เกือบจะเลิกกัน เพราะความไม่เข้าใจกัน
(ต้องบอกก่อนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ตัวละครมีอยู่จริง แต่ไม่ใช่เรื่องของผมนะครับเป็นของคนรู้จักของผมคนนึง ผมไปอ่านแล้วชอบ เลยขอเขามาลงให้เพื่อนๆได้อ่านกัน)ทุกคนย่อมมีช่วงเวลาที่เลวร้ายแทบอยากจะลืมมันไปไม่อยากจะจำถึงเหตุการณ์และเรื่องราวที่จะเกิดขึ้น บางคนเลือกที่จะทำตัวให้ไม่ว่างจะได้ไม่คิดฟุ้งซ่าน บางคนเลือกที่จะเผชิญกับปัญหา ผมก็หนึ่งคนในนั้นครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อสองปีก่อน คนที่ผมรัก คนที่เคยสัญญาว่าจะอยู่กับผม คนที่วางแผนชีวิตไว้ด้วยกัน แต่สุดท้ายมีเหตุผลในตัวของมันครับ เขาเลือกที่จะทำตามความ ต้องการของครอบครัวเขา ทั้งๆที่ผมเป็นแฟนเขาแท้ๆ ผมชื่อน็อตครับ ตอนนั้นผมเรียนอยู่ปีสองผมชอบเพื่อนแถวบ้านคนหนึ่งมันชื่อเป็นหนึ่ง แต่มีผมคนเดียวจะเรียกมันว่าหนึ่ง คนอื่นๆเคยเรียกมัน ว่าหนึ่งมันก็จะพยายามบอกว่ามันชื่อเป็นหนึ่ง เราสนิทกันตั้งแต่อนุบาลเรียกได้ว่าบ้านใกล้ๆกันจะ ไปไหนจะทำไร จะมีหนึ่งไปด้วยเสมอ เราเรียนที่เดียวกันตั้งแต่อนุบาล มหาลัยก็เรียนที่เดียวกัน แต่เรียนคนละคณะ แต่พักกินข้าวเราจะมากินข้าวด้วยกันเสมอ เราตกลงคบกันตอนที่ผมอยู่ตอน วันปัจฉิมของมอหกวันนั้นเราดื่มกันไปเยอะต่างคนต่างเมาต่างเอ่ยความรู้สึกที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจให้อีกคนได้รู้ ว่าต่างคนต่างรู้สึกแอบชอบกันมานานแล้ว จนทั้งสองคนคบกันทั้งๆที่ทางบ้านไม่รู้ เพราะไม่มีใครกล้าที่จะบอกให้ทางบ้านได้รู้ความจริงจนวันนึงวันที่เรื่องคาดฝันก็เกิดขึ้นวันนั้นหนึ่ง ที่น็อตต้องกลับมาเอาของให้หนึ่งที่บ้าน น็อตเจอกลับพ่อของหนึ่งได้พูดคุยกันเล็กน้อย แต่มีเรื่องนึง ที่ทำเอาใจของคนที่ได้ยินแทบสลาย ใครจะคิดว่าคนที่เคยเป็นเพื่อน พอมาเป็นแฟนกัน คนที่เคย สัญญาว่าจะไม่โกหกกัน มีเรื่องมีปัญหาอะไรจะไม่ปิดบังกัน แต่ทำไมวันนี้คนที่เขารักถึงทำกับเขาแบบนี้ หลังจากวันนั้นน็อตกลายเป็นคนละคนจากเด็กที่เคยยิ้มโลกทั้งโลกสดใสกลับทำตัวเหมือนศพเดินได้จากที่เคยไปกินข้าวกับคนรักด้วยกันก้กลายเป็นไปบ้างไม่ไปบ้างด้วยเหตุผลว่างานเยอะ จนถึงวันที่หนึ่งนั้นทนไม่ไหว จึงได้ระเบิดอารมณ์ออกมา ด้วยเหตุที่ว่าไม่เข้าใจว่าทำไมเพราะอะไร แฟนของตนจึงทำตัวแปลกไปขนาดนี้ แต่น็อตก็ปิดปากเงียบ มันเลยทำให้เรื่องนั้นบานปลายหนัก ไปกว่าเดิม หนึ่งเกิดอารมณ์น้อยใจจึงได้พูดบอกเลิกน็อตไป น็อตจึงยอมเอ่ยปากเล่าเหตุผลที่ตน นั้นทำตัวแปลกไปว่าทำไมคนรักของตนถึงไม่ยอมปริปากกพูดอะไรออกมาเลย ทั้งๆที่เคยสัญญา กันไว้แล้วว่าจะไม่ปิดบังกันไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร แต่หนึ่งก็ได้แต่เอ่ยคำว่าขอโทษ มีแต่น็อตที่เอ่ย พูดคำว่าเลิกกันเถอะอย่างไม่หลงเหลือเยื่อใยกันอีกต่อไป หลังจากวันนั้นที่เกิดเรื่องขึ้นทั้งสองยัง ไม่มีโอกาสที่จะได้อธิบายเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นได้ จนวันนึงพ่อและแม่ของหนึ่งได้เดินเข้ามาพูด คุยกับน็อตและได้เอ่ยถามถึงเรื่องของหนึ่ง ทำให้น็อตรู้สึกลำบากใจมาก กลืนไม่ได้คายไม่ออก จนพ่อของหนึ่งเอ่ยถามว่าน็อตรักลูกของพ่อไหม คนที่ได้ยินถึงกลับนิ่งอึ้งกลับสิ่งที่ได้ยิน ทำไมพ่อถึงได้กล้าถามคำถามนี้ออกมา ในขณะที่น็อตกำลังนิ่งเงียบอยู่นั้นผู้เป็นแม่ก็ได้เอ่ยออกมาว่า พูดมา เถอะลูกว่าหนูน่ะรักลูกของแม่หรือเปล่า น็อตจึงได้เล่าความจริงไปว่าตนนั้นได้คบกับลูกชายของ ท่านทั้งสองอยู่ แต่ทั้งสองเหมือนจะไม่ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยเหมือนกลับเรื่องที่พูดออกไปนั้น ท่านทั้งสองได้รู้เรื่องมาก่อนหน้านี้แล้ว จนผู้เป็นพ่อของน็อตเอ่ยออกมาคำนึงว่าพ่อยอมแพ้แล้วลูก ท่านถึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่า ท่านรู้ตั้งแต่ตอนนั้นที่พ่ออยู่บ้านแล้วผมกับลูกชายท่านนั้นจูบกัน แต่ท่านก็ทำเป็นไม่สนใจ และวางแผนที่จะให้หนึ่งนั้นหมั้นกับลุกสาวของเพื่อน แต่ด้วยความที่ว่าหนึ่งนั้นกล้าที่จะเดินไปบอกกับท่านทั้งสองว่าเรานั้นคบกันตอนแรกท่านก็ไม่เห็นด้วย จนเกิดเรื่อง ท่านจึงใจอ่อนลงและเลือกที่ยอมเห็นความสุขของลูกท่านเป็นหลัก แต่ไม่ใช่ว่าหนึ่งมันจะบอกแค่ พ่อและแม่ของมัน แต่มันก็เดินเข้ามาสารภาพกับพ่อและแม่ของผมว่ามันขอดูแลผมหลังจากนี้ได้ไหม ผมเพิ่งมารู้จากปากของพ่อหนึ่งวันนี้นี่หล่ะหลังจากวันนั้นที่ผมได้เอ่ยปากว่าจะเลิกกับมัน พ่อ บอกว่าถ้ายังรักมันอยู่ก็กลับไปง้อมันหน่อยนะลูก ลูกของพ่อกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผมตัดสินใจเดินไปง้อมัน พอเดินมาถึงห้องนอนที่คุ้นเคย เพราะห้องๆนี้เหมือนห้องของผมเหมือนกัน ผมยืนวนไปวนมาหน้าห้องว่าจะเอ่ยคำทักทายมันยังไงดี จะพูดง้อมันยังไงดี อยู่ๆประตูห้องก็เปิดออกมา หนึ่งมันยืนจ้องหน้าผมเขม็งเลย ผมเลยต้องเดินหน้าสำนึกผิดแล้วเดินจะเข้าไปกอดมันแต่มันกลับถอยไปหนึ่งก้าวและเอ่ยถามว่าคำนึงว่ามาทำไม ตอนนั้นที่ได้ฟังใจที่เหี่ยวกลับเหี่ยวหนักกว่าเดิมอีก ตอนนั้นไม่
รู้ว่ามันล้อเล่นหรือรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ด้วยอารมณืแบบที่มีทิฐิอยู่เลยจะหันหลังแล้วเดินกลับแต่ขายังไม่ทันก้าวพ้นประตูเลย ตัวผมนั้นลอยสูงเหนือพื้น ด้วยความตกใจบวกกับกลัวตก เลยต้องยอม
เอามือเกี่ยวคอมันไว้ มันก็พูดมาคำนึงว่าไหนมาง้อกูก็ควรจะให้กูหายโกรธก่อนไหม มึงถึงจะกลับไปได้ แต่เราต่างคนต่างใช้ภาษากายคุยกัน ให้รู้ว่าช่วงที่เราทะเลาะกันเรานั้นต่างคนต่างคิดถึงกัน ขนาดไหน และก็เป็นผมนี่หล่ะครับ ที่โดนมันจัดหนักตลอดคืนเลย แต่ก็ถือว่าคุ้มนะครับปัญหาทุกอย่างมันมีทางออกเสมอแต่แค่คุณค่อยแก้ปัญหาและพยายามอย่าอารมณ์ในการแก้ไขปัญหาแบบผม เพราะบางทีตอนจบของปัญหาอาจจะไม่ได้กลับมารักกันแบบคู่ของผมก็เป็นได้
โดนใจมากครับ ดีแล้วคับ ไมมันลงตัวง่ายขนาดนี้ {:5_146:}ขอบคุนครับ{:5_117:} น่าอิจฉามากอ่ะครับ ขอบคุณคับ ดีกันครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ{:5_146:}{:5_146:}
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
น่าอิจฉาจัง ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]