[คิดไปเอง] บทที่ 18 "เข้ากรุง" [9/12/59] ไม่ 18+
ประกาศบทนี้เป็นบทที่ผมลืมเขียนลงไปใน ปวช.2 เทอม 2/2553 คือนั่งเปิดใบเกรดดูเลยนึกขึ้นได้ว่าจำสลับกันคิดว่าตอนนี้มันอยู่ช่วงปวช.3 แต่ดันไม่ใช่ผิดพลาดเลยต้องขออภัยด้วยถ้าอย่างนั้นขออนุญาตย้อนกลับไป ปวช.2 เทอม 2/2553 สักตอน ขออภัยจริงๆครับบทที่ 18 “เข้ากรุง”
วันอาทิตย์
[เทคนิค]
“มานั่งต่อแถวกันเร็วๆเข้า” เสียงอาจารย์ดวงดาวสั่งพวกผมและรุ่นพี่ ปวช.3 ก็มานั่งต่อแถวกัน 2 แถว แล้วนั่งลง
“เดี๋ยววันนี้ หลังจากที่ครูจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้ ก็จะพาไปขึ้นรถบัสเตรียมตัวออกเดินทางไปอิมแพคกัน” เสียงอาจารย์ดวงดาวยืนพูดอยู่ข้างหน้าโดยมี อาจารย์พิทักษ์ (หัวหน้าแผนก) อาจารย์จง (อาจารย์ในแผนก) และ ท่านผอ.อยู่ข้างๆ
“แจกเบื้อเลี้ยงให้เด็กๆเลยนะค่ะ” อาจารย์ดวงดาวหันไปถามผอ.
“แจกเลยครับป้า” ผอ. ตอบ
อาจารย์ในเทคนิคส่วนใหญ่จะเรียกอาจารย์ดวงดาวว่าป้ากันทั้งนั้นเพราะอาจารย์แกเกษียณไปนานแล้ว แต่ก็ยังกลับมาช่วยสอน
“อ่า รับไปๆ” อาจารย์ดวงดาวเดินแจกเบี้ยเลี้ยงตอนนั้นผมจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่
เมื่อแจกเบี้ยเลี้ยงเสร็จพวกเราก็ขึ้นรถบัสกัน การเดินทางครั้งนี้ผอ. ท่านพาไปดูงานเกี่ยวกับ ICT ที่อิมแพค ไปค้าง 1 คืน แล้วกลับวันจันทร์ ซึ่งเป็นการดีมากที่ ผอ.ท่านเลือกเฉพาะแผนกผมเท่านั้น แต่ไม่ได้ไปกันทุกคนนะครับ มีแค่ กลุ่ม 4 ของผมรุ่นพี่ ปวช.3 1 กลุ่มและ รุ่นพี่ ปวส.1-2 อย่างละ 1 กลุ่ม
ขึ้นมาบนรถ ตันนั่งกับบาสอย่างเคยส่วนผมนั่งกับบิ๊กพอรถออกผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับเพื่อนนอนหลับยาวๆจนกระทั้งเริ่มได้ยินเสียงเพื่อนๆพูดกันเสียงดัง เพราะพวกมันไม่เคยมาอิมแพคกัน(ผมเองก็เช่นกัน) ผมตื่นและมองดูรอบๆที่นั้นดูเจริญดีครับ พอหันกลับมามองในรถเห็นอาจารย์จงนั่งหลับคอนี่โยกไปมาอย่างเล่าร้อนซึ่งเพลงบนรถบัสที่ผมได้ยินตอนนั้นมันก็เพลงลูกทุ่งธรรมดาๆนี่แหละไม่รู้แกอารมณ์ไหนหลับคอโยกขึ้นลงเป็นชาว Rock เลย
นั่งไปสักพักรถก็ขับผ่านไปเลื่อยๆจนมาจอดอยู่ที่นึง
“อ่า ลงๆ” อาจารย์จงพูดพวกผมก็หยิบสัมภาระแล้วลงรถกัน
ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าลงไปตรงไหนแต่มันเป็นเหมือนคอนโคสูงเรียงกันไปหลายๆตึก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของเมืองทองนี่แหละครับ
“เดี่ยวลูกๆนำกุญแจไปแล้วแบ่งที่พักกันเอาเองนะ” ผอ. ส่งกุญให้รุ่นพี่ครับ
“เอาหละๆ ฟังนะ ห้องนึงนอนได้ 3 คนให้แบ่งกันเอาเอง ส่วนคอนโดจะอยู่คนละตึก บางคนก็อยู่ตึกไกลหน่อยทนๆเอานะคนเขามาพักกันเยอะ สำหรับวันนี้คงไม่มีอะไรมากมายพรุ่งนี้เจอกันตรงนี้ 6.30นะ” อาจารย์ดวงดาวพูด
“ช่วงว่างๆจะไปเที่ยวกันได้นะมันมีรถสองแถวสายนึงนั่งไปถึงเซ็นทรัลลาดพร้าวด้วย” ผอ. พูด
จากนั้นพวกพี่ๆก็แบ่งกุญแจมาให้ 4 ดอก ซึ่งพวกผมมีกันน้อยด้วยเลยไม่ต้องใช้เยอะกลุ่มผมที่มาวันนี้มี ผม บาส ตัน น็อต โจ๋ ชัย บิ๊ก อาฟู่ มั่น(กลุ่ม3) แรกและมอส ส่วนตาม มันก็หายตัวไปเพราะติดยา โอ๊ตก็เป็นพวกไม่ชอบเข้าสังคม
ที่มั่นกลุ่ม 3 ได้มาด้วยเพราะกลุ่มผมมันไปกันไม่ครบขาด2 ที่ ไอ้มั่นเลยไปแทน
“มาๆ แบ่งกันว่าจะนอนกับใคร” บาสพูด
“แบ่งตามเลขที่เลยง่ายดี” บิ๊กพูด
“เออๆ” บาสตอบ
สรุปเรียงตามเลขที่ จะตามนี้ครับ ดอกแรก บาส แรก ตัน ดอกสอง บิ๊ก ผมน็อต ดอกสาม โจ๋ ชัย มอส ดอกสี่ อาฟู่ และมั่น
เมื่อแบ่งกันเสร็จ ผม บิ๊ก น็อต ก็ไปที่ตึก C 5 (จำไม่ได้จริงๆว่าตึกไหนอันนี้ขอสมมติ)
[ถึงห้อง]
“อิน มึงทนไหวไหมว่ะ ถ้ากูดูดบุหรี่ในห้องอะ” บิ๊กถามขณะวางสัมภาระ
“เออ ไม่เป็นไรๆ”
“ถ้าไม่ไหวก็ไปนอนกับอาฟู่ก็ได้ แล้วให้ไอ้มั่นมานอนนี่” น็อตตอบ คือน็อตสนิทกับมั่น กลุ่ม 3 ครับ
“เออๆ งั้นกูไปนอนกับอาฟู่ละกัน” ผมตอบ
“อืม” น็อตตอบ
“รีบๆ วางกระเป๋าแล้วลงไปกันเถอะเดี่ยวพวกมันรออินมึงก็เอากระเป๋ามึงลงไปด้วบเลย” บิ๊กพูด
คือก่อนจะขึ้นมาที่ห้องพักพวกเรานัดกันว่าจะลงมาเดินเล่นกันข้างล่าง
“เออ ปะๆ” ผมตอบ
พวกผม 3 คน ก็เดินลงมารอเพื่อนๆที่เหลือเมื่อมากันครบเราก็ไปเดินเล่นกัน วันนี้ผมดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่มันหงุดหงิดครับผมเห็นตันกับบาสเดินดูของแล้วคุยกันสนุกสนามเลย ช่วงนี้อารมณ์มักหงุดหงิดง่ายไม่ใช่วัยทองนะครับ 5555+ อารมณ์นี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่มีเพื่อนมาใกล้ๆตันทุกคน
“อิน มึงเป็นอะไรว่ะ” อาฟู่ ทักผมขณะที่พวกเราเดินดูของกัน
“ป่าว....” ผมตอบ พร้อมส่ายหน้าช้าๆเหลือบไปมองตัน ซึ่งเดินอยู่ข้างหน้ากับบาสดูมีความสุขเหลือเกินทีเวลามีความทุกข์ละก็วิ่งมาหากูทุกที
เดินกันสักพักพวกเราก็กินข้าวกัน
“เฮ่ย อินมึงจะไปไหนว่ะ” ชัยเรียกผมขณะที่ผมลุกออกจากที่นั่งโต๊ะกินข้าว
“เดี๋ยวมา.....” คือผมหงุดหงิดจริงๆครับเพื่อนๆกินข้าวกันแต่ผมไม่กิน ผมอยากออกไปเดินเล่น
แล้วผมก็เดินไปเลื่อยๆจำไม่ได้ว่าเป็นตรงไหนเพราะผมเพิ่งจะเคยมาเมืองทองครั้งนี้ครั้งแรกผมเดินตามทางไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าอยากเดินหายไปนานๆ อยากให้ตันโทรมาหาว่าผมหายไปไหน เป็นอะไร แต่แล้วก็เดินอยู่นานมาก เดินจนเหงื่อเต็มหลัง
แต่ก็ไม่มีใครโทรมา.....
ผมคงบ้าไปเองแหละ ไม่ชอบอารมณ์แบบนี้เลยครับ
หันมองไปข้างหลังก็ไม่มีเพื่อนเดินตามมาสักคน
ผมหยุดยืนและมองดูเวลาในมือถือ ตอนนี้เวลา 2 ทุ่มแล้วครับ
ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (เสียงมือถือผมดัง)
“อิน มึงอยู่ไหนเนี้ย” ตันโทรมาครับ
“ไม่รู้ว่ะ เดินเล่นมาเลื่อยๆ”
“ไอ่ห่า พวกกูหาตั้งนานก็ไม่เจอมึงเลยมึงรีบๆกลับมาเร็วเขาจะไปเที่ยวเซ็นทรัลลาดพร้าวกัน”
“อ่าๆ” ผมตอบ แล้วก็วางสายไป
ฉิบหายให้กูเดินกลับตอนนี้ ระยะทางก็ไกลขนาดนั้น
แล้วยังไงละ
ก็นั่งวินไงพี่น้อง.....นอกจากทำให้เสียเวลา และยังทำให้เพื่อนรออีกกูนี่จริงๆเลย เฮ้อ....
แล้วผมก็นั่งวินไปลงที่ จุดรวมพลตอนที่เรานัดเจอกันเมื่อเย็น
“ไอ่ห่า มึงแอบไปฝึกวรยุทธที่ไหนมาว่ะ เพื่อนรอมึงอยู่คนเดียวเนี่ย”ชัยบ่นผม
“โทษๆ”
จากนั้นเราก็นั่งรอรถสองแถวกันสักพักมีรถสองแถวมาผมไม่มั่นใจว่าสายอะไรแต่ถามคนขับรถแล้วเขาว่าผ่านเซ็นทรัลลาดพร้าว พวกเราก็ขึ้นกันคนในรถเต็มเลยครับพวกผมเข้าไปก็ได้แค่ยืนจับราวเท่านั้นเอง
ผมยืนในสุด ต่อมาก็ชัยและใครไม่รู้ครับลืมรู้แค่ว่าตันยืนในสุดเหมือนผมแต่อยู่ฝั่งซ้าย ผมอยู่ฝั่งขวายืนหันหลังชนกัน
“อินมึงเป็นอะไรว่ะ” ชัยทักผมเบาๆเพราะคนในรถเยอะเสียงดังก็เกรงใจเขา
“กูไม่ได้เป็นไร....” ผมตอบเสียงเรียบๆ
ในตอนนั้นผมไม่รู้จริงๆ แต่เมื่อโตขึ้นจนตอนนี้ก็รู้หมดทุกอย่างครับว่าตอนนั้นที่ทำแบบนั้นมันเพราะอะไรตอนนั้นผมมันเด็กน้อยจริงๆ
“เป็นไร...” ตันหันตัวเข้าข้างหลังผมจากทีแรกที่เรายืนแบบหันหลังชนกันแล้วตันก็เอาแขนมาจับราวฝั่งเดียวกับผมมือที่จับราวติดกันเลยกูนี่ใจสั่นอีกแล้วแต่ก็ยังหงุดหงิดนิดหน่อยๆ
“ป่าวนี่” ผมตอบเรียบๆ
“เอาดีๆดิ๊” ตันพูดเบาๆแบบชัย
“ไม่มีอะไรจริงๆ”
“บอกมา” ตันพูดพร้อมกับเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆหลังคอผมผมรู้สึกเสี่ยวแปลบเลย ซึ่งตันเตี้ยกว่าผมความสูงประมาณต้นคอผมเองครับฉะนั้นหน้าตันตอนนี้ก็อยู่ประมาณหลังต้นคอผมแหละ
“ไม่มีจริงๆตัน แค่มาต่างถิ่นเลยรู้สึกคิดถึงบ้านเฉยๆ” ผมหันข้างไปตอบ
