เรื่องซึ้ง ๆ แต่ยาวนะ สำหรับสนุกและกินใจ
เรื่องนี้นุ่นไม่ได้แต่งเองนะ แต่มีชื่อนุ่นด้วย ซึ้งมากๆ แต่อาจจะยาวไปหน่อยงั้นก็ไปเริ่มอ่านกันเลยดีกว่า
แสงไฟติดๆดับๆจากเสาไฟฟ้าข้างทาง
อาจทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นสมุดเล่มหนึ่งซึ่งตก อยู่ระหว่างกอหญ้า
ที่เกิดจากที่ดินรกร้างข้างฟุตบาท แต่ไม่เคยมีใครสักคนคิดจะหยิบ มันขึ้นมา
ปล่อยให้สมุดที่เคยสีสันสดใสเล่มหนึ่งนอนอยู่กับกอหญ้า ผ่านลมและฝนมานาน
พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่นับวันยิ่งเลือนลาง เพราะน้ำฝน...
แต่ฝนไม่สามารถลบเลือน คำสัญญาจากจิตใจคนๆหนึ่งได้
ชีวิตของเด็กมัธยมปลายทุกคนคงไม่สามารถหลีกหนีไปจาก เรื่อง เพื่อน ความฝัน
ความรัก เอ็นทรานซ์ ไปได้ และทั้งหมดนี้คือที่มาของเรื่อง
ราวของผมที่เริ่มต้นที่ห้องเรียนศิลปะ ผม บอม กบ
ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่ ม.ต้นได้มาอยู่ห้องเดียวกันในชั้นม.4
คงเป็นเหตุการณ์นั้นที่ทำให้พวกเราได้รู้จัก กับนุ่น
“นี่เธอ...เธอ..ยืมของเราก็ได้นะ” บอมพูดพร้อมกับยื่นดินสอ 2b ให้ 1 แท่ง
เธอก็รับไปพร้อมด้วยรอยยิ้มและเหล็กดัดฟันกลับมา รอยยิ้มที่เราได้เห็นทำให้
พวกผมนึกไปถึงรอยยิ้มของน้องสาวตัวเล็กๆน่ารักคนหนึ่ง
หลังจากหมดชั่งโมงศิลปะ
พวก ผมอาสาพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหาร
และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่ง ของกลุ่มพวกผม
พร้อมกับความแปลกใจของหลายๆคนที่เห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคน หนึ่ง
นั่งอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชายที่กำลังคุยกันเสียงดังด้วยคำสบถต่างๆ
ซึ่งเป็น
คำธรรมดาในความคิดของเด็กผู้ชาย .. จากวันป็นเดือน......จากเดือนเป็นปี....
เมื่อ เพื่อนคบกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน...
และเริ่มรับรู้บางอย่างในวันที่นุ่นตัดผมสั้นมา ใหม่
“เฮ้ยนี่แกอะไรเข้าฝันวะ”
ผมพูด “อี๋...ทรงเก่าดีกว่าแยะเลย” กบพูดพร้อม กับเสียงหัวเราะจากทุกคน
“แต่เราว่าน่ารักดีนะ” บอมพูด คำๆนี้ของบอมทำให้หน้า ขาวๆของนุ่นแดงขึ้นมา
ตั้งแต่เราเริ่มสังเกตุจากวันนั้นเราก็รู้ว่าคำพูดของบอมมี
อิทธิพลกับนุ่นมาก
และรู้ว่านุ่นต้องแอบปลื้มบอมไม่มากก็น้อย แต่ไม่เคยมีคำว่ารัก
คำใดๆเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อน ณ.โต๊ะประจำกลุ่มของเรา “ขนมมาแล้วจ๊ะ”
