บันทึกของนนท์ 1
บันทึกของนนท์ 1เรื่องราวนี้เกิดขึ้นมาร่วม 12 ปี จวบจนวันนี้นับว่าใกล้จะครบรอบปีนักษัตรพอดิบพอดี เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคนสองคน สองคนที่ต่างวัย สองคนที่มาเจอกันอย่างไม่น่าเชื่อ คนสองคนที่มาจากต่างที่ สองคนที่มาจากต่างถิ่น สองคนที่มาจากต่างครอบครัวและต่างฐานะ ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ทั้งสองคนร่วมกันฟันฝ่ามาร่วมกันเพื่อให้มีชีวิตอยู่ร่วมกัน สร้างทางฝันเพื่อให้มีชีวิตอยู่ร่วมกันบนเส้นทางสายสีม่วง
นนท์ ชายวัยทำงานอายุ30 เศษ ที่เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ถึงกับร่ำรวย แต่ก็ไม่ลำบาก จบการศึกษาระดับปริญญาโทมีความมุ่งมั่นเพื่อสร้างชีวิตที่ดี สร้างฐานะความเป็นอยู่ที่ดี ดูแลกิจการของครอบครัวในกรุงเทพ แต่ชีวิตที่เกิดมาเพื่อเป็นเกย์ของเขาจำเป็นต้องไม่แสดงออกให้ใครรู้ว่าเขาเป็นเกย์ มีหน้ามีตาในสังคม ทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำ โดยไม่ได้คิดถึงความรัก แต่ทำเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทองที่นนท์จะมีใช้อย่างไม่ต้องกลัวว่าจะเดือดร้อน แต่ทว่านนท์ใช้ชีวิตอีกด้านหนึ่งเพื่อออกเที่ยวกลางคืน เพื่อให้ความสุขกับตัวเอง เพราะความที่จำเป็นต้องปิดบังความเป็นเกย์ของตัวเอง หาความสุขกับการเที่ยวบาร์เกย์ ดูผู้ชายแก้ผ้าเต้นระบำ บ่อยครั้งที่นนท์ใช้เงินเพื่อหาซื้อความสุขด้วยการซื้อบริการจากเด็กหนุ่มในบาร์เกย์ครั้งแล้วครั้งเล่า นนท์คิดเสมอว่า ความสุขที่แท้จริงสำหรับตัวเขามันคืออะไรกันแน่ เขาจะเป็นอย่างไรถ้าอายุมากขึ้น จะมานั่งดูเด็กบาร์แก้ผ้าให้ดูยามแก่อย่างนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่ที่บ้านก็อยากให้นนท์แต่งงานกับหญิงสาวที่มีฐานะใกล้เคียงกัน ถูกรบเร้ามาตลอดแต่นนท์ก็บ่ายเบี่ยงการแต่งงานมาตลอดเช่นกัน นนท์ไม่ได้ฝันว่าชีวิตของเขาจะมีหญิงอยู่ข้างกาย แต่ฝันอยากมีชายมาอยู่ข้างกายต่างหาก ชีวิตของนนท์ ใน 2 ด้านจึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
นัท เด็กหนุ่มวัย 18 ที่นนท์ไปเจอเข้าในสถานบริการแห่งหนึ่งที่นนท์ซื้อบริการจากนัท ด้วยความใสซื่อ ความใหญ่อลังการ 8 นิ้วของนัทที่กัปตันของสถานที่แห่งนั้นเชียร์นัทให้กับนนท์ และนนท์ก็ได้พบกับความสุขที่แท้จริง รวมทั้งนัทก็ได้พบกับความสุขที่นนท์หยิบยื่นให้ในครั้งแรก พอครั้งที่ 2 ที่นนท์กลับไปใช้บริการของนัทอีกหลังจากครั้งแรกเพียง 2 วัน เรื่องราวชีวิตของนัทที่นัทเล่าออกมาให้นนท์ฟัง ยิ่งทำให้นนท์เริ่มรู้ว่าชีวิตเขาเกิดมาเพื่อคน ๆ นี้
