tanya โพสต์ 2016-1-18 10:04:31

◈ S A L Y E ◈ น า ย ต่ า ง พั น ธุ์ C o m p l e t e d - 17

◊ C h a p t e r 1 7 ◊
แ ป ล ก   เสียงเครื่องปรับอากาศราคาแพงที่คิดว่าไม่น่าจะได้ยินเสียงระบบเครื่องทำงานให้รำคาญใจแน่ๆ
   แต่เพราะความเงียบในห้องมันเชียบจนเกินไป
   ทำให้รู้สึกว่ามีเสียงแว่วเข้าหูอย่างไม่น่าเชื่อ…
   จากห้องที่เต็มไปด้วยเสียงถามนั่นถามนี่ไม่หยุดของเพื่อนรักทั้ง5ก็ถูกแทนที่ด้วยบรรยากาศนิ่งสงบ…หลังจากทั้งหมดกลับไป
   เขายันตัวนั่งพิงหัวเตียงพลางก้มหน้ามองมือตัวเอง….ไร้บทสนทนา
   'มึงไม่กลับไปกับกูแน่นะสเป'
   'ให้กูไปส่งบ้านก็ได้นะ'
   'หรือมึงจะไปนอนคอนโดกูก็ได้ ไม่ก็บ้านไอ้ปั้น'
   'ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงกูหรอก' สเปเชียลยิ้มอ่อน
   'กูมีเรื่องจะคุยกับซีก่อน'
   พวกเพื่อนๆ เห็นสเปเชียลยืนยันหนักแน่นจึงไม่อยากขัดอีกทั้งเจ้าตัวเองก็ดูสีหน้าดีขึ้นแล้วจึงยอมถอยทัพกลับ แต่ก็ยังไม่วายย้ำถ้ามีอะไรให้โทรหาจะมารับ….
   โครก
   เสียงท้องสเปเชียลดังขึ้นเนื่องจากไม่มีอาหารตกถึงท้องมาพ้นวันได้แล้ว เจ้าตัวรู้สึกเขินแปลกๆ เม้มปากแน่นหางตาเหลือบเห็นอีกฝ่ายยกยิ้ม
   แล้วซีก็เดินออกจากห้องไป
   เขาขมวดคิ้วบ่นอุบอิบ
   รู้สึกเสียฟอร์มนิดๆ
   “เอ้า” สเปเชียลเงยหน้ามองเมื่อเสียงซีดังขึ้นบนหัวพร้อมกับชามข้าวต้มที่มีควันอุ่นๆ โชยมาแตะใบหน้า เขาอ้าปากนิดๆ อย่างแปลกใจ
   “กินสิ”
   “อะ…ขอบคุณ” เขาว่าแล้วเอื้อมมือไปรับ แต่มือเขาสั่น…แรงไม่มี
   ยังเจ็บข้อมืออยู่เลย
   ซีขมวดคิ้วมองแผลที่ข้อมือสเปเชียลก่อนจะชักชามข้าวต้มหนี
   “นี่!”
   สเปเชียลเตรียมจะโวยเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายจะแกล้งเขาอีกแล้ว ให้ตายสิ! เขาเป็นแบบนี้ยังมากวนประสาทกันอีก
   แต่ไม่ทันได้โวยวายก็ต้องหุบปากฉับ เมื่ออีกฝ่ายประคองชามข้าวต้มไว้ในมือแล้วทิ้งมือลงที่ตักของเขา
   “ถือไม่ไหวก็ไม่ต้องถือ” ซีว่าแล้วส่งช้อนให้สเปเชียล
   สเปเชียลมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งไปก่อนจะรับช้อนมาไว้ในมือ เขาส่งช้อนที่มีข้าวต้มอุ่นๆ เข้าปากช้าๆเคี้ยวและกลืนเรื่อยๆ จนพร่องถ้วย….
   เขินแปลกๆ แหะ…
   พอหมดช้อนสุดท้ายซีก็คว้าช้อนในมือสปเชียลวางลงชาม พยักหน้าไปทางแก้วน้ำที่วางอยู่ข้างเตียง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปสเปเชียลเม้มปากมองตามซีออกไป เมื่อลับตาจึงเอี้ยวตัวไปหยิบน้ำมาจิบ…
   เพล้ง!
   เขาปล่อยมือจากแก้ว วางไว้ข้างเตียงก่อนจะสะดุ้งจนตัวโยนเพราะเสียงเหมือนอะไรแตกดังลั่นมาจากห้องข้างนอก
