kabuki โพสต์ 2015-9-30 16:39:16

บาปรัก13 โดยคุณเป้




(13) : การเดินทาง (จบ)

ผมไม่โทษใครในสิ่งที่เกิดขึ้น หากจะโทษก็ต้องโทษตัวเอง ผมก่อบาปกรรมเอาไว้กับครอบครัวของพี่ยศ ผมจึงสมควรได้รับผลกรรมนั้นตอบแทน ผมไม่คิดอธิบายอะไรอีกแล้ว ผมอยากปล่อยให้ทุกอย่างผ่านเลยไป ปล่อยให้ชีวิตเป็นเช่นจอกแหน ความสุข ความทุกข์ ความรัก ความโกรธ อยากให้ทุกอย่างเป็นเหมือนทิวทัศน์สองฝั่งของแม่น้ำ ที่ปัจจุบันเราเห็นมันอยู่เบื้องหน้าสายตา แต่สักพักมันก็จะคล้อยไปอยู่ข้างหลัง และลับสายตาไปในที่สุด แต่แล้วผมก็ยังทำไม่ได้
หลังจากวันที่เกิดเรื่องเกือบสามสัปดาห์ ขณะนั้นผมกำลังรอนแรมอยู่ในป่าในเขตอุทยาแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ผมก็พบว่ามีข้อความฝากถึงผมทางโทรศัพท์มือถือ ที่จริงผมคิดจะขายโทรศัพท์มือถือเพราะไม่ต้องการจะใช้มันอีกต่อไปแล้ว แต่ใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดาย จึงเก็บเอาไว้ก่อน คงเป็นเพราะว่าผมยังเหลือเยื่อใยเส้นเล็กๆไว้กระมัง และคิดว่าพี่ยศอาจจะติดต่อมา
และแล้วความอาวรณ์ใยสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ก็เป็นความจริง ในที่สุดพี่ยศก็โทรติดต่อมา แต่ปกติผมจะปิดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ดังนั้นพี่ยศจึงทำได้เพียงแค่ฝากข้อความไว้
"เป้ พี่เองนะ" เสียงพี่ยศพูด เสียงนั้นฟังดูอบอุ่นและนุ่มนวลเหมือนเมื่อก่อนเกิดเรื่อง "อยากให้เป้โทรหาพี่หน่อย พี่อยากคุยด้วย"
ผมรู้สึกอบอุ่นวูบขึ้นมาในหัวใจ ประโยคสั้นๆจากคนที่ผมรักเป็นเหมือนสายลมอันอบอุ่นในฤดูเหมันต์ แต่อีกใจหนึ่งก็เจ็บปวดที่ได้ยินเสียงนั้น จิตใจคนนี่ยากจะหยั่งจริงๆ แม้แต่เจ้าของใจก็ยังไม่รู้จักใจตนเองดีพอ ทั้งๆที่ผมอยากคุยกับพี่ยศแทบจะขาดใจ แต่ผมกลับตัดสินใจไม่โทรไปหาพี่ยศ ผมไม่ต้องการอธิบายอะไรอีกแล้ว
"เป้ พี่ยศนะ" เสียงนั้นดังขึ้นอีกในวันต่อมาเมื่อผมเช็คข้อความที่ฝากไว้อีกครั้ง "เป้อยู่ที่ไหน พี่โทรไปที่ที่ทำงาน คนที่นั่นก็บอกว่าเป้ลาออกไปแล้ว พอไปดูที่บ้านก็เห็นบ้านปิดตายไว้" เสียงนั้นหยุดไปครู่หนึ่ง "ถ้าเป้ไม่อยากโทรหาพี่ เป้เปิดเครื่องหน่อยสิ พี่อยากคุยด้วย ขอให้พี่คุยกับเป้หน่อยนะครับ"
ผมไม่ตอบ รวมทั้งไม่เปิดเครื่องไว้ด้วย แต่กลับรอนแรมเดินทางต่อไป