นัท เกิดมาจากครอบครัวที่ฐานะยากจนจากจังหวัดเชียงราย ต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ประถม 5 เพราะไม่มีเงินทองพอที่จะซื้อหาอะไร ด้วยชีวิตในวัยเด็ก หลังเลิกเรียนต้องรับจ้างทำทุกอย่าง เลี้ยงวัวในตอนเลิกเรียน เสาร์อาทิตย์รับจ้างทำงานทุกอย่างเท่าที่จะมีในหมู่บ้านที่นัทอยู่ ทำงานก่อสร้าง ทำนา ทำไร่ เท่าที่แรงจะมีทำ เพราะไม่มีที่นาที่ไร่เป็นของตัวเอง พอใกล้จบประถม 5 นัท ต้องออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ แหล่งขุดเงินขุดทองของผู้ที่ไขว่คว้าอยากมีเงินทองที่ไม่ต่างจากกรุงเทพมหานครเมืองฟ้าอมร นัท....ทำงานทุกอย่างเท่าที่หาได้ เริ่มจากเป็นเด็กกรรมกรก่อสร้างในเมืองเชียงใหม่ เมืองที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จากนั้นนัทก็พลิกผันไปทำงานอีกหลายต่อหลายงานเพื่อหาเงินส่งให้พ่อแม่ที่อยู่ที่บ้านได้ใช้ได้กิน วัยเพียง10 ขวบกว่า ๆ ที่ต้องดิ้นรนมากมายขนาดนี้มันช่างหนักหนาสาหัสสากรรจ์เหลือเกิน ...จากนั้นก็ไปเป็นเด็กขายหินอ่อน หินแกรนิตที่ร้านแห่งหนึ่งในจังหวัด...คงเป็นเพราะงานที่หนัก....เห็นเพื่อนที่ติดรถส่งเส้นก๊วยเตี๋ยว...ก็เลยสมัครไปทำงานนั้นด้วย....งานที่ต้องตื่นแต่มืด...เพื่อติดรถไปส่งเส้นก๊วยเตี๋ยวทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน....พออายุ 16 นัทก็พบเพื่อนที่ทำงานในบาร์เกย์แห่งหนึ่ง แนะนำให้เขาไปทำงานในบาร์เกย์ด้วยตัวเลขที่เพื่อนพูดให้ฟังว่าจะได้เงินครั้งละเท่าไหร่ ต่อเดือนได้เท่าไหร่ ซึ่งมากกว่าเงินเดือนของเด็กกรรมกร เด็กส่งของที่นัททำอยู่ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า การตัดสินใจของนัทจึงง่ายขึ้นที่จะผลิกผันตัวเองเพื่อไปทำงานในบาร์เกย์ที่มีชื่อในเชียงใหม่ อย่างที่รู้ ๆ กัน อาชีพขายบริการเมื่ออยู่นานเข้าก็กลายเป็นเด็กหน้าเก่า ไม่เหมือนในช่วงแรกที่นัทเข้ามาทำงานด้วยความอลังการของเครื่องมือหากินขนาด 8 นิ้ว จากเด็กใหม่ที่รุ่งหาเงินได้คล่องก็กลายเป็นเด็กหน้าเก่าของบาร์แห่งนั้นไป ความคิดที่เริ่มอยากขยับขยายไปหากินในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรจึงผุดขึ้นในสมองของนัท ประกอบกับนัทมีเพื่อนรุ่นพี่ที่อยู่บาร์เดียวกันนี้เข้ามาเสาะแสวงหาช่องทางหาเงินที่ดีกว่าในกรุงเทพแล้ว กรุงเทพเมืองสำหรับผู้แสวงหา เมืองสำหรับนักขุดทอง