   “ซี!”
   สเปเชียลตะโกนเรียกชื่อคนที่อยู่ข้างนอกแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ เขาจึงค่อยๆ ยันตัวลุกจากเตียงแล้วเดินไปออกหาต้นเสียงสเปเชียลเบิกตากว้างรีบรุดเข้าไปหาซีที่ทรุดตัวลงกึ่งยืนกึ่งนั่งอยู่ใช้แขนยันเคาน์เตอร์ครัวช่วยไม่ให้ตัวเองกองลงไปกับพื้น ใบหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
   “เฮ้ย! เป็นไรวะ? ไหวมั้ย”เขาพยุงร่างที่ใหญ่กว่าตนขึ้นอย่างทุลักทุเลจนพามาทิ้งตัวที่โซฟาสำเร็จ
   “ไหวมั้ยเนี่ย” สเปเชียลส่งเสียงทักออกไปเมื่ออีกฝ่ายยังก้มหน้านิ่งรู้สึกถึงความสั่นหอบจากอีกฝ่าย
   เขาชะงักไปนิด
   “นี่ขาดเอนไซม์ใช่มั้ย”
   “……………...”
   สเปเชียลลอบถอนหายใจเล็กน้อย “ซี”
   ซีเหลือบตามองสเปเชียล เห็นอีกฝ่ายพยักหน้าน้อยๆเขานิ่งคิดไปหน่อยก่อนจะขยับตัวประกบปากกับอีกฝ่าย
   สเปเชียลหลับตาปี๋สัมผัสของอีกฝ่ายยังคงรุนแรงและจาบจ้วงไม่เปลี่ยนลิ้นหนาไล่กวาดไปตามโพรงปากของเขาอย่างรุนแรง…เจ็บ
   “อื้อ!” สเปเชียลเผลอหลุดร้องออกไปย่นตัวหนีเพราะความเจ็บแปลบที่มุมปาก
   แผลจากแรงตบเมื่อวันก่อน…
   ซีผงะออกมองหน้าสเปเชียลทันทีเขาหมุ่นคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่าย…ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความเจ็บ
   เขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายทำหน้าแบบนี้
   “อะ..โทษที” สเปเชียลเอ่ยปากบอก“กูไม่เป็นไร มึงพอยัง?”
   ซีมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง คิ้วเข้มยังขมวดเป็นปม “เจ็บ?”
   สเปเชียลเบิกตากว้าง เลิกคิ้วอย่างลืมตัว “ปะ…เปล่าๆ ไม่ได้เจ็บ”
   ซีจ้องเขม็งไปที่มุมปากของอีกฝ่าย “……..”เขาเอื้อมมือไปแตะ แม้เพียงสัมผัสเบาๆ ก็เรียกเสียงประท้วงจากอีกฝ่ายได้แล้ว
   “โอ้ย! แตะทำไมเนี่ย” สเปเชียลขมวดคิ้วแน่นถอยหนีจากซีด้วยความหงุดหงิด
   “โทษที” ซีว่า “ไปนอนต่อ”
   “…………….”
   ซีหันไปมองสเปเชียลที่ยังนั่งนิ่งอยู่เขาจ้องอีกฝ่ายเหมือนจะถามว่าทำไมไม่ไป
   “…..คุยด้วยหน่อยสิ” สเปเชียลเอ่ยขึ้นเงยหน้ามองนัยน์ตาสีทองคู่นั้น
   “เข้าไปนอน”
   “อะ…”
   ไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ท้วงซีก็เอ่ยต่อ “ไปคุยข้างใน” เขาว่าแล้วเดินนำเข้าห้องนอนไป
   สเปเชียลเดินตามซีเข้ามาในห้องเห็นเจ้าตัวนั่งเอนหลังอยู่ที่อาร์มแชร์ พลางหันมาพยักหน้าให้เขาไปนอนบนเตียงเขาก็ทำตามไม่อิดออด
   “………….” หลังจากขึ้นไปเอนหลังบนเตียงแล้วห้องก็เงียบอีกครั้ง…
   “คือภาพสุดท้ายที่กูจำได้” เขาขมวดคิ้วครุ่นคิด“กูแทงขาตัวเอง”
