ซาตาน
ซาตานผลงานของฉันปรากฏชัดเจนมาก ฉันถูกแต่งตั้งให้เป็นรองผู้จัดการแผนกฝึกอบรมในไม่ช้าฉันได้รับมอบหมายให้ดูแลการอบรมระดับผู้ช่วยผู้จัดการสาขาสายปฏิบัติการ
“พี่ที น้องเขาเพิ่งมาครับให้เข้าอบรมหรือเปล่า”น้องในแผนกถาม เมื่อมีผู้เข้ารับการอบรมมาสาย ฉันเหลือบดูนาฬิกาเกือบจะสิบโมงครึ่งแล้ว นั่นหมายถึงการอบรมผ่านไปแล้วหนึ่งวิชาปกติถ้ามาสายขนาดนี้ฉันจะให้กลับเพราะถือว่าระดับบังคับบัญชาขั้นต้นเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะพลาดได้ แต่พอฉันมองดูผู้เข้าอบรมคนนั้นหน้าตาใสสะอาดหุ่นแน่นเปรี้ยะดูดีมาก
“พาน้องเขาไปส่งที่ห้องอบรม แล้วเธอช่วยหาเวลาสรุปเนื้อหาวิชาแรกให้น้องเขาด้วย”
ฉันยิ้มให้ผู้เข้าอบรม แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
“การบังคับบัญชาเบื้องต้น”ฉันเริ่มบรรยายวิชาแรกในภาคบ่าย ปกติระดับผู้จัดการแผนกอย่างฉันจะขึ้นบรรยายแค่ครึ่งวันเท่านั้นเพราะมีงานอื่นๆค่อนข้างเยอะ ฉันบรรยายไปมองหน้าสบตาผู้เข้าอบรมไปทุกๆคนเพื่อสร้างความคุ้นเคยเพราะน้องๆต้องเข้าอบรมคอร์สนี้ถึงห้าวัน
คนอื่นๆเขาก็มีอาการปกติดี แต่น้องคนที่มาสาย นั่งทำหน้าแดง เดี๋ยวสบสายตาเดี๋ยวหลบสายตาฉัน
เอ๊ะ...เด็กคนนี้มีอาการแปลกๆ ฉันบอกกับตัวเอง
ฉันนั่งตรวจประวัติของผู้เข้ารับการอบรมที่ลูกน้องนำมาส่งที่โต๊ะในวันถัดมา
ส่วนใหญ่จบปริญญาตรี “แล้วหนุ่มน้อยหน้าใสนั่นหล่ะ”ฉันอดนึกถึงเด็กคนนั้นไม่ได้
เพิ่งจบปริญญาตรีมาหมาดๆเหมือนกันนี่นา “ชื่อเล่น เทน ..”
เทนนั่งทำหน้าแดงๆมองฉันอยู่เหมือนเดิมนั่นแหล่ะ แต่วันนี้สู้หน้ามากกว่าเดิมแฮะ
“มันชักจะยังไงๆอยู่นะ”ฉันบ่นกับตัวเองก่อนเดินเข้าห้องน้ำสำรวจหน้าตา เสื้อผ้า ทรงผม
“ก็เนี้ยบดีนี่นา...........หรือว่า........”ฉันไม่อยากคิดเข้าข้าตัวเองแต่อากัปกริยาเทนบอกชัดเจนมาก ก็น่าอยู่หรอกตอนนี้ หน้าตาฉันดูดีมากฉันว่าฉันดูดีกว่าทุกๆช่วงชีวิตที่ผ่านมาซะอีก ก็คนมันสบายกายสบายใจนี่นา เรื่องรักร้าวรักร้างน่ะไม่มีอยู่ในหัวสมองฉันเลยสักนิดเดียว
“อยากเป็นวิทยากรเหมือนพี่จัง.......... ต้องทำอย่างไรครับ” เทนถามฉันหลังจากเรานั่งคุยกันได้สักพักแล้วในตอนเย็นวันที่สามของการอบรมซึ่งฉันต้องอยู่เวรดูแลผู้เข้าอบรมในคืนนี้
“เดี๋ยวพี่ออกให้เรามาเป็นแทนนะ...........”ฉันตอบทีเล่นทีจริงเราคุยกันสัพเพเหระก่อนเข้านอนตอนห้าทุ่ม
