tanya โพสต์ 2016-1-25 08:04:29

◈ S A L Y E ◈ น า ย ต่ า ง พั น ธุ์ C o m p l e t e d - ตอนพิเศษ - 3

◊ S p e c i a l   C h a p t er ◊
เ กิ น รู้ สึ ก ดี
S p e c i a l ’ sP a r t
   ยิ่งโตก็ยิ่งเจออะไรเข้ามาในชีวิตมากขึ้น
   ยิ่งเวลาผ่านไปความคิดหรือทัศนคติส่วนตัวก็เปลี่ยนตาม
   ยิ่งพบอะไรใหม่มากเท่าไหร่ก็เหมือนจะมีของสำคัญมากขึ้นไปด้วย
   วันนี้ผมพบของล้ำค่าที่สำคัญที่สุดในชีวิตอีกอย่างนึง...

   ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าผม...
   ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมคิดอะไรไม่ออกสัมผัสได้เพียงไออุ่นจากอีกฝ่าย ลมหายใจหนักๆ ที่ผสานกันจนร้อนระอุเสียงครางต่ำที่   ฟังแล้วปลุกความรู้สึกส่วนลึกในใจขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย...
   มือหนาแข็งแรงที่ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวทำเอารู้สึกวาบหวามประหลาดแรงบีบของนิ้วที่ทำให้กายสะดุ้งเฮือก
   ลมหายใจเหมือนจะสะดุดเอาดื้อๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงโหมหนักจากร่างกายกำยำแรงอารมณ์ที่ปิดไม่มิดของคนด้านบนทำผมมึนหัว
   ความรู้สึกใหม่ที่ผมพึ่งค้นพบความรู้สึกที่ไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อนเป็นความเจ็บปวดที่ผมเต็มใจรับ...
   ความเจ็บปวดแสนหวานจากคนบนกาย
   เจ้าของนัยน์ตาสีทองที่ผมหลงใหล...ซี
   ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เข็มสั้นและยาวที่นาฬิกาบนผนังจะชี้อยู่ที่เลขอะไรแล้วนะ... ผมรู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ร่างกายผมไม่รู้สึกอะไรแล้ว
   ความรู้สึกหลากหลายวิ่งวนผ่านในกายไม่จบสิ้น ปลายประสาททุกเส้นเหมือนจะชาวาบจากการกระทำที่กำลังดำเนินไปอย่างไม่รู้จักเหนื่อยแต่เห็นทีคนที่ไม่รู้จักเหนื่อยคงจะเป็นอีกคนมากกว่า...ความสุขสมแล่นผ่านกายผมไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง... มันมาก...จนล้น
   ความรู้สึกสุดท้ายที่จำได้คือ...ความรู้สึกอุ่นวาบในตัวและภาพคนตรงหน้าส่งยิ้มละไมมาให้ก่อนจะฝากสัมผัสอ่อนหวานไว้ที่ขมับและข้างแก้ม...
   ไม่นานภาพตรงหน้าก็มืดลง
   เมื่อตอนอายุได้ 15 ปีปัดเศษขึ้นนิดหน่อย คุณปู่ที่รักเคยพาไปปีนเขาที่ต่างประเทศท่ามกลางอากาศหนาวเย็นจนแทบแข็งตาย
   และหนทางสูงชันราวกับจะบ่งบอกให้รู้ว่าตัวเองมีขนาดเล็กแค่ไหนเมื่อเทียบกับความกว้างใหญ่ของโลกทั้งใบ...