และแล้วนัทก็เดินทางลงมากรุงเทพเพื่อพลิกผันตัวเองมาเป็นเด็กหน้าใหม่แต่คราวนี้ด้วยความที่นัทคงเบื่อสภาพของการเป็นเด็กที่จะต้องเต้นโชว์ โชว์เครื่องเคราที่ประมาณม้าของเขา ที่ต้องฟัคโชว์กับเพื่อนร่วมงานให้แขกเหรื่อดู เขามาทำงานในซาวน่าที่มีกันอยู่กลาดเกลื่อนในกรุงเทพ แต่ซาวน่าที่นัทมาทำนั้น...อยู่เชิงสะพานปิ่นเกล้า(ตอนนี้เลิกกิจการไปแล้ว) ซึ่งเขาก็สามารถพักอยู่ที่ซาวน่าแห่งนั้นได้ด้วยโดยไม่ต้องไปเสียเงินค่าเช่าห้อง จากการที่เป็นหน้าใหม่เครื่องเคราขนาดม้า ทำให้เขามีแขกในทุก ๆ คืน เด็กหนุ่มที่เมื่อได้เงินมาก็ส่งกลับบ้านให้พ่อแม่ได้ใช้ รายได้ต่ออาทิตย์ อย่างน้อย ๆ ก็ ห้าพันบาทแล้ว เขาเก็บไว้กินใช้สำหรับตัวเองน้อยมากเพราะค่าเช่าห้องก็ไม่ต้องเสีย แค่ค่ากินเท่านั้น ชีวิตของเด็กนวดขายบริการในซาวน่า ที่กว่าเสร็จงานก็ดึกดื่น เหนื่อยล้าอ่อนแรงจากการขึ้นบริการขายน้ำกามให้กับลูกค้าคืนละไม่รู้กี่รอบ ไหนจะต้องทำความสะอาดเก็บกวาดอีก ชีวิตช่วงกลางวันของคนขายบริการจึงต้องเอาไว้นอน…ชีวิตของเด็กขายตัว ขายน้ำ ขายบริการทางเพศ....
วันหนึ่งหลังจากที่นนท์ทำงานอยู่จนดึกก็รู้สึกเกิดอารมณ์กำหนัดขึ้นมา รวมทั้งเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอยากนวดซึ่งเป็นเรื่องประจำของนนท์อยู่แล้วที่พอตกกลางคืนชีวิตที่มีแต่ความเหงาเข้าครอบงำ ให้เกิดความรู้สึกที่ว้าเหว่ ชีวิตครอบครัวของนนท์เองก็ไม่ใช่จะอบอุ่น แม้จะมีบ้านใหญ่โต บริเวณกว้างขวางแต่นนท์ก็แยกออกมาพักอีกหลังหนึ่งหลังเล็ก ๆ ในบริเวณบ้านที่กว้างใหญ่นั้น เป็นบ้านส่วนตัวที่ไม่มีใครเข้ามาวุ่นวายก้าวก่าย เป็นอาณาจักรที่นนท์ครอบครองคนเดียว แม้ว่าจะปลูกอยู่ในที่ดินของครอบครัว การไปซาวน่าของนนท์นั้นเร็วกว่าความคิด…เพียงขับรถยนต์ส่วนตัวไปแค่ชั่วอึดใจนนท์ก็ไปถึงซาวน่าแห่งนั้นที่ไม่ใช่มีเฉพาะขายบริการนวดเพียงอย่างเดียวแต่ซาวน่าแห่งนั้นก็เปิดรับเกย์ที่จะเข้ามาความสุขจากกันและกัน ซาวน่าแห่งนั้นเป็นครั้งแรกที่นนท์ไป เพราะก่อนไปนนท์อ่านเจอในหนังสือนิตยสารเกย์ ทำให้นนท์อยากไปลองเที่ยวและลองใช้บริการที่นั่นดู... ที่ที่นัท เด็กหนุ่มเหนือจากเมืองเชียงใหม่ที่ผันตัวเองมาเป็นเด็กบริการอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ เมื่อไปถึงนนท์ก็ชำระเงินค่าเข้า รับกุญแจตู้ล๊อกเกอร์เพื่อเปลียนเสื้อผ้าเป็นนุ่งผ้าขนหนู ขณะที่นนท์กำลังเปลี่ยนชุดอยู่นั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้า นนท์รู้สึกถูกชะตากับเด็กหนุ่มคนนั้น ถึงแม้หน้าตาไม่ได้หล่อ หุ่นร่างกายไม่ได้กำยำล่ำสัน แต่นนท์กลับรู้สึกเหมือนเคยมีความผูกพันกันมาก่อน เมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นเดินลับสายตาไป เท้าที่ก้าวเร็วกว่าความคิดก็พาตัวของนนท์ขึ้นไปถึงชั้นที่เป็นที่ทานอาหารนั่งเล่นของซาวน่าแห่งนั้น กัปตันของที่นั่นคงเห็นว่านนท์เป็นแขกหน้าใหม่ จึงเข้ามาให้การต้อนรับ เข้ามาพูดคุยด้วยเพื่อที่จะเชียร์เด็กนวดให้นนท์ ประกอบกับความตั้งใจเดิมของนนท์ที่อยากนวดอยู่แล้ว การพูดคุยจึงง่ายขึ้น นนท์จึงเอ่ยปากถามกัปตันถึงเด็กหนุ่มคนที่นนท์เห็นตรงตู้ล๊อกเกอร์ เพราะนนท์คิดว่าคงเป็นเด็กที่มาเที่ยวใช้บริการในซาวน่าแห่งนั้น ขณะที่นนท์กำลังอธิบายลักษณะรูปร่างหน้าตาของเด็กคนนั้น เด็กคนนั้นก็ก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดมา กัปตันซึ่งนั่งหันหน้าไปทางบันไดจึงบอกกับบนนท์เพื่อให้นนท์หันหลังกลับไปมองว่าใช่เด็กคนนี้หรือป่าว นนท์เมื่อเห็นหน้าเด็กคนนี้จึงหันกลับไปบอกกัปตันว่า...ใช่เลย… กัปตันจึงกวักมือเรียกเด็กคนนั้นให้มาที่โต๊ะเพื่อแนะนำเด็กคนนั้นให้นนท์รู้จัก นัท คือชื่อของเด็กคนนั้น เด็กที่นนท์ถูกชะตาในครั้งแรกที่เห็น หลังจากกัปตันแนะนำนัทให้นนท์รู้จัก นนท์จึงตัดสินใจให้นัทขึ้นนวดให้ เมื่อเข้าไปในห้อง ด้วยความที่นนท์ถูกชะตากับนัทอยู่แล้วทุกอย่างที่นัททำให้กับนนท์นั้นจึงถูกใจนนท์ไปเสียทั้งหมด เหตุการณ์ครังแรกที่นัทบำเรอความสุขให้กับนนท์อย่างเต็มเปี่ยม แม้ว่านนท์จะรู้ทั้งรู้ว่านัททำเพื่อแลกกับเงิน จนถึงเวลาที่ความสุขทั้งนนท์และนัทต่างหลั่งไหลออกมา ทั้งคู่นอนคุยกัน นนท์ได้ถามไถ่เรื่องราวชีวิตของนัท ที่เพิ่งเข้ามาในเมืองกรุงได้เพียงไม่ถึง 5 เดือน นัทเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาให้นนท์ฟังอย่างไม่ปิดบัง แม้ว่าแรก ๆ นนท์อาจจะรู้สึกว่าเรื่องที่เล่ามาจากปากนัทเป็นเรื่องแต่งขึ้นหรือป่าว เพื่อให้ลูกค้าอย่างนนท์เห็นใจและสงสาร แต่นนท์ก็ไม่ได้เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นที่จะทำให้ใจที่ชอบนัทตั้งแต่แรกเห็นนั้นน้อยลงไปเลย จากคืนนั้น นนท์กลับมาคิดทบทวนกับตัวเองว่า จริง ๆแล้วชีวิตต้องการอะไร จะอยู่กับการทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำอยู่อย่างนี้ หรือจะมีใครสักคนอยู่ข้างกายและร่วมเดินทางชีวิตไปด้วยกันศักยภาพของตัวเขาพอที่จะให้นัทเข้ามาอยู่ในชีวิตหรือไม่ หากนัทจะต้องหยุดจากงานเด็กนวดที่ทำอยู่ ความคิดต่าง ๆ พร่างพรูเข้ามาในหัวสมองของนนท์ คำถามเยอะแยะมากมายเกิดขึ้น แล้วถ้านัทเขาไม่อยากอยู่ด้วย เราจะทำอย่างไร เราจะให้นัทอยู่กับเราในฐานะอะไร เพราะเราไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นเด็กเลี้ยง หรือให้ใครมามองเราว่าเราเลี้ยงเด็ก สัญชาติญาณของสัตว์ที่อยากมีคู่ ทำให้นนท์ต้องมาหาหนทางที่เข้าข้างตัวเอง คิดสิ่งต่าง ๆ ในแง่ที่ดีต่อตัวเอง