เสียงใสๆของ
นุ่นที่มาพร้อมกับขนมหลายถุงที่ถือเดินคู่มากับบอม
(การซื้อขนมเลี้องของนุ่นมัก
เป็นกิจวัตรประจำ
พวกเราเคยปฎิเสธเพราะพวกผมยังไม่รู้ว่านั่นมาจากเงินเล็กน้อยของ
คุณหนูนุ่นนั่นเอง) ขณะที่กินขนมอยู่นั้นนุ่นถามถึงอาชีพในอนาคตของทุกคน ผม
กับ
กบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า เอ็น ติดอะไรก็เรียนไป ความฝันของบอม คือ เข้าเรียน
เศรษฐศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์ และเป็นนักวิเคราะห์การเงินเหมือนพ่อของเขา
ความฝันของ
นุ่นที่ต้องการเป็นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กไม่ทำให้พวกผมแปลกใจเลย
เพราะการ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและมองโลกในแง่ดีที่เป็นนิสัยของเธอ
สิ่งที่เรารู้กันเลยก็คือ
นุ่นต้องอยากเรียนสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศาสตร์แน่นอน
เมื่อนุ่นพุดจบบอมก็หยิบสมุด จดศัพย์ภาษาอังกฤษของนุ่นที่วางอยู่มา
เปิดไปหน้าสุดท้ายของสมุดแล้วเขียนว่า... เรา
สองคนจะต้องเป็นลูกแม่โดมให้ได้นะ.....ลงชื่อ....บอม ...
สิ่งที่เราเห็นต่อมาคือ รอยยิ้มของนุ่นพร้อมกับหน้าแดงนาน 2-3นาที.
ยิ้มน่ารักมากกว่าสิ่งใดๆ............
วันแรกของม.6ไม่มีอะไรมากนอกจากการฉลองที่นุ่น
ได้อนุญาติให้ไป-กลับโรงเรียนเอง
เหมือนนักเรียนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นุ่นต้องการมาตลอด 4-5
ปีที่แม่คอยรับคอยส่ง..
วันนี้ผมได้เห็นอาการดีใจของคนที่ได้รับสิ่งที่ผมเรียกมันว่า .....”
อิสรภาพ”
......... ชีวิตของนักเรียนม.6 หลายๆคนคงไม่พ้นการเรียนพิเศษต่อตั้งแต่ 5
โมง-2
ทุ่ม แต่การที่ได้เรียนกับเพื่อนรักของผมทำให้ผมไม่เคยคิดเหนื่อยหรือท้อแท้
เลย
โต๊ะ 4 ตัวหลังสุดเป็นที่รู้กันว่าเป็นโต๊ะของกลุ่มผมขณะที่พวกเรากำลังนั่ง
คุยรออาจารย์อยู่นั้น บอมได้ชี้ไปที่นักเรียนหญิงใส่ชุดuniformแขนยาว
หน้าตาสวยมาก คนหนึ่ง พร้อมพูดว่า “นี่ดูผู้หญิงคนนั้นสิเราชอบเขามากเลยนะ”
ตั้งแต่วันนั้นผู้ หญิงคนนั้นก็เป็นประเด็นสนทนาในกลุ่มอีกบ่อย
แต่ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นผม
รู้สึกว่านุ่นมีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่แสดงออกมา
จนผมคิดว่าต้องให้บอมถามให้ได้ว่า เป็นอะไรเพราะเขาสองคนสนิทกันมากที่สุด
แต่บอมก็ไม่เคยสงสัยและถาม สักพักผมเลิกสน
