สะกดจิตครูพละ
“นั่นใครน่ะ! เฮ้ย !” เสียงเรียกทำให้ผมมีสติคืนกลับมาปัจจุบัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจสะดุ้ง แต่ปัจจุบันผมมักตอบรับน้ำเสียงไร้มารยาทประเภทนี้ด้วยการแลหางตาไปยังต้น เสียงเท่านั้น“คุณ เป็นใคร! แล้วนี่ทำอะไร! ตอนนี้เวลาเด็กเรียนหนังสือนะ!” เจ้าของเสียงเป็นชายวัยสามสิบหกที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดีเมื่อหลายปีก่อนหน้า นี้ อาจารย์ทรงเดช หรือฉายาที่เด็กตั้งขึ้นก็คือ “มนุษย์กล้าม” เขาเป็นครูผู้สอนวิชาพลศึกษาให้นักเรียนระดับมัธยมต้น ยังคงพูดจาขวานผ่าซากตามประสานักกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อมากกว่ามันสมองเช่นเคย กับคนแปลกหน้าเราไม่ควรใช้คำพูดห้วนไม่น่าฟังเช่นนั้น
“สวัสดี ครับอาจารย์ ผมเป็นศิษย์เก่าครับ พอดีแวะมาทำธุรกรรมที่ต้องใช้เอกสารจากที่นี่นิดหน่อย เสร็จกิจแล้วก็เลยเดินเล่นระลึกความหลัง อาจารย์คงไม่รังเกียจนะครับ” จะดีไหมนะที่ออกตัวว่าเป็นศิษย์เก่า แต่ช่างเถอะถ้ามีอะไรไม่เข้าท่าขึ้นมาค่อยลบความทรงจำทีหลังก็ได้
“ชื่อ อะไร! จบรุ่นไหน! แลกบัตรคนนอกรึยัง เอามาดูซิ!” ให้ตายสิ นี่ผมอายุยี่สิบแล้ว ยังกล้าวางอำนาจใส่ราวกับเห็นเป็นนักเรียนอายุสิบสี่สิบห้า ช่างเถอะโกหกชื่อไปก่อนแล้วกัน
“ชื่อ ชลวิทย์ จบม.ต้นรุ่น 40 ครับ นี่ครับบัตร” อาจารย์ทรงเดชออกแรงคว้าบัตรบุคคลภายนอกจากมือผมไปดูด้วยน้ำหนักมือแรงกว่า ที่ปัญญาชนพึงปฏิบัติต่อกัน
“ชลวิทย์ไหน ไม่มี ผมจำได้” อาจารย์ทรงเดชเสียงแข็ง
“ผม ชลวิทย์ไงครับ แต่อาจารย์จำไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอกครับ ผมไม่ค่อยเด่นในชั้นเรียน” เย็นไว้แล้วนับหนึ่งถึงสิบ ขอเถอะไอ้คุณทรงเดชวันนี้อุตส่าห์อารมณ์ดี ๆ อย่าทำให้กูต้องปล่อยของนะครับ
“บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิ! ผมสอนมาหลายรุ่นไม่มีรุ่นไหนมีคนชื่อนี้ คุณนี่น่าสงสัย! มีบัตรประชาชนหรือเปล่า!”
“เสียใจ ด้วยครับที่คงจะให้ดูไม่ได้ อาจารย์ครับ ผมไม่ใช่เด็กมัธยมที่จะมาวางอำนาจใส่แบบนี้แล้วนะครับ บัตรบุคคลภายนอกผมก็แลกมาแล้ว อาจารย์กรุณาให้เกียรติผมในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งด้วยครับ”
“นี่คุณกล้าดียังไงพูดอย่างนี้กับผม งั้นก็ออกไปจากที่นี่ซะ”
“ผมทำอะไรผิดครับ”
“ไม่เชื่อฟังผม ไม่มีสัมมาคารวะ คุณจบไปแล้วยังไงก็เป็นศิษย์อยู่วันยังค่ำ”
“ก็เลยต้องก้มหัวให้กับอาจารย์ต่อไปไม่ว่าจะหัวหงอกหัวดำผ่านไปกี่ปีสินะครับ”
“เฮ้ย! ระวังปากหน่อย!” อาจารย์ทรงเดชดึงไม้เรียวที่เหน็บขอบเอวกางเกงวอร์มออกมาอย่างลืมตัว แต่แล้วจู่ ๆ ก็หยุดมือเอาไว้แค่นั้นเหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้
“ถ้า ให้ผมเดา ทุกวันนี้อาจารย์คงยังไม่เลิกตีเด็กแบบไร้เหตุผลสินะครับ อยู่ในโรงเรียนอาจารย์ใช้อำนาจผ่านไม้เรียวตัดสินถูกผิดให้คนมานักต่อนัก คงเกือบลืมตัวไปกระมังว่าถ้าตีผมตอนนี้มันจะกลายเป็นคดีอาญา ก็อย่างที่บอกไป ผมไม่ใช่เด็กแล้ว และอาจารย์ไม่สามารถใช้อำนาจกับทุกคนทุกเวลาได้ ลองอ่านงานเขียนประมาณฟูโกต์ไหมครับเผื่อจะเข้าใจอะไรดีขึ้น หรือว่า.....เลิกอ่านหนังสือไปแล้วตั้งแต่สอบบรรจุครูได้”
“มึงออกไปเลย!!!” อาจารย์ทรงเดชหลุดคำสบถออกมา เขาคว้าแขนผม...ที่จริงควรใช้คำว่ากระชากมากกว่า เพื่อฉุดตัวผมให้ออกไปจากสถานที่นี้
“เดี๋ยวสิครับ อาจารย์จะไม่ถามสักคำเลยเหรอครับว่าผมมาทำอะไรที่นี่”
“เรื่องของคุณ!!!” อาจารย์ทรงเดชตวาดตอบ เขาไม่หันมามองผมด้วยซ้ำ
“งั้น ผมขอถามบ้างว่า เพราะอะไรอาจารย์ถึงขึ้นมาเจอผมที่นี่ ทั้ง ๆ ที่เป็นจุดลับสายตาคน” อาจารย์ทรงเดชชะงักราวกับถูกลิ่มตรึงไว้หลังจากได้ยินคำถาม เขาค่อย ๆ หันหน้ามาฟังผม
“อาจารย์ หลบขึ้นมาสูบบุหรี่ใช่ไหมครับ ทั้ง ๆ ที่อาจารย์สอนวิชาพละและสุขศึกษาให้เด็ก ถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะครับ ผิดกฎสถานศึกษาด้วย” ผมยิ้มอย่างมีชั้นเชิงพลางมองไปที่กระเป๋ากางเกงวอร์มข้างหนึ่งของอาจารย์ มันตุงออกมาเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณซองบุหรี่
“คุณก็ด้วยล่ะสิ! ไม่ต้องทำตัวสู่รู้!”
“เปล่าครับ ผมไม่สูบบุหรี่”
“งั้นมาทำอะไร!!”
“มารำลึกความหลัง ณ ดาดฟ้าแห่งนี้ครับ จุดที่ผมยืนอยู่ตอนนี้คือที่ ๆ ผมตัดสินใจกระโดดลงไปเมื่อห้าปีก่อน”
หลังจากพูดจบ อาจารย์ทรงเดชสะบัดแขนปล่อยมือผมราวกับเพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังจับแมลงมีพิษ
“ตอน นั้นเจ็บมากเลยนะ รู้สึกยังกับว่าร่างกายโดนฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ทั้งกรามหัก กะโหลกแตก ซี่โครงหักไม่รู้กี่ซี่ แขนขานี่บิดได้รอบเหมือนหุ่นกระบอกเลย ฮะ ๆ ๆ” .
อาจารย์มองผมราวกับเห็นตัวประหลาดอะไรสักอย่าง ทั้งตะลึง อ้ำอึ้ง ผสมขยะแขยง ส่วนผมค่อย ๆ หันหน้ามาสบตากับเขาชัด ๆ จนดวงตาสองคู่ประสานเป็นแนวเดียวกันแนบสนิท
“นึก ออกแล้ว... เธอ...เธอนั่นเอง...เด็กที่ชื่อ...” ยังไม่ทันที่อาจารย์ทรงเดชจะเอ่ยชื่อผม เขาก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมเบ็ดเสร็จ ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอรับคำสั่งต่อไป...