อีก 2 คืนต่อมานนท์ก็กลับไปที่ซาวน่าแห่งนั้นอีก และก็ให้นัทขึ้นห้องด้วย คราวนี้แทนที่จะเริ่มต้นด้วยการนวดและมีsex กัน นนท์กลับพูดคุยกับนัท ชักชวนนัทให้ไปอยู่ด้วยกันกับนนท์ และนนท์จะรับผิดชอบให้นัทได้เรียนต่อให้สูงเท่าที่นัทอยากจะเรียน แต่ขอให้ตั้งใจเรียนจริงๆ ถ้าอยากไปอยู่ด้วยกันจริงๆ ก็ขอให้เลิกอาชีพนี้ ไปอยู่กับนนท์ที่บ้าน คอยอยู่ดูแลบ้านให้นนท์ หลังจากที่ไปเรียนกลับมา หรือเดินทางไปกับนนท์เมื่อนนท์ต้องไปติดต่องานในจังหวัด นนท์ไม่ได้ยื่นข้อเสนอว่าจะให้เงินเดือนๆ ละเท่าไหร่ แต่ให้กินอยู่กับนนท์ อยากได้อะไร อยากทานอะไรก็ให้บอก สิ่งต่าง ๆ ที่นนท์พูดไปกับนัทในคืนนั้น นนท์ให้นัทเอาไปคิดตัดสินใจว่าจะตัดสินใจอย่างไร แล้วนนท์จะกลับมาเอาคำตอบอีก 5 วันข้างหน้า เพราะนนท์ต้องเดินทางไปติดต่องานที่ต่างจังหวัด หลังจากการสนทนาเสร็จแล้ว ใจที่เรียกร้องที่จะสมสู่ก็ห้ามคนทั้งสองไม่ได้ คืนนั้นนนท์กลับได้รับความรู้สึกที่ดีอย่างเต็มเปี่ยมที่นัทยัดเยียดกระหน่ำเจ้าท่อน 8 นิ้วเข้าไปในรูสวาทของนนท์ จนความสุขหลั่งทะลักออกมา….และไม่ใช่เพียงนัทที่ยัดเยียดความสุขให้นนท์อย่างทะลักทะลาย ....นนท์ก็ยัดเยียดความสุขเช่นเดียวกันนั้นให้กับนัทด้วยเช่นกัน......
ในช่วงระหว่างที่นนท์อยู่ต่างจังหวัด นัทโทรมาหานนท์ทุกวันแสดงความเป็นห่วง ถามไถ่ทุกข์สุข ทานข้าวหรือยัง จนกลางดึกของคืนสุดท้ายที่นนท์จะเดินทางกลับ นัทได้โทรมาหานนท์หลังจากที่เลิกงานและเก็บทำความสะอาดซาวน่าที่นัททำอยู่เสร็จ นัทไมได้ใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะเมื่อ 12 ปีก่อนราคาโทรศัพท์มือถือ ค่าบริการนั้นราคาแพงมาก ฐานะอย่างนนท์ไม่มีปัญหา แต่ฐานะของนัทซิจะเอาปัญญาที่ไหนไปซื้อไปหามาใช้ นัทโทรจากตู้โทรศัพท์สาธารณะที่อยู่ใกล้กับซาวน่าแห่งนั้น นัทดทรมาบอกว่า "ผมอยากเจอพี่นนท์ครับ มีอะไรอยากจะบอก พี่จะกลับมาเมื่อไหร่ กี่โมงถึงกรุงเทพฯ จะเข้ามาหาผมที่ร้านหรือป่าว หรือถ้าพี่ไม่อยากเข้ามาที่ร้าน ผมจะหยุดงานพรุ่งนี้เพื่อไปเจอกับพี่ข้างนอก" นนท์แค่ได้ฟังแค่นี้ หัวใจก็ลิงโลดคิดเข้าข้างตัวเองว่า นัทคงจะตัดสินใจมาอยู่กับตัวหรือป่าว นนท์จึงตอบนัทไปว่า "มีอะไรสำคัญหรือป่าว พี่คงกลับไปถึงกรุงเทพฯก็ราว ๆ 5 โมงเย็น ถ้านัทอยากเจอพี่ ๆ จะได้แวะไปที่ร้านเลยก็ได้
