรมดาแค่ผ่าตัดก็หมดเรื่อง แต่นี่ไส้ติ่งแตกแน่ะ! หนองจะไหลออกมาเต็มช่องท้อง มันเป็นอันตรายและเจ็บปวดมากเชียว...แม่ผมบอก

ฉะนั้นอาการของศราวุธจึงหนักเอาการ เขามานอนโรงหมอที่อยู่ติดโรงเรียนเรา ดังนั้นตอนเย็นๆ เพื่อนๆ ก็จะแห่ไปเยี่ยม แต่หมอยังไม่ให้เข้าไปกวนคนไข้

พวกเราก็ได้แต่ชะแง้มอง แล้วก็แยกย้ายกันกลับ

วันที่สี่หลังจากเข้าโรงพยาบาล ตอนเย็นผมถามเพื่อนๆ ว่าจะไปเยี่ยมเขามั้ย? วันนั้นเกิดอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีใครว่างจะขึ้นไปเยี่ยมเจ้าวุธเลย...แต่ไม่เป็นไร ผมไปคนเดียวก็ได้

หลังเลิกเรียนพิเศษตอนเย็น ผมอ้อยอิ่งอยู่กับเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่โรงเรียนจนถึงหกโมงกว่าๆ ต่างคนต่างก็กลับบ้าน ผมเดินผ่านโรงพยาบาลแล้วเลี้ยวเข้าไป...จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์ตรงไปยังห้องที่ศราวุธนอนรักษาตัวอยู่

ผมเคาะประตูก๊อกๆ แล้วหยุดนิ่งก่อนจะค่อยๆ เปิดเข้าไป ศราวุธนอนหลับสนิท ผมไม่ปลุกเขาหรอก...และพอก้าวเข้าไปก็รู้ว่าในห้องมีญาติของเขาคนหนึ่งนั่งอยู่เงียบๆ

บนโซฟามีหญิงคนหนึ่งแต่งชุดสีฟ้าอ่อนนั่งอยู่ เธอเอามือประสานไว้บนตักมองดูศราวุธด้วยสายตาอ่อนโยน และหันมายิ้มกับผม พลางเขยิบตัวเป็นเชิงให้ผมนั่งด้วย ผมยกมือไหว้อย่างเรียบร้อย กะด้วยสายตา...เธอผู้นี้คงมีอายุพอๆ กับแม่ของผมล่ะครับ

เธอสวยดี ผมเป็นลอนยาวแค่คอ ติดกิ๊บเพชรดูวาวๆ และมีสร้อยคอไข่มุก...ผมมองเธออย่างไม่เบื่อ ตัวเธอหอมด้วยล่ะ...เหมือนกลิ่นดอกไม้ ไม่ใช่ฉุนแบบน้ำหอมทั่วไป

นั่งใกล้ๆ แบบนี้ ผมอบอุ่นอย่างประหลาด อากัปกิริยาของเธอแช่มช้า เรียบร้อย...แต่เธอไม่พูดอะไรเลยสักคำ คงกลัวเจ้าวุธตื่น ผมก็เลยพลอยไม่กล้าพูดไปด้วย

รู้สึกว่าวันนี้แอร์ค่อนข้างจะเย็นกว่าปกติ...บางทีเล่นเอาขนลุกซู่เลย!

แม้จะนึกชอบเธอ แต่เมื่อนั่งเงียบๆ ไปนานๆ มันก็ชักอึดอัดชอบกล ผมขยับจะลากลับ แต่เหมือนเธอจะรู้ใจ เธอยกมือข้างหนึ่งมาข้างๆ ตัวและยิ้มให้คล้ายจะบอกว่า...อย่าเพิ่งกลับเลย! ผมก็เลยเกรงใจ คิดว่าอีกเดี๋ยวเจ้าวุธตื่นจะได้รู้ว่าผมมาเยี่ยม...ดีเหมือนกัน

ทันใดนั้นเอง ประตูห้องก็เปิดออก ป้าของเจ้าวุธเดินฉับๆ เข้ามา พอเห็นหน้าผมก็ทักเสียงดังเชียว...ความที่ตกใจ ผมหันขวับมาทางขวามือที่คุณผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่

คุณพระช่วย! โซฟาตรงนั้นว่างเปล่า!!

ผมงงมาก งงไปหมด...อะไรกันนี่? เมื่อกี๊เธอยังนั่งอยู่ตรงนี้ เพียงแค่พริบตาเดียวเธอหายไปไหนแล้ว?

ผมโดดลุกขึ้นผาง ป้าของเจ้าวุธก็ตกใจ ถามว่าอะไรกัน? ผมปากคอสั่นบอกว่า เมื่อตะกี๊มีคุณน้าผู้หญิงนั่งข้างๆ ผม เธอไม่ใช่คนหรือนี่?!

ป้าเจ้าวุธเอามือทาบอก ถามว่าหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไง? ผมก็บอกว่าแต่งสีฟ้า ผมยาว ดัดเป็นลอนๆ หน้าสวย ไม่แต่งหรือพอกเครื่องสำอาง และมีสร้อยไข่มุกด้วย...

ปรากฏว่าเธอผู้นั้นคือคุณแม่ของเจ้าศราวุธเองครับ ไม่ใช่ใครอื่น!

คุณแม่ของศราวุธเสียชีวิตไปนานแล้ว ตั้งแต่ศราวุธอายุได้ 7-8 ขวบ ผมไม่ใช่เพื่อนสนิทของเขาก็เลยไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้...แหม! อุตส่าห์อยู่ห้องเดียวกันมาตั้ง 3 ปี ผมไม่ได้สนใจว่าเจ้าวุธน่ะกำพร้าแม่

ป้าเจ้าวุธร้องโถๆๆ ผมกลัวแทบหัวหงอกแน่ะครับ

ในที่สุดป้าก็ปลอบว่า อย่ากลัวเลยนะ วิญญาณนั้นมาดี เป็นวิญญาณของแม่ที่รักและห่วงใยลูกอย่างเปี่ยมล้น...ดูสิ! ตายแล้วยังมาเฝ้าดูแล!

ผมไม่กล้ากลับบ้านคนเดียว ต้องโทร.บอกแม่ให้มารับที รออยู่เกือบ 20 นาทีแม่ก็ขับรถมารับ ถามว่าไม่สบายหรือเปล่า? ผมบอกว่าเปล่าหรอก แต่เพิ่งโดนผีหลอกอย่างจั๋งหนับ มาหยกๆ นี่เอง! อึ๋ย...

แล้วผมก็เล่าเรื่องน่าขนหัวลุกให้ฟัง...แม่กลับบอกว่า อย่างนี้เขาไม่เรียกว่ามาหลอกหลอนหรอกนะ แค่เราเห็นเขาเอง...แม่น้ำตาคลอเลยครับ

วันนี้ผมหายกลัวไปนานแล้ว แต่ยังประทับใจ และรู้สึกซาบซึ้งไม่หาย ทำให้ผมรักแม่ขึ้นอีกมากด้วย...แต่ทำไมพอนึกถึงภาพใบหน้าของแม่เจ้าวุธวันนั้นทีไร ผมถึงรู้สึกขนหัวลุกก็ไม่รู้ซีครับ!

moo2010 โพสต์ 2014-9-29 09:17:54

{:5_139:}น่าสงสาร

praken911 โพสต์ 2014-10-26 20:25:09

ขอบคุณครับ

Wottisit โพสต์ 2014-12-1 22:17:25

ขอบคุณครับ

nunda โพสต์ 2014-12-29 01:49:33

ขอบคุณคับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: แม่ของเรา