สมาคมชาวแฟลต
สมาคมชาวแฟลต....โดย oramaจากแดนอีสานบ้านเกิดเมืองนอนมาเล่นละครบทชีวิตหนักจากพ่อแม่มาก๊อกก๊อก บ่ายโมงกว่าๆ ของวันเสาร์ ผมกำลังเพลินกับเสียงเพลงจาก คอมอันแสนไพเราะก็ต้องสะดุดอารมณ์ด้วยเสียงเคาะประตูสองสามครั้ง ผมลุกจากที่นอนด้วยอาการเซ็งๆ เพราะวันหยุดทั้งทีจะได้นอนฟังเพลงสบาย ๆ บ้าง หลังจากที่ต้องทำงานจันถึงศุกร์ ผมเปิดประตูออกไปเห็นเด็กหนุ่มหน้าตาซีดๆยืนอยู่ด้วยอาการกล้า ๆ กลัว ๆ คุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นหน้า “ขอโทษครับพี่ ผมอยู่ห้อง 415 ตรงโน้นนะครับ” “อืม...แล้ว” “ผมอยากจะรบกวนยืมเงินพี่สักร้อยนึงนะครับผมยังไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้ว แม่ยังไม่ส่งเงินมาให้จากต่างจังหวัดนะครับ” ผมสังเกตเห็นน้องเขามีอาการโรยๆ คงจะเกิดจากความหิวจริง ๆ “เฮ้ย....แล้วอยู่ได้ไง หิวมากหรอ” “ครับ...ผมจะเป็นลมอยู่แล้วครับพี่” น้องเขาพูดแล้วก็มีอาการเซ ๆ ผลรีบเข้าไปพยุง “เข้ามาในห้องพี่ก่อน” ผมพยุงน้องเขาเข้ามาในห้องพามานั่งที่โต๊ะญี่ปุ่นกลางห้องที่ผมจัดไว้เป็นโต๊ะกินข้าว “ขอบคุณครับ ผมหิวจนไม่มีแรงจะยืนแล้ว” “งั้นเดี๋ยวพี่หาข้าวให้กิน” “ไม่เป็นไรครับ รบกวนเปล่า ๆ แค่พี่ให้ผมยืมเงินก็เป็นพระคุณแล้วครับ เดี๋ยวผมไปซื้อกินเองได้” “เฮ้ย...ไม่รบกวนหรอก เรื่องเงินพี่ไม่มีปัญหาหรอก แต่ตอนนี้ท่าทางนายจะไม่มีแรงแม้แต่จะเดินลงไปซื้อข้าวแน่ ๆคงตกบันไดตายก่อนนี่ชั้น 4 เชียวนะ” ผมเปิดตู้เย็นขนาด5.5 คิว รินน้ำเย็น ๆ ให้น้องเขาดื่ม “ดื่มน้ำก่อนแค่ค่อย ๆจิบนะเดียวจะแสบกระเพาะ”น้องยกมือไหว้แล้วรับแก้วน้ำไปค่อย ๆ ดื่ม อืม ไอ้เด็กคนนี้ใช้ได้มือไม้อ่อนมีสัมมาคารวะด้วย ผมเปิดหม้อข้าวแล้วตักข้าวใส่จานแล้วเปิดฝาชีดูกับข้าวที่ผมเพิ่งกินไปเมื่อตอนเที่ยงยังเหลือกะว่าจะเก็บไว้กินตอนเย็น ผมลำเลียงผัดบวบใส่ไข่ แกงจืดวุ้นเส้นและพะแนงหมูมาวางไว้ที่โต๊ะญี่ปุ่น “กินตามสบาย รองท้องให้มีแรงก่อน แล้วค่อยไปซื้อหาไรกิน” “ขอบคุณครับ” น้องเขายกมือไหว้แล้วรีบตักแกงใส่กับข้าวก้มหน้าก้มตากินแบตายอดตายอยากจริงๆ สงสัยจะหิวจริงๆ อย่างที่น้องเขาว่า ผมเขยิบออกมานั่งพิงมองอยู่ห่างๆ เพราะกลัวน้องเขาจะเขินไม่กล้ากิน