ประวัติ소녀시대
หลังจากทราบไปแล้วว่ารางวัลของพวกเธอมีอะไรบ้าง วันนี้ขอแนะนำประวัติวงก่อนนะครับโซนยอชิแด (คำอ่าน: โซ-นยอ-ชิ-แด) หรือในชื่อภาษาอังกฤษ เกิลส์เจเนอเรชัน (เกาหลี: 소녀시대, ฮันจา: 少女時代, MC: So Nyuh Shi Dae; อังกฤษ: Girls' Generation) เป็นกลุ่มศิลปินหญิงเกาหลีจำนวน 9 คน สังกัดเอสเอ็มเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเริ่มเปิดตัวในปี พ.ศ. 2550 โดยมีสมาชิกในวงได้แก่ แทยอน เจสสิก้า ซันนี่ ทิฟฟานี่ ฮโยยอน ยูริ ซูยอง ยุนอา และซอฮยอน
นอกจากชื่อทางการที่ใช้เรียกขานวงนี้ ยังมีชื่ออื่น ๆ ได้แก่ โซชิ(소시; SoShi), SNSD (นอกประเทศเกาหลีโดยเป็นการนำอักษรตัวหน้าของชื่อภาษาเกาหลีมาเรียงต่อกัน) และ 少女時代(เซ่าหนวี่ซื่อไต้ (Shàonǚ Shídài) ในจีน, Siu Nui Si Doi ในฮ่องกงและโชโจจิได (Shōjo Jidai) ในญี่ปุ่น) ทั้งนี้โดยมากชื่อ 소녀시대(โซนยอชิแด) เป็นชื่อที่ใช้ในการทำกิจกรรมภายในประเทศเกาหลีใต้มีความหมายว่ายุคสมัยของเด็กสาวแต่เมื่อทำกิจกรรมในต่างประเทศจะใช้ชื่อว่า Girls' Generation ซึ่งมีความหมายว่ายุคสมัยของเด็กสาวเช่นเดียวกัน
โซนยอชิแดมีสีประจำวงคือ สีชมพูเหลือบมุก (Pearl Pink)
ประวัติ
ในวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 โซนยอชิแดทำการได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรายการ M!Countdownทาง M.NET อย่างไรก็ตามการแสดงในครั้งนั้นกลับไม่ได้ถูกเผยแพร่ทางโทรทัศน์แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีแฟนคลับจำนวนหนึ่งได้ทำการอัปโหลดการแสดงนั้นลงในอินเทอร์เน็ต โดยเพลงที่ใช้แสดงคือเพลง "Into the New World (다시 만난 세계)"ซึ่งถือเป็นซิงเกิลเปิดตัวของพวกเธอด้วย
วันที่ 27 กรกฎาคม 2007 รายการเรียลลิตี้โชว์แนะนำตัวของโซนยอชิแดในชื่อ Girls Go to Schoolนั้น ได้ถูกเผยแพร่ทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก ทาง Mnet จำนวนทั้งสิ้น 9 ตอนมีเนื้อหาเกี่ยวกับสมาชิกแต่ละคนภายในวง และการทำภารกิจเพื่อไปออกรายการMnet School of Rock ให้ได้รายการนี้ถือเป็นการแนะนำตัวโซนยอชิแดให้เป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไป
ซิงเกิลแรกของโซนยอชิแด "Into The New World (다시 만난 세계)" ได้ออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 2007โดยนอกจากซิงเกิลเปิดตัวแล้ว ยังมีเพลง "Beginning" และเพลง "Perfect ForYou (소원)" ซึ่งในภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นเพลง "Honey"ในอัลบั้มแรกของพวกเธอ "Girls' Generation" รวมทั้งมีเพลง Into The NewWorld (다시 만난 세계) ในรูปแบบของเพลงบรรเลงรวมอยู่ด้วย