   การเดินทางครั้งนั้นเป็นความทรงจำที่ทรหดที่สุดอย่างนึงในชีวิตเมื่อพ้นวันไปแขนขาไร้เรี่ยวแรงหยิบจับอะไรก็มือสั่นไม่หยุดควบคุมน้ำหนักมือไม่ได้
   นอนซมเพราะพิษไข้ไปหลายวัน...
   จากวันนั้นก็ไม่ค่อยได้ป่วยอะไรอีกร่างกายมีภูมิตานทานชั้นเลิศ ชนิดที่แก้ผ้าวิ่งรอบปารีสในวันหิมะตกก็สู้ตาย...ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกว่าตัวเองย้อนกลับไปวันนั้น...
   วันที่รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังหมดประสิทธิภาพการทำงาน...ควบคุมไม่ได้อย่างใจคิด
   อาการชาหนึบแบบนี้...เหมือนไม่มีสะโพกเลย... มองไปข้างกายก็ไม่พบอะไรนอกจากผ้าห่มผืนหนากับร่องรอยฉีกขาดของผ้าปูเตียงตัวการหายไปไหน?คิดแล้วก็ต้องหมุ่นคิ้วด้วยความไม่พอใจ...ตื่นมาก็ไม่เจอนี่มันยังไง
   แกรก   ฮึดฮัดในใจได้ไม่นานประตูก็เปิดออกพร้อมเจ้าตัว
   “ตื่นแล้วเหรอ” ซีหันมายิ้มแล้วรีบรุดเข้ามาหาผมทันทีที่สบตากัน
   ทำเสียงอ่อนแล้วยิ้มแบบนี้...คิดว่าจะหายโกรธรึไง...
   เมื่อเห็นผมไม่ตอบเจ้าตัวก็ยกมือมาจิ้มที่แก้มเบาๆ...แล้วก็ไม่ต้องเดาฮึดฮัดสะบัดหนีเหมือนเดิม หากแต่...
   “โอ้ย!” คราวนี้ความเจ็บแล่นริ้วตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาที่สมองทันทีที่ขยับตัว
   “สเปเชียล!” อยู่ๆ คนข้างๆ ก็ตะโกนลั่นแล้วขยับเข้าใกล้...
   สายตาแบบนี้...จะถือว่าห่วงแล้วกันนะ...
   “อย่าพึ่งขยับตัวเลยนะ กินอะไรมั้ยเอามากินบนเตียงนะ?”
   เสียงติดจะเป็นห่วงร่ายคำถามยาวเป็นวา...ทำเอากลั้นยิ้มตีหน้านิ่งไม่ไหวแต่ก็ทำเพียงส่ายหน้า 2 ครั้งหนักๆเป็นการตอบรับ
   “ไม่กินหรอ? ไม่หิวรึไง?”
   “เปล่า จะไปกินที่โต๊ะ ไม่อยากนอนบนเตียง”
   “ไม่เจ็บ?”
   สิ้นคำซีไปผมก็หันขวับไปมองตาดุจะขัดใจทำไมเนี่ย! เหมือนเจ้าตัวจะรู้เลยยกยิ้มให้แล้วพยักหน้ารับ
   “โอเคๆ งั้นเดี๋ยวพาออกไปนะ?”
   จะทำไรก็ทำดิ คิดว่าเดินไหวมั้ยล่ะ หะ!
   “จะไปไหน?!” ผมถามขึ้นเสียงดังเมื่ออีกฝ่ายคว้าตัวผมแนบอกแล้วทำท่าจะเดินเข้าห้องน้ำ
   “ไปแปรงฟันก่อน”
   เออ ลืมแหะ
   “เฮ้ย! แปรงเองได้” ผมผงะออกห่างเมื่ออีกฝ่ายบีบยาสีฟันใส่แปรงแล้วยื่นมาที่ปากแทนที่จะส่งให้ถือ
   ไม่ใช่เด็กซักหน่อยมาอุ้มแล้วแปรงฟันให้เนี่ย...ไอ้บ้า..
   “กลั้วปาก” ซีว่าแล้วก็ส่งแก้วน้ำมาให้รับมาอมน้ำแล้วกลั้วไปมา พอก้มลงบ้วนน้ำทิ้งแล้วเงยหน้าขึ้นมาคนอุ้มก็ขยับมากดจูบที่ข้างแก้มรัวๆอย่างไม่ทันให้ได้ตั้งตัว...ไม่ทันได้ตกใจเลยด้วยซ้ำ