แล้วมองไปที่เด็กหนุ่มคนนั้น เป็นหนุ่มผิวขาวเหลืองๆ ผิวพรรณดี รูปร่างสมส่วน ไม่อ้วนแต่ไม่ผอมจนแห้งอายุไม่น่าเกิน 20นุ่งกางเกงนักเรียนสีดำขาสั้นใส่เสื้อยืดสีเขียวเหมือนทหารตัดผมสั้นรองทรง ที่ข้อมือมีด้วยสีคล้ำๆผูกไว้สองสามเส้นต้นคอขาวเนียนมีสายร่มคล้องไว้ “พี่ครับเสร็จแล้วครับ” เสียงของน้องเขาทำให้ผมตื่นจากผวัง” “อ้าวอิ่มไวจัง” ผมพูดแก้เขินทันที “ผมกินของพี่หมดเลยครับ” “อิ่มมั้ยล่ะ” “อิ่มมากเลยครับ ขอบคุณพี่อีกครับหนึ่งครับ”น้องเขายกมือไว้อีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่ไปไงมาไงถึงมาเคาะห้องพี่ล่ะ” ผมเริ่มถามประวัติ “ผมชื่อเต้ครับ เป็นคนสกลคร มาเรียนที่.................... ได้ปีกว่า ๆ แล้วครับผมเรียนสาขาอีเล็กทรอนิกส์” “คนอีสานเหมือนพี่เลย พี่คนโคราช” “นั่นแหละครับ ทำให้ผมกล้าที่จะเคาะห้องพี่ เพราะผมได้ยินพี่เปิดเพลงไมค์คิดว่าพี่ต้องเป็นคนอีสานเหมือนผมแน่ ๆ ” “อ๋อ.......” ผมถึงบางอ้อเลย “ผมเห็นพี่หลายครั้งแล้วครับ แต่ไม่คิดว่าพี่จะเป็นคนอีสานคิดว่าพี่เป็นคนใต้” “อ้าว...ทำไมคิดว่าพี่เป็นคนใต้ล่ะ” “ก็จมูกพี่โด่ง ผิวก็ออกเข้ม ๆ และแฟลตนี้ก็มีแต่คนใต้อยู่เกือบทั้งนั้น” แฟลตที่ผมอยู่ย่านคลอตันส่วนใหญ่จะเป็นคนใต้อยู่เป็นครอบครัวก็เยอะเด็กมาเรียนรามก็ไม่ใช่น้อยเลยเหมือนเป็นย่านคนใต้ บางวันมีแต่ทองแดงเกลื่อนไปหมด “คนโคราชผิวก็แบบนี้แหละจะออกเข้ม ๆ” “ครับ...” “แล้วทำไมเราถึงหิวโซมาขนาดนี้ ไม่มีเงินติดตัวเลยหรอ” “ผมเอาเงินค่ากินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนนะครับแม่บอกว่าจะส่งเงินมาให้แต่ก็เงียบไปผมโทรไปหาแม่ก็ไม่มีสัญญาณ ผมเหลือเงินติดตัวอยู่ร้อยกว่าบาทหมดไปตั้งแต่วันพุธนะครับ แล้วผมก็ไมได้กินอะไรลงท้องอีกเลย” “เฮ่ย...หลายวันเชียวนะ แล้วทำไมไม่ยืมเพื่อน ๆ ละ” “ผมไม่กล้านะครับ เพราะดูเพื่อน ๆ ก็คงไม่ต่างจากผม” คงเป็นอย่างที่น้องเขาว่าเพราะสถานศึกษาแห่งนี้ก็ใช่ว่าจะมีลูกคนรวยมาเรียนก็คงเป็นประเภทหาเช้ากินค่ำเพื่อส่งลูกเรียน คงจะไม่มีใครให้ยืมแน่ ๆ “แล้วโทรกลับบ้านอีกตอนไหน” “ผมไม่มีเงินค่าโทรศัพท์นะครับ” “อ้าว เราไม่มีมือถือหรอ” “ไม่มีครับ ผมโทรสาธารณหาแม่ฝ่ายเดียว” “ งั้นเอาเบอร์มาเดี๋ยวพี่ลองโทรให้” น้องเขาควักกระเป๋าสตางค์ที่ไม่มีสตางมีแต่เศษกระดาษสี่ห้าแผ่นพับแน่นอยู่ในกระเป๋า ผมรับกระดาษที่มีเบอร์โทรมากดเบอร์แล้วโทรออก ตูด ตูด “สวัสดีครับ ใช่คุณแม่ของน้องเต้มั้ยครับ” “แม่นค่ะ มีอีหยังค๊ะ บักเต้ไปเฮ็ดอีหยังหรือค๊ะ”ปลายสายถามมาเป็นภาษาอีสานด้วยความตกใจ “ใจเย็นครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ น้องเต้นั่งอยู่กับผมข้าง ๆ นี่แหละครับเดี๋ยวคุยกับน้องเต้นะครับ” “ค่ะ” “แม่....ผมโทรหาแม่เมื่อสองวันก่อนมันคือบ่อติดแม่บ่เปิดโทรศัพท์ติ” “ไปนอนเถียงนามันบ่มีสัญญาณเป็นจังใดคือมาอยู่กับเพิน” “คือผมบ่มี....”ผมรีบยกมือห้ามเพราะกลัวแม่น้องเต้จะเป็นห่วง ผมเอามือปิดโทรศัพท์ “ไม่ต้องบอกแม่หรอกว่ามาขอข้าวพี่กิน เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วง” “ครับ” “ผมยืมโทรศัพท์เพินโทรมาหาแม่ แม่ส่งเงินให้ผมแล้วบ่” “โอ้ย....แม่ลืม คาแต่ยุ่งเรื่องนั่นยุ่งเรื่องนี่ แม่บักโตนมันถืกรถชนตาย คาแต่ซอยงานศพเพิน” “ตายมือใด” “วันพุธตอนคำ มันออกไปใสดุถืกอีแต็นชนตายคาทางแยกเข้าหมู่บ้าน” “เสร็จงานศพแล้วบ่” “ยังดอกรอบักโตนมันกลับมาก่อนเดี๋ยวแม่ไปส่งเงินให้เด้อแค่นี้ก่อนเขามาตามไปงาน” “ครับ ๆ” เต้วางสายคุยกับแม่แล้วยื่นโทรศัพท์ให้ผม ด้วยอาการหงอย ๆ “อ้าวไม่ดีใจหรอติดต่อกับแม่ได้แล้ว” “แม่ยังไม่ส่งเงินมาเลยนะซิรับ” “เอาน่าแค่นี้เองเดี๋ยวเอากับพี่ไปก่อน แม่ส่งมาแล้วค่อยเอามาให้พี่” ผมพูดเสร็จก็หยิบกระเป๋าสตางเปิดออกหยิบใบร้อยยื่นให้เต้ไป5 ใบ “ผมเกรงใจพี่นะครับ” “ไม่ต้องเกรงใจหรอก กว่าเงินจะมาถึงคงอีกหลายวัน ถ้าไม่พอก็มาบอกพี่นะ” “ขอบพระคุณมากครับพี่” “เรียกพี่ว่าต๊ะก็ได้” “ครับพี่ต๊ะ” “ว่าแต่เมื่อกี้เห็นบอกว่าแม่โตนตายพอเราได้ยินทำไมถึงตกใจ” “แม่โตนคือญาติห่าง ๆ ของผมนะครับเจ้าโตนก็เหมือนลูกพี่ลูกน้องอายุเท่าผมเรียนมาด้วยกันเล่นมาด้วยกันพอจบ ม.3 มันไม่ยอมเรียนต่อมันอยากทำงาน มากกว่าชวนมันมาเรียนที่กรุงเทพด้วยมันก็ไม่มาผมเลยมาเรียนคนเดียว” “อ้าวแล้วนี่เรามาอยู่คนเดียวหรอ” “ผมอยู่กับอาพรครับ” อาพรที่เต้พูดถึงคือน้องพ่อที่มาทำงานที่กรุงเทพอาชีพพนักงานขายเครื่องสำอางค์ “แต่อาพรเป็นน้องพ่อครับ แกเช่าห้องไว้แต่ไม่ค่อยอยู่ห้อง บางทีหายไปทีสองเดือนแกก็เลยชวนผมให้มาอยู่กับแกเพื่อเฝ้าห้องให้อาพรด้วยและก็เรียนไปด้วยครั้งนี้แกไปได้ เดือนกว่าแล้วครับ เห็นบอกว่าไปเปิดบูธที่สุราษ” ผมสังเกตหน่วยก้านท่าทางจะเป็นเด็กรักดีจากเมื่อสักครู่ก่อนเข้ามาหน้าตาอิดโรย แต่ตอนนี้หน้าและแววตาสดใส ยิ้มเก่งอัธยาศัยดี ผมมองหน้าชัดๆ จัดได้ว่าหน้าตาดีทีเดียว จมูกโด่ง แต่ไม่ถึงกับโด่งมาก ปากได้รูปหน้าเรียว คิ้วหนาเป็นแผงเลยมีไรหนวดอ่อน ๆ ขึ้นริมฝีปาก “ผมรบกวนพี่มากเลยกินไปหรือเปล่าครับเดี๋ยวผมขอกลับห้องก่อน” “เฮ้ย...ไม่เป็นไร รบกวนที่ไหนล่ะพี่ก็อยู่คนเดียวมีเต้มาเป็นเพื่อนคุยแก้เซ็งจะรีบไปทำธุระที่ไหนหรือเปล่าล่ะ” “ไม่มีครับ” “งั้นดีเลย อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อน เดี๋ยวกินข้าวเย็นแล้วค่อยไป” “จะเป็นการรบกวนพี่มากเกินไปนะซิครับ” “ไม่หรอกพี่จะได้มีเพื่อนกินข้าวด้วย” “งั้นเดี๋ยวผมกลับไปห้องก่อนนะครับเดี๋ยวมาใหม่” “ตามสบาย” น้องเต้ลุกออกจากห้องผมเดินไปปิดประตูมองตามหลังน้องเต้เห็นน้องเต้หันมายิ้มแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง 415 ********************** ก๊อก ก๊อก ขอบคุณครับ สมาคมชาวแฟลต....โดย orama
ก๊อก ก๊อก
“พี่ต๊ะครับ ผมเต้คราปปปป”
“ได้ยินแล้ว”ผมพูดพร้อมกับลุกไปเปิดประตูให้เจ้าเต้เขามาในห้องความสัมพันธ์ฉันพี่น้องในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาของเราสองคนสนิทกันขึ้นทุกวัน เริ่มมีการหยอกเอิน แซวกลับบ้างบางครังเต้ก็มานอนค้างเพื่อดูหนังแผ่นที่ห้องผม
“ไปกันหรือยังครับผมพร้อมแล้ว”
“อาพรอยู่ห้องหรอ” ผมเรียกอาพรตามน้องเต้ซึ่งผมคิดว่าแก่กว่าผมไม่กี่ปีหลังจากที่น้องเต้ได้แนะนำให้รู้จักกันก็แทบจะไม่เคยคุยกันเลยเจอกันก็ได้แต่ยิ้มให้ เพราะไม่ค่อยอยู่ห้องมาจ่ายค่าห้องแล้วก็หายไปอีกเป็นเดือน
“อาพร ไปหลายวันแล้วครับ”
“อ้าว.....มาอยู่กี่วัน”
“ไม่ถึงวันครับมาอาบน้ำแล้วเอาเสื้อผ้าเก่าออกให้ผมซักให้แล้วก็เอาของใหม่ใส่กระเป๋าไปต่อ”
“เออ...ดีเนาะมีคนคอยซักผ้าให้”
“พี่ต๊ะจะให้ผมซักให้ก็ได้นะครับผมคิดไม่แพง”เจ้าเต้มันเริ่มเกมส์เสนอราคา
“มะเหง็กนี....”