โซนยอชิแด เริ่มทำการโปรโมตซิงเกิลของพวกเธอทันทีที่ออกวางจำหน่าย โดยในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 2007 พวกเธอได้ขึ้นทำการแสดงในรายการ SBS Inkigayoซึ่งถือเป็นการแสดงทางโทรทัศน์ครั้งแรกและเป็นวันเดบิวต์อย่างเป็นทางการของพวกเธอด้วย ต่อมาในวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2007โซนยอชิแดได้ทำการแสดงสดเป็นครั้งแรกใน Show! Music Core ทาง MBC โดยการแสดงในครั้งนั้นก็ได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก และในวันรุ่งขึ้น พวกเธอก็ได้ขึ้นทำการแสดงสดอีกครั้งใน Music Bank ทาง KBS ซึ่งก็ได้รับคำชมเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นไม่นานนัก ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007อัลบั้มแรกของโซนยอชิแดก็ได้ออกวางจำหน่าย โดยมีเพลง "소녀시대 (Girls'Generation)" เป็นซิงเกิลหลักการโปรโมตเริ่มต้นขึ้นทันทีในต้นเดือนพฤศจิกายน และด้วยท่าเต้นที่น่ารักประกอบกับน้ำเสียงที่สดใส จึงส่งผลให้อัลบั้ม Girls' Generationเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน โดยมียอดจำหน่ายมากกว่า 100,000 ชุดโดยในเดือนมกราคมของปีถัดมา โซนยอชิแดก็เริ่มทำการโปรโมตซิงเกิลที่ 2ของพวกเธอ ในเพลง "Kissing You" ซึ่งมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ก็ได้ดงแฮแห่งวงซูเปอร์จูเนียร์มาร่วมแสดงด้วย นอกจากนี้แล้วมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ยังขึ้นเป็นอันดับ 1 ของ SBS Inkigayo, M.Countdown! และ KBS Music Bank อีกด้วย
ในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2008 อัลบั้ม Repackage ในชื่อ Baby Babyก็ได้ออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก โดยมีซิงเกิลที่ 3 "Baby Baby"เป็นซิงเกิลหลักที่ใช้ในการโปรโมต โดย Repackage ชุดนี้ได้เพิ่ม 3เพลงรีมิกซ์ลงโซนยอชิแดได้ยุติการโปรโมตอัลบั้มนี้ในเดือนเมษายนปีเดียวกันนั่นเองอย่างไรก็ตามก็ยังมีเพลงในรูปแบบดิจิตอล ออกวางจำหน่ายในวันที่ 7 เมษายนค.ศ. 2008 ในชื่อ Roommate ซึ่งร้องโดยเจสสิก้า, ทิฟฟานี่ และซอฮยอน โดยมีซิงเกิลจากมินิอัลบั้มนี้คือ "오빠 나빠" (ฺBad Oppa)
[แก้] ค.ศ. 2008 : ถูกต่อต้านโซนยอชิแดถือเป็นวงที่ถือเริ่มต้นจากติดลบเนื่องจากถูกต่อต้านตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ โดยมีที่มาจากชื่อโปรเจกต์ Super Girlsที่เกิดจากการเทียบเคียงชื่อวง Super Junior และมีการลือกันว่าจะสร้างSuper Girls ให้มาเป็นวงคู่กับ Super Junior ทำให้แฟนคลับบางส่วนของ SuperJunior ไม่พอใจ นอกจากนี้ยังมีภาพถ่ายคู่ของเจสสิก้ากับสมาชิกในวงของSuper Junior และ DBSK ระหว่างที่เป็นเด็กฝึก ถูกนำมาปล่อยในวงกว้าง(แต่เดิมนั้นเป็นภาพที่อยู่ในอัลบั้มรูป ใน Cyworld ของศิลปินชายที่โพสเอาไว้ตั้งแต่ยังไม่เดบิวต์ เป็นลักษณะการถ่ายรูปในหมู่เพื่อน)มีการปล่อยรูปชาย-หญิง ที่อยู่ในลักษณะจูบกันโดยเข้าใจผิดกันว่าเป็นเจสสิก้า และดงแฮก่อให้เกิดกระแสต่อต้านเจสสิก้าเป็นอย่างมาก(ภายหลังถูกพิสูจน์แล้วว่าบุคคลในรูปนั้นไม่ใช่พวกเค้าทั้งคู่เพราะถ้าสังเกตให้ดีบุคคลในรูปนั้นไม่มีเค้าโครงของเจสสิก้าและดงแฮเลยแม้แต่นิดเดียว)