ใจกับสิ่งนี้เพราะผมก็แค่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิง
เวลาที่พวกผมได้ผักผ่อนมากที่สุดจากการเรียนคงเป็นตอนหลังเลิกเรียนพิเศษ
ซึ่งพวกผม จะเวียนไปฝากท้องตามร้านต่างๆ หลังจากนั้นก็มักไปเล่นเกมส์
เกมส์ประจำตัวของผม คือ daytona ของกบชอบเล่น dj
โดยเฉพาะตอนมีสาวๆมองเยอะจะออกลีลาเป็นพิเศษ เครื่อง ตู้เกมส์ เตอติส
ที่อยู่หลังร้านเหมือนเป็นเกมส์ที่สร้างมาเพื่อ บอมและนุ่น ผมได้
เห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน เล่นแข่งกันได้ ดูเวลาที่เขาแกล้งกัน
นุ่นมักปัดมือของบอม ให้ออกจากจอยเกมส์เป็นประจำ
เวลาที่ทั้งคู่เล่นแข่งเพราะบอมเป็นคนที่เล่นเก่งมาก
แต่บอมก็ชอบและไม่เคยเห็นบอมโกรธนุ่นสักครั้งเวลาที่นุ่นคอยแหย่คอยกวน
ผมคิดว่า
ทั้งคู่คงมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน พลางคิดไปถึงคำพูดใน หนัง
รักออกแบบไม่ ได้ ที่ว่า ”เป็นเพื่อนกันดีที่สุดจะได้คบกันนานๆ”
แต่สำหรับสำหรับคู่นี้ผมนึกภาพไป ถึงตอนที่ทั้งคู่เป็นคนชราคู่หนึ่ง
ที่ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตนั่งนับดาวบนท้องฟ้าด้วย กัน
และต่อเติมความสุขซึ่งกันและกัน
ทุกครั้งที่มองคู่นี้อยู่ด้วยกันผมคิดว่าเค้า
กำลังร่วมสร้างและต่อเติมความรักซึ่งกันและกันอยู่
แม้เพื่อนสนิทอย่างผมจะแซวว่า
ทั้งคู่ไม่เหมือนแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นนะคู่นี้
แต่ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของ ทั้งคู่พร้อมอาการเขิน
และสายตาของนุ่นที่หันไปมองบอม แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปฎิเสธ
แล้วนุ่นก็มักจะพูดว่า”พวกนี้เนี่ยไม่พูดด้วยแล้ว”
พรอ้มกับหันหลังเารดินไปซื้อ
ขนมและบอมก็เดินตามติดๆกันไป
วันศุกใกล้ปิดคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเมื่อพวกเรามา
ถึงที่เรียนพิเศษปรากฏว่าไฟดับ โรงเรียนจึงนัดชดเชยให้วันอื่น
วันนี้จึงไม่ค่อย
ได้เรียนเพราะวันศุกที่โรงเรียนมีเรียนแค่2วิชา
พวกเราจึงถือสมุดหนังสือไปเรียน
เพียงไม่กี่เล่ม หลังจากนั้นพวกเราจึงไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า
วันนี้นุ่นผิด ปกติดูซึมๆตั้งแต่เช้า พวกเรารบเร้าเท่าไหร่ก็ไม่บอก
ขณะที่เดินเล่นกันอยู่บอม ได้จับหน้าผากของนุ่น
บอมตกใจมากเพราะนุ่นตัวร้อนจัด
บอมจึงพูดว่า”นุ่นเธอตัวร้อน มากนะกินยาอะไรหรือยัง?”
