tanya โพสต์ 2016-2-7 07:33:52

❖ S A L Y E ❖ น า ย พั น ธุ์ โ ห ด C o m p l e t e d.1 (ภาค 2) - 27

C h a p t e r 2 7

ล อ ว์ เ ร น
   กว่าชั่วโมงที่คนด้านนอกปล่อยให้ทั้ง 2 ที่เคยเกลียดกันมากแสดงความรักต่อกันจนกว่าจะพอใจ ประตูห้องนอนก็เปิดออก
   เมื่อเอ็กซ์เดินออกมาสเปเชียลก็หันขวับไปมองแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อยตามประสาพี่ชายที่‘เคย’หวงน้อง
   “อัลฟาร้องหา” เอ็กซ์เอ่ยปากบอกให้สเปเชียลรีบลุกขึ้นเดินตามเอ็กซ์เข้าห้องไป
   เจ้าตัวเล็กนอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยไม่หายจากอาการแสดงความรักที่ผ่านมา    สเปเชียลเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งที่ข้างเตียงแล้วลูบข้างแก้มอัลฟาอย่างเบามือ
   “แอลขอโทษนะครับ”
   และก่อนที่ตัวเองจะได้พูดอะไร ก็ต้องเป็นฝ่ายประหลาดใจเมื่อน้องชายเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษขึ้นมาเสียก่อน
   เพราะตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาที่ไม่ได้เจอกันเขานึกโทษตัวเองเสมอที่ปิดบังและทำให้น้องเสียใจ
   สเปเชียลกัดริมฝีปากล่างอย่างข่มอารมณ์แล้วรวบตัวเล็กๆ ที่อุณหภูมิกายสูงผิดปกติเข้ามากอด
   “พี่ต่างหากต้องขอโทษ ขอโทษที่ทำให้แอลต้องเสียใจ”
   “แอลรักพี่สเปเชียลนะครับรักมากเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยน้า”
   สิ้นคำที่ถูกเอ่ยมาด้วยถ้อยคำออดอ้อนอ่อนหวานอย่างที่คุ้นเคยน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลออกมา
   แบบที่คนเข้มแข็งก็ได้แต่รีบปาดออกไวๆ ขณะยังกอดน้องให้ซุกอกอยู่อย่างนั้น
   “พี่สเปเชียล” อัลฟาผละตัวออกแล้วสบตากับคนเป็นพี่“แอลออกมาจากที่นั่นได้ยังไงแล้วมิสเตอร์ไคลด์ล่ะครับ”                        
   อัลฟาเอ่ยปากถามอย่างร้อนรนเมื่อเขาฉุกคิดได้ว่าความทรงจำสุดท้ายคือตอนที่เห็นพี่ชายตัวเองกำลังจะถูกทำร้ายแต่หลังจากนั้นกลับไม่มีข้อมูลในหัวเหมือนถูกลบทิ้งไป ไม่ต่อเนื่อง
   “ความจริงพี่เองก็จำไม่ได้” สเปเชียลขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างจริงจัง “แต่ซีเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่ได้ยินเสียงแอลกับยูโรตะโกนก็มีแสงสีขาวสว่างจ้าไปทั้งห้อง แล้วยังมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ปวดหัวกว่าจะตั้งตัวได้ก็สักพัก ลืมตาขึ้นมาก็นอนนิ่งกันทั้งห้องแล้ว”
   “พวกมิสเตอร์ไคลด์ด้วยเหรอครับ?”
   “ใช่ เหลือแค่เอ็กซ์กับซี”
   สิ้นคำตอบของสเปเชียลอัลฟาก็หันขวับไปมองเอ็กซ์ทันทีเอ็กซ์สบตาเจ้าตัวเล็กตอบแล้วถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินเข้ามาใกล้กว่าเดิม
   “นายกำลังจะใช้พลัง…”
   “แสงนั่นมาจากแอล?”