กระแสต่อต้านรุนแรงจนมีการรวมตัวของกลุ่มคนที่ต่อต้านภายใต้ชื่อS.T.A.N.D (Strong Till All Nine Disappear)โดยอ้างว่าสมาชิกในวงได้แสดงอาการไม่เคารพรุ่นพี่ ทำตัวไม่ถูกกาลเทศะ(ซึ่งหลายเรื่องก็เป็นข่าวที่กลุ่มคนที่ต่อต้านกุขึ้นมาเองหาได้เป็นความจริงไม่) การทำท่าน่ารักจนเกิดความหมั่นไส้รวมทั้งการศัลยกรรม ซึ่งในขณะนี้มีการยืนยันแล้วว่า แทยอน, เจสสิก้า,ทิฟฟานี่, ยูริ, ซูยอง, ยุนอา และซอฮยอนนั้นไม่ได้ทำศัลยกรรมมาอย่างแน่นอนแต่กลุ่มคนที่ต่อต้านได้ทำการกลั่นแกล้ง โดยเฉพาะเจสสิก้าซึ่งถูกนำรูปสมัยก่อนเดบิวต์ไปปรับเปลี่ยนด้วยโปรแกรมชื่อดังจนถูกเข้าใจผิดว่าเธอไปทำศัลยกรรมมา โดยรูปที่กลุ่มคนที่ต่อต้านนำมากล่าวอ้างนั้นเป็นช่วงที่เจสสิก้าเรียนชั้นม.ต้น ซึ่งรูปจริงนั้นใบหน้าของเธอแทบไม่แตกต่างจากในปัจจุบันเลยอีกทั้งในช่วงทีเธอเรียนชั้นม.ต้นนั้นรัฐบาลเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีทำศัลยกรรมนอกจากนี้ยังมีการขับรถชนโซนยอชิแดได้รับบาดเจ็บจนเกือบไปขึ้นแสดงที่เวทีKBS Music Bank ไม่ทัน (หากไปไม่ทันจะถูกแบนจากรายการ) และใน DreamConcert ปี 2008 ซึ่งเป็นฟรีคอนเสิร์ตรวมหลายศิลปินกลุ่มแฟนคลับของศิลปินวงอื่นได้พร้อมใจกันปิดแท่งไฟและไม่ส่งเสียงเชียร์หรือตะโกนร้องเรียกชื่อวงโซนยอชิแดขณะที่โซนยอชิแดทำการแสดงมีเพียงกลุ่มแฟนคลับของโซนยอชิแดเท่านั้นที่ยังส่งเสียงเชียร์ซึ่งสาเหตุเกิดจากความเข้าใจผิดที่คิดว่าแฟนคลับของโซนยอชิแดได้ไปฉีกแบนเนอร์ของซุปเปอร์จูเนียร์ต่อหน้าต่อตาเอลฟ์ รวมถึงแบนเนอร์ของทงบังชินกิและ SS501แท้จริงแล้วเป็นสต๊าฟที่กรีดแบนเนอร์ออกเนื่องจากขวางทางเข้าของแฟนคลับที่อยู่ภายนอก และนี่ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนของคนที่ต่อต้านให้มากขึ้น ต่อมาใน SMTown Live'08 ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนแฟนคลับของศิลปินวงอื่นก็ได้นำแท่งไฟมาไขว้กันเป็นรูปตัว Xตลอดเวลาที่โซนยอชิแดทำการแสดงเพื่อแสดงถึงการต่อต้าน SNSD เนื่องจากทิฟฟานี่ สมาชิกในวงได้พูดจาติดตลกว่าชื่อของ ชานซอง นั้นคล้ายกับคำว่าเสฉวน ที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวในขณะนั้นของประเทศจีน
