บันทึกของนนท์3
บันทึกของนนท์3ประโยคที่นัทพูดออกมาไม่ได้ทำให้นนท์ คิดเอ๊ะใจเลยสักนิด...ประโยคที่มันจะนำไปสู่เหตุการณ์ที่นนท์ไม่ได้คาดฝันมาก่อน อีก 10 กว่าปีต่อมา ประโยคที่ทำให้ชีวิตนนท์แทบล้มทั้งยืน ประโยคที่ทำให้ชีวิตนนท์เปลี่ยนไป....ประโยคที่ทำให้การเดินทางของชีวิตแทบจะจบเพราะคำพูดนี้เท่านั้น....
นนท์ได้ยินประโยคนี้ อึ้งไปพักใหญ่
“นัทคับ..ถึงนัทจะไม่ใช่เกย์ พี่ว่ามันก็ไม่ผิดที่เราจะอยู่ด้วยกัน เอาอย่างนี้ซิ นัทก็คิดว่าพี่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่นัทจะเอาเป็นเมีย เพราะเราจะไปอยู่กินกันแบบผัวเมีย ไม่ได้อยู่กินกันแบบเกย์ หรือเกย์ที่เอาเด็กไปเลี้ยงพอวันหนึ่งที่เสพสุขกับเด็กคนนั้นจนสมใจอยากแล้วก็เขี่ยเด็กคนนั้นทิ้งไปตามยถากรรม เพราะที่สุดเด็กที่ถูกเขี่ยทิ้งก็ต้องกลับไปทำอาชีพเดิม เพราะเขาเคยทำแบบนั้นมาก่อน”
นนท์ พยายามอธิบายต่อ เพื่อให้นัท เปลี่ยนความคิด พูดเพื่อโน้มน้าวความคิดและจิตใจของนัท เพื่อให้นัทไปอยู่กับนนท์ให้ได้...ไม่ว่าจะต้องใช้คำพูดใด ๆ ก็ตามนนท์ก็จะพยายามให้เขามาอยู่กับนนท์ให้ได้
“ แต่พี่อยากให้นัทเลิกอาชีพนี้โดยเด็ดขาด ไม่แม้แต่คิดที่จะกลับไปทำอีก ถ้าตัดสินใจไปอยู่กับพี่แล้ว อีกอย่างนะนัท..คนอื่นจะมองนัทยังไง พอนัทอายุมากขึ้นนัทจะบอกคนอื่นยังไงว่านัทเคยทำอาชีพแบบนี้มา พี่ว่าตอนนี้เราหยุดก็ยังไม่สายนะ”
นนท์ ยังพูดไม่ทันจบ นัทก็พูดแทรกขึ้นมา
“พี่คับ...ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าชีวิตผมจะเป็นอย่างไรต่อไป วันนี้พี่บอกให้ผมไปอยู่กับพี่ แล้วถ้าผมอยู่ไม่ได้ละคับ ผมจะทำยังไง”
นัทพูดออกมาเหมือนคนที่มองไม่เห็นวันข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป นนท์ก็พยายามอย่างที่สุด
“นัท...นัทเองก็ผ่านชีวิตมาอย่างลำบากก็เยอะนะ...ชีวิตวัยเด็กที่นัทควรจะได้วิ่งเล่น ได้เที่ยวแบบเด็กทั่ว ๆ ไปนัทก็ไม่ได้ทำ ตอนนี้โอกาสที่จะให้นัทมีชีวิตที่ดีขึ้น ทำไมนัทไม่คว้ามันเอาไว้ละ ... พี่ไม่อยากพูดแบบนี้เลย..เพราะเหมือนกับจะสอนให้นัทเป็นคนเห็นแก่ตัว.. และพี่เองก็เหมือนคนเห็นแก่ตัวที่อยากจะครอบครองนัทไว้คนเดียว...แต่ถ้าพี่ไม่....ไม่รักนัท พี่จะไม่พูดออกมาแบบนี้เลย”
นนท์รู้ตัวเองดีว่า นนท์กำลังพูดอะไรออกไป เด็กหนุ่มคนนี้หลังจากวันแรกที่นนท์เจอเด็กคนนี้ ก็คิดมาตลอดว่า นี่คือคนที่เขารอคอยมาทั้งชีวิต ชีวิตที่ผ่านมาทั้งรักและชอบคนอื่นและคนอื่นมารักและชอบตน กลับไม่ได้มีความหมายอะไรกับชีวิตของนนท์เลย คนที่ผ่าน ๆ มานนท์ไม่ได้แม้แต่จะคิดที่จะอยู่กันแบบครอบครัว หรือว่าที่ผ่านมาเป็นเพราะวัยที่นนท์ยังอยากสนุก อยากเจอคนไปเรื่อย ๆ ไม่อยากหยุดชีวิตไว้กับใคร แต่วันนี้นนท์อยากหยุดชีวิตไว้กับใครคนหนึ่งเสียที
ขณะที่นนท์กำลังคิดว่าจะทำยังไงต่อดี นัทก็เอ่ยขึ้นมา...