หรือว่านัทอยากจะเจอกับพี่ข้างนอก " "ยังไงก็ได้คับพี่ พี่มาที่ร้านพี่ก็ต้องเสียเงินขึ้นห้องกับผม ผมไม่อยากให้พี่เสียเงิน ผมออกไปเจอพี่ข้างนอกดีกว่า" " แล้วนัทจะสะดวกเจอพี่ที่ไหน" "ผมไปเจอพี่ที่ห้างใกล้ ๆ ร้านดีมั้ยคับ ผมจะรอพี่ที่ร้าน...ในห้างนะคับ พี่คับ อย่าขับรถเร็วนะคับ ผมเป็นห่วง แล้วพรุ่งนี้เราเจอกันนะคับ ผมจะไปรอพี่ที่ร้านที่บอก" "คับ เอาเป็นว่าพี่จะไปเจอนัทที่นั่น พี่จะได้ยังไม่แวะกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน" "หลับฝันดีนะคับ" เสียงนัทบอกนนท์ก่อนจะวางสายไป คืนนั้น นนท์แทบนอนไม่หลับ ความดีใจและความสุขใจบังเกิดขึ้น นนท์ต้องลุกขึ้นมาสูบบุหรี่ และโทรไปยังโอเปอร์เรเตอร์ของโรงแรมเพื่อสั่งเครื่องดื่มอุ่น ๆ มาดื่มให้รู้สึกสบายตัว หลังจากที่ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ เข้าไปนนท์ก็หลับไปและตื่นเช้าอย่างสดชื่น วันนี้แล้วซินะที่เราจะได้เจอนัทหลังจากที่ไมได้เจอกันมาหลายวัน ตอลดระยะเวลา 5 วันที่นนท์ทำงานแทบจะไม่มีสติในการทำงาน ในใจคิดถึงแต่นัท ใจมันเรียกร้องอยากจะเจอนัท หลายวันที่ผ่านมาทำให้นนท์หันกลับมาตระหนักกับตัวเองอีกว่า ที่เราจะให้นัทมาอยู่ด้วย เป็นเพราะเครื่องเพศของนัท หรือเป็นเพราะอะไร จนหาคำตอบได้ว่า ถ้าเราสามารถช่วยเด็กคนนึงได้ ให้เขามีอนาคตที่ดี เลี้ยงตัวเองได้ และถ้าเขาอยู่กับเราอย่างรักเราจริง เขาก็คงไม่ไปไหน ก็คงจะอยู่กับเราทั้งชีวิต คอยดูแลเราเมื่อยากเราแก่ เพราะอายุห่างกัน 10 กว่าปี แต่ถ้าเขาเป็นผู้ชายจริง ๆ เขาอยากไปแต่งงานใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิง ถึงเวลานั้นเราคงต้องปล่อยเขาไป นนท์พยายามคิดเพื่อให้ตัวเองพบกับความสุขที่สุด เพราะถ้าถึงเวลานั้นจะมีใครบ้างที่ไม่เสียดายคนที่ตัวรัก แต่ถ้าถึงที่สุดแล้วมันก็ต้องปล่อยให้เป็นไปอย่างที่มันต้องเป็น
จบตอนที่ 1
เรื่องยาวครับ..อิอิ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ แต่ไม่ค่อยมีฉากเสียวๆเลย ขอบคุณครับผม{:5_130:} ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ชอบมากสนุกดีขอบคุณคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ {:5_120:}
ขอบคุณครับ...{:5_120:} ขอบคุนคับ ชอบมากครับ รักกันก็ดีคับ
ขอบคุณครับ
{:4_112:}
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณ