ตำรวจหนุ่ม โดนเด็ก15 ซอยจนน้ำกระฉูด
ผมอายุ30 ปีเป็นตำรวจภูธร อำเภอบ้านอกคอกนาแถวภาคอีสาน แต่ตัวผมเป็นคนสุพรรณ แต่งงานกับคนที่นี่เลยตั้งรกรากที่นี่ ผมมีลูกกำลังน่ารัก อายุสองขวบ ถือได้ว่าเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉาได้เลยในสังคมชนบทแบบเรา ผัวตำรวจหนุ่มหล่อ เมียเป็นหมอสาวสวย และผมก็รักเมียมากๆเป็นแฟมิลี่แมน จนกระทั่ง..จริงแล้วผมก็พอจะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นเสือไบมาตั้งแต่สมัย เรียน ม.4 แล้ว ช่วงนั้นผมเป็นเสือผู้หญิงเลย ผมฟันดะทั้งเพื่อนนักเรียน หรือพวกรุ่นพี่ระดับมหาลัย จนถึงพวกสาวเล็กสาวใหญ่ ผม เป็นนักกีฬาโรงเรียนและ จังหวัด แม้จะผิวคล้ำดำแดงแบบคนสุพรรณ ผมหยักโศกขนดกดำ แต่หุ่นนักกีฬา หน้าตาพูดได้เต็มปากว่าหล่อคมเข้ม โดยเฉพาะคิ้วที่เข้มเป็นปื้นต่อกัน อำเภอที่ผมอยู่ก็เป็นอำเภอเล็กๆในสุพรรณ บ้านผมก็พอมีหน้าตา เป็นหมอทั้งบ้าน ผมเลยดูไฮโซนิดๆ แต่ผมจะดูเซอร์(ปนซกมก) เลยมีแฟนคลับเยอะทีเดียว แต่ที่ผมรู้ว่าตัวเองเป็นเสือไบ ก็ตอนที่จะต้องไปเรียนเตรียม นี่แหละ คือผมสอบได้ แล้ว จะไม่ได้เรียนม 5 ต่อ ตอนนั้นผมมีเพื่อนสนิท คนนึง สนิทกันตั้งแต่ป.5 มันชื่อ แต้ เป็นลูกเสี้ยว ญี่ปุ่น ตัวเล็กๆขาวๆ เงียบๆ เป็นคนละขั้วกับผมเลยในด้านนิสัย แต่ด้วยความที่เราเรียนเก่งกันทั้งคู่ เลยสนิทกัน ผมชอบพามันแหกคอก มันจะชอบตามผมไปโน่นนี่ตลอดแม้แต่ไปล่อหญิง จริงๆก็มีคนมาชอบมันเยอะ มันก็หม้อและขี้เอา เพียงแต่น้อยกว่าผม(อิๆ)เพราะมันน่าตาดี เพียงแต่ตัวเล็กหน่อย และที่มันเหมือนผมก็คือ มันเป็นอาตี๋ที่ตาคมและคิ้วดกมากๆ ผมและมันเลยค่อนข้างเป็นคู่ที่เด่นของโรงเรียน ตอนที่ผมจะต้องไปเรียนต่อ เพื่อนๆก็พากันไปเลี้ยง กินเหล้าต้มกัน ไปกันเกือบทั้งห้องแอบกินที่กระท่อมปลายนา (ก็พวกผมยังเด็กนี่เลยต้องแอบ) เสร็จงานเลี้ยงประมาณสองทุ่มกว่าๆก็ต้องรีบแยกย้ายกันกลับบ้าน ไอ้แต้นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซผมกลับบ้าน มันชวนผมไปนอนบ้านมัน ระหว่างทาง มันก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า ผมจะคิดถึงมันมั้ย ตอนแรกไม่ได้สนใจ มันก็ถามซ้ำและต่อด้วยว่า กูกับมึงอาจจะไม่ได้เจอกันอีกนานหรือไม่เจอกันเลยนะโว้ย ความเป็นเพื่อนเราอาจจะแน่นแฟ้นที่สุดวันนี้ หลังจากนี้มันอาจจางลงๆ จนไม่เหลือเลยก็ได้ แล้วมันก็เงียบ ผมก็อึ้งกับคำพูดมันพอนึกตามแล้วก็รู้สึกโหวงๆขึ้นมา