“พี่ที............เดี๋ยวเราไปดื่มเหล้ากันนะครับ”เทนชวนฉันก่อนกลับในวันสุดท้าย
“พี่ขอตัวนะ พี่มีธุระน่ะ ว่างๆค่อยโทรมานัดนะครับ”ฉันชักกลัวๆเทนรุกคืบแบบก้าวกระโดดฉันบ่ายเบี่ยงเพื่อตั้งหลัก
แรกๆฉันก็รอโทรศัพท์จากเขานะแต่จนแล้วจนรอดก็เงียบหาย
“นึกว่า จะเจอของจริงเข้าให้แล้วซะอีก”ฉันบ่นกับตัวเอง
เวลาผ่านไปเกือบจะสองปี
“พี่ทีใช่ไหมคะ......พี่เทนบอกให้โทรหาค่ะนี่เบอร์นะคะ”น้องที่เข้าอบรมระดับผู้ช่วยบอกพร้อมกับยื่นเบอร์ให้ฉันและยังบอกอีกว่าเทนขึ้นรักษาการผู้จัดการที่สาขาน้องนั่นเอง
ฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกับรอคอยอะไรมานานๆแล้วสมหวังน่ะนะ ฉันตั้งใจจะโทรหาเขาในทันทีที่ว่างแต่ไม่รู้อะไรกันนักหนาสัปดาห์นั้นทั้งสัปดาห์ฉันงานยุ่งมากตลอด
เช้าวันเสาร์หลังจากฉันเสร็จธุระส่วนตัวแล้วกะว่าจะโทรหาเทนนัดทานข้าวแล้วก็ดูหนังกันสักหน่อยแต่หาเบอร์โทรเขาอย่างไรก็ไม่เจอในกระเป่าในลิ้นชัก ในตู้เสื้อผ้ากระเป๋าเสื้อกระเป๋ากางเกงไม่มีครับไม่เจอเลยสงสัยจะอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ฉันรู้สึกเซ็งมากอย่างบอกไม่ถูก
พอถึงเช้าวันจันทร์ ฉันรีบค้นหาเบอร์เทนที่โต๊ะทำงานอยู่นี่เองหนีบรวมอยู่กับสมุดโทรติดต่องานนั่นเองฉันตั้งใจจะโทรหาเขาในตอนเย็นให้ได้
“ที... จำเทนได้ไหมเขาถามหาเธอน่ะ”เสียงกระเทยสาวผู้จัดการแผนกรุ่นพี่ถามฉันมองหน้าเขางงๆ“อ๋อ....พี่เพิ่งไปดูงานที่สาขาเขามาน่ะ”กระเทยสาวอธิบาย“ไม่ครับ...จำไม่ได้ ”ฉันเบื่อจะต่อความยาวสาวความยืดกัยกระเทยสาวลึกๆในใจฉันไม่ชอบให้กระเทยสาวมาจุ้นจ้านกับคนของฉันต่างหากแล้วเรื่องอย่างนี้ฉันอยากให้เป็นความลับถึงใครจะดูหรือออกดูไม่ออกว่าฉันเป็นเกย์ก็เถอะลองคิดดูว่าถ้ากระเทยสาวรู้ความจริงอะไรจะเกิดขึ้นคงเที่ยวโพนทะนาไปสามบ้านแปดบ้านน่ะสิ ฉันหงุดหงิดมากเลยยังไม่โทรหาเทน
แต่รู้สึกว่า กระเทยสาวจะโทรหาเทนบ่อยๆประมาณว่าให้คำปรึกษาปัญหาเรื่องงานน่ะครับ
ยัยกระเทยสาวจะแกล้งพูดสายเสียงดังออดอ้อนให้ฉันได้ยินทุกครั้งแผนกเราติดกันน่ะครับ
นั่นยิ่งทำให้ฉันโกรธมากฉีกทิ้งเบอร์โทรเทนและตั้งใจจะไม่ติดต่ออีกเลยฉันขยะแขยงผู้ชายที่ยุ่งกับกระเทยไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไม
แต่นั่นกลับทำให้ยัยกระเทยได้ใจโทรหาเทนบ่อยมากและเจตนาที่จะคุยกันเสียงดังให้ฉันได้ยินทุกช็อต
