❖ S A L Y E ❖ น า ย พั น ธุ์ โ ห ด C o m p l e t e d.1 (ภาค 2) - 16
C h a p t e r 1 6❖
ป่ ว ย
อึดอัด…หายใจไม่ออก…ร่างกายมนุษย์เราใช้พลังงานได้แค่ไหนกันนะสมองคนเรามีประสิทธิภาพเท่าไหร่
กำลังที่มีจะต้านทานความพิเศษในร่างกายได้ดีแค่ไหนแล้วถ้าไม่ใช่มนุษย์ล่ะ...ความน่ากลัวที่คาดไม่ถึง…จะขนาดไหนกัน
“แอลมึงไหวปะวะ” ยูโรเหลือบตามองอาการอัลฟามาพักหนึ่งจนมั่นใจในความผิดปกติจึงเอ่ยปาก
“ไหวสิ” เจ้าตัวเล็กยิ้มฝืนส่งให้พยายามทำตัวให้ปกติที่สุด
เขารู้ว่ายูโรโกรธ…โกรธมาก โกรธจนตามเขาไปที่คอนโดมิสเตอร์ไคลด์แล้วทะเลาะกันยกใหญ่ก่อนจะลากเขากลับมา
เขาผิดเองที่ไม่บอกยูโรว่าไปไหนทำอะไรแล้วพี่สเปเชียลก็ฉลาดมากที่ติดเครื่องส่งสัญญาณไว้ที่สร้อยคอเขาแบบนี้
คิดแล้วก็แอบงอน...แล้วก็โมโหตัวเองที่ไม่ได้สังเกตุเขาคงเป็นนักประดิษฐ์ที่ห่วยมากมารู้อีกทีก็ตอนที่ยูโรมาดักรอหน้าคอนโดด้วยท่าทางโกรธจัดนั่นแหละ เล่นเอาโวยวายใส่พี่มิเกลไปหลายชุด ทำเอาเขาเข้าไปห้ามแทบไม่ทัน
“โกรธมากเหรอยูโร” อัลฟาเอ่ยปากถามอย่างติดจะง้อ
คนถูกถามเหลือบตามองแล้วหันกลับไปมองถนนเหมือนเดิม“…”
“แอลขอโทษ”
“เหอะ”
อัลฟากัดปากล่างจนเริ่มเจ็บเมื่ออีกฝ่ายมีท่าทีหงุดหงิดไม่รับฟังแม้กระทั่งคำขอโทษ
“ยูโร...”
“มึงเงียบเหอะ” ยูโรออกปากแล้วขมวดคิ้วแน่นพยายามระงับโทสะให้ได้มากที่สุดเท่าที่ตอนนี้เขาจะทำได้เขาไม่อยากระเบิดอารมณ์ใส่อัลฟา
“แอลขอโทษจริงๆ คือแอลไม่ได้ตั้งใจนะ แต่-”
“นี่มึงไม่ได้ตั้งใจเหรอแอล?!” สิ้นคำอัลฟา ยูโรก็ตวัดสายตาดุๆมองอย่างไม่พอใจให้คนที่พยายามหาคำพูดขอโทษสะดุ้งกับสายตาดุๆที่มองมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“แอล...”
“ถ้าพี่สเปเชียลไม่เอาเครื่องติดตามมาฝากกูไว้เผื่อฉุกเฉินกูจะได้รู้มั้ยว่ามึงแอบไปหาไอ้ไคลด์ฝึกบ้าฝึกบออะไรแบบนั้นอีกมึงเคยฟังกูฟังแด๊ดมึงปะวะมึงจะอยากเจออะไรนักหนากับไอ้พวกนั้นมันสำคัญกับมึงมากนักรึไง!”
คนโมโหร่ายยาวด้วยอารมณ์แบบที่เจ้าของเรื่องก็เม้มปากแน่นนั่งฟังเฉยๆ “ตอนนี้ไม่เป็นไรมึงก็ย่ามใจไม่สนใจไม่แคร์อะไรทั้งนั้น แต่ไอ้พลังนั่น ถ้ามึงใช้หนักถ้ามึงคุมไม่ได้ล่ะมึงอยากเป็น-”
ยูโรชะงักคำพูด พ่นลมหายใจระบายอารมณ์แรงๆ แล้วเหยียบคันเร่งจมลงไปอีกคนถูกดุยังคงเงียบน้ำตารื้นขึ้นมาทันที...เขารู้ดีว่ายูโรต้องการพูดอะไร
ทั้งแด๊ดและยูโรกลัวเขาเป็นเหมือน...มัม
กลัวเขาตายเหมือนที่มัมตาย
“ยูโร....”