“แค่นี้เอง คิดว่าอะไร เด็กน้อยจริงๆพาให้กูเป็นห่วงอีก ไอ้ห่า”ตันพูดแล้วก็เอาหัวมานอนบนไหล่ผม(ไอ้กระต่ายขาวตัวนี้มันขี้อ้อนจริงๆครับ)
คือบนรถสองแถวที่มีคนเยอะขนาดนี้ ร้อนก็ร้อนมึงยังมีอารมณ์มานอนอีกไอ้เวร ถามว่าอายไหม ผมไม่อายนะครับเฉยๆเพราะรอบนี้คนเยอะจริงๆแน่นมาก คงไม่มีใครมาสังเกตแน่นอนส่วนชัยมันก็ไม่ได้สนใจอะไรต่างคนต่างยืนจับราวกันไป
และตอนนี้ความรู้สึกหงุดหงิดทั้งหมดมันหายไปแล้วครับมีแต่ความรู้สึกดีๆ ทุกครั้งที่ผมเป็นแบบนี้ขอแค่ตันมาคุยกับผมผมจะหายหงุดหงิดเลยทันที
ยืนมาได้สักพัก รถก็จอดที่เซ็นทรัลลาดพร้าวพวกผมจ่ายค่าสองแถวกันเสร็จก็ข้ามพานเพื่อเข้าห้างกัน
“กูใส่ขาม้ามาจะโดนไหมเนี่ย” ผมถามเพราะวันนี้ผมใส่กางเกงขาม้ามา กลัวจะเจอพวกเทคนิคประจำถิ่น
“ไอ่สัส มึงอย่าไปคิดมาก มันไม่เห็นหัวเข็มขัดมึงก็พอละห่า” ชัยตอบปนบ่นๆไปด้วย
“หรือมึงจะแต่งแบบไอ้แรกละว่ะ” น็อตหันมาทักผมพร้อมกับให้ผมมองไปที่แรก
วันนี้ท่านแรกแต่งตัวสง่าจริงๆครับ ออกแนวพวกฮิปฮอป เสื้อตัวใหญ่ๆกางเกงยีนส์เหมือนพวกช่างก่อสร้าง รองเท้าอะไรไม่รู้ครับใหญ่ๆคุมขึ้นมาถึงตาตุ่มเป็นรองเท้าลายเสื้อปนลายเปลวไฟ เพื่อนๆเลยเรียกกันว่า “รองเท้าเสือไฟ” ผมพูดอาจจะไม่ฮากันผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงต้องมาเห็นคือมันฮาจริงๆครับ 5555
เมื่อเข้ามาในห้องพวกเราก็เดินเล่น เดินดูของกันตามปกติเซ็นทรัลลาดพร้าวผมเคยมาครั้งนี้ครั้งแรก จำไม่ได้แล้วว่าไปเดินดูกันตรงไหนบ้าง
ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (เสียงมือถือผม)
“ฮาโหลครับแม่”
“ถึงหรือยัง”
“ถึงนานแล้วครับแม่ แต่ผมลืมโทรบอกครับ”
“โอเคๆ แล้วทำอะไรอยู่”
“เดินเล่นกับเพื่อนๆที่เซ็นทรัลลาดพร้าวครับ”
“อืมๆ ดูแลตัวเองด้วยนะอิน”
“ครับแม่” แล้วแม่ผมก็วางสายไป
จากนั้นก็เดิน เดิน เดิน ดูของกันไปเรื่อยๆตอนนี้ผมเริ่มเบื่อแล้วครับ ผมไม่ชอบเดินเล่นในห้างเท่าไหร่เวลามาห้างมักจะซื้อเฉพาะของที่ตัวเองอยากได้แล้วก็กลับ
“เฮ่ยจะ 4 ทุ่มแล้วนะพวกมึง กลับกันยัง”ผมบอกเวลาเพื่อนๆ
“เดินอีกหน่อยดิๆ ยังดูไม่ครบเลยนานๆจะมาที” บาสบอก
“แต่กูว่ากลับเถอะ มันเริ่มดึกแล้วไม่รู้ว่าจะมีรถกลับหรือป่าวด้วย”ตันพูด