พอกระเทยมั่นใจว่าเอาเทนอยู่หมัดแน่นอนแล้วก็เริ่มเล่นงานฉันเริ่มแรกก็แค่ค่อนแคะเวลาฉันเดินผ่าน
“อ๋อ......ถ้ายังไม่ได้เ_ดกันน่ะเค้าจำใครไม่ได้หรอกค้า”เอากับปากมันดีฉันถึงได้เกลียดกระเทยนักหนานี่ขนาดฉันหลีกทางให้แล้วนะมันยังเล่นงานฉันเข้าให้ ฉันแกล้งไม่ได้ยินเดินผ่านวางหน้าตาเฉยเมย“แปลกจังผู้ชายเขาอยากเ_ดทำไมไม่ให้เ_ดนะ” เสียงมันยังดังฉอดๆๆๆตามหลังมาอีกแน่ะ
ฉันไม่เคยต่อความยาวสาวความยืดหรือแสดงอาการใดๆกับกระเทยสาวเลยแม้สักครั้งเดียวฉันทำได้แค่นิ่งเฉยถ้ามันดูจะมากเกินฉันก็แค่เดินหนีไป แต่นั่นยิ่งทำให้ยัยกระเทยมันแค้นที่ยั่วยุรังควาญฉันไม่ได้ผล หนักๆเข้าถึงกับด่ากระแทกฉันว่า“ก้างขวางคอ”นั่นทำให้ฉันรู้ทันทีว่า เทนไม่เล่นด้วยฉันยิ้มให้อย่างรู้สึกสมเพช นั่นเหมือนฉันไปยั่วยุให้กระเทยแค้นมากยิ่งขึ้นพยายามทุกวิถีทางที่จะทำร้ายทำลายจิตใจฉัน ถึงตอนนี้ผู้คนทั้งออฟฟิซรู้กันหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“หลอกให้อยากแล้วจากไป....” คำๆนี้ฉันได้ยินถี่หูมากขึ้นจากปากกระเทยเพื่อนทอมของหล่อน และเพื่อนสาวฮิปโปหมีควายช้างน้ำ ก๊วนปากเหม็นปากเน่านั่น ........... นั่นมันยิ่งทำให้ฉันรู้ชัดเจนว่าเทนไปเล่าอะไรให้ฉันเสียๆหายๆแน่แล้ว
น้องๆ ธุรการดูจะเห็นอกเห็นใจฉันถ้าเทนโทรมาแล้วยัยกระเทยไม่อยู่โต๊ะน้องจะโอนสายให้ฉันทันที อ้างว่าเทนถามเรื่องงานตอบไม่ได้ วานให้พี่ทีช่วยตอบให้ค่ะเอากับเขาสิ
ฉันไม่อยากยุ่งด้วยเลยคุยแบบขอไปทีหลังๆฉันไม่ยอมรับสายเทนด้วยเพราะขนาดฉันไม่ได้ขวางทางอะไรเขาเลยยัยกระเทยยังเล่นงานฉันซะน่วมเชียว
“เมื่อวันอาทิตย์ไปดูหนังกับเทนมา..........ฉันเอามือวางที่ต้นขาเขาแล้วเอนตัวซบไหล่เขาตลอดล่ะ”กระเทยแกล้งคุยกับเพื่อนๆก๊วนปากเน่าให้ฉันได้ยิน
“เหรอๆ...แล้วไงต่อล่ะ”ยัยทอมอุบาทย์รับมุข
“หลังจากนั้นก็ไปกินข้าวที่สิบสามเหรียญ”
“แล้วต่อไปเป็นอย่างไร...”ก๊วนปากเหม็นรับส่งมุขกันยืดยาว
............................................................................................................................................................
“สุดท้ายก็ที่เตียงนอนสิเธอ....”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”กลุ่มปากเน่าส่งเสียงรับมุขกันอึกทึก “แล้วไงๆ..”