   “…………”
   “แต่ตอนนี้ไม่มีแผล…หรือกูเห็นภาพหลอน”
   พอมีสติกลับมาภาพเขาปักคมมีดเข้าที่ต้นขาตัวเองก็แวบเข้ามาในหัวความเจ็บร้าวแล่นริ้วจนถึงสมองยังติดอยู่ในความรู้สึก…. แต่กลับไม่มีร่องรอยปรากฏตรงตำแหน่งที่คิดว่ามี…หรือเพราะฤทธิ์ยาทำให้เขาคิดไปเอง
   เขาชักไม่แน่ใจ
   “ซี ถามจริง...หลังจากกูสลบไป มีไรเกิดขึ้นบ้าง”
   ซีเหลือบตามองสเปเชียล ที่มองมาอยู่ก่อนแล้วสเปเชียลมองประสานตากับดวงตาคู่เดิมที่เขาเริ่มคุ้นเคย
   เขารู้สึกว่าแววตาของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปไม่มีความดุดันหรือเย็นชาอยู่ในนัยน์ตาสีทองคู่นี้เหมือนที่เคยเป็น…
   “โดนยาน่ะ ตอนเข้าไปเจอก็สลบไปแล้ว คิดว่าฤทธิ์ยาคงทำให้มึนแล้วช็อคไป”
   ซีนิ่งไป ก่อนจะพูดขึ้นเลี่ยงประเด็นความจริงที่เกิดขึ้น
   อีกฝ่ายไม่ควรรู้…จำไม่ได้ก็ดีแล้ว
   “แล้วมึงไปช่วยกูได้ไง”
   “พวกนั้นบอกว่านายหายไป”
   “พวกนั้น?” สเปเชียลเลิกคิ้ว
   “พวกที่มาเมื่อเช้า”
   ‘อ่อ พวกลม’ เขาพยักหน้าหงึกหงักตอบรับ
   สเปเชียลอึกอักไปนิดเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูดซีนั่งมองท่าทีแบบนั้นอย่างสนใจ
   สเปเชียลเหลือบมองซีก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “…ขอบคุณนะ”
   หึ
   ซีส่งเสียงหัวเราะในคอเบาๆทำเอาคนขอบคุณขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
   สเปเชียลจิ๊ปากนิดๆ “แล้วคนพวกนั้นเป็นไงบ้าง”
   “ตายเกือบหมด”
   สเปเชียลเบิกตากว้าง “อะ..”
   “เดี๋ยวรอดูข่าวเอา” เขาเว้นช่วงมองอีกฝ่ายก้มหน้าอย่างสับสน
   “จำเป็น พวกมันเห็นหน้า”
   ซีจับความรู้สึกผิดปกติของสเปเชียลได้จึงพูดบอกออกไปลอยๆ…ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าคนบนเตียงกำลังรู้สึกแย่แบบแปลกๆ   ฆ่าคนพวกนั้น ผิดเหรอ?
   สเปเชียลยังคงนั่งก้มหน้านิ่งจมอยู่กับความคิดตัวเอง
   ฆ่าไปเกือบหมดเลยเหรอ….จะเป็นจำนวนที่มากขนาดไหนกันนะ
   มันจะดีจริงๆ เหรอที่ฆ่าคนไปเยอะขนาดนั้น
   แต่มันก็สมควรแล้วหนิ…
   ยิ่งกับพวกเลวๆ พันธุ์นั้น!
   ยังจะพวกเด็กๆ ที่โชคร้ายเพราะพวกมันอีก
   แต่มายืมมือซารายด์อย่างซี…มันจะดีแน่เหรอ
   เรื่องนี้จะแดงรึเปล่า
   เรื่องซารายด์…
   สเปเชียลคิดพลางเหลือบมองเจ้าตัวเขาเลิกคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าซีไม่ดีนัก…เอนไซม์ไม่พอแน่ๆ
   เมื่อกี้ก็ทำไปได้แปปเดียว….
   “นี่”
   “……….”
   “ถ้าขาดเอนไซม์ก็ไม่ต้องอดทนหรอก”
   “……….”
   “ตามข้อตกลงไง”
   “….ไม่เป็นไร” ซีว่าแล้วเบนหน้าหนี
