10 เหตุการณ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2557
ในช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 2556 วารสาร NewScientist ฉบับที่ 2948 ได้ตีพิมพ์บทความเรื่อง "10 เหตุการณ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2557" (2014 preview: 10 ideas that will matter next year) โดยสรุปได้ดังนี้เหตุการณ์ทางด้านอวกาศ
1. เป็นครั้งแรกที่ยานอวกาศจะโคจรรอบดาวหางและปล่อยตัวขับเคลื่อนบนพื้น (lander) เพื่อสำรวจดาวหางhttp://www.newscientist.com/data/images/ns/cms/mg22029484.800/mg22029484.800-1_300.jpg ที่มา: ESAในเดือนพฤษภาคมปี 2557 ยานอวกาศ Rosetta ของ The European Space Agency จะโคจรรอบดาวหาง Churyumov-Gerasimenko และในเดือนพฤศจิกายนหุ่นยนต์ตัวขับเคลื่อนบนพื้น (robotic lander) ที่ชื่อ Philae จะถูกปล่อยออกจากยานอวกาศ Rosetta เพื่อสำรวจบนพื้นดาวหาง โดย Philae จะขุดพื้นดาวหางเพื่อเก็บหินตัวอย่างและส่งหินไปวิเคราะห์บนยานอวกาศและจะส่งผลตรวจไปยังโลก เนื่องจากเหมือนดาวเคราะห์น้อย ดาวหางเป็นที่เก็บรักษาวัสดุที่ได้จากการเกิดของระบบสุริยะเมื่อ 4.6 พันล้านปีมาแล้ว ดังนั้นหินตัวอย่างจากดาวหางจึงสามารถบ่งบอกถึงจุดกำเนิดของมหาสมุทรของโลก งานสุดท้ายของ Rosetta จะเป็นการติดตามการสลายตัวอย่างต่อเนื่องของดาวหาง Churyumov-Gerasimenko ในขณะที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ในวันที่ 13 สิงหาคม 2558
2. ยานอวกาศ 2 ลำ จะออกเดินทางเพื่อวางแผนที่จะพาคนไปยังดาวอังคารในอีก 20-30 ปีข้างหน้า
ในเดือนกันยายนปี 2557 นาซาจะปล่อยยานอวกาศ Orion ให้เดินทางระยะสั้น 4 ชั่วโมงรอบโลก โดยนาซาหวังว่าการปล่อยยานในครั้งนี้ จะเป็นข้อมูลสำหรับการสำรวจอวกาศที่มีคณะบุคคลไปด้วยรอบดวงจันทร์ในปี 2564 การเดินทางไปยังดาวเคราะห์น้อยในปี 2568 และการเดินทางไปดาวอังคารในราวปี 2573
นอกจากนี้ในปี 2557 ยังจะเห็นการปล่อยจรวด Falcon Heavy เป็นครั้งแรก Falcon Heavy สร้างโดยบริษัทเอกชน SpaceX สามารถบินด้วยระยะทาง 13,200 กิโลเมตรบนหนทางสู่ดาวอังคาร เริ่มต้นส่งสิ่งของเครื่องใช้ไปยังพื้นผิวของดาวอังคารก่อนที่จะนำคนไป โดยอีกทางเลือกหนึ่ง Falcon Heavy สามารถปล่อยส่วนประกอบไปยังวงโคจรซึ่งสามารถประกอบกันเป็นพาหนะไปยังดาวอังคารได้
เหตุการณ์ทางด้านสิ่งมีชีวิต
3. เป็นครั้งแรกที่จะรู้ลำดับเบสของจีโนมมนุษย์ที่มีอายุ 1 ล้านปีhttp://www.newscientist.com/data/images/ns/cms/mg22029485.000/mg22029485.000-1_300.jpg ที่มา: North Carolina School of Science and Mathematicsจีโนมของสัตว์ที่มีอายุมากที่สุดที่ได้หาลำดับเบสจนถึงปัจจุบันคือ อายุ 700,000 ปี ได้มาจากฟอสซิลของม้าที่พบในทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคนาดาและได้รับการเผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2556 ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2555 ได้หาลำดับเบสของจีโนมหมีขาวขั้วโลกที่มีอายุ 110,000 ปี ในปี 2557 นี้ ลำดับเบสของจีโนมของบรรพบุรุษของมนุษย์คือ Homo erectus ซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 