ยามกลางคืนส่วนใหญ่ผมจะกางเต๊นท์นอนในอุทยานไม่ที่ใดก็ที่หนึ่ง ในบริเวณซึ่งห่างไกลผู้คน ท้องฟ้ายามกลางคืนในป่าสวยงามยิ่งนัก เต็มไปด้วยดวงดาวพราวพราย แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความอ้างว้างเพราะเหมือนกับว่ามีผมอยู่เพียงเดียวดายในโลกกว้าง ความเดียวดายทำให้ผมรู้สึกหดหู่ ผมพยายามจะลืมอดีตแต่ก็ลืมไม่ได้ มันวนเวียนไปมาอยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา ผมกำลังหลอกตัวเองว่าผมจะลืมทุกอย่างได้ เหมือนกับที่ผมเคยหลอกตัวเองว่าผมไม่ได้คิดครอบครองพี่ยศ แต่ที่จริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ผมคิดถึงพี่ยศ แม้พี่ยศจะดูเหมือนสิ้นไร้เยื่อใยในตัวผมแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังรักพี่ยศอยู่ ทุกคืนผมต้องนอนน้ำตาซึม กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เป็นชั่วโมง " ความตายนั้นน่ากลัวแต่การพลัดพรากกลับน่ากลัวกว่า" เพราะคนที่ตายไปแล้วก็หมดห่วงหมดอาวรณ์ ไม่ต้องเป็นทุกข์อีก แต่คนที่พลัดพรากนี่สิกลับยังต้องเวียนว่ายอยู่ในทะเลทุกข์เพราะความห่วงหาอาวรณ์ ผมเสียใจที่วันที่เราต้องจากกันนั้นแทนที่จะจากกันด้วยความรักและความเข้าใจ กลับกลายเป็นจากกันด้วยความชิงชัง ผมมีความรักมา 3 ครั้งแล้วก็ล้มเหลวทั้ง 3 ครั้ง ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมชีวิตของผมจึงอับโชคในเรื่องความรักเช่นนี้
ผมเดินทางไปเรื่อยๆโดยไม่ได้เปิดโทรศัพท์ฟังอีกเลย เพราะผมกลัวที่จะได้ยินเสียงพี่ยศอีก จนเมื่อผมกำลังจะเดินทางเข้าป่าอุ้มผาง ผมจึงเปิดโทรศัพท์เพื่อฟังข้อความอีกครั้ง ก็พบว่าพี่ยศโทรมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้อความ 2 ครั้งสุดท้ายนั้นยาวกว่าข้อความอื่นๆ
"เป้" เสียงนั้นเรียกผม "ที่จริงพี่อยากจะคุยกับเป้ จะได้ปรับความเข้าใจกัน แต่ถ้าเป้ไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไร พี่ฝากบอกไว้ก็ได้…" เสียงนั้นเงียบไปชั่วครู่ "พี่รู้ความจริงทุกอย่างแล้ว โตเพิ่งมาสารภาพกับพี่ ว่าทุกอย่างที่พี่เห็นเมื่อวันนั้นเกิดจากความต้องการของโต ไม่ใช่ของเป้ ตอนแรกพี่โกรธโตมาก จนโตเข้าหน้าพี่ไม่ติด โตเลยไม่กล้าบอกความจริง แต่โตบอกว่าทนสงสารเป้ไม่ได้ที่ต้องมารับบาปแทน ในที่สุดจึงมาบอกความจริงกับพี่ และเรื่องที่พี่กับเป้ไม่เคยรู้มาก่อนก็คือโตไม่ได้ไร้เดียงสาเลย โตเคยมีประสบการณ์แบบนี้กับเพื่อนที่โรงเรียนมาหลายครั้งแล้ว" เสียงนั้นหยุดไปอีกครู่หนึ่ง เหมือนกำลังเรียบเรียงคำพูด แล้วโทรศัพท์ก็ตัดไป