   “ซี” สเปเชียลกดเสียงต่ำเรียกอีกฝ่าย
   “………ไม่เป็นไรน่า”
   “นี่ อย่ามาเล่นตัวน่ะ”
   “.............” เขานิ่งสเปเชียลก็ยังจ้องหน้าเขาอยู่ “เดี๋ยวเจ็บ”
   สเปเชียลเอียงหัวด้วยความสงสัย….เมื่อกี้มันพูดอะไรนะ?
   กลัวเขาเจ็บเหรอ?
   ตลกละไง
   “บ้าน่า กูไม่เจ็บหรอก” สเปเชียลพูดกลั้วหัวเราะ“อย่าท่ามาก”
   ซีกระตุกมุมปากขึ้นแล้วขยับตัวมานั่งบนเตียงข้างๆสเปเชียล เขาขมวดคิ้วมองมุมปากที่ช้ำสีเลือดของสเปเชียล
   “อย่าเยอะ” สเปเชียลว่าขึ้นหลังมองตามสายตาซี
   จะมาห่วงกูเจ็บไรตอนนี้?!
   ซีลังเลขยับตัวไปมา ขมวดคิ้วแน่นแล้วขยับตัวเข้าหาสเปเชียลให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้เขาแนบปากทาบลงกับปากสเปเชียล ชะงักนิ่งไปนิดเมื่อกลีบปากชนกันเขาแทรกลิ้นเข้าไปตามรอยแยก….ซีหยุดนิ่งไปก่อนจะค่อยๆ กวาดลิ้นช้าๆไล้เลียตามริมฝีปากอย่างเบาที่สุด
   “อึก…”
   ซีหยุดลิ้นนิ่งเมื่อได้ยิ้นเสียงประท้วงในคอจากสเปเชียลเขารอไปพักนึง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป จึงเริ่มขยับลิ้นต่อเสียงน้ำลายและเสียงลิ้นขยับดังขึ้นแผ่วๆ ท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุมอยู่รอบตัวทั้งคู่
   สเปเชียลขมวดคิ้วแน่นกับความรู้สึกแปลกประหลาดที่ไม่คุ้นชิน
   สัมผัสแบบนี้เขาไม่เคยได้รับจากคนตรงหน้า…
   ถึงจะไม่เบานัก…แต่ก็ดูมีความอ่อนโยนแฝงอยู่ให้พอรู้สึกลิ้นหนาขยับติดๆ ขัดๆ ราวกับไม่มั่นใจ จังหวะหนักเบาสลับกันดูยังไม่ลงตัว
   คล้ายๆ จะเกรงใจไม่กล้าแต่ซักพักก็เหมือนลืมตัว…ลืมผ่อนแรง
   ความเจ็บที่มุมปากหายไปแล้ว…อาการชาแปลบปลาบที่ปลายลิ้นก็หายไป
   มีเพียงความรู้สึกแปลกๆ อึดอัดที่หน้าอก…
   สเปเชียลเริ่มไม่แน่ใจแล้ว…. ว่าความเจ็บแปลบจากสัมผัสรุนแรงจนน่าโมโหกับความรู้สึกอึดอัดที่หน้าอกแปลกๆ จากสัมผัสแบบนี้
   เขาชอบแบบไหนมากกว่ากัน…
   บางทีเวลาเขาต้องโมโหก็อาจจะดีกว่าเพราะเขาไม่ต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนอะไรแบบนี้เลย…
   กระอักกระอ่วนจนรู้สึกหน้าร้อนวูบวาบ
   หรือเขาจะป่วย?      “กลับละนะ”
   “รอ...เดี๋ยวไปส่ง”
   ประโยคแบบนี้เกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาจะกลับบ้านหลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้น….
   ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่จะเถียงอะไรก็ไม่ได้
   ถ้าจะเถียงว่าไม่เกิดขึ้นอีกหรอก ก็คงจะเข้าทำนอง ‘วัวหายล้อมคอก’ สินะบางทีเขาก็ตัดปัญหาด้วยการขับรถมาเอง แต่อีกฝ่ายก็ไม่วายนั่งรถไปด้วยแล้วกลับมาเอง
   ก็ยิ่งทำให้มันลำบากเข้าไปใหญ่…