ผมขับรถช้าลงกินลมทุ่งยามค่ำไปเรื่อยๆ มันกับผมต่างเงียบ แล้วสักพักมันก็พูดเบาๆ ว่า กูดีใจว่ะที่รู้จักมึง กูเมา กูกลัวตกรถว่ะ แล้วมันก็กอดเอวผม แล้วหลับซบหลังผม ตอนนั้นพอมันกอดผมผมก็รู้สึกหวิววาบ รู้สึกดี มันเป็นความรู้สึก กึ่งหวานกึ่งเศร้า บอกไม่ถูก เพราะผมรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย แต่ก็เศร้าอาลัยที่ต้องจากกัน ผมขับรถไปเรื่อย ๆ แล้วผมก็รู้ว่ามันไม่ได้หลับเพราะผมรู้สึกถึงความอุ่นวาบที่หัวใหล่... มันร้องให้ .... ผมก็ร้องให้
ผมขับรถไปนอนที่บ้านมันตามที่มันชวน สวัสดีพ่อแม่มันแล้วขออนุญาตใช้โทรศัพน์โทรกลับไปบอกพ่อแม่ผม พอขึ้นเตียงมันก็หลับเลยโดยที่เราไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ ผมก็นอนลืมตาโพลง นึกถึงคำพูดไอ้แต้แล้วก็ใจหาย น้ำตารื้นขึ้นมาอีก แอบหันไปดูมัน รู้สึกแปลกๆ ผมกับมันสนิทกันมาก คิดว่ารู้ใจกันทุกอย่าง เหมือนพี่น้องด้วยซ้ำเพราะเราไม่มีพี่น้องทั้งคู่ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าเราต่างไม่รู้จักกันจริงๆทั้งที่เรานั้นรู้ใจกันที่ สุด เพียงแต่ไม่เคยที่จะคิด หรือว่าเพราะผมมองมันในมุมที่แปลกขึ้น ผมไม่หลับอยู่นานใจหวิวๆ ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าทำไม แต่มันดันนอนกรนฟี้ๆ ผมหมั่นไส้ เลยถีบมันแรงมันก็ยังนอนกรนต่อ ไม่รุ้ทำไมผมก็ตัดสินใจลุกขึ้นไปนั่งจ้องหน้ามันใกล้ๆสักพัก แล้วโดยไม่รู้ตัว(รึเปล่า) ผมก็โน้มตัวลงไปหอมแก้มมัน ผมใจเต้นโครม กลัวมันรู้ตัว แต่ใจนึงก็แปลกใจ ใจนึงก็มีความสุข ผมนั่งนิ่งอยู่นาน แล้วตัดสินใจโน้มตัวลงไปใหม่ แต่คราวนี้ ผม.. จูบ จูบเบาๆที่ปากมันตอนแรกผมกะจะแค่ริมฝีปากแตะๆ แต่ผมกลับจูบปากมันเต็มๆผม หวิวๆอย่างไม่เคยเป็นทั้งๆที่เคยจูบผู้หญิงมามากต่อมาก แล้วผมก็ถอนปากออกใจเต้นโครมๆ ผมมีอารมณ์ทันที แต่ก็กลัวว่าความรู้สึกดีจะหายไปหากผมจะทำอะไรลงไป ผมจึงตัดสินใจนอนลงหันหลังให้มัน นึกในใจ เราทำอะไร วะ เป็นอะไรไปนี่ พักใหญ่ๆ ไอ้แต้ ก็พลิกตัวมากอดผมเอาขาก่ายผมหลวมๆ เหมือนเพื่อนนอนกอดกัน แล้ว งึมงัมให้เหมือนคนงัวเงีย ว่า เป็นไรวะ .. นอนได้แล้วไอ้ห่า... เสียงมันเหมือนสะอื้นหน่อยๆ แล้วมันก็เงียบไป ผมนอนเกร็งไม่กระดิกนึกว่ามันจะด่าผม ที่ไปจูบมัน มันนอนกอดผมนิ่ง ผมเรียกมันเบาๆ มันก็เฉย สักพักผมเลิกเกร็ง รู้สึกมีความสุขมากที่มันกอด แล้วเราก็ผล็อยหลับกันไปจนเช้า.....