“ พี่นนท์คับ....งั้นเอาอย่างนี้นะคับ...ขอให้ผมได้ใช้เวลาอีกสักพักเพื่อตัดสินใจ ผมเองก็อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมอยากเรียนต่อ ผมอยากมีงานอย่างอื่นทำที่ไม่ใช่งานอาชีพแบบนี้………”
โป๊ะเช๊ะ ....คำพูดนี้เข้าทางนนท์ทันที จึงไม่รีรอที่จะพูดกลับไป
“งั้น...นัทจะรีรออะไรอยู่ล่ะ”
นนท์ หยุดไปพักหนึ่งเพื่อดูปฏิกิริยาของนัท กับคำพูดของนนท์ที่พูดออกไปเมื่อสักครู่ แต่ไม่มีอะไรออกมาจากปากของนัท นนท์จึงสำทับคำพูดของตัวเองต่อ
“พี่พร้อมที่จะรับนัทมาอยู่ด้วยตั้งแต่วันที่พี่เอ่ยปากบอกกับนัทแล้ว.....วันนี้พี่เองก็คิดว่าจะได้คำตอบที่จะทำให้พี่มีความสุข...แต่ถ้าตอนนี้นัท ยังลำบากใจ....ได้คับ... พี่ให้เวลานัทในการตัดสินใจอีกสักพักหนึ่ง...แต่ระหว่างนี้พี่จะไปหานัทที่ร้านทุกวัน ตกลงไหมคับ เพื่อให้นัทเห็นว่า ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน พี่ก็ยังยืนยันอย่างที่พี่พูดไป”
บทสนทนาระหว่างนนท์ กับ นัท ในเรื่องนี้ต้องหยุดลง เมื่อพนักงานเอาอาหารมาเสริฟให้ เป็นอาหารมื้อแรกที่นนท์รู้สึกว่าช่างมีความสุขเหลือเกินที่ได้ร่วมทานอาหารกับคนที่นนท์รู้สึกรักและรู้สึกดีด้วย อาหารจานนั้นแม้จะเป็นอาหารจานที่นนท์มาที่ร้านนี้ทีไรก็จะต้องสั่งทาน แต่ทำไมวันนี้อาหารจานนี้ถึงมีรสชาตอร่อยอย่างที่นนท์ไม่เคยได้ลิ้มรสมาก่อน หรือจะจริงอย่างที่เขาว่ากันว่า อาหารจะอร่อยอยู่ที่คนที่ร่วมทานด้วย
หลังจากทานอาหารเสร็จ นนท์ถามนัทว่า
“นัท..วันนี้ไม่ต้องเข้าไปทำงานใช่หรือป่าว”
นัทตอบกับนนท์กลับมาว่า “
วันนี้ผมลางานคับ เพราะตั้งแต่ผมมาทำงานที่ร้านนี้ ผมยังไม่เคยหยุดไปไหนเลย คืนนี้ตั้งใจจะอยู่กับพี่”
คำตอบที่ได้ยินยิ่งทำให้นนท์มีความสุขมากขึ้นไปอีก ในใจคิดไปถึงไหนต่อไหนในช่วงค่ำคืนนี้กับนัท นนท์จึงเอ่ยปากชวนนัทว่า
“งั้นเราไปดูหนังกัน นี่เพิ่งจะสองทุ่มกว่า ๆ ไปดูว่าหนังรอบต่อไปกี่โมง”
นนท์กับนัทจึงเดินไปชั้นบนที่มีโรงภาพยนตร์ ชายวัยกลางคนแต่งชุดทำงานราคาแพงเดินกับเด็กหน้าตาซื่อ ๆ สวมใส่เสื้อแขนยาวกางเกงยีนส์ดูเซอร์ ๆ กำลังเป็นเป้าสายตาของคนหลายคนที่เดินผ่านไปมาและที่นั่งอยู่ เขาคงคิดไม่ผิดหรอกว่า นี่คือเกย์กับเด็กที่มาด้วยกัน แต่ ณ เวลานั้น นนท์ไม่แคร์สายตาของใครแล้ว เขารู้เพียงว่า เวลานั้นเขามีความสุขที่สุด ไม่มีอะไรที่จะสุขไปกว่านี้อีกแล้ว กับการที่ได้อยู่ได้เดินไปไหนกับคนที่ตัวรัก แม้ว่าคนที่เดินด้วยจะยังไม่รักตอบกลับมาก็ตาม นี่ละมังที่เรียกว่า รักไม่มีพรมแดน รักไม่มีอุปสรรคใด ๆ นนท์คิดในใจตลอดว่า เขาจะสุขมากกว่านี้ถ้าได้ยินคำตอบของนัท ว่าจะมาอยู่ด้วย