2 ล้านปีที่ผ่านมา จะได้รับการเผยแพร่ จนกระทั่งเร็วๆ นี้การที่จะได้มาซึ่งจีโนมของมนุษย์ที่มีอายุ 1 ล้านปีเป็นเรื่องยาก เนื่องจากดีเอ็นเอสามารถคงสภาพได้เป็นอย่างดีที่สุดในอากาศเย็น แต่มนุษย์อาศัยอยู่ส่วนใหญ่ในเขตร้อนของโลก แต่ในเดือนธันวาคมปี 2556 ความเชื่อนี้ได้เปลี่ยนไป ด้วยมีการเผยแพร่ลำดับเบสของจีโนมของไมโทคอนเดรียที่มีอายุ 400,000 ปี ซึ่งได้มาจากส่วนที่หลงเหลืออยู่ของมนุษย์ในยุคแรกที่พบในถ้ำ ประเทศสเปน นักพันธุศาสตร์ David Reich กล่าวว่า ดีเอ็นเอสามารถคงสภาพในอากาศร้อนถ้าสภาพแวดล้อมเหมาะสม
4. โลกที่สาบสูญใต้บริเวณขั้วโลกใต้จะได้รับการเปิดเผย
เมื่อปี 2555 ทีมชาวรัสเซียได้เจาะลงไปในทะเลสาบ Vostok ซึ่งเป็นน้ำลึกมากกว่า 500 เมตร ฝังตัวอยู่ข้างใต้น้ำแข็งที่บริเวณขั้วโลกใต้ที่มีความหนา 4 กิโลเมตร สิ่งตัวอย่างซึ่งทีมชาวรัสเซียนำขึ้นมาปนไปด้วยดีเอ็นเอ ซึ่งในช่วงเดือนธันวาคมปี 2556 กำลังวิเคราะห์เพื่อหาว่ามีสิ่งมีชีวิตในทะเลสาบ Vostok หรือไม่ และในปี 2557 นี้พวกเราจะค้นพบสิ่งที่ซ่อนเร้นในทะเลสาบแห่งนี้
เหตุการณ์ทางด้านสิ่งแวดล้อม
5. สิ่งสำคัญที่จะทำให้อยู่รอดได้ในสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงhttp://www.newscientist.com/data/images/ns/cms/mg22029485.200/mg22029485.200-1_300.jpg ที่มา: Mikkel Ostergaard/Panos Picturesในเดือนมีนาคมปี 2557 พวกเราจะได้รับรู้ข้อความจากรายงานฉบับถัดไปของ The Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) ซึ่งมีความพยายามครั้งแรกว่าในระยะ 7 ปีจะทำนายผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในเฉพาะพื้นที่ทางภูมิศาสตร์
รายงานผลกระทบ การปรับตัว และความไม่พร้อม (Impacts, Adaptation and Vulnerability report) ซึ่งเกิดขึ้นจากรายงานฉบับเดือนตุลาคมปี 2556 ของ IPCC ได้ทำนายว่า จะมีความแห้งแล้งมากในทางใต้ของทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง รัฐทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา และเป็นไปได้ในทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ส่วนสแกนดิเนเวียและแคนาดาจะมีฝนและหิมะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเตือนถึงความขาดแคลนของอาหารโลกและอากาศที่อบอุ่นมากขึ้นในเขตร้อน แต่รายงานนี้ไม่สามารถทำนายในทวีปเอเชียและแอฟริกาได้ โดยบอกแต่เพียงว่า ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีต่อน้ำในทวีปเอเชียและแอฟริกาไม่แน่นอน
ประเทศต่างๆ ควรจะเตรียมสำหรับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอย่างไร พวกเราไม่สามารถคาดหวังอีกต่อไปที่จะได้รับรายละเอียดของการทำนายแล้วมาปรับการตอบสนองของพวกเรา เช่น การสร้างเขื่อนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือลงทุนเกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศ แต่พวกเราต้องคิดให้มากขึ้นเกี่ยวกับการลดความไม่พร้อมที่การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอาจส่งมาที่พวกเรา ตัวอย่างเช่น การผลิตพืชที่สามารถเจริญได้ทั้งในสภาพแห้งแล้งและน้ำท่วม