หลังจากนั้นผมก็เปิดฟังข้อความถัดมา "พี่ต้องขอบใจเป้ที่เตือนสติพี่ด้วยคำพูดประโยคสุดท้าย ถ้าไม่ได้คำพูดประโยคนั้นพี่คงทำอะไรรุนแรงกับโตไปแล้วจริงๆ ตอนนี้พี่มีเวลาคิดแล้ว ที่จริงโตก็คืออดีตของพี่เมื่อเด็กๆนั่นเอง ไม่น่าเชื่อที่พี่โกรธอดีตของตนเองได้ เป้พูดถูก ตอนนั้นพี่ก็เป็นเหมือนพ่อของพี่เอง แต่ตอนนี้พี่ได้คิดแล้ว เป้ไม่ต้องเป็นห่วงโตนะ …" เสียงนั้นเงียบไปอีก "เป้ พี่ขอโทษในสิ่งที่ทำไป พี่คิดถึงเป้มาก … อยากให้ทุกอย่างกลับคืนมาเหมือนเดิมอีก พี่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป้อยู่ที่ไหน แต่อยากให้เป้กลับมาหาพี่อีก เป้โทรกลับมาหาพี่ด้วยครับ"
ผมทรุดนั่งลงกับพื้นดินชอุ่มของป่าอุ้มผางท่ามกลางสายฝนปรอย หัวใจคลายทุกข์ลงไปเปลาะหนึ่ง อย่างน้อยก็รู้ว่าโตไม่มีปัญหาอีกแล้ว ความจริงทุกอย่างกระจ่าง มิน่าเล่าทำไมโตถึงได้กล้าทำกับผมเช่นนี้ ก็เพราะโตเคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้วนั่นเอง ผมอดนึกน้อยใจไม่ได้ เพราะถ้าพี่ยศเข้าใจผมอย่างแท้จริง เรื่องเข้าใจผิดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น หลายปีที่ผูกพันกันมาพี่ยศน่าจะทราบดีว่าผมชอบแต่คนที่มีอายุมากกว่า ไม่ได้สนใจเด็กๆหรือว่าคนที่อายุน้อยกว่าเลย แล้วผมจะทำเรื่องแบบนั้นกับโตได้อย่างไร
"ความตายไม่น่ากลัวเท่าการพลัดพราก" ผมพึมพำเบาๆกับตัวเอง หนึ่งเดือนที่ผมรอนแรมเดินทางท่ามกลางความเจ็บปวดที่กัดกร่อนจิตใจ เมื่อความจริงกระจ่าง ตอนนี้ผมมีโอกาสที่จะกลับไปแล้ว แต่ผมสมควรกลับไปหรือ?
ไฟแบตเตอรี่หมดแล้ว ไฟของแบตเตอรี่สำรองก็หมด ผมเก็บโทรศัพท์ไว้ในเป้ ผมไม่คิดหาที่ชาร์จแบตเตอรี่อีกเพราะคงไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกต่อไปแล้ว เมื่อความจริงกระจ่าง พี่ยศก็คงไม่เกลียดชังผมอีกแล้ว และความรู้สึกดีๆที่มีต่อผมก็คงกลับคืนมาเช่นเดิม หนึ่งเดือนแห่งการเดินทางของผมนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยก็ได้ตระหนักว่าชีวิตนั้นไม่แน่นอน …" และความไม่แน่นอนนี่เองที่ทำให้ความทรงจำมีค่า … เมื่อต้นเหตุแห่งความทรงจำนั้นไม่ได้คงอยู่อีกต่อไปแล้ว …" ไหนๆผมก็ต้องการถอนตัวออกมาจากครอบครัวของพี่ยศอยู่แล้ว ผมควรปล่อยให้พี่ยศประทับความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับตัวผมไว้เช่นนี้ตลอดไปจะดีกว่า
ผมออกจากอุ้มผาง มุ่งไปสุโขทัย รอนแรมไปยังเวียงโกศัย แม่ปิง ขุนตาล และเข้าสู่ป่าอินทนนท์-ดอยสุเทพ-ดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ จิตใต้สำนึกนำพาผมมาสู่เชียงใหม่ … ที่ซึ่งพี่ยศเคยตั้งรกรากอยู่หลายปีหลังจากเรียนจบ เมื่อผมรอนแรมไปถึงดอยปุย ผมก็ต้องล้มป่วยเพราะไข้มาลาเรีย เป็นไปได้ว่าผมคงได้รับเชื้อตั้งแต่ก่อนมาถึงเชียงใหม่ และเพิ่งมาแสดงอาการ เจ้าหน้าที่ขององค์กรพัฒนาชนบทของภาคเอกชนที่ทำงานกับกลุ่มชาวเขาคนหนึ่งมีใจอารีพาผมเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หลังจากนั้นผมก็มาพักฟื้นอยู่ที่โรงเรียนชาวเขาแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือที่องค์กรนี้ไปช่วยพัฒนาอยู่
