INPUT โพสต์ 2016-11-19 02:10:27

[คิดไปเอง] บทที่ 10 "เข้าค่ายลูกเสือวิสามัญ" [18/11/2559]

บทที่10 “เข้าค่ายลูกเสือวิสามัญ”
********************************************************************

ขออนุญาตข้ามมาช่วงท้ายเทอมเลยนะครับ

เวลาที่ผ่านมาหลังจากตอนที่แล้วนั้นผมขอเล่าคร่าวๆเพราะลืมไปเยอะมากเลยครับ

ความสัมพันธ์ของผมกับตันไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นทุกอย่างธรรมดาปกติ ช่วงนั้นตันไม่ค่อยมาเรียนมาก็อาจจะมาช่วงบ่ายไม่ก็มาเช้าแล้วโดดบ่ายจนกระทั้งวันหนึ่งผมได้ข่าวจากเพื่อนๆว่าตันเลิกกับฝ้ายแล้ว

ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงบวกกับความคิดที่ยังไม่โตด้วยในตอนนั้นทำได้ก็แค่คอยเทคแคร์ตามใจตันในเรื่องที่เขาอยากได้ อย่างเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่นซื้อสมุด ซื้อปากกา ซื้อน้ำ เก็บจานข้าว และอื่นๆสาเหตุก็คงเป็นเพราะอยากอยู่ใกล้ๆเขา เทคแคร์เขาในยามลำบากละมั้ง เด็กวัยรุ่น อายุ16-17มันคงไม่คิดอะไรมากมายหรอกเนอะจนกระทั้งเราเริ่มสนิทกัน ตันระบายอะไรๆให้ผมฟังในเรื่องที่เขาเป็นทุกข์จนผมเริ่มที่จะรู้จักเขามากขึ้น (เพิ่งเริ่มจะสนิทกันมากขึ้นเฉยๆไม่ถึงขั้นสนิทอะไรมากมายนะครับ)

ส่วนในเรื่องเรียนนั้นโดยเฉพาะวิชาตะไบกว่าจะทำชิ้นงานเสร็จทำเอาแย่เหมือนกันแต่ก็ผ่านกันไปได้ด้วยดีทุกคน รวมทั้งวิชาอื่นๆด้วย
.
.
.
.
.
.
.
“เอาหละนักเรียนต่อแถวรับข้าวกล่องแล้วขึ้นประจำรถบัสของตัวเองเลยนะครับ” เสียงอาจารย์พูดใส่โทรโข่ง

“บาสมึงนั่งกับกูนะ” ตันพูด

“เออๆ” บาสพูดระหว่างที่กำลังส่งกระเป๋าเป้ให้เด็กรถบัสโยนเก็บใต้รถ

“อินมึงนั่งกับกูนะ” ชัยชวนผม

“ได้ๆมึงขึ้นไปจองที่เลยกูขอนั่งริมหน้าต่างนะ” พูดจบก็ขึ้นไปหาที่นั่งบนรถบัสกัน

พักนี้ผมกับไอ้ชัยก็สนิทๆกันมากขึ้นคุยกันถูกคอเพราะมันคุยตลกและมันก็ย้ายมาจากสมุทรปราการเหมือนผมก็เลยคุยกันรู้เรื่อง

“อ่าคันนี้ขึ้นมาครบแล้วหรือยัง” อาจารย์เข็มถามแล้วทำท่านับจำนวนพวกผมที่อยู่บนรถ

อาจารย์เข็มเป็นอาจารย์ในแผนกผมและยังเป็นศิษย์เก่าที่นี่ด้วย

จากนั้นรถก็เคลื่อนออกจากเทคนิคมุ่งสู่ แกรนด์ไลน์ ถุย!!!“ค่ายเสือป่าแคมป์” จังหวัดสระบุรี ครับ

ลืมบอกไปว่าวันนี้พวกเราไปเข้าค่ายลูกเสื้อกันครับเทคนิคก็มีเรียนลูกเสื้อนะ เขาเรียกว่าลูกเสื้อวิสามัญ

ผมนั่งฟังเพลงตลอดทางส่วนไอ้ชัยมันก็เดินระรานไปคุยกับคนนั้นทีคนนี้ทีสักพักก็มีเสียงเพื่อนหัวเราะขำกันกิ๊กกักผมเลยหันไปดูพวกแม่งกำลังเอาเงื่อนเชือกหย่อนลงไปในปากไอ้แรกเลยครับคือไอ้แรกนอนหลับลึกอ้าปากหวอเลย คงจะขาดออกซิเจนมาก

