INPUT โพสต์ 2016-12-11 04:33:24

[คิดไปเอง] บทที่ 19 "เทวดาในแผนก" [10/12/2559] ไม่ 18+

ปวช. 3 เทอม 1 ภาคเรียนที่ 1/2554

บทที่ 19 “เทวดาในแผนก”
********************************************************************************************

“อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฒาปะจายิโน จัตตาโร ธัมมาวัฑฒันติ อายุวัณโณ สุขัง พลัง” เสียงพระท่านให้พรเดี๋ยวนี้มีพระมาบิณฑบาตผ่านหน้าบ้านผมทุกเช้าและแม่ผมก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ใส่บาตรตัวยงครับ

พักหลังมานี้แม่ผมชอบฟังธรรมะ ชอบใส่บาตร ใจเย็นลงจากปกติผมกับแม่มักจะมีปากเสียงกันบ่อยๆแต่ก็มีปากเสียงกันบ้างนานๆครั้งครับ เหตุที่ทำให้แม่ผมเป็นแบบนี้ก็เพราะเพื่อนแม่ผมที่สมุทรปราการแกนำแผ่น VCD ธรรมะเรื่อง “ตายแล้วไปไหน” ของ พ.อ.เสนาะ จินตรัตน์ มาให้ฟังผมก็โดนบังคับให้ฟังด้วย ทีแรกไม่อยากฟังเลยครับ แต่ฟังๆไปก็รู้สึกดีให้อะไรหลายๆอย่างเลยครับและแม่ผมยังฟังธรรมะนิยายเรื่องมักกะลีผล เรื่องนี้เกี่ยวกับหลวงพ่อจรัญแห่งวัดอัมพวัน เป็นประวัติหลวงพ่อตั้งแต่ท่านยังเด็กๆจนกระทั้งท่านออกบวชหลักของเรื่องนี้เกี่ยวกับกฎแห่งกรรมใครทำอย่างไรได้อย่างนั้นเรื่องนี้ผมก็โดนแม่บังคับอีกนั้นแหละครับแต่ขอบอกว่าเพลินและได้ข้อคิดเยอะมากๆครับ

“สาธุ” แม่ยกมือสาธุแล้วลูบหัวตัวเอง

“ใส่บาตรเสร็จแล้วงั้นผมไปก่อนนะแม่ สวัสดีครับ” ผมสวัสดีแม่ และสะพายกระเป๋าเดินขึ้นรถพ่อเพื่อไปลงหน้าหมู่บ้านอย่างเคย

“เออๆ ตังใจเรียนนะ” แม่ผมพูดพร้อมกับเดินหยิบที่กรวดน้ำไปกรวดข้างบ้านซึ่งเป็นที่ปลูกผัก ดอกมะลิ จำปี แหละอื่นๆ


[บนรถเมย์]

เรานั่งกันหลังรถเมย์ครับ

“วันนี้เปิดเรียนวันแรก กูขอให้ไม่มีเรียน สาธุ!!!” บาสพูด

“ไอ่ห่าวันแรกมึงไม่คิดจะเรียนเลยหรอว่ะ” ผมบ่นๆ

“เออ กูขี้เกียจ” บาสพูดอย่างหน้าตาเฉย

“ฉิบหายอนาคตของชาติแต่ละตัว” ผมบ่น

“เออไอเอี้ยอูอ้ออี้เอียดเอียน” แรกพูดประมาณว่าเออไอ้เหี้ยกูก็ขี้เกียจเรียน

“เงียบปาก ฟังไม่รู้เรื่อง” บาสขัดจังหวะแรกหงอยเลยครับ 555+

แค่เพราะหัวใจมันบอก อาจไม่ค่อยพอ แต่ฉันก็ยังมั่นใจ ว่าต้องใช่เธอ~(เสียงมือถือผม)

“ฮาโหล” ผมรีบกดรับเพราะสายที่โทรเข้ามาคือตัน

“อีนนน นี่ตานน้า” เสียงแบบนี้เพิ่งตื่นชัวร์เลยครับ

“ว่าไงตัน เพิ่งตื่นหรอ”

“อืมมม เค้าไม่ค่อยสบายอ่า ขอเข้าสายหน่อยนะ บอกอาจารย์ให้ด้วย”มันอ้อนอีกแล้วครับ

“ไม่สบายหรอ ไม่ต้องมาก็ได้” มันสบายดีครับผมรู้สันดารมันดีมันคงจะเพิ่งตื่นแล้วขี้เกียจมาเรียนชัวร์

“มาเด่ เปิดเทอมวันแรกน้า”

“อ่าๆ เดี๋ยวบอกอาจารย์ให้แล้วกันว่าไปหาหมอเลยเข้าสาย” ผมพูด

“โอเค ขอบใจนะหัวหน้าห้อง” พูดเสียงใสเลยนะมึงกะแล้วเชียวว่ามันต้องขี้เกียจมาเรียนเลยขอเข้าสาย

เมื่อวายสายเสร็จ ผมก็มองออกไปข้างหน้าต่างดูตามทางตากลมไปเรื่อยในใจผุดคิดเรื่องของตันกับผมขึ้น จะเอายังไงดีนี่ก็ ปวช.3 ปีสุดท้ายแล้วด้วยจบกันไปก็ต้องแยกย้าย ซึ่งผมคงไม่ได้อยู่ต่อ ปวส.แน่ๆเพราะพ่อแม่อยากให้ผมไปสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยเรียนคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมจบมาก็จะเป็นครูเทคนิคตามที่ใจผมหวังไว้ด้วยนั่งคิดไปเพลินๆไม่ได้จริงจังมากนักเพราะตอนนั้นความคิดผมยังไม่โตเท่าไหร่ติดเพื่อนด้วย

เมื่อรถมาถึงเทคนิคก็ได้เวลาเข้าแถวทำกิจกรรมหน้าเสาธงพอดีเลยครับ

พอมาเข้าแถวกลุ่ม 3 และ 4 ของผมก็คุยกันถึงช่วงฝึกงานตอนปิดเทอมกันใหญ่เลยว่าใครเป็นไงทำอะไรกันบ้าง ได้เงินเท่าไหร่ พี่ที่ดูแลเราเขาดีไหมอะไรประมาณนั้น

“สวัสดีนักเรียนทุกคน วันนี้ก็เปิดเรียนวันแรกมีเรื่องชี้แจงมากมาย!#@$#%$^&”อาจารย์ผชร ขึ้นพูดหน้าเสาธงเหมือนทุกวัน

ผมก็นั่งฟังแกพูดมั่งหันไปคุยกับเพื่อนมั่ง ส่วนเพื่อนๆนี่คุยกันจ้อเลยครับ

นี่พวกมึงไปอดอยากคุยกันมาจากไหน

นั่งฟังกันได้สักพักก็มีอาจารย์เดินมาเช็คชื่อหน้าแถวครับคือเทคนิคผมจะมีเช็คชื่อหน้าเสาธงด้วยโดยให้อาจารย์ผู้สอนคาบแรกของแต่ละวันเป็นผู้เช็คใครขาดกิจกรรมหน้าเสาธงเกิน 4 ครั้งจะตกกิจกรรม ปิดเทอมต้องมาบำเพ็ญประโยชน์ที่เทคนิคครับ

“นี่ ชอ.3/4 ใช่ไหม” อาจารย์สุชาติถามแรกซึ่งนั่งอยู่หน้าสุด

“อั๊บ” แรกพูดว่า ครับ

จากนั้นอาจารย์สุชาติก็เช็คชื่อคนที่มาเข้าแถวเมื่อเช็คเสร็จแกก็เช็คให้เด็กอิเล็กฯทุกกลุ่ม ทุกชั้นปีที่นั่งอยู่ตรงนั้นคืออาจารย์สุชาติแกเป็นคนที่มีน้ำใจ ชอบเสียสละ เช็คแทนอาจารย์ทุกคนบางทีถ้าอาจารย์ในแผนกคนไหนไม่ลงจากแผนกมาเช็คชื่อ แกก็จะหยิบแฟ้มมาเช็คให้ผมเห็นแกทำแบบนี้มาตั้งแต่ผมเข้ามาเรียน คาดว่าทำแบบนี้มานานแล้ว

“อ่าวไอ่พวกมาสายอะ ยังไม่สำนึกกันอีกเร่อที่นี่ไม่ใช่บางแสนนะมาเดินทอดน่องกันหนะ!!!” อาจารย์ผชรบ่น

“พวกมึงนี่แปลกนะ เมื่อก่อนเข้าแถว เวลา 7.45 พวกมึงก็มากัน8 โมง พอเอา 8 โมง พวกมึงก็มากัน 8.30หนักหน่อย 10 โมง เออดีเดี๋ยวพอเขาเปลี่ยนเวลาเรียนคาบแรกเป็น 5 ทุ่มพวกมึงก็จะมากันเที่ยงคืน คอยดูสิ” แกยังไม่เลิกบ่นครับพวกผมนี่ขำกันฉิบหายเลย

“อ่าวไอ่นี่ มองกวนตีน อย่ามาทะลึ่งกระดูกมึงกับกระดูกกูมันคนละเบอร์” แกบ่นพวกมาสายแล้วพอดีมีคนที่เดินๆอยู่มองหน้าแกมั้งครับแกเลยด่าต่อ 555+

แป๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน (เสียงรถเครื่องขี่วนหน้าเทคนิค)

“อ่าวเฮ่ย ระวังรถคว่ำตายนะมึงอะ อาจารย์เขามารอรับพวกมึงถึงหน้าประตูเทคนิคเขาไม่ยักษ์ไม่มารเจอกันทีหนีกันฉิบหายวายป่วงไปหมด” ไม่เลิกบ่นจริงๆอาจารย์ผชรมักบ่นหน้าเสาธงแบบนี้ประจำ ถึงแกจะพูดคำหยาบแต่นักเรียนทุกคนก็ชอบ

เมื่อทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จก็แยกย้ายกันไปดูตารางเรียนกับที่ปรึกษาครับ

[บนแผนกชั้น 2 ห้องประจำของพวกผม]

“สำหรับเทอมนี้ น่าเสียดายกับศิริโชคที่ลาออกด้วยเรื่องส่วนตัวของเขา ยังไงก็ขอให้ทุกคนดูแลกันดีๆนี่ก็ปีสุดท้ายแล้วใครคิดจะต่อ ปวส. ให้ดูเกรดตัวเองว่าถึง 2.50 หรือป่าวจะได้ขอโควตาเรียนต่อปวส. แต่ถ้าใครจะต่อ ป.ตรี ให้รีบไปดูตามเว็บของมหาวิทยาลัยที่จะสอบเข้าเขาจะมีประกาศสมัครสอบให้รีบไปสมัครและ เตรียมตัวอ่านหนังสือเสีย” ที่ปรึกษาพูด

เทอมนี้ไอ้ตามลาออกจากเทคนิคหายเงียบไปโดยที่ไม่บอกไม่ลาเพื่อนเลยครับ

เมื่อแจกตารางเรียนเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาเรียนคาบแรกวันนี้พวกผมเรียนวิชาอิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรม 1 เรียนกับอาจารย์สุชาติชั้น 3

[ชั้น 3 ห้องอาจารย์สุชาติ]

พวกผมเดินเข้ามาก็รู้สึกว่าห้องมันรกมากๆ ของเต็มไปหมด หนังสือเรียนหนังสือธรรมะกองเรียงกันสูงเลยเอวผม รวมทั้งเครื่องถ่ายเอกสารเก่าๆพังๆและเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าๆผุพังอีกมากมาย แม้งกระทั่งหน้ากระดานดำมีของวางเรียงอย่างกับกำแพงเมืองจีน

อาจารย์สุชาติ กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่หลังห้องเหมือนหาของในกองขยะคือมันรกจริงๆครับคาดว่าแกคงกำลังหาอุปกรณ์มาเตรียมการสอน

จากนั้นพวกเราก็หาที่นั่งกัน ผมนั่งโต๊ะหน้าสุดแต่อยู่ริมห้องโดยมีชัยนั่งกับผมด้วยอีกคน ข้างหลังเป็นโจ๋ บิ๊ก อาฟู่ ส่วนอีกฝั่ง บาส แรกนั่งหน้าแถวเดียวกับผม ข้างหลังเป็น น็อต โอ๊ต มอส

“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ”

“สวัสดีครับอาจารย์”

“สวัสดีทุกคนๆ” อาจารย์สุชาติพูดทักทายพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร มันเป็นรอยยิ้มที่รู้สึกอบอุ่น จากหลังห้อง

ขอพูดถึงอาจารย์สุชาติ (นามสมมติ) หน่อยนะครับ ลักษณะของอาจารย์นั้นเป็นคนตัวเล็กไม่สูง ตัดผมทรงนักเรียน ผมขาวทั้งหัว ใส่แว่นสายตาใส่เสื้อช็อปสีฟ้าอ่อน กับกางเกงสแล็คขากระบอกสีดำเก่าๆรองเท้านันยางสีดำขาดหน่อยๆ อายุวัยใกล้เกษียณ ในมือถือถุงโลตัสประมาณ 1-2 ถุง ในนั้นมีน้ำเต้าหู้ ขนม และของกินเต็มไปหมดอาจารย์ชอบเอามาเดินแจกนักเรียนในแผนกรวมไปถึงพวกอาจารย์ด้วยกันกระเป๋าตังก็ไม่มีแกเก็บเงินใส่ถุงแกงเก่าๆแล้วเอาหนังยางรัดและอาจารย์เป็นผู้ที่มีธรรมะสูงมาก ปัจจุบันเกษียณอายุราการกลับไปเลี้ยงหลานและสอนกรรมฐานให้น้องสาวตัวเองที่กรุงเทพ ส่วนเรื่องการศึกษาผมรู้แค่ว่าจบมาจาก “เทคนิคกรุงเทพ” ด้านความรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ในเชิงทฤษฎีเป็นลองอาจารย์ดวงดาว แต่ในเชิงปฏิบัตินั้นสูงกว่าอาจารย์ดวงดาวและอาจารย์ท่านอื่นๆในแผนก อาจารย์จง (ปัจจุบันอายุ 57 ปี)อาจารย์วิชาญ (ปัจจุบันอายุประมาณ 50 กว่าแต่น้อยกว่าอาจารย์จง)อาจารย์วิโรจน์ อาจารย์ต๋อง (ปัจจุบัน 2 ท่านนี้อายุประมาณ 40ต้นๆ) และอาจารย์เข็ม (ปัจจุบันอายุประมาณ 30 กว่าๆ)ล้วนเป็นลูกศิษย์แกทั้งนั้น

ภาพรวม การแต่งกายแกดูเก่าๆ ขาดๆแต่ผิวกายสะอาดขาวผ่องอันนี้ผมพูดเรื่องจริงครับ

“วันนี้มาครบกันหรอป่าว” อาจารย์ถามขณะที่ถือหัวแร้ง มัลติมิเตอร์ ประมาณ 3-4 ตัวจากหลังห้องแล้วเดินออกมาหน้าห้อง

“ขาดอภินันท์คนเดียวครับ พอดีไม่สบายเลยไปหาหมอเดี๋ยวมาครับ”ผมตอบ

“ไอ่เหี้ยตันอะนะไม่สบาย 555” บาสพูดเพื่อนๆก็ฮือกันใหญ่

“ไม่เอาๆ ไม่ว่าเพื่อน ในห้องนี้ห้ามพูดคำหยาบคายรู้ไหมมันบาป”อาจารย์สอน

“โถ่ มันไม่ได้ยินหรอกครับจารย์” ชัยพูด

“นั่นแหละ ถึงเพื่อนเธอจะไม่ได้ยินแต่เทวดาได้ยิน” อาจารย์พูดด้วยน้ำเสียงสดใส

พออาจารย์พูดแบบนี้ ทุกคนถึงกับหัวเราะกันเสียงดังลั่นเลยตอนนั้นผมก็หัวเราะนะ คือคิดว่าแกคงประสาทแน่ๆอาจารย์อะไรยิ้มแทบทุกเวลา

ถึงทุกคนจะขำแต่อาจารย์ก็ยิ้มและหัวเราะไปด้วยผมมองดูแล้วยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ ผมไม่เคยเจออาจารย์ประหลาดแบบนี้มาก่อนเลย

“อาจารย์ เทวดาบ้าบออะไรที่ไหนมีกันครับ 5555” บาสพูดและหัวเราะไปด้วย

“เทวดามีอยู่จริงๆนะ ท่านอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ตรงลานกิจกรรมของแผนกเรา”อาจารย์พูดพร้อมกับชี้ออกไปให้ดูเพราะห้องของอาจารย์อยู่เกือบริมสุด ซึ่งเห็นต้นไม้ใหญ่พอดี

พวกผมมองตามที่แกชี้แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร

“อาจารย์เคยคุยกับเขาหรอครับ” ชัยถามแบบติดตลกและฆ่าเวลาเรียนไปด้วย

“เคยสิ เวลาครูทำงานอยู่บนแผนกดึกๆ ตี 1-2 เขาชอบมาอยู่เป็นเพื่อนตรงระเบียงหน้าห้อง” อาจารย์ตอบออกมาอย่างหน้าตาเฉยครั้งนี้พวกผมเริ่มรู้สึกว่าแกเพ้อเจ้อแล้วครับ