   เอ็กซ์ส่ายหัวแล้วเดินไปหยิบเบต้าที่นอนนิ่งไม่ไหวติงมาส่งให้   แบบที่คนมองก็เบิกตากว้างแล้วคว้าหุ่นยนต์ตัวเล็กมาไว้ในแขน
   “เบต้าเป็นอะไร? มันไม่ทำงาน?!”อัลฟาขยับพลิกตัวเบต้าไปมาอย่างร้อนรน
   “แสงมาจากมัน”
   อัลฟาขมวดคิ้วหนักขึ้น ตาแดงเล็กน้อยอย่างคนวิตกเขาพอจะจำได้ลางๆ แล้วว่าวินาทีสุดท้ายที่เห็นคือภาพเบต้ากำลังพุ่งเข้ามาทางตัวเอง
   เบต้าเป็นอะไร พัง?
   คิดแล้วก็เริ่มจะสะอื้น
   เบต้าสำคัญสำหรับเขามาก...พังไม่ได้!
   เอ็กซ์มองภาพตรงหน้าแล้วก็ขมวดคิ้วตาม   เขาไม่ชอบใจเท่าไหร่นักเวลาเห็นท่าทางเป็นทุกข์แบบนี้ของเจ้าแมวตัวเล็ก   มองๆ แล้วก็เดินไปหยิบกล่องอุปกรณ์ในลิ้นชักมาส่งให้แบบที่อัลฟาก็เงยหน้าแล้วยื่นมือมารับแต่โดยดี
   สเปเชียลยังคงยังนิ่งลูบหัวอัลฟาเงียบๆในขณะที่เจ้าตัวเริ่มหยิบอุปกรณ์มาไขดูภายในของหุ่นยนต์สุนัขแสนรัก
   อัลฟาไขชิ้นส่วนเล็กๆ ออกเพื่อเปิดดูด้านในขยับมองหาจุดผิดปกติที่ทำให้หยุดทำงาน   จนสังเกตุเห็นตัวอักษรเล็กๆที่เขียนอยู่บนกล่องบริเวณด้านในสุดที่เหมือนจะเป็นตัวรับอะไรสักอย่าง
   สเปเชียลขยับตัวเข้าหาอัลฟาเมื่อเห็นน้องชายตัวเองนิ่งไปแล้วจ้องเขม็งไปที่ด้านในตัวเบต้าอย่างเคร่งเครียด
   เขาขยับใบหน้าเขาไปข้างๆ อัลฟา
   ก่อนจะเหลือบเห็นถ้อยคำที่สลักเป็นอักษรด้านในตัวอักษรที่จางลงไปกว่าที่ควรจะเคยเป็น   แต่ยังชัดพอที่จะอ่านออกตัวเขียนอักษรภาษาอังกฤษสีขาวเล็กๆ ที่พอจะจับใจความได้ว่า
   ‘for my little alfa…you’re my precious thing’
   หลังจากที่อัลฟาห็นข้อความจากแม่ที่ถูกจารึกไว้ในตัวเบต้าน้ำตาก็พลันไหลไม่รู้ตัวรู้ได้ไม่ยากว่าหมายความว่าอะไรและแสงสีขาวสาดจ้าในห้องตอนนั้นมาจากไหน   ทั้งเบต้าที่ยังหยุดทำงานไปแบบไร้เหตุผลนี่อีก
   ทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือแม่ทำให้เขา…
   มัมสร้างตัวรับคลื่นความถี่จากพลังของเขา   ใช้เจ้าอุปกรณ์ในตัวเบต้าวัดระดับคลื่นเพื่อส่งคลื่นต้านยับยั้งการใช้พลังจนถึงขีดสุด…
   ขนาดมัมไม่อยู่แล้ว มัมยังปกป้องเขาเลย
   “แอล…เป็นอะไรน่ะ”
   สเปเชียลละสายตาจากตัวอักษรสีขาวที่เรียบเรียงถ้อยคำสละสลวย
   เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นจากคนข้างๆแล้วก็ต้องตกใจเมื่อหันไปเจอใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาของน้องชายตัวเอง
   “แอลจะไปหามิสเตอร์ไคลด์ แอลจะกลับอังกฤษ!”
   อัลฟาพูดเสียงดังแล้วเลื่อนเบต้าออกจากตักลงที่ข้างเตียงขยับตัวลุกขึ้น    แต่ด้วยพิษไข้ทำให้ขาอ่อนและกำลังจะทรุดลงที่พื้นแต่มีมือหนาขยับเข้าคว้าตัวขึ้นแนบอกได้ทัน   เอ็กซ์ถอนหายใจแล้วขยับอ้อมแขนอุ้มอัลฟาดีๆ ก่อนจะก้มลงสบตาเจ้าตัวเล็กดุๆ
   “ปล่อยแอลนะพี่เอ็กซ์! แอลต้องไปต้องไปเดี๋ยวนี้!”