.....ผมกับไอ้แต้ก็เจอกันน้อยลงๆ จนผมทำงานก็แทบไม่ได้เจอมันเลย (ผมยังคิดถึงความรู้สึกวันที่ขับรถไปนอนบ้านมันได้มันติดในใจผมจนทุกวันนี้ แม้ผ่านๆมาผมจะมีแฟนผู้หญิแล้วหลายคน แต่ก็มีหลายๆครั้งที่ผมอดคิดถึงมันไม่ได้) เจอกันหลังสุดก็งานแต่งผม(3ปีมาแล้ว) มันขับรถมาถึงสุพรรณ (ตอนนั้นมันเป็นเทคโนธรณีที่พม่า งานมันต้องบุกป่าฝ่าดงไปในที่กันดาร ไม่ว่าในไทย พม่า หรือแม้แต่อาฟริกา โดยที่มันสมัคใจไปแต่ที่ใกลๆ พ่อแม่มัน บ่นให้ผมฟังทุกครั้งที่ไปเยี่ยม ) ผมดีใจมากๆ เพราะผมกลัวมันไม่มา มันดูแปลกตากว่าเดิม ตัวเล็กเหมือนเดิม แต่ดูแกร่งขึ้น เข้มขึ้น ท่าทางก็ดูขรึมเข้มขึ้นเยอะ คิ้วยังเข้มดกเหมือนเดิม แต่นัยน์ตาดูโศรกๆซึ้ง ๆผิวเป็นสีทองๆแดงๆ เหมือนคนขาวอาบแดด ดูไม่เหมือนคนไทยเลย พวกเพื่อนๆเจ้าสาวกริ๊ดกร๊าดมันมากยิ่งรู้ว่ามันโสด เรียกได้ว่ามันโขมยซีนผมไปเลย เพราะก่อนหน้านี้ พวกเพื่อนๆแฟนผมจะชอบมากระเซ้าเย้าแหย่แฟนผมว่า หย่ากันเมือ่ใหร่ จะ มาขอผมไปกกแทน 555 มันอยู่ร่วมงานผมทั้งสองวัน ก่อนกลับมันเดินมาตบหลังตบบ่าผมแล้วบอกว่า กูรอวันนี้มานาน มึงมีความสุขกูก็มีความสุข ที่กูไม่มีครอบครัวนี่ก็รอดูมึงอยู่ พอมึงแต่งกูก็ไม่ต้องรอแล้ว ผมเลยถามมันว่า มึงจะ รอทำกูทำซากอะไรวะ มันแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน บอกว่า กูจะดูมึงหมดอิสรภาพไง 555 มันหัวเราะเสียงแปร่ง มันเงียบสักพัก ผมก็รู้สึกแล้วว่ามันไม่ได้ร่าเริงอย่างที่มันพูด แล้วมันก็พูดจริงจังว่า กูรอดูมึงจริงนะ มึงรู้ใช่มั้ย ผมได้แต่นิ่งแต่ก้อนจุกวิ่งมาที่อก แล้ว แล้วมันก็พูดต่อว่า วันนั้น.... มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูไม่ได้หลับ... .... ผมนิ่งไปสักพัก แล้วส่งเสียงเครือๆว่า อือ.... เพราะก้อนสะอื้นมันจุกคอ มันพูดต่อด้วยเสียงแตกพร่าว่า กูแน่ใจว่ามึงรู้... กูรู้... ทำไม.. ... แล้วมันก็เดินไปขึ้นรถขับออกไป พอมันพ้นตาไปเท่านั้นแหละ ผมก็สะอื้นออกมา ผมร้องให้ตรงนั้นอยู่นานทีเดียว .....
นั่นคือความหลัง........กึ่งหวานกึ่งเศร้า ..... ผมชอบคำนี้จัง....
..............555 เกริ่นนานไปโทษที จากประสบการณ์เสียวจะกลายเป็นเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาไป เข้าเรื่องเลย .....
เรื่อง มันเริ่มเมื่อปีกลายนี่เองครับ เพราะเด็กคนเดียวแท้ๆ .... แขกเป็นหลานของแฟนผม แขกอยู่หอพัก แต่พอผมสร้างบ้านเสร็จ แฟนผมเลยอยากให้แขกมาอยู่ด้วยจะได้ดูแลได้ และเป็นเพื่อน เล่นกับลูกผมด้วย เพราะแฟนผมก็เคยเลี้ยงแขกเหมือนเป็นน้องตั้งแต่แขกยังเด็ก
ตอนแรกที่ผม เห็นแขก ผมก็นึกเอ็นดูเลย(แบบบริสุทธ์ใจน่ะครับ) เพราะเป็นเด็กเงียบๆแต่ไม่หงอย นิสัยดี และมันมีบางอย่างที่คล้ายๆ ไอ้แต้ เพื่อนคนพิเศษของผมอยู่ โดยเฉพาะคิ้วเข้มๆตัวขาวๆ เล็กๆแต่ผมก็ไม่ได้สนิทอะไรมากนัก มีนานๆทีที่ผมพาไปเตะบอลด้วย และผมก็ไม่เคยคิดะไรไปในทางกามกับแขกเลย จนกระทั่ง ....