   “……แต่กูว่า” ไม่ทันได้เอ่ยไปจนจบเขาก็ต้องหุบปากฉับ เมื่อเห็นนัยน์ตาสีทองตวัดมองเขาดุๆ
   เออเว้ย…ด่ากูทางสายตาก็ได้ด้วย
   อ๊อด !
   เสียงออดดังขึ้น…คราวนี้เขาไม่สะดุ้งละ
   หึ…ชินแล้วเว้ย
   ซีเดินไปเปิดประตู
   เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าคนเดิม….ภาพซ้ำๆ
   แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ ท่าทีของคนมาใหม่…แปลก
   ไม่เข้ามาแหย่มาเล่นกับเขาเหมือนเดิมท่าทีขี้เล่น ยิ้มร่า หายไป ดูนิ่งๆ มีสีหน้าเครียดเคร่งประดับแทนรอยยิ้มประจำตัว…
   คิวหันมายิ้มน้อยๆ ให้สเปเชียล ก่อนจะหันไปหาซี
   “จะไปข้างนอก?”
   ซีพยักหน้า “เดี๋ยวกลับ”                     
   “อืม รีบกลับมา…มีเรื่องต้องคุยกัน”
   ซีจ้องตากับคิว แล้วถอนหายใจแผ่วๆ พยักหน้ารับ
   “ไป กลับ” ซีว่าขึ้นหันมามองสเปเชียล แล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากห้องไป
   คิวมองตามจนประตูปิดลง เขาส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจแล้วเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่โซฟารอเจ้าของห้องกลับมา…
   “หมอนั่นมันเป็นอะไรรึเปล่า”
   รถเคลื่อนตัวออกมาได้ซักพักความผิดปกติของคนเมื่อครู่ยังติดอยู่ในหัวความช่างสงสัยในตัวของสเปเชียลก็คุกรุ่นจนต้องออกปากถามเขาจ้องซีที่ยังมองตรงไปข้างหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉย
   “ดูมันแปลกๆ นะ” เขาพูดต่อเมื่อเห็นซีไม่พูดตอบอะไร
   “...ไม่มีอะไรหรอก”
   นี่มันเป็นการตอบแบบจงใจปัดเลี่ยงชัดๆ เลยนะ
   สเปเชียลหมุ่นคิ้ว ท่าทีไม่พอใจจนอีกฝ่ายต้องเหลือบตามองอาการฮึดฮัดขัดใจตามนิสัยของเจ้าตัว
   “ถามทำไม”
   สเปเชียลหันขวับไปมองซี “ก็มันแปลก แปลกตั้งแต่กูกลับมาจากโดนจับ”
   “คิดเอง”
   “เออคิดเอง แต่ก็เห็นเอง ไม่ได้ฟังใครมา”
   “อืม”
   “มึงนี่นะ จะตอบจะคุยอะไรมันจะ…อึก…”
   ซีหันมามองทันทีที่สเปเชียลกระตุกขณะพูดเขาตีไฟเลี้ยวและหักหวงมาลัยเข้าข้างทางอย่างรวดเร็ว
   “แฮ่ก” สเปเชียลกุมหน้าอกตัวเองจนเสื้อยับยู่เพราะแรงขย้ำเขาหันไปมองซีที่ขมวดคิ้วจ้องมาอยู่แล้ว “กูไม่เป็นไร”
   อาการแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ หลังจากเค้าฟื้นเขาคิดว่าคงเป็นอาการข้างเคียงจากยา
   หากแต่อีกฝ่ายที่รู้ความจริงถึงกับต้องขมวดคิ้วแน่นครุ่นคิดหนัก
   “รู้สึกยังไง” ซีเอ่ยปากถาม
   “แค่หายใจไม่ทัน แต่ช่วงนี้ขาก็ไม่ค่อยมีแรง”สเปเชียลกระตุกยิ้ม“สงสัยยาแม่งแรงจริง”
   สเปเชียลชะงักไปนิด ก็หันขวับมาหาซี “แต่เรื่องขาเนี่ย สงสัยมานานละ” เขาหรี่ตามองซีอย่างจับผิด