“5555555ผมล้อเล่นครับถ้าเป็นของพี่ต๊ะผมยินดีซักให้ตลอดชีวิตเลย”
“จริงง่ะ…อย่ามาทำเป็นปากดี”
“จริงครับ...ผมจะซักให้หลายครั้งแล้วแต่พี่ต๊ะไม่ยอม”
“พี่ชอบทำของพี่เองมากกว่า เพราะเสื้อผ้าพี่ใส่เองรู้ว่ามันเปื้อนตรงไหนว่าแต่วันนี้เราจะไปไหนดี”
“นั่นแน่ ...อย่ามาทำเป็นลืมพี่บอกว่าจะพาผมไป เจเจ”เจเจนี่หมายถึงสวนจตุจักร
“ได้ว่าแต่วันนี้จะซื้ออะไรหรอ”
“ผมอยากได้หนังสือวงจรอีเล็กทรอสิกน์เก่า ๆ นะครับจะเอามาเปรียบเทียบดู “
ที่ตลาดนัดเจเจจะมีทุกอย่างที่อยากได้หนังสือเรียนเก่า ๆ เต้เรียนอีเล็กทรอนิกเลยอยากได้หนังสือวงจรไฟฟ้ามาศึกษาเพิ่มเติมผมเห็นเขาไฝ่เรียนก็เลยอยากสนับสนุน
ผมขับรถ TOYOTA คันโปรดออกจากแฟลตแถวคลองตันมาตามทางถนนรามคำแหงเพื่อไปโผล่ลาดพร้าวแล้วเข้าจตุจักรหาที่จอดรถเรียบร้อยก็พาเต้เดินดูของไปเรื่อย ๆ
“ได้หนังสือหรือยังเต้”
“ได้มา 3 เล่มครับ”
“เล่มเท่าไหร่ล่ะ”
“ลุงเขาขายให้เล่มละ 10 บาทครับ” เต้ยกถุงหิ้วให้ดูหนังสือ 3 เล่ม ที่เขาบอกได้มาอย่างภาคภูมิใจกับราคา 30 บาท
“แล่วพี่ต๊ะได้อะไรหรือยัง”
“ได้แล้วนี่ไง”ผมยกถุงหิ้ว สองสามใบให้เต้ดู
“โหพี่ต๊ะช๊อปเก่งนะครับนี่ 5555”
“แล้วเต้ จะซื้ออะไรอีกมั้ย”
“ไม่ล่ะครับผมตั้งใจมาดูหนังสืออย่างเดียว”
“งั้นกลับกันมั้ย เราเดินมาชั่วโมงกว่าแล้วนะ”
“ดีเหมือนกันครับเริ่มเมื่อยแล้วร้อนด้วย”
“งั้นเรากลับดีกว่า”
“ครับ”
ผมกับเต้เดินมาที่จอดรถที่จอดไว้ด้านหลังสวนเจเจ ก่อนที่จะขับออกไปตามเส้นทางเดิมที่ขับมาเพื่อกลับไปยังแฟลต
**********************************
ระหว่างเดินขึ้นแฟลตเต้ขอตัวไปอาบน้ำที่ห้องของเขาเพราะบอกว่าเหนียวตัวมากผมเองก็ร้อนเหมือนกันเปิดห้องได้ก็สลัดเสื้อผ้าเสร็จก็พุ่งเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำทันที
นานเท่าไหร่ไม่รู้จนได้ยินเสียงเต้ตะโกนเข้ามา
“ทำไมอาบน้ำนานจังครับพี่ต๊ะ.....รู้นะแอบทำไรอยู่ 55555555555”
“อาบน้ำอย่างเดียวโว้ยน้ำมันเย็นดีเลยอาบนานไปนิด”ผมพูดเสร็จก็หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดตัวแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกมาโดยนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