“ปวดหัวนิดินดหน่อยไม่เป็นไรหรอก” นุ่นตอบ พวกผมจึงรบ
เร้าให้นุ่นรีบกลับไปผักผ่อนที่บ้านและตัดสินใจให้บอมเดินไปส่งนุ่นขึ้นtaxi
โดยผม กับกบจะไปรอที่food center ก่อนที่ผมจะแยกย้ายกับนุ่น บอมแซวนุ่นว่า
“นี่ไม่สบาย ขนาดนี้ยังไม่ยอมนอนพักอยู่บ้านอีก”
“ก็ฉันเป็นเด็กขยันนะซิจ๊ะ”
นุ่นตอบพร้อมกับ ยิ้มมา “ดูนุ่นสิหน้าเหมือนคนจะตายอยู่แล้วยังยิ้มออกอีก”
บอมพูดไปโดยไม่รู้ว่ารอย ยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่พวกผมจะไม่มีวันลืม
สำหรับผมเหตุผลเดียวที่นุ่นมาเรียนวัน
นี้คือการที่ได้มานั่งเรียนพิเศษข้างๆบอม
หลังจากผมแยกย้ายกับนุ่นบอมก็เดินไป ส่งนุ่นขึ้นtaxi กลับบ้าน
........เอี้ยด.....ปัง......อัก...... รถบบรทุกคัน
หนึ่งวิ่งคร่อมเลนมาชนกับtaxiคันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง
ร่างของผู้
หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยกระเด็นกระแทกกระจกรถออกมาตกลงบนพื้น
และไถลไป ข้างหน้าอีก7-10 เมตร สมุด หนังสือ
ดินสอกระจัดกระจายอยู่บนถนนบ้างบนทางเท้าบ้าง กล่องดินสอ มือถือแตกเป็น 2
ส่วน
พลเมืองดีผู้หนึ่งอุ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือดและ บาดแผลไปส่งโรงพยาบาล
เช้าวันเสาร์ ณ ที่เรียนพิเศษวิชาคณิตพวกผมรู้สึกแปลกใจที่ นุ่นมาเรียนสาย
เพราะปกตินุ่นจะมาเป็นคนแรก แต่พวกผมก็คิดว่านุ่นคงยังไม่ค่อยสบาย
และผักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่ขณะที่เริ่มเรียนไปได้15นาที เพจของบอมก็ดังขึ้น
พรอ้ม กับข้อความจากแม่ของนุ่นที่ว่า ตอนนี้นุ่นอยู่ห้อง ICU
โรงพยาบาลเปาโล
ต้องการพบบอ มด่วน เมื่อพวกผมอ่านข้อความนี้จบก็เดินออกจากห้องทันท
ีมารู้ตัวอีกทีก็คือเห็นรอย ช้ำของขอบตาที่เกิดจากการร้องไห้ของแม่ของนุ่น
พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ยอม หยุดที่หน้าห้องICU
เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องหมอบอกพวกผมว่านุ่นเสียเมื่อ 5 นาที ที่แล้ว
พวกผมเหมือนตกอยู่ในภวัง น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากทุกคนที่เรียกตัวเองว่า
ลูผม้ชาย
ทุกคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงของนุ่น ไม่มีสักคนเปิดผ้าที่คลุมร่างที่
ไร้วิญญาณของนุ่นดู
เพราะทุกคนรู้ดีว่านุ่นไม่ต้องการให้ใครเห็นนุ่นในสภาพอย่าง
นี้แน่ เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเสียใจมาก
แต่ยังไงก็คงไม่เท่าบอมเพราะทุกคนรู้ดีว่า บอมเสียใจมากที่สุด
แต่บอมก็เก่งมากเพราะหลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็ไม่เห็นบอ มร้องไห้อีก
ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7 หลังจากงานชาปณกิจนุ่น 2 วัน แม่ของ
นุ่นได้ขออนุญาติอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า ” ในห้องICU
ก่อนที่นุ่นจะ สิ้นใจนุ่นบอกกับแม่ให้นำ diary เล่มนี้มาให้บอมให้ได้”
แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุง กระดาษที่ข้างในมีdiary เล่มหนึ่งมาให้
