tanya โพสต์ 2016-1-20 13:28:55

◈ S A L Y E ◈ น า ย ต่ า ง พั น ธุ์ C o m p l e t e d - 24

◊ C h a p t e r 2 4 ◊
หั ว ใ จ
   “ซี! มี อึก..มีคนมาหาสเป” ขอบฟ้าวิ่งกระหืดกระหอบมาหาซีที่คณะเขาจับเข่าหอบพูดออกมาติดๆ ขัดๆ
   ซีลุกพรวดจากม้านั่งหน้าคณะทันที “ใคร?!”
   “สเปเรียกเขาว่า เอ็กซ์”
   ซีเบิกตากว้าง ขมวดคิ้วแน่น กัดฟันกรอด   เขากำหมัดจนมือสั่น ครางชื่อเอ็กซ์ออกมาเบาๆ ด้วยเสียงที่ทำให้ขอบฟ้ารู้สึกขนลุก
   “ซี โรงงานข้าง ม.”
   ซีพยักหน้ารับแล้วรุดออกไปจากตรงนั้นทันทีขอบฟ้าจะวิ่งตาม แต่เขาชะงัก และตัดสินใจไปบอกเพื่อนๆที่เหลือของเขาแทน…
   “………..” เอ็กซ์หันหน้ามามองสเปชียลด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก
   “มึงอยากได้ชีวิตกู?”
   “ไม่ใช่แค่แก อยากฆ่ามนุษย์ให้หมดโลกนั่นแหละ!”
   “กูรู้…ว่าที่มนุษย์ทำกับพวกมึงในอดีตมันโคตรเหี้ยมันให้อภัยไม่ได้” เขาเว้นช่วงมองซารายด์ตรงหน้า “มึงบอกว่ามนุษย์เห็นแก่ตัว น่ารังเกียจ กูก็จะไม่เถียง”
   “ความจริงแล้วบนโลกนี้ก็มีคนที่เลวสุดขั้วอีกมากมีคนที่จิตใจโสมมน่ารังเกียจอีกนับไม่ถ้วน ไม่ใช่แค่คิดร้ายกับสิ่งมีชีวิตอื่นแต่กับมนุษย์ด้วยกันมันก็ยังทำร้ายกันเองได้….แต่มันไม่ใช่ทุกคนบนโลกหรอกนะที่จะคิดแบบนั้น”
   “…..หุบปาก”
   “กูไม่เคยคิดร้ายกับซารายด์ไม่เคยอยากทำร้ายหรือไล่ล่าพวกซารายด์เลยซักนิด”
   “มีเหตุผลอะไรไม่ให้ฆ่ามนุษย์มีเหตุผลอะไรต้องปล่อยพวกมนุษย์ให้อยู่โดยไม่เดือดไม่ร้อนอะไร!”
   สเปเชียลมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะของเอ็กซ์ก็ชะงักไปนั่นสิ…มีเหตุผลอะไรให้ไม่ฆ่าเขา   มีเหตุผลอะไรที่จะบอกให้ไม่เกลียดไม่โกรธแค้นพวกมนุษย์อย่างเขา
   ขนาดตัวเขาเอง…ก็รู้สึกว่า..ไม่มี
   “…….กูก็ไม่รู้เหมือนกัน” สเปเชียลก้มหน้าลง
“ขอโทษที่ทำให้ซารายด์อย่างพวกมึงเป็นแบบนี้….”
   เขาเงยหน้ามองเอ็กซ์แต่หางตาของเขาเหลือบไปเห็นคนชุดดำ 2 คนที่ด้านหลังกำลังเล็งปืนมาที่อีกฝ่าย…
   ไม่ทันได้คิดอะไรเขาก็ผลักเอ็กซ์ออกในจังหวะที่คนชุดดำนั่นเหนี่ยวไก….
   ปืนเก็บเสียง….
   เขาโดนยิง?!