“โห...ผิวพี่สีแทนสวยมากเลยครับ หุ่นดีด้วย”ผมเดินเปลือยอกออกมา โดยมีหยดน้ำเกาะพราวเต็มตัวเจ้าเต้มองผมด้วยสายตาชื่นชมในรูปร่างผม
“อย่าชมเดี๋ยวลอยตกตึก”ผมเอามือยีหัวเต้ที่นั่งข้าง ๆ ถุงหิ้วที่ใส่ของมาจากเจเจ
“ถุงสีขาวเต้ดูซิว่าใส่ได้มั้ย” ผมบอกเต้แล้วค่อย ๆ นังยอง ๆ ลงข้าง ๆ
“พี่ซื้อให้ผมหรือครับ”
“ใช่…พี่เห็นเราใส่เสื้อผ้าตัวเดิม ๆ ก็เลยซื้อให้”
“เปลืองเปล่า ๆ ครับ ผมไม่ได้ไปไหนเสื้อใหม่ ๆ ผมก็มีแต่เก็บไว้ใส่เที่ยวแต่ก็ไม่ได้เที่ยวไหน เลยเก็บตายเลย 55555” เต้พูดพร้อมกับเทถุงหิ้วสีขาวออก
“โห......สวยมากเลยครับพี่ต๊ะของคุณครับ”เต้พอมองเห็นชุดที่ผมซื้อให้ยกมือไหว้ผมด้วยความนอบน้อม
“ลองใส่ดูซิพี่ว่าเราน่าจะใส่ได้พอดี”ผมซื้อกางเกงยีนส์ขาเดฟที่วัยรุ่นชอบใส่พร้อมกับเสื้อยืดสีขาวสกีนลายกาตูนรูปหมาสีฟ้าที่เต้ชอบ
“สวยถูกใจมากเลยครับพี่ต๊ะ เอาไปลองก่อน”เต้พูดพร้อมกับลุกขึ้นเตรียมวิ่งกลับไปเปลี่ยนที่ห้องผมรีบฉุดมือเต้ไว้
“ไม่ต้องไปหรอกเปลี่ยนที่นี่แหละพี่จะได้ดูด้วยถ้าไม่พอดีจะได้เอาไปเปลี่ยน”
เต้มีอาการอึกอัก
“หรือว่าอาย”
“ผมไม่อายอยู่แล้วครับผู้ชายด้วยกันจะอายไปทำไม” เต้พูดพร้อมกับเอาชุดเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำโดยมีผมพูดตามหลังว่า
“ไหนบอกว่าผู้ชายด้วยกันอายทำไม แล้วทำไมต้องเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วยล่ะ 55555”
ผมแซวเต้ตามหลัง
“เป็นไงบ้างเต้ใส่ได้พอดีหรือเปล่า”
“เสื้อพอดีครับ แต่กางเกงมันตึง ๆ พอดีเกินไป”
“มันยังไงว๊ะ พอดีเกินไปไหนเอามาดูซิ”
เต้ค่อย ๆ เปิดประตูห้องน้ำออกมาแบบอาย ๆ คงเพราะไม่เคยแต่งตัวแบบนี้แถมยังมีผมคอยจ้องดูอีกด้วย
“ก็สวยดี มันพอดีเกินไปตรงไหน”
“คือมันพอดีเป๊ะเลยครับ น่าจะใหญ่กว่านี้หน่อยเผื่ออ้วนขึ้นจะได้ใส่ได้นาน ๆ”
“อ๋อ...คือจะซื้อเผื่ออนาคตว่างั้นเถอะ”
“ก็ประมาณนั่นแหละครับ”
“ไม่ต้องหรอกสวยแล้วไหนเลิกเสื้อขึ้นซิ” เต้เป็นคนรูปร่างดี พอนุ่งกางเกงยีนส์แบบนี้ทำให้รูปร่างยิ่งดีขึ้นไปอีก
“เป้ามันสั้นไปนะครับดึงไม่ถึงเอว”
“เดี๋ยวนี้เขาก็นุ่งกันแบบนี้แหละนุ่งห้อย ๆ ตูด”
“มันเหมือนจะหลุดตูดนะครับ”
“ไม่หรอกเดี๋ยวก็ชินกลัวอย่างอื่นหลุดมากกว่ามั้งแต่คงไม่หลุดหรอกเพราะไม่เห็นมีเลย 55555”