“เฮ่ยๆบาสมึงหย่อนดีๆดิค่อยๆหย่อน” น็อตพูดขณะที่บาสกำลังหย่อนเงื่อนเชือกลงไปเกือบจะลงไปแล้วครับผมอย่างฮาเลยแล้วไอ้แรกก็สะดุ้งตื่นเพราะเพื่อนกลั้นหัวเราะไม่อยู่คือขำดังมากครับ

“ไอ่อ่าเอ่นเอี้ยอะไออันเอี้ยอ้วกเอี้ย” มันพูดประมาณว่าไอ่ห่า เล่นเหี้ยอะไรกันเนี้ยพวกเหี้ย พูดถึงเหี้ยแล้วหิวไก่เลยครับ 555+

ไอ้แรกโมโหเลยด่าพวกมันจึงกลับที่ใครที่มัน แล้วผมก็หลับไปกับไอ้ชัยจนกระทั้ง......
.
.
.
.
.
.
.
.
ปี๊ด ปี๊ดปี๊ด!!! เสียงนกหวีดอาจารย์

“เหี้ย!!!ตื่นๆอาจารย์เรียกให้ลงไปจัดแถวข้างล่าง” ไอ้โอ๊ตกับไอ้มอส ตะโกนเรียกเพื่อนๆที่ยังหลับอยู่

“ชัย ตื่นๆ” ผมสะดุ้งตื่นแล้วจึงสะกิดไอ้ชัยต่อ

ทุกคนรีบวิ่งไปลงข้างล่างผมหันไปเจอไอ้แรกแม่งยังหลับอ้าปากอยู่เลยไอ้ชัยจึงวิ่งไปตบปากที่ห้อยๆของมัน แม่งสะดุ้งเลยครับแต่เวลานั้นผมคงไม่ฮาจึงรีบลงไปกัน

“หมอบๆๆๆๆ” อาจารย์สั่ง พวกผมก็ค่อยๆก้มหมอบลงไปคือมันไม่ได้โหดอะไรมากมาย แค่เหมือนแกล้งเล่นๆอะครับ

ขณะที่ผมหมอบลงไปรู้สึกว่ามันอึดอัดเพราะหมอบชิดๆกันหมดเลยครับ

“เหี้ยใครหายใจแรงจังว่ะ” ผมหลับตาบ่นเบาๆเพราะรู้สึกมีเสียงลมหายใจดังขึ้นข้างๆหู ขณะที่หน้าจมดินอยู่

“กูเองๆ”

“ใครว่ะกูเองอะ”

“ตันๆ”

“อ่าวตันหรอ”

“แล้วมึงใคร” อ่าวคิดว่ามึงรู้ว่าเป็นกู

“อินๆ”

“คุยอะไรกันหมอบอยู่ไม่ใช่หรอ” เสียงอาจารย์ดุใส่

“เอาหละใครที่มีพระลุกขึ้นเอาพระมาฝากอาจารย์ เดี๋ยวทำกิจกรรมแล้วจะหายเอา” อาจารย์พูดพวกผมก็ลุกถอดสร้อยพระฝากอาจารย์ไว้แล้วกลับมาหมอบต่อ แต่หมอบลงที่ใหม่นะครับผมไม่กล้าหมอบใกล้ตัน มันเหมือนจะสปาร์คไฟดูด

“ลุก” อาจารย์สั่ง

“เดี๋ยวเข้าแถวตามหมู่ของตัวเองแล้วเดินเข้าไปในป่านะระหว่างทางจะมีอาจารย์ประจำฐานอยู่ ก่อน 5 โมงเย็นทุกคนต้องถึง ค่ายเสือป่าแคมป์ นะ” อาจารย์อธิบายพร้อมกับกำชับเวลา

จากนั้นพวกเราก็เข้าแถวเป็นหมู่ใครหมู่มันเทคนิคผมเขาจัดหมู่ตามกลุ่มที่เรียน เช่นผมกลุ่ม 4 ก็จะได้อยู่หมู่เดียวกันหมด

แล้วเราก็เริ่มเดินทางไกลกันโดยมีไอ้บาสเป็นหัวหน้าหมู่และผมเป็นรองหัวหน้าหมู่เดินอยู่หลังสุด

เราเดินผ่านกันไปหลายฐานจนมาถึง....

