พ่อครับ...ผมรักพ่อ
> > > > เช้าวันศุกร์ ผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง> > > > อีกสองวันก็ถึงวันที่ผมรอคอยและเตรียมตัวมาตลอด 2 ปี
>>> > > ผมเรียนพิเศษตลอด 2 ปี
>>> > > > > > ก็เพื่อจุดหมายเดียวที่พ่อหวังไว้
>>> > > > > > ผมต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อให้ได้
>>> > > > > > ผมใช้เวลาวันละเกือบสิบชั่วโมง ใน 2 เดือนสุดท้าย
>>> > > > > > เพื่อเตรียมตัวให้เหนือกว่าคู่แข่ง
>>> > > > > > ช่วง 2 เดือนนี่เองที่ผมต้องนั่งทำแบบฝึกหัดจนถึงตี 3 ทุกวัน
>>> > > และก็ทุกวัน
>>> > > > > > พ่อผมจะหากิจกรรมส่วนตัวของเขามานั่งทำเป็นเพื่อน
>>> > > > > > เรานั่งอยู่ด้วยกันจนเกือบเช้าทุกวัน
>>> > > > > > ทุกๆคืน ผมจะมีไมโลร้อนๆมาวางอยู่ข้างหน้า
>>> > > > > > พร้อมๆกับมือของพ่อที่จะคอยตบบ่าให้กำลังใจ คอยเตือนว่า
>>> > > > > > นอนได้แล้วหละลูก อย่าเครียดเกินไปเลย
>>> > > > > > ผมแทบจะไม่ได้ยินเสียงนั้นลอดหูเข้ามาเลย
>>> > > > > > มันเป็นเสียงที่คุ้นเคยทุกวัน
>>> > > > > > จนบางทีก็ออกจะรำคาญที่ถูกเตือนให้นอน
>>> > > > > >
>>> > > > > > เมื่อคืนก็เป็นเหมือนทุกคืน พ่อยังคงชงไมโลมาให้
>>> > > > > > แต่แปลกหน่อยตรงที่เมื่อคืนพ่อคุยกับแม่จนดึก
>>> > > > > > แล้วค่อยมานั่งเป็นเพื่อนผม
>>> > > > > > วันนี้วันศุกร์ อีกสองวันเอง
>>> > > > > > ผมเดินสวนพ่อเข้าห้องน้ำด้วยความรู้สึกแปลกๆ
>>> > > > > > รู้สึกว่าอยากจะพูดอะไรด้วย แต่ก็ไม่ได้พูด
>>> > > ผมเดินไปแปรงฟันและอาบน้ำ
>>> > > > > > ตอนเดินออกมาพ่อก็ออกไปทำงานเสียแล้ว วันนี้รู้สึกดีใจเป็นพิเศษ
>>> > > > > > ผมทำคะแนนจากข้อสอบปีเก่าๆได้คะแนนสูงมากกว่าที่ประเมินไว้
>>> > > > > > ประมาณสิบเอ็ดโมง ผมทำข้อสอบชุดสุดท้ายเสร็จ
>>> > > และก็ตั้งใจว่าถัดจากนี้ไป 2 วัน จะเป็นวันพักผ่อน
>>> > > > > > เพราะไม่ต้องการให้เครียดก่อนวันสอบมาถึง
>>> > > > > > ผมทำข้อสอบอยู่ชั้นสองของบ้าน
>>> > > > > > น้องชายก็ขึ้นมาบอกว่าพ่อแวะเอาอาหารเข้ามาให้เรา
>>> > > > > > ความรู้สึกตอนนั้นผมอยากจะลงไปบอกพ่อว่า ทำคะแนนได้ดี
>>> > > > > > แต่ก็คิดว่าอีกซักเดี๋ยวค่อยลงไป
>>> > > พอลงไปอีกทีพ่อก็ออกไปทำธุระเสียแล้ว
> > > > > > ผมนั่งดูทีวีอยู่จนกระทั่งบ่ายสามโมง มีโทรศัพท์ดังขึ้น
>>> > > ผมเดินไปรับ
> > > > > > เสียงของผู้หญิงลอดมาตามสาย ผมจับใจความได้ว่า
>>> > > เค้าพูดถึงชื่อพ่อผม
>>> > > > > > และก็บอกว่ารถคว่ำเพราะหักหลบเด็กวิ่งข้ามถนน อาการไม่หนักนัก
>>> > > > > > ผมเขียนโน๊ตไว้บนโต๊ะ แล้วรีบไปโรงพยาบาล
>>> > > > > > ในใจตอนนั้นคิดว่าไปถึงพ่อคงใส่เฝือกอะไรแค่นั้น
>>> > > > > > พอไปถึงอาผมก็ไปถึงพร้อมกันพอดี
>>> > > > > > หมอนำเอกสารอนุญาติให้ผ่าตัดมาให้เซ็นต์
>>> > > > > > แล้วก็บอกว่าตอนนี้อยู่ห้อง X-Ray อาการไม่ค่อยดี
>>> > > > > > เลือดคั่งในสมองต้องผ่าตัดด่วน
>>> > > แล้วเค้าก็เอาตัวพ่อเค้าห้องผ่าตัด
> > > > > > ผมไม่ได้เจอพ่อเลย ตอนเย็นแม่มา ก็สั่งให้เรากลับบ้าน