   เป็นอะไรมากมั้ยกับแก้มกับปากกูเนี่ย!หอมอยู่นั่น... คิดแล้วก็ยกมือขึ้นกุมแก้มตัวเอง...
   ไม่ได้เขินซักหน่อย แค่ตกใจเท่านั้นเอง
   ผมนั่งรออาหารบนเก้าอี้ที่มีเบาะนุ่มๆ เสริมอยู่ 2 ชั้นพลางเคาะนิ้วลงบนโต๊ะกระจก
   ไม่นานนักซีก็เดินยิ้มถือถาดอาหารมาวางไว้ตรงหน้า...อาหารที่เห็นแล้วต้องยิ้มกว้างอย่างพอใจ
   ทำเอาลืมอารมณ์ขุ่นมัวเมื่อเช้าไปสิ้นสลัดแซลมอนอโวคาโด กับสเต็กเนื้อที่อบมาความสุกกำลังพอดี...
   ไม่เห็นกับตาไม่เชื่อเลยจริงๆว่าซารายด์จะทำอาหารอร่อยกว่าเชฟร้านอาหารด้วยซ้ำ
   กินไปอย่างสบายอารมณ์ได้ซักพักก็ต้องรู้สึกสะกิดใจเหมือนมีคนจ้องพอเงยหน้ามองก็เจอเจ้าของสายตาที่จับจ้องมาที่ใบหน้าไม่วางตา
   “มองกูอีกแล้วนะ ไม่กินไปล่ะ”
   “อิ่มแล้ว”
   จบคำมันผมก็เบนสายตามองไปที่จานอาหารของอีกฝ่าย...
   ยังไม่แตะซักนิด บอกอิ่มเห็นปกติกินเป็นกะละมัง
   “อิ่มบ้าไร อิ่มลมรึไงมึง”
   “อิ่มเมื่อคืน อุ้ก!” ไม่ปล่อยให้มันได้พูดจบดีคนหน้าด้านตรงหน้าก็ต้องชะงักเงียบไป   เพราะผมคว้าหมอนที่วางอยู่ข้างๆปาใส่หน้าเต็มแรง จนคนถูกโจมตีรีบคว้าหมอนแทบไม่ทัน เกือบหล่นใส่จานอาหารให้เละเทะไปอีกอย่าง
   ไอ้บ้า! พูดออกมาได้
   โดนไปแบบนั้นแล้วยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุดอีก...ไม่เข็ดสินะ... เห็นแบบนี้แล้วก็ทำเอานึกหน้านิ่งๆเมื่อก่อนของมันไม่ออกเลยทีเดียว...
   คนตรงหน้าผมเปลี่ยนไปมากเปลี่ยนไปทีละน้อยจนผมไม่ทันได้รู้สึกตัวเลย    มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แสดงอาการว่ารักจนล้นแบบนี้ซะแล้ว...
   ที่พูดๆ ไปก็หมายรวมมาถึง...ตัวผมเองด้วยล่ะนะ
   วันนี้เป็นอีกวันที่ผมนอนพักดูหนังอยู่กับคนข้างๆคนเดิม...ความเรียบง่ายแสนสุขแบบนี้...
   เอาอะไรมาแลก...ก็คงไม่ยอม
   แอบมองเสี้ยวหน้าคมที่จับจ้องหน้าจอทีวีแล้วก็เผลอคิดไปถึงเรื่องเก่าๆไม่ได้...
   ไม่คิดว่าสุดท้ายจะได้มานอนซุกอยู่ในกอดอุ่นๆ แบบนี้
   สิ่งมีชีวิตลึกลับที่ผมหลงใหลมาตั้งแต่จำความได้...
   ตอนนี้เขาเป็นของผม...
   “อาบน้ำมั้ย?”คิดเพลินๆก็ต้องสะดุ้ง เพราะอยู่ๆคนข้างๆ ก็หันมาพูดซะเฉยๆ
   “หะ?”
   “อาบน้ำกัน”
   “เฮ้ย!” ไม่ว่าเปล่าดันลุกขึ้นยืนแล้วคว้าตัวผมขึ้นอุ้มไวๆ...ทำแบบนี้จนชินแล้วสินะ...เอะอะอุ้มๆ
   “อาบน้ำให้นะ...” เจ้าของอ้อมแขนเอ่ยเสียงแผ่วข้างหูเล่นทำขนลุกซู่
   “ไม่เอา!” จะบ้าหรอแผลเมื่อคืนยังอยู่ครบ จะมาทำอะไรสุ่มเสี่ยง เดี๋ยวก็ตายพอดี
   “ไม่ทำอะไรหรอก”