   ด้วยแรงอัดและแรงกระแทกจากการพุ่งชนส่งผลให้เอ็กซ์เซพ้นวิถีกระสุนไป แต่เขาถึงขั้นกระเด้งกลับจากร่างเอ็กซ์ตกลงไปที่ช่องหลุมด้านหลัง....
   ให้ตายสิเขาลืมไปว่าที่นี่มันโรงงานร้างที่ผุพังจนไม่ปลอดภัยขนาดไหน...
   เอ็กซ์เบิกตากว้างอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัวเขาหันไปกลับไปมองคนชุดดำ 2 คนนั้น
   มันทำท่าตกใจที่เล็งเป้าพลาดไปและการพลาดครั้งนี้ เป็นการพลาดที่ผิดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ไม่สิ…
   ครั้งสุดท้ายในชีวิตต่างหาก
   เอ็กซ์พุ่งเข้าไปหาชายชุดดำ 2 คนนั้นอย่างรวดเร็วจับคอบิดจนหัก เขาหอบหายใจแรงๆ ด้วยอารมณ์ก่อนจะหันไปมองช่องที่สเปเชียลตกลงไป เขารีบรุดเข้าไปตรงปากทาง ก่อนจะหยุดชะงัก
   นี่เขาคิดอะไร…
   เขาคิดจะช่วยเด็กนั่นเหรอ?
   “เอ็กซ์!”
   ระหว่างที่เอ็กซ์กำลังชะงักครุ่นคิดอยู่เสียงคุ้นหูก็ดังลั่นขึ้นด้านหลัง เขาหันกลับไปมอง…..ซี
   “นายทำอะไรสเปเชียล!” ซีรุดเข้าไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายไว้เขากดเสียงต่ำตะคอก
   ไม่ทันได้ตอบพวกเพียวก็วิ่งตามเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรนเขาหันไปมองร่างชายชุดดำ 2 คนที่นอนตายอยู่ก็ต้องตกใจแล้วหันขวับไปมองซีกับเอ็กซ์
   “ใจเย็นซี” เอ็กซ์เอ่ยเสียงเรียบ
   ซีพ่นล่มหายใจแรงๆ แล้วปล่อยมือออกจากเสื้อ
   “ยังไม่ได้ทำอะไร 2 ตัวนั้นก็โผล่มาลอบยิงจากข้างหลังแต่โดนเด็กนั่น…เขาร่วงลงไปในนั้น” เขาชี้ไปที่ช่องด้านหลัง
   ซีเบิกตากว้างสบถเสียงดังแล้วกระโจนลงไปในช่องนั้นทันทีอย่างไม่ต้องคิด
   ฝ่ายเพียวได้ยินแบบนั้นก็ค้นตัวร่างทั้ง 2 ทันที เขาพบกระเป๋าตังค์กับบัตรอะไรเล็กน้อยจึงคว้าเข้ากระเป๋าไว้ก่อน
   ไม่นานนักซีก็ขึ้นมาพร้อมร่างสเปเชียลพวกเขาเบิกตากว้างแล้วรุดเข้าไปหาทันทีปริมาณเลือดที่มากขนาดนี้น่าเป็นห่วงเกินไป   เอ็กซ์ยังคงยืนมองนิ่งๆ
   เขาเถียงไม่ได้ว่าแม้ซารายด์จะแข็งแรงแค่ไหน แต่การโดนยิงเข้าที่จุดสำคัญอย่างปอดหรือหัวใจก็ไม่อาจทำให้ซารายด์อย่างเขารอดชีวิตต่อไปได้
   สีหน้าท่าทางแบบนั้นอ่านไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไร
   ในเมื่อคนที่เขาต้องการจะฆ่า…ช่วยชีวิตเขา
   “ถอยครับ ขอทางหน่อยครับ พวกคุณรอข้างนอกนะครับรอข้างนอกครับ!”
   พยาบาลและบุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่มีร่างโชกเลือดของสเปเชียลตรงเข้าไปที่ห้องฉุกเฉินและต้องใช้บุรุษพยาบาลอีกจำนวนนึงรั้งซีไว้ไม่ให้ตามเข้าไป
   ด้วยอารมณ์ร้อนระดับนั้นของซีทำให้ต้องใช้คนจำนวนมากรั้งไว้และทำให้สงบลง
   พวกเพียว ลม ขอบฟ้า ข้าวปั้น เวล ตามมากันครบ และไม่นานคิวกับไอก็ตามมา
   รวมถึงเอ็กซ์…
   เอ็กซ์ยืนมองอยู่ไม่ไกลเขามองท่าทางของซีด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงออกอะไร เพียงไม่นานก็หายไปจากตรงนั้น
   “กูโทรบอกพ่อแม่สเปแล้วเดี๋ยวพวกเขาจะบินกลับมาจากเชียงใหม่คืนนี้” ข้าวปั้นเดินเข้ามาบอกหลังจากออกไปโทรศัพท์มา
   เพียวขมวดคิ้วแน่น “กูลองค้นกระเป๋าตังค์กับบัตรพวกมันดูแล้ว” เขาเว้นช่วง
   “มันเป็นคนขององค์กรล่าซารายด์”
   ทั้งหมดหันขวับไปมองทางเพียวเป็นตาเดียวรวมทั้งถึงซารายด์ทั้ง 3 ด้วย…
   “องค์กรล่าซารายด์เหรอ?”
   “มันมีด้วยเหรอเรื่องพรรค์นั้น”
   “มันก็แค่หนังเท่านั้น!”
    “ให้ตายสิ นี่มันอะไรกัน”
   ทุกคนโวยวายเสียงดังแต่เพียวยังคงเงียบและหันไปทางซี
   “มึงมีอะไรจะบอกพวกกูมั้ย…”
   ห้องรับรองเงียบกริบ…หลังจากสิ้นคำเพียวคิวและไอหันไปมองซีด้วยสีหน้าเครียดๆ
   “เอาที่นายสบายใจ” คิวว่าขึ้นแล้วตบไหล่ซีเบาๆก่อนจะลากไอออกจากห้องไปซียังนั่งก้มหน้านิ่ง มือประสานอยู่ที่หว่างขาพวกเพียวเห็นท่าทางแบบนั้นก็เลือกที่จะเงียบไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรอีกฝ่ายต่อ
   รอพ่อกับแม่ของสเปเชียลมาแล้วกัน…
   “สเป!”
   ผ่านไป 3 ชั่วโมงแล้วสเปเชียลยังอยู่ในห้องฉุกเฉินพวกเพียวกับซีก็นั่งรออยู่ให้ห้องพัก แล้วพ่อกับแม่สเปเชียลก็ตามมา
   เมื่อเห็นผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตาสะสวยเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทีร้อนรนตามมาด้วยผู้ชายสีหน้าวิตกที่น่าจะเป็นพ่อ พวกเพียวหันมาเห็นก็ผุดลุกขึ้นเข้าไปหา
   “คุณพ่อคุณแม่สวัสดีครับ”
   “สเปเชียลล่ะจ๊ะข้าวปั้น!” คุณแม่เดินเข้าไปจับไหล่ข้าวปั้นเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
   “แม่ใจเย็นๆ ก่อนนะครับสเปยังไม่ออกจากห้องฉุกเฉินเลย นั่งก่อนนะครับ”
   “นี่มันเกิดอะไรขึ้น” เสียงทุ้มๆที่ดูมีอำนาจดังขึ้น ทุกคนลอบกลืนน้ำลายก่อนหันไปทางต้นเสียง
   เพียวเม้มปากลังเล “พ่อมานั่งก่อนนะครับ”
   ไม่นานนักแพทย์ที่รับสเปเชียลไว้ก็ตามเข้ามาให้ห้องรับร้องพิเศษของโรงพยาบาลซึ่งไม่ต้องเดา…ที่นี่คือโรงพยาบาลสาขาใหญ่ของบ้านสเปเชียล