จุดบกพร่องของระบบการ ศึกษาไทยอย่างหนึ่งก็คือ หลายโรงเรียนมักให้อาจารย์วิชาพลศึกษาและสุขศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบสอนทั้ง สองวิชา สิ่งที่เหมาะสมคือควรจะแยกผู้สอนออกจากกันเนื่องจากธรรมชาติทั้งสองวิชาต้อง การความเชี่ยวชาญของผู้สอนต่างกันพอสมควร ผู้สอนพลศึกษาควรเน้นความถนัดในการส่งเสริมศักยภาพสมรรถภาพทางร่างกายและการ กีฬาของผู้เรียน
ส่วน ผู้สอนสุขศึกษาควรมีทักษะด้านจิตวิทยาและการสื่อสาร เนื่องจากบางหัวข้อเกี่ยวกับปัญหาสังคม ยาเสพติด และเรื่องเพศ ที่ไม่ใช่สิ่งที่พูดคุยกันได้ง่าย ๆ โง่ ๆ ดังนั้นวันนี้ผมจะขอสวมบทบาทวิทยากรบรรยายหัวข้อเพศศึกษาให้กับนักเรียนเป็น คาบพิเศษเอง เนื่องจากตาครูทรงเดชสอนวิชาสุขศึกษาไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ ดีแต่สอนให้เด็กบ้าพลังในคาบพละซะมากกว่า และตามตารางเรียนที่ผมยึดมาได้จากอาจารย์ทรงเดช คาบต่อไปเขามีสอนวิชาสุขศึกษาพอดี
“ครืด ดดดดดดดดดด!!” ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องชั้น ม.3/3 เด็กที่กำลังคุยเล่นเสียงดังเซ็งแซ่ ขว้างปาก้อนกระดาษ และพวกที่คุยโทรศัพท์ต่างก็พร้อมใจกันกลับสภาพแสดงความสำรวมภายในเวลาไม่ถึง ครึ่งนาที ไม่ใช่เพราะมารยาท แต่เพราะไม่ทราบว่าผมเป็นใครเข้ามาทำอะไรมากกว่า และทางออกซึ่งฉลาดที่สุดก็คือการเงียบเพื่อสังเกตดูท่าทีบุคคลต้องสงสัย
“สวัสดี ครับน้อง ๆ” เกิดเสียงฮือฮาขึ้นทั้ง ๆ ที่ผมกล่าวแค่คำทักทาย ถ้าคุณไม่หมั่นไส้ก็จะขออธิบายตรง ๆ ว่าคงเป็นเพราะรูปลักษณ์ผมดึงดูดความสนใจเด็กเกินเหตุกระมัง เห็นได้จากพวกผู้หญิงและนักเรียนตุ๊ดหัวร่อต่อกระซิกกันใหญ่ ซึ่งผมอยากให้สนใจเนื้อหาที่ผมกำลังจะนำเสนอมากกว่า
“พี่ ชื่อพี่เต๋อ เป็นศิษย์เก่ารั้วเดียวกัน อ.ทรงเดชให้เกียรติพี่มาเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษหัวข้อเพศศึกษาในคาบนี้ครับ อันที่จริงเราก็ถือว่าเป็นพี่น้องกันนะเพราะพี่ก็จบห้อง ม.3/3 เหมือนกัน ฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูดคุยกันแบบกันเอง สบาย ๆ นะครับ” ผมทักทายอย่างเป็นมิตรด้วยบุคลิกมาดพิธีกร ความจริงผมเปลี่ยนชื่อเล่นใหม่ตั้งแต่ผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้ว แต่ตอนนี้ผมอยากแสดงตัวตนในฐานะพี่น้องโรงเรียนเดียวกันจริง ๆ จึงอยากเรียกตัวเองว่า “เต๋อ” มากกว่า
ถือ ว่าได้แสดงความจริงใจกับน้อง ๆ พอเป็นพิธีแล้ว ขั้นต่อไปคือผมต้องสะกดจิตเด็กทั้งห้องให้อยู่ในภาวะที่พร้อมจะเปิดใจเรียน รู้สิ่งแปลกใหม่ เหมือนเรียนหมอไม่กลัวเลือด หรือเรียนชีวะไม่กลัวผ่ากบ และแน่นอนที่สุด สำหรับคาบเพศศึกษาก็คือการได้เห็นภาพเร้าความรู้สึกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ งานนี้ผมยึดครองสติสัมปชัญญะของเด็กสามในสี่ส่วน สามส่วนเพื่อให้เด็กคล้อยตามและยอมรับวิธีสอนพิสดารของผมได้ อีกหนึ่งส่วนเหลือให้เด็กยังคงความเป็นตัวของตัวเองสำหรับใช้สมองตั้งข้อซัก ถาม กล้ามีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมบรรยากาศในชั้นเรียน
“เอาละครับ จะเริ่มกันแล้วนะ ก่อนอื่นพี่อยากแจ้งให้ทราบว่ามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย”
“บอกมาได้เลยค่ะ พวกหนูฟังได้หมด” เสียงเด็กคนหนึ่งโพล่งขึ้นมาตอบรับแทนทุกคน
“ข่าวดี คือเราหาอาสาสมัครที่ยอมให้ร่างกายเป็นวิทยาทานมาได้จริง ๆ ส่วนข่าวร้ายคือที่จริงแล้วควรมีตัวอย่างครบทั้งสองเพศ แต่ได้มาคนเดียว น้อง ๆ อยากให้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายครับ” ผมผายมือเปิดโอกาสให้ร่วมลุ้น
“ผู้หญิงสิครับพี่” เสียงจากนักเรียนชายคนหนึ่ง ท่าทางหัวโจกไม่เบา
“ไม่ เอาชะนีแน่ ๆ ค่ะ” น้องนักเรียนกะเทยตอบ เรียกเสียงฮาครืนทีเดียว จะว่าไปทุกห้องทุกรุ่นมันต้องมีกะเทยอย่างน้อยหนึ่งคนจริง ๆ นะ ไม่งั้นขาดสีสัน
“ต้องผู้ชายเท่านั้นค่ะ อร๊ายยย” กลุ่มนักเรียนหญิงพูดจบก็ปรบมือเชียร์กันเองเป็นที่สนุกสนาน
“ถ้า งั้นก็ต้องดีใจกับน้องผู้หญิงด้วยนะครับ อาสาสมัครวันนี้คือผู้ชายครับ และไม่ใช่คนอื่นคนไกล ขอเชิญพบกับ อาจารย์ทรงเดช หรือ “มนุษย์กล้าม” ของพวกเราได้เลย ทุกคนปรบมือต้อนรับอาจารย์ด้วยครับ!!!”