แค่เพราะหัวใจมันบอก อาจไม่ค่อยพอ แต่ฉันก็ยังมั่นใจ ว่าต้องใช่เธอ~(เสียงมือถือผมครับ)

“ฮาโหลว่าไงตัน”

“เรียนห้องไหนอ่าอิน”

“บนแผนกชั้น 3 ห้องอาจารย์สุชาติ รีบขึ้นมา”

“จ้าๆๆๆ ถึงแล้วเนี่ยเดี๋ยวขึ้นไป” ตันพูดจบก็วางสายไป

ไม่ถึงนาทีตันก็วิ่งขึ้นมาถึงหน้าห้อง มาไวจริงๆไอ้กระต่ายขาว

“สวัสดีครับอาจารย์” ตันเข้ามาในห้องพร้อมยกมือไหว้อาจารย์ไหนบอกไม่สบายหน้าตาแจ่มใสเลยนะมึง

เจอตันครั้งนี้รู้สึกว่าเนื้อตัวมีน้ำมีนวลล่ำซัมขึ้นผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้านดี สงสัยเอาเงินช่วงฝึกงานไปบำรุงตัวเองละมั้งครับไอ้กระต่ายขาว

“เธอชื่ออภินันท์ ที่เพื่อนบอกว่าป่วยขอตัวไปหาหมอใช่ไหม” อาจารย์ถามอย่างสดใส ไม่มีอะไรแอบแฝง

“ครับ”

“ดูแลสุภาพตัวเองดีๆนะ” อาจารย์พูดตันก็เดินลงมานั่งเก้าอี้ข้างผม

แล้วเราก็เริ่มเรียนกัน

“อิน ขอกระดาษหน้ากลางแผ่นนึงดิ” ตันพูด

“อะ” ผมหยิบสมุดปกอ่อนในกระเป๋าให้ตันไปเล่มนึง

“เฮ่ย เอากระดาษไม่เอาสมุด”

“เออ เอาไปเถอะจะได้ไม่ต้องมาขอหน้ากลางทุกอาทิตย์กูซื้อเผื่อวิชาอื่นไว้พอดี” จริงๆผมซื้อเผื่อมันนั่นแหละครับรู้อยู่แล้วว่าคนอย่างมันต้องไม่เตรียมอะไรมาเรียนนอกจาก ปากกาน้ำเงินด้ามเดียว

“เออขอบใจทีหลังไม่ต้อง” ตันกระซิบข้างหูผมแล้วพูดกวนตีนใส่

“เอาคืนมาเลย” ตอนนั้นชัยซึ่งนั่งข้างๆผมก็มองผมกับตันแล้วก็ก้มเขียนหนังสือต่อ

“แหนะๆ มีงอล 555 เค้าล้อเล่นนะตัวเอง”ตันพูดทำเสียงอ่อยเหมือนกระเทย ผมนี่ขำเลย555

“เอ่านี่” ตันส่งเงินค่าสมุดมาให้ผม

“เรียนก่อนๆ เดี๋ยวค่อยให้” ผมไม่รู้จะปฏิเสธยังไงใจผมอยากให้โดยไม่ต้องการอะไรนอกจากคำขอบคุณของตัน เท่านี้ผมก็ชื่นใจมากพอแล้วครับ


พักเที่ยง

[โรงอาหารใหม่]

“เป็นวิชาที่หน้าเบื่อสุดๆ บ่ายนี้กูโดดได้ไหมว่ะ” โอ๊ตพูด

“เออ เทวดง เทวดา ห่าอะไรก็ไม่รู้ แนะนำให้แกไปบวชเถอะกูว่า”น็อตเสริม

“บี๊บอาจารย์แกหน่อยดิ หัวหน้าห้องอะ” ตันพูดให้ผมบอกอาจารย์ให้ปล่อยไวๆ เพราะวิชานี้เรียนทั้งวันเลิก 16.00 น.