   “ขออนุญาติครับ”หมอเคาะประตูแล้วเดินเข้ามาในห้องอย่างสุภาพเจ้าของโรงพยาบาลผุดลุกขึ้นทันที “ลูกฉันเป็นยังไง หมอธัน”
   “เอ่อ…คุณอติวิชญ์คุณแพรพรรณครับ ทำใจดีๆ นะครับ” เขาเว้นช่วง “คุณสเปเชียลเสียเลือดมาก กระสุนเฉียดปอดไปไม่มากอีกทั้งลำตัวยังกระแทกพื้นอย่างแรง กระดูกหักหลายจุด ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย”
   พ่อยกมือห้ามให้หมอหยุดพูด ก่อนจะเอ่ยเสียงสั่น “กลับไปดูเขาก่อน อีกเดี๋ยวฉันเข้าไปรักษาเขาเอง”
   หมอธันพยักหน้ารับแล้วขอตัวออกไปพ่อนั่งนิ่งเพื่อพยายามควบคุมสติตัวเองให้มากที่สุด
   หากเขายังมือสั่นใจสั่นอยู่แบบนี้…เขาไปดูลูกไม่ได้
   แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ควบคุมสติได้ดีแค่ไหนแต่กับลูกชายคนเดียวของเขา…มันไม่เหมือนกัน
   ตอนนี้แม่ร้องไห้ไปแล้วพวกเพียวรุดเข้าไปปลอบ   พ่อกับแม่เอ่ยถามพวกเพียวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับสเปเชียลแต่ทั้งหมดยังอึกอักไม่พูดอะไร พวกเขาเลิกลั่กด้วยความลำบากใจด้วยความเป็นห่วงเพื่อน พวกเขาเองก็กลัวจนมือสั่นอย่างระงับอาการไม่อยู่เว้นคนเดียวที่ขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่….
   “พวกนายออกไปก่อนได้มั้ย” ซีเอ่ยแทรกขึ้นมาเรียกความสนใจไปรวมที่เขาจุดเดียวได้ไม่ยาก
   “.................”
   เพียว ข้าวปั้น ลม เวล และขอบฟ้า มองหน้ากันไปมาก่อนจะพยักหน้าให้ซีแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
   “นายเป็นใคร” พ่อเอ่ยขึ้นมองนิ่งไปยังคนไม่คุ้นตาตรงหน้า
   “คุณคะ” แม่หันไปจับแขนให้พ่อนั่งลงแล้วหันมาหาซี “เราเป็นเพื่อนสเปเหรอแม่ไม่คุ้นหน้าเลย”
   “ซีครับ”
   “แล้วมีอะไร เกิดอะไรขึ้นกับสเปเชียล” พ่อเอ่ยแทรกเสียงเข้ม ซีหันไปมองก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
   “ผมเป็นซารายด์”   
   “………………….”
   “………………….”
   “………………….”
   “………………….”
   “………………….”
   เงียบ......
   หลังจากสิ้นคำซีก็เกิดอาการ เดธแอร์ยาวๆ   ยิ่งเป็นซีด้วยแล้ว เขาก็ไม่คิดจะต่อคำอะไรหรือเอ่ยพูดแทรกความเงียบขึ้นมาปกติแล้ว สเปเชียลจะเป็นคนโวย แต่คราวนี้….
   กริบ....
   “เอ่อ…”
   ขณะซีกำลังคิดถึงเด็กที่นอนน่าเป็นห่วงอยู่ในห้องฉุกเฉินเสียงหวานก็ดังขึ้น เขาหันไปมอง...แม่เด็กนั่นสินะ