ที่นี่ ผมได้เรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับชีวิตมากยิ่งขึ้น ผมได้เรียนรู้ว่าชีวิตไม่ได้มีเพียงแค่ความรักความชอบส่วนตัว แต่ชีวิตยังมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือความรักเพื่อนมนุษย์ ผมรู้สึกเสียใจที่ตนเองลุ่มหลงอยู่แต่ชีวิตรักส่วนตัวมานาน ถวิลหาแต่ชีวิตคู่ที่อบอุ่น โดยลืมไปว่าในโลกยังมีผู้คนอีกมากที่แม้แต่ความต้องการพื้นฐานยังขาดแคลน อย่าว่าแต่เรื่องชีวิตรักเลย
ผมตัดสินใจใช้ที่นี่เป็นที่ชำระล้างบาปรักที่ติดพันอยู่ในจิตใจ รวมทั้งเยียวยารักษาแผลใจของผม หลังจากที่ผมหายป่วยจากมาลาเรียแล้ว ผมจึงอาสาเป็นครูสอนหนังสือในโรงเรียนชนบทและช่วยงานองค์กรพัฒนาชนบทแห่งหนึ่งในถิ่นนี้ แม้เงินเดือนจะน้อยนิดอย่างเทียบไม่ได้กับเงินเดือนวิศวกร และด้วยวัยของผมก็ออกจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดอยู่บ้างที่มาทำงานเช่นนี้ เพราะอาสาสมัครเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่มันก็ไม่สำคัญอะไร เพราะผมได้พบกับชีวิตที่สงบสุขและมีความหมายที่นี่ แม้ในป่าเขาจะไม่สะดวกสบายเทียบเท่าในเมือง แต่ก็ทำให้จิตใจของผมสงบร่มเย็นได้ ผมคงอยู่ที่นี่เพื่อพักฟื้นจิตใจอันบอบช้ำของผมไปเรื่อยๆจนกว่าผมจะคิดอะไรที่ดีกว่านี้ออก ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร
บางครั้งที่ผมมีโอกาสเข้าตัวเมือง ผมจะใช้เวลาส่วนหนึ่งอยู่ในร้านอินเตอร์เน็ตเพื่อบันทึกเรื่อง "บาปรัก" ที่ทุกคนกำลังอ่านอยู่นี้ ผมต้องเข้าเมืองหลายครั้งทีเดียวกว่าจะบันทึกเรื่องนี้จนจบ ผมจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อบุคคลและดัดแปลงเหตุการณ์บางอย่างไปบ้างเพราะบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องนี้ล้วนแต่ยังมีชีวิตอยู่ ผมไม่อยากให้กระทบกระเทือนใคร แต่ผมเชื่อแน่ว่าหากผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องได้อ่านเรื่องนี้ก็คงทราบว่าเรื่องนี้ใครเป็นผู้เขียน และเขียนถึงใคร
"ถ้าโตมีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้ ซึ่งอาเชื่อว่าสักวันหนึ่งโตจะเข้ามาอ่านพบ ก็ขอให้โตรู้ว่าอาสบายดี พร้อมทั้งต้องขอโทษด้วยที่เราต้องจากกันโดยที่ไม่มีโอกาสได้ร่ำลา ตอนนี้โตคงสบายใจแล้วเพราะมีพ่อที่เข้าใจจิตใจของโตอยู่เคียงข้าง และครอบครัวของโตก็คงสงบสุขแล้วเมื่ออาไม่อยู่ ฝากบอกพ่อของโตด้วยว่าอาได้ฟังข้อความทั้งหมดในโทรศัพท์แล้ว แต่เห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องตอบจึงไม่ได้ตอบกลับไป อาขอให้โตและพ่อของโตเก็บอาไว้ในความทรงจำก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องพบกันอีก"