“โหไม่ดีมั้งมึง ใครจะโดดก็โดดนะกูไม่โดดอะ” ผมพูด

“เพื่อนกูนี่คนดีอีกละ” ตันพูด

“แน่นอน” ผมตอบ และก้มหน้ากินข้าวต่อ

“ขอนั่งด้วยได้ไหม ที่เต็มหมดแล้ว” อาจารย์วิโรจน์เดินถือจานข้าวมาข้างๆมีกรยืนถือจานข้าวเช่นกัน พวกผมยกมือไหว้อาจารย์

“เฮ่ยแรก เขยิบให้อาจารย์นั่งหน่อยดิ๊” บาสพูดแรกก็เขยิบ แล้วอาจารย์วิโรจน์ก็นั่งลงข้างๆตัน ส่วนกรก็นั่งข้างๆแรก

“เปิดเทอมวันแรกเป็นยังไงมั้ง” อาจารย์ถาม

“น่าเบื่อมากครับอาจารย์” ตันบอก

“อ่าว แล้วเรียนกับใครละ”

“อาจารย์สุชาติครับ แกพูดเรื่องธรรมะ และเทวดาอะไรของแกไม่รู้ครับ”ตันบอก

“5555 ทำใจให้ชิน แกก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยที่ผมเรียนแล้วพวกเอ๊งโชคดีนะที่ยังได้เรียนกับแกหนะ ถ้าแกเกษียนไปแล้วจะเหงากัน” อาจารย์พูด

จากนั้นก็เงียบกันไปสักพัก

“ตัน ช่วงนี้ดูล่ำซัมแล้วก็ขาวขึ้นนะเนี่ย” อาจารย์วิโรจน์พูดพร้อมกับแตะและบีบที่หัวไหล่ตันเบาๆ

“ธรรมดาครับอาจารย์ คนมันหน้าตาดีครับ” ตันพูดติดตลกแต่มันก็หน้าตาดีจริงๆแหละครับ ในห้องนอกจากตันที่ดูดีสุดลองลงมาก็บาสนี่แหละส่วนผมคงไม่ต้องพูดถึง ผิวสีแทนหน้าตาธรรมดาๆครับ 555+

แล้วเราก็คุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั้งทุกคนกินข้าวเสร็จผมก็อาสาเก็บจานให้อาจารย์กับเพื่อนๆและซื้อน้ำให้ไอ้กระต่ายขาวเช่นเคย

แค่นี้ก่อนนะครับ
*
*
*
*
*
ขอบคุณสำหรับคำคอมเม้นท์และผู้ติดตามอ่านทุกท่านนะครับ

สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะฟังเรื่อง "ตายแล้วไปไหน" ของ พ.อ.(พิเศษ) เสนาะ จินตรัตน์ สามารถกดตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ
https://youtu.be/k_CJYnQn_4A
ผู้แชร์คือคุณ: Anupong Jan ขออนุโมทนา สาธุ

และสำหรับผู้ที่สนใจอยากจะฟังเรื่อง "มักกะลีผล"(เกี่ยวกับหลวงพ่อจรัญ แห่งวัดอัมพวัน) ผู้เขียนคือ:อาจารย์สุทัสสา อ่อนค้อม
ผู้แชร์คือคุณ: santakayopiku ขออนุโมทนา สาธุ
https://www.youtube.com/watch?v=oQ9z17Eg7nQ&list=PLEYePNh2a7fNSB_oKCIjnFmDn3rsYmuwn

ก่อนจะไปนอน ผมก็ขอฝากคำนี้ไว้นะครับปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิติ : "ผู้รู้พึงรู้ได้เฉพาะตน"ผมคงไม่พูดอะไรมากทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผมไม่ใช่คน ธรรมะธรรมโม นะครับเพียงแค่เวลาอ่านหรือฟังเรื่องพวกนี้แล้วผมสบายใจครับ

ขอให้ทุกคนประสบแต่ความสุขความเจริญ สาธุ
*************************************************************************************

pdingdong โพสต์ 2016-12-11 05:24:14

ขอบคุณครับ

minone โพสต์ 2016-12-11 07:44:36

ขอบคุณครับผม{:5_130:}

pipi1 โพสต์ 2016-12-11 13:54:05

{:5_119:}ขอบคุนครับ{:5_119:}

sugarxxx โพสต์ 2016-12-11 15:25:50

ขอบคุณครับผม

Nikezero โพสต์ 2016-12-12 05:42:21

ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: [คิดไปเอง] บทที่ 19 "เทวดาในแผนก" [10/12/2559] ไม่ 18+