ส่วนกระแสต่อต้านในประเทศไทยนั้น ในช่วงแรกเกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจเข้าใจผิด และการยุแยงจากกระแสต่อต้านจากต่างประเทศ เช่นการกุเรื่องขึ้นว่าเจสสิก้าเป็นเด็กเส้น เป็นลูกของลีซูมาน (อดีต CEO ของSMEnt. ซึ่งปัจจุบันผันตัวมาเป็นโปรดิวเซอร์) ทำให้เกิดกระแสต่อต้าน(ทั้งที่ความจริง เจสสิก้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับลีซูมานเลยแม้แต่น้อย)เป็นต้น และในหลังจากนั้น กระแสต่อต้านในไทยได้ลดลงอย่างมากโดยคนที่ต่อต้านหลายคนก็ได้เข้าร่วมเป็นโซวอน(ชื่อกลุ่มแฟนคลับของโซนยอชิแด) สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่ง คือการที่พวกเธอได้มาเข้าร่วมคอนเสิร์ต SM Town Live'08 ที่ประเทศไทยซึ่งเป็นตัวการันตีความสามารถของพวกเธอได้ดีจนพวกเขาเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อโซนยอชิแดและกลับกลายมาชื่นชอบพวกเธอในที่สุดหากแต่คนที่ต่อต้านส่วนใหญ่ในประเทศไทยนั้นจะต่อต้านตามกระแสข่าวแง่ลบของพวกเธอในช่วงต้นเดบิวต์ซึ่งเป็นแฟนคลับที่กุข่าวหรือเสพย์ข่าวจากกลุ่มแฟนคลับของตนหรือกลุ่มคนที่ต่อต้านที่มีอยู่แล้วมักไม่ใช่แฟนคลับที่รู้ข้อมูลอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามความใจดีและมีน้ำใจของคนไทยที่ปฏิบัติต่อศิลปินก็ทำให้เหล่าโซนยอนชิแดที่มาประเทศไทยเพื่อร่วมแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกต่างประทับใจและกลับไปด้วยรอยยิ้มและความทรงจำที่งดงาม
[แก้] ค.ศ. 2009 : ปีของโซนยอชิแด[แก้] ครึ่งปีแรก: มินิอัลบั้มชุดแรก : จีแม้ว่าจะโดนกระแสแอนตี้เป็นอย่างมากในช่วงปี 2008 แต่ในต้นปี 2009โซนยอชิแดก็ได้ออกมินิอัลบั้มชุดที่ 1 โดยมีซิงเกิลโปรโมตชื่อว่า Geeทันทีที่เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพลงไต่อันดับคว้าอันดับ 1 ได้ในหลายชาร์ต ก่อให้เกิดกระแส Gee Syndromeไปทั้งประเทศ แม้แต่ในรายการ KBS Music Bank ซึ่งในขณะนั้น SMกำลังมีข้อพิพาทกับ KBSส่งผลให้โซนยอชิแดไม่สามารถขึ้นแสดงที่เวทีนี้ได้เป็นเวลา 3 สัปดาห์แต่ก็สามารถคว้าอันดับที่ 1 มาได้แม้ไม่ได้ขึ้นเวที ต่อมาหลังจาก SMเคลียร์ข้อพิพาทกับข้อพิพาทกับ KBS ได้แล้วโซนยอชิแดจึงได้ขึ้นทำการแสดงที่ Music Bank ในปลายเดือนมกราคมและสามารถคว้าแชมป์ได้ 9 สัปดาห์ติดต่อกัน ทำลายสถิติเพลง One More Timeของ Jewelry ที่ทำไว้ที่ 7 สัปดาห์นอกจากนี้โซนยอชิแดยังสามารถครองแชมป์ที่รายการ SBS Inkigayoได้ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง (ทางสถานี SBSกำหนดให้การเป็นแชมป์ติดต่อกันได้สูงสุดเพียง 3 ครั้ง)
กระแสความนิยมของโซนยอชิแดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมีการเชิญโซนยอชิแดไปออกรายการต่างๆมากมาย จนโซนยอชิแดได้รับฉายาว่าเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติและขึ้นสู่ตำแหน่งเกิร์ลกรุ๊ปอันดับ 1ของเกาหลีใต้ได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันแฟชั่นกางเกงยีนส์สีสันสดใสในเพลงGee ก็กลายเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศโซนยอชิแดสามารถทำยอดขายในชุดนี้ได้เกิน 100,000 ชุดแม้จะเป็นเพียงแค่มินิอัลบั้มเท่านั้น ทั้งนี้ถือได้ว่า SM Entertainmentประสบความสำเร็จทางด้านการตลาดได้เป็นอย่างดี