“ไม่ต้องแก้ตัว ทำอะไรลงไปรู้อยู่แล้ว คิดเองกูไม่ได้อยู่กับมึงตลอด กูบังคับจิตใจมึงก็ไม่ได้” ยูโรขมวดคิ้วแน่นส่งเสียงคำรามในคออย่างโมโห“กูทำได้แค่ห่วง”
“แอลแค่...”
“แต่เหมือนมึงจะไม่ต้องการ” ก่อนที่อัลฟาจะมีโอกาสเอ่ยปาก ยูโรก็สวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาทำให้เจ้าตัวเล็กสะอึกไปอย่างช่วยไม่ได้
ไม่ได้เห็นยูโรโกรธแบบนี้นานแล้ว...
คิดแล้วก็ก้มหน้าอย่างรู้สึกผิดน้ำตาเริ่มไหลเป็นสาย ปิดปากเงียบไม่กล้าเอ่ยคำอะไร
เอี๊ยด!
“ถึงแล้ว” ยูโรเอ่ยสั้นๆตายังมองไปข้างหน้าไม่แม้แต่จะหันมาลาอัลฟา
“…ไม่ลงก่อนเหรอยูโร”
“ไม่ มึงขึ้นไปเหอะพรุ่งนี้พี่สเปเชียลก็กลับแล้ว”
“ยูโร…ขอโทษ...”
ยูโรพ่นลมหายใจยาวๆ อีกครั้งแล้วพยักหน้ารับ “ขึ้นห้องไป”
อัลฟาเม้มปากกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลอีกปาดน้ำที่ไหลอาบข้างแก้มออกลวกๆ แล้วขยับลงจากรถ ทันทีที่ประตูรถปิดยูโรก็กระชากรถออกวิ่งทันทีให้เจ้าตัวเล็กเบะปากจะร้องมากขึ้นไปอีก
เอ็กซ์เหลือบมองท่าทางเซื่องซึมของอัลฟาแล้วก็ต้องหมุ่นคิ้วตั้งแต่กลับมาก็ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ
ชักจะผิดปกติเข้าไปทุกวัน...
“อัลฟา”
เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นสบตาคนเรียก นัยน์ตาแดงระเรื่อจากการร้องไห้เมื่อครู่พอสบตากับเอ็กซ์แล้วก็แบะปากลงเล็กน้อยเขยิบเข้าใกล้ปีนขึ้นตักซบหน้าลงที่แผงอกกว้างอย่างงอแง
“เป็นอะไร?” เอ็กซ์ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยอย่างระแวงเมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนของอุณหภูมิร่างกายเจ้าตัวเล็กบนตัก
“แอลหนาว” อัลฟาซุกตัวสั่นๆเข้าหา
เอ็กซ์ได้ยินแบบนั้นก็อุ้มอัลฟาเข้าห้องนอนวางลงที่เตียงแล้วคว้าผ้าห่มมาคลุมตัวให้มองอาการสั่นแบบน่าเป็นห่วงแล้วก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก
อาร์มินที่เข้าไปอาบน้ำเมื่อครู่เดินซับผมออกมาปราดตามองเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางผิดปกติของเอ็กซ์ก็เดินเข้าหา
“มีอะไรเหรอครับ?”
“ไม่รู้เหมือนกัน เห็นบอกหนาวอุณหภูมิกายสูงผิดปกติ” เอ็กซ์ตอบตายังมองไปยังอัลฟาที่ตอนนี้หลับตาปี๋ขดตัวเป็นก้อนอยู่ในผ้าห่มผืนหนา
“ป่วยหรือเปล่า? มนุษย์ป่วยต้องทำไงนะครับ”อาร์มินนิ่งคิดไปก่อนจะเอ่ยปาก ให้คนฟังทำหน้าสงสัยมากขึ้นไปอีก
คิดแล้วก็ขยับตัวลงไปนั่งข้างๆ อัลฟาเขย่าแขนเจ้าตัวเบาๆ “อัลฟา”
เจ้าของชื่อปรือตามอง นัยน์ตาแดงๆ ฉ่ำน้ำจากพิษไข้“อือ...ครับ”
“ต้องทำไง? เป็นอะไร?”