พูด จบอาจารย์ทรงเดชก็เดินเข้ามาในห้องตามมาด้วยเสียงปรบมือต้อนรับเป็นพื้นหลัง เสียงโห่ร้องดังทั่วห้อง คงจะเซอร์ไพร์สทีเดียว เวลานี้ทุกคนอยู่ใต้อาณัติของผมแล้วจึงไม่มีความรู้สึกเกื้อเขินต่อกันในการ เปิดเผยเรื่องเพศ อาจารย์ทรงเดชยืนหลังอยู่ในท่าตามระเบียบพักขึงขัง สวมชุดเสื้อโปโลสีขาว เสื้อวอร์มสีน้ำเงินเข้าชุดกับกางเกงวอร์มสีเดียวกันคาดแถบขาวสามแถบตามแบบ ฉบับชุดพละทั่วไป สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวโทรมนิด ๆ
อาจารย์ ทรงเดชแม้จะอายุสามสิบหกแล้ว แต่ยังคงความหนุ่มไว้ได้ด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ผิวสีแทนแบบนักกีฬา หน้าคมคิ้วเข้ม ตัวสูงใหญ่ถึงร้อยแปดสิบ หน้าอกแน่นตั้งเต้าบึกบึน มีบั้นท้ายกลมใหญ่ต้นขาแข็งแรงจากการวิ่งและเตะบอลทุกเย็น ที่สำคัญเวลานุ่งกางเกงวอร์มจะรัดจนเห็นเป้าตุงออกมาเป็นก้อนไม่เกรงใจใคร หากมองจากด้านข้างจะเห็นควยเป็นทรงโค้งเลยทีเดียว แถมตูดฟิตจนดันกางเกงในเห็นเป็นรอยขอบรัดติ้วอยู่ในกางเกง
วอร์มราวกับสามารถ มองทะลุได้ ยิ่งวันนี้อาจารย์ใส่กางเกงวอร์มสีน้ำเงินสว่างยิ่งเห็นรอยกางเกงในชัดเจน ผมก็ลุ้นเหมือนกันว่าวันนี้อาจารย์ทรงเดชจะใส่สีอะไร แต่อีกเดี๋ยวคงได้รู้ไปพร้อมกับน้อง ๆ เช่นกัน เอาละ...สรุปว่าที่กล่าวมาทั้งหมดคือความเป็นพ่อพันธุ์ที่สมบูรณ์แข็งแรง มีคุณสมบัติเหมาะใช้เป็นเครื่องมือศึกษาต่อหน้าเด็ก ๆ นั่นเอง
“มีใครอยากจะช่วยพี่ ถอดเสื้อผ้าอาจารย์บ้างครับ” ผมถามหาอาสาสมัคร เกิดเสียงพึมพำในหมู่นักเรียน ผมเข้าใจดีว่าจู่ ๆ คงจะไม่มีใครกล้าเปลื้องผ้าเจ้ามนุษย์กล้ามอย่างเฉียบพลัน เพราะผมยังหลงเหลือสติให้เด็ก ๆ เสี้ยวหนึ่ง เห็นทีจะต้องละลายพฤติกรรมกันสักหน่อย
“เพื่อ ไม่ให้นักเรียนเขิน ผมขออนุญาตปิดตาปิดหูอาจารย์นะครับ” อันที่จริงผมควรบอกว่าเพื่อไม่ให้อาจารย์จดจำว่าใครทำอะไรกับตัวเองไว้บ้าง มากกว่า เอาน่ะ มันคือวาทศิลป์ อาจารย์ทรงเดชยอมให้ผมใช้ผ้าดำผูกตาและสวมหูฟังที่เปิดเพลงมั่วซั่วเพื่อ ป้องกันการได้ยิน ทุกอย่างช่างง่ายดายไม่ต่างจากเล่นกับเสือเชื่อง ๆ
“เพื่อ เป็นการยืนยันว่าอาจารย์ยินดีให้พวกเราใช้ร่างกายเพื่อการศึกษาอย่างเต็มใจ ท่านอยากให้เราพิสูจน์ด้วยการตีก้นครับ” ผมพูดโน้มน้าวให้นักเรียนสนใจและกล้ามากขึ้น “ทุกทีพวกเราถูกอาจารย์ทรงเดชตีใช่ไหมละ ไม้เรียวนี้พี่เองก็โดนมาตั้งแต่พวกน้องยังอยู่ประถมเลยมั้ง แต่วันนี้เป็นการคืนกำไรให้พวกเราทุกคน เฉพาะวันนี้วันเดียวเท่านั้น โอกาสหน้าไม่รู้จะมีอีกรึเปล่า ฉะนั้นพลาดไปเสียดายแย่เลยนะ อาจารย์เขาอุตส่าห์เปิดใจให้เราถึงขนาดนี้”
“นะ...หนู ...อยากลองดูค่ะ” ไม่น่าเชื่อว่าคนแรกที่ยกมือเป็นเด็กสาวใส่แว่นผมถักเปียท่าทางเรียบร้อย แม้จะยกเตี้ย ๆ เพราะความเหนียมอายก็ตาม
“แนะนำตัวด้วยครับ ชื่อเล่นก็พอ”
“นุ่นค่ะ”
“เก่งมากครับน้องนุ่นที่กล้ายกมือคนแรก เชิญน้องนุ่นออกมาด้านหน้ารับไม้เรียวเลยครับ”
น้องนุ่นเดินก้มหน้าออกมาด้วยความประหม่าสายตาเพื่อนร่วมห้อง เกิดเสียงฮือฮาจากเพื่อน ๆ ตลอดทางที่เธอเดินผ่าน
ผมส่งไม้เรียวให้น้องนุ่น พร้อมกับยิงคำถามสร้างสีสันเล็กน้อยเพื่อให้กลิ่นอายห้องเรียนมีความน่าสนุก
“ทำไม น้องนุ่นถึงอยากลองตีก้นมนุษย์กล้ามครับ ล้างแค้นที่เคยถูกตีรึเปล่า แต่หน้าอย่างน้องไม่น่าจะมีใครเคยตีได้นะครับ ไม่ต้องอายนะครับ บอกมาเลยตรง ๆ ”
“ไม่ ค่ะ หนูความประพฤติดีไม่เคยถูกตี แต่หนูสงสัยมานานแล้วว่า อาจารย์มีก้นกลมแน่นฟิตออกอย่างนั้น หากถูกตีเต็แรงเสียงที่กระทบจะออกมาเป็นยังไง ทุกทีเคยได้ยินแต่เสียงของเพื่อนก้นปอด ๆ แฟบ ๆ น่ะค่ะ” เด็ก ๆ ในห้องหัวเราะครืนหลังจากได้ยินคำตอบ
“เป็น คนที่ช่างตั้งข้อสังเกตดีนะครับ อนาคตอาจได้เป็นนักวิทยาศาสตร์นะทำเป็นเล่นไป ฮ่า ๆ ๆ ถ้างั้นก็...เชิญอ.ทรงเดชโก่งโค้งรอเลยครับ” ถึงจะบอกว่าผมพูด แต่ที่จริงมันก็คือการสะกดจิตผ่านคำพูดไปในตัวนั่นแหละ อาจารย์จึงยอมทำตามอย่างไร้ข้อแม้ใด ๆ ขณะนี้อาจารย์ทรงเดชอยู่ในท่าหมอบแอ่นก้นหันไปทางนักเรียน กางเกงวอร์มฟิตเปรี๊ยะช่วยเสริมให้เห็นความกลมกลึงของบั้นท้ายและรอยขอบ กางเกงในชัดเจนชวนเชิญให้ตียิ่งนัก น้องนุ่นสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เธอง้างไม้เรียวขึ้นสุดแรงไหล่ และชั่วพริบตานั้น
“ปุ!” คือเสียงที่เกิดขึ้นจากการกระทบของตูดอ.ทรงเดชและไม้เรียว อาจารย์ยังมีสีหน้าปกติ น้องนุ่นซะอีกที่เป็นฝ่ายต้องงุนงง
“ทำไมมันดังแค่นี้เองคะ หนูก็ออกแรงเต็มที่แล้วนะ ขอใหม่อีกรอบนะคะ”
“ปุ! ปุ! ปุ!” เมื่อเห็นว่ายังไงเสียงก็คงไม่มีทางดังไปมากกว่านี้ น้องนุ่นจึงถอนหายใจอย่างอ่อนแรง
“อาจ จะเป็นเพราะแรงผู้หญิง และอาจารย์เองก็มีกล้ามเนื้อแข็งแรงจากการเล่นกีฬาทุกวัน เพราะฉะนั้นพวกเราเห็นประโยชน์ของการออกกำลังกายหรือยัง คนที่แข็งแรงกว่าย่อมอดทนต่อความเจ็บปวดได้สูงกว่าคนเนื้อเหลวสุขภาพกระเสาะ กระแสะ แถมยังได้เปรียบเรื่องเสน่ห์ด้วย ดูอาจารย์สิ ก้นแบบนี้ใส่กางเกงยีนส์เท่จะตายไป เสียดายแต่งตัวไม่เป็นวัน ๆ เอาแต่นุ่งกางเกงวอร์มเหม็นเหงื่อจะตายไป” นักเรียนหัวเราะอย่างครื้นเครงพลางปรบมือชอบใจบทสรุปของผม ก็มันตรงกับความเป็นจริงนี่นา