“เออ กูก็ว่าอย่างนั้นแหละ” มอสเสริม
“เออๆ ไอ่ห่ากลับๆ” บาสบ่นๆ
แล้วพวกเราก็ออกจากห้าง ข้ามสะพานไปรอรถฝั่งที่ลงกันมาซึ่งไม่รู้ว่าจะกลับกันถูกหรือป่าว
“ขากลับนี่ นั่งรถสายอะไรว่ะ” น็อตถาม
“เดี๋ยวกูบอกๆ กูชำนาญอยู่” ไอ้ชัยออกตัวชัยมันคงรู้ทางอยู่มั้งครับเพราะมันเป็นเด็กในเมืองมาก่อนมันก็ย้ายมาจากสมุทรปราการเหมือนผม
รอรถกันสักพัก ก็มีรถเมย์สายอะไรไม่รู้ครับ มาจอดไอ้ชัยบอกให้ขึ้นพวกผมก็ขึ้นกันผมนั่งกับชัย ส่วนตันกับบาสก็เหมือนเดิมครับ
“ลงไหนกัน” ลุงเก็บเงินเดินมาถาม
“อิมแพคครับ” ชัยพูด แล้วพวกผมก้จ่ายเงินกันแกก็ฉีกตั๋วมาให้
นั่งรถไปผมก็มองข้างทาง มันดูเจริญดีนะครับน่าอยู่แต่อีกมุมนึงมันก็ดูวุ่นวาย คนก็เยอะอยู่ต่างจังหวัดอย่างเดิมดีแล้วตอนนี้ผมหันไปมองเพื่อนๆมันหลับกันหมดแล้วไอ้ชัยก็ด้วยสักพักผมก็หลับไปตอนไหนไม่รู้เหมือนกัน.....
“เหี้ย ตื่นๆ” ชัยสะกิดผมแรงมาก
“อะไรว่ะ” ผมสะดุ้งตื่น
“เลยอะดิมึง นั่งมาถึงอนุสาวรีย์แล้วไอ่ห่า” ชัยพูดส่วนเพื่อนๆยังคงไม่รู้เรื่องครับ พวกมันไม่เคยมากันคนที่เคยมาน่าจะมีบาสอีกคน
“สุดสายแล้วหนู ลงๆ” ลุงคนเก็บเงินไล่ลงรถครับ
พวกผมด้วยความเป็นเด็กก็ ตกใจที่หลับเลยทางกันอยู่รีบลงรถไปโดยไม่ถามลุงแกเลยว่าถ้าจะกลับไปอิมแพคมันไปยังไง
พอลงมาก็อยู่ใจกลางอนุสาวรีย์ เลยครับมองดูรอบๆขนาดดึกแล้วคนยังมีเยอะอยู่เลย ผมมองดูเวลาตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด 22.40นาที
“อิบอ๋าย อำไออีอะเอี้ย” แรกพูดประมาณว่าฉิบหายทำไงดีว่ะเนี้ย
“เงียบปากไอ่สัส ฟังไม่รู้เรื่อง” บาสด่า
“ลองขึ้นไปถามบน BTS กันดีไหมละ” บาสเสนอ
“เออๆ ไปๆ” จังหวะนั้นไปหมดแหละ
พอขึ้นไปบน BTS มันก็ปิดหมดแล้วอ่าครับ 5ทุ่มพอดี ตอนนั้นเซงกันทุกคน
“ทำยังไงดีละ” อาฟู่ถาม
“กูว่าแท็กซี่เถอะ ช่วยกันหารไม่แพงมากหรอก” ผมเสนอ
ว่าแล้วทุกคนก็เดินลง BTS ไปขึ้นแท็กซี่กัน 2คัน
คันแรก มี โจ๋ นั่งข้างคนขับ เบาะหลังเรียงจากขวาสุด ก็ผม น็อต บาสมั่น ส่วนตันนั่งตักผมครับ
คันสอง มี บิ๊ก ชัย มอส อาฟู่ แรก ครับ