   “แม่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่...เราบอกว่าอะไรนะแม่อาจจะฟังเร็วไปหน่อย”
   “..............”
   ซีเกือบจะกรอกตาไปมาด้วยความเซ็งแต่เขาก็ระงับไว้ได้ ก่อนจะที่จะตอบอะไรไปคนข้างๆ ก็พูดขึ้นมานิ่งๆ
   “เธอบอกว่าเธอเป็นซารายด์ใช่มั้ย”
   มีคนจิตแข็งอยู่ในห้องนี้…
   พ่อเหลือบมองซีด้วยสีหน้าเคร่งเครียดคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
   “ใช่ครับ”
   “เธอเป็นต้นเหตุให้สเปเชียลเป็นแบบนี้ใช่มั้ย”
   ซีนิ่งไป
   “ฉันต้องการคำอธิบาย” พ่อว่าต่อ
   ซีมองคนตรงหน้าแล้วก็รู้สึกถึงความดุเงียบของผู้ชายคนนี้เขาเป็นคนมีเหตุผล และเด็ดขาด สายตาเชื่อมั่นในตัวเองแบบนี้ มองตาก็พอรู้….
   “ครับ ตอนนี้มีองค์กรไล่ล่าซารายด์เกิดขึ้น”
   แม่เบิกตากว้างหันไปหาพ่อทันที “คุณคะองค์กรนั้นมัน…”
   พ่อยกมือขึ้นห้าม ตายังจ้องไปที่ซี “องค์กรนั้นมันยุบไปตั้งแต่หลายสิบปีที่แล้ว จะร้อยปีอยู่แล้ว”
   ซีพยักหน้า “ตอนนี้มันกลับมา…เป้าหมายของมันไม่ใช่แค่ซารายด์”เขาเว้นช่วง “แต่คือลูกชายคุณ”
   “อะ..อะไรนะ สเปเชียลเกี่ยวอะไร” แม่เอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างร้อนรนด้วยความเป็นห่วงลูกชายคนเดียวของตน
   “ฟังนะครับ…ผมจะเล่าแค่รอบเดียว”
   ซีสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะขยับตัวนั่งลงที่โซฟาด้านข้าง
   “สเปเชียลเคยเป็นแผลและได้รับเลือดซารายด์เข้าร่างกายไปหนึ่งหยดเขาชัก…ชักจนเกือบจะหมดลมหายใจ แต่สุดท้ายแล้วเขาไม่ตายทั้งแผลยังหายสนิทราวกับไม่เคยมี ซึ่งเจ้าตัวจำไม่ได้ และไม่ได้เล่าให้เขาฟัง เลือดเพียงหยดเดียวไม่อาจบอกได้ว่าเขารับเลือดซารายด์ได้จริงๆวิธีที่จะพิสูจน์ได้คือใส่เลือดซารายด์เข้าร่างเขาในปริมาณที่มากพอ” ซีเว้นช่วง
   “แต่ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่คิด เขาจะตายผมจึงให้เขาลองไม่ได้”   
   พ่อกำหมัดนิ่งไป แต่ยังจ้องหน้ารอฟังอยู่แม่หลุบตาต่ำเพื่อซ่อนนัยน์ตาที่คลอหน่วยไปด้วยน้ำ
   “คิดว่าองค์กรที่เกิดขึ้นนี้ต้องการตัวสเปเชียลไปทดลองว่าเข้ากับเลือดซารายด์ได้อย่างที่คิดมั้ยและเกิดเลือดของสเปเชียลมีความพิเศษแบบนั้นจริงๆเลือดของเขาจะเป็นที่ต้องการขององค์กรไม่น้อยไปกว่าซารายด์...การจะสกัดสารจากเลือดสเปเชียลให้เป็นเซรุ่มที่ส่งผลให้ร่างกายมนุษย์รับเลือดซารายด์ได้คงไม่ยาก”
   จบประโยคนี้ไปน้ำตาของคนเป็นแม่ก็ไหลออกมาไม่หยุดอันตรายแบบนี้…
   กำลังเกิดขึ้นกับลูกของเธอ
   “เธอลืมบอกอะไรไปรึเปล่า” พ่อเอ่ยขึ้น
   ซีขมวดคิ้วแน่น….
   คนคนนี้ฉลาด...
   อาจจะฉลาดยิ่งกว่าสเปเชียลซะอีก
   “ครับ...ถ้าหากเลือดสเปเชียลเข้ากับเลือดซารายด์ได้จริงๆ”เขากวาดตามองคนทั้ง 2 ตรงหน้าก่อนจะมาหยุดสายตาที่พ่อของสเปเชียล