>>> > > > > > มีอะไรจะโทรไปบอก
ต่อท้าย #1 24 มิ.ย. 2553, 12:25:22
>>> > > > > >
>>> > > > > > เช้าวันเสาร์แม่โทรมาบอกว่าตอนนี้พ่ออาการดีขึ้นแล้ว อยู่ห้อง ICU
>>> > > > > > แต่ยังไม่ได้สติ ผมตัดสินใจบอกแม่ว่าวันจันทร์ผมไม่เข้าสอบ
>>> > > > > > ผมอยากเฝ้าอาการพ่อ แม่รีบกลับมาบ้านโดยให้อาเฝ้าที่โรงพยาบาลแทน
>>> > > > > > แล้วก็บอกกับผมว่ารู้รึเปล่าว่าพ่อเค้าอยากให้ผมสอบติดแค่ไหน
>>> > > > > > แล้ววันนี้ที่เค้ารีบออกไป รู้ไหมว่าเค้าไปไหน
>>> > > > > > ผมบอกว่า ไม่รู้
>>> > > > > > แม่ขอร้องให้ผมไปเข้าสอบ แล้วแม่ก็บอกว่า
>>> > > > > > พ่อเค้ากำลังจะไปบนพระพรหม ขอให้ลูกสอบติด แต่รถคว่ำเสียก่อน
>>> > > > > >
>>> > > วันนั้นผมบอกแม่ว่าผมกลัวว่าพ่อได้สติขึ้นมาแล้วจะรู้ว่าผมไม่เข้าสอบ
>>> > > > > > และจะเสียใจ ผมตกลงเข้าสอบ ผมหลบเข้าห้องน้ำ
>>> > > > > > ยืนนิ่งแล้วก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด
>>> > > > > > เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าต้องเจอกับปัญหาที่หนักมาก
>>> > > > > > ผมร้องไห้อยู่นานมาก
>>> > > > > > ............
>>> > > > > >
>>> > > > > > วันอาทิตย์แม่โทรมาบอกว่าพ่อได้สติแล้ว แต่ยังไม่ให้ผมไปเยี่ยม
>>> > > > > > บอกแค่ว่าขอให้สอบให้เสร็จก่อน ทางนี้แม่จะดูแลเอง ผมสบายใจขึ้น
>>> > > > > > คิดอย่างเดียวว่าพ่อจะต้องดีใจถ้ารู้ว่าผมสอบติด ผมมั่นใจมาก
>>> > > > > > ทุกๆวันอาการของพ่อดีขึ้นเรื่อยๆ แต่แม่ก็ไม่ยอมให้ผมไปเยี่ยม
>>> > > > > > ผมและน้องเข้าสอบพร้อมกันอยู่ 5 วันจนเสร็จ
>>> > > > > > ที่แรกที่ผมและน้องไป คือโรงพยาบาลทั้งชุดนักเรียนแบบนั้นแหละ
>>> > > > > > ผมไปถึงแม่และอาก็ยังคงอยู่หน้าไอซียู แม่ถามว่าสอบเสร็จแล้วเหรอ
>>> > > > > > ผมบอกว่าเสร็จแล้ว ทำข้อสอบได้ไม่ดีนัก
>>> > > > > > แต่มั่นใจว่าน่าจะติดที่ไหนสักแห่ง
>>> > > > > > แม่ให้เข้าไปเยี่ยมพ่อ
ต่อท้าย #2 24 มิ.ย. 2553, 12:25:39
>>> > > > > >
>>> > > > > > พอผมเห็นพ่อ ผมยืนตัวแข็งเดินต่อเข้าไปไม่ได้
>>> > > > > > พ่อผมถูกโกนศรีษะเพื่อผ่าตัด
>>> > > > > > พ่อยังไม่ฟื้น แม่ขอโทษ แม่บอกว่าอาการจริงๆดีขึ้น
>>> > > แต่ยังไม่รู้สึกตัว
>>> > > > > > ผมเดินเข้าไปกุมมือพ่อ ผมเริ่มน้ำตาคลอ
>>> > > > > > แต่ก็บอกกับพ่อว่าผมสอบเสร็จแล้ว
>>> > > > > > รีบตื่นมาดูผลสอบด้วยกันนะ ทุกคนเห็นว่านิ้วมือพ่อขยับได้
>>> > > > > > นิ้วมือเขาขยับได้จริงๆ นางพยาบาลเดินเข้ามาดูอาการ
>>> > > > > > แล้วก็บอกกับผมว่าอย่างนี้คงไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว
>>> > > > > >
>>> > > > > > วันรุ่งขึ้นตอนหกโมงเช้า แม่ไปถึงโรงพยาบาล โทรกลับมาบ้านแต่เช้า
>>> > > > > > บอกว่าข้างเตียงบอกว่าเมื่อคืนเห็นพ่อลืมตามองไปรอบๆ แม่ดีใจมาก
>>> > > > > > ผมบอกว่าผมจะรีบไปก่อนแปดโมง........... ซักเจ็ดโมงนิดๆ
>>> > > แม่โทรมาอีกครั้ง
>>> > > > >
>>> > > > > > แม่บอกว่าให้เอาเสื้อสูทของพ่อไปด้วย.....