คันผมนี้อึดอัดมากๆ เอาจริงๆตันก็ตัวหนักอยู่นะครับมันนั่งตักผมอยู่นานก็เริ่มเมื่อยๆละ
“ข้างหน้ามีตำรวจว่ะน้อง” ลุงคนขับบอกข้างหน้าพวกผมมีด่านตรวจครับ ตำรวจแกโบกให้จอดข้าง
ลุงแกลดกระจกลง ตำรวจก็มองเข้ามาดู
“ยังเด็กอยู่เลยนี่หว่า รู้ไหมเขาห้ามเที่ยวกลางคืนนะเด็กอะลงรถมาก่อนๆ” พี่ตำรวจพูด
พวกผมลงกันไปพี่ตำรวจเขาขอตรวจบัตรประชาชนแล้วก็ตรวจตามตัวเหมือนหายาเสพติดมั้งครับ อันนี้ไม่แน่แน่ใจ
“อันนี้ยาอะไรครับน้อง” พี่ตำรวจจับเจอซองยาในกระเป๋ากางเกงผมครับ
“อ๋อ ยาแก้อักเสพครับ” ผมตอบพร้อมกับส่งให้พี่เขาดู
“อืม......” พี่ตำรวจจับไปดูแล้วทำท่าครุ่นคิด
“พอดีผมผ่าตัดมาเมื่อเดือนที่แล้วครับแล้วแผลมันยังไม่หายดีเท่าไหร่”
คือเรื่องที่ผมไปผ่าตัดมานี่ นับว่าเป็นความอัปยศที่สุดแล้วครับคือผมโดนขลิปปลายมา (หวังว่าคงเข้าใจใช่ไหมครับ) คือผมเป็นคนที่ไม่เคยช่วยตัวเองแล้วทีนี้มันไม่เปิดอ่าครับ แล้วมันอักเสพข้างในผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันแม่เลยพาผมไปขลิปที่โรงพยาบาลสำโรง
หลังผ่าตัดมา เพื่อนๆรู้ก็ล้อกันใหญ่เลยบอกว่าถ้าเดินๆอยู่จะเสร็จไหมเพราะไอ่นั้นมันสีๆกันข้างในผมนี่อายมากๆเลยครับเอาเป็นว่าแค่นี้ละกันผมไม่ขอเล่าต่อละอายครับ 5555+
เมื่อตรวจเสร็จพี่ตำรวจแกก็บอกว่าอายุยังน้อยอย่าเที่ยงดึกนักมันอันตราย ยิ่งเป็นอนาคตของชาติด้วยยังมีสิ่งที่ต้องทำเพื่อเป็นประโยชน์ให้สังคมอีกมาก
จากนั้นพวกผมก็ขอบคุณพี่ตำรวจแล้วก็ขึ้นรถไปต่อนั่งกันไปก็เมื่อยกันไปเพราะนั่งอัดๆกันตลอดทางตันหันมาถามผมตลอดทางว่าถ้าเจ็บก็บอกนะเพราะตันมันนั่งตักผมคือตันมันหมายถึงว่าเจ็บไอ้ที่ผมไปขลิปมาอ่าครับเพราะแผลมันยังไม่หายดีแต่ก็ใกล้หายแล้วละครับแต่ผมก็บอกว่าไม่เจ็บเพราะตันไม่ได้นั่งโดนตรงนั้น ตันมันนั่งแถวๆหน้าขาผมครับ
“เมื่อยแขนว่ะ” ผมบ่นเพราะมันเบียดกันจนแขนผมนี่ขยับไม่ได้เลย
“เมื่อยหรอ” ตันหันมาถามผมเบาๆ
“เออดิ เมื่อยแขน” ผมพูดจบตันก็เอามือมาจับแขนผม 2 ข้าง ทีวางแนบข้างตัวเอามากอดเอวตันไว้ครับแต่ไม่ได้กอดแน่นนะกอดแบบหลวมๆอ่าครับ
ผมอึ้งไปเลยครับพูดอะไรไม่ออกได้แต่นั่งนึ่งเงียบหันไปข้างหน้าต่างแล้วยิ้ม