   “ถามจริงว่าเกิดไรขึ้น กูมั่นใจว่ากูไม่ได้เห็นภาพหลอนกูเจ็บจริง” เขาเอื้อมมือไปจับต้นขาตัวเองบริเวณที่คิดว่าแทงลงไป
   “แล้วยิ่งมีอาการแปลกๆ แบบนี้” เขาเว้นช่วงจ้องเข้าไปในตาอีกฝ่าย “กูยิ่งสงสัย”                  
   ซีถอนหายใจเบาๆ อย่างไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว
   เมื่อไหร่ไอ้อาการฉลาดแบบไม่น่าเชื่อสงสัยไปซะทุกเรื่องแบบนี้จะหายไปนะ
   รับมือยากจริง
   “หายรึยัง” ซีเลือกที่จะเปลี่ยนประเด็น
   สเปเชียลขมวดคิ้วไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อ “อืม หายแล้ว”
   สิ้นคำ ซีก็ออกรถไม่นานนักลัมโบร์กีนีสีดำก็มาจอดนิ่งอยู่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่
   “ใจที่มาส่ง ไปละ” สเปเชียลว่าพลางปลดเบลล์ออกแล้วเปิดประตูก้าวลงไปยืน
   “...........” ซีหันไปมองตามเตรียมยกเท้าออกจากเบรก รอให้อีกฝ่ายปิดประตู   
   “กลับดีๆ” สเปเชียลทิ้งท้ายแล้วปิดประตูรถเดินเข้าบ้านไปซีกระตุกยิ้มเล็กน้อยแล้วเคลื่อนรถออกจากหน้าบ้านสเปเชียล
   กลับไปยังต้องเหนื่อยอีกยาว…
   คิวรออยู่
   “กว่าจะกลับมาได้” คิวพูดทักขึ้นเมื่อเห็นซีเปิดตูเดินเข้ามาในห้อง ซีไหวไหล่เล็กน้อยแล้วเดินมานั่งข้างๆ
   “ที่พูดวันนั้น” คิวเว้นช่วงไปนิดราวกับไม่อยากนึกถึง“พูดจริงใช่มั้ย”   ซีนิ่งไป ก่อนพยักหน้ารับ “คิดว่า”
   คนฟังถอนหายใจเฮือกใหญ่ “มันเป็นไปไม่ได้ซี เรื่องนี้มันมีไว้สำหรับมนุษย์”
   “..............”
   “เราไม่ใช่มนุษย์”
   “.............”
   “เราไม่มีความรัก”
   “พอเถอะ”
   คิวขมวดคิ้วกับคำตอบโต้ของเจ้าตัว “ซี”
   “ถ้าจะพูดอย่างนั้น ก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไร”ซีสบตาฝ่ายตรงข้ามนิ่งๆ
   “ถ้าจะบอกว่าไม่ใช่รักก็ได้” เขาเว้นช่วงไป “แต่จะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่าอะไร”
   คิวชะงักไป…
   “แบบไหน...”
   ซีโคลงหัวไปมาเบาๆ “วางตาจากเขาไม่ได้ ละสายตาไม่ได้ ปล่อยให้เขาอยู่ในอันตรายก็ไม่ได้ยิ่ง...” เขาสบตามองอีกฝ่าย   เหมือนจะย้ำคำ
    “ปล่อยให้เขาเป็นอะไรยิ่งไม่ได้”
   “……….” คู่สนทนาฟังแล้วก็ไร้คำพูดไปเฉยๆ
   คิวกระพริบตาถี่ๆ ราวกับจะไล่ความสับสนในใจออกไป “…ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ…แต่จะพยายามคิดตามนะ”
   “อืม”
   “นายจะรักแม้ว่าอีกฝ่ายอาจจะทำร้ายนายเมื่อไหร่ก็ได้อย่างนั้นรึไง”
   “...........”
   “นายจะไม่สนใจแม้ว่าวันนึงเด็กนั่นจะเป็นอันตรายที่สุดสำหรับเผ่าพันธุ์เราใช่มั้ย”
   “………”