ผมแซวแล้วก็ชี้ไปที่เป้าจนเต้หน้าแดง
“มันยังไม่ถึงเวลาอลังกานคราฟฟฟฟพี่ต๊ะ”
“อยากเห็นตอนอลังกานจังว่าว่ามันจะเป็นงูดินหรือไส้เดือน 555555”
ผมพูดพร้อมกับนั่งยอง ๆ ลงข้าง ๆ แบบไม่ระวัง
“พี่ว่าขามันยาวไปนิดนึงนะ เดี๋ยวเอาไปให้ร้านเขาตัดขาให้หรือว่าจะเอาไว้พับล่ะ”
เงียบ.......เต้ไม่ตอบผมก็เลยเงยหน้าเพื่อมองเต้ว่าทำไรอยู่ถึงไม่ตอบผมสังเกตเห็นเต้จ้องลงมาที่เป้าผมซึ่งขณะนี้ผ้าขนหนูเปิดอ้าจนทำให้น้องชายผมหัวห้อยชี้ลงพื้น
“เฮ้ย...” ผมร้องขึ้นพร้อมกับรีบหนีบขาเข้าหากันอย่างรวดเร็วทำให้เสียการทรงตัวหงายหลังแต่ก่อนที่จะหงายหลังผมรีบคว้าเอวเต้ไว้ทำให้เต้ล้มตามลงมาพร้อมกับทับผมเข้าอย่างจัง
สมาคมชาวแฟลต....โดย orama
“เฮ้ย...” ผมร้องขึ้นพร้อมกับรีบหนีบขาเข้าหากันอย่างรวดเร็วทำให้เสียการทรงตัวหงายหลังแต่ก่อนที่จะหงายหลังผมรีบคว้าเอวเต้ไว้ทำให้เต้ล้มตามลงมาพร้อมกับทับผมเข้าอย่างจัง
ผ้าขนหนูหลุดออกจากเอว แต่มีเต้นอนทับร่างผมอยู่โดยที่ผมกอดเต้ไว้แน่น
“เออ.....พี่”ผมพูดอะไรไม่ออกเต้เองก็คงตกตะลึงนอนทับผมนิ่งเหมือนกัน หัวใจเต้เต้นแรงมาก หน้าแดง หูแดง หายใจแบบขัด ๆ
“เต้เต้” เรียกชื่อเต้เบา ๆ
“ขะขะคับ” เต้ตอบรับด้วยเสียงตะกุกตะกัก
เต้พยายามจะยันตัวลุกขึ้นแต่ผมกับกอดเต้แน่นยิ่งขึ้น
เด็กหนุ่มผิวขาวน่ารักน้ำหนัก 47 เบาเหมือนปุยนุ่น นอนทับบนร่างที่เปลือยเปล่าของผม ทำให้อารมณ์ความต้องการครุกรุ่นผมรู้ตัวเองดีว่าชอบผู้ชายด้วยกัน และก็เคยมีประสบการสมัยเรียนมาแล้วแต่สำหรับเต้ผมไมได้ได้คิดเกินเลยแต่ตอนนี้เหตุการณ์ณ์มันกลับทำให้ผมต้องอารมณ์พรุ่งพล่านอย่างหนัก
ผมค่อย ๆ ยกหัวขึ้นแล้วจูบไปที่ซอกคอของเต้เต้ถึงกับสนลุกซู่
“อย่าครับพี่ต๊ะ”
ผมไม่สนใจคำคัดค้านของเต้พลิกเต้ลงแล้วขึ้นก่ายทับเต้พร้อมระดมจูบไปตามส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า ซอกคอ
เต้มีอาการขนลุกอย่างเห็นได้ชัดหลับตาสนิด มือตกลงไปว่างที่พื้น พร้อมหันหน้าหนีการจูบของผม
ผมค่อย ๆ เลิกเสื้อเต้ขึ้นแล้วช้ลิ้นละเลงที่หัวนมเต้ซ้ายขวาสลับกันไป พร้อมกับดูดดุนหัวนมบ้างเป็นระยะ เต้มีอาการเสียวถึงกับแอ่นอกสู้
“อาร์......พี่ต๊ะอย่าเต้เสียว”เต้ปากบอกว่าอย่าแต่เอาสองมือมากดหัวผมหนักกว่าเดิม จนผมหายใจแทบไม่ออก