“พี่เต๋อครับ ผมขอลองได้ไหมครับ” คราวนี้เป็นนักเรียนชายเจ้าเนื้อ หน้าตากวน ๆ
“ผมชื่อเจฟฟ์ครับ เคยถูกมนุษย์กล้ามตีจนตูดลาย วันนี้ขอเอาคืนบ้างครับ” ผมยื่นไม้เรียวให้น้องเจฟฟ์อย่างไม่รอช้า
“ปั้บ!!!” คนในห้องต่างตะลึงกับแรงเหวี่ยงไม้เรียวจากน้องเจฟฟ์ อาจารย์ทรงเดชกัดฟันสะดุ้งด้วยความเจ็บปวด ปฏิกิริยาตอบสนองดังกล่าวทำให้น้องเจฟฟ์พอใจยิ่งขึ้น
“ปั้บ!! ปั้บ!! ปั้ป!! ปั้ป!!” น้องเจฟฟ์หวดติดกันสี่ทีรวด ไม่รู้ไปเอาความแค้นมาจากไหน อาจารย์ทรงเดชแม้อดทนไว้ไม่ร้องสักแอะแต่ก็ถึงกับเสียการทรงตัวชั่วขณะ และเมื่อหยุดตีก็โก่งตูดขึ้นมาในท่าเตรียมพร้อมอีกครั้งราวกับตุ๊กตาล้มลุก
“เฮ้ยไอ้ห่าเจฟฟ์พอแล้ว กูเล่นมั่ง”
“กูด้วย ๆ ขอกูก่อน”
“ให้ผู้หญิงก่อนสิ พวกเธอไม่รู้จักคำว่าเลดี้เฟิร์สรึไง”
เมื่อ มีแนวหน้ากล้าประเดิมและผลลัพธ์น่าดึงดูดใจ ก็ไม่แปลกที่จะมีคนทยอยกันขอเล่นซาดิสต์กับตูดอาจารย์ทรงเดชถึงครึ่งค่อน ห้อง จนกระทั่งผมต้องให้ต่อคิวและจำกัดสิทธิ์ให้ตีได้คนละไม่เกินสองครั้งเท่า นั้น น่าเสียดายที่เกมอันแสนสนุกต้องจบกลางคันเพราะมีนักเรียนชายคนหนึ่งหวดสุด แรงจนไม้เรียวหักสองท่อน พวกเข้าแถวคิวท้าย ๆ จึงต้องผิดหวังกันไปตาม ๆ กัน ซึ่งผมก็ปลอบใจว่ายังมีเกมอื่นอีกไม่ต้องเสียใจไป ส่วนอาจารย์ทรงเดชถึงกับกุมตูดระงับระบมกันเลย น่าชื่นชมที่อาจารย์ไม่ส่งเสียงร้องหรือโอดครวญแม้แต่น้อยตั้งแต่ต้นจนจบเกม ช่างมีสปิริตสมกับที่เป็นครูพละ
ช่วงต่อไปผมสอนเรื่อง เพศสัมพันธ์ เนื่องจากบางครั้งต้องใช้อุปกรณ์กับเหยื่อผมจึงมีเซ็กส์ทอยส์ติดไว้ในรถ ซึ่งผมก็ลงไปที่รถนำขึ้นมาเตรียมไว้บางส่วน สำหรับการบรรยายเนื้อหาได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปคือขั้นสาธิต ซึ่งอาจารย์ทรงเดชของเราก็พร้อมแล้วในท่ายืนตรงตามระเบียบพัก
“คราวนี้ขออาสาสมัครใจกล้าจริง ๆ มาช่วยถอดเสื้ออ.ทรงเดชหนึ่งคนครับ”
“หนูเองค่ะพี่เต๋อ!” นักเรียนตุ๊ดคนหนึ่งลุกพรวดขึ้นมาราวกับกลัวใครจะแย่งสิทธิ์นี้ไป
นัก เรียนตุ๊ดคนนี้ชื่อน้องจีน่า จากการใช้โทรจิตอ่านใจผมพบว่าน้องจีน่าหัวใจเต้นรัว เธอแอบหลงเสน่ห์สมชายชาตรีของอาจารย์มานานแล้ว จึงไม่พลาดโอกาสทองในการเข้าถึงเนื้อถึงตัวระดับนี้ จีน่าค่อย ๆ เปลื้องผ้าอาจารย์ทรงเดชอย่างมีศิลปะ
เริ่มด้วยถอดเสื้อวอร์มเป็นอันดับแรก บีบนวดไหล่และกล้ามแขนอาจารย์สร้างความผ่อนคลาย จากนั้นจึงถอดเสื้อโปโลออกอีกชั้น ลูบไล้หน้าอกแข็งแกร่งดุจหินผาและหัวนมสีน้ำตาลเต่ง ไล่ไปถึงหน้าท้องซิกส์แพ็คที่หดเกร็งเป็นระลอกจากการวาดมืออันแสนนุ่มนวลชวน สยิวของจีน่า อาจารย์ถึงกับครางในลำคอ
ต่อ มาจีน่าก้มตัวลงใช้ปากและลิ้นคลายปมเชือกกางเกงวอร์มออก ทำเอาทุกคนร้องอย่างหวาดเสียวรวมถึงผมเช่นกันเพราะตั้งใจว่าจะต้องไม่มีการ ร่วมเพศด้วยอวัยวะใด ๆ ระหว่างมนุษย์กล้ามกับลูกศิษย์เกิดขึ้นในห้องเรียนนี้เด็ดขาด แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเพียงลีลาเฉพาะบุคคลจึงปล่อยให้ทำต่อไป เธอรูดกางเกงวอร์มจากขอบเอวลงมากองถึงข้อเท้าอย่างช้า ๆ และจีน่าต้องถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบกับสีแดงแสบเต็มตา
ใช่ แล้ว วันนี้อาจารย์ทรงเดชนุ่งกางเกงในรอสโซ่สีแดงสด คงซื้อจากตลาดนัดตามสไตล์ผู้ชายไทยบ้านแมน ๆ แถมกางเกงในยังรัดฟิตแน่นเต็มน่องเต็มตูด และที่สำคัญทั้งควยและถุงไข่นั้นช่างใหญ่และตุงคับแน่น จนกางเกงในซึ่งมีหน้าที่พยุงกระโปกแทบเอาไม่อยู่ พาลให้คิดว่าที่อยู่ตรงหน้าคือควยวัวควยม้าเสียนี่กระไร ระหว่างที่พวกเรามัวตกตะลึงกับสัดส่วนและเครื่องเพศระดับพ่อพันธุ์ชั้นดีของ อาจารย์ทรงเดช จีน่าก็เกิดอาการตัวสั่น ปากสั่น ควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนทรงเจ้า
“พี่ เต๋อคะ! หนูทนไม่ไหวแล้ว ขอให้หนูได้อมควยอาจารย์นะคะ แค่ครั้งเดียวในชีวิตจริง ๆ ” จีน่ามือไวมาก ผมยังไม่ทันอนุญาตก็รูดกางเกงในอาจารย์ลงมาเสียแล้ว อย่างไรก็ตามจิตผมไวกว่าจีน่าหลายเท่าตัวนัก ผมทำให้เธอชะงักงันก่อนที่ปากจะครอบควยอาจารย์ทรงเดชได้ทัน อย่างที่บอกไว้ว่าคาบนี้จะไม่มีการร่วมเพศโชว์ระหว่างครูกับศิษย์เด็ดขาด มันเสี่ยงเกินไปสำหรับคนกลุ่มนี้ที่ยังต้องเห็นหน้ากันอยู่ทุกวัน ที่สำคัญผมเกรงว่าอาจเกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบกับผมในภายหลังได้
“พี่เต๋อเห็นใจหนูด้วย!! หนูอยากอมควย อยากกินน้ำควยอาจารย์ทรงเดชจริง ๆ เค้ามีลูกเมียแล้วก็ไม่เป็นไร ให้หนูเป็นเมียเก็บเขาก็ยอม!! ได้โปรด!!!” จีน่าแหกปากกรีดร้องคลุ้มคลั่ง พยายามฝืนอำนาจจิตจากผมเพื่อเข้าถึงตัวมนุษย์กล้ามให้ได้ ให้ตายเถอะ แรงกะเทยควายนี่มีพลังสูงกว่าค่าเฉลี่ยคนทั่วไปจริง ๆ นอกจากด้านพละกำลังแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะรวมถึงแรงต่อต้านการสะกดจิตด้วย เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนปริมาณยาสลบที่เอาไว้ใช้กับช้างนั่นแหละ ผมเกรงว่าพฤติกรรมของจีน่าจะรบกวนการเรียนการสอนมากไปกว่านี้ จึงขอให้นักเรียนชายสี่คนช่วยกันหิ้วปีกพาตัวเธอออกไปสงบสติอารมณ์นอกห้อง เรียน