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2009 โซนยอชิแดได้มาทำการแสดงใน SM Town Live'08ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทยและนั่นทำให้พวกเธอได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทยและพวกเธอได้มาเมืองไทยอีกครั้งเพื่อร่วมแสดงในงาน Pattaya InternationalMusic Fesitval 2009 ในเดือนมีนาคม
[แก้] ครึ่งปีหลัง: มินิอัลบั้มชุดที่ 2 : โซโวนึลมาลแฮบวา (จีนี)โซนยอชิแดได้ยุติการประชาสัมพันธ์มินิอัลบั้มชุดแรกในเดือนมีนาคมหลังจากนั้นปลายเดือนมิถุนายน ก็กลับมาพร้อมกับมินิอัลบั้มชุดที่ 2โดยมีซิงเกิลประชาสัมพันธ์ชื่อ Tell Me Your Wish (Genie) พร้อมลุคใหม่ชุดทหารกางเกงขาสั้น เพลง Tell Me Your Wish นั้น ได้ทำการปล่อยให้ฟังออนไลน์ในวันที่ 22 มิถุนายนค.ศ. 2009 ในเวลา 10.00 น. และหลังจากนั้นเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 40 นาทีก็สามารถพุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงไซเวิลด์ทันทีพวกเธอใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ในการเอาชนะเพลงทั้งหมดในชาร์ตแม้ว่ามินิอัลบั้มชุดนี้จะมีปัญหาเรื่องหน้าปกที่ผู้วิจารณ์ว่ามีการนำรูปเครื่องบินรบมาใส่ไว้ตรงหน้าปก ทำให้ต้องมีการเลื่อนวางจำหน่ายและยังมีปัญหามีการละเมิดลิขสิทธิเพลงนี้ของนักร้องชาวอุซเบกิสถาน(ซึ่งภายหลังได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากต้นสังกัดและบริษัทเจ้าของซาวน์เพลงแล้วว่าฉบับของนักร้องชาวอุซเบกิสถานนั้นเป็นฉบับที่ละเมิดลิขสิทธิ์แต่ในกรณีของโซนยอชิแด ทาง SM Ent.ได้ซื้อลิขสิทธ์มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย) แต่ Tell Me Your Wish (Genie)ก็ไม่ได้ลดความร้อนแรงลง โดยเฉพาะซิงเกิลนี้สามารถคว้าแชมป์ KBS MusicBank ด้วยสถิติคะแนนสูงสุดถึง 17,995 คะแนน เอาชนะสถิติเดิมเพลง Miroticของ TVXQ ที่ทำไว้ที่ 16,404 ไปได้ขณะที่ยอดขายของมินิอัลบั้มชุดนี้ก็ทะลุ 100,000 แผ่นอีกครั้ง(โดยใช้เวลาแค่เพียง 1 เดือนหลังจากวางขาย)นับเป็นศิลปินหญิงเพียงกลุ่มเดียวที่สามารถทำสถิติยอดขายเกินหนึ่งแสนชุดได้ถึงสามอัลบั้มติดต่อกัน
โซนยอชิแดได้ยุติการประชาสัมพันธ์มินิอัลบั้มชุดที่ 2 หลังจากประชาสัมพันธ์ไป 8 สัปดาห์
และเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 2009 ในงาน ดรีมคอนเสิร์ต 2009พวกเธอก็สามารถลบกระแสต่อต้านได้จากการที่โซวอนในงานหลายพันคนเปิดแท่งไฟสีชมพูซึ่งเป็นสีประจำวง และส่งเสียงเชียร์โซนยอชิแดเป็นหนึ่งเดียว