   “นอกจากจะทำให้สเปเชียลเป็นที่ต้องการขององค์กรแล้ว…เขาจะเป็นอันตรายที่สุดต่อพวกเรา...ต่อซารายด์”
   “แล้วเธอมาบอกฉันทำไม เธอทำร้ายเขารึไง!” พ่อโวยขึ้นหลังจากจบประโยคสุดท้ายของซีแม่ดึงแขนพ่อไว้แล้วส่ายหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาเพื่อบอกให้ใจเย็น
   “ผมไม่ได้ทำร้ายเขา...ไม่มีวัน”
   “...................”
   “ขอไม่อ้อมค้อมนะครับ...ผมขอสเปเชียลไปอยู่กับผมจนกว่าเรื่องจะจบ”
   พ่อขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “อะไรนะ”
   “ตอนนี้องค์กรกำลังล่าสเปเชียลอยู่กับผมปลอดภัยที่สุด”
   “องค์กรอันตราย แต่ซารายด์ก็เหมือนกัน”
      “เขาอันตรายต่อซารายด์อย่างผมแต่ผมไม่เป็นอันตรายต่อเขา”
   แม่หยิบผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา เอ่ยถามเสียงสั่น “เธอหมายความว่ายังไง”
   “จะขอปกป้องเขาครับ”
   “…………….” พ่อแม่ชะงักไปหันมองหน้ากัน
   “จะเชื่อเธอได้ยังไงจะฝากลูกชายคนเดียวของฉันไว้กับซารายด์อย่างเธอได้ยังไง”
   “ถ้าผมจะฆ่าเขาจริง…เขาตายไปนานแล้ว”
   “ทีนี้ผมขอเข้าเรื่องจริงๆ ซะที”
   “ผมจะให้เลือดสเปเชียล”
   “ไม่ได้!” ผิดคาดที่คนตะโกนออกมาไม่ใช่พ่อ
   แต่กลับเป็นแม่...
   “เธอก็พึ่งบอกไปว่าถ้าเกิดสเปเชียลรับเลือดเธอไม่ได้เขาต้องตาย!ฉันไม่มีทางให้เขาฝากชีวิตไว้กับความเป็นไปได้แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นแน่ๆ”
   ระหว่างพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆน้ำตายังไหลพรากจากตาเธอไม่หยุดพ่อลุกขึ้นจับแขนแม่ดึงเข้ามากอดและมองมายังซี
   “…………….”
   ซีจ้องตาอีกฝ่ายกลับไปไม่มีความหวั่นไหวอยู่ในดวงตาสีทองคู่นี้
   “แม้มันจะเสี่ยงมากก็จริง…แต่ถ้าไม่เสี่ยงเราอาจจะเสียเขาไปอย่างไม่ทันได้ลองทำอะไรเลย”
   พ่อยังคงนิ่ง ในสมองของเขากำลังคิดหนัก“…………”
   “เลือดซารายด์ชุบชีวิตคนตายไม่ได้ถ้าเขาหมดลมหายใจเมื่อไหร่...แม้แต่ความเป็นไปได้มันก็จะไม่มี”
   แม่ตัวสั่นด้วยแรงสะอื้น พ่อลูบหลังช้าๆ ด้วยมือที่พยายามเก็บอาการสั่น
   ซีเหลือบมองนาฬิกาแล้วขมวดคิ้วแน่น
   “ผมรอดูเขาตายแบบนี้ไม่ได้”
   พ่อหลับตานิ่งไปก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้คนในอ้อมกอดตัวสั่นแรงขึ้นไปอีก
   “เข้าใจแล้ว”


nong0987 โพสต์ 2016-1-22 20:05:26

ขอบคุณก๊าบบบบบบ

4_NAY โพสต์ 2016-6-5 17:33:20

พลังแห่งรักคงช่วยได้

pt200 โพสต์ 2016-6-23 07:32:13

ขอบคุณครับ

tong111222 โพสต์ 2019-4-21 14:37:31

ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ◈ S A L Y E ◈ น า ย ต่ า ง พั น ธุ์ C o m p l e t e d - 24