   “แม้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปอาจจะทำลายความอดทนอดกลั้นที่บรรพบุรุษเราสร้างสมกันมาตั้งหลายสิบหลายร้อยปีงั้นสิ”
   ซีขมวดคิ้วแน่น “นั่นนายแค่คิด”
   “แค่คิดก็อันตรายแล้วไงซี แค่คิดเท่านั้น!”
   “..........”
   คิวถอนหายใจ มองคนตรงหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน “นี่นายยังยืนยันความคิดเดิมใช่มั้ย”
   ซีพยักหน้า คิ้วเข้มยังขมวดเข้าหากัน
   “เรื่องเลือด” คิวว่าต่อ “เรื่องนี้เรื่องใหญ่จริงๆ นะซี ต่อให้มันมีความเป็นไปได้แค่ 1% ก็ไม่ควรปล่อยไว้..”
   “ก็บอกแล้วว่ามันแค่หยดเดียว” ซีพูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่พอใจนัก “แล้วอย่าคิดจะมาทดสอบในปริมาณมากๆ อะไรนั่น”
   คิวคลายปมที่หว่างคิ้ว แล้วพ่นลมหายใจออกแรงๆ
   ให้ตายสิ…
   นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้
   แค่ใจเย็นยังทำไม่ได้เลย
   “ฟังนะซีมันเป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นมานานแล้วนายก็รู้ตั้งแต่ที่มนุษย์อ้างว่าเลือดซารายด์สามารถทำให้เป็นอมตะได้ สามารถชุบชีวิตได้และอะไรอีกมากที่มันไม่มีมูล ทำให้ทุกวันนี้มันเป็นแบบนี้”   “…………..”
   “นายคิดว่ามันจะไม่ซ้ำรอยรึไงคิดว่าถ้าเกิดเรื่องนี้มันถูกเปิดเผยมันจะไม่มีองค์กรแบบนั้นเกิดขึ้นอีกรึไง”คิวเว้นช่วงอีกครั้งให้อีกฝ่ายได้คิดตาม “แม้ตอนนั้นยังไม่มีมนุษย์หน้าไหนสามารถใช้ประโยชน์จากเลือดซารายด์ได้แค่ตอนที่เซมีโดนจับตัวไปก็เกือบจะแย่แล้ว”
   “แล้ววันนี้ดันพบว่าอาจจะมีคนที่สามารถใช้ประโยชน์จากเลือดของเราได้โดยไม่ตายแม้จะแค่คาดเดา แม้จะแค่เปอร์เซ็นเดียว…”
   “แต่มันก็อันตรายเกินกว่าจะปล่อยไปรึเปล่า”
   “คิวพูดถูก ปล่อยไว้ไม่ได้”
   พอคิวพูดจบประโยคสุดท้ายเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นในห้อง ซีและคิวชะงักหันไปมองตามต้นเสียงเมื่อพบบุคคลที่คาดไม่ถึงก็เบิกตากว้างลุกพรวดขึ้นยืนทันที
   “เอ็กซ์?!”


nong0987 โพสต์ 2016-1-22 11:05:48

ขอบคุณก๊าบบบบบบ

areen โพสต์ 2016-1-22 15:43:41

ขอบคุณมาก

l2ookmoo โพสต์ 2016-1-24 21:57:01

ขอบคุณครับ {:5_135:}{:5_119:}

4_NAY โพสต์ 2016-6-5 14:41:00

แต่ใจมันรักไปแล้ว

pt200 โพสต์ 2016-6-22 19:32:07

ขอบคุณครับ

arrung โพสต์ 2018-5-4 21:48:35

ขอบคุณครับ

tong111222 โพสต์ 2019-4-21 08:41:54

ขอบคุณครับ

Alikesky280 โพสต์ 2020-9-29 09:53:16

ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ◈ S A L Y E ◈ น า ย ต่ า ง พั น ธุ์ C o m p l e t e d - 17