แม้ผมจะเป็น เสือไบแต่ผมก็ไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายเลยมาเป็นชาติ จริงแล้วผมมีเซ็กส์กับผู้ชายแทบจะนับครั้งได้เลย มีแค่ช่วง ที่ผมเรียนใกล้จบ ที่มีอะไรกับเพื่อนด้วยกันแบบขำๆ แต่มันก็ทำให้ผมแน่ใจว่าเป็นไบแน่ๆ แต่ก็ไม่เดือดร้อนเพราะตอนนั้นผมมีแฟนหลายคน(ผู้หญิง)เรื่องเซ็กส์ผมจึงไม่ ขาด และผมก็รู้สึกชอบการมีอะไรกับผู้หญิงมากกว่า จะมีอีกช่วงที่ผมบรรจุใหม่ๆ ที่ภาคเหนือ ผมมีกิ๊กเป็นผู้ชายด้วย เป็นผู้บังคับบัญชาผม แต่ก็ไม่ได้หวือหวาอะไร เหมือนหัวหน้าผม เอ็นดูผม เลยขอดูเอ็นผมเท่านั้น เซ็ก์ของผมก็มีแค่หัวหน้าผมกอดๆจูบและดูดให้ผมเวลาที่ผมเมา หัวหน้าเมาเท่านั้น จนตอนนี้หัวหน้าก็ยังติดต่อผมอยู่แบบพ่อลูก(อายุ 50 แล้ว แต่หล่อ)
....มันเป็นช่วง ปีใหม่ ซึ่งจะมีงานเลี้ยงบ่อยมาก ทั้งของหน่วยงาน ชาวบ้าน เพื่อนฝูง เรียกว่าเดินสายกินเลี้ยงทั้งเดือนเลย แต่งานก็เยอะขึ้น ผมกับแฟนแทบจะไม่ได้มีอะไรกันเลยแถมต่างคนต่างกลับดึก แฟนผมก็ต้องขึ้นวอร์ด บ่อย จนต้องให้แม่ยายมาเลี้ยงลูกให้ และแม่ยายผมแกพาเด็กมาด้วยคนนึงเป็นลูกคนงานในบ้านแกชื่อ แอร์เป็นลูกพม่า อายุ17ปี เป็นคนขับรถพาแม่ยายมาเลยให้อยู่ด้วย กะว่าจะให้แกเลี้ยงหลานสักสองสามอาทิตย์ ไอ้แอร์ นี่แหละตัวแสบ มันเป็นเด็กค่อนข้างทะลึ่งเงียบ ดูโชกโชนเกินเด็ก แต่มันจะค่อนข้างกลัวผม หน้าตาท่าทางก็ดุใช้ได้แต่ดูจิกโก๋ไปหน่อย แอร์จะกลัวผม อาจเพราะผมเป็นตำรวจ วันนั้นผมเลิกจากงานเลี้ยงดึก เข้าบ้านไปก็เห็นแขกกับแอร์นั่งเล่นคอมกันอยู่ ประมาณตีสอง แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดผมเลยไม่ว่าอะไร แขกคงสอนให้แอร์เล่นคอมพ์ ผมเมามาก ล้มตัวลงนอนที่โซฟาสักพักก็จะอ้วก เลยไปอ๊วกในห้องน้ำ สักพักแขกก็เข้ามาช่วยผมเอาผ้ามาให้ผมถอดเสื้อผม ผมอ๊วกแบบลากใส้ หลังจากนั้นก็หลับไปเลย รู้ตัวอีกทีก็ สายๆ ในห้องเล็ก (เป็นห้องนอนของแขก) ผมก็สะโหลสะเหลออกไป เจอแฟนผมบ่นโขมงโฉงเฉง ว่าไม่อายลูกหลาน แขกต้องนอนที่ทีพื้นเพราะผมแย่งที่นอนผมหัวเราะแก้เก้อ คือผมเมามาก หลับไปแขกเลยลากผมเข้าไปนอนในห้องโดยมีแอร์ช่วย พร้อมทั้งเปลี่ยนกางเกงเสื้อผ้าให้ผมเสร็จสรรพ ผมขึ้นไปนอนบนห้องต่อจนบ่าย รู้สึกเจ็บๆแสบที่ก้นไปเข้าห้องน้ำปรากฏว่าถ่ายออกมามีเลือดปนและแสบมากๆ แต่ผมก็ไม่นึกเอะใจ
ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก
ขอบคุณครับผม ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับผม อยากได้
ขอบคุณครับผม ขอบคุณครับบบ ไม่ต่อหละ ข อ บ คุ ณ ค รั บ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ จัดไปสุดยอด ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ Thขอบคุณครับ{:5_146:} ขอบคุณครับ ขอบคุนครับ