“เขาจูบปากฉัน........เขา......อุ๊ยเซนเซอร์คะ เอาเป็นว่าเราเป็นผัวเมียกันแล้วค่า”
ฉันสุดจะทนลุกขึ้นเดินหนีน้ำตาไหลล้นปรี่ออกมาจากสองตาในขณะที่เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของยัยกระเทยและเพื่อนร่วมก๊วนปากเน่าลอยตามหลังมาอย่างสะใจ ฉันต้องนั่งนิ่งสงบสติอารมณ์อยู่ในห้องน้ำตั้งนานสองนาน “เทนนะเทนช่างทำกับฉันได้...............”ฉันโกรธและเกลียดเทน
อย่างช่วยไม่ได้ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด คงแค้นที่ฉันไม่เล่นด้วยแต่แรกเลยยืมมือกระเทยมาสังหารฉัน“ได้ผลมากทีเดียวล่ะได้ผลเกินคาด”ฉันอยากบอกให้เขาได้รับรู้ถึงผลงานของเขา
“นอนหนุนแขนเทนทั้งคืน....เขาไม่ให้ขยับไปไหนเขากอดไว้ตลอดคอเคล็ดเลยเนี่ย”ฉันรู้สึกรังเกียจสะอิดสะเอียนเทนมากทำเข้าไปได้กระเทยนางนี้นะหน้าหม้อคอสั้นปากกว้าง
หุ่นตันเตี้ยม่อต้อผมเส้นใหญ่ยังกับขนหมูเวลาเผลอๆนั่งน้ำลายยืดเชียว “ รับทานลงได้อย่างไรเลือกที่ดีกว่านี้ไม่ได้บ้างเชียวหรือ” ฉันได้แต่รำพึงรำพันกับตัวเองมันต้องมีลับลมคมในอะไรมากกว่านี้สิ เพราะว่าลำพังสาระรูปยัยกระเทยไม่ได้มีอะไรน่าเร้าใจ น่าเร้าอารมณ์ได้เลย
“ฮัลโหล....ตื่นได้แล้วจ๊ะที่รักจุ๊บๆ....” ยัยกระเทยโทรปลุกเทนทุกเช้าและเม้าท์อวดเพื่อนๆว่าซื้อโทรศัพท์สองเครื่องใหม่เอี่ยมเหมือนกันเด๊ะใช้คนละเครื่องกันกับเทนจะได้โทรหากันได้ทุกเวลา
“บอกเขาว่าเธอมีฉันและเรารักกันยังไง.............เธอไม่เป็นเหมือนคนเก่า โปรดเถอะปล่อยเขาไป...............”
“เอื้ออาทรฉันที..............แอบรักผัวชาวบ้านเขาเปลืองใจ....”ยัยกระเทยส่งเสียงเพลงมาเยาะหยันฉันอย่างสม่ำเสมอ เผลอๆเพื่อนร่วมก๊วนมันช่วยกันร้องและสังเกตอาการของฉันแล้วหัวเราะเยาะอย่างสะใจ ฉันยอมรับว่าอยากเอาส้นรองเท้าคัชชูกระทืบปากพวกมันให้กรามหักเลือดกลบปากพูดไม่ได้ตลอดกาลไปเลยปากหมากันดีนักโดยเฉพาะอีกระเทยตัวนำน่ะฉันอยากให้มันตายโหงตายห่าไปในทันที
“ปล่อยมันไปก่อนแล้วฉันจะคอยดู............เห็นมามากต่อมากแล้ว ความสัมพันธ์ของกระเทยกับผู้ชายก็แค่เงินกับผลประโยชน์อย่ามาโม้เลยว่าเขารักแกยัยกระเทยหัวเหม็น”ฉันนึกสบถแล้วยิ้มให้กับตนเองอย่างสมเพชใจ
“หน้าบูดหน้าบึ้งอะไรเทนนอกใจเหรอจ๊ะ”เพื่อนสาวของหล่อนกระเซ้า
“จะบ้าเหรอผัวเมียกันไปไหนมาไหนเขารู้กันตลอดย่ะ”กระเทยไม่ยอมลดละ
“แน่ใจหรือจ๊ะ....”เพื่อนๆแหย่สนุกสนาน
“ขนกี่เส้นๆฉันนับรู้หมดและย่ะ”กระเทยโอ้อวด
“เหรอ...............” เพื่อนๆลากเสียงเหมือนประชด