หลังจากหมดคาบผมและบอมได้หยิบdiary ขึ้นมา มันเป็นdiary เล่มสีชมพู
ที่นุ่นใช้เขียนความคิดและความฝันต่างๆของนุ่น ชื่อของบ
อมมีอยู่ในdiaryของนุ่นทุกหน้าตั้งแต่วันที่เธอได้พบกับบอมที่ห้องศิลปะ
เมื่อพลิกกลับมาช่วงกลางเล่มน้ำตาของบอมก็หยดลงบนรูปๆหนึ่งที่นุ่นวาดขึ้นใน
diary เป็นรูปนุ่นกับบอมที่ยืนยิ้มโดยนุ่นยืนกอดแขนบอมอยู่และทั้งคู่ใส่ชุด
นักศึกษามหาลัยธรรม ศาสตร์ “ทำไมนุ่นไม่รู้ล่ะว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน”
บอมพูดเมื่ออ่าน diary และได้ รู้ว่านุ่นรอคอยคำว่ารักจากบอมอยู่ และเมื่อช่วงหนึ่งในdiary
จึงได้รู้ว่า นุ่น เข้าใจผิดว่าบอมไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่บอมชี้ให้พวกเราดู
ณ ที่เรียนพิเศษ สิ่ง ต่อมาที่ผมได้รู้ก็คือ นุ่นไม่เคยเข้า
ใจสิ่งที่บอมพูดเสมอในกลุ่ม ว่า รัก กับ ชอบ นั้นแตกต่างกันมาก
ผมได้แต่นึกเสียดายที่บอมไม่ยอมพูดความรู้สึกของตัวเองให้นุ่น ได้รับรู้
ได้แต่ปล่อยให้นุ่นคิดไปต่างๆนาๆ เพราะถ้าบอมได้พูดและอธิบายความรู้สึก
ของตัวเอง นุ่นก็คงจากไปอย่างมีความสุขกว่านี้
ก่อนการเร่งสอบปลายภาคไม่กี่วัน
เพื่อให้เวลานักเรียนอ่านหนังสือเตรียมเอ็น ครั้งที่2
ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกัน กบได้ตะโกนถามเพื่อนๆทุกคนว่า
ถ้าตอนนี้มีพรวิเศษขออะไรก็ได้สิ่งหนึ่งจะขออะไร คำ
ตอบที่ได้ก็แตกต่างกันไป
บ้างขอให้ หล่อ รวย สวย เอ็นติด ทุกคนตอบต่างๆกันไป เมื่อ
กบหันมามองหน้าบอมทุกคนก็หันมาเหมือนจะรอคำตอบจากบอม
“เราขอแค่ได้พบนุ่นอีกครั ้งแล้วเราจะบอกเค้าว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน”
บอมตอบมาพร้อมๆกับน้ำตาที่ค่อยๆคลอ ออกมา
หลังที่บอมพูดจบเพื่อนในห้องหลายคนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาของตน
วัน นั้นผมจึงได้รู้ว่า นุ่นยังคงอยู่ในใจของบอมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
วันที่ผมได้รู้ อานุภาพของความรักก็คือวันประกาศผลเอ็น
เรานัดเปิดซองจดหมายผลสอบพร้อมกันที่บ้าน ของกบ กบติด ม.เชียงใหม่ ผม ติด
ที่ประสานมิตร แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากคือ คน ที่ได้คะแนน60
กว่าเกือบทุกวิชาไม่ติดเศรษฐศาสตร์ได้อย่างไร แต่คำอธิบายของบอมก็ทำ
ให้ผมรู้ว่าบอมทิ้งความฝันที่จะเป็นนักการเงินของเขา
มาเรียนสังคมสงเคราะห์เพื่อ เดินตามความฝันของนุ่น
ทำให้ผมได้เห็นความรักที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนๆหนึ่ง ความ
ฝันของบอมเปลี่ยนเป็นการได้สร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
และได้นำชื่อณัฐธิดาที่เป็น ชื่อจริงของนุ่นมาตั้งเป็นชื่อสถานเลี้ยงเด็ก
เพื่อเป็นอนุสรณ์ของผู้หญิงจิตใจดี งามคนหนึ่งที่เค้าได้เคยพบเจอในชีวิต
คนที่ไม่รู้จักบอมดีจะมองเค้าเป็นผู้ชายธรรม
ดาคนหนึ่งที่ปิดตัวเองไม่ยอมเปิดใจให้ใคร
แต่สำหรับผมรู้ดีว่าใครอยู่ในหัวใจของเขา ตลอดเวลา ........