หลังจากที่ดูหนังเลิก เวลานั้นก็ดึกพอสมควร นนท์จึงเอ่ยปากชวนนัททันทีว่า
“นัท..คืนนี้ไปนอนค้างกับพี่ที่บ้านมั้ย จะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปที่ร้านอีก และเพื่อให้นัทได้สร้างความคุ้นเคยกับบ้านใหม่ที่นัทจะมาอยู่ในเร็ว ๆ นี้”
คงเป็นเพราะเวลาที่ดึกแล้ว และวันนี้นัทก็ลางานแล้วด้วย จะกลับเข้าไปที่ร้านตอนนี้ก็ยังไม่ปิด กลับไปก็ต้องไปทำความสะอาด ไปเก็บคราบคาวกามของคนที่ไปเที่ยวซาวน่าแห่งนี้ โดยไม่รีรอ นัทจึงตอบตกลง เวลาไม่ถึงชั่วโมงรถของนนท์ที่มีนัทนั่งมาด้วยก็ถึงบ้านของนนท์ ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน ก็เหมือนไฟราคะของทั้งคู่ปะทุโชนขึ้นมาอีก หลังจากที่ห่างกันไปหลายวัน ทั้งคู่ได้เข้าประกบปากจูบกันอย่างดูดดื่ม มือของทั้งคู่ต่างก็ถอดเสื้อผ้าให้กันและกันจนอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เดินจูบกันเข้าห้องน้ำ นนท์เปิดน้ำจากฝักบัวเพื่อให้ชำระล้างร่างกาย แต่ขณะที่ปากของทั้งคู่ก็ยังไม่ถอนออกจากกัน เหมือนประหนึ่งว่าจะชดเชยเวลาที่ขาดหายไปนานหลายวัน และแล้วบทเพลงรักบทแรกที่นัทส่งมอบเจ้าดุ้นเขื่องขนาด 8 นิ้วให้กับนนท์ก็เกิดขึ้นอีกครั้งบนพื้นห้องน้ำภายใต้ฝักบัวที่มีน้ำไหลพร่างพรมลงมากระทบตัวทั้งสองคน ลีลารักของนัทที่เร่าร้อน เมื่อสอดใส่เจ้า 8 นิ้วเข้าไปในช่องสวาทของนนท์ก็ยิ่งทำให้นนท์เสียวกระสันมากขึ้น
ทันใดนั้นนนท์ก็ต้องรู้สึกเสียวกระสันมากขึ้นไปอีกที่ นัทก้มลงมาใช้ปากให้กับนนท์ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวน้อยของนัทยังคาอยู่ในช่องสวาทของนนท์ นนท์เสียวทั้งดุ้นของตัวเองและช่องสวาทของตัวเอง เพียงไม่กี่นาที นนท์ก็ทนต่อความเสียวกระสันนั้นไม่ได้หลั่งน้ำพุ่งเข้าปากนัทอย่างเต็มที่ นัทกลับกลืนกินน้ำสวาทของนนท์เข้าไปอย่างไปรังเกียจ พร้อมกับเอาปากกลับมาบดขยี้ปากของนนท์อีกรอบ กลิ่นคาวน้ำกามของนนท์คละคลุ้งเต็มปากของชายต่างวัยทั้งคู่ ขณะที่ นัทเองก็เร่งเครื่องของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อให้ทัน แรงกระแทกของเจ้าเครื่องเคราขนาด 8 นิ้วทำให้นนท์ยิ่งเสียวมากขึ้น เพราะครั้งนี้นัทเอาเข้าไปลึกเสียเหลือเกิน นนท์รับรู้ได้จากขนอุยดกดำของนัทบดขยี้อยู่ที่ผิวหนังและรูสวาทของตน ไม่กี่นาทีต่อมา นัทก็หลั่งน้ำแห่งความสุขให้ไหลพร่างพรูเข้าในรูสวาทของนนท์ แล้วก็ฟุบลงมานอนทับบนตัวนนท์อย่างเหนื่อยอ่อน
ขณะที่นัท นอนฟุบอยู่บนตัวของนนท์ ปากก็มากระซิบข้างหูนนท์ว่า