   สิ้นเสียงอีกฝ่าย ผมก็ค้อนสายตาดุๆ เข้าที...
   เชื่อก็ตายดิ
   “ปล่อยผ้าขนหนูสิสเปเชียล”
   ให้ตายสิ!ไหงสุดท้ายถึงมานั่งนิ่งในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่บนตักมันได้ล่ะ!
   คนด้านหลังผมพยายามกระตุกผ้าขนหนูชุ่มน้ำที่ผมกำแน่นเพื่อปกปิดช่วงล่างผมอยู่ออกแต่คงไม่กล้าออกแรงกระชากออก เลยแค่ดึงๆ เป็นเชิงบอกให้ปล่อย
   “ไม่!”
   “ไม่ก็ไม่”
   ซีว่าเสียงทีเล่นทีจริงแล้วขยับเอื้อมมือไปหยิบครีมอาบน้ำมาบีบใส่มือตัวเองที่สอดผ่านเอวมาตรงหน้าผม
   ผมมองครีมอาบน้ำสีขาวนวลที่ไหลออกมาใส่มืออีกฝ่ายเรื่อยๆจนมากพอใช้
   ระหว่างที่มองอยู่เพลินๆ 2 มือตรงหน้าก็ขยับมาลูบเข้าที่เนื้อตัวผิวกายของผมแล้ว
   ลูบ?!
   “เฮ้ย! ซะ..ซีๆ กู...กูถูเองได้!มึงอาบ...อาบไปเถอะ” ละล่ำละลักบอกแล้วก็เอี้ยวตัวไปมองหน้าแต่คนถูกท้วงทำเพียงเลิกคิ้วเป็นเชิงถามอย่างงุนงง
   “ถูให้นะ” มันเอ่ยไม่สนใจเสียงค้านขยับวางคางที่บ่าผม จนตัวแข็งทื่อด้วยความขัดเขิน มือหนาที่มีครีมอาบน้ำลื่นๆ เต็มฝ่ามือขยับไล้ไปตามความยาวแขนผม
   ...รู้สึกแปลกๆ แล้วสิ...
   “มึง...พอเถอะ...นะ” ผมเอ่ยเสียงแผ่วสติเริ่มไม่คงที่
   คนข้างหลังชะงักไปนิดก่อนจะกระชับอ้อมกอดรัดเอวผมแน่นสัมผัสนุ่มหยุ่นของริมฝีปากแนบลงมาที่ต้นคอด้านหลัง จุ้บปากไล่ไปจนมาที่ไหล่ลาด...
   แรงจูบดูดเบาๆ ทำกายผมสั่นระริกไม่รู้ว่าจากความเย็นของอากาศหรือเพราะแช่น้ำนานเกินไปกันแน่...
   ไม่ทันได้รู้ตัวมือแข็งแรงของอีกฝ่ายก็ขยับมาลูบวนที่หน้าท้องราบของผมเบาๆซะแล้ว...
   ถึงตอนนี้เสียงโวยวายหรือทักท้วงอะไรก็เปล่งออกมาไม่ได้ง่ายๆพอตั้งใจจะเอ่ยปาก แรงมือลูบก็ดูดซับความคิดและน้ำเสียงต่างๆของผมไปจนหมด
   อารมณ์ส่วนลึกบางอย่างของผมถูกปลุกขึ้นซะแล้ว...แม้การกระทำเมื่อคืนจะทำให้ผมเจ็บและเหนื่อยแทบขาดใจแค่ไหนก็ไม่อาจเถียงได้ว่ามันรู้สึกไม่ดี...   เพราะมันดีจนสติผมเลือนไปเหตุและผลทั้งหมดทั้งมวลดูเหมือนจะไม่มีความหมาย
   เพียงแค่ได้อยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย...
   ปกติแล้วผมเป็นคนทำอะไรตามอารมณ์...ใช้สัณชาตญาณเป็นตัวชี้นำงั้นตอนนี้...ถ้าผมจะเชื่อในอารมณ์ตัวเอง...มันคงจะไม่เป็นไรมั้ง...
   คิดแล้วก็หันไปยกตัวโอบรอบคออีกฝ่าย...ซีดูจะตกใจกับการกระทำของผมไม่น้อย
   หากแต่ก็ไมได้ทักท้วงหรือเอ่ยถามอะไรกลับขยับตัวแนบชิดเข้ามาจนไม่เว้นที่ให้อากาศลอดผ่าน...