“แอลไม่เป็นไรนอนพัก...แค่ก...หน่อยก็หาย...แค่ก...” อาการไอเริ่มมาเยือนเมื่อเจ้าตัวเล็กเอ่ยปากพูดเสียงหวานแหบพร่าลงเล็กน้อยให้ดูน่าเป็นห่วงมากกว่าเดิม
“พี่เอ็กซ์...แค่ก..นอน..คะ...แค่ก...กอดแอล”อัลฟาเอ่ยอ้อนอย่างยากลำบากให้เอ็กซ์รีบช้อนหลังขึ้นแล้วทาบวางลงที่อกตัวเอง
“สเปเชียลกลับพรุ่งนี้ใช่มั้ย?” เขาเอ่ยถามอีกด้วยน้ำเสียงกังวล แต่คราวนี้เจ้าตัวเล็กไม่ได้ตอบแล้วไอจนตัวโยนแล้วหลับตาปี๋ไปอย่างทรมาน
อาร์มินที่เห็นแบบนั้นก็ยิ่งนิ่งไปทำอะไรไม่ถูก “เอ่อ...พี่เอ็กซ์ ให้ผมทำอะไรมั้ย”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ห่วงอะไรเจ้านั่นสักนิดแต่เห็นท่าทางกระวนกระวายลึกๆ ที่แสดงออกมาทางแววตาของเอ็กซ์แล้วก็อดเอ่ยปากถามไม่ได้
“ไม่เป็นไร มานอนเถอะ”
สิ้นคำเอ็กซ์ อาร์มินก็พยักหน้ารับแล้วขึ้นมานอนบนเตียงข้างๆ เหลือบตามองอาการสั่นเทาของอัลฟาเงียบๆ
มนุษย์นี่อ่อนแอจังนะ...ดูท่าจะตายง่าย
“กลับมาแล้ว” เสียงใสๆ ของสเปเชียลดังขึ้นมาจากหน้าห้องพร้อมกับเสียงเปิดประตูและเสียงขนของ
เอ็กซ์หันไปมองทางประตูห้องนอนแล้วเหลือบตากลับมามองอัลฟาที่นอนซุกตัวสั่นๆอยู่ที่อกเขาในห้องนอนเล็ก
“เดี๋ยวผมออกไปดูให้ครับ” อาร์มินออกปากแล้วเปิดประตูไปหาคนเพิ่งกลับจากค่ายด้านนอก
“แอลล่ะ?” คำแรกที่ออกจากปากหลังจากเห็นหน้าอาร์มินก็ไม่พ้นถามหาน้องชายของตนทันที
อาร์มินไม่ตอบอะไรพยักเพยิดเข้าไปในห้องนอนเล็กแบบที่คนถามก็จิ๊ปากแล้วเดินหลบอีกฝ่ายเข้าห้องไปหาอัลฟาทันที
“เฮ้ย! แอลเป็นไร” สเปเชียลรุดเข้าไปหาทันทีที่เปิดประตูเข้าไปเจอภาพตรงหน้า
“ไม่รู้ ไอตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
“แอล เป็นไงบ้าง”
“พี่สเปเชียล…กลับมาแล้วเหรอครับ”เจ้าตัวเล็กปรือตามองเมื่อโดนจับแขนเขย่าเบาๆก่อนจะเอ่ยทักแล้วยิ้มอ่อนๆ ให้
“ไม่สบายเหรอ? เป็นยังไงบ้าง?”
“แค่ก! สง..แค่ก สงสัยแอลจะเป็นหวัด”
สเปเชียลใช้หลังมือแตะที่หน้าผากอัลฟาแล้วเลื่อนมาบริเวณต้นคอ“ตัวร้อน เดี๋ยวพี่ไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้”
อัลฟาพยักหน้ารับแล้วยิ้มอ่อนๆ ส่งให้สเปเชียล
ไม่นานนักสเปเชียลก็เดินกลับมาพร้อมกะละมังขนาดเล็กในมือเขาขยับตัวลงนั่งข้างๆ แล้วหยิบผ้าชุบน้ำบิดจนหมาดเช็ดตามใบหน้าและซอกคอให้อย่างเบามือ
เอ็กซ์ที่ยืนมองอยู่ข้างๆ ก็สังเกตุพฤติกรรมของสเปเชียลไปอย่างไม่เข้าใจก่อนจะหันไปหาซี “นั่นทำอะไร”
“ไม่สบายน่ะ ไข้ขึ้นปกติเวลาตัวร้อนก็ต้องเอาผ้ามาแช่น้ำแล้วบิดน้ำออก เช็ดเบาๆ” ซีว่าแล้วหัวเราะ “แต่นายคงเบาไม่ได้หรอก”
เอ็กซ์เลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินคำซี “แล้วนายได้เหรอไง?”