ผมหน้ามือแล้วครับตอนนี้เป็นไงเป็นกัน ปากดูดนมมือก็บี้หัวนมอีกบ้างส่วนมือที่เหลือผมก็ปลดกางเกงยีนส์เต้ออกอย่างช้า ๆ
“พี่ต๊ะอย่าครับ” เต่ยังคงหลับตา แต่ปากบอกว่าอย่า
ผมใช้เวลาไม่นานท่อนล่างเต้ก็เปลือยเปล่า
ควยน้องเต้ชูชันขาวเหมือนผิว ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ปลายยังเปิดได้ไม่เต็มที่ หมอยขึ้นตามวัยไม่ตกดำมาก หน้าน้องแบนราบ
ผมเอามือลงไปสาวควยน้องเต้ขึ้นลง มีน้ำใส ๆ เล็ดออกมาจากปลายควยน้องเต้ผมเอาปลายนิ้วไปแตะแล้วคลึงวนที่ปลายควย
“อากกกกกกกกพี่ต๊ะครับ ผมเสียวววววววววววววว” น้องเต่มีการการกระตุกและเสียงสั่น ๆ
ควยขนาดมาตรฐานชายไทยของผมขณะนี้มันแข็งจนปวด แทงสีข้างน้องเต้กึก ๆ ผมเลื่อนขึ้นทับน้องเต้ โดยใช้ควยบดขยี้ไปกับควยน้องเต้แล้วรีบประกบปากน้องเต้ดูดด้วยความดูดดื่ม
ผมใช้ลิ้นแหย่เข้าไปควานในปากน้องเต้ทูกซอกทุกมุม สับกับการดูดลิ้นและริมฝีปากน้องเต้เป็นระยะ ๆน้องเต้มีการการหายใจแรงและหัวใจเต้นแรงมาก
“เต้ครับเป็นของพี่นะครับ”ผมกระซิบไปที่ข้างหูน้องเต้
น้องเต้ไม่ตอบเอาแต่นอนหลับตายิ่ง
ผมบ้วนน้ำลายใส่มือแล้วค่อย ๆ เอาไปทาใต้ใข่น้องเต้แล้วค่อย ๆ กดนิ้วไล่ลงไปเรื่อย ๆ จนถึงรูตูดค่อย ๆ คลึงและบี้ปากรูตูดน้องเต้พอน้ำลายเริ่มแห้ง ผมก็บ้วนใส่มือใหม่ ทำอยู่สองสามรอบ
ผมค่อย ๆ ฉีกขาน้องเต้ออกจากกันแล้วใช้นิ้วชี้ค่อย ๆ แทงเข้าไปในรูตูดน้องเต้อย่างช้า ๆ
น้องเต้ใช้มือบีบต้นแขนผมแรงมาก
“อย่างเกร็งครับ ปล่อยไปตามสบาย” ผมกระซิบบอกน้องเต้อีกครั้ง แล้วก้มลงดูดนมซ้ายขวาสลับไปมาจนนิ้วชี้ผมเข้าไปอยู่ในตูดน้องเต้หมดทั้งนิ้วมันมีอาการตอดนิ้วมือผมเป็นระยะ ๆ
น้องเต้ยังคงนอนหลับตานิ่งหายใจหอบหัวใจเต้นแรงจนสังเกตเห็นได้ชัด
เยี่ยมมากมาก ขอบคุณมากครับ สุดยอดมากครับ ขอบคุณมากคราฟ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับบ ขอบคุณครับ{:5_118:} มาต่อเร็วนๆะครับ ขอบคุณครับ ชอบมากครับ ขอบคุณจากใจ สนุกมากครับผม กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม รับผิดชอบเลย อารมณ์ค้าง ขอบคุณมากมายครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ น่ารักปนเสียวเลยครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