   อุณหภูมิร่างกายของเขาไม่ได้ลดต่ำลงตามน้ำเย็นๆที่แช่อยู่เลยซักนิดความร้อนระอุของกายยังคงไหลเวียนอยู่ไม่ไปไหน...ผมเริ่มจะมึนอีกแล้วสิ
   เสียงครางต่ำของซีดังขึ้นก้องห้องยิ่งกลบความคิดในสมองผมจนไม่เหลือ...สายตามีเพียงภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำ
   ยิ่งมองยิ่งเพ้อยิ่งสบตายิ่งทำให้เคลิ้ม...
   แรงโหมของอีกฝ่ายทำน้ำในอ่างใหญ่ขยับเคลื่อนไปมาจนย้ายออกไปที่พื้นด้านล่างเกินครึ่ง
   ความรู้สึกเจ็บแปลบรุนแรงเมื่อคราวเชื่อมกายถูกแทนที่ด้วยอารมณ์เสียววาบที่แล่นริ้วไปทั้วทั้งกายและเพิ่มขีดขึ้นเรื่อยๆจนกลัวว่าจะรับไม่ไหว... และคิดว่าหนนี้คงไม่ไหวจริงๆ
   ซีใช้เวลานานเกินกว่า...มนุษย์ทั่วไป...แต่ด้วยผมเป็นมนุษย์...และตอนนี้ก็เป็นมนุษย์ที่มีร่างกายไม่ปกติสมบูรณ์เต็มร้อย...ใช้งานร่างกายหนักเกินไปแบบนี้...ก็แย่สิ   นานจนผิวกายเริ่มเหี่ยวเพราะแช่น้ำนานเกินไปหัวหมุนและรู้สึกร้อนกายเหมือนไฟรุม
   รู้ตัวอีกที...ก็ลืมตาขึ้นพบกับอกแกร่งของซีมองไปรอบๆถึงรู้ว่าผมนอนอยู่บนเตียงในสภาพเสื้อผ้าครบชิ้น ผ้าห่มผืนหนาปิดจนมิดคอและแขนแข็งแรงที่โอบเอวอยู่แนบแน่น
   นี่ผมสลบ?
   สายตาไปสะดุดที่อ่างแก้วเล็กๆ ที่มีผ้าพาดอยู่ที่ขอบตรงโต๊ะข้างเตียงแล้วก็พอจะเดาได้...
   ไข้ขึ้นด้วยสินะ...   ยกมือแตะหน้าผากตัวเองก็ยังรู้สึกถึงไออุ่นที่ยังไม่จางหายไปเหลือบมองต่อไปอีก นาฬิกาข้างผนังบ่งบอกเวลา...ตี 4 แล้ว...
   คิดแล้วก็รู้สึกขำตัวเอง...สลบคาอกเลยสินะเงยหน้ามองใบหน้าที่คุ้นเคย เปลือกตาปิดสนิท ซ่อนนัยน์ตาสีทองคู่นั้นไว้ข้างใต้หน้าอกขยับขึ้นลงช้าๆ ลมหายใจอุ่นๆ สม่ำเสมอ...หลับสบายเลยนะ...
   นอนมองหน้าซีไปเรื่อยๆ อย่างที่ผมเองก็ไม่รู้จักเบื่อไม่รู้มีอะไรให้มอง แต่ก็ไม่ละสายตาไปไหน ปากขยับยิ้มน้อยๆ ซุกตัวเข้าที่อก...กลิ่นกายที่คุ้นเคยทำให้ผมสบายใจ
   ในจังหวะที่รู้สึกง่วงอีกรอบก็ยกตัวขึ้นกดจมูกที่ข้างแก้มเขา...
   ผมพึมพำประโยคที่วิ่งวนในใจเบาๆก่อนจะเม้มปากแน่นด้วยความรู้สึกอายจนหัวใจเต้นแรงแล้วรีบซุกตัวเข้าที่แผ่นอกกว้างทันที...
   จนไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏตรงมุมปากของคนที่คิดว่านอนหลับสนิทอยู่...
   “รักมึงนะซี”


4_NAY โพสต์ 2016-6-5 20:27:11

หวานนะ

pt200 โพสต์ 2016-6-23 17:32:40

ขอบคุณครับ

tong111222 โพสต์ 2019-4-21 16:07:20

ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ◈ S A L Y E ◈ น า ย ต่ า ง พั น ธุ์ C o m p l e t e d - ตอนพิเศษ - 3