เหตุการณ์ วุ่นวายเมื่อครู่นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผมสั่งให้เป็นเช่นนั้น เด็ก ๆ มีความคิดพวกนี้อยู่ก่อนหน้าที่จะพบผมเสียอีก พวกเขาซ่อนด้านมืดอยู่ในระดับจิตใต้สำนึก หรือจิตไร้สำนึกด้วยซ้ำ เพียงแต่การสะกดจิตของผมครั้งนี้เป็นเครื่องกระตุ้นให้เขาสามารถแสดงออกได้ ง่ายขึ้น นี่เป็นผลจากการครอบงำจิตไม่เต็มร้อย ยังเหลือเศษเสี้ยวเจ้าของตัวตนให้คิดเองตัดสินใจเองได้ ผมคงต้องระวังมากขึ้นหากเลือกใช้การสะกดจิตระดับนี้อีกในครั้งต่อ ๆ ไป โดยเฉพาะกับกะเทยควาย
เอาละเข้าสู่บทเรียนต่อ
เวลา นี้อาจารย์ทรงเดชอยู่ในสภาพยืนกางขาเปลือยกายล่อนจ้อนโชว์เครื่องเพศพวงโต และป่าหมอยรกดกดำ ผมได้สาธิตขั้นตอนการมีเพศสัมพันธ์ของหญิงชายโดยใส่ถุงมือยางตลอดการสาธิต ก่อนอื่นผมถอกหนังหุ้มปลายอาจารย์ทรงเดชปลิ้นหัวควยออกมาให้เห็นกันชัด ๆ และแนะนำให้นักเรียนชายจำไว้ปฏิบัติตามสำหรับล้างคราบขี้เปียกเพื่อ สุขอนามัยของคู่รัก จากนั้นจึงจับควยอาจารย์ชักขึ้นลงจนแข็งตัวเต็มที่จนมีน้ำหล่อลื่นใส ๆ เยิ้มออกจากรูเยี่ยว ผมบอกประโยชน์ของน้ำหล่อลื่นขณะร่วมเพศ และอนุญาตให้นักเรียนที่สนใจเข้ามาดูใกล้ ๆ
นัก เรียนหญิงหลายคนถึงกับอ้าปากด้วยความตื่นตาตื่นใจ แม้ลำควยอาจารย์ค่อนข้างคล้ำแต่ด้วยความที่หัวควยยังเป็นสีชมพูระเรื่อแสดง ถึงระบบไหลเวียนเลือดที่ดี และความใหญ่โตโอฬารขนาดใช้สองมือกำท่อนยังไม่มิดทำให้เรื่องควยคล้ำไม่ถูก หักคะแนนความน่าสนใจมากนัก นักเรียนชายบางคนล้วงกระเป๋าแอบจับควยตัวเอง คงจะเพื่อเปรียบเทียบกับขนาดของอาจารย์กระมัง
สำหรับ หัวข้อการมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ ผมสอนให้เด็กผู้ชายสวมถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี โดยใช้ควยอาจารย์ทรงเดชอีกนั่นแหละ ทั้งสอนการเลือกขนาดถุงยาง การรีดลม การสวมถุง ข้อห้ามต่าง ๆ ตามติดด้วย เซอร์ไพร์สอีกชิ้น นั่นคือ “จิ๋มกระป๋อง” ใช้สำหรับสาธิตการสอดใส่และการหลั่งน้ำอสุจิ ซึ่งก็เรียกความสนใจได้มากโขโดยเฉพาะกับเด็กผู้ชาย
เนื่อง จากมีเวลาจำกัดผมจึงต้องใส่เจลหล่อลื่นมากเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้อาจารย์ถึง สวรรค์เร็วยิ่งขึ้น อาจารย์เย็ดจิ๋มกระป๋องประมาณแปดนาทีก็ใกล้จะน้ำแตก โดยผมตกลงกับอาจารย์ก่อนว่าถ้าใกล้จะเสร็จให้ส่งสัญญาณบอก ผมอยากให้เด็ก ๆ เห็นประโยชน์จากการใช้ถุงยางแบบจะ ๆ คาตา
“อูย...ใกล้แล้ว” อาจารย์ทรงเดชส่งสัญญาณเตือนแหงนหน้าหลับตาพริ้มด้วยความเสียวสุดขีด
“โอ เคครับ น้อง ๆ ครับ ดูนี่ให้ดีนะครับ” ผมกระชากจิ๋มกระป๋องออกจากลำควยอาจารย์ จังหวะนั้นอาจารย์ก็หลั่งน้ำอสุจิเข้มข้นแตกคาถุงยางต่อหน้านักเรียนที่ล้อม วงสังเกตอย่างพอดิบพอดี ผมชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการใช้ถุงยางที่นอกจากป้องกันโรคได้แล้วยังกัน “พลาด” ตั้งครรภ์ในวัยเรียนอีกด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็คงไม่พิสมัย
ตบท้ายด้วยการสาธิตวิธีดึงถุงยางออกจากลำควยอย่างถูกต้อง และการมัดปากถุงเก็บให้เรียบร้อย น่าสงสัยว่าเหตุใดน้ำอสุจิจากครูพละพ่อพันธุ์อย่างอาจารย์ทรงเดชถึงได้มี ปริมาณล้นหลามข้นคลั่กเช่นนั้น ต่อจากนั้นผมใช้น้ำอุ่นเช็ดควยทำความสะอาดให้อาจารย์ ก่อนเข้าสู่ช่วงให้ซักถามและกิจกรรมปิดท้าย
ช่วงเปิดโอกาสให้ซัก ถามได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี น้อง ๆ กล้าถามสิ่งที่ไม่สามารถพูดได้นอกคาบนี้ ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์กับพวกเขาเองทั้งสิ้น อาทิ การโกนหมอยกับปล่อยไว้อย่างไหนจะดีกว่ากัน อัณฑะสองข้างไม่เท่ากันเป็นความผิดปกติหรือไม่ แม้ผมไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้ามาโดยเฉพาะแต่ก็พอจะตอบได้จากการได้ยินได้เห็น ผ่านโทรทัศน์และเว็บไซต์ความรู้ต่าง ๆ มาพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีคำถามที่สร้างความลำบากใจให้วิทยากรโผล่มาจนได้
“พี่ เต๋อครับ ผมอยากรู้ว่าพวกเกย์ที่เขาเอากันทางประตูหลังเนี่ย มันทำได้จริง ๆ เหรอครับ รูก้นคนเราเล็กนิดเดียวเองนะ” น้องนักเรียนชายชื่อต๊ะถามขึ้นมา ท่ามกลางเสียงแซวของเพื่อนชายด้วยกันทำนองว่าเอ็งจะรู้ไปทำไม
ผม อ่านใจน้องต๊ะดูจึงทราบว่า แท้ที่จริงน้องต๊ะเป็นเกย์ไม่แสดงออกแอบอยู่ในกลุ่มเพื่อนชายแท้ และตั้งใจยอมเสียประตูหลังให้แฟนที่แอบคบกันชื่อเอฟเป็นของขวัญวันเกิดเจ้า ตัว ก็อยู่กลุ่มเดียวกันอีกนี่แหละแต่เพื่อนไม่รู้เพราะไม่มีใครดูสองคนนี้ออก เลย
“คนไหนชื่อเอฟครับ?” ไม่แน่ใจว่าถามไปแบบนี้จะมีพิรุธหรือเปล่า