“เอาหละฐานนี้เป็นฐานกู้ระเบิดตั้งใจฟังกติกากันด้วยนะ” อาจารย์พูด

“เอ่อ...จารย์ครับ” อาฟู่ยกมือขึ้นเรียกอาจารย์ตัวสั่นริกๆ

“ว่าไงครับ”

“ผมปวดท้องขอตัวไปขี้ได้ไหมครับ!!!!” อื้ม...งานหยาบแล้วไงไอ่เหี้ยในป่าแบบนี้ด้วย

จากนั้นมันก็วิ่งหายไปในป่าเพื่อไปขี้.....เรื่องขี้เป็นนิสัยติดตัวของมันเลยครับจริงๆ

อาจารย์ไม่รอช้าเพราะนี่ก็เริ่มจะเย็นมากแล้วจึงให้พวกผมทำกิจกรรมกันเลย พอเสร็จไอ้อาฟู่ก็กลับเข้ามาพอดีแล้วพวกเราก็เดินไปข้างหน้ากันต่อจนกระทั้งถึงค่ายเสือป่าแคมป์อาจารย์ก็บอกเลขบ้านพักของพวกผมแล้วให้นำกระเป๋าไปเก็บกันบ้านที่พวกผมพักกันนั้นมันนอนได้ 20 คนก็มีกลุ่ม 3 ปนมาด้วยไม่กี่คน แล้วก็ กลุ่ม 5 แต่พวกนี้ไม่สนิทกับพวกผมจึงย้ายของไปนอนกับพวกกลุ่มเขา

พวกเราเพียงแค่พาสัมภาระไว้กลางห้องแล้วรีบไปรวมตัวที่ห้องโถงเพื่อฟังรายละเลียดของกิจกรรมที่จะต้องทำให้วันพรุ่งนี้ส่วนวันนี้ก็เย็นมากแล้วอาจารย์พาพวกผมไปกินข้าวที่โรงครัวใหญ่อาหารน่ากินฉิบหายเลยครับ แกงส้มผักกาดล้วน ผัดหมู 3 ขีด ผัก 3 กิโล น่าแดกจริงๆนะครับ ให้กูกินเจเลยไหมแต่มันก็แบบนี้แหละไม่งั้นคงไม่เรียกว่าเข้าค่ายสินะ เฮ้อ.....

กินข้าวเสร็จก็มาจัดแจงเรื่องที่หลับที่นอนกันครับ

“เฮ่ยบาสกูนอนใกล้มึงนะ” ตันพูด

มึงสองตัวนี่เป็นอะไรกันมากปะเนี่ยแลตันจะติดไอ้บาสเหลือเกิน

“เออๆ” คำตอบเดิมๆของมัน

ขณะที่เพื่อนๆกำลังหาที่ลงอยู่ผมก็ยืนเก้ๆกังๆไม่รู้จะนอนตรงไหนดี

“อิน มานอนตรง...” ตันพูดชวนผมยังไม่ทันจบ

“เหี้ยอินมึงมานี่ๆ มานอนฝั่งพวกกูมา” ไอ้ชัยเรียกผมก็มองหน้าตันตันมองกลับประมาณว่าจะนอนตรงไหนก็เรื่องของมึงเลือกเอาเองโตแล้วไอ้ควาย(คำหลังผมเติมเองนะครับ 555)

สถานการณ์แบบนี้ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าผมต้องไปนอนกับ....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“เออๆ” ผมเดินเอาสัมภาระไปว่างไว้ใกล้ๆไอ้ชัย

ส้นตีนจริงๆเลยนะมึงอะเฮ้อ....

บ้านนี้มีแค่ชั้นเดียวพัดลมติดอยู่ที่คานไม้ 1 ตัวมีห้องน้ำในตัว และใหญ่อยู่ครับ มีที่นอนอยู่ 2 ฝั่ง ถ้าเดินเข้ามามองไปฝั่งซ้ายเรียงจากหน้าประตูจะเป็น แรก ตัน บาส น็อต โอ๊ต มอส อาฟู่ และบิ๊ก ส่วนอีกฝั่งเป็นเพื่อนกลุ่ม 3 เต้นิว เล็ก ภีม(เกย์)ต่อมาเป็น ผม ชัย โจ๋ และตาม