ในเวลาโพล้เพล้สายลมลมพัดเมฆมาก่อตัวรวมกันจนกลั่นป็นเม็ดฝนลง
มาสู่ดินทุกหนแห่ง ลมพัดเข้ามาในหัองผมอย่างแรง
ทำให้กรอบรูปที่มีรูปถ่ายของพวกเรา อยู่ คว่ำด้านหน้าลง
ผมหยิบมันพลิกขึ้นวางที่เดิม และมองไปที่รูปนั้น อีกครั้ง
หนึ่งที่มันทำให้ผมนึกถึง ..เธอ... .. เธอ
ผู้ที่ทำให้พวกผมรู้ได้รู้ว่าคนดัดฟันกิน อาหารบางอย่างไม่ได้ .. เธอ
ผู้ที่ทำให้พวกผมได้หัดฟังเพลงค่าย DOJO CITY เธอ ผู้
ที่แนะนำให้พวกผมมองโลกในแง่ดี และออกไปต่อสู้กับปัญหา เธอ
ผู้ที่นำความงดงามของ จิตใจเธอมาให้พวกผมได้สัมผัส เธอ
ผู้ที่มาเปลื่ยนแปลงชีวิตของพวกผม เธอ ผู้ที่จาก ไปอย่างไม่มีวันกลับมา
ฝนยังคงกระหน่ำลงบนถนนสายหนึ่ง เม็ดฝนกระหน่ำลงมาปานจะฉีก
สมุดที่อยู่ในดงหญ้าข้างๆทางเท้าเล่มหนึ่งยุ่ยขาดเป็นส่วน
แม้จะผ่านลมฝนลมหนาว
มานานเท่าใดแต่สมุดเล่มนี้ก็ยังคงอยู่ที่เดิม
พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่ไม่อาจเป็น จริงได้เพราะคนๆหนึ่งได้จากไปแล้ว
.....
“รัก” บางคนคิดว่าเป็นคต่วามรู้สึกที่ไม่ จำเป็นต้องพูด
แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่ามีบางคนใช้ชีวิตเพื่อเสาะหาและรอคอยคำๆนี้จาก
ปากคุณอยู่
เมื่อคุณมั่นใจแล้วคุณควรที่จะพูดออกไป ดีกว่าที่จะต้องมานั่งเสียดาย
และเสียใจเพราะว่าวันนี้เป็นวันที่...สาย...เกิน...ไป.... ขอบคุณ
เพียงความทรงจำ
เป็นไงบ้างอ่ะ เรื่องนี้นุ่นชอบมากๆๆ ขอย้ำว่านุ่นไม่ได้แต่งเองนะ แต่งเองคงคงไม่เข้าข้างตัวเองขนาดนี้หรอก ซึ้งมากกก อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยอ่ะ
ว่าแต่ว่า ใครชื่อบอมหรอบอมไหนหว่า รุจักแต่พี่บอม ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับเบลล์อ่ะ แล้วจามีคนอย่างในเรื่องนี้จิงรึป่าวน้า เฮ้อ คิดอารายของเราอยู่เนี่ย
แล้ววันหลังจาเอามาให้อ่านอีกนะ ชอบรึไม่ชอบก็เขียนแสดงความคิดเห็นเอาไว้ได้นะจ๊ะ
ซึ้งมากครับ ขอบคุนนะคับที่นำบทความดีๆมาให้อ่าน ยาวจริงๆครับ แต่ได้อารณ์มากๆ
ขอบคุณครับกับเรื่องราวดีๆ
นึกถึงตอนที่นั่งรถไปส่งคนที่เรารักคนแรกเลยครับ
นั่งส่งกันไปทุกวัน...
และต่างคนก็ไม่พูดอะไร..ปล่อยไว้จนทุกอย่าง
เป็นแค่ความทรงจำ..แม้แต่ทุกวันนี้เจอกัน
ก็ยังจำความรู้สึกนั้นได้
...
แต่ก็เป็นเพียงความทรงจำ
หน้า:
[1]