แต่เอาเถอะ ความคิดในหัวผมไม่ใช่สิ่งที่จะตามทันกันได้ง่าย ๆ หรอกนะหากอีกฝ่ายยังเป็นมนุษย์ปกติ
“ผมครับ?” เด็กหลังห้องคนหนึ่งเงยหน้าขานรับ
“อ๋อ ไม่มีอะไรครับ ต่อกันดีกว่า” แค่ถามเพราะอยากดูหน้าคนเป็นคิง
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นนักเรียนที่ดูกุ๊ย หน้าตาเถื่อน แต่งตัวนักเลงที่สุดในห้อง ความจริงมันวัดจากที่ตาเห็นไม่ได้เสมอไปแฮะ
“เอา อย่างนี้ดีไหมครับ พี่จะสาธิตกับอาจารย์ทรงเดชให้ดูแทนคำตอบเลยแล้วกัน” นักเรียนทั้งห้องโห่ร้องผิวปากปรบมือเกรียวกราว ให้มันได้อย่างนี้สิเด็กพวกนี้
ผม สวมถุงมือคู่ใหม่และสั่งให้อาจารย์ทรงเดชโก่งโค้งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แอ่นตูดให้โด่งสูงขึ้นมาหน่อยเนื่องจากการสาธิตครั้งนี้เราจะให้ ความสำคัญกับรูตูด ไม่ใช่แก้มก้นอย่างที่แล้วมา ร่องรอยแดงช้ำจากการถูกรุมฟาดตูดยังคงเห็นชัด ทำเอาผมเกือบกลั้นหัวเราะไม่อยู่
“อุปกรณ์ที่จะใช้คืออวัยวะเพศชายเทียม หรือดิลโด้นั่นเอง” เมื่อผมควักมันออกมาจากกระเป๋า กลุ่มนักเรียนหญิงถึงกับส่งเสียงวี้ดว้าย
ขั้น แรกผมใช้มือแหวกแก้มก้นอันบีบชิดของอาจารย์ให้แยกออกจากกันเพื่อให้เห็นรู ตูดอย่างชัดเจน น่าประหลาดใจที่แม้อาจารย์ทรงเดชจะมีผิวสีแทนเพราะออกแดดประจำ แต่รูตูดกลับมีสีชมพูระเรื่อ แซมด้วยไรขนเล็กน้อยแต่พองาม และเมื่อแก้มก้นได้ถูกอ้าออกจนเห็นจีบรูตูดเต็มตา สิ่งที่ตามมาก็คือกลิ่นฟีโรโมนจากถ้ำลับของอาจารย์โชยออกมาจาง ๆ เป็นกลิ่นอับผสมกลิ่นตัวผู้ชายตามธรรมชาติ อาจเป็นเพราะอาจารย์สอนวิชาพละเมื่อเช้าจึงได้ออกเหงื่อไปแล้วไม่มากก็น้อย กระแสจิตผมจับความรู้สึกได้ว่ามีคนในห้องเกิดอารมณ์เตลิดทันทีเมื่อได้กลิ่น นี้ จะใครที่ไหนก็เจ้าเด็กชื่อเอฟนั่นแหละ ควยขึ้นลำพาดไปกับกางเกงน้ำเงินเชียว คงอยากเสียบแทบขาดใจ หมอนี่ท่าทางจะล่าแต่ตูดชายแท้หรือไม่ก็เกย์ไบแมน ๆ ด้วยกัน
ขั้น ต่อมาผมใช้ดิลโด้เสียบสดอาจารย์ทรงเดช เมื่อเข้าไปได้ประมาณหนึ่งในสี่ อาจารย์ก็แสดงอาการเจ็บปวดทรมานผ่านสีหน้า ผมจึงถอนดิลโด้ออกและใช้นิ้วชี้สอดใส่เข้าในรูทวารแทน ถือโอกาสนี้สอนให้น้อง ๆ รู้จักการเล้าโลมหรือฟอร์เพลย์ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญระหว่างการมีเพศสัมพันธ์แม้ จะเป็นเพศเดียวกันก็ตาม มันจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและสร้างอารมณ์ร่วมทีละน้อยก่อนรับมือศึกใหญ่ ผมเร่งความเร็วนิ้วชี้เพิ่มพูนอารมณ์เงี่ยนให้อาจารย์ทรงเดช จนควยแกที่เพิ่งหลั่งน้ำไปหมาด ๆ เริ่มแข็งตัวอีกรอบ มันค่อย ๆ กระดกตัวขึ้นทีละนิด
เพื่อความรวดเร็ว ผมใส่เจลหล่อลื่นและเพิ่มจำนวนนิ้วทีละนิ้วจนถึงสามนิ้ว และคิดว่าลำไส้อาจารย์ทรงเดชคงขยายตัวมากพอที่จะรับดิลโด้อีกครั้ง คราวนี้ผมทาเจลหล่อลื่นเคลือบทั้งดิลโด้และคว้านทาทั่วภายในช่องทวารของ อาจารย์ จากนั้นจึงค่อย ๆ กดดิลโด้ลงไป ท่ามกลางกลุ่มนักเรียนที่มีอาการลุ้นจนตัวโก่ง
“เฮ้ย! เข้าไปมิดเลยพวกมึงดูดิ่ ๆ”
“โหย ของใหญ่ยาวขนาดนั้นยังเข้าไปหมด ร่างกายมนุษย์นี่เหลือเชื่อจริง ๆ ว่ะ”
“เหี้ยเอ้ย น่ากลัวฉิบ”
ช่าง น่าแปลกนัก แม้คำพูดการแสดงออกจากนักเรียนชายแท้ส่วนใหญ่จะส่อในทางหวาดกลัว ขยะแขยง แต่ผมกลับอ่านความรู้สึกได้ว่า มีชายแท้ในห้องราวร้อยละสามสิบ ที่ลึก ๆ แล้วแอบสนใจการสอดใส่ทางทวารหนักระหว่างผู้ชายด้วยกันแต่ไม่กล้าเปิดเผยให้ ผู้อื่นรู้ เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะอยากลองเย็ดรูตูดผู้ชายด้วยกันสักครั้งหากมีโอกาส แต่แน่นอน นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะติดใจหรือกลายเป็นเกย์
ผม เร่งจังหวะดิลโด้แทนสถานการณ์เย็ดจริงเพื่อแสดงให้ทุกคนโดยเฉพาะน้องต๊ะเข้า ใจว่าการเย็ดตูดผู้ชายด้วยกันเป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริง แต่ควรทำอย่างถูกต้องปลอดภัย รูตูดอาจารย์ทรงเดชถูกทะลวงด้วยดิลโด้อย่างล้ำลึก ความเสียวซาบซ่านแพร่กระจายไปถึงต่อมลูกหมากจนควยแข็งเต็มที่อีกครั้ง ช่างได้จังหวะเหมาะกับช่วงกิจกรรมปิดท้ายพอดีเลย ดีแล้วที่อาจารย์ควยโด่ได้อีก ไม่งั้นผมคงไม่มีเกมสนุกให้เด็กเล่น
ผม หยุดการใช้ดิลโด้กลางคัน ถอนออกจากรูตูดอาจารย์ดังพล๊อบ พร้อมกับเชิญนักเรียนกลับไปนั่งที่เตรียมเข้าสู่ช่วงสุดท้าย กระนั้นเองนักเรียนบางคนก็ยังแอบเหลียวหลังมองรูตูดกลวงโบ๋ของอาจารย์ทรงเดช อย่างอาลัยอาวรณ์ รูตูดอาจารย์ที่ขยายตัวเต็มที่จนมีสีชมพูแดงเย้ายวนเกย์คิง มันค่อย ๆ ปิดตัวลงหลังจากที่ได้ถอนดิลโด้ออกไปแล้ว
สำหรับกิจกรรมในช่วง สุดท้ายคือ การเล่นเกมชิงของรางวัล นักเรียนในห้องมีประมาณสี่สิบคน ผมให้เขาแบ่งทีมกลุ่มละห้าคน มีทั้งหมดแปดกลุ่ม กติกาของเกมคือ ให้แข่งกันว่าทีมไหนจะช่วยทำให้มนุษย์กล้ามถึงสวรรค์อีกรอบ แน่นอน กับคนที่เพิ่งหลั่งไปแล้วหนึ่งรอบย่อมมีความอึดมากขึ้น เพื่อความยุติธรรม ผมให้จับฉลากเรียงลำดับก่อนหลัง แต่ละกลุ่มมีเวลาเพียงสามนาทีที่จะกระตุ้นให้อาจารย์สำเร็จความใคร่ เมื่อหมดเวลาก็จะเวียนไปยังกลุ่มต่อไปตามลำดับ หากครบทุกกลุ่มแล้วอาจารย์ยังไม่น้ำแตกก็จะวนกลับมายังกลุ่มแรกใหม่