“พี่นนท์ รู้มั้ยคับ ตั้งแต่วันที่พี่นนท์ไปทำงานต่างจังหวัด ผมยังไม่ได้เอาน้ำผมออกกับใครเลย ลูกค้าให้ผมขึ้นผมก็นวดให้ ให้ผมเอาผมก็เอาให้แต่ผมก็แกล้งทำเป็นเสร็จในรูของลูกค้า แต่จริง ๆ ผมไม่แตกหรอกนะ ผมตั้งใจจะเก็บไว้ให้พี่”
นนท์ได้ยินก็เอามือมาตีหลังของนัทเบา ๆ พร้อมกับบอกนัทว่า
“คนบ้า...ให้จริงเหอะ อย่าทำให้พี่ปลื้มไปมากกว่านี้นะ”
ในใจก็คิดว่าแค่ได้ยินที่นัทพูดออกมานี้ก็ปลื้มใจแล้ว นนท์พูด ยิ้มและจับหน้าของนัทด้วยมือทั้งสอง มองตานัทอย่างมีความสุข พร้อมกับจูบปากนัทอย่างทะนุถนอมรักใคร่ ไม่ว่าใคร ๆ ที่ได้ยินคนที่ตนรักพูดแบบนี้ก็คงจะรู้สึกอิ่มเอมใจไม่น้อยไปกว่านนท์แน่
เมื่ออาบน้ำเสร็จ นนท์ก็พานัทมาที่เตียงนอน เพราะเด็กหนุ่มคงยังเกร็งๆ อยู่ ทั้ง ๆ ที่บ้านของนนท์เป็นบ้านชั้นเดียว มีห้องเดียวที่เบ็ดเสร็จ แต่แบ่งเป็นส่วนต่างๆ
“นัทคืนนี้เราไม่ต้องใส่เสื้อผ้านอนกันนะ ปกตินัทจะหนาวหรือป่าว เพราะพี่เปิดแอร์นอนด้วย เรามาห่มผ้าแล้วกอดกันก็คงอุ่นแล้วละ”
“ได้คับพี่ ปกติผมก็ถอดเสื้อนอน ใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว แต่คืนนี้เรานอนกอดกันก็คงจะอุ่นแล้วละ” นัทตอบ
ตี 2 แล้วที่ทั้งสองคนยังไม่อาจข่มตาให้หลับได้ โดยเฉพาะนนท์ที่ไม่อยากหลับเลย กลัวว่าคนรักที่อยู่อ้อมกอดจะหายไป มือของนนท์ก็ลูบไล้ไปบนตัว ใบหน้าส่วนต่าง ๆ ของกายนัท เด็กหนุ่มอย่างนัท ที่มีพลังเหลือเฟือเมื่อโดนความอ่อนพลิ้วแผ่วเบาของมือนนท์ ก็ยิ่งทำให้เกิดความเสียวกระสันต์ เครื่องเพศขนาดน้อง ๆ ม้าของนัทก็ขยายพองตัวชูชันขึ้นอีก และแล้วบทรักระหว่าง 2 คนก็เริ่มขึ้นอีก และอีก จนกระทั่งเกือบฟ้าสางทั้งสองจึงหลับใหลไปด้วยความอ่อนแรงที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้แก่กันอย่างเต็มเปี่ยม คืนนั้นทั้งคืนต่างฝ่ายต่างมอบความสุขให้กันและกันอย่างอิ่มเอม คืนนั้นนัทได้มอบความสุขจากดุ้นเขื่องขนาด8 นิ้วของนัทให้กับนนท์ ครั้งแล้วครั้งเล่า
ตอนสายของเช้าวันต่อมา นนท์รู้สึกตัวตื่นเพราะมีปากมาจูบที่หน้าผาก เป็นริมฝีปากของนัทนั่นเอง การจูบแบบนี้และตรงนี้แหละที่นนท์ถวิลหามาชั่วชีวิต ไม่เคยมีใครมาจูบเขาที่หน้าผากเวลาตื่นนอน นนท์เข้าใจและรู้สึกเอาเองว่า คนหนึ่งที่มาจูบที่หน้าผากของอีกคนหนึ่ง การจูบของคนที่จูบเป็นเหมือนการห่วงใย แคร์คนที่ถูกจูบ มันช่างดูอบอุ่นเสียเหลือเกิน นนท์เห็นมาจากหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งที่ แสดงให้เห็นถึงเช้าขึ้นมาสามีตื่นนอนก็ลุกขึ้นมาจูบที่หน้าผากของภรรยา เพื่อแสดงถึงความรัก ความห่วงใย แคร์ให้ภรรยาได้รับรู้ว่า “ ผมรักและแคร์คุณนะ”เอ....หรือว่าที่นัททำกับเราแบบนี้ นัทจะบอกความหมายแบบนั้นกับนนท์หรือป่าว