[แก้] คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 ต้นสังกัดอย่าง SM Entertainmentได้ออกประกาศว่า 9สาวโซนยอชิแดกำลังจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกในชื่อ Girls' Generation The 1st Asia Tour: Into The New Worldจัดที่สนามกีฬากรุงโซล เกาหลีใต้ในวันที่ 19 - 20 ธันวาคม 2009และจะมีเอเชียทัวร์ตามเมืองต่างๆ ได้แก่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น,กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย, มหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และไทเป ไต้หวันโดยในวันแรกที่เปิดจองบัตรที่เกาหลี บัตรคอนเสิร์ตก็ได้หมดลงภายในเวลาแค่3 นาที จนต้องมีการเพิ่มรอบในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2010ส่วนคอนเสิร์ตที่เซี่ยงไฮ้ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามขณะที่ในประเทศไทยกลับเกิดปัญหาต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากสถานการณ์ในประเทศไทยไม่อำนวย
[แก้] ค.ศ. 2010 : ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง[แก้] ต้นปี: อัลบั้มเต็มชุดที่ 2 : โอ!หลังจากที่ปี 2009 โซนยอชิแดได้สร้างกระแส Gee และ Genieจนโด่งดังเป็นอย่างมากไปจนถึงคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ต้นสังกัด SMEntertainment จึงประกาศว่า 9 สาวโซนยอชิแดกำลังจะออกอัลบั้มเต็มชุดที่ 2ในชื่อ Oh! กับภาพลักษณ์ที่โตขึ้นกว่าเดิมที่ดูเปรี้ยวขึ้นโดยมีกำหนด Comeback ในวันที่ 28 มกราคม 2010และขึ้นเวทีเปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ในวันที่ 30 มกราคม 2010
โดยเมื่อทีเซอร์อัลบั้มนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 22 มกราคมเว็บไซต์ที่ปล่อยทีเซอร์นี้ออกมาก็ถึงกับล่มเพราะมีผู้เข้าชมจำนวนมากและเมื่อเพลง Oh! ได้ถูกปล่อยให้ดาวน์โหลดเมื่อวันที่ 25 มกราคมเพลงนี้ก็สามารถขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ตเรียลไทม์ในเกาหลีในเวลาแค่ 10นาที ถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดของโซนยอชิแดและหลังจากที่อัลบั้มชุดนี้วางขายได้แค่ 1 เดือนก็สามารถทำยอดขายได้ทะลุ120,000 แผ่นเลยทีเดียว
ในเดือนมีนาคม 2010 ต้นสังกัด SM Entertainment ได้ปล่อยภาพ Black Soshiซึ่งได้ทิ้งปริศนาไว้ในท้าย MV เพลง Oh! ซึ่งแบล็ค โซชิก็คือคอนเซปต์หลักของอัลบั้ม Repackage ของอัลบั้มชุดนี้โดยที่โซนยอชิแดได้ปรากฏตัวในชุดสีดำสุดเซ็กซี่ โดยมีเพลงไตเติ้ลคือ Run Devil Run ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามไม่แพ้เพลง Oh! ถึงแม้จะมีปัญหาจากการที่แอนตี้แฟนออกมากล่าวหาว่าก็อปปี้เพลงของแคชช่าซึ่งต้นสังกัดอย่าง SM Entertainment ก็ได้ออกมาชี้แจงว่าฉบับของแคชช่าเป็นแค่เพลง Demoซึ่งแคชช่าร้องไกด์ให้ผู้ที่สนใจซื้อลิขสิทธิ์ไปใช้ส่วนของโซนยอชิแดเป็นฉบับจริงที่นำออกมาโปรโมทจริงๆ อย่างไรก็ตาม RunDevil Run ก็เหมือนกับ Tell Me Your Wish (Genie) คือไม่ได้ลดความร้อนแรงและโด่งดังลงไปเลย