ความเป็นไปของทั้งคู่คงอยู่อย่างนั้นได้ไม่นาน ผลปฏิบัติการสาขา เทน ภายใต้เงาบริหารของยัยกระเทยก็ล้มไม่เป็นท่า เทนหนีกลับต่างจังหวัด ยัยกระเทยมาใช้เบอร์โทรส่วนกลางที่ออฟฟิซโทรหาทุกเช้าๆละนานๆจนค่าโทรศัพท์พุ่งกระฉูดถึงขั้นผู้บริหารโวยวายในที่ประชุม
สุดท้าย ยัยกระเทยขอย้ายกลับต่างจังหวัดแต่คนละภาคกันเลยกับเทนคงประชดกันหรือเด็กไม่ยอมอะไรฉันก็ไม่เสาะแสวงหาเหตุผล ฉันได้แต่ยิ้มให้อย่างเย็นชาด้วยความสมเพชใจ
ฉันถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการแผนกฝึกอบรม และได้รับมอบหมายให้ดูแลการอบรมระดับผู้จัดการสาขาสายปฏิบัติการ
ตรงกันข้ามกับชีวิต ยัยกระเทยคงเพราะบาปกรรมที่มันทำกับฉัน มันขับรถมอเตอร์ไซค์
หกล้มกระดูกขาหักสองท่อนกระดูกซี่โครงหักสองซี่กระดูกไหปลาร้าหักหนึ่งข้างฉันได้แต่นึกสมเพชในใจอย่างช่วยไม่ได้ ได้ข่าวว่า เทนต้องไปดูแลกันนานสองนานทีเดียว กระเทยตบรางวัลให้ด้วยการฝากงานให้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายขยายผลงานนั่นซี...................หายงอนกันเชียวผลประโยชน์ล้วนๆความสัมพันธ์ของกระเทยกับผู้ชายยิ่งยัยหน้าหม้อปากกระโถนนี่ อีบุญทุ่ม
ดีๆนี่เองถึงไม่มีเงินมันก็ยอมไปกู้หนี้ยืมสินเขามาเพื่อปรนเปรอผู้ชาย
เป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทในเครือเจ้าหน้าที่สายออฟฟิซที่เข้าใหม่ต้องเข้าอบรมหลักสูตรต่างๆของเครือตั้งแต่ หลักสูตรพนักงานใหม่จนถึงหลักสูตรผู้จัดการสาขา และต้องมีการลงไปเรียนรู้งานที่สาขาตามหลักสูตรที่อบรมเป็นช่วงๆไปด้วย
นั่นทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดมากเมื่อได้รับโปรแกรมการเข้าอบรมของเทนที่จะมาเข้าอบรมหลักสูตรผู้จัดการร้านในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
“มานั่นแล้วไง”ฉันรำพึงกับตัวเอง นึกยังไงเสื้อเชิ้ตสีฟ้ากางเกงสีกรมท่าแต่หิ้วกระเป๋าสีน้ำตาล ฉันมองดูหมิ่นกลายๆสมควรแล้วที่มีแฟนเป็นคนทางโน้นน่ะนะดูไม่จืดเลย
ดูๆเพื่อนร่วมก๊วนของยัยกระเทยจะตื่นเต้นกับการมาของเทน แต่ฉันรู้สึกทุเรศมากเคยได้ยินว่า
ผู้หญิงทางนั้นชอบประกอบอาชีพขายตัว นี่ผู้ชายก็ด้วยคงอยู่ในยีนกระมังฉันคิดอย่างดูแคลน
“ภรรยาหายดีแล้วเหรอ...”ฉันอดแหย่ไม่ได้เมื่อมีโอกาส ยิ้มจืดๆแฮะแต่หน้าไม่แดงไม่มีอาการเคอะเขิน ออกจะแสดงการยอมรับอย่างออกหน้าออกตาที่ได้เป็นสามีกระเทยระดับผู้จัดการแผนกด้วยซ้ำ นั่นทำให้ฉันรู้สึกโกรธดูเขาเต็มอกเต็มใจที่จะเป็นสามียัยนั่น ในขณะที่ฉันหลงคิดว่า ยัยกระเทยใช้เล่ห์กลมายาหลอกล่อเทน คงพอกันกระมังต่างคนต่างหาประโยชน์ใส่ตัวสิไม่ว่า............