นนท์เปิดประตูออกมาเพื่อเรียกแม่บ้านให้จัดอาหารเช้าให้ 2 ชุด แล้วให้เอามาให้ด้วย บ้านของนนท์เป็นบ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ๆ ที่แบ่งเป็นสัดส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำ นนท์ไม่ได้ต้องการอะไรที่หรูหราแต่เขาต้องการอยู่แล้วสบาย ๆ ห้องของนนท์ดูโล่ง ๆ เพราะข้าวของส่วนใหญ่รวมทั้งเสื้อผ้าก็จะถูกเก็บไว้ในตู้ จึงทำให้ห้องนั่งเล่นดูโอ่โถง ประกอบกับกระจกบานใหญ่ที่รับแสงอาทิตย์เข้ามาในยามเช้า ทำให้ห้องดูสว่าง นนท์ดัดแปลงและต่อเติมบ้านหลังนี้ซึ่งปลูกมานานแล้ว เพื่อที่นนท์จะเข้ามาอยู่ นนท์จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อชดเชยสิ่งต่าง ๆ ที่นนท์ขาดหรือไม่ได้รับมาเลยในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเตียงขนาดใหญ่ ที่พี่น้องของนนท์ได้รับจากพ่อแม่ แต่นนท์ไม่เคยได้รับ ตู้ใส่เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่สามารถแขวนเสื้อได้เป็นร้อย ๆ ตัว นนท์ก็ดัดแปลงผนังด้านหนึ่งโดยการทำเป็นห้องสำหรับแต่งตัว และสามารถแขวนเสื้อผ้าของเขาได้ทั้งหมด พื้นห้องปูด้วยหินอ่อนเพื่อให้ห้องมีความเย็น โดยเฉพาะห้องน้ำที่นนท์พิถีพิถันออกแบบตกแต่งเป็นพิเศษ นนท์ต้องการให้ห้องน้ำเป็นที่ที่เข้าไปแล้วมีความสุข แม้จะปูกระเบื้องทั้งที่พื้นและที่ผนังด้วยกระเบื้องสีดำก็ตาม แต่วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สะท้อนถึงรสนิยมของนนท์ และความละเอียดอ่อนละเมียดละไมของนนท์ได้อย่างชัดเจน
นัทก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำ ทั้ง ๆ ที่ไม่นุ่งอะไร โผล่หน้าออกมาเรียกนนท์
“พี่นนท์คับ ... ผมหาที่เปิดน้ำไม่ได้คับ..มันเปิดยังไงคับ....”
นนท์ได้ยินก็รีบเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อจะเปิดก๊อกน้ำให้นัท เมื่อเปิดน้ำแล้วนนท์กำลังจะหันตัวเดินกลับออกไป นัทก็คว้าตัวนนท์มาโอบรัดไว้อย่างแน่น แล้วกระซิบบอกข้าง ๆ หูนนท์อย่างแผ่วเบาว่า
“พี่อาบน้ำกับผมอย่างเมื่อคืนอีกนะคับ..”
จบตอนที่ 3
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับผม{:5_130:}
ขอบคุณครับ {:5_120:}
ขอบคุณครับ...{:5_120:} เสียวสุดๆครับ สุดยอด ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ{:1_1:} {:5_119:}{:5_119:}เริดเลอค่า ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