จะ กระตุ้นด้วยวิธีใดก็ได้แต่มีข้อแม้คือห้ามใช้ปาก อวัยวะเพศและทวารหนักของผู้แข่งขันสร้างความเสียว ถ้าใครจะใช้มือสัมผัสควยอาจารย์ต้องสวมถุงมือยางด้วย ส่วนของรางวัลคือ ให้หยิบของที่วางอยู่หน้าห้องชิ้นใดก็ได้หนึ่งชิ้นติดมือกลับบ้านไป มีให้เลือกทั้งดิลโด้ จิ๋มกระป๋อง ถุงยางแพ็คโหล เจลหล่อลื่น ดีวีดีหนังโป๊ ฯลฯ ซึ่งพวกเด็กผู้ชายจะเล็งจิ๋มกระป๋องเป็นพิเศษ
และ ขณะนี้อาจารย์ทรงเดชของเราก็พร้อมแล้ว เขายังยืนตรงอกผายไหล่ผึ่งและถูกคาดตาใส่หูฟังปิดกั้นการรับรู้จากภายนอก แต่หนสุดท้ายนี้เพิ่มพันธนาการอีกอย่างหนึ่งคือต้องถูกมัดมือไพล่หลังด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าความเสียวทั้งหมดเกิดขึ้นจากฝีมือผู้เข้าแข่งขันล้วน ๆ
เริ่ม ต้นด้วยกลุ่มหนึ่ง ใช้เพียงเจลหล่อลื่นพลัดกันว่าวให้อาจารย์เท่านั้น คนไหนเริ่มเมื่อยก็เปลี่ยนมือ คนที่ว่างก็ช่วยยืนดูให้กำลังใจ กลุ่มแรกย่อมเสียเปรียบเพราะคนแข็งแรงอย่างอาจารย์ทรงเดชคงไม่เสียน้ำสองใน เวลาอันสั้น เวลาหมดครบสามนาที
กลุ่ม ที่สองเริ่มมีลูกเล่นเล็กน้อย ใช้จิ๋มกระป๋องช่วยชักให้อาจารย์ แต่ดูเหมือนจะลำบากกว่าชักว่าวซะอีก เพื่อนก็ดูไม่ค่อยช่วยกันเท่าไหร่ เหมือนจะให้หัวหน้ากลุ่มทำอยู่คนเดียว เวลาหมดครบสามนาที
กลุ่ม ที่สามน่าสนใจ รู้จักทำงานเป็นทีม คนที่หนึ่งช่วยชักว่าว คนที่สองลูบไล้ถุงไข่เสริมความเสียว คนที่สามใช้มือลูบไล้ตามหน้าท้องซิกซ์แพ็ค ไล่ไปจนถึงต้นคอ คนที่สี่และห้าช่วยกันบี้หัวนมคนละข้างอย่างเมามันส์ แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ เวลาหมดครบสามนาที
กลุ่ม ที่สี่เริ่มเอาบ้าง ประสานงานเป็นทีมเช่นกัน ลอกรูปแบบหน้าที่แต่ละคนมาจากกลุ่มที่สามอย่างหน้าด้าน ๆ แต่เพิ่มลูกเล่นคือราดเจลหล่อลื่นทั่วตัวอาจารย์ทรงเดช จนอาจารย์เนื้อตัวมันเลื่อม กล้ามเนื้อเป็นประกายแวววาวราวกับนักกล้ามมืออาชีพ เป็นภาพที่สวยงามมาก ว่าแต่ไอ้เด็กกลุ่มนี้มันจะทำไปทำไม สิ้นเปลืองชะมัด น่าจะใช้หัวคิดให้มากกว่านี้สักหน่อย เวลาหมดครบสามนาที
กลุ่ม ที่ห้าเป็นกลุ่มชายล้วน ออกแนวเฮ้ว ๆ น้องต๊ะกับน้องเอฟก็อยู่กลุ่มนี้ แก๊งค์นี้ค่อนข้างฮาร์ดคอร์ ไม่ชอบทำตามใคร ปฏิเสธการเลียนแบบวิธีของกลุ่มที่แล้ว ๆ มา เขาขอให้อาจารย์ทรงเดชคลานโก่งโค้งแล้วเอาดิลโด้เคลือบเจลยัดเข้าไปอย่างไม่ ปรานีปราศัย น้อง
เอฟคือเจ้าของไอเดียและมือทะลวงไม้แรก มีมือสองและมือสามยืนสำรอง เปลี่ยนคนทุกนาทีเพื่อให้แรงมือไม่ตก ส่วนน้องต๊ะกับเพื่อนอีกคนพลัดกันชักว่าวให้อาจารย์ พออาจารย์อยู่ในท่าคลานแล้วช่างดูเหมือนเป็นการรีดน้ำเชื้อโคพ่อพันธุ์กัน เลยทีเดียว อาจารย์ครางเสียงดังกว่ากลุ่มที่ผ่าน ๆ มาอย่างเห็นได้ชัด
มือ ซอยดิลโด้ไม้สามซึ่งเป็นไม้ของนาทีสุดท้ายลงทุนถึงขั้นพับแขนเสื้อนักเรียน ขึ้น เพื่อให้แขนออกแรงได้เต็มเหนี่ยวเพราะต้องแข่งกับเวลา อาจารย์ทรงเดชที่กำลังโก่งโค้งโดนทะลวงตูดต่อเนื่องถึงกับกัดฟันกรอด ๆ ใบหน้าแดงก่ำ ครางดังขึ้นเรื่อย ๆ เสียงดุดันเหมือนสัตว์ป่าจนนักเรียนหญิงบางคนเริ่มกลัว แต่พวกผู้ชายลิงทะโมนนอกจากไม่มีความกลัวแล้วยังพากันส่งเสียงเชียร์จนเฮ ลั่นห้อง ต้องยอมรับว่ากลุ่มน้องต๊ะน้องเอฟทำได้ดีมาก แม้แต่เพื่อนกลุ่มอื่น ๆ ยังช่วยลุ้นตัวโก่งจนลืมไปเลยว่าเป็นคู่แข่งกัน อย่างไรก็ตามน่าเสียดายมาก ๆ อาจารย์ส่งสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้วแท้ ๆ แต่เวลาดันหมดครบสามนาทีพอดี ในฐานะกรรมการผมต้องตัดสินอย่างเป็นธรรมแม้ในใจนึกชอบวิธีคิดกับสไตล์การ ประสานงานของน้องกลุ่มนี้เป็นพิเศษก็ตาม
กลุ่ม ที่หกดูด้อยไปเล็กน้อยหลังจากคนดูเทใจให้กลุ่มห้าไปเกือบหมด กลุ่มนี้แย่งไอเดียที่ทำค้างไว้ต่อจากกลุ่มห้านั่นคือให้อาจารย์คลานโก่งก้น เอาดิลโด้ซอยตูดแล้วชักว่าวไปพร้อมกัน คงเห็นว่าเป็นวิธีที่ดูแล้วได้ผลที่สุดกระมังเพราะทำให้อาจารย์ทรงเดชเกือบ เสร็จ แต่ก็อีกนั่นแหละ เพราะทิ้งช่วงกันขณะเปลี่ยนกลุ่ม ทำให้อารมณ์ใกล้น้ำแตกขาดความต่อเนื่อง กลุ่มนี้จึงไม่ประสบความสำเร็จ เวลาหมดครบสามนาทีเช่นเคย
กลุ่ม ที่เจ็ดเป็นกลุ่มหญิงล้วน มีน้องนุ่น สาวแว่นผู้ประเดิมตีก้นอาจารย์เป็นคนแรกร่วมอยู่ด้วย กลุ่มนี้ต้องเป็นนักเรียนเก็บกดแน่ ๆ แต่ละคนหน้าตาทรงผมเรียบร้อย เครื่องแบบตรงตามระเบียบโรงเรียน เกรดเฉลี่ยคงสามปลาย ๆ แต่พฤติกรรมที่แสดงออก ณ เวลานี้กลับตรงกันข้าม น้องนุ่นซึ่งดูเหมือนเป็นผู้นำความคิดของกลุ่มเสนอไอเดียที่ผมคิดไม่ถึง เธอประยุกต์ใช้วิธีของทุกกลุ่มที่ผ่านมา ปรับท่าให้อาจารย์ทรงเดชอยู่ในท่ายืนสบาย ๆ ให้คนที่หนึ่งใช้ดิลโด้เป็นเครื่องมือซอยตูด คนที่สองใช้จิ๋มกระป๋องใส่เจลเยอะ ๆ รูดควยอาจารย์ คนที่สามใช้มือบี้หัวนมทั้งสองข้าง คนที่สี่ลูบไล้เรือนร่างอันแข็งแกร่งของอาจารย์ผ่านกล้ามท้อง หน้าอก ต้นคอและแผ่นหลัง