   “แอลใจเย็นๆ ก่อนนะ แอลเป็นอะไร”
   สเปเชียลที่นั่งอึ้งไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วจนปรับอารมณ์ไม่ทันรีบลุกขึ้นเดินไปหาอัลฟาทันทีที่ตั้งตัวได้
   “แอลจะไปหามัม แอลต้องไปหามัม!”
   “แอล แอลนิ่ง แอลนิ่งก่อนนะ แอลฟังพี่” สเปเชียลพยายามเอ่ยปากกล่อมอัลฟาที่โวยวายไม่หยุดเขาเอื้อมมือไปลูบหัวลูบหลังอัลฟาให้สงบ“แอลจะกลับไปไหว้อาลอว์เรนตอนนี้ทำไมพักให้หายก่อนนะแอล”
   สเปเชียลว่าไปก็งงไปเพราะนี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะไปเยี่ยมหลุมศพเลยสักนิดทั้งอาการไข้ที่ยังไม่หายดี ทั้งเรื่องมิสเตอร์ไคลด์และอากานต์ที่กำลังจะกลับมาอีก
   “แอลต้องไป ตอนนี้แอลมีเรื่องกับมิสเตอร์ไคลด์แล้วแอลต้องไปช่วยมัม!”
   “ช่วย? ช่วยอะไร?!”
   อัลฟาชะงักไปนิด กัดริมฝีปากล่างจนซีดขาวก่อนจะปาดน้ำตาที่ข้างแก้มออกแล้วกำเสื้อของเอ็กซ์ที่อุ้มตนอยู่แน่น         
   ‘ฮึก มัม มัมครับ มัมฟื้นนะ อยู่กับแอลสิครับมัม!’
   เสียงสั่นเครือและรวดร้าวของเด็กชายผู้มีน้ำตานองหน้าดังขึ้นก้องห้องสี่เหลี่ยมมือเล็กเกาะกุมแขนซีดขาวและเย็นจัดของบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าแม่แน่น   ทั้งยังเขย่าไปมาราวกับจะปลุกให้ลืมตาขึ้นมามองหน้าตน
   ทั้งที่เมื่อกี้มือมัมยังอุ่นอยู่เลยทั้งที่เมื่อกี้นัยน์ตาสีสวยของมัมยังมองมาที่เขาอยู่เลย
   และทั้งๆ ที่มัมยังหายใจอยู่เลย!
   อัลฟายังคงปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มไม่หยุดและร้องตะโกนไปมาเท่าที่เด็กตัวเล็กที่อายุไม่พ้นสิบขวบปีจะทำได้   เป็นครั้งแรกที่เขาพบเจอกับสิ่งนี้…ความน่ากลัวในความสูญเสีญซึ่งเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ครั้งแรกในชีวิต
   ไคลด์เหลือบตามองเด็กชายตัวเล็กที่มีนัยน์ตาสองสีประหลาดแต่ดึงดูดในความรู้สึกกำลังคร่ำครวญอย่างน่าสงสารนิ่งๆ
   แม้เรื่องราวในวันนี้จะผิดแผนไป
   แม้จะต้องเสียลอว์เรนไป
   แม้ว่าจะต้องรออีกยาวนานเท่าไหร่
   แต่เขามองเห็นหนทางต่อไปแล้ว…
   ในวันที่ลอว์เรนเสียชีวิตอัลฟากลายเป็นเด็กที่มีความผิดปกติทางอารมณ์เจ้าตัวเล็กไม่พูดไม่จาไม่ยิ้มและไม่ตอบสนองต่อสิ่งรอบกายแม้แต่คนใกล้ตัวอย่างยูโรก็ไม่อาจทลายกำแพงความเศร้าโศกที่มาจากการสูญเสียได้
   สาเหตุการตายของลอว์เรนที่ทุกคนรับรู้คือใช้พลังมากไปจนย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง
   แต่หากในจิตใจอัลฟาไม่ใช่...   และเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในวันงานฝังศพของลอว์เรน
   วันฝังศพ...ที่ในโลงไม้สีขาวนั้นไม่มีร่างของเธอ...