6. รถยนต์ไฮโดรเจนจะวิ่งอยู่ตามถนน
รถยนต์ไฮโดรเจน Tucson ของบริษัท Hyundai ทำงานโดยเปลี่ยนไฮโดรเจนเป็นกระแสไฟฟ้า เซลล์กำเนิดไฟฟ้าของรถยนต์จะรวมไฮโดรเจนจากถังเก็บกับออกซิเจนในอากาศเกิดเป็นปฏิกิริยาเคมีไฟฟ้าซึ่งสร้างกระแสไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเพียงน้ำเป็นของเสียทำให้รถยนต์ไฮโดรเจนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ข้อดีของรถยนต์ Tucson อีกอย่างคือ ใช้เวลาเพียงนาทีในการเติมพลังงาน ซึ่งเมื่อเต็มถังจะวิ่งได้ระยะทาง 480 กิโลเมตร ซึ่งต่างจากรถยนต์ใช้แบตเตอรี่ใช้เวลาเป็นชั่วโมง บริษัท Hyundai บอกว่า รถยนต์ไฮโดรเจน Tucson สามารถวิ่งด้วยความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถยนต์ Tucson ปลอดภัยใช่ไหม ถ้าถังเชื้อเพลิงเกิดรั่ว เชื้อเพลิงจะระบายออกสู่อากาศไม่หกลงบนพื้นเหมือนรถยนต์ทั่วไป และได้ผ่านการทดสอบจากการชนและไฟมาอย่างมาก
เหตุการณ์ทางด้านเทคโนโลยี
7. ผลที่ตามมาจากการเปิดเผยการรณรงค์การตรวจจับ (spying campaigns)ในโลกอินเทอร์เน็ตและระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือhttp://www.newscientist.com/data/images/ns/cms/mg22029485.400/mg22029485.400-1_300.jpg ที่มา: Kacper Pempel/Reuters The Information Technology and Innovation Foundation คำนวณว่าบริษัทในสหรัฐอเมริกาจะสูญเสียรายได้เป็นเงิน 35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 2 ปีข้างหน้า เพราะความกลัวต่อการตรวจจับโดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ
การเปิดเผยยังอาจทำให้พวกเราใช้อินเทอร์เน็ตด้วยความจำเป็นมากขึ้น Tim Berners-Lee ผู้ประดิษฐ์ระบบค้นและเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเตือนว่าการขาดความเชื่อถือในความเป็นส่วนตัวสามารถทำให้การติดต่อกับบุคคลอื่นเป็นไปด้วยความไม่สบายใจ แต่มีข้อดีด้วยคือ ขณะนี้คนมีความระมัดระวังมากขึ้นในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น ใช้ DuckDuckGo ซึ่งเป็นเครื่องมือค้นหา (search engine) ซึ่งจะไม่เก็บรวบรวมรายละเอียดส่วนตัวของผู้ใช้ พวกเรายังอาจเห็นสัญญาณแรกของการแตกออกเป็นส่วนของอินเทอร์เน็ต (internet fragmentation) บางประเทศรวมถึงประเทศบราซิลและเยอรมันกำลังพิจารณาการจัดเส้นทางอินเทอร์เน็ตภายในขอบเขตบริเวณของตัวเอง ถึงแม้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเป็นเผด็จการและทำให้การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศเกิดความล่าช้า
8. Google Glass สำหรับคนทั่วไป
ช่วงเดือนธันวาคมปี 2557 พวกเราคงกำลังสวม Google Glass (คอมพิวเตอร์) บนศีรษะของพวกเรา นักพัฒนาได้ประกอบอุปกรณ์ติดตามตา (eye-tracking) เข้าไปด้วย ซึ่งสามารถวางทับรายละเอียดบนส่วนบนของวัตถุหรือพื้นที่ซึ่งผู้สวมใส่กำลังจ้องมอง นอกจากนี้ Google Glass ยังสามารถจดจำกิริยาท่าทาง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมได้เพียงด้วยการเคลื่อนที่ของมือ มีการวิจารณ์ว่ากล้องของ Google Glass จะทำลายความเป็นส่วนตัวและจอที่น่ารำคาญสามารถทำลายการติดต่อระหว่างกันในสังคม