“น้องๆพี่มีนิทานเรื่อง “นางฟ้าซาตานและหมาจิ้งจอก”มาเล่าให้ฟังครับ”ฉันอยากจะสั่งสอนคนหน้าหนาสักหน่อยเมื่อเข้าบรรยายในวันที่สองของการอบรม
“เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี่เอง ซาตานหนุ่มน้อยเกิดหลงรักนางฟ้าสาวสวย
เฝ้าเมียงมองและฝากรัก แต่นางฟ้ายังเอียงอาย.............ผลัดรับรักไปก่อน.................................”
ฉันเล่าไปและคอยสังเกตอาการของเทนได้ผลแฮะจากหน้าด้านหนาเริ่มดูกระอักกระอ่วน
“ผ่านไปปีกว่า ซาตานไม่ยอมแพ้ ........รบเร้าให้น้องสาขาถือเบอร์มายื่นให้นางฟ้าและบอกให้โทรหา นางฟ้าตั้งใจจะโทรแต่ติดงานยุ่งอยู่....................ผ่านไปแค่หนึ่งสัปดาห์.................”
หน้าตาเทนเริ่มแดงเรื่อนั่งกระสับกระส่าย ฉันจึงหยุดและบอกน้องๆว่าจะเล่าต่อในวันถัดไป
“นังสุนัขจิ้งจอกกลับมาแสดงตัวว่า ชอบพอกับซาตาน ”ฉันเล่าต่อในวันถัดมา
“นางฟ้า ตัดปัญหาไม่ยุ่งเกี่ยวกับซาตาน.....................แต่นั่นไม่เป็นที่พอใจของสุนัขจิ้งจอก เพราะซาตานยังไม่ลืมนางฟ้า นังจิ้งจอกจึงเล่นงานนางฟ้าต่างๆนา โดยเจตนาจะเขี่ยไปให้พ้นทางด้วยหวังครอบครองซาตานทั้งกายใจ”
เทนนั่งนิ่งฟังหน้าตาแดงก่ำ
“พี่ทีแกเล่นงานแฟนเก่าของแกซะน่วมเลยแกเอ๊ยมันมากส์........................”
น้องที่เข้าอบรมโทรรายงานเพื่อนร่วมงานกันเป็นแถวเทนเก็บตัวในห้องพักเงียบเชียวไม่เห็นจะกล้ามาชวนฉันกินเหล้าอีกหล่ะ ฮึ....................ฉันนึกอย่างสะใจ
“สุดท้าย ซาตานหนุ่มน้อยยอมทอดกายให้นังกระเทยจิ้งจอกเชยชม ก็ขายตัวให้สาวแก่แม่ม่ายน่ะได้กี่ตังค์เชียว แต่ขายให้กระเทยนี่มันทุ่มหมดตัวเชียวนะก็จะมีผู้ชายสักกี่คนที่ยอมละเลงรูอุจจาระล่ะครับ”ฉันพูดอย่างสาสะอารมณ์ในวันที่สี่ของการอบรมเทนหน้าตาแดงจัด
“........จาก ซาตานหนุ่มน้อยกลับกลายเป็นจอมพญาซาตานไปในที่สุดเมื่อเขาแปลงร่างเป็นปลิงดูดเลือดที่รูทวารนังกระเทยสุนัขจิ้งจอกหน้าโง่........... ”เทนน้ำตาเอ่อรินไหลฉันสาสะใจมาก ช่วยไม่ได้แกอยากรวมหัวกันทำร้ายฉันก่อนทำไมกัน ไม่เห็นหน้าเลยเย็นนี้คงไม่แม้กระทั่งจะลงมาทานข้าวล่ะสิฉันนึก
วันสุดท้ายฉันไม่มีชั่วโมงบรรยาย แต่มานั่งคุมสอบตอนบ่าย เทนนั่งทำข้อสอบด้วยสีหน้าแดงก่ำอิดโรย............น้ำตาเอ่อล้นดวงตาผลสอบออกมาสอบผ่านแค่เส้นแดงผ่าแปด ฉันยิ้มเยาะอย่างสะใจ
ได้ผลเกินคาดสัปดาห์ถัดมาฉันได้รับจดหมายแสดงความโกรธโกรธาอาฆาตมาดร้าย