เมื่อจัดที่นอนเสร็จก็ได้เวลาอาบน้ำเอ่อ...แล้ว แล้ว ยังไงละ ห้องน้ำในบ้านมันไว้สำหรับ ขี้เยี่ยวอย่างเดียวสรุปคือกูต้องไปแก้ผ้าอาบห้องรวมใช่ไหม


ไม่เอาน่า



ไม่ๆ



“อาบน้ำห้องรวมกูไม่เอานะกูอายอะ” ผมพูดขึ้น

“มึงจะเรื่องมากทำไมกันว่ะผู้ชายด้วยกันทั้งนั้นอาบไปเหอะ วิดๆน้ำแปบเดียวก็เสร็จละ” เล็กเพื่อนกลุ่ม 3 พูดขึ้นและเดินเข้ามากับ นิว เต้ ภีมที่ไปอาบน้ำห้องรวมกันมาเรียบร้อยแล้ว

สรุปพวกกลุ่ม 4 ของผมตัดสินใจกันว่าไม่อาบห้องรวม


อ่าว


แล้วมึงจะอาบกันที่ไหน


อย่าบอกนะว่าในห้อง...ขี้...เยี่ยวแห่งนี้!!!!


นั่นแหละครับสรุปก็ต้องอาบกันในนั้น เข้าเป็นคู่ครับ ผมเข้ากับไอ้ชัย คู่ท้ายๆเลยเราอาบน้ำกันโดยการหยิบ ขัน ที่ไว้ใช้ล้างตูดและราดส้วมมาตักน้ำที่เขาไว้ใช้ล้างส้วมอาบกัน นึกภาพประมาณห้องน้ำปั้ม ต่างจังหวัดอ่าครับแบบนั้นเลย ผมไม่รอช้าควักน้ำตักราด ตักราด ถูสบู่ ล้างๆเรียบร้อย แล้วออกมาให้คนอื่นเข้าต่อ

ทำกิจธุระของแต่ละคนเสร็จก็ปิดไฟนอนครับ

แต่คิดจริงๆหรอว่าไอ่พวกบ้านี่มันจะนอน มันรอแกล้งใครหลับโดนป้ายยาสีฟันชัวร์ผมนี่นอนไม่หลับเลย มองขึ้นไปเพดานก็เจอคานไม้ใหญ่ โอ้วฉิบหาย นึกถึงหนังผีเลยครับผมไม่รอช้าลุกขึ้นมานั่งแล้วก็....

“ทำห่าอะไรของมึงว่ะอิน” ชัยพูดขณะนอนอยู่ข้างๆผม

“สวดมนต์....” แล้วผมก็หยิบลูกประคำ ที่เก็บไว้ในเป๋และหนังสือ “มนต์พิธีแปล” พร้อมกับสวด ชินบัญชร พาหุงมหากาตามสัญชาติญาณหมอผีของผม บ้าจริงกู 5555+

แต่....ใครว่าผมบ้าคนเดียวละไอ้เล็กก็ลุกมาสวดกับผมด้วย

ขณะเดียวกันมีแสงสีขาววูบวาบในความมืดหรือว่าเขาจะรับรู้ได้ถึงความเมตตาที่ผมแผ่ส่งออกไปได้กันนะ.....ถุย!!!

“ฉิบหายกระสือ!!!” ไอ้ตามอุทานขึ้น

“กระสือเหี้ยอะไรละ อาจารย์เขาส่องไฟตามบ้าน ดูว่าใครยังไม่นอนอะดิ” นิว กลุ่ม 3 พูดขึ้น

“เฮ่ยยังไม่นอนกันอีกหรอว่ะ!!!” เสียงอาจารย์ตะโกนเข้ามาในบ้านที่พวกผมนอนอยู่พร้อมส่องไฟเข้ามา

ผมนี่โห่...ไม่อยากจะพูดเลยครับ กำลังอยู่ในอิริยาบถสวดมนต์อยู่แท้ๆรีบฟุบนอนเหมือนตายเลยครับ