   สวนดอกไม้นานาพันธุ์ด้านหลังโบสถ์ที่จัดขึ้นอย่างสวยงาม   ราวกับต้องการให้ผู้มาเยือนที่มีจิตใจหม่นหมองด้วยเหตุการณ์ทั้งปวงสดชื่นขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ยังดี   ซึ่งไม่เว้นเด็กน้อยที่มานั่งน้ำตาอาบหน้าอยู่คนเดียว
   หากแต่ไม่ทันสดชื่นขึ้นตามความตั้งใจของคนจัดสวนก็มีเสียงที่ทำให้หลุดออกจากภวังค์ความคิด
   ‘มานั่งทำอะไรตรงนี้’
   เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นตามเสียงทักนับหลายนาทีที่จ้องหาคนด้านบนอย่างเหม่อลอย ก่อนจะเอ่ยปากเสียงแผ่ว
   เสียงโรยแรงที่ไม่ได้เปล่งออกมาจากลำคอนานนับอาทิตย์
   ‘มิสเตอร์ไคลด์’
   ‘ร้องไห้?’
   ‘ครับ’
   ‘ฉันเข้าใจ’ คนโตกว่าขยับเอื้อมมือไปลูบหัวทุยเบาๆพลางเอ่ยวาจาที่เด็กน้อยทำแค่นิ่งรับฟัง
   ‘ถ้าไม่มีมันเธอก็ไม่ต้องเสียใจอย่างนี้’
   ‘ถ้าไม่มีมันเธอคงไม่ต้องสูญเสีย’
   ‘เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากมัน’
   ‘มอบทุกอย่างของเธอให้ฉัน’
   หนุ่มชาวอังกฤษเอ่ยเสียงทุ้มด้วยสำเนียงผู้ดีกล่าวคำที่คล้ายจะหลอกล่อให้คนน้ำตานองเอนเอียงตาม
   นัยน์ตาสีน้ำข้าวทอประกายแวววาวอย่างเจ้าเล่ห์ปากบางฉีกยิ้มน้อยๆ ส่งให้เด็กหนุ่มตรงหน้า
   ‘ความสามารถทุกอย่างที่เธอมี...มอบมันให้ฉัน’
   เป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้…
   ว่า ‘มนุษย์ทุกคนบนโลกย่อมอยู่ได้ด้วยความหวัง’
   และไม่ต่างจากอัลฟาในตอนนี้เด็กวัยสิบขวบปีที่ใจแหลกสลาย
   สิ่งเดียวที่ทำให้เขาฟื้นตัวเร็วคือตัวแปรที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้
   ลอว์เรน   ‘เธออยากให้ลอว์เรนกลับมามั้ยอยากได้แม่ของเธอคืนมั้ย’
   ถ้อยประโยคที่ทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในโลกมืดๆ เงยหน้าขึ้นมองทันทีราวกับเจอแสงสว่างในอุโมงค์ที่ทั้งทึบและตัน
   ‘อยากให้ฉันพาลอว์เรนกลับมาให้เธอมั้ยอัลฟา’
   ‘มัม…ไม่อยู่แล้วมัมอยู่ใต้ดินแล้ว’
   อัลฟาว่าเสียงแผ่วเหมือนคนไร้สติน้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ตัว
   ‘ไม่ ลอว์เรนยังอยู่กับฉัน’
   เป็นอีกครั้งที่อัลฟาต้องเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วนัยน์ตาที่คลอหน่วยไปด้วยน้ำเบิกกว้างอย่างมีความหวัง
   ความหวัง…เป็นสิ่งหอมหวานเสมอ
   ‘หมายว่ายังไงครับ..มัม…’
   ‘ร่างของลอว์เรนตอนนี้อยู่กับฉัน’
   ‘มัม…มัมไม่อยู่แล้ว’
   ‘ฉันสามารถรักษาร่างของลอว์เรนไว้ให้เธอได้นานเท่าที่เธอต้องการ’
   อัลฟาได้ยินแบบนั้นก็กัดริมฝีปากแล้วเริ่มสะอื้นอีกครั้ง
   ‘มัมไม่มีวันลุกขึ้น ไม่มีวันกอดไม่มีวันพูดกับผมได้อีกแล้ว ผมไม่ได้อยากได้มัมที่นอนอยู่แบบนั้น
   ‘แต่ฉันทำให้เธอได้ฉันทำให้ลอว์เรนกลับมาทำแบบนั้นกับเธอได้’
   ‘!’