“.............แกโกรธเกลียดอะไรทำไมไม่ทำกับฉันไปทำร้ายผัวฉันทำไมกัน คอยดูนะฉันจะตอบแทนแกให้สาสมที่สุดที่ทำงานนี้มีแต่เพื่อนฝูงฉันทั้งนั้นระวังตัวแกให้จงหนักเถอะ...............ลงชื่อ หมาจิ้งจอก” ที่จริงเนื้อหาหยาบคายกว่านี้มากแต่ฉันขยะแขยงจะจดจำ
ฉันไม่แยแส ฉีกเป็นชิ้นเล็กละเอียด ทิ้งลงถังขยะใช้รองเท้าเหยียบย่ำให้สมใจแล้วถุยน้ำลายรดจนเปียกชุ่ม
“มาลองสู้กันดูสักตั้ง ฉันปล่อยให้แกเล่นงานฉันมามากพอแล้ว.........”ฉันบอกกับตัวเอง
ฉันขอย้ายฝ่ายในปีงบประมาณถัดมาเพราะหัวหน้าฝ่ายเดิมเป็นลูกพี่ผู้ปลุกปั้นยัยกระเทยมาถึงขั้นยัยกระเทยเรียกว่าแม่กันเลยทีเดียว
ฉันย้ายไปทำงานที่ศูนย์อบรมหรูแห่งใหม่กลางกรุง มูลค่ากว่า 500 ร้อยล้านบาท...............ดูแลงานพัฒนาหลักสูตรผู้จัดการสาขาสายปฏิบัติการ และพัฒนาเป็นระบบ E-lernning ในปีถัดมา
ฉันซื้อคอนโดหนึ่งห้องในย่านใกล้ๆนั้น ชีวิตก็ดูหรูราบรื่นเรียบร้อยดีแต่ฉันเริ่มเหนื่อยหน่ายกับชีวิตการทำงานและดูเหมือนความก้าวหน้าในสายงานจะมาถึงทางตัน ด้วยผู้จัดการแผนกที่จะขึ้นระดับผู้จัดการฝ่ายมีเพียง 1:20 คนต่อปีเท่านั้นแล้วโพรไฟล์ของฉันดูจะเสียเปรียบเพื่อนๆร่วมรุ่นด้วยเรื่องราวฉาวโฉ่ที่เทนตีตราไว้ให้..................แม้ว่าเรื่องงานฉันจะดีเด่นแซงหน้าคนอื่นๆไปไกลมากก็ตาม
ฉันตัดสินใจลาออกเมื่อนั่งพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนดีแล้วว่าถ้ายังทำงานที่นี่ต่อไปอีกห้าปีฉันจะอยู่ที่ไหน อีกสิบปีจะเป็นอย่างไร แล้วถ้าทำจนแก่เฒ่าหมดเรี่ยวแรง ความก้าวหน้ามัน
จะไปได้แค่ไหนกันเชียว ฉันได้คำตอบว่าหนทางที่ฉันกำลังก้าวเดินเปรียบเหมือนขึ้นพีรามิด
ที่ยอดแหลมไปเรื่อยๆยิ่งตำแหน่งสูงขึ้นเท่าใด การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นก็ทวีคูณความเข้มข้นขึ้น
นี่แค่จะขึ้นระดับผู้จัดการฝ่ายยังต้องต่อสู้แข่งขันกันมากขนาดนี้ไม่เอาหล่ะฉันอ่อนล้าเกินไปที่จะต่อกรกับใครๆเขา..................................... ฉันเฝ้าบอกกับตัวเองและจากลาที่ทำงานเก่ามาอย่างเงียบๆ
ขอบคุณนะคราฟ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณ{:4_112:}มากมายครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับผม สนุกครับขอบคุณมากๆ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุงคร้าบ ขอบคุนคับ{:5_130:} ขอบคุณคราบ ขอบคุงคร๊าบบบ ขอบคุณครับ {:5_135:} ขอบคุณครับผม ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณคับ
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากครับ{:5_137:}