ผีก็ผีเถอะยังไงอาจารย์แม่งก็น่ากลัวกว่า 555+

เมื่อพวกผมเงียบอาจารย์ก็เดินไปหลังต่อๆไป จากนั้นพวกผมก็หลับไปตอนไหนไม่รู้ครับ

เช้าวันต่อมา

กลิ่นปริศนาลี้ลับกลิ่นหนึ่งโชยขึ้นผมซึ่งนอนหลับอยู่ก็สัมผัสกลิ่นนั้นได้ มันคือนามธรรมเหมือนๆอย่างหนึ่งผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นมานั่ง เห็นรองเท้าลูกเสื้อของไอ้แรกคือมันเหม็นมาก กลิ่นเหมือนเหี้ยอะไรตายไม่รู้ครับไม่ใช่แค่ผมคนเดียวใครที่ตื่นๆอยู่ก็บ่นๆกันเหลือเพียงคนคนนึงที่ยังนอนแน่นิ่งอยู่ ผมหันไปมองตันซึ่งหลับอยู่แต่เหมือนมีอะไรมาสะกิดลูกตาผมให้มองต่ำลงไปเรื่อยๆ

เอ่อ....ฉิบหายตันนอนอ้าขา อ้าซ่า แผ่ไพรศาล มองเห็น กกน. ข้างใน เต็ม 2 ลูกตาที่ใหญ่เท่าไข่ห่านของผมเลยครับเอาตรงๆตอนนั้นก็รู้สึกอยู่นะครับ

คือส่วนลึกผมก็เคยนึกนะว่าตัวเองต้องเป็นแน่ๆแต่พอมีสติขึ้นมาก็บอกว่าไม่ใช่หรอก ไอ่ห่ามึงไม่ได้เป็นว่าแล้วผมก็ได้สติแล้วลุกไป เข้าไปแปรงฟันอาบน้ำพร้อมกับไอ้ชัย เพราะ ตาม โจ๋ออกมาจากห้องน้ำแล้ว

หลังจากที่ทำกิจธุระของแต่ละคนเสร็จก็รีบวิ่งแจ่นกันไปที่ห้องโถงกันเพื่อเข้าแถวตามหมู่และทำกิจกรรมตามฐานต่างๆ

อาจารย์ให้จับคู่กันในหมู่เพื่อทำกิจกรรมพร้อมกับแจกแผ่นพับสีเขียวเล็กๆเอาไว้ปั้มตามฐานต่างๆที่เราผ่านมา ผมก็คงต้องคู่ไอ้ชัยนี่แหละแล้วเราก็ไปตะลุยตามฐานต่างๆ มีทั้งลอดห่วงยาง ปีนเชือก โหนเชือก โดดหอและอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งดูรวมๆแล้วแม่งก็ไม่ต่างจาก “ดรีมเวอร์” สักเท่าไหร่

เข้าฐานกันสนุกสนานเลยครับแต่ละคนคงมีแค่ผมนี่แหละเพราะผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เท่าไหร่เบื่อๆผมก็ตามไอ้ชัยไปฐานต่างๆจนกระทั้งบ่ายอ่อนๆ

“อินมาฐานนี่ดีกว่า โหนเชือกทาร์ซาน” ชัยชวนผมไอ่โหนเชือกทาร์ซานนี่ผมคิดเองนะครับ คือจำชื่อฐานไม่ได้แล้วครับ

“กูเริ่มเบื่อแล้วว่ะ” ผมบ่น

“ไอ่ห่ามึงเข้าฐานนี้ก่อน เสร็จแล้วค่อยกลับที่พักกัน นี่ก็ได้ตั้งเกือบครบแล้วเนี่ย” ผมโชว์ตราปั้มให้ดูก็ใกล้ครบอย่างที่มันว่าแหละครับ คือไม่ต้องครบก็ได้ถ้าคิดเป็น % ก็ต้องมากกว่า 80% ถึงจะผ่านวิชาลูกเสื้อนี่ไปได้

“เออๆเอาก็เอาว่ะ ให้มันจบๆไปห่า” ผมบ่นพร้อมกับเดินไปต่อคิวที่ฐานเพราะตอนนี้มีคนโหนอยู่

ผมก็ดูอยู่หลายคนแม้งโหนกากๆทั้งนั้นโหนไปแล้วขาจุ่มโคลนก็มี บางคนอ้วนๆนี่ลงไปในโคลนเลยผมก็ค่อยแนะนำคนที่โหนๆอยู่ว่าให้โหนแบบไหน จนกระทั้งถึงตาผมกับไอ้ชัย

“เอายังไงมึงหรือกูก่อน” ชัยถามผม

“มึงก่อนเลย”
พูดจบไอ้ชัยก็โหนพลิ้วเลยครับเทคเดียวผ่านเพราะแม้งตัวเตี้ยและตัวเล็กด้วย ยังไงก็ผ่านฉลุย