[แก้] กลางปี: เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นหลังจากสิ้นการโปรโมทอัลบั้มที่สองแล้ว SM Entertainmentต้นสังกัดที่วางแผนให้ โซนยอชิแดเตรียมเดบิวต์ที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ในการเดบิวที่ญี่ปุ่นโซนยอชิแดได้เซ็นสัญญากับ NAYUTAWAVE RECORDS ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของUniversal Music Japan โดยใช้ชื่อว่า 'ShouJo JiDai' (อ่านว่าโชว-โจ-จิ-ได) ซึ่งวันที่ 11 สิงหาคม ได้เปิดตัวด้วย DVD ชุด 少女時代到来～初来日記念盤 (New Beginning of Girls' Generation)อีกทั้งจะมีงานโชว์เคส คอนเสิร์ตในวันที่ 25 สิงหาคม ที่ Ariake Coliseumในกรุงโตเกียว ซึ่งจัดแสดงอยู่ 3 รอบด้วยจำนวนผู้ชมกว่า 21,000 คนตามด้วยวันที่ 8 กันยายน ซิงเกิลเดบิวต์ Tell Me Your Wish (Genie)เวอร์ชันญี่ปุ่น โดยสามารถทำยอดจำหน่ายอัลบั้มได้เกิน 1 แสนชุดและในวันที่ 20 ตุลาคม ก็ได้ทำการปล่อย ซิงเกิลชุดที่ 2 Geeเวอร์ชันญี่ปุ่น ซึ่งเรียกกระแสตอบรับทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลกอย่างล้นหลามนอกจากนี้กระแสตอบรับการเดวบิวต์ที่ญี่ปุ่นของโซนยอชิแดยังเป็นที่ฮือฮาในประเทศไต้หวัน จนเป็นกระแส โซชิซินโดรม ซึ่งเพลง Genie ของเธอได้ขึ้นไปติดที่ 1 ของชาร์ตเพลงในไต้หวันถึง 2 ชาร์ตเลยทีเดียว
[แก้] ปลายปี: มินิอัลบั้มชุดที่ 3 : ฮูต (훗)ในวันที่ 27 ตุลาคม ทาง SM Entertainment ได้ปล่อยมินิอัลบัมชุดที่ 3 ในชื่อ Hoot (훗)โดยได้ปล่อยซิงเกิล Hoot ในวันที่ 25 ตุลาคม เวลา 10.00 น.ทางเว็บไซต์เพลงออนไลน์ โดยหลังจากปล่อยซิงเกิลนี้ไม่ถึง 7 นาทีก็ได้ทะยานขึ้นไปใน 7 ชาร์ตเพลงหลักของเกาหลี วันรุ่งขึ้น SMEntertainment ก็ได้ปล่อยมิวสิกวิดีโอ เพลง Hoot ทางหน้าแรกของ SM และทางYoutube โดยมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ยังได้ ชีวอนวงซูเปอร์จูเนียร์ มาร่วมแสดงด้วย ต่อมา ในไม่ถึง 24ชั่วโมงหลังจากที่ปล่อยมิวสิกวิดีโอไป ก็มียอดผู้ชมมากกว่า 1 ล้านครั้งในYoutube
ทั้งนี้ยังประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่นกับซิงเกิลญี่ปุ่นที่สอง Gee ในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน โดยสามารถคว้าอันดับ 1 ในออริกอนซิงเกิลชาร์ตประจำวัน
ครับวันนี้ก้ออธิบายมามากพอแล้วโอกาสต่อไปจะแนะนำสมาชิกนะครับ มิมิ
ขอบคุณนะขอรับ
{:4_112:}{:4_112:} อ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ขอบคุณครับ คร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ครับๆ รับทราบเลย
หน้า:
[1]