   อัลฟาลุกขึ้นปาดน้ำตาออกไวๆแล้วเอ่ยปากเสียงสั่นอย่างไม่ต้องคิด
   ‘ยังไง! ขอแค่มัมฟื้น! ผม…ผมทำได้ทุกอย่าง’
   วินาทีที่อัลเห็นแม่ของตนนอนนิ่งเหมือนหลับอยู่ในหลอดแก้วยาวขนาดใหญ่มีสายระโยงระยางทั่วตัว
   ทั้งยังอุปกรณ์สีและหน้าตาประหลาดรอบๆ อีกทำให้เด็กน้อยรู้สึกวาบในหัวใจ
   มัมเหมือนนอนหลับ…
   และไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะรีบพยักหน้าและละล่ำละลักตอบตกลงทุกข้อเสนอที่อีกฝ่ายหยิบยื่นมาตรงหน้า
   ช่องว่างและรอยต่อของความรู้สึกมันเป็นรอยโหว่ที่ใหญ่เกินกว่าจะประสานมันให้กลับมาดังเดิมในเวลาอันสั้น   และช้าเกินไปที่จะรับรู้ความคิดผิดพลาดในเวลานั้นของเด็กน้อยตัวเล็ก
   วินาทีที่โลกทั้งใบที่มืดมิดกลับพลันมีแสงสว่างสาดส่องมาถึง
   วินาทีที่สมองน้อยๆ บอบช้ำกับความสูญเสียร้ายแรงในชีวิตมีเพียงภาพรอยยิ้มและไออุ่นของอ้อมกอดของแม่จารึกไว้
   วินาทีที่จิตใต้สำนึกและจิตใจบิดเบี้ยวถูกดัดแปลง
   วินาทีที่เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่เขารู้ไม่เท่าทัน
   วินาทีที่ตอบตกลงประโยคนั้นไป
   ‘ร่างกายและโลหิตของซาไลย์จะทำให้ฉันชุบชีวิตลอว์เรนได้มันจะทำให้ลอว์เรนกลับมา’
   ‘ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน…มัมต้องฟื้น’
   อัลฟาหวนคิดไปถึงช่วงความทรงจำเมื่อหลายปีก่อนแล้วก็น้ำตาไหลตัวสั่นระริก   ให้คนที่อุ้มอยู่อย่างเอ็กซ์ขยับอ้อมกอดเขย่าขึ้นลงเบาๆเป็นการปลอบ   กดริมฝีปากลงที่ขมับและหน้าผากเจ้าตัวเล็กย้ำๆ   จนรู้สึกได้ว่าเจ้าตัวสงบลงแล้วจึงผละออกมองหน้าแล้วขยับยิ้มบางที่มุมปาก
   อัลฟายกมือคล้องคออีกฝ่ายกอดแน่นอยู่พักนึงก่อนจะหันมาทางสเปเชียลสบตาคนเป็นพี่ชายแล้วเอ่ยปากเสียงสั่น
   “ร่างของมัมยังอยู่…อยู่ที่ห้องลับของมิสเตอร์ไคลด์”
   สิ้นเสียงของอัลฟา สเปเชียลก็นิ่งไปเหมือนถูกช็อตเขาเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจ   ความตกใจและนิ่งอึ้งเข้าโจมตีอย่างกะทันหันและไม่นานนักอัลฟาก็เป็นฝ่ายที่ต้องช็อคไปกว่าที่สเปเชียลเป็น
   “หมายความว่ายังไงอัลฟา”
   เจ้าตัวเล็กหันขวับไปทางประตูทันทีที่ได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ไม่อยากได้ยินที่สุดตอนนี้
   “แด๊ด..”


4_NAY โพสต์ 2016-6-6 13:17:38

ไปปลดปล่อยร่างของแม่

tong111222 โพสต์ 2019-4-22 19:47:58

ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ❖ S A L Y E ❖ น า ย พั น ธุ์ โ ห ด C o m p l e t e d.1 (ภาค 2) - 27