ตอนนี้ผมใช้ชีวิตอยู่อย่างสมถะบนดอย ท่ามกลางเด็กๆและกลุ่มคนผู้มีน้ำใจเสียสละ แม้จะมีสันติสุขในจิตใจ แต่ก็ยอมรับว่าในส่วนลึกแล้วยังมีความอ้างว้างแฝงอยู่ ยามดึกสงัด ผมชอบออกมาเดินเล่นที่ลานกว้างหน้าโรงเรียน แหงนดูดวงดาวพราวพรายเต็มท้องฟ้า ฟังเสียงแมลงหรีดร้องระงม พร้อมทั้งอดคิดถึงพี่ยศไม่ได้ ผมไม่อาจลืมพี่ยศได้เลย พี่ยศเป็นทั้งพี่ชายและเป็นเหมือนพ่อของผม เป็นบุคคลที่ผมผูกพันชีวิตด้วยมากที่สุด และก็เป็นผู้ที่สร้างความบอบช้ำให้แก่ชีวิตของผมมากที่สุดเช่นกัน … ป่านนี้พี่ยศกำลังทำอะไรอยู่หนอ... แม้ช่วงเวลาที่ผมได้ใกล้ชิดกับพี่ยศจะไม่นานมากนัก แต่ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่จะทำให้ผมหวนรำลึกไปได้ชั่วชีวิต เส้นทางชีวิตข้างหน้าแม้จะเดียวดาย แต่ผมจะมีความทรงจำดีๆส่วนนี้คอยเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงจิตใจให้มีกำลังพอที่จะต่อสู้ชีวิตต่อไป
ท่ามกลางแสงดาวและเสียงแมลงระงม เสียงสายลมพัดผ่านราวป่าดังหวีดหวิว ผมมักยืนฟังเสียงหวีดหวิวนี้คราวละนานๆเสมอ และในจินตนาการ ผมแว่วยินเสียงเพลงที่พี่ยศรักแทรกประสานมากับสายลม พี่ยศเคยบอกว่ารักเพลงนี้มากเพราะเพลงนี้หมายถึงผม และต่อมามันก็เป็นเพลงที่ผมรักมากที่สุดเช่นกัน หรือพี่ยศกำลังฝากเสียงเพลงและคำรักมาถึงผม…
เมื่อมาคิดว่าพี่ยศอาจกำลังเป็นทุกข์เพราะไม่รู้ว่าผมเป็นตายร้ายดีอย่างไร ดังนั้นในคืนดึกสงัดคืนหนึ่ง ผมจึงตัดสินใจโทรศัพท์กลับไป ผมเลือกเวลาดึกเพราะพี่ยศคงปิดโทรศัพท์ไปแล้ว … ผมเพียงต้องการฝากข้อความไว้เท่านั้น …
"พี่ยศครับ ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไรที่ผมต้องมาครอบครองคนที่มีเจ้าของแล้ว แต่ผมผิดแล้วจะไม่ผิดซ้ำอีก ผมจึงตัดสินใจถอนตัวจากพี่ ผมอยากให้พี่รู้ว่าผมไม่ได้จากพี่มาเพราะความโกรธหรือน้อยใจในสิ่งที่พี่ทำกับผม แต่ผมจากพี่มาเพราะต้องการให้พี่มีชีวิตครอบครัวที่เป็นสุข… จะมีเรื่องที่เสียใจก็เพียงเรื่องเดียวคือการที่เราต้องจากกันโดยที่ไม่มีโอกาสร่ำลากัน… ผมอยากให้พี่รู้ว่าพี่เป็นพี่ชายที่แสนดีและอบอุ่นคนเดียวของผม และจะประทับอยู่ในความทรงจำของผมตราบนานเท่านาน …"
ผมปิดโทรศัพท์ สายตาทอดไปในความมืดอันไม่มีที่สิ้นสุดของรัตติกาล ท่ามกลางเสียงลมพัดราวป่าดังหวีดหวิว … ลาก่อนครับ พี่ยศ
เป้