“เบากว่านายแล้วกัน เคยเช็ดให้เด็กนั่นบ่อยๆ”
เอ็กซ์พ่นลมหายใจออกอย่างหงุดหงิดแล้วเบนความสนใจกลับไปที่อัลฟา
อาร์มินที่นั่งอยุ่โซฟามุมห้องเหลือบมองเล็กน้อยทำเป็นไม่สนใจอะไรนัก แต่บทสนทนาของพี่ชายทั้ง2ที่อีกฟากของห้องกลับดังชัดอยู่ในหัวเป็นอย่างดี......ความสนใจใส่ใจแบบนั้นของเอ็กซ์ทำให้เขาไม่สบอารมณ์
หงุดหงิดชะมัด...
สเปเชียลก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากแล้วลูบหัวเจ้าตัวเล็ก พอเห็นอัลฟาหลับตาไปแล้วก็หันไปทางเอ็กซ์ “ถ้าเกิดว่าแอลมีอาการหายใจไม่ออกหรือปวดหัว กระสับกระส่ายตัวร้อนจี๋ หรืออะไรก็แล้วแต่ตามกูทันทีเข้าใจปะ”
ไม่ไว้ใจซาไลย์เลยจริงๆทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นศูนย์!
เมื่อเอ็กซ์พยักหน้ารับสเปเชียลก็เดินออกจากห้องไป
แฮ่ก
อาร์มินขมวดคิ้วหงุดหงิดกับเสียงที่ดังขึ้นกลางดึกรบกวนการนอนของเขาไม่นานก็ลืมตาลุกขึ้น พอหันไปก็เห็นเอ็กซ์กำลังนั่งจับเนื้อจับตัวอัลฟาอยู่
“พี่เอ็กซ์?”
เอ็กซ์ได้ยินคนเสียงทักก็หันไปมอง “ทำให้ตื่นเหรอ”
อาร์มินพยักหน้า “เขาเป็นอะไร?”
สีหน้าทรมานที่มีเหงื่อซึมตามกรอบหน้าหอบหายใจหนักๆ อย่างน่าเป็นห่วงของอัลฟาทำให้เอ็กซ์ต้องขมวดคิ้วอย่างทำอะไรไม่ถูก
“ไม่รู้เหมือนกัน ไปตามสเปเชียลหน่อยสิ”
คนถูกใช้ชะงักไปนิดแต่ก็ยอมพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
อาร์มินหายออกจากห้องไปไม่นานก็กลับเข้ามาพร้อมสเปเชียลและซี
“แอล!” เสียงสเปเชียลดังขึ้นพร้อมบานประตูที่เปิดออกอย่างแรง“เป็นยังไงบ้าง?” ถามพลางขยับมือไปจับหน้าผากเช็คความร้อน
“ไข้ขึ้น เหมือนจะสูงมากด้วย ต้องพาไปโรงพยาบาล”สเปเชียลพูดยาวแล้วหันไปทางซี “ซี มึงไปขับรถ”
หมับ
ระหว่างที่กำลังวุ่นวายกันอยู่เอ็กซ์กำลังจะคว้าตัวอัลฟาขึ้นอุ้ม ซีและสเปเชียลกำลังจะเตรียมของหยิบกุญแจรถไปสตาร์ทรอก็ต้องชะงักกึกเมื่อคนป่วยจับแขนสเปเชียลไว้พลางพูดคำที่ทำให้ต้องขมวดคิ้ว
“อย่า…แอลไม่ไปโรงพยาบาล”
“แอล นี่ไม่ใช่เวลาดื้อนะไข้สูงแบบนี้เดี๋ยวเราช็อค” สเปเชียลตั้งสติไปนิดแล้วเอ็ดออกมาด้วยความเป็นห่วง
“แอลไปไม่ได้...พี่เอ็กซ์วางแอลลงพี่สเปเชียลไปหยิบยาในกระเป๋าแอล” เสียงแผ่วเบาฟังไร้เรี่ยวแรงเอ่ยเนิบๆแล้วชี้ไปที่กระเป๋าหนังขนาดกลางที่วางอยู่ข้างๆโซฟา
“แอล…อึก...ขอร้องล่ะครับ”สเปเชียลกำลังจะอ้าปากเถียงแต่ก็ต้องเงียบลงและยอมทำตามเมื่อเจ้าตัวพูดต่อด้วยท่าทางทนไม่ไหว