>>> > > > > > ตอนนั้นผมร้องไห้ออกมาทันที
>>> > > > > > ผมรู้ว่าแม่หมายถึงอะไร
>>> > > > > > ผมรู้ว่าผมได้สูญเสียคนที่ผมรักที่สุดในชีวิตไปแล้ว
>>> > > > > >
>>> > > > > > ผมไม่มีโอกาสจะได้คุยกับพ่ออีกแล้ว พ่อรอจนกระทั่งผมสอบเสร็จ
>>> > > ........
>>> > > > > > พ่อรอจนกระทั่งลูกของพ่อเดินไปบอกว่าสอบได้แล้วพ่อถึงไปอย่างสงบ
>>> > > > > > ...........
>>> > > > > > ครั้งเดียวในชีวิตที่ผมร้องไห้มากที่สุด
>>> > > > > > ผมจะไม่มีใครชงไมโลมาให้อีกแล้ว
>>> > > > > > ผมจะไม่มีใครมาคอยตบบ่าให้กำลังใจ
>>> > > > > > ผมจะไม่มีวันได้พูดว่ารักพ่อ...........
>>> > > > > > ทั้งๆที่เค้าคือคนที่ผมรักที่สุด
>>> > >
ต่อท้าย #3 24 มิ.ย. 2553, 12:26:00
> > >
>>> > > > > > วันนี้เวลาผ่านไปเกือบสิบปี
>>> > > > > > สิ่งหนึ่งที่ยังคงทำให้ผมเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้
>>> > > > > > คือวันศุกร์เมื่อสิบปีที่แล้ว
>>> > > > > > ผมเดินสวนกับพ่อโดยที่ไม่ได้คุยกับพ่อซักคำ
>>> > > > > > ผมควรจะได้พูดว่าผมรักพ่อมากแค่ไหน แต่ผมก็เดินสวนไปเฉยๆ
>>> > > > > >
>>> > > > > >
>>> > > > >
>>> > >
>>>ทุกวันนี้ผมไม่เคยหยุดที่จะคิดเมื่อเวลาบอกคน ที่ผมรักว่าผมรักเค้ามากแค่ไหน
>>> > > > >
>>> > > > > > ผมจะไม่ยอมเสียใจกับสิ่งที่ผมไม่ได้ทำอีก
>>> > > > > > พ่อครับ...ผมรักพ่อ
ครับ คติในใจผมก็คือ
ทำแล้วอย่าคิดว่าได้ทำอีก
กินแล้วอย่าคิดว่าได้กินอีก ครับ..
จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด
อย่าหวังเพียงวันข้างหน้าจะมีโอกาสแก้ตัวอีก
เพราะถ้าโอกาสมันผ่านไปแล้ว มันจะไม่หวนกลับมาหาเราอีก ตอบกระทู้ coo ตั้งกระทู้
ครับเป็นเรื่องที่มากเลยครับ สำหรับคนที่ไม่เคยสูญเสีย ยังมีพ่ออยู่ก็คงคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว พ่อยังอยู่กับเราอีกนาน เราควรทำสิ่งดีๆให้คนที่เรารัก ณ ปัจจุบัน ดีกว่าพูดคำว่า "เดี๋ยวก่อน" เพราะมันอาจจะสายเกินไป ขอบคุณมากๆเลยครับ ขอบคุนมากมายคราบ ซึ้งมากคับ และผมขอบอกว่า.......
การที่เราอยู่ใกล้ใครสักคนในตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือทำวันนี้ให้ดีที่สุด ดูแลกันและกันให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนรัก ครอบครัว เพื่อว่าในวันข้างหน้า จะได้ไม่เสียใจว่าเรายังไม่ได้ทำดีกับเขาให้มากพอ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง หรือมีคำพูดที่ว่าถ้าหากว่าวันนั้นฉันย้อนเวลาไปได้ฉันจะไม่ทำ ขอบคุณมากๆครับ ขอบคุนครับที่เล่าเรื่องซึ้งๆให้อ่าน ขอบคุณครับย ขอบคุณสำหรับเรื่องราวบอกเล่าสู่กันฟังครับ :) กายพร้อมใจพร้อม..สู้ๆกันต่อไปครับ ขอบคุณครับ{:5_119:} ขอบคุณมากๆ ครับ ขอบคุณครับ
ทำแล้วอย่าคิดว่าได้ทำอีก
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวบอกเล่าสู่กันฟังครับ{:5_119:} ขอบคุนครับที่เล่าเรื่องซึ้งๆให้อ่าน
ขอบคุณครับผม ผมร้องให้เพราะเรื่องของคุณครับ เพราะมันคล้ายกันๆมาก ครับ.. ขอบคุณครับบบบ
หน้า:
[1]