ที่นี้ก็คิวกูแล้วสิเฮ้อ เอาหละเป็นไงเป็นกันผมจับเชือกแล้วโหนโดยที่ไม่จับเชือกถอยหลังแล้ววิ่งแบบคนอื่น คือผมลืมด้วยแหละแล้วยังไงละ น้ำหนังตัวกูก็ไม่ได้หนักอะไรมากมายนะ 53-54 โดยประมาณ แต่แม้งไม่มีแรงเหวี่ยงอะดิเพราะไม่ยอมถอยไปสุดแล้ววิ่งมา สรุปกูก็ตกลงไปใน ล่องมรณะนั้น



“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย” ร้องเหมือนทาร์ซานไหมละกู



แบะ ล่วงตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!! เกิดเป็น “โกโก้ครั้นช์” เลยกู



รู้สึกอายมากเลยครับมีแต่เสียงหัวเราะ เพราะอะไรหนะหรอ ก็ผมเล่นไปสอนเขาตั้งหลายคนแล้วพอมาทีตัวเองก็ทำไม่ได้ไอ้ชัยหัวเราะดัง เฮอเฮ๊อ~ ตามนิสัยของมันแล้วก็จับมือฉุดผมขึ้นมาจากล่องมรณะ แล้วพาผมกลับที่พักเลยครับ

ไปถึงผมก็เจอเพื่อนบางคู่กลับมาอยู่ก่อนแล้ว อย่างตัน บาส โอ๊ต น็อตพอผมเข้าไปเพื่อนๆเห็นก็ขำกันฉิบหายเลยครับ อายหนักกว่าเดิมอีกทีนี้แล้วผมก็เข้าไปอาบน้ำ ล้างชุดที่เปื่อนโคลนแล้วเอาออกมาพึ่งแดดข้างนอก

ตกเย็นทุกคนก็กลับมากันจนครบเราก็ไปกินข้าวกันที่โรงอาหารตามเวลาที่อาจารย์นัดหมายไว้ กินเสร็จก็ไปห้องโถงใหญ่มีการแสดงของเด็กอาชีวะ เขามาเต้นรำให้ดู คือ ผอ. เขาส่งหนังสือเชิญให้มาช่วยสร้างความสนุกสนานในกิจกรรมรอบกองไฟอ่าครับจบกิจกรรมทุกคนก็แยกย้ายกันกลับที่พัก

ขณะที่พวกผมเดินผ่านรถของอาชีวะ ก็มีพวก ผญ. ที่เขามาเต้นรำให้ดูตอนต้นกิจกรรมรอบกองไฟกำลังเกาะกลุ่มคุยกันตามประสาผู้หญิงอะครับ

“เฮ่ยน่ารักดีว่ะคนนั้นอะ” บาสพูดขึ้น

“เออจริงด้วยไอ้ตันมึงเอาคนนี้ดิ เดินเข้าไปขอเบอร์เลยจะได้หายโสดสักทีมึง” น็อตพูดขึ้นแล้วสะกิดตัน

“จะดีหรอว่ะแต่แม่งน่ารักจริง” ตันพูดแล้วเพื่อนๆก็เชียร์กันใหญ่บอกให้ไปขอเบอร์เลย

ตันก็เดินไปจริงๆครับผมไม่รู้เขาคุยอะไรกันเพราะระยะมันก็ห่างอยู่พอสมควร คงประมาณว่าขอเบอร์ละมั้งครับแต่แล้วก็....

“เฮ่ยนี่แฟนกูสัส” เด็กช่างไฟฟ้าเดินมาครับฉิบหายแล้วสิตันดันไปจีบคนมีเจ้าของอีก

พวกผมยืนมองด้วยความตกใจตันเองก็ด้วยคงทำอะไรไม่ถูก ไอ้ช่างไฟฟ้าคนนั้นทำท่าจะหาเรื่องตันพร้อมกับพวกของมัน แต่แล้วก็มีพวกช่างยนต์ที่ตันรู้จักผ่านมาเลยเข้ามาดูเชิงอยู่ข้างหลังพร้อมกับช่างกลพวกของบูม (ยังจำบูมได้ใช่ไหมครับ)เพราะคงเห็นว่าพวกผมเหมือนจะมีเรื่องเลยเข้ามาดูมั้งครับ