ตอนนี้ไม่เมื่อยแล้วครับ 555+ แล้วผมก็นั่งรถไปจนถึงอิมแพคอย่างสบายใจ
เมื่อลงรถก็เจอพวกไอ้ชัยนั่งรออยู่ก่อนแล้วพวกผมก็เล่าให้พวกมันฟังเรื่องที่เจอตำรวจระหว่างทางคือพวกมันไปอีกทางเลยไม่เจอครับโชคดีของมัน
สรุปคืนนั้นผมไปนอนตึกอาฟู่ มีผม มอส กว่าจะได้นอนกันจริงๆก็ ตี 5ครับ เพราะมันตื่นเต้นนั่งคุยกันทั้งคืน ได้ออกมาเที่ยวมาใช้ชีวิตกับเพื่อนแบบนี้ครั้งแรกถือว่าเป็นความแปลกใหม่ในชีวิตผมเลยก็ว่าได้
6.30 ทุกคนเก็บสัมภาระไปรอกันที่จุดรวมพลกับพวกอาจารย์สักพักรถบัสก็มารับไปที่ “อาคารชาเลนเจอร์” ซึ่งจัดงานเกี่ยวกับ ICT อยู่วันนั้นพวกเทคนิคแต่ละที่มาร่วมงานกันเต็มเลยครับ พวกเราเข้ามานั่งในห้องประชุมสักครู่ก็เปิดงานวันนั้นเจอ นายกอภิสิทธิ์ ด้วยครับท่านขึ้นมาเปิดงาน
เมื่อทุกอย่างเสร็จสับ ผอ.ก็พาไปที่ห้องโถงกินข้าวในอาคารชาเลนเจอร์ เขาจัดให้เฉพาะพวกเทคนิคที่สังกัดกรมอาชีวะศึกษากินกันครับ อาหารอร่อยมากถ้าหมดเติมได้ตลอดอย่างกับอยู่ในโรงแรมเลยครับเมื่อกินกันเสร็จก็เดินทางกลับเทคนิคกันอย่างมีความสุข....ซึ่งไม่ได้ความรู้ห่าอะไรเลย5555+
แค่นี้ก่อนนะครับ
*
*
*
*
*
ตอนนั้น ตันมาบ่นๆกับผมว่าที่พวกไอ้ชัยไอ้มั่นไปนั่งเล่นที่ตึกมันพวกมันไปนั่งดูดบุหรี่กันในห้องด้วยตันบอกว่านอนคลุมโปงยังได้กลิ่นรู้สึกเบื่อมากอยากจะมานอนกับผมแต่ก็ไม่กล้าโทรเพราะกลัวผมจะหลับไปแล้วการไปอิมแพคครั้งนั้นก็นัดว่าเป็นความทรงจำที่ดีระหว่างผมกับตัน และเพื่อนกลุ่ม 4ทุกคน
ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคำคอมเม้นท์และผู้ติดตามอ่านทุกท่านนะครับ
ขอให้ประสบแต่ความสุขความเจริญ สาธุ*******************************************************************************************************************************************
{:5_119:}ขอบคุนครับ{:5_119:}สนุกครับ{:5_119:} ความรู้สึกของอิมที่มีต่อตันนะ มันคือความต้องการอยู่ใกล้ชิดกันมากกว่าเพื่อนนะ มาต่ออีกนะ ขอบคุณึับ ขอบคุณครับผม{:5_130:}
ขอบคุณครับ ชอบมากสนุกดีขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ
หน้า:
[1]