“โอเคๆ เอ็กซ์มึงเฝ้าแอลก่อนซีไปหยิบอุปกรณ์เช็ดตัว เดี๋ยวกูเอายาเอาน้ำให้แอลเอง” คนเป็นพี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เหลือบมองอาการน่าเป็นห่วงของน้องก็วิตกกังวลและไม่เข้าใจเหตุผลที่เจ้าตัวเล็กไม่ยอมไปหาหมอ
หลังจากเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าและป้อนยาให้อัลฟาแล้วสเปเชียลก็เดินออกจากห้องนอนมาปล่อยให้เอ็กซ์นอนเฝ้าไปเขายืนนิ่งคิดหาเหตุผลในหัวอย่างคนช่างสงสัยแล้วไม่ยอมปล่อยผ่านซีที่เดินตามออกมาวางมือใหญ่ลงที่หัวเบาๆ
“กูไม่เป็นไร” สเปเชียลเงยหน้าสบตากับนัยน์ตาสีทองที่ฉายแววความเป็นห่วงอยู่ข้างใน
“อัลฟาก็ไม่เป็นไร”
ได้ยินอีกฝ่ายพูดเหมือนจะปลอบใจแบบนั้นก็ยิ้มตอบ “มึงเข้าไปดูน้องหน่อย เดี๋ยวกูตามเข้าไป”
ซีลังเลไปนิดแต่ก็ยอมพยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องไป
สเปเชียลมองตามจนประตูปิดลงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไล่หาเบอร์ติดต่อที่อติกานต์เคยให้ไว้คราวก่อน
รอสายไม่นานปลายสายก็ตอบรับ
[สวัสดีครับ]เสียงที่เอ่ยสำเนียงอังกฤษแบบที่สเปเชียลคุ้นเคยดังขึ้น
“อากานต์รึเปล่าครับ นี่สเปนะครับ”
[อ้าว ว่าไงเรา แอลดื้อมั้ย]พอรู้ว่าใครเป็นคนโทรมาเสียงที่ฟังเป็นทางการก็เปลี่ยนไปและกลับมาใช้ภาษาไทยอย่างเป็นกันเอง
“แอลไม่สบายครับ”
[หืม? เป็นอะไรล่ะ]
“น้องมีไข้ตัวร้อนจี๋ ดูอึดอัดหายใจไม่ออกบอกให้ไปโรงพยาบาลก็ไม่ยอมท่าเดียว”
[...]
“สเปเลยจะโทรมาถามอาว่ายาสีฟ้าในกระเป๋าน้องคืออะไรน้องเป็นโรคอะไรรึเปล่า”
[...]
คราวนี้ปลายสายเงียบไปนานจนสเปเชียลเองต้องยกโทรศัพท์ออกจากหูเพื่อดูว่าสายตัดไปแล้วหรือไม่แต่พอเห็นเวลาสนทนายังเดินไปเรื่อยๆ อยู่ก็เงียบรออย่างใจเย็น
[เราเช็ดตัวให้แอลบ่อยๆ นะ แล้วก็ให้แอลกินยาทุก 3 ชั่วโมงจนกว่าไข้จะลด พยายามทำให้ห้องเงียบที่สุด เอาอุปกรณ์ที่มีคลื่นความถี่ทุกชนิดออกจากห้องด้วย]
“ครับ?”
[พอเจ้าตัวดีขึ้นแล้วให้ติดต่อหาอาทันที]
เสียงเข้มฟังดูเครียดของคู่สนทนาทำให้สเปเชียลรับคำอย่างเคร่งครัดแล้วอดทนไม่เอ่ยถามต่อทำเพียงวางสายไปอย่างสุภาพแล้วรีบทำตามอย่างที่ได้รับคำสั่งมา
อุปกรณ์ที่มีคลื่นความถี่ทุกชนิดงั้นเหรอ…
นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?!
ผลจากฝึกหนัก ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]