ป.ล.
ผมให้ที่อยู่อีเมล์ไว้ในเรื่องด้วย จุดประสงค์ของผมคืออยากได้กำลังใจจากเพื่อนๆบ้าง รวมทั้งฟังเพื่อนๆแสดงความคิดเห็นว่าชีวิตในอดีตนั้นผมทำผิดหรือถูกประการใด และอยากให้ชีวิตของผมนี้เป็นอุทาหรณ์แก่ทุกคน ผมคงไม่มีโอกาสตอบอีเมล์เหล่านี้เพราะข้อจำกัดในเรื่องความสะดวก อีกทั้งผมยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมที่จะติดต่อกับใคร และสุดท้ายนี้ผมขอฝาก เพลงที่พี่ยศและผมรักมากที่สุด ให้แก่ทุกๆคนครับ
peeradej@nettaxi.com



longkhong โพสต์ 2015-9-30 17:39:22

บาปรัก

minime โพสต์ 2015-9-30 18:35:58

ขอบคุณครับ

minone โพสต์ 2015-9-30 19:18:51

ขอบคุณครับผม{:5_130:}

nun221033 โพสต์ 2015-9-30 21:51:22

ขอบคุณมากๆ นะครับ

taira โพสต์ 2015-9-30 22:16:33

ขอบคุนคับ

audiwoods โพสต์ 2015-10-1 04:42:16

ใจสงบก็พบทางสว่างครับ

maxum โพสต์ 2015-10-1 06:13:40

ขอบคุณมากๆ นะครับ

watsana โพสต์ 2015-10-1 16:11:14

ขอบคุณนะคับ

kangped โพสต์ 2015-10-1 22:10:24

ขอบคุณครับ

kangped โพสต์ 2015-10-1 22:10:40

ขอบคุณครับ

cakedong โพสต์ 2015-10-2 16:03:43

ขอบคุณครับ

darkmode โพสต์ 2015-10-2 17:14:43

ผมเชื่อว่าคุณเป้จะมีจิตใจที่เข้มแข็งในอีกไม่ช้าครับ...อดีตอาจเจ็บปวดแต่ก็มีคุณค่า
ปัจจุบันอาจอ้างว้าง...แต่ก็มีคุณค่า
อนาคตเรายังไม่อาจทราบได้ว่าจะเป็นแบบใด...แต่เชื่อว่าก็มีคุณค่า

เพราะคุณค่าของชีวิต ผมเชื่อว่ามันเกิดขึ้นตลอดเวลาที่เรามีลมหายใจ และมันจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นในวันข้างหน้า
และเชื่อว่า คุณแม่ของคุณเป้ ท่านยังโอบกอดลูกคนนี้ไว้เสมอครับ

harizon โพสต์ 2015-10-3 10:52:31

ขอบคุณครับ

parisatlover โพสต์ 2015-10-4 01:39:39

อย่าคิดมากเลยนะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าค่ะ

bubblebeer โพสต์ 2015-10-4 02:48:52

ขอบคุณครับ

Chisunut โพสต์ 2015-10-6 22:59:39

สนุกดีครับ

sengjit โพสต์ 2015-10-7 08:12:27


ขอบคุณครับ

Appman โพสต์ 2015-10-8 12:51:09

ความรักมันไม่สามารถห้ามได้ แค่มีสติกับสิ่งที่ทำ...และอย่าทำผิดซ้ำก็พอ...บทสรุปถึงจะเจ็บและเดียวดาย..แต่สักวันจะทำใจได้..คุณเป้ทำถูกแล้วที่ตัดสินใจแบบนี้

mojimaru โพสต์ 2015-10-18 07:57:37

จบซะแล้วครับ
หน้า: [1] 2 3 4
ดูในรูปแบบกติ: บาปรัก13 โดยคุณเป้