ส่วน น้องนุ่นสาวแว่นหัวหน้าทีมตัดสินใจทำเรื่องนอกเหนือความคาดหมาย เธอนำโต๊ะเก้าอี้มาต่อกันเพื่อให้ปีนให้ถึงระดับสายตาอาจารย์ซึ่งค่อนข้าง ตัวสูงใหญ่ แล้วเลิกเสื้อนักเรียนและยกทรงออก ใช้สองเต้าคลึงหน้าอาจารย์อย่างเมามันโดยหันหลังให้กับเพื่อนร่วมชั้น จะว่าผิดกติกาก็ไม่ได้เพราะผมลืมนึกถึงการใช้หน้าอกเพศหญิงตั้งแต่แรก ผมได้ยินเสียงจ๊วบ ๆ อาจารย์ทรงเดชคงใช้โอกาสนี้ดูดนมสาววัยขบเผาะจนสมใจ ผ่านไปราวสองนาทีครึ่ง อาจารย์ส่งสัญญาณว่าใกล้จะน้ำแตกอีกแล้ว
น้อง นุ่นออกคำสั่งให้คนที่ใช้จิ๋มกระป๋องถอนเครื่องมือออก เพื่อให้ทุกคนได้เห็นอาจารย์น้ำแตกด้วยตาตนเองเป็นสักขีพยานชัยชนะ และทันใดนั้น
“อ่า ห์!! อ่าห์!! อ่าห์ !!” ร่างกายอาจารย์ทรงเดชกระตุกเกร็ง นักเรียนหญิงคนหนึ่งอ้าปาก
เหวอเมื่อเห็นเส้นเลือดปูดโปนตามลำควยอาจารย์ขยาย ตัวอย่างน่ากลัวราวกับกลไกลูกสูบ ไม่ถึงเสียววินาทีกระสุนหัวเชื้อเข้มข้นจากพ่อพันธุ์ชั้นดีก็ฉีดพุ่งตรงไป ยังข้างหน้าถึงเจ็ดครั้งติด ๆ กัน แม้จะแตกรอบสองแต่ความแรงและปริมาณไม่ได้ด้อยไปกว่าครั้งแรกเลย นักเรียนชายท่าทางเนิร์ดคนหนึ่งหลบตัวไม่ทันจึงโดนน้ำเชื้อยิงแหมะเข้า กลางกรอบแว่นข้างหนึ่ง ทำเอาเพื่อนที่เห็นถึงกับขำก๊ากเป็นโจ๊กปิดท้ายรายการ
น่า เห็นใจกลุ่มที่แปดซึ่งพลาดโอกาสแสดงฝีมือ อย่างไรก็ตามผู้ชนะของเราในวันนี้ได้แก่ กลุ่มเจ็ด ทีมสาวน้อยเรียบร้อย โดยมีน้องนุ่นเป็นตัวแทนกลุ่มขึ้นมารับของรางวัล น้องนุ่นเลือกสิ่งที่ผมต้องคาดไม่ถึงอีกเช่นกัน
“ถ้า ให้เลือกรางวัลอะไรก็ได้ที่เป็นของกองอยู่หน้าห้อง ก็ขอกางเกงในอาจารย์ทรงเดชกลับไปเป็นที่ระลึกนะคะ” น้องนุ่นถอดแว่น คลายเปียปล่อยผมสยายพลิ้วพร้อมประกาศชัยชนะอย่างภาคภูมิ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของเพื่อนหญิงด้วยกันที่ช็อคกับของที่เธอเลือก ไม่น่าเชื่อสายตาว่าคนอย่างเธอจะกล้าขอกางเกงในใช้แล้วของผู้ชายเป็นรางวัล ไม่รู้เธอจะแรงไปได้อีกถึงไหนกัน
ผม ต้องให้ตามสัญญาแม้มันจะออกแปลก ๆ ไปบ้างก็ตาม น้องนุ่นโบกมือตอบรับเสียงเฮสนั่นจากเพื่อนร่วมห้องตลอดระยะทางเดินมารับของ รางวัล และใช้นิ้วควงรอสโซ่สีแดงสดกลับที่นั่งอย่างสบายอารมณ์ ส่วนจีน่าผมมอบถุงยางมัดปากที่อาจารย์ทรงเดชหลั่งน้ำรักไว้ครั้งแรกให้เป็น รางวัลปลอบใจในฐานะแฟนคลับผู้คลั่งไคล้มนุษย์กล้าม เธอรีบขอตัวเข้าห้องน้ำทันทีที่ได้รับ ไม่ต้องใช้ตาทิพย์ตามไปดูก็รู้ว่าคงเกลี้ยงทุกหยาดหยด
เนื่องจากวันนี้ที่ผม มาเป็นวิทยากรก็ด้วยเหตุผลกะทันหัน คือถูกเจ้ามนุษย์กล้ามกวนโทสะจึงทำให้เกิดคาบเรียนพิเศษนี้ขึ้นมา รูปแบบเนื้อหากิจกรรมก็คิดขึ้นเองสด ๆ ไม่ได้เตรียมส่วนพิธีรีตองไว้มากนัก การอำลาจึงเรียบง่าย เด็ก ๆ ให้หัวหน้าห้องกล่าวขอบคุณผม หลายคนขอเบอร์โทรและอีเมล์ผม น้อง ๆ คงประทับใจ แต่น่าเศร้าที่ผมไม่สามารถให้พวกเขาได้ ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่สามารถรู้จักกันไปได้มากกว่านี้ อีกเดี๋ยวผมจะต้องลบความทรงจำตัวตนทั้งชื่อ หน้า และการปรากฏตัวในวันนี้ของผมออกจากหัวของทุกคนรวมถึงอาจารย์ทรงเดช
ทุก คนจะจำได้เพียงคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นเรื่องกึ่งความฝันและความจริง เขาจะจำได้ว่ามีพี่ชายคนหนึ่งเคยมาสอนเพศศึกษาแบบถึงพริกถึงขิง แต่จะนึกไม่ออกว่าเป็นใครหน้าตายังไง และไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับอาจารย์ทรงเดชด้วย แน่นอน อาจารย์ก็จะรู้สึกกึ่งฝันกึ่งความจริงเช่นกัน ที่ไม่ลบให้สิ้นซากก็เพราะอยากให้หลงเหลือสาระประโยชน์ที่ได้จากงานวันนี้ กันไปบ้าง อาจารย์ทรงเดชอาจจะลดการใช้อำนาจกับเด็กน้อยลง ไม้เรียวก็หักไปแล้ว ส่วนน้อง ๆ ก็หวังว่าจะดูแลตัวเองกันโดยเฉพาะเรื่องเพศได้เป็นอย่างดี แม้ผมจะมีความทรงจำไม่ค่อยดีนักกับห้องเรียนนี้แต่อย่างน้อยผมก็เป็นห่วงพวก เขาในฐานะรุ่นน้องห้องเดียวกัน
ผม ให้อาจารย์ทรงเดชใส่เสื้อผ้าแล้วสั่งให้กลับไปนอนในห้องพักครู จากนั้นค่อย ๆ ไล่ลบความทรงจำของเด็กทีละคนขณะอยู่ให้ห้องและสั่งให้ฟุบหลับไปซักระยะ เมื่อตื่นขึ้นมาผมก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้าในสายตาพวกเขาไปโดยปริยาย
นอกจากจะสอนวิชาพลศึกษาแล้ว..น่าจะมาสอนวิชาภาษาไทยด้วยนะครับ..เขียนบรรยายได้ดีมาก..{:5_146:} ขอบคุณครับผม{:5_130:} ขอบคุณครับ {:5_135:} ขอบคุณคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ อ่านแล้วนึกภาพตามเลยครัย{:5_149:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ{:5_141:} เริดมาก
ข อ บ ใ จ ห ล า ย ห ล า ย เ ด้ อ คั บ แ ซ บ ห ล า ย {:5_137:}
จ ะ ร อ ติ ด ต า ม ผ ล ง า น เ ด้อ คั บ
ข อ บ ใ จ ห ล า ย ห ล า ย เ ด้ อ คั บ แ ซ บ ห ล า ย {:5_137:}
จ ะ ร อ ติ ด ต า ม ผ ล ง า น เ ด้อ คั บ
เรื่องนานมากแล้ว จำไม่ได้ว่าเคยอ่านที่ไหน ใครแต่ง
แต่ขอบคุณที่ลงไว้ครับ