“อินมีอะไรกันว่ะ” บูมถามผม

“ไม่รู้ว่ะแต่เพื่อนกูจะโดนช่างไฟเล่นแน่ๆเลย” ผมพูดอย่างกังวลพวกบูมก็ยังคงยืนดูเชิงข้างพวกผมเหมือนกัน

“มึงจะเอายังไงว่ะมึงช่างอะไร” ไอ้ช่างไฟคนนั้นมันถาม

“กูช่างอิเล็กแล้วไงยังไงว่ะ กูไม่รู้นี่หว่าว่านี่แฟนมึง เพราะเขาก็ยังให้เบอร์ก็อยู่เลย” ตันตอบ อย่างไม่เกรง

ส่วนพวกกลุ่มผู้หญิงอาชีวะพวกนั้น ก็นิ่งเงียบคงทำตัวไม่ถูกเหมือนกันแหละครับโดยเฉพาะผู้หญิงคนที่ตันไปขอเบอร์ หน้าเสียเลยครับ

“เฮ่ยมึงไม่ต้องกลัวมีอะไรเดี่ยวพวกกูช่วย” เพื่อนช่างยนต์ของตันพูดขึ้นพร้อมเดินเข้ามาแตะไหล่ตันขณะที่พวกช่างไฟมันก็จ้องพวกผมอย่างจะเอาเรื่อง

ตอนนี้พวกผมก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันครับพวกผมคนน้อยด้วยแต่ถ้าจะเอาจริงๆพวกผมก็คงสู้อยู่แล้วคงมีเพียงผมนี่แหละที่ไม่สู้คน

“เฮ่ยๆ อะไรกัน” อาจารย์พูดแล้วเดินเข้ามาครับ

ตอนนั้นมีอาจารย์เข็มอาจารย์สุดใจ และอาจารย์ผู้หญิงอีก 2 คนเดินตามเข้ามา

“ไม่มีอะไรครับอาจารย์” ช่างไฟคนนั้นพูด

“อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่ามีเรื่องกันหนะกินข้าวก็จานเดียวกัน ยังจะกัดกันเหมือนหมาให้อายสถาบันอื่นเขาอีก” อาจารย์สุดใจตำหนิแต่ลึกๆก็แฝงไปด้วยคำสอนเตือนสติ

หลังจากนั้นอาจารย์ก็สลายการชุมนุมของพวกผม

เช้าวันต่อมาพวกเราเตรียมเก็บข้าวของกลับบ้านกัน ผมดีใจสุดๆเลยเพราะผมเบื่อที่นี่มากผมไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้เท่าไหร่ เมื่อทุกคนเก็บของเสร็จก็ไปรวมที่ห้องโถงใหญ่มีการปิดพิธีและถ่ายรูปรวมกัน แล้วก็ขึ้นรบกลับเทคนิคก่อนกลับผมก็ซื้อกะหรี่ปั๊บไปฝากพ่อแม่และอุ้มน้องสาวผม


จบ ปวช.1
*
*
*
*
*ขอขอบคุณสำหรับคำคอมเม้นท์และผู้อ่านทุกท่านนะครับ

ขออภัยคำบางคำไม่สุภาพและเป็นภาษาพูดนะครับ**************************************************************************************************************************************************************

minone โพสต์ 2016-11-19 02:24:28

ขอบคุณครับผม{:5_130:}

pipi1 โพสต์ 2016-11-19 08:56:25

{:5_119:}ขอบคุนครับ{:5_119:}

bomb2534 โพสต์ 2016-11-19 12:34:48

ขอบคุณครับ

Nikezero โพสต์ 2016-11-19 17:09:17

อ่านแล้ว นึกถึง สมัย ปวช. เมื่อ3 ปี ก่อน เลย 555 เข้าค่ายลูกเสือเนี่ย

INPUT โพสต์ 2016-11-19 19:47:56

ขอบคุณทุกคำคอมเม้นท์และผู้ติดตามอ่านทุกท่านนะครับ

ไม่คิดว่าจะมีคนเรียนเทคนิคในนี้ด้วย

freezz โพสต์ 2016-11-30 17:20:57

นึกถึงค่ายลูกเสือ ม.ต้นมีแต่เรื่องสนุกๆ

Armoola โพสต์ 2017-3-30 04:40:10

{:5_127:}

Armoola โพสต์ 2017-3-30 04:40:14

{:5_127:}
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: [คิดไปเอง] บทที่ 10 "เข้าค่ายลูกเสือวิสามัญ" [18/11/2559]