เหตุการณ์ทางด้านการแพทย์
9. เด็กที่มีพ่อแม่ 3 คน (three-parent babies) ใกล้จะเป็นไปได้ http://www.newscientist.com/data/images/ns/cms/mg22029485.600/mg22029485.600-1_300.jpg ที่มา: Dan Lepp/Plainpictureในปี 2557 นี้รัฐสภาสหราชอาณาจักรจะออกเสียงในเรื่องการทำให้รูปแบบใหม่ของการปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF) ถูกกฎหมาย วิธีใหม่นี้จะทำให้ผู้หญิงหลายพันคนซึ่งมีการกลายพันธุ์ที่ไมโทคอนเดรียมีลูกได้โดยไม่ต้องกลัวที่จะส่งผ่านโรคไปยังลูก
ไมโทคอนเดรียเป็นตัวสร้างพลังงานของเซลล์ มีดีเอ็นเอเป็นของตัวเองซึ่งส่งผ่านโดยแม่และต่างจากโครโมโซมในนิวเคลียส ประมาณ 1 ใน 5,000 คนในสหราชอาณาจักรมีการกลายพันธุ์ที่ดีเอ็นเอของไมโทคอนเดรีย ซึ่งทำให้เกิดมีอาการตาบอด ลมชัก และโรคสมองเสื่อม วิธีใหม่นี้จะช่วยป้องกันการส่งผ่านดีเอ็นเอที่ผิดปกติได้คือ การปฏิสนธินอกร่างกายซึ่งใช้ไข่ของผู้ให้ที่มีดีเอ็นเอของไมโทคอนเดรียที่ปกติและนิวเคลียสจากไข่ของแม่ นักวิจัยประสบผลสำเร็จกับลิง โดยได้ลิงที่มีสุขภาพแข็งแรงหลายตัวหลังจากรับการรักษาโดยวิธีนี้ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ซึ่งไปเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอของรุ่นลูกยังไม่ได้รับการรับรองสำหรับใช้กับมนุษย์
10. เด็กวัยรุ่นอัมพาตจะมีส่วนร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2557
การแตะลูกแรกในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2557 จะเป็นหน้าที่ของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งซึ่งป่วยเป็นอัมพาต โดยจะใช้จิตใจควบคุมโครงสร้างแข็ง (mind-controlled exoskeleton)แตะลูกบอล ภาพที่น่าตื่นเต้นนี้จะแสดงจุดเด่นของโครงการกลับมาเดินได้อีกครั้ง (Walk Again Project) ซึ่งเป็นความร่วมมือที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อเอาชนะอาการป่วยเป็นอัมพาต โครงสร้างแข็งจะค้ำจุนร่างกายส่วนล่างของผู้ป่วยและได้รับการควบคุมโดยการทำงานของสมองซึ่งรับรู้โดยขั้วไฟฟ้าที่อยู่บนหนังศีรษะหรือภายในสมอง สัญญาณเหล่านี้จะส่งแบบไร้สายไปยังคอมพิวเตอร์ซึ่งผู้ป่วยสวมใส่อยู่ ซึ่งเปลี่ยนแปลงสัญญาณเป็นท่าทางการเคลื่อนที่
ท่าทางการเคลื่อนที่อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะรับรู้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติของการเดิน ดังนั้นผู้พัฒนาหวังที่จะประกอบเครื่องรับรู้ (sensors) เข้าไปในโครงสร้างแข็ง ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับ การสัมผัส อุณหภูมิ ไปยังผู้ป่วย โดยผลสะท้อนกลับเหล่านี้จะส่งผ่านออกมาเป็นภาพแสดงหรือการสั่นของมอเตอร์ ในที่สุดความรู้สึกเหล่านี้สามารถส่งผ่านโดยตรงไปยังสมอง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าโครงสร้างแข็งเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
ที่มา: NewScientist (December 2013). 2014 preview: 10 ideas that will matter next year. Retrieved January 3, 2014, from http://www.newscientist.com/special/review-2013-preview-2014
เจ๋งอะคร๊าบบบ ขอบคุณครับ สุดยอดครับ
หน้า:
[1]